จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 59 แล้วจ้าาา:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 สิงหาคม 2012
  2. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    Jaofon Pengprapa1 กันยายน 0:01

    นี่แหละคือ เรื่องสำคัญที่สุด ที่เรามักลืมใส่ใจ
    เมื่อเสียสิ่งสำคัญไปแล้ว และยังหายใจต่อได้
    จะรู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งนั้นไม่ได้สำคัญจริง

    จงอย่าเกาะติดอยู่กับ เรื่องที่เราเสียอะไรไป
    แต่จงสนใจเรื่องที่ เรามีอะไรเหลืออยู่

    cr : ธรรมทาน

    นี่จิตเด็กหรือจิตผู้ใหญ่กันแน่เนี้ย ตัวแค่เนี้ยทำไมจิตเธอยิ่งใหญ่อย่างนี้ ดูสิ ธรรมะของเธอช่างลึกซึ้งกินใจ เจ้าฝน เอ่อ จบ.? พี่เพ็ญจำไม่ได้อ่ะ
     
  3. savesafe

    savesafe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +442
    ขอโมทนาสาธุกับจิตบุญดวงที่๕๐จนถึงจิตบุญดวงที่๕๙ ด้วยครับ รวมทั้งจิตบุญทุกๆท่าน ครูจิตบุญทุกท่าน จิตบำเพ็ญทุกดวงครับ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. savesafe

    savesafe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +442
    ผมก็เกาะกระทู้มาราธอนมาตั้งแต่ตอนแรกที่พี่ภูตั้งกระทู้ตั้งแต่หน้าแรก(ตามมาจากกระทู้อาจารย์ฮั้วโต๋และคุณอัญญาสิทธิ์)ส่วนมากจะก๊อปปี้ใส่notepadไปอ่านเลยไม่ค่อยได้ตอบกระทู้สักเท่าไหร่ครับอยู่บ้านอินเตอร์เน็ตก็โลว์สปีดเข้าค่อนข้างยาก ตอนนี้เป็นกระทู้ที่ผมเข้าทุกครั้งที่ผมเข้าบอร์ดของพลังจิตเข้ามาแล้วมีแต่ความสบายใจและได้ธรรมะกลับไปใช้กับตัวเอง ก็มีบ้างในบางครั้งที่คิดว่าทำไมจิตของเราจะยกเป็นจิตบุญกับเขาสักที..ก็ตอบตัวเองกลับไปว่าคงจะยากอยู่ถ้าไม่ค่อยมีความเพียรอย่างนี้ อยากจะขอบคุณคุณครูจิตบุญทุกท่านๆที่นำธรรมะมาสอนจิตสอนใจครับ ไปช้าๆแต่ไม่หยุดที่จะทำคงมีสักวันที่จะถึงที่หมายบ้าง เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่มีจุดหมายปลายทางเดียวกันแต่ยังไปไม่ถึงเหมือนผมนะครับ ครูท่านใดมีความเมตตาอยากเขี่ยวเค็ญจิตดื้อดวงนี้บ้างครับ(deejai)
     
  5. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ยินดีรับค่ะ ตอนนี้เริ่มว่างแล้วค่ะ
    ท่าทางจิตครูกับจิตลูกศิษย์จะพอกัน ดื้อนิดหน่อย + ความเพียรน้อยหน่อย 55555
     
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

    ได้ชื่อว่า "จิตบุญ"
    หรือผู้เจริญในศีลในธรรม

    แต่ถ้าพวกเราคิดว่า เป็นลูกหลานเหลนของพระพุทธองค์แล้ว
    พวกเราจงเป็นผู้ประพฤติดี หรือผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ ปฎิบัติธรรม
    และต้องปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ทุกๆพระองค์กันด้วยเถิด
    เพราะพวกเราก็คือ พุทธบริษัททั้งหลาย
    จะต้องน้อมยอมรับอันเป็นที่พึ่งสูงสุดของจิตใจของชาวพุทธทั้งหลาย
    นั่นก็คือ พระรัตนตรัย
    โดยเฉพาะจิตบุญ หรือผู้ที่กำลังปฎิบัติทุกท่าน
    จงหมั่นระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธองค์ให้มากๆ
    เพราะพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงค้นพบพระธรรม
    เป็นสิ่งที่มีคุณค่าล้ำมหาศาลแก่พุทธบริษัททั้งหลาย
    โดยเฉพาะคนก่อนที่จะกลายเป็นอริยบุคคลในภายภาคหน้า
    พระพุทธองค์นั้นมีบุญคุณต่อพวกเราพุทธบริษัททั้งหลาย
    เพราะพระธรรม หรือคำสั่งสอนของพระองค์ท่านนั้น สอนให้คนหลุดพ้น
    โดยเฉพาะหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งหลาย ทั้งปวง และหลุดพ้นวัฎฎสาสาร
    แต่ถ้าหากผู้ใดประพฤติ ปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์นั้น
    ก็จะมีแต่ทำให้ผู้ปฎิบัติพบแต่ความสว่าง หรือความสงบสุข ร่มเย็นทั้งกายใจ

    โดยเฉพาะพวกจิตบุญทั้งหลาย พอจะเข้าใจกันดี
    ขอให้จิตบุญน้องรับเอาผลของการปฎิบัติของตนที่ประพฤติ ปฎิบัติดีมาแล้ว
    จงพอใจกับสิ่งที่ได้ สิ่งที่เป็น เพราะผู้ปฎิบัติต้องไม่ดูถูกผลการปฎิบัติของตน
    และเมื่อจิตบุญจบกิจจากที่นี่แล้ว ขอให้จิตบุญทุกท่านจงเจริญรอยตามมรรคมีองค์แปด
    อย่างเดียว ขอให้สติอยู่กับกายกับจิต และจิตอยู่กับพระรัตนตรัยตลอดไป
    เพราะถึงจิตบุญได้ชื่อว่า จบกิจ จบธรรมภายในกาย ภายในจิตของตนแล้วก็ตามที
    จงหมั่นเจริญสติภาวนาต่อไป ถึงแม้นเราได้จิตเดิมแท้(จิตประภัสสร)กลับมาแล้วก็จริงอยู่
    แต่ตราบใดที่ยังไม่ละขันธ์ หรือยังครองขันธ์๕
    แต่ถ้าจิตบุญไม่คอยหมั่นเจริญสติภาวนา หรือไม่ได้สร้างสติ ไม่มีสติมากพอ
    จิตก็อาจจะไหลไปกับกิเลสต่างๆได้ เพราะขันธ์๕ ก็คือ ตัวทุกข์ดีๆนี่เอง
    และไม่มีผู้ใดหนีทุกข์ได้ ถึงตายไปแล้วก็ยังทุกข์อยู่ เพราะตราบใดที่ยังมีความเกิด
    ทุกข์นั้นจะไม่มีทางหายจากไปที่ไหน นอกเสียจากผู้นั้นเจริญสติภาวนา
    จนจิตกลายเป็นจิตอรหันต์ ถึงยังมีชีวิตอยู่ไม่ทุกข์ร้อน หรือตายไปแล้วจิตจุติบนพระนิพพาน
    เรียกได้ว่า ก่อนและหลังตายก็ไม่ทุกข์ หรือนิพพานบนดิน(ยังมีขันธ๕)และบนพระนิพพาน(ละสังขาร)

