เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ
    บทที่ ๖

    จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์
    ในปัจจุบันชาติ


    เธอเข้าใจว่า-ชีวิตตัวตนของเธอในชาติภพหนึ่งๆมีเพียงร่างเดียว และร่างนี้ก็คือตัวตนทั้งหมดของเธอ ชีวิตและตัวตนที่แท้จริงของเธอมีมากกว่าหนึ่งร่างที่เธอรู้จัก ปัจจุบันชาติของเธอมีตัวตนซึ่งเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์อยู่หลายร่าง คุณปู่ของเธอและเธออาจเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ได้ไม่น้อยไปกว่าเธอกับพ่อแม่ของเธอ หรือคนแปลกหน้าซึ่งกลายเป็นคู่รักของเธอ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ของเธออาจเป็นบุคคลใกล้ตัวที่เธอรักหรือเกลียดที่สุด ต่างคนต่างก็เผชิญกับชีวิตที่ท้าทายในรูปแบบที่แตกต่างกันหรือมีถิ่นฐานอยู่คนละซีกโลกกับเธอ ต่างเชื้อชาติ ต่างเพศ ต่างวัย ต่างวัฒนธรรม ต่างศาสนาหรือต่างคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นการยากที่เธอจะติดต่อสื่อสารหรือรู้จักเป็นการส่วนตัวได้ แต่ก็มีการรับและการให้เกิดขึ้นระหว่างกันทั้งทางตรงและทางอ้อมเสมอ
    จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์เหล่านี้จึงเปรียบเสมือนครอบครัวหรือญาติมิตรทางจิตวิญญาณของเธอ เธอติดต่อสื่อสารกับพี่น้องหรือญาติทางจิตวิญญาณเหล่านี้ตลอดวันเวลาทั้งในขณะที่เธอตื่นอยู่และในความฝัน เธออาจฝันกลางวันและรู้เห็นประสบการณ์ของตัวตนต่างร่างของเธออยู่เสมอ แต่เธอมักคิดว่า-การถ่ายทอดสื่อสารที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงจินตนาการที่ไร้สาระหรือเป็นเพียงฝันกลางวัน ชีวิตของจิตวิญญาณต่างร่างปรากฏในจินตนาการของเธอตลอดวันเวลา จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนที่แท้จริงของเธอ เธอจะมีชีวิตอยู่ไม่ได้หากปราศจากจิตวิญญาณต่างร่างเหล่านี้ จิตวิญญาณส่วนหนึ่งของเขามาถือกำเนิดเป็นเธอ และจิตวิญญาณส่วนหนึ่งของเธอก็ไปถือกำเนิดเป็นเขา เสมือนญาติพี่น้องซึ่งมีรากฐานมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน (p. 74-75)


    คู่รักของเธอเป็นจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ซึ่งมาถือกำเนิดเป็นบุคคลต่างเพศ พวกเธอมักเรียกสัมพันธภาพเหล่านี้ว่าคู่บุญหรือคู่กรรม แล้วแต่ประสบการณ์ชีวิตที่เกิดขึ้น แท้ที่จริงแล้วทั้งคู่บุญและคู่กรรมเป็นจิตวิญญาณต่างร่างของเธอ ซึ่งมาถือกำเนิดและสร้างประสบการณ์ชีวิตร่วมกัน เพื่อการพัฒนาและการเรียนรู้ร่วมกัน เธอเลือกประสบการณ์เหล่านี้เพื่อที่จะเรียนรู้ความอดทน การให้อภัย การเสียสละ หรือการรักอย่างปราศจากเงื่อนไข หากชีวิตคู่ของเธอล้มเหลว เป็นชีวิตที่ขาดความอดทนต่อกัน ไม่ให้อภัยซึ่งกันและกัน เห็นแก่ตัวหรือปราศจากความรักความซื่อสัตย์ต่อกัน มันก็ล้วนเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เธอกับจิตวิญญาณต่างร่างได้เลือกที่จะมาเผชิญร่วมกัน
    หากเธอไม่เคยเผชิญกับความเกลียด-เธอก็จะไม่รู้จักคุณค่าของความรัก และหากเธอไม่เคยเผชิญกับการกล่าวโทษ-เธอก็จะไม่รู้คุณค่าของการให้อภัย ชาติภพและจิตวิญญาณต่างร่างของเธอเผชิญกับประสบการณ์หลากหลายพร้อมกันหมดเพื่อการเรียนรู้คุณค่าเหล่านี้ หากชีวิตคู่ของเธอล้มเหลวอยู่ในขณะนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า จิตวิญญาณต่างร่างและเธอเลือกที่จะตกอยู่ในสภาวะอันชอกช้ำร่วมกันอย่างไม่มีทางแก้ไข หากแต่ว่า-จิตวิญญาณต่างร่างและเธอในชาติภพอื่นๆกำลังชื่นชมกับคุณค่าของความสุขอยู่ในอีกมิติหนึ่งพร้อมๆกันไป มันทำให้การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างลึกซึ้ง แต่ถึงแม้กระนั้น เธอก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ทั้งหลายในชาติภพนี้และมิตินี้ได้เสมอ (p. 80-81)
     
