เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    (b-smile) [b-wai]

    เรื่องอาหารเจ สงสัยผมก็ต้องเตรียมไปเอง
    เพราะทานเจ ตามเทศกาลทุกปีเหมือนกันครับ
    แต่คงไม่ถึงกับ 1 กระเป๋าสะพายหรอกครับ
    เพราะเป็นคนทานไม่จุ แต่ทานได้บ่อยๆ ครับ
    (555)
     
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    (bb-flower

    เอาแก้วเปล่ามารองรับน้ำใจครับ เดี๋ยวเต็มจะส่งกลับไปให้ 100 เท่าเลย
    เหตุที่เริ่มอ่านเล่มแรกเพราะมีเพื่อนแนะนำ บอกว่าคล้ายๆแนว อาจารย์ปริญญา
    ทำให้สนใจขึ้นมา พอได้ลองอ่านเล่มแรก บอกได้เลยว่าวางไม่ลงครับ เป็นหนังสือที่รักมากที่สุดเล่มหนึ่ง ทำให้ความรู้เดิมขยายขอบเขตออกไปอีกกว้างไกลมาก จนอดนึกถึงผู้เขียนไม่ได้..เป็นเหตุให้ต้องออกติดตามหาที่มาของหนังสือให้ได้ ว่ามีที่มาอย่างไร?..เพราะทิ้งท้ายทำนองว่า ให้รออ่านเล่มสอง ตามอยู่เป็นปีก็ไม่เจอสักที..

    จนน้อง คนขายธูป นี่ล่ะตั้งกระทู้ขึ้นมา เลยทำให้เราตามต่อว่ามีหนังสือออกมาอีกมั๊ย.จนไปเจอ Website คุณพี่นักเขียนเข้าพอดี เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน พอเริ่มอ่านๆไป ก็รู้ว่าที่แท้เป็นรุ่นพี่ศิลปากรนี่เอง..เลยนึกอยากคุยด้วยครับ ที่แท้ก็พี่ๆน้องๆกันนี่เองครับ


    ไหนๆก็ได้พูดคุยกันแล้ว ก็คิดว่าน่าจะเชิญมาคุยแบ่งปันกันในวงกว้างซะเลย..ก็เป็นที่มาแบบนี้ครับ กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นมาด้วยความไม่บังเอิญครับ! นับเป็นโชคดีของพวกเราที่พี่นักเขียนยอมมาคุยด้วย จากพลังดึงดูดที่น่ารัก น่าเอ็นดู ของพวกเรา..หลวมตัวมาคุยที่นี่ก็ออกไปยากซะแล้วครับ..

    เห็นว่าช่วงนี้พี่นักเขียนมีภาระกิจสำคัญเกี่ยวกับหนังสือชุดนี้ อาจเข้ามาตอบช้าหน่อยครับ พวกเราก็คุยกันไปเหมือนเดิมได้เสมอนะครับ..จะหายไปไหนนานๆก็บอกหน่อย เดี๋ยวคิดถึงขึ้นคงมาไปตามถึงบ้านเลย อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2007
  3. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ที่เคยบอกว่าจะเล่าเรื่องภพชาติต่างๆของ พ่อขุนผาเมือง ลองไปติดตามที่นี่ได้ครับ พิจารณาจากปากคำของท่านเป็นกรณีศึกษาครับ จะรู้ว่าต้นตอ+จุดเริ่มต้นของประเทศไทยเริ่มต้นที่ไหน?

    ย้อยรอยประวัติศาสตร์ที่ขาดหาย จากปากคำ"พ่อขุนผาเมือง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ตามไปอ่านมาแล้วครับ ได้ของฝากกลับมาด้วย มาเป็นฝูงเลยครับ


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]
     
  5. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ห้องนี้นับวันยิ่ง อุ่นหนาฝาคั่ง ขึ้นทุกวันแล้วครับ น่ายินดีอย่างยิ่ง

    ขอถามหัวหน้าห้อง ว่า การบ้าน 21 วัน มันคืออะไรกันเหรอ ครับ axzon ไม่รู้เรื่องเลย
     
  6. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    เห็นคุน ชยุต ตั้งคำถามต่างๆ มีข้อสงสัย มากมาย เมื่อก่อนaxzon47 ข้อเคยเป็นแบบนี้ และคลี่คลายได้ด้วย การเรียนรู้จากภายใน ความรู้มันหาได้จากภายใน ลองดู เผื่อดีขึ้น

    บางครั้งการสื่อสารในระบบ ที่เราใช้รหัส เช่น ภาษาทางกายภาพ มันเป็นไปได้ที่จะบิดเบือน จากหลายปัจจัย ทำให้ความรู้ที่เราได้ นั้นบิดเบือนไปจากธรรมชาติ

    การใช้การสื่อสารภายใน(จิตวิญญาญ สู่ จิตวิญญาญ) ช่วยให้เราได้ข้อมูลที่เป็นธรรมชาติมากกว่า ลองใช้ดูน่ะครับ