    แต่ครั้งนี้เราจะรู้สึกไว และก็กลับมาทำให้พ้นทุกข์กันได้
    เพราะฉะนั้น จิตบุญใหม่ๆ จะต้องไม่ให้สติออกห่างจากจิต แต่ห่างเมื่อไหร่ก็ทุกข์เมื่อนั้น
    และจิตบุญใหม่ๆ อย่าได้ไปสนใจ คำว่า จิตยกคือจิตบุญ จิตบุญคือจิตอรหันต์
    แต่ถ้าใครไปดันคิดแบบนั้น หรือเที่ยวไปคุยอวดโว ขี้โม้ หรือมีคนอื่นที่ไม่ได้ยกจิต
    มาบอกว่า จิตยกหรือจิตบุญนั้น ก็คือ ของปลอม แต่ถ้าจิตบุญใหม่ๆ ฟังแล้วก็รู้สึกไม่ดี
    แต่ถ้าจิตบุญคนไหน ไปพูดอวด(ขี้โม้)+หูเบาหรือคล้อยตามที่คนอื่นพูด
    พี่ภูจะบอกกับพวกเธอว่า เธอคือจิตบุญปลอมจริงๆ ตามที่เขาว่ามาจริงๆ
    เพราะพี่ภูถือว่า ผู้ปฎิบัติจิตเกาะพระนี้ ที่จิตเดินมรรคาได้ถูกต้องย่อมไม่หลงทาง
    ผู้ปฎิบัติก็ย่อมตอบตนเองให้ได้ก่อน แล้วจึงไปตอบกับคนอื่นเขา
    และผู้ที่ไม่ปฎิบัติก็จะไม่มีวันทางรู้ด้วยตนเอง เพราะผลที่ได้หลังการปฎิบัตินั้น
    เป็นปัจจัตตัง จะเอามาพูดในวงกลุ่มคนทั่วๆไปไม่ได้ ถึงพูดไปก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี
    เพราะจิตหยาบเกินไป ผู้ที่จะพูดคุยธรรมรู้เรื่องกันเห็นจะมีแต่จิตพระโสดาบันเป็นต้นไป
    นอกนั้นอย่าไปพูดเลย พูดไปก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
    เวลาโปรดคนก็ต้องดูอีก ไม่ใช่เห็นเขาเป็นญาติเราก็ดปรดกันได้นะ
    เพราะถ้าวาระกรรมใครยังไม่หมด พวกเขาเหล่านั้น จะพากันปฎิบัติยาก
    เพราะจะต้องเป็นผู้ที่รักษาศีลหยาบ หรือรักษาศีล๕ ให้ครบบริบูรณ์
    ก่อนที่จะมาทำภาวนา หรือปฎิบัติธรรม จะเป็นกรรมฐานกองไหนก็ได้
    ไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องเป็นแบบ จิตเกาะพระ

    ขอย้ำ คำว่า "จิตยก" หรือ "จิตบุญ"นั้น ก็คือ "จิตอรหันต์"
    พวกเราอย่าไปดูหรือไปสนใจ กับภาษาสมมุติเหล่านั้น เพราะว่ามันเป็นแค่เปลือกนอก
    ชื่อนั้นสำคัญไฉน แต่ขอให้สนในที่จิตตนเองว่ามันเป็นดั่งที่เขาว่าไปไหม
    เช่น พวกเราบอกว่า จิตยกหรือจิตบุญ ก็คือ จิตอรหันต์
    หรือมีบุคคลภายนอกพูดกันว่า จิตยกหรือจิตบุญหรือว่าจิตอรหันต์เป็นของปลอม
    อะไรก็ตามทั้งสองกรณีนี้ ขอให้พวกเราไตร่ตรองลองใช้ปัญญาเพ่งพินิจพิจารณา
    ลงไปดูที่จิตของตนเอง(ไม่ใช่ไปดูจิตคนอื่นนะ) ว่าที่แท้จริงนั้น จิตของเรานั้นเป็นเช่นไร
    เพราะถ้าจิตยกหรือจิตบุญหรือจิตอรหันต์นั้น
    พี่ภูถือว่าจิตยิ่งใหญ่หรือจิตต่างก็มีภูมิปัญญากันหมดแล้ว คิดเอาเอง
    แต่ถ้าคิดไม่ออกหรือว่าอินทรีย์ยังอ่อน ก็อาจจะตอบตนเองหรือผู้อื่นไม่ได้ เช่นกัน

    ต่อไปนี้ขอให้ผู้ปฎิบัติดูหรือสนใจแต่แก่น
    เพราะคนทั่วไป หรือคนส่วนใหญ่เขามักพากันดูหรือสนใจแต่เปลือกภายนอกกัน้ท่านั้น
    เพราะด้วยจิตหยาบ+อวิชชา=โง่เขลาเบาปัญญา สรุปแล้วในเมื่อปัญญาตนเองไม่มี นั่นเอง
    ก็เฝ้าถามคนอื่นหรือสงสัยไปตลอดชีวิต บางคนหูเบาหรือชอบไปฟังคนอื่นนี่ก็ใช่อีก
    หรือผู้ปฎิบัติจะไปเชื่อหรือว่าคล้อยตามผู้ไม่มีศีล ไม่มีธรรม หรือพวกปัญญาน้อย ก็แต่ตามใจ

