เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    อ่านข้อความคุณชมภูเขานี่ เหมือนอ่านบทกวีเลยนะครับ
    มีความสามารถ + บุคลิกพิเศษ ซ่อนอยู่ตัวตนนี้มากมายทีเดียวครับ
    เหมือนที่พี่นักเขียนชวนไปดูจังหวะแสงไปกระพริบ light show ชุดนั้น ดูเพลินมากครับ:-

    ชีวิตของตัวตนทุกตัวตนรวมกันบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อันหลากหลายเป็นอนันต์ หรือหลาายชาติภพ รวมกันเป็นตัวตนรวม ภาพรวมทั้งหมดของการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต จึงเปรียบเสมือนดนตรีที่สมบูรณ์ เมื่อมันบรรเลงเพลงแห่งชีวิตทุกรูปแบบที่เติมเติมช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตจนเต็มเปี่ยมแล้ว ดนตรีนี้ก็จบลง สิ่งที่จะดำเนินต่อไปในวงจรนอกเหนือชาติภพคือ คุณภาพอันเป็นอมตะ ที่ปรากฏในบุคลิกภาพอันลุ่มลึกของจิตวิญญาณซึ่งไม่มีวันสูญสลาย (rose)


    (verygood)(verygood)(verygood)
     
  2. piakgear24

    piakgear24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    2,696
    ค่าพลัง:
    +44,505
    ฝึกสมาธิด้วยการเล่นดนตรี
    เป็นการฝึกส่วนตัว โดยใช้วิธีการคล้ายกันกับการวาดภาพ คือตนเองเรียนเปียโนมาด้วยการหัดอ่านโน๊ต-แล้วเล่นตามโน๊ตที่มองเห็น ซึ่งอ่านผิด-ก็เล่นผิด เมื่อมาฝึกวาดภาพด้วยสมองซึกขวาและวาดภาพเหมือนได้ดีขึ้นมาก จึงมีความคิดว่าน่าจะนำวิธีการเดียวกันมาใช้กับการเล่นดนตรีด้วย คือ เล่นด้วยหู แทนที่จะเล่นด้วยตาและนิ้วมือ แทนที่จะอ่านโน๊ต-ก็ใช้เปิดแผ่น CD ฟัง pro เล่นจนขึ้นใจ แล้วมาเปิดโน๊ตดูพอเป็น guideline จากนั้นก็เล่นตามไปตามความรู้สึก ได้ผลมากค่ะ ทำให้้เล่นเพลงที่โน๊ตยากๆได้เร็วโดยไม่ต้องเปิดโน็ต
    ตามไปฟัง piano ที่พี่นักเขียนเล่นได้ที่


    อันนี้นักดนตรีส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วครับ หากเล่นบ่อยมือจะหาโน๊ตเจอเองแบบไม่ต้องคิด แบบนี้สมาธิแบบนี้ จะมีประโยชน์ด้านใดบ้างครับ นอกจากเล่นดนตรีได้คล่อง

    ผมเองก็เป็นนักดนตรีคนหนึ่ง เล่นได้หลายอย่างอยู่แบบไม่ต้องดูโน๊ต
    เลยขอเรียนถามท่านผู้รู้ว่ามีประโยชน์ อย่างอื่นไหมนอกจาเอาไว้เล่นดนตรี
     
  3. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    นั่นนะสิ ตูบ ไปตามเถอะ พวกเรา คงขาด มายด์ไม่ได้ ..อารายจะขนาดนั้น
     
  4. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เป้าหมายของกระทู้

    (f) ขอต้อนรับทุกท่านสู่ห้องวิทย์ฯค่ะ (f)

    ผู้ที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย
    ขอเชิญชวนให้ไปสำรวจข้อมูลและอ่านหนังสือบทที่ 1 ของทุกเล่มได้ที่
    http://www.novaanalai.com/novaanalai/Index.html
    หรือฟัง Audio Book บทที่ 1-5 ของเล่มที่หนึ่ง โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพได้ที่
    http://www.novaanalai.com/novaanalai/Podcast/Archive.html


    ก่อนอื่น พี่นักเขียนขอชี้แจงผู้ที่ผ่านมาอ่าน และผู้ที่ได้ Log-in เข้ามาเป็นสมาชิกห้องวิทย์ฯแห่งนี้ว่า
    กระทู้นี้ เป็นสถานที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างท่านผู้อ่าน กับ พี่นักเขียน
    ซึ่งมาสนทนากับผู้อ่าน ตามคำเชิญชวนของคุณ Mead หัวหน้าและผู้ก่อตั้งห้องวิทย์ฯ
    ตามหัวข้อที่คุณ Mead ได้ตั้งชื่อกระทู้นี้ไว้ค่ะ