    ส่วนวิธีการนั้น axzon47 มีความรู้น้อย ลองไปถามพี่ๆคนอื่น ดูน่ะครับ
     
  7. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ช่องนี้เห็นคุณต่างดาวมีด ปรากฎ ตัวบ่อยๆ เลยมีเรี่อง อยากเล่าให้ฝัง เพราตังเองไม่รู้จะไปพูดกับใครดี

    คือว่า มีหลายครั้ง ที่ฝันเห็นมนุดต่างดาวมาหา ในห้องนอน ที่บ้าน บางครั้งก้ฝันปกติ แต่มีหลายครั้งที่รู้สึกคล้ายอาการผีอำ (กายหลับ จิตตื่น)
    และครั้งที่ตื่นเต้น + กลัวคือ ตอนต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ฝันว่า เขามาหาที่ห้องนอน มากันหลายคน แต่เรามองไม่เห็นเขาในฝัน คือรู้สึกได้ว่าเขามาสัมผัสเรา แล้วก้ เอาเครื่องมือ อะไรมไม่รู้มาเจาหัวเรา มีเสียงดังในหัว เหมือน ตอน กรอฟัน เสียวเล็กน้อย แล้วตัวก้หมุนไปมา วันนี้ฝันหลายรอบ และมีครวมรู้สึกว่า เขาเอาบางอย่างมาผ่าที่นี้วนางซ้ายเจ็บแปลบๆ พอตื่นมาต้องรู้สึกได้เลย มีครั้งหนึ่ง เห็นเป็นตัวตุ้กตา มาเกาะที่ท้อง ทำอะไรไม่รู้ แต่เรารู้สึกว่าเสียวๆอยู่ในท้อง บางครั้งก้เห็นเป็นคล้ายๆหุ่นยน ตัวเขียวๆหัว 4เหลี่ยม (หน้าไม่เหลี่ยมน่า)

    คือเมื่อก่อนมาเฉยๆ มาทักทายประมานนั้น แต่ครั้งที่เล่านี่ เหมือนเราถูกทดลองอยู่ เราเลยนอนไม่หลับไปหลายคืนเลย

    ทีเล่ามาเป็นเรื่องจิงที่เกิดกับตัวเอง ไม่กล้าเล่าให้ใครฝังอึดอัดมากๆช่วงที่เราเจอมา
     
  8. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    ไม่มี คำที่ จะอธิบาย ความงามธรรมชาติ ที่ล้ำลึก เกินกว่าคำกล่าวใดๆ
     
  9. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    เอ้า..น้องมายด์ หัวฟูอยู่แถวไหน เค้า ฉลองกันอีกแล้ว มาช้าอีกตามเคย ขอให้ 1000หน้า ใน ไม่ช้า นะ พี่นักเขียน
     
  10. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    เรียนพี่นักเขียน

    ความลุ่มลึกของแต่ละ Display ของแต่ละบุคคล อาจจะหา Digital Meter ยี่ห้อล่าสุดวัดความลุ่มลึกและละเอียดคงไม่อาจจะ วัดได้ไม่หมด เพราะเป็นความงามส่วนลึกของแต่ละบุคคล ฉันท์ใด...ในมือน้องชมภูเขาขณะมีเพียง เครื่องวัดรุ่นนี้เท่านั้น คงไม่อาจจะจำนรรจาได้ทั้งหมด และเชื่อว่าความงดงามของแต่ละบุคคล ที่ นำออกมาหรืออยู่ข้างในนั้น ต้อง ขอให้ Supper มหา A....เลยทีเดียว เขิน อย่างบริสุทธิ์ คะ คงไม่ เหมาะ ที่จะถือไม้เรียว และใหเกรด เอาเป็นว่า ทุกคนตรวจให้ตัวเองก็แล้วกัน.....
    [​IMG]
     
  11. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เรื่องที่คุณชยุตพูด(เขียน)มานั้น ที่เกี่ยวกับพระเจ้า
    โดยส่วนตัวแล้ว หลังจากที่อ่านเรื่องของ Lacerta และก็จารึกของชาวสุเมเรียนที่ว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นผู้สร้างมนุษย์เรามา แล้วเราก็เรียกมนุษย์ต่างดาวกลุ่มนั้นว่าพระเจ้า

    ถ้าจริง นะ

    ผมก็มองว่าคำพระเจ้าที่เราใช้กัน อาจจะหมายถึงสิ่งที่ต่างกันสองสิ่ง โดยใช้คำเดียวกันนี่แหล่ะ
    คือก็จะมีสิ่งที่สร้างสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกกันว่ามนุษย์
    กับสิ่งที่ให้กำเนิดสิ่งต่างๆ รวมทั้งวิญญาณ และก็มนุษย์ต่างดาวที่สร้างมนุษย์ขึ้นมาด้วย

    แต่สองสิ่งนี้ เราดันใช้คำเรียกคำเดียวกันคือพระเจ้า เราก็เลยสับสนว่า แล้วพระเจ้าเป็นยังไงกันแน่ (เหมือนคำว่าแม้ว ที่บ้างครั้งก็หมายถึงชนกลุ่มน้อย หรือบางครั้งก็หมายถึงคนคนหนึ่ง)