    แก่นในที่นี้หมายถึง แก่นธรรมหรือจิตแก่น จิตแท้ จิตทรงภูมิปัญญา
    (ตามสโลแกนของครูเพ็ญ) หรือให้พวกเราสนใจจิตของตนเองให้มากๆ
    เพราะฉะนั้นผู้ปฎิบัติ โดยเฉพาะจิตบุญ จะต้องให้ความเคารพ ให้ความสำคัญ
    ในมรรคผลนิพพานของผู้ปฎิบัติเอง(ปฎิเวธ)
    เพราะผู้ที่หลุดพ้นจริงๆ นั้น ก็คือ ผู้ปฎิบัติเอง และย่อมจะรู้และเข้าใจถึงผลการปฎิบัติของตน
    ว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้าไม่แน่ใจ ก็ให้นำสติไปตามดู ตามรู้จิตให้มาก แล้วท่านจะทราบเอง
    แต่อย่าลืมนะว่า มีปัจจัยเยอะที่ผู้ปฎิบัติเองสอบไม่ผ่าน จะอะไรก็ตามแต่จะไม่ขอกล่าวในที่นี้

    ต่อไปนี้จะเป็นผลวัดของจริง ว่าจิตยก จิตบุญ หรือจิตอรหันต์จริงไหม๊?
    สิ่งที่จะมาทดสอบจิตของพวกจิตบุญโดยตรง นั่นก็คือ ธรรมทุกธรรม
    หรือสิ่งต่างๆ(กิเลส)ที่กำลังมากระทบจิตอยู่ในปัจจุบัน(เท่านั้น)
    และขอให้จิตบุญนำสติไปตามดูจิตว่า อาการหรืออารมณ์ของจิตในขณะที่มีสิ่งมากระทบแล้ว
    จิตบุญทั้งหลาย ท่านมีความรู้สึกอ่อนไหว เอนเอียง หรือเฉยๆ อย่างไร?
    แต่ถ้ารู้สึกเฉยๆ อันนี้ดีเยี่ยม เพราะไม่มีธรรมหรืออะไรมาลายจิตได้เลย(ไม่มีผลต่อจิต)
    (เฉยๆแบบมีสติสัมปชัญญะนะ เพราะจิตเฉยๆในความหมายนี้ก็คือ จิตมีสติ+ปัญญา)
    แต่ถ้าจิตบุญที่ยังมีอินทรีย์อ่อน ก็ย่อมอ่อนไหวไปบ้างนิดหน่อย
    และอีกไม่นานนัก จิตก็จะเฉยๆได้ เพราะว่าสติยังมีไม่มากนั่นเอง
    เพราะด้วยเหตุนี้เอง ที่ทำให้จิตไม่นิ่ง จิตหลงตามกิเลสตัวอื่นได้ง่าย เป็นทุกข์ง่าย
    หรือผู้ที่มีอินทรีย์อ่อนก็เพราะว่า สติ+ปัญญามีน้อยไป
    แต่ถ้าผู้ที่มีสติมาก ปัญญาก็มากตาม หรือพวกที่ฝึกมาดี กลายเป็นวสี=เคยชิน
    มักจะรู้เท่าทันกิเลส เพราะจิตเคยเห็นความเกิด-ดับของกิเลสมาบ้างแล้ว
    และจิตผ่านวิปัสสนาญาณ ผ่านไตรลักษณ์ โดยเฉพาะจิตผ่านอนัตตา
    จิตจึงจะรู้+เข้าใจ= จิตจึงจะทำหน้าที่เป็นผู้ละปล่อยวางจากสิ่งเหล่านั้นได้
    เมื่อจิตบุญเห็นหรือไปรู้ความจริงของธรรมนั้นๆ มาหมดแล้ว
    ต่อไปจิตบุญจึงยอมรับกฎแห่งกรรม กฎธรรมชาติ หรือจิตมองเห็นทุกสิ่งเป็นธรรมดาทั้งหมดแล้ว
    จิตก็เลยเฉยๆ ได้

    ต่อไปนี้ เมื่อจิตบุญสามารถเข้าถึงกระแสของตน คือการเข้าไปรับเรื่องราวรู้ต่างๆ
    และเข้าใจกระบวนของจิต(ดูจิต=รู้อาการ+อารมณ์ของจิต) หรือจิตในจิตแล้ว
    จิตบุญก็สามารถเข้าไปถึงกระแสธรรมได้ในที่สุด แต่จะต้องอาศัยจิตทรงฌาน+อย่างต่อเนื่อง
    หรือเรียกกันว่า ปัญญาพร้อมใช้ จิตจึงสอบผ่านวิปัสสนาญาณโดยอัตโนมัติเอง
    หรือเรียกกันว่า ธรรมในธรรม(คือจิตเป็นพุทธะหรือจิตถึงธรรมหรือจิตเข้าใจธรรมทุกอย่าง)
    เมื่อจิตเข้าไปถึงทั้งกระแสจิตและกระแสธรรม
    แต่ถ้าจิตบุญผ่านมาสองกระแสจิต+ธรรมนี้แล้ว ก็เท่ากับจิตบุญนั้นเป็นผู้ที่มีศีลและธรรมครบถ้วน
    และต่อไปจิตบุญยังจะอยากไปพบพระพุทธเจ้ากันอีกหรือ แต่ถ้าไม่ก้ไม่เป็นไร
    ขอแค่ให้จิตบุญคอยหมั่นเจริญสติเข้าไว้(อย่าสม่ำเสมอ)
    แต่ถ้าผู้ยังอยากจะพบพระพุทธเจ้า ท่านจะต้องบำเพียรบารมีต่อไป
    ก็คือ นอกจากจะคอยหมั่นเจริญสติปัญญาแล้ว
    อย่าหยุดภาวนาหรือกำหนดจิตไปกราบพระพุทธเจ้าบ่อยตั้งอธิษฐานกับท่านบ่อยๆ
    และก็ต้องทำหน้าช่วยยกจิตลูกหลานแทนท่านพ่อหรือพระพุทธเจ้า
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089

    (ข้อความต่อจากลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น)​

    เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้ามาปฎิบัติจิตเกาะพระนั้น มีแต่ได้กับได้
    คำว่า "ได้" ในที่นี้หมายถึง ได้จิตประภัสสร ได้ธรรมะ ได้สร้างบุญบารมี
    จากคนที่เคยเป็นทุกข์มากจนกลายมาเป็นทุกข์น้อยหรือไม่ทุกข์เลย
    หรือเมื่อก่อนไม่เคยเข้าถึงจิต เข้าถึงธรรมะ หรือเข้าไปถึงการปฎิบัติธรรม
    ว่าที่แท้จริงแล้ว คนที่มีดวงตาเห็นธรรมนั้น มันเป็นเช่นไร
    ได้ประโยชน์ ได้รู้จัก คำว่า สติ ศีล สมาธิ ปัญญา วิปัสสนา วิมุตติ(นิพพาน=ความว่าง)
    สรุปแล้วคุ้มค่าจริงๆ ได้เป็นคนดีสมใจนึก และเข้าใจ คำว่า พระนิพพาน
    คราวนี้ตอบตนเองได้แล้ว