    พี่นักเขียนคือผู้ทำหน้าที่ล่ามและเลขาให้กับท่านอาจารย์อนาลัย
    ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ที่ปราศจากร่างกายตัวตน
    ซึ่งมาเข้าฝันและถ่ายทอดข้อมูลความรู้มากมายให้
    พี่นักเขียนได้เขียนถ่ายทอดมาเป็นหนังสือชุด 10 เล่มด้วยกัน
    โดยใช้ชื่อเรียกหมวดความรู้ของท่านว่า โนวา อนาลัย
    ซึ่งมีความหมายว่า เส้นทางใหม่สู่การเป็นอิสระจากความปรารถนา

    หนังสือชุดนี้ ไม่ได้อิงศาสนาใด ไม่เกี่ยวกับศาสนา
    แต่เกี่ยวกับการศึกษาธรรมชาติของจิตวิญญาณ ชาติภพ ความฝัน และ สติสัมปชัญญะ
    โดยมีเป้าหมายให้ผู้ที่ศึกษาได้เปลี่ยนความเชื่อส่วนบุคคลเป็นความรู้อันเป็นของกลาง
    ด้วยการรู้จักธรรมชาติที่แท้จริงของตนเอง
    รู้จักพลังอำนาจของอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึิกคิด ในทิศทางที่สร้างสรรค์
    เพื่อเป็นปัญญาและแสงสว่างให้กับชีวิตของตนเองและผู้อื่น

    เมื่อมีผู้อ่านหรือสมาชิกที่ post เข้ามาใหม่ พวกเราชาวห้องวิทย์ฯยินดีต้อนรับเสมอค่ะ
    แต่ก็ต้องขอให้ทำความเข้าใจด้วยสักเล็กน้อยว่า กระทู้นี้มีที่มาอย่างไรและมีวัตถุประสงค์อย่างไร
    เป้าหมายของเราคือการศึกษาข้อมูลความรู้จากหนังสือชุดของท่านอาจารย์อนาลัย
    และนำมาตั้งคำถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กัน
    โดยพี่นักเขียนทำหน้าเป็นสื่อให้ท่านอาจารย์อนาลัยตอบคำถามและขยายความ
    พี่นักเขียนทำหน้าที่นำบทฝึกฝนจากหนังสือมานำเสนอให้พวกเราได้ทดลองฝึกปฏิบัติ-
    ตรวจสอบ และ พิสูจน์ผลลัพธ์กัน

    แม้ว่ากระทู้นี้จะเป็นกระทู้น้องใหม่ เพิ่งดำเนินมาได้เพียงเดือนเศษ
    แต่ว่าเราดำเนินไป 100 + หน้าด้วยเนื้อหาสาระและคำถาม-คำตอบมากมาย
    เกี่ยวกับข้อมูลความรู้ที่พวกเราต่างก็ได้รับจากท่านอาจารย์อนาลัย

    ผู้ที่เข้ามาใหม่และยังไม่เคยติดตามสาระต่างๆที่ปรากฏในกระทู้นี้มาก่อน
    อาจไม่ทราบถึงที่มาของบทสนทนาที่กำลังเป็นไป ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการเข้าใจผิด
    และตอบสนองด้วยข้อความที่นอกเหนือไปจากประเด็นที่เรากำลังสนทนากันเป็นอันมาก

    คุณ Mead หัวหน้าและผู้ก่อตั้งห้องวิทย์ฯ ได้กรุณาทำสารบัญของข้อมูลและสาระต่างๆไว้ในหน้า 1 ของกระทู้
    เพื่อช่วยให้ผู้ที่มาทีหลังสามารถติดตามย้อนอ่านบทความหลักๆที่เป็นประเด็นสำคัญของกระทู้นี้ได้
    ห้องวิทย์ฯแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนห้องเรียนที่มีแต่ญาติมิตรทางจิตวิญญาณ
    ซึ่งมีเป้าหมายร่วมกันคือ สนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

    หากท่านเป็นผู้หนึ่งที่กำลังแสวงหาความรู้ แสวงหาญาติมิตรทางจิตวิญญาณ
    เพื่อการศึกษาข้อมูลความรู้-แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์
    เพื่อความก้าวหน้าของปัญญา

    พวกเราชาวห้องวิทย์ฯ ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  5. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    การฝึกสมาธิด้วยการเล่นดนตรี

