อยากทราบว่าสมัยนั้นพระพุทธเจ้าสอนให้มีการบริกรรมหรือปล่า

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย bigtoo, 21 กันยายน 2012.

  1. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    ในสมัยนั้นพระพุทธเจ้าสอนให้มีการบรกรรมหรือเปล่า ถ้าไม่มีเแล้วการบริกรรมจะพาเราถึงจุดหมายได้จริงหรือเปล่า หรือจะไปหยุดอยู่ที่สมาธิเพียงอย่างเดียว แล้วก็นึกว่าบรรลุธรรมขั้นสูงสุด ถามเป็นความรู้เพราะบางสถานทีบอกว่าไม่ต้องบริกรรมใดๆทั้งนั้นให้อยู่กับความจริง ถ้าอยู่กับความจริงก็จะได้พบความจริง ถ้าอยู่กัสมมุติก็จะได้ความจริงแบบสมมุติคือสมาธิขั้นฌานโลกีย์ ข้อผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
     
  2. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    การบริกรรม คือ อุบายในการทำความสงบของใจ

    แต่พอสงบแล้วหากไม่น้อมพิจารณาลงสู่ไตรลักษณ์ ก็ได้แต่สมถะ ไม่เป็นวิปัสสนา

    เคยได้ยินคำนี้หรือป่าว พระสาวกท่านหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระศาสดาให้บริกรรมด้วยคาถานี้
    จากนั้นท่านได้พิจารณาความไม่เที่ยง น้อมมาสู่ภายใน เห็นโทษ ละความสิ้นไปแห่งธุลี
    จนได้สำเร็จพระอรหันต์ เป็นเอตทัคคะ ถึงพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาญาณ

    "รโชหรณัง รโชหรณัง"​

    มีปรากฏอยู่ในอรรถกถา

    สมัยนี้ ก็มีตัวอย่าง บริกรรมคำว่าพุทโธ เช่น หลวงปู่มั่น หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่เจี๋ยะ หลวงตามหาบัว และหลวงพ่อพุธ ฯลฯ

    ท่านก็ใช้อุบายทำความสงบ ด้วยการบริกรรมภาวนา ยกขึ้นสู่นิมิต แล้วพิจารณา

    http://palungjit.org/threads/บริกรรมภาวนา-และ-การตามกำหนดรู้-หลวงพ่อพุธ.217812/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 กันยายน 2012
  3. mailgolf

    mailgolf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +306
    จะพระสูตร ไหนก็ไม่มี พระธรรมของพุทธองค์ประเสริญที่สุด
     
  4. Enjjoy

    Enjjoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +184
    ...ในพุทธวจนไม่มีครับมีแต่..อานาปานสติ..ในอานาปานสติที่พระพุทธเจ้าสอนก็ไม่มีหายใจเข้าพุท-หายใจออกโธหรือคำบริกรรมอะไรทั้งนั้น แค่ให้รู้ชัดว่าเราหายใจเข้า-หายใจออกเฉยๆ
    ...ในพุทธวจนก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องกสิน แต่ในพระไตรปิฎกมีบันทึกเอาไว้คาดว่าน่าจะเป็นวิธีที่สาวกเอาไปประยุกต์ใช้รวมถึงการบริกรรม
    ...ทั้งหมดเข้าถึงสมาธิได้ทั้งสิ้น เอาแค่ระงับกายสังขารก่อนอันดับแรกทำได้แล้วค่อยมองหาวิธีไปต่อ
     
  5. Ongsathit

    Ongsathit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +572
    -คำบริกรรมคือ อุบาย ทำให้เกิด สติ จนตั้งมั้น พระพุทธเจ้า ทรงมีอุบายสอนสาวกแต่ละองค์แตกต่างกันไป
     
  6. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    เหมือนว่ามีก๋วยเตี๋ยวอยู่ถ้วยหนึ่งรสชาติอย่างนี้แล้วก็ก็มาปรุงกันเพิ่มรสก๋วยเี๋ตี๋ยวก็เป็นอีกรสหนึ่ง แล้วก็ปรุงกันไปเรื่อยๆ แต่ก็กินได้ แต่รสชาติเก่าๆก็ไม่เหลือแล้วน่าจะเป็นอย่างนี้ละเนาะ
     
  7. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    อันดับแรกเอาแค่ระงับวจีสังขารให้ได้ก่อน

    ลำดับต่อไปค่อยมองหาวิธีระงับกายสังขาร

    ขอบคุณครับ
     
  8. 12345*

    12345* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +332
    อนุสสติกรรมฐาน ๑๐
    อนุสสติ แปลว่า ตามระลึกถึง เมื่อเลือกปฏิบัติให้พอเหมาะแก่จริต จะได้ผลเป็นสมาธิมีอารมณ์ ตั้งมั่นได้รวดเร็ว