    มาถึงตอนนี้ พี่ภู+ครูเพ็ญหายเหนื่อยแล้ว
    ต่อไปนี้ให้จิตบุญสอนคนรุ่นหลังต่อไปๆได้แล้ว
    จิตบุญมีครบหมดแล้ว ทั้งพระภิกษุ คุณแม่ชี และฆราวาส
    แต่ละท่านก็เข้าถึงแก่นมากแล้ว ยกเว้นจิตบุญที่อินทรียอ่อนอยู่
    พี่ภู+ครูเพ็ญ+ครูท่านอื่นๆ ต้องคอยเป็นที่ปรึกษากันจนกว่าอินทรีย์จะแก่กล้า
    สำหรับอินทรีย์อ่อ่นก็ไม่เป็นไร เพราะจิตยก จิตบุญ จิตอรหันต์ก็คือ จิต มิใช่กาย
    แต่จะต้องอาศัยสติเป็นหลักก่อน สติมาก ปัญญาจึงจะมากตามไปด้วย
    ฝึกให้เป็นวสี(จนเคยชิน) อินทรีย์จึงจะแก่กล้า
    เพราะผเริ่มแรกนั้นผู้ปฎิบัติมีภูมิปัญญา ภูมิธรรม ศีลและธรรมไม่เสมอกัน
    จะด้วยเหตุอันใดก็ตามแต่ ช่างมันเถอะอย่าไปสนใจเปลือก ให้สนใจจิตแก่นมากๆ

    ปล. ความหมายอาจจะไม่สมบูรณ์มากนัก เพราะขณะพิมพ์ไม่ค่อยสบายด้วย
    เดี๋ยวผมจะมาแก้ไขในภายหลัง
    แต่ถ้าพิมพ์ตกหล่น หรือความหมายผิด หรือข้อความวกวนไปมา
    พี่ภูขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย อยากพิมพ์ให้เสร็จไวๆ จะได้ทานยานอนพัก
    พี่ภูตายช่างมัน แต่กลัวพวกเราไม่ได้ธรรมะ ไม่ได้ยกจิต
    ขอให้ผู้ที่กำลังปฎิบัติอยู่ในขณะนี้ ขอให้ยกจิตไวๆ เพราะใกล้ปลายปีเข้ามาแล้ว
    เวลาพวกเราอาจจะเหลือน้อยเข้าไปทุกที กายไม่รอดช่างมัน
    แต่ขอให้ดวงจิตรอดพ้นจากการเกิดกันก่อน
    อย่าประมาทนะพวกเรา สตินะ..สติ
    สติตามจิตทันกันไหม๊? พยายามถามตนเองบ่อย พยายามทำความรู้สึกตัวกันบ่อยๆ
    เพราะนอกนั้นช่วยอะไรคุณไม่ได้เลยสักอย่าง เช่นรถ บ้าน เงินทอง
    แม้นกระทั่งคนที่เรารัก หรือคนที่รักเรา เมื่อความตายมาถึงไม่มีใครช่วยคุณได้นะ
    มีแต่สติเท่านั้น พยายามหมั่นระลึกถึงพระพุทธเจ้ากันให้มากๆ
    เพราะยามวิกฤติจะไม่มีใครช่วยกันได้นะ แต่ถ้าผู้ปฎิบัติยังไม่ได้ จิตยังไม่ทันยก
    แต่สิ่งสุดท้ายและสำคัญที่สุดที่จะสามารถช่วยคุณได้ก็คือ ท่านพ่อ
    ท่องไว้ ท่านพ่อ หรือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ก่อนและหลังตื่นนอน
    ให้คิดถึง ระลึกถึงท่านให้มากๆ ท่านพ่อไม่ได้หายไปที่ไหนหรือไกลจากลูกๆทุกคนเลย
    ทุกวันนี้ท่านพ่อคิดคิดถึงและเป็นห่วงลูกหลาน
    แต่จะมีลูกหลานคนไหนบ้างที่รู้ว่า ท่านพ่อเป็นห่วง
    จึงอยากพากันยกจิต และกลับบ้านเก่า(นิพพาน)กันเยอะๆ
    ลูกหลานเอ๋ย! กำลังทำอะไรกันอยู่ รู้มั๊ยว่าเรากำลังอยู่/ทำ/เล่นอยู่กับสิ่งสมมุติ
    กันทั้งนั้น
    ของจริงๆ ของดีๆนั้นอยู่ใน จิตในจิต ธรรมในธรรม และท่านพ่อก็อยู่ในธรรม
    แต่ถ้าลูกสามารถทำให้จิตเป็นธรรมได้ จิตก็จะกลายเป็นจิตพุทธะ
    ตรงนี้นั่นไง ท่านพ่ออยู่ตรงนี้ลูกหลาน ทำไมลูกหลานไปหาท่านพ่อไกลจัง
    ที่แท้ท่านพ่อก็เฝ้าวนเวียนอยู่กับจิตลูกหลานทุกวัน ทุกๆคนอยู่แล้ว
    ว่าแต่ว่าจะมีลูกหลานรักเคารพ เลื่อมใส และศรัทธาท่านพ่อจริงๆ
    ใครพร้อมก็ยกจิตกันก่อนนะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะตายวันไหน
    อย่าทำอะไรจนเพลิน รักษาศีลหมั่นภาวนาเยอะๆ
    ใครที่มีอินทรีย์อ่อน หรือใครอยากยกจิตไวๆ บอกครูวิทย์นะลูก
    หรือจะอาราธนาจากท่านพ่อก็ได้ แต่...แต่จะต้องทำให้จิตนิ่งมากที่สุดก่อนนะ
    ถ้าอย่างนั้นท่านพ่อรับไม่ได้
    พี่ภูขอกราบแทบฝาพระบาทท่านพ่อ พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
    และพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ...สาธุๆ
     
  8. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    มาแล้วจ้าาาาา
    กราบ กราบ กราบ พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ท่านพ่อองค์ปฐมต้นพุทธสิกขี1 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่าน ผอ.ใหญ่ คุณพี่ภู คุณครูใหญ่พี่เพ็ญ(ครูละเอียดของหนู) คุณครูลูกพลัง ครูนิวเวป ครูพี่บุษย์ ครูนก ชาย ครูวิทย์ ครูดัชนี และคุณครูจิตบุญทุกๆ ท่านที่ไม่อาจเอยนามในนี้ทั้งหมดได้ค่ะ

