เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ตูบนี่ตามได้ผลแฮะ...
พร้อมเสมอ ไว้เจอกัน นะ

 

พวกเรากะลังรออาจารย์ คุณ mead ใส่แว่นรออยู่ ครับ
อาจารย์ต้องมาเร็วๆนะครับ
มิฉะนั้นผมถูกน้องๆต้มจนสุกแน่

 

อจินไตย

พี่นักเขียนได้เคยฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับใบไม้หนึ่งกำมือ ซึ่งเปรียบได้กับข้อมูลความรู้ที่พระพุทธองค์นำมาถ่ายทอดและสั่งสอน และใบไม้ทั้งหมดในป่า ซึ่งเปรียบได้กับข้อมูลความรู้ที่พระพุทธองค์ได้ทรงเรียนรู้แต่ไม่ได้ถ่ายทอด

แม้ว่าพี่นักเขียนจะเคยได้ยินบางสายตีความหมายเช่นเดียวกับที่คุณ zip ว่า ว่าพระพุทธองค์ไม่ถ่ายทอดเพราะความรู้เหล่านั้นไม่นำไปสู่นิพพาน แต่พี่นักเขียนก็มีโอกาสได้รับฟังความคิดเห็นจากสายที่ศึกษาศาสนาเปรียบเทียบ ที่เรียกว่า Comparative Religion และมีปรากฏอยู่ในวิชา Philosophy หลายวิชาด้วยกัน ซึ่งเป็นวิชาที่สอนกันในระดับมหาวิทยาลัยในอเมริกา

เมื่อมาทำปริญญาเอกทางด้านเทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับปรัชญาเหล่านี้ พี่นักเขียนกลับต้องลงเรียนวิชาเหล่านี้เพราะเป็นวิชาภาคบังคับ ซึ่งเกี่ยวพันกับจรรยาทางวิชาชีพโดยตรง สาขาวิชานี้นำปรัชญาจากศาสนาและลัทธิความเชื่อหลักทุกสายในโลกมาเปรียบเทียบ เพื่อหาความคล้องจองและความแตกต่าง หรือพยายามตีความหมายในทิศทางที่สัมพันธ์กับโลกในปัจจุบัน มากกว่าที่จะรับเอาความหมายที่เป็นไปในยุคสมัยก่อนโดยตรง นอกจากพี่นักเขียนจะมีโอกาสได้เรียนรู้ปรัชญาทางศาสนาและลัทธิความเชื่อหลายสายแล้ว ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อได้เปิดสอนสมาธิต่อสาธารณชน นักเรียนที่มาเรียนสมาธิกับพี่นักเขียนในอเมริกานี้ มีทุกชาติภาษาที่ส่วนมากเป็น Professor ที่สอนวิชาดังกล่าวนี้ และต้องการศึกษาเกี่ยวกับสมาธิเพราะเชื่อว่า น่าจะเป็นวิธีการที่ทำให้พวกเขาเข้าใจพุทธศาสนาได้มากกว่าเพียงจากหนังสือตำราเท่านั้น เพราะพระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า คำสอนของพระองค์เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติและพิสูจน์ด้วยตนเอง

พี่นักเขียนได้มีโอกาสฟังความคิดเห็นจากบุคคลซึ่งมีความรู้ค่อนข้างกว้างขวางเหล่านี้ พวกเขาได้ให้ข้อคิดไว้ว่า ตามพระคัมภีร์นั้นกล่าวถึงใบไม้ในป่าว่า เป็น อจินไตย Acinteyya ซึ่งแปลว่า เป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปคิดไม่ถึง (unthinkable) เข้าใจไม่ได้ (incomprehensible) เข้าใจอย่างกระจ่างหรือทะลุปรุโปร่งไม่ได้ (impenetrable) ซึ่งเมื่อบุคคลคิดไม่ถึง-เข้าใจไม่ได้-หรือเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งไม่ได้ สาระเหล่านั้นก็กลายเป็นสิ่งที่ปราศจากความหมายที่จะคิด เพราะคิดไปก็ไม่เข้าใจ สิ่งที่พระพุทธองค์เรียกว่า อจินไตย ประกอบด้วย 4 sphere หรือ 4 สาขาหรือแขนงความรู้ด้วยกัน อันได้แก่ :
1. Buddha-visaya (พุทธวิสัย) ซึ่งหมายถึงความเป็นไป ลักษณะที่เป็นอยู่ ขอบเขต ของการเป็นพุทธะ
2. Jhana-visaya (ฌานวิสัย) ซึ่งหมายถึงความเป็นไป ลักษณะที่เป็นอยู่ ขอบเขต ของการเป็นฌาน หรือภาวะที่เป็นไปในสมาธิ
3. Kamma-vipaka (กรรมวิภาค) ซึ่งหมายถึงการจำแนกส่วนของกรรมตามธรรมชาติความเป็นไปที่แท้จริง
4. Loka-cinta (โลกจินต์) ความคิดเรื่องโลกและโครงสร้างของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุดเริ่มต้นและจุดจบของโลก