    เพราะในเรื่อง Lacerta ไม่ได้พูดถึงพระเจ้าที่สร้างจิตวิญญาณขึ้นมาเลย พูดแต่ถึงมนุษย์ต่างดาวที่สร้างมนุษย์ขึ้นมา

    ส่วนพระเจ้าในศาสนาต่างๆ คือพระเจ้าที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา
    พระเจ้าที่ในบางครั้งเราจะคิดว่า คงจะมีรูปลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง

    แต่จริงๆ แล้วพระเจ้านั้นไม่ได้มีรูปลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่งหรอก ศาสนาอิสลามก็พูดถึงพระเจ้าว่าไม่มีรูปลักษณ์เหมือนกันดังนั้นศาสนาอิสลามถึงไม่มีรูปเคารพ

    เพราะพระเจ้านั้นก็คือทุกๆ สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา รวมทั้งเป็นส่วนนึงในตัวเราด้วย

    ถ้าในนัยที่อาจารย์อนาลัยว่า ก็คือเป็นสิ่งพื้นฐานที่สร้างทุกๆ สิ่งขึ้นมา ถ้าสิ่งพื้นฐานที่ประกอบเป็นสิ่งต่างๆ ที่เป็นกายภาพคืออะตอม คือควากซ์แล้วล่ะก็ สิ่งพื้นฐานที่สร้างทุกๆ สิ่งขึ้นมาที่อาจารย์อนาลัยว่า ก็เป็นสิ่งที่สร้างจิตวิญญาณขึ้นมา สร้างอะตอม สร้างควากซ์ขึ้นมา สิ่งนั้นก็คงจะพออนุโลมเรียกได้ว่าพระเจ้า

    บางครั้งภาษาก็ทำให้เรารู้เรื่อง แต่บางครั้งก็เป็นเหมือนกับดักทำให้เราสับสน ถ้าภาษาที่ใช้ ใช้คำที่ไม่เหมาะสมพอ
     
  12. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    จิตที่ลุ่มลึกของตัวเอง สิ่งที่คิดมาไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือเปล่า

    คิดว่าถ้าอยากจะรู้และเข้าใจอะไรได้หมด ก็ต้องทำตัวเป็นเหมือนมหาสมุทร
    มหาสมุทรใหญ่ได้ ก็เพราะรับแม่น้ำทุกๆ สายเข้ามาไว้
    ตัวเราก็เช่นกัน ถ้าอยากรู้และเข้าใจอะไรกว้างขวาง ก็ต้องรับอะไรมาหลายๆ อย่าง หลายๆ ด้าน แล้วนำมาพิจารณา

    ดังจะเห็นได้ว่า ชอบศึกษาอะไรไปหมด

    (แต่ถ้ารับมามากมันจะโอเวอร์โหลดหรือเปล่านี่สิ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sea.jpg
      sea.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.5 KB
      เปิดดู:
      33
  13. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    โอ๊ะสายตาดีขึ้นเหรอ ตอนนี้สายตาทั้งสั้นทั้งเอียง จะได้ลองดูบ้าง แต่ว่าถ้าจะให้ถอดแว่นด้วย คงทำอะไรไม่ได้ค่อยได้แน่เลย สั้นตั้ง 300 กว่าได้แล้วมั๊ง
     
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ความจริงผมก็ไม่อยากสงสัยหรอกครับ..เหนื่อยเหมือนกันแหละ
    แต่ไม่รู้ไง..ถ้ามันไม่เคลียร์อะไรแล้ว มันก็จะจดจ่อ วกวน
    คิดแต่จะหาคำตอบของคำถามนั้นๆอยู่นั่นแหละ..

    ไม่ใช่เพิ่งเป็นนน...
    เป็นมานานแล้ววว..

    สำหรับประเด็นเหล่านี้ ที่ผมได้ถามไปแล้ว
    ผมคงไม่ถามอีกแล้วหละครับ..
    ไม่ใช่เพราะเคลียร์แล้วหรอกนะครับ..

    แต่เพราะไม่มีใครกล้าฟันธงให้ผมว่า

    "พระพุทธเจ้าสอนผิด บางประเด็น"
    หรือ "คำสอนในศาสนาพุทธถูกบิดเบือนไปจากความเป็นจริง"
    อะไรทำนองนี้..เพราะท่านไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งขึ้น

    ซึ่งแน่นอนครับว่า..ผมเองก็เช่นกัน

    ดังนั้น..ก็ถือซะว่าผมมาแลกเปลี่ยนความคิดของผม
    กับทุกๆท่านก็แล้วกันนะครับ..
    อย่างที่พี่นักเขียนกล่าวไว้ว่า..เราต่างก็ยังเป็นนักเรียนอยู่
    เหมือนเรามาเรียนรู้ไปด้วยกัน..เห็นด้วยครับ