    ทุกท่านในที่แห่งนี้ ถึงแม้ว่าบางท่านจะไม่ได้สอนดิฉันโดยตรงก็ตาม แต่ถือได้ว่ามีส่วนช่วยให้ดิฉันได้จบกิจครั้งนี้ลงได้ค่ะ เพราะจากการที่ดิฉันเกาะขอบกระทู้มาอย่างยาวนาน 555+ ดิฉันเข้ามาเจอกระทู้นี้ด้วยตนเองค่ะ (บุญคงพามา เพราะหลังจากที่ตั้งใจถือศีล 8 เองที่บ้าน 1 เดือนเต็ม ก็มาเจอกระทู้นี้เลยค่ะ) คงไม่ได้เพราะความบังเอิญอย่างแน่นอน ตอนนั้นกระทู้เพิ่งจะได้ประมาณ 20 กว่าหน้า ก็เข้ามาอ่านได้ 4 หน้านี้แหล่ะค่ะ ก็อดรนทนไม่ไหว ก็เขียนเข้ามาขอเรียนกับพี่ภู พี่ภูก็แตะโด่งส่งมาให้ครูพี่เพ็ญต่อ บอกให้จับเราแต่งตัวปะแป้งใหม่ ก็เริ่มต้นเหมือนทุกๆ ท่านที่เรียนจิตเกาะพระค่ะ คือพี่เพ็ญส่งแบบสอบอารมณ์มาให้เรากรอก และให้ส่งประวัติการปฏิบัติธรรมไปให้พี่เพ็ญดูว่าพื้นฐานเราเป็นอย่างไร หลังจากนั้นพี่เพ็ญก็บอกให้ส่งการบ้าน แล้วตั้งแต่นั้นมาเราก็ไม่เคยส่งการบ้านครูเพ็ญเหมือนกัน 5555+ ก็หนูไม่รู้จะเขียนอะไรส่งพี่เพ็ญอ่ะ แต่เราไม่เคยทิ้งกระทู้ ถึงแม้จะห่างครูไปแล้วก็ตาม เข้ากระทู้ทุกวันค่ะ ตามอ่าน ตามเก็บข้อมูล เป็นครูพักลักจำมาโดยตลอด+ปฏิบัติด้วยนะเกลอ ด้วยความเพียร+พยายามมาตั้งแต่ต้น+ความฉลาดทางโลกเกินไป ก็เอ..ทำมาตั้งนานแล้วทำไมภาพพระไม่ติดสักที แต่ไม่ท้อค่ะ จนมาอ่านเจอที่ว่าใครมีของเก่าให้ทิ้งของเก่าของเดิมไปก่อน ให้มาจับภาพพระอย่างเดียวเท่านั้น โอ้ย..ทำไงล่ะทีนี้ เราก็ต้องหัดทิ้งคำภาวนาที่เราเคยทำ(เพราะตอนนั้นเราทำควบคู่กันไปอ่ะดิเลยไม่ถึงไหนซักที) ตอนแรกก็ขัดๆ แต่สักพักก็เริ่มเข้าที่ น่าจะเพียง 2 อาทิตย์มั่ง เราก็เกาะพระติด โอ้ย..เริ่มเห็นถึงความอัศจรรย์ของจิต แล้วก็เริ่มมีการบ้านส่งครู ก็กลับไปหาครูเพ็ญใหม่ มาคราวนี้ครูเพ็ญจัดกองทัพครูเสริมเรามาตั้ง 3-4 ท่าน 555+ หลังจากนั้นครูก็สอนให้เราเริ่มรู้จักการวิปัสสนา เราก็ก้มหน้าก้มตาทำๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างเดียว ตามสูตรของครูลูกพลัง ช่วงหลังๆ ก่อนที่จิตจะยก เราเน้นที่พิจารณากายสังขาร ธาตุ4 ขันธ์ 5 และ อสุภะ อย่างเดียวเลยที่เด่นๆ ตามที่ครูนก ชายเข้ามาเสริมเราอีกทีตอนจิตเราแก่มากๆ แล้ว เพราะเมื่อก่อนเราไม่เคยพิจารณาเลยจริงๆ จน ณ ขณะนี้ ก็ยังงงๆ อยู่เลยค่ะ เพราะสติเราตามไม่ทันจิต จิตเรานี้ละเอียดจริงๆ บางทีเราเขียนการบ้านส่งครูคำพูดเรายังไม่ละเอียดเท่าจิตเราที่อยากจะสื่อออกไปเลย ขอแค่นี้ก่อนนะค่ะ เป็นเพียงน้ำจิ้มสักเล็กน้อย เดี๋ยวเจอกันอีกรอบในเร็วๆนี้ อิๆ

    สาธุ สาธุ สาธุ ขอยกบุญใหญ่นี้ทั้งหมดให้แก่คุณแม่ขอให้ท่านได้มีดวงตาเห็นธรรมในเร็ววัน คุณพ่อ(ซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนเรายังเด็กมาก) เราไม่เคยเรียกคำว่า พ่อ เลยในชีวิต แต่เราได้มาใช้คำนี้ตอนฝึกจิตเกาะพระ คือ ท่านพ่อ รู้สึกอบอุ่นมากอย่างบอกไม่ถูก และขอยกบุญใหญ่นี้ถวายแด่ท่านพ่อ ลูกซาบซึ้งในพระเมตตา ลูกขอมอบกายถวายชีวิตรับใช้ท่านพ่อไปจนกว่าร่างกายหยาบขันธ์ 5 ของลูกนี้จะหมดอายุขัยไปตามวาระค่ะ หนูขอยกบุญนี้ให้แก่พี่ภู ครูเพ็ญ ครูลูกพลัง ครูวิทย์ ครูนก ชาย ครูนิวเวป ครูแสงจันทร์ ครูจิตบุญทุกๆ ท่าน และชาวจิตบำเพ็ญ ทุกๆ คน รวมทั้งผู้ที่เกาะของกระทู้ด้วยนะค่ะ

    สาธุค่ะ

    เกษ จิตบุญ 52.
     