    (f) ขอต้อนรับคุณ piakgear สู่ห้องวิทย์ฯค่ะ

    เมื่อพี่นักเขียนกล่าวว่านักดนตรีเล่นดนตรีด้วยหูนั้น พี่นักเขียนไม่ได้หมายถึงการใช้หูฟังทางกายภาพแต่เพียงอย่างเดียว เพราะว่าสาระที่มา post เรื่องการเล่นดนตรี การวาดภาพ การถ่ายภาพ การเต้นรำ ฯลฯ มีที่มาจากบทสนทนาที่เกี่ยวโยงกับการใช้สมองซึกขวาและการฝึกปฏิบัติสมาธิ ที่พวกเราชาวห้องวิทย์ฯกำลังศึกษาร่วมกันอยู่ค่ะ เพื่อพัฒนาประสาทสัมผัสภายในหรือประสาทสัมผัสที่หก ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าเล่นดนตรีด้วยหู วาดภาพด้วยตา มีความหมายที่แท้จริงคือ การเล่นดนตรีด้วยการรับฟัง หรือ การวาดภาพด้วยการรู้เห็นด้วยสมองซึกขวา ซึ่งหมายถึงได้ยินและรู้เห็นด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด

    ซึ่งแท้จริงแล้วคือการเล่นดนตรีหรือวาดภาพด้วยความตื่นตัวของประสาทสัมผัสที่หกหรือประสาทสัมผัสภายใน พี่นักเขียนได้เคย post เรื่องราวเกี่ยวกับอาจารย์สอนเปียโนของพี่นักเขียนว่า ท่านเล่น Etude ของ Chopin โดยนึกคิดขอให้ Chopin มาสอนท่านหรือเรียกได้ว่า นึกคิดให้ตนเองเล่นได้เหมือน Chopin และทำให้ท่านเล่นได้อย่างไม่มีที่ติ ส่วนพี่นักเขียนก็นึกคิดถึง Scott Joplin ขอให้จิตวิญญาณของเขามาสอนให้เราเล่นเพลงยากๆของเขาที่เรายังเล่นไม่ได้ และทำให้เล่นได้จริงๆ ซึ่งจากประสบการณ์ของอาจารย์และตัวพี่นักเขียนเอง พบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นไปได้และเป็นไปแล้ว

    post ล่าสุดนี้พี่นักเขียนอาจจะเขียนห้วนหรือสั้นเกินไป โดยไม่ได้ย้อนอ้างอิงสาระเดิมที่คุยกันมาแล้ว ก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ หากทำให้เข้าใจผิด ห้องวิทย์ฯยินดีต้อนรับศิลปินทุกรูปแบบค่ะ มีนักดนตรีมาเพิ่มอีกหนึ่งท่าน ก็เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งทีเดียว
    เพราะจะได้มีประสบการณ์ของศิลปิน ผู้ใช้สมองซึกขวาอย่างเป็นธรรมชาติมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

    แต่ว่าสิ่งที่เรากำลังสนทนากันนี้ เป็นสาระที่เราอ้างอิงประเด็นต่างๆมาจากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย หากผู้เข้าร่วมสนทนาได้มีโอกาสอ่านหนังสือหรืออ่านสาระจาก website ก็จะทำให้เข้าใจประเด็นที่เรากำลังสนทนาได้ดีขึ้นนะคะ

    เมื่อพี่นักเขียนกล่าวว่า เราทำสิ่งต่างๆเหล่านั้นด้วยสมองซึกขวา สมองซึกขวาเป็นซีกที่รู้เห็น รับและตอบสนองด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเสมอ หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าการรู้เห็น รับและตอบสนองของสมองซึกขวาเป็นไปโดยตรงด้วยจิตวิญญาณ

    ทักษะที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองด้วยการใช้ประสาทสัมผัสที่หก มักเป็นสิ่งที่เราเรียกกันว่าเป็นการกระทำที่มีสมาธิ เมื่อเราเรียกมันว่า การทำสมาธิ หรือ การมีสมาธิ เรามักจะมองเห็นว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องฝึกด้วยการนั่งบนเบาะสมาธิ เมื่อพัฒนาทักษะหรือมีทักษะแล้ว เราจึงจะสามารถนำไปใช้การได้

    เมื่อเราจดจ่อกับการทำงานหรือกิจกรรมใดๆ เรามักเข้าใจกันว่าการมีสมาธิคือ การที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเธออยู่ในภาวะที่ตื่นตัวที่สุด ทำให้เรารู้เห็นได้ด้วยสติสัมปชัญญะอันคมชัด และกระทำการต่างๆได้อย่างแม่นยำ แต่ตามธรรมชาติความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น ภาวะที่เราจดจ่ออย่างความชัดที่สุดนั้น-เป็นไปด้วยประสาทสัมผัสที่หกหรือประสาทสัมผัสภายใน ซึ่งก็คือ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ซึ่งจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กระทำ