  2. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    แสวงหาผู้รู้-ผู้ตอบคำถาม

    สรรพสิ่งทั้งหลายที่เธอรู้เห็นในร่างมนุษย์ เป็นเพียงจินตนาการของความไม่รู้
    จิตวิญญาณในร่างมนุษย์ทุกร่างคือ
    "ผู้ที่กำลังเรียนรู้"
    จากหนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาตืภพ บทที่ 2 แสวงหาผู้รู้-ผู้ตอบคำถาม
     
  3. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า :
    ความรู้เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุดและเป็นแก่นแท้อันบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณ แต่ความเชื่อเป็นอุปสรรคที่ขวางกั้นความรู้เสมอ มนุษย์ล้วนดำเนินวิถีชีวิตและสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของตนเองบนพื้นฐานแห่งความเชื่อส่วนบุคคล แต่เป้าหมายสูงสุดของการมาถือกำเนิดของจิตวิญญาณเป็นร่างกายเน้ื่อหนังของมนุษย์คือ การเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้
    (จากหนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ บทที่ 1 หนา้ 4)


    คำกล่าวของท่านอาจารย์อนาลัยทำพี่นักเขียนเชื่อว่า วิธีการหรือการจัดการที่จะมีผลให้จิตวิญญาณเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตไปในทางบวกได้ดีที่สุดและน่าจะเป็นหนทางเดียว คือการศึกษาหาความรู้ เพื่อเปลี่ยนความเชื่อของเราให้เป็นความรู้ให้ได้มากที่สุดที่จะทำได้ในปัจจุบัน

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า :
    จุดอ่อนของเธอทั้งหลายคือการที่เธอไม่ได้ตระหนักว่า เธอคือจิตวิญญาณซึ่งมีพลังอำนาจตามธรรมชาติที่จดจำรู้เห็นอดีต มีความรู้ความทรงจำข้ามชาติภพและรู้เห็นอนาคต เพราะจิตวิญญาณของเธอสร้างอนาคตด้วยอารมณ์-ความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการของตนเองอยู่เสมอทั้งยามตื่น-ยามหลับ-ยามฝัน
    (จากหนังสือ โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพ บทที่ 2 หนา้ 15)


    จิตวิญญาณของเราบางส่วนจึงอยู่ในสภาวะเดียวกับต้นกำเนิดอยู่แล้วในปัจจุบันนี้ และเป็นส่วนที่เราสามารถจะติดต่อสื่อสารได้ทั้งยามตื่นและยามฝัน เพื่อถ่ายทอดข้อมูลความรู้มาสู่ปัจจุบัน หากแต่ว่าโลกยามตื่นของเราเต็มไปด้วยเครื่องพรางของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา และความบิดเบือนก็เกิดจากความเชื่อ ซึ่งทำให้ประสาทสัมผัสทั้งห้ารับรู้สิ่งต่างๆบิดเบือนตามไปด้วย

    ส่วนโลกยามฝันเป็นโอกาสและวิธีจัดการที่ได้ผลวิธีหนึ่งซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติ ที่ทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยการปิดประสาทสัมผัสทั้งห้า และทำให้เรารับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสภายใน ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่า บิดเบือนน้อยกว่าเพราะอยู่นอกเหนือเครื่องพรางของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา

    แม้ว่าเราจะมีโลกแห่งความฝันเป็นช่องทางหรือวิธีการที่ทำให้เราสามารถจัดการกับการเรียนรู้ที่ก้าวข้ามความบิดเบือนของโลกยามตื่นไปได้ไม่มากก็น้อย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น สติสัมปชัญญะของเราก็จำเป็นจะต้องได้รับการฝึกฝนเสียก่อนที่จะนำวิธีการนี้มาใช้อย่างได้ผล มิฉะนั้นเราก็จะนำความเชื่อของเราติดตามเข้าไปในโลกแห่งความฝัน และไม่สามารถรู้เห็นองค์ความรู้ได้ด้วยสติสัมปชัญญะที่คมชัดพอ เมื่อตื่นขึ้นมา-ความเชื่อก็กลับมาครอบงำและตีความหมายความรู้ที่ได้บิดเบือนไปอีกเช่นเดิม