ข้อที่ 1. ความเป็นจริงที่พระพุทธองค์กล่าวว่า คำสอนของพระองค์เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติและพิสูจน์ด้วยตนเอง ครอบคลุมความเป็นจริงที่ว่า หากผู้ใดยังเข้าไม่ถึงความเป็นพุทธะ ย่อมไม่สามารถจะเข้าใจถึงความเป็นไป ลักษณะที่เป็นอยู่ ขอบเขต ของการเป็นพุทธะได้ ซึ่งข้อนี้ Professor เหล่านี้ออกความเห็นว่า เมื่อสมัยพุทธกาลปราศจากการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และคำสอนของพระพุทธองค์ถ่ายทอดมาสู่อนุชนรุ่นหลังด้วยการถ่ายทอดเป็นคำพูดหลายร้อยปี นอกจากบางสิ่งบางอย่างจะสูญหายไปแล้ว ยังอาจจะบิดเบือนไปได้อีกมากด้วยการที่ผู้ที่ทำการบันทึกเป็นรายลักษณ์อักษรยังเข้าไม่ถึงการเป็นพุทธะ ความคลาดเคลื่อนก็ย่อมมีมากยิ่งขึ้นไปอีก

ข้อที่ 2. ความเป็นไปของการเป็นฌาน หรือภาวะที่เป็นไปในสมาธิ เป็นภาวะจิต ซึ่งแม้แต่ศาสตร์ของวิทยาศาสตร์ในโลกปัจจุบันก็ยอมรับว่า เป็นปรากฏการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ แม้สมองทางกายภาพซึ่งเป็นชีวภาพที่สะท้อนให้เห็นอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของคนเรา ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ ไม่มีบุคคล 2 คนใดในโลก แม้แต่คู่แฝดที่จะมีรอยย่นในสมอง (Fissure) เหมือนกัน เมื่อ Einstein ถึงแก่กรรมได้ไม่เกิน 7 ชั่วโมง สมองของเขาถูกนำไปผ่าตัดเพื่อทำการวิจัย เพราะ Einstein ได้ชื่อว่าเป็น Genius หรือเป็นอัจฉริยะบุคคลของโลกในศตวรรษที่ 20 ความเป็นอัจฉริยะของเขาจึงเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการจะศึกษา (คุณ zip เตรียม donate สมองไว้ล่วงหน้าได้เลย อาจมีประโยชน์กับชาวโลกไม่แพ้ Einstein)

ข้อ 3. Kamma-vipaka ได้ถูกตีความหมายเป็น 2 คำที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และปรากฏในคัมภีร์ภาษาต่างๆในโลกมากมายในทิศทางที่แตกต่างกันจากการตีความหมายนี้
สายหนึ่งตีความหมาย vipaka ว่าคือคำว่า วิภาค ซึ่งแปลว่าการจำแนกส่วน การแบ่งขั้นตอน
อีกสายหนึ่งตีความหมาย vipaka ว่าคือคำว่า วิบาก ซึ่งแปลว่าผลลัพธ์ของการกระทำซึ่งนำมาสู่ความยากลำบาก
ไม่ว่าเราจะเชื่อว่า กรรม ตีความหมายตามคำว่า วิภาค หรือ วิบาก อย่างน้อยที่สุดที่มนุษย์ในยุดสมัยนี้น่าจะตระหนักได้คือ สาระเกี่ยวกับกรรมอยู่ในหนึ่งในสี่ข้อที่พระพุทธองค์ตรัสว่า เป็น อจินไตยสำหรับบุคคลทั่วไปในยุคสมัยพุทธกาล คือคิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้