    พี่นักเขียนมีนักเรียนผู้หนึ่งซึ่งมาเรียนสมาธิ อาชีพของเธอมีหน้าที่กรอกเอกสารด้วยลายมือหลายร้อยฉบับต่อวัน เธอบอกว่าเหนื่อยมากจนเบื่ออาชีพนี้ แต่เธอก็ไม่มีทักษะและความรู้ด้านอื่นที่จะหันไปทำอาชีพอื่นได้ เธอสับสนกับปัญหาชีวิตอื่นๆ เมื่อมาเรียนสมาธิ เธอก็ไม่อยู่ในสภาพที่จะนั่งลงบนเบาะและทำสมาธินิ่งๆได้ถึง 5 นาที

    พี่นักเขียนแนะนำให้เธอใช้สิ่งที่ทำอยู่แล้วทุกวันคือการเขียน-เป็นวิธีการฝึกสมาธิ โดยกำหนดให้เธอเปลี่ยนวิธีการเขียน จากการเขียนอย่างรีบเร่ง เพื่อจะพยายามไม่ให้งานคั่งค้างในแต่ละวันซึ่งเธอบอกว่าทำไม่สำเร็จ กลายเป็นให้เขียนด้วยลายมือที่บรรจงสวยงามที่สุดที่เธอจะทำได้ ปรากฏว่าเวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ เธอโทรมารายงานผลว่า แม้เอกสารจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว เธอกลับทำงานได้เสร็จตรงเวลา และไม่เหนื่อยอย่างที่เคยเป็น และทำให้เธอรู้สึกมีความสุขกับงานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอบอกว่าเธอภูมิใจในลายมือของตนเอง และไม่เคยนึกว่าตนเองจะเขียนได้สวยเช่นนั้นจนได้รับคำชมอยู่เนืองๆ เธอกล่าวว่าแม้มันจะเป็นเพียงลายมือ แต่มันกลายเป็นผลงานศิลปะที่เธอบรรจงสร้างสรรค์ในแต่ละวัน

    การทำกิจกรรมต่างๆได้ด้วยประสาทสัมผัสที่หก หรือประสาทสัมผัสภายใน ไม่เพียงแต่จะทำให้เราสามารถเรียนรู้และประกอบหน้าที่การงานได้ด้วยทักษะที่คล่องตัวเท่านั้น แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ มันทำให้เราสามารถสัมพันธ์กับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวของเราได้อย่างกลมกลืน ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม เหตุการณ์ต่างๆ หรือ บุคคล

    การสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมจะเป็นไปได้อย่างราบรื่นก็ต่อเมื่อเราจดจ่อกับสิ่งที่เป็นไปในสภาพแวดล้อม แทนที่จะจดจ่อกับตนเอง ในกรณีนี้จะเห็นได้ว่าบุคคลที่สัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมด้วยการรู้จักจดจ่อกับความเป็นไปรอบตัวเขา มักเป็นผู้ที่พ้นภัย และไหวตัวได้เร็วเมื่อเกิดสถานการณ์คับขัน บุคคลที่เกิดความประหม่าเมื่อเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนจำนวนมากหรือต้องพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก ต้องแสดงดนตรี แสดงความสามารถอื่นๆต่อหน้าคนจำนวนมาก เกิดจากการจดจ่อกับตนเอง ซึ่งทำให้ประหม่าจนก่อให้เกิดความผิดพลาด นักดนตรีที่แสดงดนตรีต่อหน้าผู้ชมจำนวนมากได้อย่างหมดจด ไม่ได้จดจ่อกับตนเอง หากแต่จดจ่อกับผู้ฟังและอารมณ์ของบทเพลง ผู้พูดที่พูดต่อหน้าผู้ฟังจำนวนมากได้อย่างดีเลิศ เป็นผู้ที่จดจ่อกับผู้ฟัง จดจ่อกับคำถาม ไม่ใช่จดจ่อกับตนเองหรือคำตอบที่ตนเตรียมมาล่วงหน้า ทำให้ตอบได้ตรงคำถามที่เกิดขึ้นอย่างเป็นปัจจุบันทันด่วน ดังคำกล่าวที่เรามักจะได้ยินเสมอๆว่า การที่จะเป็นนักพูดที่ดีได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากการเป็นผู้ฟังที่ดีก่อน เป็นต้น

    จากตัวอย่างที่พี่นักเขียนยกมา เรื่องที่ให้นักเรียนสมาธิใช้วิธีคัดลายมือเป็นการฝึกสมาธินั้น เราจะเห็นได้ว่าความเป็นไปได้ที่เรามักคิดกันว่า เรานำทักษะที่ได้จากการทำสมาธิไปใช้นั้น หากมองสวนทางกัน เราสามารถฝึกสมาธิได้พร้อมๆกันกับการพัฒนาทักษะในทุกด้าน เรียกได้ว่า เราทุกคนสามารถทำสมาธินอกเบาะได้ทุกเมื่อ ด้วยการฝึกฝนที่จะตอบสนองหรือทำกิจกรรมต่างๆด้วยประสาทสัมผัสภายใน หรือประสาทสัมผัสที่หก เรียกได้ว่า หยิบจับสิ่งใด หากตระหนักได้ว่า เราสามารถสัมพันธ์กับมันได้ด้วยประสาทสัมผัสที่หก เราจะสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างรวดเร็ว และในทางกลับกัน-การกระทำนั้นๆก็ช่วยพัฒนาให้เรามีสมาธิด้วยพร้อมๆกัน