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวถึงจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ซึ่งพี่นักเขียนได้คัดลอกมาให้อ่านกัน ที่ หน้า 52- #514
    ซึ่งทำให้พี่นักเขียนคิดว่า เราจะกลายเป็นพลังงานที่เป็นบวก เป็นน้ำบริสุทธิ์หรือจิตวิญญาณบริสุทธิ์ที่แยกออกไปโดดเดี่ยวไม่ปะปนกับพลังงานที่เป็นลบ หรือไม่ปะปนกับจิตวิญญาณหน่วยอื่นๆคงเป็นภาวะที่ไม่มีจริงหรือเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจิตวิญญาณพัฒนาไปถึงภาวะที่เป็นบวกหรือบริสุทธิ์กว่าหรือไปสู่ภาวะที่เปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ไม่ได้ แต่หมายความว่า แม้จะเปลี่ยนไปได้แล้ว-ก็ไม่ได้แยกตัวออกไปโดดเดี่ยว เป็นเลิศหรือถึงจุดจบแต่ตามลำพัง เพราะจิตวิญญาณปราศจากหน่วยนับและแยกย่อยไม่ได้ ผลรวมของจิตวิญญาณส่วนย่อย-มหาศาลเกินกว่าผลบวกรวมกัน เพราะจิตวิญญาณรวมกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยการเกื้อกูลกันของส่วนที่น่าจะเรียกว่าบริสุทธิ์กว่าหรือเป็นองค์ความรู้ที่เหนือกว่า โอบอุ้มเกื้อกูลส่วนที่บริสุทธิ์น้อยกว่าหรือไม่บริสุทธิ์ หรือมีความรู้น้อย-มีความเชื่อมาก

    ภาวะของจิตวิญญาณในความเข้าใจส่วนตัวของพี่นักเขียนจากการศึกษาข้อมูลความรู้จากท่านอาจารย์อนาลัย และจากประสบการณ์ยามตื่นและยามฝันที่เผชิญกับท่านอาจารย์อนาลัย ทำให้ตระหนักว่า จิตวิญญาณคือภาวะที่ประสานกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นภาพต่อที่ทุกชิื้นส่วนมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่ว่าเราจะเรียกบางชิ้นว่าเป็นบวก และบางชิ้นเป็นลบ แต่ทั้งหมดก็ประสานกันเป็นภาพรวมที่สมบูรณ์ แต่ละชิ้นส่วนไม่ได้เป็นสิ่งที่ตายตัว บางชิ้นที่เคยเป็นภาพที่มีคุณสมบัติในทางลบ อาจเปลี่ยนแปลงกลายเป็นบวกได้เสมอ และทุกชิ้นส่วนก็ช่วยเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ของจิตวิญญาณและคุณค่าชีวิต เราไม่อาจนำชิ้นส่วนทั้งหมดมาเข้า scale บนเส้นตรงได้ เพราะภาพรวมของภาพต่อที่สมบูรณ์จะเกิดขึ้นไม่ได้

    หากไม่มีชิ้นส่วนของภาพต่อที่เรียกว่าลบ ชิ้นส่วนของภาพต่อที่เรียกว่าบวกก็คงไม่มีจุดอ้างอิงว่ามันเป็นบวกได้อย่างไร หรือมีความหมายอย่างไรในภาพรวมทั้งหมด ดังนั้นชิ้นส่วนที่เรียกว่าลบก็มีความสำคัญต่อชิ้นส่วนที่เป็นบวก-ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ชิ้นส่วนที่เป็นบวก มีความสำคัญต่อชิ้นส่วนที่เป็นลบ

    ความแตกต่างมักก่อให้เกิดการเคลื่อนไหว เสมือนลมร้อนพบกับลมหนาว ย่อมก่อให้เกิดลมหมุนและการเปลี่ยนแปลง พี่นักเขียนอยู่ตรงกลางทวีปอเมริกาเหนือพอดีคือรัฐ Kansas เป็นจุดที่ลมใต้มาชนกับลมเหนือเสมอๆ และก่อให้เกิดพายุหมุน Micro Burst หรือ Tornado แม้ว่าจะมีการทำลายล้างเกิดขึ้นเสมอๆจากพายุ ทำให้บ้านเรือน-พืชพันธุ์เสียหาย ผู้คนบาดเจ็บเนืองๆ ผลของความรุนแรงดังกล่าวก็กลับทำให้ผู้คนที่นี่เต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ปีไหนมีพายุรุนแรงจนพืชผลฤดูใบไม้ผลิเสียหายหนัก ปีนั้นพืชผลฤดูร้อนที่จะตามมามักอุดมสมบูรณ์กว่าเดิม ปรากฏการณ์ทางโลกเป็นผลสะท้อนภาวะจิตและคุณภาพของจิตวิญญาณ ที่มีความเป็นอันหนึ่งเดียวอย่างแบ่งแยกกันไม่ได้
     
  4. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    มาตามนัด


    เมื่อคืนพี่นักเขียนเชิญชวนให้พวกเรานัดพบกันในความฝัน แล้วก็ไปฝันว่า:
    ได้รับโทรศัพท์แทนพี่สาวของพี่นักเขียน โดยมีผู้โทรมานัดให้พี่สาวไปพบคุณเธอที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เมื่อเรารับปากแทนพี่สาว คุณเธอผู้นั้นก็ปรากฏตัวตรงหน้าพี่นักเขียนอย่างฉับพลัน ทำให้ทราบว่าคุณเธอไม่ใช่เพื่อนหรือใครที่รู้จักกับพี่สาวเป็นการส่วนตัว