ข้อที่ 4. ความเป็นไปของโลก เป็นสิ่งที่มนุษย์ในยุคสมัยนั้นแม้จะตั้งคำถาม แต่วิทยาการทั้งหลายในโลกยุคนั้นก็ไปไม่ถึง ตัวอย่างจากพระคัมภีร์ เช่น
พระเถระถามพระพุทธองค์ว่า พระจันทร์กับพระอาทิตย์เป็นเทวดาหรือมนุษย์ ในโลกนี้หรือโลกอื่น
ตรัสตอบว่า พระจันทร์ อยู่ในโลกอื่น มิใช่เทวดาหรือมนุษย์ในโลกนี้
แม้พระพุทธองค์จะตรัสว่า มีดวงจันทร์และดวงอาทิตย์นับพัน คำว่าพันก็ไม่ใช่จำนวนที่แท้จริงแต่หมายถึงว่ามีจำนวนมากมายมหาศาล แต่มนุษย์โลกในสมัยพุทธกาล แม้จะได้ฟังคำกล่าวนี้ ก็ย่อมคิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้ เพราะไม่มีวิทยาการใดๆในยุคสมัยนั้นจะให้พวกเขารู้เห็นได้ในสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านตรัส

บางคนอาจจะเคยได้อ่านหนังสือเรื่อง กำเนิดรูปนั้นเป็นฉันใด : การเปรียบเทียบ พระพุทธพจน์ กับ วิทยาศาสตร์ เขียนโดย ดร. ทัศนีย์ หงศ์ลดารมย์ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ สิงหาคม 2518 โดยสำนักพิมพ์ บรรณศาลา ซึ่งเปรียบเทีียบการรู้เห็นการถือกำเนิดของทารกในครรภ์ ด้วยสมาธิจิตในภาวะอันเป็นฌานของพระพุทธองค์ กับตำราคัพภะวิทยาแห่งมนุษย์ (Human Embryology) ซึ่งผู้เขียนกล่าวว่า หากปราศจากรูปภาพที่ผู้เขียนได้จากตำราแพทย์แผนใหม่ของตะวันตก ซึ่งสามารถถ่ายภาพความเป็นไปของทารกในครรภ์ได้ทุกระยะตั้งแต่เกิดการปฏิสนธิ จนคลอดออกจากครรภ์มารดามาสู่โลก ผู้เขียนแทบจะไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เลย

Human Embryology เป็นสาขาวิชาที่ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลและภาพจาก Professor ชาวอังกฤษและอเมริกันหลายท่าน ตลอดจนข้อมูลและภาพจากนักชีววิทยาชาวญี่ปุ่นที่ทำงานวิจัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เพื่อนำข้อมูลในยุดปัจจุบัน (ปีพศ 2518) ไปเปรียบเทียบกับพระสูตร-ปฐมชีวิต หรือกำเนิดของสรรพสัตว์ ซึ่งยักษ์ตนหนึ่งชื่อ อินทกะทูลถามพระพุทธองค์ว่า กระดูกและเลือดเนื้อของสัตว์นั้นมาจากไหน? สัตว์นั้นเกิดขึ้นในครรภ์ได้อย่างไร?

ความเป็นจริงของข้อมูลความรู้ที่เรียกว่า บุคคลทั่วไปคิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้ หรือเป็นอจินไตย ในสมัยพุทธกาล-ยังคงเป็นส่ิงที่เราทั้งหลายในโลกปัจจุบันนี้ยังคิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้อยู่หรือเปล่า ? ข้อนี้เป็นข้อคิดที่พี่นักเขียนเชื่อว่า พวกเราทุกคนน่าจะคิด แทนที่จะรับเอาและคล้อยตามโดยไม่ได้ใช้เหตุผลจากจุดยืนและมุมมองของโลกปัจจุบัน

ในที่นี้ พี่นักเขียนไม่ได้หมายความว่า ความรู้ที่เราทั้งหลายเรียนรู้ได้ในโลกปัจจุบัน ทำให้ความรู้ที่พระพุทธองค์ทรงรู้ และกล่าวว่าเป็นข้อมูลความรู้ที่บุคคลทั่วไปคิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้ หรือเป็นอจินไตยนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ได้มีค่าเหนือชั้น เพราะในยุคสมัยนั้น เป็นสิ่งที่มีค่าเหนือชั้นสุดที่จะพรรณนา ด้วยวิทยาการต่างๆยังไปไม่ถึง วิธีการที่ทำให้รู้เห็นได้ของพระพุทธองค์ยังคงเป็นสิ่งที่เหนือชั้นมาจนทุกวันนี้ แต่ข้อมูลความรู้ที่บุคคลทั่วไปรู้ไม่ได้ คิดไม่ถึง ไม่เป็นข้อมูลที่รู้ไม่ได้ คิดไม่ถึงอีกต่อไป เพราะเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทำให้เราทั้งหลายรู้ได้ คิดได้มากกว่าคนในยุคสมัยก่อน ณ จุดนี้ พี่นักเขียนขอให้เราพิจารณาให้ถูกจุด จะได้ไม่ต้องเสียเวลากับการถกเถียงกันผิดประเด็นต่อไปภายหลัง