    ในที่นี้หากจะกล่าวว่า ฝึกสมาธิด้วยการเล่นดนตรี หรือจะกล่าวว่า ฝึกดนตรีด้วยการทำสมาธิ ก็ไม่ต่างกัน เรียกได้ว่า Learning by Doing ทั้งสองทิศทาง ซึ่งเราสามารถนำไป apply ได้กับกิจกรรมทุกชนิด เช่น การวาดภาพ การเต้นรำ การเล่นกีฬา การทำอาหาร เช่น หั่น การซอย ด้วยมีดคมๆอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวทั้งหมดไม่ได้เกิดจากการจดจ่อกับการเคลื่อนไหวนิ้วมือ ของเท้า หรือร่างกาย หากแต่เกิดจากการจดจ่อกับวัตถุที่เราต้องการวาดภาพ จดจ่อกับจังหวะของตนตรี จดจ่อกับการเคลื่อนไหวของลูกบอลล์ ตามอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ซึ่งกล่าวได้ว่า เราใช้ประสาทสัมผัสที่หกในการได้ยิน การมองเห็นและเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้เรามีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า

    ข้อมูลและสาระเกี่ยวกับประสาทสัมผัสที่หก หรือประสาทสัมผัสภายในมีปรากฏในหนังสือ ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ ของท่านอาจารย์โนวา อนาลัย (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  6. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    เฉลยการบ้าน ตัวตนบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้

    คุณน้องขจรวรรณ และ น้องนก ทำให้พี่นักเขียนได้จังหวะมาเฉลยการบ้านพอดี

    ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ใน อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น ว่า
    ตัวตนแต่ละตัวตนของเธอในทุกชาติภพ ซึ่งมีบุคลิกภาพอันหลากหลายต่างก็มีเป้าหมายจำเพาะ มีหน้าที่จำเพาะ แต่ละบุคลิกภาพหรือแต่ละตัวตนมีความพยายามในการสร้างสรรค์ อันเป็นพื้นฐานของตนเองซึ่งเป็นตัวกำหนด "คุณภาพอันเป็นอมตะ" และเป็นคุณภาพที่แต่ละบุคลิกภาพหรือแต่ละตัวตนในแต่ละชาติภพแสวงหา ด้วยภาวะของจิตวิญญาณอันเป็นร่างกายเนื้อหนัง-พวกเธอกำลังใช้พลังงานไปในทิศทางที่ทำให้เธอแสวงหาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ของจิตวิญญาณและคุณค่าของชีวิต เพื่อค้นให้พบ "คุณภาพอันเป็นอมตะ"

    เมื่อท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวว่า แม้แต่ร่างกายของเราที่ดูเสมือนว่าทึบตัน ก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ีเดี๋ยวนี้ตลอดวันเวลา มันกะพริบเกิด-ดับ และปรากฏบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นอื่นๆอย่างเป็นอน้นต์ แต่การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดตามธรรมชาติความเป็นจริงก็ก้าวข้ามสติสัมปชัญญะของเราไปโดยสิ้นเชิง เพราะเราเชื่อว่า เราเป็นเรา เป็นบุคคลตัวตนเดียวมาตั้งแต่วินาที่ที่เราถือกำเนิด มาจนวินาทีนี้

    พี่นักเขียนขอให้พวกเราสำรวจตนเองจากภาพถ่ายที่เราเชื่อว่า เป็นเพียงบันทึกการเป็นบุคคลตัวตนของเราตัวตนเดียว ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จักเพียงเส้นเดียว เรารู้สึกสับสนกับบุคลิกภาพมากมายที่ไม่น่าจะเป็นเรา ณ วินาทีนี้ หากบุคลิกภาพเหล่านั้นแตกต่างกันคนละขั้ว เรายิ่งรู้สึกมีความขัดแย้งมากยิ่งขึ้นไปอีกว่า เราคือคนดีหรือคนไม่ดี คนขาวหรือคนดำ คนเก่งหรือคนไม่เก่ง