    ผมเชื่อว่าหลายๆท่านในกระทู้นี้ และนอกกระทู้นี้
    ที่ได้อ่านงานเขียนของท่านอาจารย์ปริญญา
    และงานเขียนของท่านอาจารย์อนาลัย โดยผ่านพี่นักเขียน
    ตลอดจนถึงผู้ที่อยู่ในวิถีของอนุตรธรรม

    ด้วยความที่ท่านเป็นกลุ่มคนที่ฝรั่งเขาเรียกว่า "นิวเอช"
    ใจท่านก็จะเปิดกว้างต่อธรรมชาติ แห่งความเป็นจริง
    จากทุกๆศาสนา ทุกลัทธิ เพราะท่านเชื่อว่าความจริง
    ย่อมมีหนึ่งเดียว บางท่าน ท่านก็จะยังนับถือพุทธศาสนาอยู่
    แต่ผู้ที่ท่านสักการะบูชาสูงสุด ก็จะเปลี่ยนไป
    เป็น "พระผู้สร้าง" หรือ "พระเจ้า" หรือ "พระแม่องค์ธรรม" แทน

    ในขณะเดียวกัน ท่านก็จะยังให้ความความเคารพศรัทธา
    ต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ด้วย เพราะพระองค์
    คือ "นักพูด" หรือ "พระบุตรที่ขันอาสาลงมาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
    ของพระผู้เป็นเจ้า" หรืออะไรทำนองนั้น

    มันก็ดีไปอีกแบบครับ ที่ท่านจัดการความขัดแย้งของท่านได้

    แต่ผมนี่สิ ยังคับแคบ ยังยึดติด-ยึดมั่น อยู่กับความเชื่อเดิมๆ
    ยังทำใจปฏิเสธ หรือ ลดความเคารพศรัทธาต่อพระพุทธองค์
    และครูบาอาจารย์ของผมไม่ได้ และคงเป็นไปได้ยากมากๆด้วย

    "พุทธังสรณัง คัจฉามิ" สำหรับผม ยังเป็นเช่นนั้นอยู่เสมอครับ

    (b-cry)
     
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ในนัยนี้ผมเห็นด้วย 100%
    ถึงอยากจะบอกอยู่ไงครับ ว่าท่านอาจารย์อนาลัย
    ท่านก็ทำให้ผมกระจ่างแจ้งไปหลายๆเรื่อง
    อย่างชนิดที่ผมหาอ่านที่ไหนแทบจะไม่ได้เลยในโลกใบนี้
    และผมก็เชื่อสิ่งที่ท่านบอกในเรื่องเหล่านั้นอย่างมากด้วย

    แต่ไม่ทั้งหมด เพราะประเด็นไหนที่ทุกศาสนา ทุกความเชื่อ
    กล่าวไว้ตรงกันดีแล้ว หรือมีนัยที่เทียบเคียงกันได้บ้างแล้ว
    หรือแม้แต่ที่ยังไม่มีใครกล่าวเอาไว้เลย..

    ข้อมูลเหล่านั้น ..ไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้ผม..

    แต่ที่เป็นปัญหาสำหรับผม คือประเด็นที่ขัดแย้งครับ

    ..ต้องการคนฟันธง..!!!
    (555)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2007
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    เห็นรูปแล้วคันไม้คันมืออยู่เรื่อยเลย
    ขอโทษด้วยนะครับที่เอามาแต่งเล่น ว่าแต่ภาพสมัยก่อนโทนไปออกสีแดงดีจัง พอแต่งรูปลักษณะนี้เป็นแล้ว รูปต่อๆ ไปก็ง่าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    บางครั้ง บางที ก็มีปัญหาในเรื่องบางเรื่องที่เรื่องนึงพูดอย่างอีกเรื่องพูดอย่างเหมือนกัน แต่บางทีก็กลับกลายเป็นว่าพยายามหาจุดเหมือนโดยมองข้ามความแตกต่างไป บางครั้งก็หาคำตอบคำอธิบายให้กับตัวเอง บางครั้งเรื่องที่รู้ๆ กันเข้ามาก็เหมือนกวนกันจนขุ่น บางครั้งก็ตกตะกอนลงมา บางครั้งบางเรื่องก็เหมือนว่าสักแต่รู้จริงๆ บางครั้งก็อยากจะลองเปลี่ยนความเชื่อเป็นความจริงเหมือนกัน

    บางทีถ้าทำตัวเองให้เข้าถึงองค์ความรู้นั้นได้ ก็คงจะหายสงสัยไปได้เยอะ (ว่าแล้วซักคืน ลองฝันไปหาอาจารย์อนาลัยดีกว่า อิอิ)

    แต่ว่า คืนนี้ชักจะง่วง ก็ชักจะคิดอยากจะนอนซะแล้ว
     
  18. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    อ่า ว่าแต่คุณชยุต รู้สึกว่าคนที่เขียนหนังสือ conversation with god กับคนที่เขียนถึงครายออน รู้สึกว่าจะเป็นคนละคนกันนะ
     