    จากนั้นคุณเธอก็โทรไปที่ร้านอาหารเพื่อจองโต๊ะ ได้ยินทางปลายสายถามว่า โต๊ะสำหรับกี่คน คุณเธอผู้นึ้ เอ่ยชื่อพี่สาว เอ่ยชื่อตนเอง...จากนั้นก็อุทานออกมาว่า Jesus ! พี่นักเขียนรู้หรือได้ยินว่าทางปลายสายเขาถามว่า "จะมาเวลาไหน?" แต่เธอผู้นี้ยังไม่แน่ใจว่าจะไปเวลาไหน จึงอุทานว่า "Jesus!" (ตามปกติแล้วคนอเมริกันมักอุทานว่า Jesus! เสมอๆเวลาใครถามแล้วตอบคำถามทันควันไม่ได้) พอพี่นักเขียนได้ยินคุณเธอ เอ่ยชื่อพี่สาว เอ่ยชื่อตนเอง เอ่ยชื่อ Jesus....ก็เลยล้อเล่นว่า ขอไปด้วยคน-นัดนี้มี Jesus มาด้วย ไม่ขอพลาดแน่!

    เมื่อไปถึงร้านอาหาร เป็นที่ชุมนุมที่เนืองแน่นมาก ไม่มีโต๊ะว่าง-ต้องคอย โต๊ะที่ว่างมีเก้าอี้เพียง 2 ตัว พี่นักเขียนบอกกับพนักงานว่า ไม่เป็นไรคอยได้ แต่ถ้าโต๊ะว่างแล้วจะขอให้เขาเอาเก้าอี้นวมพิเศษมาวางไว้ที่หัวโต๊ะอีกตัว เพราะ Jesus จะมาร่วมโต๊ะด้วย กล่าวไปด้วยอารมณ์ขำขัน แต่พนักงานก็รับปากจริงๆ

    ในขณะที่คอยโต๊ะว่าง ก็มีคุณพ่อคนนึง เข็นรถเข็นลูกเล็กๆไม่ถึงขวบเข้ามา พร้อมกับจูงลูกเล็กเดินเก่งแล้วอีกคนโผล่หน้าเข้ามาในร้านที่เนืองแน่น ไม่มีที่แม้จะเข้ามา พี่นักเขียนรู้สึกว่าข้างนอกร้อน แต่ข้างในร้านอาหารเย็นสบาย จึงรับเอารถเข็นและเด็กน้อยนั้นเข้ามาแล้วเข็นรถเข้าด้านในแทนคุณพ่อของเด็กๆ หันหลังไปมองคุณพ่อก็เข้ามาไม่ได้ ใจก็นึกไปถึงคุณ Mountain เด็กคนโตที่เดินเก่งแล้วเดินนำหน้าโลดไปเลยไม่กลัวใคร พี่นักเขียนดีใจว่าเขาไม่ร้องไห้ แม้ว่าคุณพ่อของเขายังเข้ามาไม่ได้ แยกไม่ออกว่าคุณ Mountain เป็นคุณพ่อหรือเป็นคุณลูก 2 คนนี้ เพราะเป็นเหมือน composite selves คือรวมกันหมด

    จากนั้นพอได้โต๊ะ พี่นักเขียนก็นั่งตรงข้ามกับคุณเธอผู้ที่นัดหมาย พี่สาวไม่มีตัวตนปรากฏ แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มา เก้าอี้นวมหัวโต๊ะที่ขอพนักงานมาให้ Jesus นั่งก็มีของวางเต็มไปหมด มองดูแล้วคิดว่าใครจะนั่งได้อย่างไร แค่คิดก็มีบุคลิกภาพหนึ่งปรากฎมานั่งบนเก้าอี้โดยไม่แย่งเนื้อที่กับของ บุคลิกภาพนี้ห่มผ้าห่มสีขาวเหมือนผ้าขนสัตว์ชนิดไม่ฟอก ห่มมิดชิดจนมองเห็นหน้าตาไม่ได้ พี่นักเขียนมีความรู้สึกว่าบุคลิกภาพนี้คือคุณ Mead เลยเปิดผ้าห่มดูเพื่อตรวจสอบ พบชายชาวเอเซีย ผิวสี Tan ปานกลาง ท่าทางเรียบร้อย มองดูเขาแล้วนึกคิดขึ้นมาว่า ที่นัดพบกันก็มาแล้ว! แต่ก็ไม่ได้มีบทสนทนาใดๆเกิดขึ้นเลย เพียงแค่ว่า ดีใจจังที่ได้พบ

    เมื่อรู้ตัวว่ากำลังฝัน พยายามมองดูว่าใครเป็นใคร และเห็นเป็นคุณ Mead กับ คุณ Mountain ตั้งใจว่าตื่นเมื่อไรจะไปตรวจสอบ