    สังคมสอนให้เราเปรียบเทียบความแตกต่าง และตัดสินความแตกต่างด้วยคำนิยามที่ต่างขั้วเสมอๆ มีดีต้องมีชั่ว มีขาวต้องมีดำ มีถูกต้องมีผิด คำนิยามอันจำกัดเหล่านี้ทำให้คุณค่าและความหมายอื่นๆที่อยู่ระหว่างและอยู่นอกเหนือคำนิยามสุดขั้วหายสาบสูญไป หากเราเรียกทุกส่ิงทุกอย่างว่า "ความแตกต่าง" โดยไม่ต้องให้คำจำกัดความว่าสิ่งเหล่านั้นคือ ดีหรือชั่ว ขาวหรือดำ ถูกหรือผิด เราจะเรียนรู้ได้อีกว่า ความแตกต่างนั้นมีความเป็นไปที่อยู่ระหว่างปลายสุดขั้วทั้งสองอีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นส่วนที่สนับสนุนและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง การเคลื่อนไหว หรือพัฒนาการซึ่งไม่มีวันสิ้นสุด เพราะปลายสุดแต่ละขั้ว ไม่ใช่ที่สุดของพัฒนาการหรือวิวัฒนาการ

    [​IMG]

    ตามธรรมชาติแล้วสิ่งที่เราเรียกว่าสุดปลายขั้วทั้งสองด้านนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและสนันสนุนซึ่งกันและกัน และจะปราศจากกันและกันไม่ได้ เพราะมันเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ระหว่างและนอกเหนือ ยกตัวอย่างเช่น สีขาว กับ สีดำ เราจะเรียกสีขาวว่าความดี และสีดำว่าความชั่ว และหวังว่าโลกของเราสมควรจะมีเพียงแค่ความดีหรือสีขาว โดยไม่สมควรจะมีสีดำหรือความชั่วอยู่ในโลกนั้น นอกจากจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้ว มันยังเป็นธรรมชาติที่ไม่มีวันเป็นไปเช่่นนั้น เพราะธรรมชาติไม่ได้แบ่งแยกสิ่งต่างๆในทิศทางที่มนุษย์แบ่งแยก หากแต่ธรรมชาติมีความแตกต่างเหล่านี้เพื่อการสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ดังคำกล่าวของเต๋าที่ว่า

    Seeing only pure light and hearing only constant sound serve us no better than being blind or deaf.
    It is the darkness from which we discern the light, the silence from which arise the sounds, that allow us to give those sensory experiences their shape and meaning.


    คำกล่าวนี้ให้ข้อคิดว่า สิ่งที่ดูเสมือนจะตรงกันข้ามนั้น ไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าอีกสิ่งหนึ่ง เพราะสิ่งหนึ่งจะมีความหมายไม่ได้ หากปราศจากอีกสิ่งหนึ่ง วิวัฒนาการที่แท้จริงของจิตวิญญาณไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียว จากดำไปขาว หากแต่เป็นวิวัฒนาการในภาพรวมที่มีความสมดุลย์ในตนเองเสมอ

    การตระหนักในธรรมชาติความเป็นจริงข้อนี้จะทำให้เราชื่นชมในความแตกต่าง แทนที่จะวินิจฉัยมัน เราจะยอมรับความสำคัญของทุกส่วนด้วยความเข้าใจ

    บุคลิกภาพมากมายที่ปรากฏในการเป็นบุคคลตัวตนของเรา เป็นสิ่งที่สนับสนุนการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต ไม่มีบุคคลตัวตนใดที่เป็นจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเพื่อพัฒนาไปสู่ปลายสุดขั้วหนึ่ง เพราะการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ไม่ได้เป็นไปตามเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นเส้นตรง แต่เป็นภาพรวมที่ประสมประสานกันและสนับสนุนเกื้อกูลกัน เช่นเดียวกับการที่ปราศจากความมืด เราก็จะไม่รู้ว่าแสงสว่างคืออะไร และแสงสว่างมีคุณค่าหรือความหมายอย่างไร

    พี่นักเขียนได้นำการบ้านนี้มาเสนอแนะให้พวกเรานำภาพต่างกาลเวลามา post เพื่อให้พวกเราพิจารณาตนเอง ในลักษณะที่คุณน้องขจรวรรณและน้องนกได้พิจารณาและแสดงความรู้สึกออกมานี้ การค้นพบบุคลิกภาพอันหลากหลายของตัวตนที่เราคิดว่าเป็นเพียงตัวตนเดียวของเราทั้งหมด เป็นเงื่อนงำที่ควรจะทำให้เราตระหนักถึงธรรมชาติความเป็นจริงทั้งหมดที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวถึงและพยายามอธิบายให้เราตระหนักได้ถึงความเป็นจริงที่ว่า เมื่อจิตวิญญาณมาแสวงหาการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิต จิตวิญญาณทดลองที่จะมี-จะทำ-จะเป็นมากมายหลายทิศทางที่เป็นไปได้ จากจุดยืนและมุมมองหนึ่งๆ ซึ่งไม่ใช่จุดยืนจุดเดียว มุมมองเดียว ร่างเดียว ตัวตนเดียว ตลอดเวลาที่เราเรียกว่าเป็นหนึ่งชีิวิต หนึ่งชาติภพของเรา จุดยืนและมุมมองของเราเปลี่ยนไปเสมอเมื่อความเชื่อของเราเปลี่ยนไป