  9. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ถึงคุณwatjojoj จิตบุญ 51 จิตบุญแฝดของเรา

    ช่วงที่เราฝึกจิตเกาะพระอยู่ เราก็รู้แล้วหล่ะว่า วิชาจิตเกาะพระนี้ดีอย่างไร เราก็เลยอยากจะแชร์เรื่องราวดีๆ ให้กับท่านผู้ที่พอจะมีแวว คือ อย่างน้อยต้องมีจิตเป็นกุศล และปฏิบัติมาบ้าง เราก็แชร์ไปหลายคนมาก จนเราจำไม่ได้ เราบอกบุญไปโดยที่เราก็ไม่ได้หวังว่า ใครจะเข้ามาบ้าง อันนี้ก็แล้วแต่บุญของเค้าแล้วค่ะ ส่วนเราคิดว่าเราทำหน้าที่ได้ดีแล้ว คือ บอกบุญไปแล้ว อันนี้ก็แล้วแต่ท่านว่าท่านจะทำ หรือไม่ทำ ก็แล้วแต่บุญของท่าน หนึ่งในนั้นก็ยังมีบุญมากโขอยู่ก็คือ คุณwatjojoj ค่ะ ท่านเป็นคนมีปัญญาค่ะ ท่านไม่ปฏิเสธเลย แถมเข้ามาในกระทู้อย่างว่าง่าย พอเข้ามาแล้วท่านก็ติด ก็เกาะขอบกระทู้ไม่ปล่อยเลย 555 นี้แหล่ะคนมีบุญไม่ต้องพูดมากชวนมาก ท่านเข้ามาของท่านเอง 555 และท่านก็ลงมือปฏิบัติ ดูซิค่ะ ว่าท่านบารมีเต็มขนาดไหน ท่านเข้ามากระทู้นี้ทีหลังดิฉัน และฝึกจิตเกาะพระตามหลังเราตั้งนาน แต่ปรากฎว่า เรา (upline+downline) จิตยกพร้อมกันเลยค่ะ เราเดินกลับถึงบ้านพร้อมกันเลย

    สาธุ สาธุ สาธุ
    Dhammanee จบ.52
    ปล. พี่เพ็ญ ครูลูกพลังค่ะ หนูลืมบอกไปค่ะว่า หนูบอกท่านพ่อไปแล้วนะค่ะว่า หนูจะขอเป็นครูสอนฝึกจิตเกาะพระ แต่ตอนนี้หนูขอเป็นแค่ครูพี่เลี้ยงหรือครูผู้ช่วยไปก่อนนะค่ะ อินทรีย์หนูยังอ่อนอยู่มาก (รู้ตัวค่ะ) อิๆ
     
  10. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    *คุณพี่พอใจ(pporjai)ครับ*
    ผมนั้นยังไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อยหรอก
    ตราบใดที่ดวงจิตของคุณพอใจและคุณพี่สุภาทรยังไปไม่ถึง "พระนิพพาน"
    แต่ถ้าอยากให้ครูที่นี่หายเหน็ดเหนื่อย
    ถ้าอย่างนั้น ผมขอให้คุณพี่ทั้งสองปฎิบัติจิตเกาะพระให้สำเร็จไวๆ
    (
    แลกกันนะครับ)

    .............................................................

    :cool:(k) ได้กำลังใจจากอาจารย์ใหญ่ภูและคุณครูเพ็ญอย่างนี้...
    พอใจสู้ตาย....ค่ะ ชาตินี้..จะเร็วจะช้าก็จะนำจิตเกาะพระให้ได้..จะได้หัวเราะแบบสบายใจแบบคุณครูเพ็ญค่ะ...
     
  11. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    ขอบพระคุณ ครูวิทย์ มากเลยค่ะ ที่มีเมตตาต่อศิษย์ใหม่ ....ได้รับเมล์ครูเมิลแล้ว..จะน้อมนำมาปฏิบัติ ตามขั้นตอน..ให้เวลาศิษย์หน่อยนะคะ จิตก็จับได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ก็ปฏิบัติมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่คุณพี่สุภาทรชวน..และได้อ่านบทความอ.ใหญ่ภูหลายหน้า ก็ลองปฏิบัติดูมาเรื่อย ๆ 1 อาทิตย์แล้วค่ะ..แต่ไม่ค่อยเข้าใจความหมายเรื่องส่งการบ้าน ตอนนี้พอเข้าใจแล้วค่ะ..จะพยายามเกาะพระและจับอารมณ์ให้ได้ ให้เวลานะคะ ยังใหม่มาก บางทีอธิบายไม่ค่อยถูก อายจัง ส่งเรื่องบ่นไปหาครูเพ็ญเป็นการบ้าน..ครูยังมีเมตตาอ่านซะทุกฉบับ..รู้สึกว่า..ที่นี่อบอุ่น ครูน่ารักทุกคน ให้กำลังใจในความมุ่งมั่นรักและปรารถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์..ที่ยังอ่อนแออยู่ต่อไปนะคะ..

     
  12. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,909
    ค่าพลัง:
    +16,491
    (k):cool: สาธุ สาธุ อนุโมทนา..กับคุณ Dhammanee ที่ได้แชร์สิ่งที่ดี ๆ ให้ได้อ่านนะคะ
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาสาธุๆ ซักล้านๆครั้ง
    กับคุณเอ๋ สายบุญของครูเมิล ครูแสงจันทร ครูลูกหว้า
    ไม่ให้ยกได้ยังไงหล่ะเนี๊ย คุณเอ๋โดนครูขนาบตั้งสามท่าน
    ขอโมทนาบุญกับครูผู้สอนด้วย ครูทุกๆท่าน แอบไปดูเครื่องทรงตนเองบ้างเด้อ แต่ไม่อยากให้พูดเรื่องเปลือกนอกมาก
    และแสงในดวงจิตด้วยส่งแสงเรืองรอง เห่อๆ
    ช่วงนี้คอยสังเกตดูนะว่า ทำไมครูเพ็ญนอนดึก รวมผมด้วย
    จะอะไรอีกหล่ะก็ออกมาช่วยดันก้อนลูกศิษย์กัน
    และเห็นได้จ๊ะก็คือครูนิเวป(ท่านนี้จัดหนักมาก สมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังถ่ายทำจริง) ครูลูกพลัง(ท่านนี้ว่างไม่ได้ท่านจะส่งทันที) ครูวิทย์(ท่านนี้แน่นอน แรงจัด V10/12 engines) ครูดัชชี่(ท่านก็เอาเหมือนกัน แต่ไม่ทราบว่าท่านไปเน้นเรื่องจักรวาลซะมาก)
    โม้แร๊ะ โม้ติดครูเพ็ญแน่ๆ ลืมไปๆ คุณหมอก็จิตเริ่มแรงแล้ว ครูเพ็ญ
    ให้ไปคู่กับใครดีนะ ที่คล้ายกันมากเลย ผมนึกไม่ออก ไม่สบาย