    สัญญลักษณ์ (ส่วนตัวจากมุมมองของพี่นักเขียน) แต่ละคนจะตีความหมายต่างกัน
    พี่สาว - เป็นบุคลิกภาพที่เป็นสัญญลักษณ์ของ คนที่เรียนเก่ง จบกฏหมาย มีลูก 2 คน
    คุณเธอผู้โทรมานัดหมาย - เป็นบุคลิกภาพที่เป็นสัญญลักษณ์ของ นักวิจัย เภสัชกร มีลูก 1 คน
    เด็กน้อยสองคน - เป็นบุคลิกภาพที่มีความมั่นใจ เชื่อถือและบริสุทธิ์ใจ ไม่กลัวหรือระแวงคนแปลกหน้า
    คนในผ้าห่ม - เป็นบุคลิกภาพที่พิเศษคืออยู่นอกเหนือช่องว่างระยะทางและกาลเวลาได้ (เพราะมานั่งเก้าอี้นวมของ Jesus ได้โดยไม่ใช้เนื้อที่) ผ้าห่มของเขาเหมือนวัสดุย้อนยุค-โบราณ
    Jesus - prophet, spiritual leader
    เก้าอี้นวม - ตำแหน่งพิเศษ
    ร้่านอาหาร -สถานที่ ที่เติมเต็ม ด้วยการพบปะกับผู้อื่น

    ข้อสังเกต: การนัดพบนี้ไม่มีบทสนทนาเกิดขึ้น

    เช้านี้มาเปิดห้องวิทย์-ก็ขำกลิ้ง เพราะเห็นภาพเด็กน้อย 2 คน ที่คุณ Mountain เอามา post ไว้ แต่เจ้าหมีแพนด้่าไม่รู้ไถลไปไหน ก่อนนอนเห็นภาพมนุษย์ต่างดาวของคุณ Mead แค่ตัวเดียว เช้านี้เห็น 3 ตัว.....มากันแปลกๆอย่างนี้ พี่นักเขียนหัวเราะแล้วหัวเราะอีก-ในความฝัน ตื่นมาเห็นยังต้องหัวเราะต่อ เฉลยกันหน่อยคะว่าใครมาตามนัดบ้าง?


    นัดต่อไปมาตั้งเจตนาว่า จะพบกันเพื่ออะไร? ศึกษาอะไรร่วมกัน? ใครมีไอเดีย เสนอหน่อยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เช้านี้มาเปิดห้องวิทย์-ก็ขำกลิ้ง เพราะเห็นภาพเด็กน้อย 2 คน ที่คุณ Mountain เอามา post ไว้ แต่เจ้าหมีแพนด้่าไม่รู้ไถลไปไหน ก่อนนอนเห็นภาพมนุษย์ต่างดาวของคุณ Mead แค่ตัวเดียว เช้านี้เห็น 3 ตัว.....มากันแปลกๆอย่างนี้ พี่นักเขียนหัวเราะแล้วหัวเราะอีก-ในความฝัน ตื่นมาเห็นยังต้องหัวเราะต่อ เฉลยกันหน่อยคะว่าใครมาตามนัดบ้าง?


    นัดต่อไปมาตั้งเจตนาว่า จะพบกันเพื่ออะไร? ศึกษาอะไรร่วมกัน? ใครมีไอเดีย เสนอหน่อยค่ะ <!-- / message --><!-- sig -->
    ................................................................................

    รูปขนาดเล็ก
    [​IMG]

    จากภาพวาดของคุณ mead ที่จินตนาการถึงพี่นักเขียน
    และจากรูปตัวแทนที่ส่งไปพร้อมกับความรู้สึกนึกคิด
    ช่างน่าอัศจรรย์ใจจริงๆนะครับ ที่พี่นักเขียนฝันได้ออกมาแบบนั้น
    (ผมมีความรู้สึกว่าพี่นักเขียนจะดูท้วมๆนิดๆนะครับ)

    ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกมีกำลังใจ และมีอะไรบางอย่าง
    ที่กำลังปรับเปลี่ยนความเคยชินกับการอาศัยสัมผัสทั้งห้า

    ขอบคุณพี่นักเขียน และสิ่งดีๆที่พี่นำมามอบให้กับเราทุกคน
    โดยเฉพาะความรู้ของท่านอาจารย์อนาลัย ครับ


    [​IMG] [​IMG][​IMG]

    วันนี้มีก๋วยเตี๋ยวแคะ กับ ขนมเบื้องญวน มาฝากพี่นักเขียนครับ
     
  6. ต้นTKenji

    ต้นTKenji เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +683
    พี่นักเขียนครับ พี่เป็นคน "ประเทศ" ไหนครับ ผมดูจากรูปพี่น่าจะเป็นลูกครึ่งใช่หรือเปล่าครับ
    (b-smile)
    แต่รูปพี่ดูสวยมากเลยครับ
    (b-flower)
     
  7. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เรากำลังฝึกสติสัมปชัญญะให้คมชัด