  19. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ตอบคำถามคุณ Vir ข้อ 1

    ขอบคุณสำหรับ comment ที่ทำให้สดชื่นยิ่งกว่าเดิมร้อยเท่าค่ะ
    คุณ vir เข้าใจถูกต้องค่ะที่ว่า เจ้าตัวที่จะกำหนดทิศทางให้เป็นไปได้ตามปรารถนาก็คือ ความคิด ซึ่งพี่นักเขียนของเสริมอีกว่า ความคิดในที่นี้ครอบคลุมถึง อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในขณะหนึ่งๆของเรา ส่วน สติสัมปชัญญะ ก็คือการจดจ่ออันคมชัดของจิตวิญญาณ ที่จดจ่อกับความคิดหรืออารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด-ในขณะนั้นๆ

    คุณ vir กล่าวต่อว่า การกะพริบดับจะเป็นช่วงที่เบี่ยงเบนไปสู่เส้นทางอันเป็นไปได้ที่สอดคล้องกับความดิดของเราจากมิติอื่นมาสู่โลกแห่งความจริงของเรา

    ซึ่งถูกคล้องจองกับที่ท่านอาจารย์อนาลัยอธิบายไว้ พี่นักเขียนกำลังคิดอยู่พอดีว่า ภาพของไฟประดับเพียงแค่ 3 ดวงที่ post ไว้นั้นยังไม่ดีพอที่จะ portray ถึงตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ของเรา วันนี้ได้มาอีกภาพ ดีขึ้นหน่อย แต่ตามจริงแล้วอยากได้ภาพไฟประดับคล้ายที่ประดับต้น Christmas ซึ่งเมื่ออยู่บนต้นไม้แลัวทำให้เห็นการกะพริบที่หลากหลาย ไม่ใช่เป็นเส้นตรง ซึ่งอาจทำให้เข้าใจผิดได้ว่า เราดับและสว่าง สลับกันไป เป็นเส้นตรง ตามเส้นทางแห่งกาลเวลา หากแต่ว่าตามธรรมชาติความเป็นจริงที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึงนั้น การกะพริบดับ-สว่างของตัวตนแทบจะเรียกได้ว่า random คือปราศจากลำดับ และ simultaneous คือเป็นไปอย่างฉับพลัน-พร้อมกันหมด

    ดังที่ท่านกล่าวว่า อดีต-ปัจจบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน ซึ่งเปรียบได้กับดวงไฟทุกดวงที่ปรากฏอยู่เป็นปัจจุบันบนต้น Christmas ดวงใดสว่างอยู่ ก็เป็นดวงที่เกิดจากการจดจ่ออันคมชัดของจิตวิญญาณด้วยสติสัมปชัญญะ ดวงใดดับอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีอยู่ หากแต่เพียงว่ามันยังไม่คมชัด

    ทุกจุดผกผันของความนึิกคิด เราเปลี่ยนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ไปสู่การเป็นบุคคลตัวตนในโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่งๆ บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่ง หรือเป็นดวงไฟที่ดับ ณ จุดหนึ่งๆ ไปสว่างไสว ณ อีกจุดหนึ่ง ซึ่งคล้องจองกับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดในขณะนั้นๆของเรา ซึ่งคล้องจองกับความเชื่อของเราในขณะนั้น

    ขอตอบคำถามคุณ vir ทีละข้อนะคะ
    ๑. การที่เราคิดจิตนาการในเรื่องที่สุดโต่ง หรือหลุดโลกไปเลย อันไม่มีพื้นฐานในการดำเนินไปในปัจจุบันเลย ตรงนี้จะเกิดเส้นทางอันเป็นไปได้ด้วยไหมครับ เช่น ผมเป็นบุคคลธรรมดาอันเป็นอยู่เติบโตในเมืองไทย แต่ผมจินตนาการว่าผมคือ คนหนุ่มลูกชายของอัครมหาเศรษฐี ในมหานครนิวยอร์ค ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลย เส้นทางอันเป็นไปได้ผมไม่ได้เริ่มจากในมหานครนิวยอร์คเลยไม่มีพื้นฐานใดมาสนับสนุนได้เลย แล้วจะมีเส้นทางอันเป็นไปได้นี้ไหมครับ

    ไม่มีความคิดใดๆที่เรียกได้ว่าสุดโต่งสำหรับจิตวิญญาณ เพราะจิตวิญญาณปรารถนาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต ในทิศทางที่มันยังไม่เคยได้ท้าทายมาก่อนเสมอ สำหรับจิตวิญญาณแล้ว จึงไม่มีสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ ความเชื่อของเราเท่านั้นที่เป็นตัวมากำหนดหรือสร้างขีดจำกัดว่า อะไรคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และอะไรคือสิ่งที่เป็นไปได้