ความเป็นจริงและข้อมูลทั้งหมดที่เราท่านทั้งหลายเรียนรู้จากพระคัมภีร์ศาสนา ล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คู่ควรแก่การเคารพบูชาต่อไปชั่วกัลปวสาน เพราะเป็นต้นกำเนิดของความรู้ทั้งหมดในทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นวิทยาการสาขาใดๆ แต่สิ่งที่เราควรจะนำมาพิจารณา ไม่ใช่นำมาถกเถียงกัน ก็ไม่ใช่สาระของความศักดิ์สิทธิ์ที่คู่ควรแก่การเคารพบูชา หากแต่เกี่ยวกับวิธีการอื่นๆที่เราจะศึกษาและทำความเข้าใจธรรมชาติความเป็นจริงที่เคยปรากฏในคัมภีร์ศาสนา ว่าเราจะศึกษาได้จากมุมมองของโลกในยุคป้จจุบัน ซึ่งเป็นโลกเสรีแห่งการเรียนรู้นี้ได้อย่างไร

แต่เป้าหมายของห้องเรียนในสังคมเสรี คือ การเรียนรู้ ไม่ใช่การเอาผิด เอาถูก ไม่ใช่การตีแผ่และนำความแตกต่างมานำเสนอเพื่อเอาชนะคะคานกัน จึงเป็นโอกาสที่ทำให้ความรู้แตกแขนง แต่สังคมที่ขาดเสรีภาพทางด้านความคิดมักเป็นสังคมที่พยายามเอาผิด เอาถูก เอาชนะ โดยสรุปด้วยความคิดอันจำกัดว่า ความคิดหลากหลายแตกต่างจะปรากฏอยู่ร่วมกันไม่ได้ จะปรากฏได้เฉพาะสิ่งที่ถูกต้องเพียงความคิดเดียวเท่านั้น ซึ่งตามธรรมชาติความเป็นจริงแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีความถูกต้องกันคนละสถานการณ์ และคนละมุมมอง หากเราจับมันไปวางผิดสถานการณ์ ผิดมุมมอง มันย่อมเป็นอื่นไปโดยใช่เหตุ

พี่นักเขียนเชื่อว่า โลกของเรากำลังก้าวไปสู่ยุดใหม่ของการเรียนรู้ ห้องวิทย์ฯแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นห้องเสรีทางความคิดที่ก้าวทันโลก เพราะไร้ขีดจำกัดทางความคิดหรือความเชื่อส่วนบุคคล เรากำลังแลกเปลี่ยนถ่ายทอดกันอย่างเปิดเผย โดยปราศจากขอบเขตและกำแพงของศาสนาและความเชื่ออันจำกัด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง

เราทั้งหลายผู้มีความคิดต่างศาสนา ต่างลัทธิความเชื่อ กำลังร่วมกันพิจารณาข้อมูลความรู้จากหลายทิศทาง เพื่อปรับทิศให้ข้อมูลความรู้เหล่านี้สัมพันธ์กับมุมมองของเราในโลกปัจจุบัน ไม่ใช่ปรับทิศมุมมองของเราให้ย้อนกลับไปอยู่ในขอบเขตของมุมมองหรือข้อจำกัดในอดีต ซึ่งพี่นักเขียนเชื่อว่า เป็นทิศทางของความเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเป็นเส้นทางของวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณได้อย่างแท้จริง เพราะจิตวิญญาณของเราใฝ่รู้ บรรพบุรุษของเราได้เรียนรู้มามากมายก็จริง แต่เหตุใดเราจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นเมื่อหลายพันปีมาแล้ว และนำมุมมองและความรู้ความสามารถอันจำกัดนั้นๆมาใช้ต่อไป แทนที่จะก้าวไปข้างหน้า และเรียนรู้ต่อยอดขึ้นไปอีก

หากใบไม้ในป่าเป็นสิ่งที่บุคคลทั่วไปในสมัยพุทธกาลคิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้ พี่นักเขียนเชื่อว่า เราคงจะต้องถามตนเองว่า เราจำเป็นต้องจำกัดตนเองว่า เรามีความคิดและความสามารถเสมอเหมือนนักเรียนในสมัยพุทธกาลอยู่เช่นเดิมหรือไม่ ด้วยเหตุใด ? ความรู้และความคิดของเราจากมุมมองในยุคปัจจุบันนี้ จะทำให้เรายังคงถามคำถามคล้ายคลึงกับที่พระเถระหรือยักษ์อินทกะถามพระพุทธองค์อยู่อีกหรือ ?