    คราวที่แล้วได้พูดถึงการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ และได้อธิบายว่า เมื่อจิตวิญญาณเปลี่ยยนวิถีการจดจ่อไป-สติสัมปชัญญะจะรู้เห็น:
    โลกแห่งความเป็นจริงที่เป็น กายภาพ ภาวะนี้อาจเปรียบได้กับการเป็น ฌาน ขั้นที่ 1-2
    โลกแห่งความเป็นจริงที่เป็น จินตภาพ ภาวะนี้อาจเปรียบได้กับการเป็น ฌาน ขั้นที่ 3-4
    โลกแห่งความเป็นจริงที่เป็น จิตวิญญาณ ภาวะนี้อาจเปรียบได้กับการเป็น ฌาน ขั้นที่ 5-8

    คำถาม: เรากำลังฝึกสมาธิหรือเรากำลังฝึกฝันกันแน่ ?
    คำตอบ: เรากำลังฝึกสติสัมปชัญญะให้คมชัด เพื่อรู้เห็นเมื่อจิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่โลกอื่น-มิติอื่น

    การอยู่ในภวังค์สมาธิ แตกต่างกับความฝันโดยสิ้นเชิงเมื่อความฝันนั้นๆเป็นไปโดยปราศจากสติสัมปชัญญะอันคมชัด
    แต่เมื่อสติสัมปชัญญะในความฝันมีความคมชัดอันเกิดจากการฝึกฝน ก็กล่าวได้ว่า การอยู่ในภวังค์สมาธิ ไม่แตกต่างกับความฝันอันมีสติสัมปชัญญะคมชัด-ซึ่งเรียกกันว่า นิมิต

    ณ จุดนี้พี่นักเขียนขอนำข้อมูลความรู้จากท่านอาจารย์อนาลัยมาให้ศึกษากันอีกสาระหนึ่ง

    จากหนังสือ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ
    บทที่ ๘
    ตัวตนในความฝัน กับ
    ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้

    เธอมักเรียกภาวะที่จิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีของการจดจ่อไปสู่มิติอื่นว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  8. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    คนไทยค่ะ

    Hello, hello คนไืทย 100% ค่ะคุณน้องต้นTKenji แต่คุณ Mead แกให้เครดิตพี่นักเขียนน้อยไป 2 หน่วย คืออายุกับน้ำหนัก คุณ Mountain แกยกสำรับมาเติมให้ก็อาจจะกลายเป็น 3 หน่วย
     
  9. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  10. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ของโปรดล้วนๆ แต่เอามาแลกกับ babies 2 คนนี้ก็ไม่คืนให้หร้อก...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • baby_1.gif
      baby_1.gif
      ขนาดไฟล์:
      19.2 KB
      เปิดดู:
      401
    • babay_2.jpg
      babay_2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.8 KB
      เปิดดู:
      51
  11. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    จากภาพวาดของคุณ Mead นั้นวาดทรงผมได้ใกล้เคียง อย่างน้อยข้อมูลที่เราได้รับก็เอื้ออำนวยให้เราพอมีแนวทางว่า เราจะมองหาอะไร? และมันก็ทำให้ง่ายกว่างมเข็มในมหาสมุทร


    กระทู้นี้แวะเข้ามาอ่านทุกเช้าทำให้สติสดใสดีครับ
    คิดว่าวาดทรงผมคล้ายๆแต่ยังรู้สึกว่า ต้องหวีปัดอีกข้างน่าจะถูกครับ..ผมสั้นลงอีกนิด เพราะเมื่อคืนนี้ได้นัดพบกันแล้ว ผมฝันเห็นแม่ กับน้องสาวชวนกันไปทานข้าวครับ ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวแอตแลนติสต่ออีกสังครั้ง ก็ยังว่าแปลกๆอาจติดนัดพิเศษนี่ก็ได้ครับ


    (b-smile)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  12. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ถูกเป๋ง-เรื่องผม
    ในความฝันของพี่นักเขียน มีเพียงพี่นักเขียนกับผู้หญิงคนที่โทรนัด กับหัวโต๊ะมีใครในห่อผ้า คุณ Mead เอาสติสัมปชัญญะส่วนใหญ่ไปจดจ่อกับ Atlantis แล้วเอาส่วนน้อยนิดมานัดพบละมัง ถึงโพกผ้าโบราณมาด้วย แถมมาแบบจิตวิญญาณ-ไม่กินเนื้อที่
     
  13. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    นั่นสิครับคงห่วงเที่ยวแอตแลนติส ไปเอาชุดใครมาใส่ไม่รู้ครับ
    แถมไม่ยอมพูดจาอีก เอิ๊ก..
    เอาล่ะสิชักสนุกแล้ว อาหารเมื่อคืนนี้ เห็นมีไข่ยัดใส้ของพี่เม้าด้วยครับ
    ผมว่าพี่เม้าส์น่าจะเป็นเด็กผู้ชายที่พ่อพามาแน่ครับ (มาดูลาดเลา อิอิ)
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    (b-glass)