    ในที่นี้ ความเป็นไปได้ทั้งหลายยังคงต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องพรางอันได้แก่ช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา และประกอบด้วยคุณลักษณะทางกายภาพที่เป็นไปตามกฏเกณฑ์ทางกายภาพ อันได้แก่ชีวภาพของเรา กล่าวคือ เราไม่อาจพาร่างกายเนื้อหนังก้าวข้ามช่องว่างระยะทางและกาลเวลาไปได้ เช่น เราไม่อาจนึกคิดให้ตัวตนพร้อมด้วยร่างกายเนื้อหน้ง-จากการเป็นคุณ vir ซึ่งกำลังใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทย ก้าวล่วงไปสู่ การเป็นคุณ vir คนเดิม-คนเดียวกันนี้ ไปปรากฏตัวเป็น Mr. VIR ลูกชายของอัครมหาเศรษฐี ใน New York ได้อย่างฉับพลัน เช่นเดียวกัน หากบุคคลหนึ่งๆเกิดมาโดยปราศจากแขน-ขา เขาก็ไม่อาจจะมีแขน-ขางอกขึ้นมาใหม่ได้ในเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นนี้อย่างฉับพลัน

    แต่อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดนี้ ก็สร้างตัวตนของ Mr. VIR ลูกชายของอัครมหาเศรษฐี ใน New York ขึ้นบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่งอย่างแน่นอน ส่วนบุคคลที่ปราศจากแขนขา ก็สามารถสร้างบุคคลตัวตนของเขาซึ่งมีแขน-ขาตามปกติได้บนเส้นทางแห่งความเป็นได้เส้นอื่นๆ

    แม้ว่าจะเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นที่คุณ vir เรียกว่าโลกแห่งความเป็นจริงในปัจจุบ้น กับ เส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่คุณ vir เรียกว่า ความคิดฝันอันสุดโต่ง จะดูเสมือนว่าเป็นไปแปลกแยกไปจากกันโดยสิ่งเชิง เสมือนกับว่าแต่ละตัวตนมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป หรืออยู่ใน Probable Universe ต่างจักรวาล ต่างโลก ต่างมิติกัน

    ตามธรรมชาติแล้วตัวตนที่อยู่ต่างเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ ไม่ได้มีเพียงแค่ 2 ตัวตน แต่เป็นอนันต์ ตามความปรารถนาที่มักสร้างอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดขึ้นอย่างไม่เคยหยุดยั้ง ตัวตนทั้งหมดไม่ได้มีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นเอกเทศจากกัน จิตวิญญาณของทุกตัวตนประสานกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งหมายความว่า ตัวตนของคุณ vir ที่เป็นคนไทย รับแรงบันดาลใจจาก Mr. VIR ลูกชายของอัครมหาเศรษฐี ใน New York มา ทำให้คุณ vir มีความคิด มีจินตนาการมากมายที่ทำให้คุณ vir อยากมี-อยากเป็น-อยากทำ และในขณะเดียวกัน Mr. VIR ลูกชายของอัครมหาเศรษฐี ใน New York ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากคุณ vir คนไทยคนนี้ ทำให้เขามีจินตนาการมากมายที่ทำให้เขาอยากมี-อยากเป็น-อยากทำ

    หากในเส้นทางแห่งตวามเป็นไปไที่คุณ vir เรียกว่าชาติภพนี้ ตัวคุณ vir เองและคุณพ่อของคุณ vir มีความฝันร่วมกันคือ คุณพ่อใฝ่ฝันจะไปดำเนินชีวิตเป็นมหาเศรษฐีอยู่ใน New York ความเป็นไปได้สำหรับชาติภพนี้ก็เกิดขึ้น แต่มันจะเป็นความเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อทั้งคุณ vir และคุณพ่อ ร่วมกันสานฟัน คือทำทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างเสริมความเป็นไปได้ และที่สำคัญที่สุดและต้องเกิดก่อนที่จะความเป็นจริงจะมาถึงคือ การจินตนาการเห็นความเป็นไปได้ การมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ผลักดันให้ใช้ความเพียรพยายามทุกวิถีทาง และการมีความมุ่งมั่นศรัทธาโดยไม่คิดในแง่ลบว่าเป็นไปไม่ได้ ความเป็นไปได้นี้ก็สามารถกลายมาเป็นความเป็นจริงได้

    อีกความเป็นไปได้หนึ่งคือ หาก คุณ vir มีความใฝ่ฝันนี้อย่างไม่เสื่อมคลาย จดจ่อกับมันจนตนเองมีครอบครัว-มีบุตร ก็ยังไม่เลิกฝัน และมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่ผลักดันให้ใช้ความเพียรพยายามทุกวิถีทาง และการมีความมุ่งมั่นศรัทธาโดยไม่คิดในแง่ลบว่าเป็นไปไม่ได้ ความเป็นไปได้นี้ก็สามารถกลายมาเป็นความเป็นจริงได้ แต่แทนที่ตัวคุณ vir เองจะได้เป็นลุูกชายของเศรษฐีใน New York ลูกชายของคุณ vir กลับกลายเป็นลุูกชายของเศรษฐีใน New York