พี่นักเขียนมีความเชื่อว่า สิ่งที่พระพุทธองค์กล่าวว่าเป็นอจินไตย - คิดไม่ถึง เข้าใจไม่ได้ จึงไม่น่าจะเป็นสิ่งที่เราตั้งคำถามว่า เราจะรู้ไปทำไม ? แต่น่าจะตั้งคำถามว่า เรามาสู่ยุคสมัยและจุดยืนที่เราเป็นนักเรียนผู้ที่พร้อมจะเรียนรู้ได้ คิดถึงได้ เข้าใจได้แล้วหรือยัง ? หากเราได้คำตอบจากจุดนี้ พี่นักเขียนเชื่อว่าเราจึงจะค้นพบได้ว่า ความปรารถนาในการเรียนรู้ของเราคืออะไร และอะไรคือสิ่งที่เราจะเรียนรู้ได้ คิดถึงได้ เข้าใจได้ต่อไป


----------------------------------
ท่านอาจารย์อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า เราเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติได้ในความฝัน
ในความฝันเราสามารถไปเดินอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง พบปะผู้คน แล้วเราก็ตื่นขึ้นมาพบว่า สถานที่และผู้คนในความฝันนั้นๆ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหนังสือนวนิยายที่เราเคยอ่านพบ หรือเป็นเพียงการแสดงหรือภาพยนต์ที่เราเคยชม แต่ทั้งหมดก็เป็นอารมณ์?-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของนักประพันธ์ซึ่งก่อเกิดโลกแห่งความเป็นจริงบนเส้นทางแห่งความเป็นไปได้เส้นหนึ่งๆขึ้น

ในนัยนี้ Superman ก็สามารถจะถือกำเนิดในโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่งๆที่มีกฏเกณฑ์ของเครื่องพรางและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยความเป็นไปได้นั้นๆได้เสมอ เช่นเดียวกับนิทานเรื่องเมล็ดข้าวกับน้ำค้าง ซึ่งเมล็ดข้าวแต่เมล็ดเปรียบได้กับหน่วยย่อยของจิตวิญญาณที่จะไปถือกำเนิดเป็นรูปกายตัวตน ณ ภพภูมิหนึ่ง โลกหนึ่ง มิติหนึ่ง ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย เพราะหน่วยย่อยของจิตวิญญาณทุกหน่วยเพียบพร้อมไปด้วย ความเป็นไปได้และแนวโน้มอันปราศจากขีดจำกัด เรียกได้ว่า ไม่ว่ามันจะไปถือกำเนิด ณ ภพภพภูมิใด โลกใด มิติใด มันก็จะเจริญหรือพัฒนาได้เสมอ ในทิศทางที่คล้องจองกับสภาพแวดล้อมนั้นๆ

 

คลื่นพลังงานความคิด-วงจรที่ไม่ม่วันสิ้นสุด

คำถามของคุณ yutkanlaya มีคำตอบเสร็จสรรพอยู่ในตัวเองแล้วค่ะ

เมื่อถามว่าคลื่นความนึกคิดไปสิ้นสุด ณ ที่ใด คุณ yutkanlaya ก็ให้คำตอบไว้เรียบร้อยว่า สรรพสิ่งคิดถึงดวงอาทิตย์ คลื่นพลังความคิด ไปหลอมรวมที่ดวงอาทิตย์ แล้วดวงอาทิตย์ก็แผ่คลื่นพลังงานกลับมายังสรรพสิ่งที่ต้องการแสง - เป็นวงจรที่ไม่ม่วันสิ้นสุด (rose)

 