    ขอฝากถึงคุณเอ๋หน่อยนะ ทำต่อเนื่องไปเลยนะ
    จิตวิปัสสนาไม่เลิก จิตท่านนี้ขยันดีมาก ใครไปเจอได้งัย
    อ่านจากข้างนอกกระทู้ตลอด ยังไม่เป็นสมาชิกเลย เอ่อเก่งจัง
    เธอนี่ก็เป็นครูได้นะ เดี๋ยวให้พักก่อน
    แต่คุณเกศไม่ต้องพงไม่พักแล้ว อยากไปให้สัจจะกับท่านนัก
    ฮ่าๆสม


    ***คุณสุภาทรเตรียมกระเป๋าเดินทาง+passportหรือยัง?
    สงสัยงง ว่าผมกำลังพูดถึงอะไร
    ตอนนี้ใครจะเป็น ใครตายปล่อยเขาไปก่อน เร่งอย่างเดียว
    เร่งนี่หมายถึง จิตทรงฌานทั้งวัน ทั้งคืนนะครับ
    มองเห็นจิตท่านโผล่แสงจะออกจากขอบฟ้าแล้ว เอ๊ะทำไวจัง
    เมื่อวานเห็นั่งสามล้อถีบ แต่วันนี้จิตท่านนั่งจั้มโบมาแล้ว เดี๋ยวมีฮ่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2012
  14. puk777

    puk777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +492
    กราบสวัสดีพี่ภู คุณครูเพ็ญ และคุณครูทุกๆท่าน หนูขอตอบครูเพ็ญทีละข้อนะคะ ข้อ. 1 หนูชื่อปุ๊ก อายุ 44 ปี ไม่รู้ว่าทำไมจึงใช้ศัพท์นามแทนว่า "หนู" สงสัยอยู่หลายวันจึงได้คำตอบเมื่อคืนนี้ว่า คำว่าหนูเป็นคำสุภาพแสดงถึงความอ่อนน้อม นอบน้อม เคารพ นับถือ บุคลที่เรากำลังพูดคุยอยู่ด้วยไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ (ทั้งทางโลกและทางธรรม) และผู้ใหญ่ทุกท่าน เมื่อก่อนคำว่า "ครูบาอาจารย์" หนูไม่เคยให้ความสำคัญเลยแต่ก้อไม่เคยแสดงความก้าวร้าว หรือแสดงกริยา คำพูดที่ไม่สุภาพ จนมาวันหนึ่งหนูรู้จักคำว่า "พระนิพพาน" คำนี้คำเดียวทำให้หนูเริ่มศึกษา ปฎิบัติเพื่อที่จะนำตัวเองกลับบ้านให้ได้ หนูรู้ว่ามันยากมาก เวลาติดปัญหาไม่รู้จะถามใครทำให้หนูรู้เลยว่าครูบาอาจารย์นั้นสำคัญจริงๆและสำคัญมากด้วยๆกำลังของเราเองไม่สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ถ้าขาด"ครูบาอาจารย์"
     
  15. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    สวัสดีครับคุณเกษ
    เมื่อคืนผมยังนั่งนึกอยู่เลยว่าเรา จบ.อะไรหว่า 55555 ผมรำลึกถึงบุญคุณคุณเกษเสมอนะครับ ที่ผมมีวันนี้คุณเกษมีส่วนมากครับ ความรู้สึกมันเยอะจนเขียนไม่หมดเลยครับ
    ปล.ลืมเล่าเรื่องขำๆ เมื่อวานเงินเดือนออก เงินหายไป5000 การเงินลืมบวกค่าน้ำมัน ผมดันอยากร้องเพลงซะงั้น อยู่ก็นึกร้องเพลงออกมา เล่าให้ครูลูกพลังฟังก็เลยเข้าใจว่าคืออะไร (ครูครับผมมาอ่านที่ครูส่งจดหมายให้ผมฉบับล่าสุดทีไรก็ยังซึ้งใจกับคำพูดครูอยู่เลยนะครับ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2012
  16. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    เรื่องนี้ต้องขยาย.. จิตบุญน้องใหม่อ่านหลายๆรอบ..นะครับ

    โมทนาสาธุกับท่านพี่ภูอย่างไม่มีประมาณเลยครับ..
    ตัวเองรอดไปแล้ว สังขารก็ยังไม่เที่ยง ยังอุตส่าเป็นห่วงจิตบุญรุ่นหลังอีก..
    ช่างสมแล้วที่ท่านเป็น"ผู้ถูกเลือก"..555

    จิตบุญท่านที่ยังคงปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง หมั่นมีสติอยู่เนืองๆ
    อินทรีย์ท่านก็จะค่อยๆปรับตัว เต็มธาตุ เต็มหน่วย มากยิ่งๆขึ้น
    "จิต"ท่านก็จะอยู่กับ "ความนิ่ง" และ "ความว่าง" มากขึ้นๆๆๆ
    "กายสังขาร"(ก็แบกมันกันต่อไป..555) ก็ทำกิจการงานตามหน้าที่ที่พึงมี..แบบไม่ยึดติด!
    ส่วน"สติ"ก็ไปเป็นท่านผู้ชม ท่านผู้ดู ท่านผู้รู้.. ต่อไปๆ

    ถึงที่สุดแล้วก็จะกลับกลายเป็น "บุคคลธรรมด้าา ธรรมดา" ธรรมดาที่สุดเลย.. สาธุสวัสดี


     
  17. puk777

    puk777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +492
    ข้อ.2 ก่อนที่หนูจะเข้ามาเขียนในกระทู้นี้ หนูอ่านและปฎบัติเองตามที่คุณครูเพื่อนๆพี่ๆกัลยมิตรเข้ามาโพสถึงวิธีปฎิบัติ ปัญหาที่เกิด และการแก้ปัญหาหนูก้อไปทำตาม หนูเคยทำจิตเกาะภาพพระได้ภาพอย่างที่ท่าน kongkiatm ลงไว้ที่หน้า 232 ทั้ง 5 ภาพ (ขอโทษค่ะหนูลงรูปไม่เป็น) ภาพสุดท้ายที่หนูเห็นคล้ายๆแต่ไม่เหมือน ในภาพหนูนั่งข้างๆสมเด็จพ่อและกายของท่านรวมถึงบริเวณรอบๆสมเด็จพ่อก้อมีสีขาวไปหมดแต่เป็นสีขาวเหมือนกระดาษ A4 (ขาวจ๊วก) ไม่มีแสงฉัพพรรณรังสี หนูแปลกใจเพราะหนูมองเห็นท่านแต่ไม่ชัด (ขาวมาก) หนูไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อ เท่าที่หนูอ่านมามีแต่คนมองเห็นท่านสว่างหรือเป็นประกายพฤษ์หนูไม่รู้ว่าประกายพฤษ์เป็นยังไงจึงเลิกสนใจภาพนั้นหันไปจับภาพอื่นแทน แต่ถ้าหนูทำใจสบายๆคิดถึงภาพนั้นๆก้อมาทันที หนูขอคำแนะนำจากคุณครูด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ
     