    คุณพ่อของคุณ vir - ตัวคุณ vir เอง - ลูกชายหรือลูกสาวของคุุณ vir เป็นได้ทั้ง จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติ และ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ ของกันและกัน ซึ่งเมื่อมีความใฝ่ฝันอย่างแรงกล้าร่วมกัน ก็ย่อมทำให้เกิดพลัง และทำให้ความเป็นไปได้นั้นๆมาสู่ความเป็นจริงได้

    ความปรารถนาอย่างแรงกล้า +เจตนา + ความมุ่งมั่น (ในทิศทางเดียวกันของบุคคลหลายคน) เมื่อผนึกกำลังกันแล้ว ทำให้ความเป็นได้มีพลังผนวก ดังตัวอย่างในประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าตากทรงรับสั่งให้กองทัพทุบหม้อข้าว เพื่อจะตีเมืองให้แตก หากตีเมืองไม่สำเร็จทั้งกองทัพจะต้องอดอาหาร การผนึกกำลังทำให้ความเป็นไปได้มีความเป็นไปได้สูงขึ้นเสมอ

    ชีวิตคู่ก็ดี ครอบครัวก็ดี ซึ่งประสพความสำเร็จและมีชีวิตที่เป็นไปตามปรารถนา มักเป็นชีวิตคู่หรือครอบครัวที่มีความฝันร่วมกัน หากสามีฝันไปทาง ภรรยาฝันไปทาง ลูกฝันไปอีกทาง และหากความฝันนั้นตรงกันข้ามด้วยแล้ว ความเป็นไปได้ก็ย่อมอ่อนกำลัง เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมักทำให้แต่ละคนไม่อาจมีความมุ่งมั่นได้อย่างเต็มร้อย ความปรารถนาและเจตนาก็พลอยสั่นคลอนไปด้วย

    ไม่ว่าเราจะมีึความใฝ่ฝันใด มันก่อเกิดเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ขึ้นเสมอ แต่ความเป็นไปได้นั้นจะต้องคล้องจองกับกฏเกณฑ์ของโลกทางกายภาพ ซึ่งหมายความว่า เมื่อความใฝ่ฝันแล้ว เราจะต้องสรัางปัจจัยที่สนับสนุนให้ความเป็นไปได้นั้นบรรลุผลสำเร็จ มันจึงจะมาสู่ความเป็นจริงได้


    ในชั่วชีวิตของเรา เราจะพบบุคคลที่ living our dreams หรือ living our nightmares ไม่มากก็น้อย แต่เราก็มักจะไม่ได้ตระหนักว่า พวกเขาคือบุคคลตัวตนที่เกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเรา เขาคือ จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน ที่เกิดจากความเชื่อและอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเราในขณะจิตหนึ่งๆ และเราเองก็คือจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบัน ที่เกิดจากความเชื่อและอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของเขาในขณะจิตหนึ่งๆ ท่านอาจารย์อนาลัยจึงกล่าวว่า เราทั้งหลายสร้างโลกแห่งความเป็นจริง จากความเชื่อของตนเอง

    คำกล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพียงปรัชญา หากแต่เป็นไปตามธรรมชาติของจิตวิญญาณที่ท่านกล่าวเสมอๆว่า มีพลังอำนาจตามธรรมชาติที่จะแปลงอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดให้กลายเป็นวัตถุธาตุ เหตุการณ์ ตลอดจนบุคคลตัวตนอื่นๆ และร่างกายของเราเอง และจิตวิญญาณเป็นระบบเครือข่าย อันเป็นหนึ่งเดียว(rose)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2007
  20. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    ตอบคำถามคุณ Vir ข้อ 2

    นอกจากจะเป็นความคิดที่ไม่นอกลู่นอกทางเกินไปแล้ว
    ยังเป็นความคิดแตกฉานด้วยปัญญาอย่างแท้จริง


    หากเราพิจารณาบุคคลที่เกิดมาพร้อมด้วยความสามารถและความเป็นไปในชีวิตที่เหนือชั้น เกิดมาแล้วได้มี-ได้เป็น-ได้ทำมากมาย เรามักจะพบว่า บุคคลเหล่านี้มักมีอายุสั้น ตัวอย่างที่พี่นักเขียนพอจะนึกได้ เช่น Princess Diana, John Kennedy Jr. เป็นต้น

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวถึงบุคคลเหล่านี้ไว้ว่า พวกเขาเป็นจิตวิญญาณที่มาแสวงหาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และเมื่อได้แล้วก็รีบไป เพื่อไปถือกำเนิดในทิศทางอื่นๆ มุมมองอื่นๆ ตัวตนอื่นๆ ด้วยความท้าทายอื่นๆต่อไปอีก เรียกได้ว่า เมื่อมาเกิดเป็นบุคคลตัวตนหนึ่งๆและเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ชีวิตได้แล้ว ก็รีบไป เพื่อจะเติมเต็มช่องว่างอื่นๆต่อไป

    แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เราทุกคนจะมีความปรารถนาที่จะรีบมา-รีบไป เช่นจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นบุคคลที่เร่งเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์เหล่านั้น แต่ที่พี่นักเขียนยกตัวอย่างที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึง เพียงเพื่อให้พวกเรามองเห็นได้ว่า เป้าหมายของจิตจิตวิญญาณคือ การมาแสวงหาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต เพื่อการเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้ ซึ่งจะเป็นไปในหลายชาติภพอย่างเป็นอนันต์ หากการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตในแต่ละชาติภพ เป็นไปได้มากในชาติภพหนึ่ง การเติมเต็มก็ย่อมบรรลุผลสำเร็จได้เร็วอย่างแน่นอนที่สุด

    การเร่งรู้-เร่งเรียน-ย่อมเป็นสิ่งที่เป็นไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า ท่านมาตามสัญญา มาตามคำเรียกร้องของเรา เพื่อมาบอกให้เรารู้ถึงความเป็นไปได้ว่า เราจะเร่งรู้-เร่งเรียนได้ด้วยการใช้ความสามารถของเราในทุกทิศทางอย่างดีที่สุดได้อย่างไร ด้วยการมีอิสระแห่งความปรารถนา ที่จะได้มี-ได้เป็น-ได้ทำ เพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต-ตามความปรารถในชาติภพนี้

    ในที่นี้คำว่า รีบมา-รีบไป และคำว่าหลายแสนกัป ปราศจากความหมาย เพราะตามธรรมชาติความเป็นจริงนั้น อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมด ซึ่งหมายความว่าการไปถือกำเนิดในแต่ละชาติภพ เพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ กำลังเป็นไปอยู่ในปัจจุบัน พร้อมกันหมด

    มันเป็นการยากที่เราจะเข้าใจธรรมชาติความเป็นจริงในข้อนี้ได้อย่างชัดแจ้ง เพราะเราใช้ชีิวิตอยู่ภายใต้เครื่องพรางของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา เราไม่อาจตัดความคิดเกี่ยวกับกาลเวลาออกไปได้โดยสิ้นเชิง แม้เราจะพอรับได้ว่า หากทุกชีวิตชาติภพเป็นไปพร้อมกันหมดในปัจจุบ้น เราก็มักจะหันมาติดกับ-กับความคิดที่ว่า หากมันเป็นไปพร้อมกันหมดแล้ว ที่ว่าเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใหม่ๆเกิดขึ้น หรือผุดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง-บนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นใหม่ทุกขณะจิต-จะมาจากไหนล่ะ?

    แม้ว่าท่านอาจารย์อนาลัยจะอธิบายสิ่งเหล่านี้ให้เราฟังในทิศทางใด ท่านก็กล่าวว่า ท่านจำเป็นต้องอธิบายราวกับว่า สิ่งต่างๆเกิดขึ้นตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จัก เช่นกล่าวว่า หลังจากที่เธอดำเนินชีวิตในวงจรของชาติภพจนบริบูรณ์แล้ว เธอจะดำเนินชีวิตในวงจรนอกเหนือชาติภพต่อไป คำกล่าวนี้ก็เป็นไปตามเส้นทางแห่งกาลเวลา เพียงเพื่อให้เรารับและพอจะย่อยหรือ digest ข้อมูลได้เท่านั้น

    ท่านอาจารย์อนาลัยมักกล่าวเสมอๆว่า เรากำลังเผชิญกับความแตกต่างของเธอกับฉัน ความแตกต่างที่ท่านว่าคือ ภาวะอันอยู่นอกเหนือเครื่องพรางของท่าน และภาะวอันอยู่ภายใต้เครืองพรางของเรา ซึ่งทำให้เรายังไม่อาจรู้และเข้าใจในธรรมชาติความเป็นจริงได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

    ตามธรรมชาติความเป็นจริงที่ท่านกล่าวว่า อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปพร้อมกันหมด เราจะเห็นภาพรวมของจิตวิญญาณรวมได้ว่า ทุกชาติภพ ทุกตัวตน ทุกวงจรชีวิต กำลังดำเนินไปพร้อมกันหมด และแตกแขนงเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ออกไปเพื่อการเติมเต็มพร้อมๆกันไป

    ในขณะนี้-ตัวตนส่วนหนึ่งของเราทุกคน กำลังอยู่ในวงจรของชาติภพที่ครอบคลุมอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต-มากมายเป็นอนันต์-ในปัจจุบันนี้
    ในขณะนี้-ตัวตนส่วนหนึ่งของเราทุกคน กำลังอยู่ในวงจรนอกเหนือชาติภพที่ครอบคลุมอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต-มากมายเป็นอนันต์-ในปัจจุบันนี้
    ในขณะนี้-ตัวตนส่วนหนึ่งของเราทุกคน กำลังอยู่ในภาวะของจิตวิญญาณที่ครอบคลุมพัฒนาการ-ในการเปลี่ยนความเชื่อเป็นความรู้-มากมายเป็นอนันต์-ทุกระดับพัฒนาการ-ในปัจจุบันนี้
    (rose)(rose)
     

แชร์หน้านี้

Loading...