กระตุ้นพลังงานจากจุดประสานมิติ

สิ่งที่มนุษย์ทำได้ต่อจุดประสานมิติคือ กระตุ้นพลังงานจากจุดประสานมิติด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ทำให้พลังงานหลั่งไหลจากต้นกำเนิดมาสู่ฃอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ทำให้มันมีความเข้มข้น และสามารถแปลงสภาวะจากประจุไฟฟ้าเป็นอนุภาค หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าแปลงสภาวะจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเป็นวัตถุธาตุและประสบการณ์ทางกายภาพ

จุดประสานมิติไม่อาจถูกรบกวนให้เสียสมดุลย์ไปได้ด้วยมนุษย์ ในทางตรงกันข้ามพลังงานที่ไม่สมดุลย์ในตัวมนุษย์ที่เกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อในแง่ลบ จะถูกปรับให้เข้าสู่ภาวะที่สมดุลย์ หากมนุษย์ผู้นั้นเข้าไปอยู่ในขอบข่ายของพลังงานที่แผ่ขยายออกมาจากจุดประสานมิติ เช่น ผู้ป่วย-จะหายป่วยได้ เป็นต้น ทั้งนี้จุดประสานมิติแต่ละจุด มีคุณสมบัติจำเพาะแตกต่างกันไป บางจุดมีคุณสมบัติทำให้สิ่งปลูกสร้างคงทนถาวร บางจุดทำให้ผู้คนมีความกระตือรือล้น นึกคิดคล่องตัว และนำความคิดมาสู่ความเป็นจริงได้รวดเร็วกว่าตำแหน่งอื่นๆ

จุดประสานมิติเป็นจุดที่มีอยู่เป็นจินตภาพ คำว่าเคลื่อนย้ายหรือสูญหายจึงปราศจากความหมาย เพราะมันไม่ได้มีตำแหน่งทางกายภาพ และมันก็ได้ขึ้นอยู่กับกาลเวลา แต่มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปนอกเหนือกฏเกณฑ์ของช่องว่างระยะทางและกาลเวลา ซึ่งกล่าวได้ว่า จุดประสานมิติสมบูรณ์มีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปโดยปราศจากจุดเริ่มต้นและจุดจบ และเป็นจุดที่เชื่อมต่อหรือตัดผ่านโลกแห่งความเป็นจริงทุกโลก ทุกมิติ

ส่วนจุดประสานมิติหลักและรองมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในพื้นที่ว่างทั้งหลายที่เรามองเห็นเป็นความว่างเปล่า แม้จะมองเห็นไม่ได้-แต่สัมผัสได้ในลักษณะที่เป็นพลังงานที่เข้มข้น

การสร้างสิ่งปลูกสร้างเช่น ปิรามิด หรือเจดีย์พระธาตุขึ้น ไม่อาจเหนี่ยวนำให้พลังงานด้านบวกหรือลบเกิดขึ้น ณ จุดนั้นๆได้ ในทางตรงกันข้าม-หากจุดนั้นๆมีจุดประสานมิติหลักหรือรองอยู่แล้ว จุดประสานมิติหลักหรือรองจะเหนี่ยวนำให้เกิดการสร้างปิรามิดหรือเจดีย์พระธาตุขึ้น และปิรามิดหรือเจดีย์พระธาตุที่ถูกสร้างขึ้นก็จะมีอายุยืนยาวและถาวร

พลังงานหรือจิตวิญญาณไม่มีขั้วบวกขั้วลบ หรือปราศจากความแตกต่างกันในนัยของด้านบวกด้านลบที่มีความหมายในโลกทางกายภาพ เช่นเดียวกับที่ประจุไฟฟ้าลบหรือบวกไม่ได้ดีหรือเลว หรือมีแง่บวกแง่ลบแตกต่างกัน แต่ความแตกต่างของมันอยู่ที่ทิศทางการเคลื่อนไหวเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้พลังงานมีคุณสมบัติจำเพาะ เช่น ประจุลบจะมีคุณสมบัติในการรักษาโรคได้เป็นพิเศษ เพราะมันสามารถลบความจำในระดับเซลล์ได้ เป็นต้น

ในกรณีของโครงการปิรามิด meditation resort & spa ของคุณ Mead หากที่ตั้งโครงการมีจุดประสานมิติหลักหรือรองที่ส่งเสริมทางด้านใดเป็นพิเศษ เช่น เมื่อเกิดการสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นแล้วก็จะเหนี่ยวนำให้เกิดกิจกรรมที่คล้องจองกับการใช้พลังงานนั้นๆโดยเฉพาะ เช่นเหนี่ยวนำให้เกิดกิจกรรมในการรักษาโรค หรือเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย เป็นต้น สิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นตลอดจนกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นต่อไปจะส่งผลกระทบต่อการเหนี่ยวนำทิศทางการไหลเวียนของพลังงานในสถานที่นั้น