    คุณน้องขจรวรรณและน้องนกเผยใจว่ารู้สึกถึงความแตกต่างในบุคลิกภาพของตนเอง และพี่นักเขียนเชื่อว่า พวกเราไม่มากก็น้อยจะมีความคิดคล้ายคลึงกัน แต่เรามักจะมองเห็นสิ่งที่แตกต่างกัน ซึ่งเราวินิจฉัยตนเองและเรียกมันว่าบุคิลกภาพที่อยู่สุดปลายขั้ว ไม่ว่ามาตรวัดของเราจะสั้นยาวต่างกันเพียงไรก็ตาม

    หลายบุคลิกภาพที่เราค้นพบในตัวตนของเรา บางส่วนจะแปลงสภาวะกลายเป็นคุณภาพอันเป็นอมตะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนรวม การเรียนรู้ของเราในแต่ละชาติภพ ก็เพื่อค้นให้พบและมีคุณภาพอันเป็นอมตะ เพราะมันจะเป็นคุณภาพที่คงอยู่กับจิตวิญญาณตลอดไปชั่วกัลปวสาน

    ก่อนหน้านี้พี่นักเขียนได้กล่าวถึง อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของการเป็นบุคคลตัวตน และคุณน้องชมภูเขาก็มาเสนอแนะให้พวกเรานำอารมณ์นี้มา Display กัน พี่นักเขียนยกมือไปแล้ว และขอชวนให้พวกเรานำมา Display กัน โดยพิจารณาตนเอง และอยู่กับความรู้สึกของตนเองสักชั่วครู่ และถามตนเองว่า อะไรคือสิ่งที่จะ Portray หรือแสดงออกซึ่งความเป็นเรา แสดงออกซึ่ง อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของการเป็นบุคคลตัวตน ของเรา

    คุณน้องชมภูเขาว่าจะไม่ตรวจการบ้านเพราะหา Digital Meter ไม่ได้ พี่นักเขียนว่าเรามาช่วยกัน display แล้วกัน มีแต่ A กับ A อยู่แล้วล่ะค่ะ

    จาก อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของการเป็นบุคคลตัวตน ที่เราค้นพบนี้ จะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เราค้นพบคุณภาพอันเป็นอมตะต่อไป (rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    รูปขนาดเล็ก
    [​IMG]

    จะไปตามไหวไหมเนี่ย 555+
    (555) (555) (555)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  8. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]


    นั่นสินะพี่เม้า ดูท่าจะไม่ไหวครับ มันห่วงเล่น
    ส่งไปตามอีก 10 วันจะถึงบ้านน้องมายด์รึป่าวเนี่ย คิดหนักเลย?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  9. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    (bb-flower(bb-flower(bb-flower

    ยินดีต้อนรับครับคุณเปี๊ยก
    เพื่อนๆที่นี่ได้ตั้งสมญานามคุณเปิ๊ยกจากวีรกรรมว่า.. ท่านพยาเห็ด (ข้อมูลการปลูกเห็ดล้นเพราะทานเจ) และตากล้อง 500 ครับ (ไปงานไหนถ่ายรูปไม่ยั้ง) นี่ก็เพิ่งรู้ว่าชอบเล่นดนตรีหลายอย่างด้วย..ความสามารถไม่เบาเลยนะครับ..แวะมาคุยกันนะครับ
     
  10. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ....อนุโมทนานะคะ...ขอมาร่วมศึกษาสนทนาด้วยคนนะคะ..
    ....แต่ว่าเอ่อ...อยากศึกษาจัง..มากกว่านี้จะทำไงเนี่ย...
     
  11. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    รูปที่เคยอัพมันหายไปแล้วอ่ะ เอารูปนี้แทนก็ได้ มีหลายตัวคงช่วยกันวิ่งหามายด์เจอ อ้าว ลุยกันเลยพวก 555
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    วันนี้อ่านแล้วประทับใจประโยคนี้ จดลงสมุดโน๊ตเรียบร้อย
    ผมจะมีสมุดโน๊ตเล่มหนึ่ง ไว้คอยจดประโยค หรือเรื่องราวน่าสนใจเก็บไว้
    วางไว้ใกล้ๆตัว หยิบมาอ่านได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นของอาจารย์ท่านไหน สำนักไหนจดไว้หมดครับ ในสิ่งที่เราเคยสงสัยอยู่หรือแม้แต่อ่านแล้วรู้สึกดีๆกับข้อความนั้น จดไว้กันนะครับ อย่าปล่อยให้ผ่านไป เดี๋ยวกลับมาค้นจะไม่เจอ
    นี่เลยทำให้นึกไปถึงสมเด็จพระเทพฯ ขึ้นมาเลยครับ เห็นท่านเดินไปเรียนรู้สถานที่ต่างๆที่ไหนท่านจะมีสมุดโน๊ตคอยจดตลอด..ชื่นชมท่านมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  13. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765