    ขอบคุณคุณปานโสมและคนขายธูปมากครับ..ที่นำความรู้มาเสริมกันหลายๆด้าน
    มาสนทนากันหลายท่าน กระทู้สนุก+ได้ประโยชน์+ขยายความรู้แจ่มให้ชัดขึ้นด้วยครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  15. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    อ่า ได้สมาชิกไม่ธรรมดาเข้ากระทู้อีกหนึ่งท่าน


    อยากรู้จัก ท่าน อ. โนวา อนาลัย ก็ทำได้นี่ครับ
    ฝึกอะไรแบบไหนมา ก็ใช้แบบนั้นละ ทำความรู้จักกับท่านดู


    แล้วจะได้ทราบว่าท่านมี "พระนามว่าอะไร?"
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    พอดีเห็นคุณเอกเข้าใจและสนใจเรื่องนี้ ขอเสริมตัวอย่างของอาจารย์ปริญญา สักนิดนะครับ

    จิตวิญญาณที่เป็นนิวเคลียสและพลียะเดี้ยนส์ที่ห่อหุ้มอยู่ภายนอกสุด ทำหน้าที่คล้ายไข่ขาวหุ้มไข่แดงไว้นั้น เดิมทีมีประจุไฟฟ้าที่สมดุลเป็นคู่ๆเสมอ ระหว่างอนุภาคของประจุไฟฟ้าบวกและประจุไฟฟ้าลบ ซึ่งมนุษย์เรียกว่า "ความว่างหรือความไม่มี" ทั้งๆที่แท้จริงแล้วมันมีของมันอย่างสมดุลกันอยู่

    เมื่อหลงมิติทางจิตวิญญาณไป ไปหลงยึดติดตัวตนมายาของมันเข้า จึงเกิดกิเลส คือความอยาก -ไม่อยาก ไม่รู้ว่าอยากหรือไม่อยาก อะไรเหล่านี้ คลื่นการสั่นสะเทือนของจิต จะเกิดการสั่นสะเทือนทางด้านลบ จะทำให้เกิด "อนุภาคของประจุลบ" ซึ่งเป็นประจุไฟฟ้าที่เกิดขึ้นใหม่ได้เรื่อยๆ

    <+0 +1 +2 +3 +4 +5 +6 +7 +8 +9 +10 +11 +12 >
    <-12 -11 -10 -9 -8 -7 -6 -5 - 4 -3 -2 -1 -0 >

    จากภาพที่แสดงไว้เป็นสมการข้างต้น ที่แทนค่าของประจุบวกกับลบบนเลขฐาน 12 อันเป็นเลขศาสตร์ของจักรวาลเอาไว้ โดยแทนค่าเลข 0-12 ทั้งด้านบวกและด้านลบ ที่จับคู่กันอยู่ในแต่ละระดับ หมายถึงสรรพสิ่งใดๆก็ตามที่ยังมีค่าประจุบวกกับลบยังไม่สมดุลกัน ก็จะต้องปรับตนเองให้เข้าสู่สภาวะที่สมดุลให้ได้ โดยการสร้างพลังที่เป็นบวกออกมาเพื่อจับคู่กับประจุลบให้มีความเป็นกลางเพิ่มขึ้นๆ..จนเข้าสู่จุดสมดุล..ที่นี้อนุภาคของประจุบวกที่สร้างเพิ่มขึ้นมาใหม่ก็จะล้นออกมาภายนอก ทำให้ประจุลบไร้คุณสมบัติไป

    "จุดสมดุล"ตามตัวอย่างในที่นี้คือ +6 คู่กับ -6
    ถ้าสภาวะทางไฟฟ้าของสรรพสิ่งใด ไม่อยู่ในสภาวะตรงจุดกึ่งกลางนี้ ไม่ว่าจะมีประจุบวกมากว่าประจุลบ หรือประจุลบมากกว่าประจุบวกก็ตาม ต้องยกระดับเข้าสู่จุดสมดุลนี้เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ในจิตวิญญาณ อันเป็นแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ก็ตาม มิเช่นนั้นจะเป็นสภาวะแห่งสุญญตาไม่ได้
    สุญญตาทางไฟฟ้า มีคุณสมบัติเป็นกลางทางไฟฟ้า ไม่เป็นลบ -ไม่เป็นบวก เป็น"ความมีที่เหมือนไม่มี"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    จากข้างต้นทำให้ผมเห็นว่า"จุดสมดุล"ของแต่ละจิตวิญญาณมีค่าไม่เท่ากัน.. จิตมนุษย์,เทพเทวดา, พรหม, อรูปพรหม, จิตพระอรหันต์ ,จิตพระโพธิสัตว์ ,จิตของพุทธเจ้า (ผมขอเรียกว่าท่านเทียบเท่าหรือเป็นหนึ่งเดียวกันพลังงานต้นกำเนิดไปแล้ว)..มีคุณสมบัติบางอย่างไม่เท่ากัน เช่นความละเอียดของคลื่นความถี่ภายในจิต..ความเร็ว..ซึ่งสามารถพัฒนาเพิ่มเติมกันได้ เช่นจากปกติ 6 เหลี่ยมมุม สามารถเพิ่มเป็น 7-8 -9-10-11-12 เหลื่ยมมุม..แล้วแต่จุดสมดุลของเราลงตัวในระดับใด (เหล่านี้เป็นตัวเลขอ้างอิงสำหรับจินตนาการเท่านั้นครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  18. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964