  18. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    โมทนาสาธุด้วยครับคุณpuk777
    ภาพพระที่เราเห็นนั้นคือเราทรงฌานสูงอยู่แล้ว(ก้าวเข้าสู่ฌาน4แล้ว)
    การวางกำลังใจ
    - ก็ให้หมั่นทรงฌานสูงเช่นนี้ต่อไปตลอดทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่งจิตเราเขาทำงานเองเป็นออโต้
    - เวลาที่ภาพพระมีแสงออกมาก็ให้มีสติ จดจำอารมณ์ในขณะนั้นๆว่าเป็นเช่นไร ให้จำเอาไว้
    - แล้วเราก็ทรงอารมณ์นั้นไว้(ฌาน4) อย่างต่อเนื่อง เพราะว่ายิ่งจิตทรงฌานสูงมากขึ้นเท่าไร ภาพพระจะหายไป ให้สังเกตุว่าอารมณ์ยังทรงตัวอยู่หรือไม่ ถ้าใช่ก็แปลว่าจิตเรายังทรงฌานสูงอย่างต่อเนื่อง ให้ทรงฌานสูงแบบนี้ไปทั้งวันทั้งคืนเลย.. เป็นการอบรมจิตตนเองบ่อยๆจนจิตเขาจะจดจำของเขาไปเอง
    - แต่ถ้าสติเผลอ จิตลืมเกาะพระไป ก็ไม่เป็นไรครับ ให้นำจิตมาเกาะพระใหม่ ทำไปๆ..
    - เมื่อจิตเขาทำงานเป็นออโต้เองได้แล้ว เราก็สามารถแยกกายแยกจิตให้สำเร็จง่ายขึ้นนะครับ
    - การแยกกายแยกจิตคือ 1. จิตเกาะพระไป 2. กายทำการงานไป 3. สติเป็นผู้ตรวจการ ตามดูตามรู้ สลับไปมาระหว่างกายกับจิต

    เอาหล่ะ..ให้ไปทำให้ได้ตามนี้ก่อน
    หมั่นส่งการบ้านขึ้นมาทุกวันๆนะครับ
    อย่าลืม.. ทำทำทำ ทำทุกที่ แล้วก็ทำทำทำ..

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
    ลูกพลัง จบ.19
     
  19. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214

    พี่เพ็ญอ่านแล้วน้ำตาคลอเลยค่ะ ซาบซึ้ง อิ่มบุญ ปลื้มใจสุด ๆ ในความพากเพียรของคุณเกษ แถมยังแชร์ประสบการณ์เริ่มต้นได้น่าดูชมมาก นี่เองจะเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ยังลังเลสงสัยอยู่ ใครจิตพร้อมฯพออ่านคำตอบของคุณเกษปุ๊บ จิตเขาจะหงายขึ้นทันที โมทนา สาธุค่ะ
     
  20. puk777

    puk777 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +492
    ข้อ.3 ข้อนี้ขออนุญาติเล่าเรื่องส่วนตัวด้วยนะคะ หนูมีแฟนที่อายุมากกว่าหนู 16 ปี คบกันมานาน 8-9 ปี (แยกกันอยู่-โสดทั้งคู่) ที่ผ่านมาพี่เค้าทำให้หนูไม่พอใจตลอดแต่หนูก้อทนได้ เฉยๆ แต่ช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาไม่ว่าพี่เค้าจะทำอะไรหนูก้อไม่พอใจตลอดและอยู่ๆหนูก้อเกิดเบื่อพี่เค้าขึ้นมาและไม่อยากคุยด้วย จนเมื่อเดือนที่แล้วหนูได้บอกกับพี่เค้าว่า เราไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เค้าตอบว่ารู้แล้วหลังจากนั้นหนูก้อไม่มีความรู้สึกใดๆกับพี่เค้าอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นรัก โกรธ เกลียด โลภ(อยากได้สมบัติ) มีแต่สงสารที่หนูทำร้ายจิตใจพี่เค้า ทางครอบครัวของหนูว่าหนูผิดปกติบ้าง 3สลึงไม่ครบบาทบ้าง เลิกกันเพราะอะไร หนูก้อตอบมั่วๆว่าผู้ชายไม่ดีบ้าง (เอาข้อเสียของผู้ชายมาอ้างมากมาย) ตัวหนูเองไม่ดีบ้าง เข้ากันไม่ได้บ้าง แต่หนูก้อคิดไม่ออกว่าเลิกเพราะอะไร ( คิดทุกวัน ) จนวันหนึ่งหนูก้อได้รู้คำตอบว่าที่หนูคบพี่เค้าเพราะต้องการความมั่งคงในชีวิต มีคนคอยดูแล พี่เค้าจะเป็นที่พึ่งสำหรับหนูได้ แต่หนูคิดผิดที่ผ่านมาหนูเหนื่อย หนูลำบากมาก อาจจะด้วยวิบากกรรมที่เราได้ทำไว้ไม่มีใครรับรู้ (แม้กระทั้งพ่อ-แม่-พี่-น้อง-แฟน) ไม่เชื่อ ไม่สนใจ ไม่มีใครช่วยหนูเลยทุกคนกลับมองว่าเราสุขสบาย ไม่เหนื่อย ไม่ลำบาก ทำให้หนูได้คิดได้รู้ว่าคนรอบข้างไม่ใช่ที่พึ่งที่แท้จริงของเรา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาสิ่งที่ช่วยหนูเป็นที่พึ่งสำหรับหนูมาตลอดมีแต่พระรัตนตรัยเท่านั้น หนูผ่านความทุกข์มาได้เพราะเรามีความศัทธา-เชื่อมั่นในพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) อย่างแท้จริงและเชื่อว่าสมเด็จพ่อ หลวงปู่ หลวงพ่อไม่เคยทอดทิ้งลูกๆของท่านๆคอยช่วยตลอด หนูได้นำคำตอบของหนูไปบอกกับคนในครอบครัว ทุกคนเงียบไม่พูดอะไรสักคำและไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีก (หนูเพี้ยนหรือเปล่าคะ) กราบขอบพระคุณมากคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...