    ๒๑. พุทธานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
    ๒๒. ธัมมานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระธรรมเป็นอารมณ์
    ๒๓. สังฆานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
    ๒๔. สีลานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณศีลเป็นอารมณ์
    ๒๕. จาคานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงผลของการบริจาคเป็นอารมณ์
    ๒๖. เทวตานุสสติเป็นกรรมฐาน ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
    ๒๗. มรณานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์
    ๒๘. กายคตานุสสติกรรมฐาน เหมาะแก่ผู้ที่หนักไปในจาคะจริต
    ๒๙. อานาปานานุสสติกรรมฐาน เหมาะแก่ผู้ที่หนักไปในโมหะ และวิตกจริต
    ๓๐. อุปสมานุสสติกรรมฐาน ระลึกความสุขในพระนิพพานเป็นอารมณ์
     
  9. ทศมาร

    ทศมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +237
    อยู่กับคำบริกรรมก็มีตามที่ปรากฎข้างบน แต่เคยได้ยินว่า รโชหรณัง รชังหรติ
    ก็เป็นอุบายอย่างหนึ่งให้ทำความสงบจากคำบริกรรมแล้วเห็นไตรลักษณ์ เรื่องการภาวนาอยู่ในขั้นตอนของการก่อภพเกือบทั้งนั้น แต่เป็นภพที่ดีที่เอื้อให้เกิดปัญญา
     
  10. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    คำภาวนา ใช้แค่ในสมาธิระดับที่ยังไม่ลึกเท่านั้นครับ

    การทำสมาธิ คือการตั้งกำลัง เอาสติไปคอยเช็คอยู่เป็นระยะๆ ให้จิตที่เกิดดับถี่มากๆ ไม่ไปรับสภาวะอื่นๆ มาจับอยู่แค่สภาวะขององค์ภาวนา พอจิตมันมาจับเข้าที่องค์ภาวนา มากๆๆ เข้า
    จึงเกิดการละสภาวะของร่างกาย เพราะไม่มีจิตไปรับรู้สภาวะ นั่นคือสาเหตุของการที่ความรู้สึกทางร่างกายดับลงไป จิตจับอยู่แต่องค์ภาวนา
    แม้องค์ภาวนาเอง เมื่อตอนแรก กำหนดเป็นบัญญัติ เป็นคำพูด พอสมาธิลงลึก ก็เปลี่ยนไปเป็นการจับสภาวะ จับอารมณ์แทน นั่นคือช่วงต่อที่คำภาวนาหายไป

    ดังนั้นแล้ว จะภาวนาแบบไหนก็ได้

    หรือจะไม่ภาวนาเลย ตามรู้อย่างเดียวเลยก็ได้

    หรือถ้าฝึกจนชำนาญแล้ว กำหนดความว่างขึ้นมาเป็นองค์ภาวนา แล้วจับความว่างเข้าสมาธิไปเลย โดยไม่ต้องมีคำบริกรรม หรือดูลมหายใจก็ได้ครับ
     
  11. วิหคอิสระ

    วิหคอิสระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +1,318
    เราอยากทราบว่าคำสอนของพระพุทธเจ้ากับคำสอนในศาสนาพุทธมันต่างกันตรงไหน:cool:
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    -vglib,8iy[86I;jk,kpy'w,js,f

    :cool:({) ขอเสริมครับคุณว่ามายังไม่หมดครับ กรรมฐานหัวข้อใหญ่ๆมีทั้งหมด ๔๐ กอง มหาสติปัฏฐาน อีก ๑ แต่แตกปีกย่อยไปอีกมากมายยิ่งนัก คำสอนขององค์สมเด็จมีทั้งหมด ๘๔,๐๐๐ พันพระธรรมขันธ์ หรือข้อนั่นเอง พระพุทธเจ้าท่านสอนละเอียดไว้หมดแล้ว แต่เราไม่ได้ศึกษากันเองต่างหาก แค่พุทธโธ ก็แตกปีกย่อยไปอีกเยอะครับ ทุกกองแหละ สมัยพระพุทธองค์ ๆ ท่านรู้แจ้งโลก ถ้าเธอมีศรัทธา แล้ว ถ้าไม่ทำความปราถนาอย่างอื่น เมื่อท่านเทศก็จะสำเร็จมรรคผล ที่มีบารมีน้อย ก็สอนให้อยู่ ในไตย สรนาคม เมื่อสอนหลายครั้ง ก็สำเร็จมรรคผล พระพุทธเจ้าท่านรู้ ว่าบุคคลนี้

    จะใช้ธรรมมะข้อไหนเพื่อแสดงธรรม แก่เธอให้เธอได้สำเร็จ มรรคผล ได้ดวงตาเห็นธรรม ตอนเช้ามืดพระพุทธองค์ จะตรวจดูสัตว์ ว่าผู้ใดจะได้มรรคผล ถ้าผู้ใดตกอยู่ในข่ายพระญาณของพระองค์ๆก็จะเสด็จไปโปรดและแสดงธรรม บุคคลนั้นๆชื่อนั้นๆ และสถานที่นั้นๆ ไม่ว่าไกลหรือไกล้ ถ้าไกล ท่านจะเหาะไปโดยลำพัง ถ้าไกล้ บางทีก็ไปพระองค์เดียว บางครั้ง พระสาวก เสด็จตาม อย่างน้อย ๕๐๐ พระองค์ บางที่ก็ไปกับพระอานนท์ แค่นี้แหละครับ พูดกันเป็นวันก็ไม่จบง่ายหรอกครับ:cool:

     
  13. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ในสมัยครั้งพระพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ไม่มีการสอนให้บริกรรมขอรับ อ่านแล้วอย่าคิดค้านว่า ข้าพเจ้ารู้ได้อย่างไรนะขอรับ ถ้าท่านที่เคยติดตามอ่านกระทู้หรือคำตอบของข้าพเจ้าคงจะทราบกันอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงคำบอกเล่าของข้าพเจ้า

    การบริกรรม ขณะปฏิบัติสมาธิ ไม่ใช่เป็นการปฏิบัติสมาธิที่ถูกต้อง และเป็นคนละอย่างกับ หลัก อนุสติ

    ข้าพเจ้าเอง ก็เพิ่งจะรู้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง นั่นก็เพราะข้าพเจ้าได้ฝึกปฏิบัติสมาธิตามที่ครูอาจารย์ได้สอนให้ และทดลองปฏิบัติตามที่ได้ยินได้ฟัง ได้เห็น ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง แต่ไม่เป็นผล ไม่สามารถทำให้เกิดสมาธิ อย่างแท้จริงได้ เอาเท่านี้นะขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กันยายน 2012
  14. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ถ้าเจริญสติ จนเห็นจิตแล้ว จะเข้าใจได้เอง ว่าทำไมการปฏิบัติตามครูบาอาจารย์สอน ถึงทำให้เข้าสมาธิได้ และจะสามารถค้นหา ปรับเปลี่ยน หาทางเข้าสมาธิได้เอง ทำจนชินเป็นวสี ทำให้สามารถเข้าฌานได้อย่างรวดเร็ว (เช่น ถึงฌาน 7 ในเวลาไม่ถึง 3 วินาที... แต่ท่านที่ทำได้ที่ว่านี่ไม่ใช่ผมนะ) และจะเข้าใจได้เอง ว่า หลักการสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่ หลวงพ่อ หลวงตา ทั้งหลายนั้น พาไปสู่ที่หมายได้จริง

    หากไม่เห็นจิต ก็ได้แต่ฟังตามๆ เขาไปเรื่อยๆ นะครับ ต้องปฏิบัติให้รู้ด้วยตัวเอง
     
  15. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    มีหลายอาจารย์จริงๆ บางท่านก็บอกให้บริกรรมบางท่านก็บอกไม่ต้องบริกรรม อันไหนแน่นะ ส่วนผมก็อยู่แต่เวทนาวางอุเบกขาอย่างเดียว
     
  16. Ndantchor

    Ndantchor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +1,123
    ทำไมไม่ระลึกย้อนกลับไปล่ะว่า ก่อนการตั้งกระทู้ ต้องการเพื่อประโยชน์ใด

    เพื่อแลกเปลี่ยนทัสนะความเห็น หรือเพื่อต้องการจะดูความเห็นของแต่ละคน

    ว่ารู้ไม่สู้เราหรือป่าว
     
  17. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    กำลังหาข้อมูลอยู่ใครมีอะไรดีแนะนำดีๆก็แสดงความเห็นได้นะครับ เพื่อเป็นแนวทางการตัดสินใจ ตอนนี้อยู่ตรงนี้ก่อนเจ็บก็รู้ว่าเจ็บ
     
  18. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    แล้วทำอย่างไรสมาธิที่แท้จริงครับช่วยชี้แนะหน่อยครับ
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    เท่าที่สังเกตุได้ มีการสอนพระจูฬปันถก

    พระพุทธเจ้าให้ บริกรรมพร้อมกับลูบผ้าขาว


    บทบริกรรมคือ

    "ระโชหะระณัง ระชังหะระติ"
    ลองหาคำแปลเป็นภาษาไทยดูนะ
    หรือจะลองใช้บทนี้ภาวนาก็ได้
    นอกจากจะเป็นบท ดึง รวมญาณวิถีในปางก่อนแล้ว
    ยังส่งต่อวิปัสนาได้ด้วย
     
  20. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    มองต่างมุมแล้วกันครับ
    พระอาจารย์มั่น อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ให้บริกรรมครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า จิตกับใจนั้นต่างกันครับการบริกรรมคือการทำให้จิตนั้นมาทำตามคำสั่งของผุ้บริกรรม แล้วจิตก็จะรวมกัน เมื่อจิตรวมเราเรียกว่า ตกภวังค์ ซึ่งภวังค์นั้นมีหลายลักษณะ ขออนุญาติข้ามครับ การเชี่ยวชาญในวสีทั้งห้า เพื่อแสดงอภิญญาต่างๆ ก็ต้องบริกรรมครับ
    การใช้ความรู้สึกทางกายดูเวทนานั้นเป้นการใช้สัมผัสนั้นโดยการใช้มโนวิญญานดูตัวของเราเองครับ ยากที่จะเข้าฌานต่างๆนั้นได้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...