    เหมือนคุณรู้จักมักคุ้นกับคนหลายคนมากมายหลายประเภท
    วันหนึ่ง ไฟมืดดับลง พวกเขามารวมตัวรอบตัวคุณ คุณค่อยๆ
    คลำๆ ดู เริ่ม "ระลึก" ถึงเขาเหล่านั้นได้ ทีละคนสองคน


    อาจต้องใช้เครื่องมือช่วยเตือนความจำ
    ว่าเพื่อนคนนั้น มีลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้
    พอคลำๆ ไปแล้ว ค่อนข้างมั่นใจว่าใช่แน่


    ทีนี้ก็รอเฉลยหรือตรวจสอบความแม่นยำฮะ

    (b-glass)
     
  19. yutkanlaya

    yutkanlaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    865
    ค่าพลัง:
    +4,403
    อักษรศาสน์

    บัญญัติ = กำหนดเอาเอง จิต กาย(สุ จิ ปุ ลิ)
    ปรมัตต์ = Let it be = อัตโนมัติ

    นั่นคือหัวใจ ที่จะเข้าใจใน นิพพาน
    บัญญัติด้วยศาสตร์หยาบๆ จิตหยาบๆของมนุษย์ มิได้
    พระพุทธองค์ จึงทรงอธิบายได้เพียง "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
    รู้เอง เห็นเอง สัมผัสเอง แจ้งเอง เข้าใจได้เองทุกๆคน โดยเท่าเทียม

    เข้าใจ..แต่จะไป..ไม่ไป..ตัดสินใจเอาเอง???
    ถ้าจะไป..ต้องปฏิบัติ แล้วปล่อย Let it be

    เมื่อปฏิบัติจน จิตแจ้งถึงจุดนั้นแล้ว ด้วยปรมัตต์ จิตกายนั้นก็จะละจากภพภูมิ ไปโดยอัตโนมัติปริยาย ตามธรรมชาติ

    ซึ่งใครจะไปก็ขออนุโมทนา(พระโมคคัลลา จึงต้องลา พระพุทธองค์ ก่อนไป)

    แต่ว่า..ข้าผู้น้อยขอไม่ไป..แต่จะทำให้ ภพภูมิเหล่านี้ เป็นสวรรค์ ของท่านทุกๆคน

    มาร่วมด้วย ช่วยกันน่ะจ้ะ
    (555) (555) (555) (b-glass)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2007
  20. คนขายธูป

    คนขายธูป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +2,964
    ผมเคยกำหนดจิตก่อนหลับพิจารณาถกธรรมกับตัวเองบ้างจนหลับไป
    หรือบางที ก็ฟังบทสวดมนต์แล้วจิตจดจ่อกับบทสวดมนต์จนหลับไป


    เคยรู้สึกตัวว่ากำลังถกธรรม สนทนาธรรมกับใครบางคนอยู่ (มองไม่เห็น)
    ได้ยินเสียงเบาๆ แปลภาษาไม่ออก แต่รู้สึกว่าตนเองเข้าใจที่เขาพูดทั้งหมด


    ครั้งต่อมา ก็เลยตั้งจิตจะรู้ให้ได้ว่าถกธรรมอารายหว่า กำหนดจิตตั้งใจ
    จะรู้ให้ได้ ก็เกิดภาวะแบบนี้อีก จนสติตื่นขึ้นเต็มที่ พร้อมกาย (สมอง)
    ทำงานพอดี รู้สึกได้ชัดว่า "ภาษาไม่ใช่ภาษามนุษย์" และ "เสียงเบา"
    จากนั้น จิตที่ละเอียดลึก ก็ถอยมา หยาบลงๆๆ ตามลำดับ จนถึงระดับที่
    สมองรับข้อมูลนั้นพอดี ปรากฏว่า คำแปลเป็นภาษาไทยค่อยๆ ออกมา
    แต่เบามากๆๆ จนขยับไปอีกระยะหนึ่ง (เสี้ยวแห่งเสี้ยวๆๆ วินาที เร็วมาก)
    ได้ยินคำภาษาไทยชัดเจน แต่ระยะนี้ยังจำไม่ได้ ถอนจิตออกจากความ
    ละเอียดนั้นอีกระดับหนึ่ง ก็จับเป็นความจำได้ แค่คำสุดท้ายคำเดียว


    ว่า "อายตนะนิพพาน" ???
     

แชร์หน้านี้

Loading...