    ยินดีต้อนรับค่ะ เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ร่วมกัน
    มีอะไรสงสัยถามได้เลย พี่นักเขียนใจดีจะมาตอบให้ค่ะ
     
  14. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    (555)

    หวัดดีครับคุณโมเย..ดีใจจริงๆครับ เราเคยเจอกันที่เชียงใหม่แล้วครั้งนึง จำได้มั๊ยครับ? สนใจศึกษาเรื่องไหนเชิญเข้ามาเลยครับ..เดี๋ยวจะมีคำตอบลอยมา เตรียมรับด้วยนะครับ (มาเป็นลูกบอล อิอิ)
     
  15. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ขออนุญาตินำเพลงที่มีผลต่อความรู้สึกมาแนะนำสักเพลงนะคะ คิดว่าคงเป็นที่ถูกใจค่ะ

    http://www.oknation.net/blog/pen/video/905

    เพลงลาวดวงเดือน

    ประพันธ์โดย พระนิพนธ์ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเพ็ญพัฒนพงศ์ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    แจ๋วๆๆ
    เล่นยกขโยงสุนัขแสนรู้มากันเป็นขบวน แบบนี้คงได้เรื่องล่ะครับ
    ทีนี้หลบซ่อนอยู่หลืบไหนก็ไม่พ้นแน่ๆ อิอิ
    ถ้าเจอกันแล้วฝากเลี้ยงข้าวพวกนี้สักมื้อนะน้องมายด์..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  17. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    มื้อนี้จะกินอะไรกันดีเอ่ย นึกไม่ออกเดี๋ยวนกช่วย อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • platodnampla.jpg
      platodnampla.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.4 KB
      เปิดดู:
      34
    • plawoonsen.jpg
      plawoonsen.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.3 KB
      เปิดดู:
      22
    • nuekem.jpg
      nuekem.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.2 KB
      เปิดดู:
      37
    • fishtofu.jpg
      fishtofu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.8 KB
      เปิดดู:
      44
    • steaktofu.jpg
      steaktofu.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.6 KB
      เปิดดู:
      37
    • yearphai.jpg
      yearphai.jpg
      ขนาดไฟล์:
      31 KB
      เปิดดู:
      44
    • mangopudding.jpg
      mangopudding.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.7 KB
      เปิดดู:
      37
    • namplawan.jpg
      namplawan.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21 KB
      เปิดดู:
      37
    • hawaiian_punch.jpg
      hawaiian_punch.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.1 KB
      เปิดดู:
      337
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    คุณโมเย ใจตรงกันเลยครับ เมื่อวานผมก็โพสเพลง"ลาวดวงเดือน"แล้ว แต่ไม่ผ่าน..
    วันนี้คุณโมเยเอามาโพสทันควันเลย..เล่นเอาผมอึ้งไปเลยครับ
    เพลงนี้คลาสสิกจริงๆครับ ว่างๆเอาเพลงไทยมาโพสอีกนะครับ
    เอาเพลงไทย "เอื้องดอย"มาฝาก ยืมแผ่นคุณแม่มาเพราะมาก

    [​IMG]


    [music]http://palungjit.org/attachments/a.220141/[/music]

    บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีจีน "กู่เจิง" โดยนักดนตรีวงอาจารย์ชนก สาคลิก

    [​IMG] 02 - เอื้องดอย (UENG DOI).mp3 (1.77 MB)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  19. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    เราทุกคนมีความความงดงามอันลุ่มลึก อยู่ในจิตวิญ
    ญาน พร้อมมูลอยู่แล้ว หากแต่ว่ายังไม่ได้ ถูกนำออกมาเต็มที่

    อันธรรมชาติ..คือจุดประทุของทุกอย่าง พร้อมที่จะนำเอาจิตวิญญานลึกๆออกมา...แสดงตามจินตนาการนั้นๆ.....อย่างลุ่มลึก
     
  20. ชมภูเขา

    ชมภูเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +526
    คุณนก คุณชม ขอ เมนู เจนะ .....อย่างอื่นก็ให้ยกมาเลย น้องมายด์กำลังมา ได้ข่าวตูบน้อยไปตามแล้ว จ้า ยินดีรู้จัก คุณนกเช่นกัน ช่วยกันเติมฝันนะจ้ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...