เมื่อพี่นักเขียนได้ค้นพบจุดประสานมิติตามที่เรียนรู้จากความฝัน เข้าใจว่า จุดประสานมิติมีอยู่มากมายอยู่แล้วตามธรรมชาติในทุกช่องว่าง และพลังงานที่หลั่งไหลออกมาจากจุดประสานมิติมีความเข้มข้นหรือรุนแรงในบางเวลา โดยที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับธรรมชาติของจุดประสานมิตินั้นๆ แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆมากมายหลากมิติ ที่ส่งผลกระทบต่อมัน อันได้แก่สติสัมปชัญญะทุกประเภท ทุกชนิด ทุกเผ่าพันธุ์

ในที่ดินผืนหนึ่งๆ กล่าวได้ว่า พลังงานที่หลั่งไหลออกมาจากจุดประสานมิติมีความเข้มข้นหรือรุนแรงในเวลาใดๆ ขึ้นอยู่กับสภาพดิน น้ำ ลม อุณหภูมิ ตลอดจนพืชพันธุ์ และสัตว์ทุกชนิดที่อาศัยอยู่ในท้องที่นั้นๆ ซึ่งสรรพสิ่งทั้งหลายเหล่านี้สัมพันธ์กันในระดับเซลล์กับสรรพสิ่งทั้งหมดในโลก เมื่อมนุษย์เข้าไปปลูกสร้างและอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าว มนุษย์ก็มีสติสัมปชัญญะอีกส่วนหนึ่งที่เข้าไปร่วมมีส่วนในการหลั่งไหลของพลังงานจากจุดประสานมิตินั้นๆ แต่มนุษย์มักจะมีอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่ไม่ได้คล้อยตามธรรมชาติความเป็นจริงเช่นสรรพสิ่งทั้งหลายในโลก มนุษย์จึงเป็นเป็นผู้ที่ทำให้สติสัมปชัญญะส่วนที่เรียกว่า-สติสัมปชัญญะของตัวตนภายนอก ทำให้พลังงานไม่ได้รับการกระตุ้นในทิศทางที่จะใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ตามธรรมชาติ แต่ถึงกระนั้นมนุษย์ก็ไม่อาจทำลายหรือเปลี่ยนตำแหน่งที่ตั้งของจุดประสานมิติเหล่านี้ได้

สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพิื่อเป็นที่รักษาโรค แต่เมื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างและมีผู้คนเข้าไปอาศัยและรับการรักษาแล้ว ต้นไม้ที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์อยู่แล้วตามธรรมชาติ จะไม่งอกงามและอาจจะตายมากมาย ต้นไม้อาจดูเสมือนว่าใบเป็นโรค ผลไม้ที่ออกผลมาจะมีรอยด่างดำ ไม้ดอกจะไม่ค่อยออกดอก ต้นหญ้าไม่งอกงาม วัชพืชอาจจะงอกงาม แต่ก็เป็นชนิดที่ไม่มีสีเขียวสดที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ หากพิจารณาให้ดีอาจพบอีกว่า แม้แต่สัตว์นานาชนิดที่เข้าไปข้องแวะในสถานที่ดังกล่าว ก็ดูเสมือนจะขาดความสุขสมบูรณ์ไปด้วย ความเป็นไปดังกล่าว เกิดจากการที่มนุษย์เราสร้างสถานที่เหล่านี้โดยไม่ได้สัมพันธ์กับสภาพความเป็นไปของที่ดังกล่าว เรียกได้ว่า มันเป็นที่ที่ขาดพลังงาน หรือไม่ได้รับการครอบคลุมด้วยจุดประสานมิติที่จะสามารถกระตุ้นเพื่อให้พลังงานที่สัมพันธ์กับสติสัมปชัญญะของผู้ป่วยที่มารับการรักษาโรคได้ ผู้ป่วยที่เข้าไปอยู่ในสถานที่ดังกล่าวนี้ มักจะไม่หายป่วย และไม่ดีขึ้น เรียกได้ว่าขาดพลังงานที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกัน

การศึกษาเกี่ยวกับจุดประสานมิติ ต้องประสานกับการศึกษาถึงสติสัมชปัญญะของสรรพสิ่งทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในสถานที่ตั้ง หรือที่ดินดังกล่าว พี่นักเขียนพบว่า ต้นไม้ใหญ่ในสนามกอล์ฟดังกล่าว (Orchard Golf Course) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นต้น Walnut ที่มีอายุ 75-100 ปีขึ้นไป และมีจำนวนมากมายหลายร้อยต้น อยู่ในภาวะที่เปรียบได้กับโยคีที่นั่งสมาธิ กระรอก-กระต่ายและนกนานาพันธุ์จะชุกชุมผิดปกติ ทั้งงที่มีผู้มาตี Golf มากมายทุกวัน แต่สัตว์เหล่านั้นก็ไม่ตกใจง่ายๆ เจ้าของ Golf Course แห่งนี้ ได้พยายามขายและชวนเชื่อให้ผู้ซื้อนำที่ดินไปทำบ้านจัดสรรเป็นเวลากว่า 10 ปีแต่ก็ขายไม่ได้ พี่นักเขียนได้เข้าไปสำรวจที่ดินให้แก และพบว่าลำธารที่ไหลจากทิศเหนือไปใต้ มีรูปลักษณ์เหมือนมังกรที่นอนเหยียดยาว น้ำในลำธารไหลจากทิศเหนือไปใต้อยู่ตลอดปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการไหลของพลังงานที่เป็นไปอย่างราบรื่นสม่ำเสมอ แต่สติสัมปชัญญะของสรรพสิ่งที่เป็นไปในที่ดินผืนนี้ ไม่อาจเป็นอื่นๆไปได้นอกจากสติสัมปชัญญะที่คล้องจองกับประเภทที่เป็นอยู่ เมื่อมนุษย์เข้าไปทำกิจกรรมในที่ดินผืนนี้ พวกเขาไปตี Golf ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ และคล้องจองกับความเป็นไปของสติสัมปชัญญะอื่นๆ จุดประสานมิติที่ครอบคลุมที่ดินผืนนี้อยู่ จึงไม่อาจเหนี่ยวนำให้เกิดกิจกรรมชนิดอื่น ที่ไม่คล้องจองกับสติสัมปชัญญะที่เป็นไปอยู่ในภาวะนั้นได้

พี่นักเขียนได้นำนักเรียนสมาธิไปเดินจงกรมและนั่งสมาธิที่ Golf Course แห่งนี้เสมอๆ โดยที่ยังไม่เคยค้นพบสภาวะของต้น Walnut มาก่อน ต่อเมื่อได้ค้นพบภายหลัง จึงเข้าใจได้ว่า เหตุใดที่ดินผืนนี้จึงเหนี่ยวนำกิจกรรมการทำสมาธิมาที่นี่

ตัวอย่างที่กล่าวมานี้ คงพอจะทำให้พวกเราเข้าใจได้บ้างไม่มากก็น้อยว่า
จิตวิญญาณมีความสัมพันธ์กันได้ด้วยสติสัมปชัญญะหรือการจดจ่อ
ซึ่งเมื่อกล่าวถึงจุดประสานมิติ ความสัมพันธ์ของจิตวิญญาณเป็นไปลุ่มลึกมากมายกว่าเพียงเฉพาะจิตวิญญาณที่เป็นร่างกายเนื้อหนังของมนุษย์ด้วยกันเท่านั้น แต่สัมพันธ์กับจิตวิญญาณหรือสติสัมปชัญญะของสรรพสิ่งทั้งหมดที่จดจ่อในทิศทางจำเพาะ หากมนุษย์เข้าไปพยายามทำการเปลี่ยนแปลง ยกตัวอย่าง เช่น หากเจ้าของ Golf Course แห่งนี้สามารถ convince ให้ผู้ซื้อนำที่ดินผืนนี้ไปทำบ้านจัดสรรได้สำเร็จ สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นคือ โครงการนั้นจะล่าช้า ไม่สำเร็จ และอาจต้องยกเลิกไปในที่สุด จนกว่าจะโครงการนั้นๆจะแปลงสภาวะไปเป็นกิจกรรมที่สัมพันธ์กับสติสัมปชัญญะอื่นๆที่เป็นไปได้อย่างกลมกลืน เช่น แปลงสภาพเป็นโครงการศูนย์สุขภาพ ศูนย์สมาธิ โบสถ์ หรือสถานพักฟื้น บ้านพักคนชรา เป็นต้น

ดังนั้นที่คุณ Mead สรุปว่า ค้นหาจุดประสานมิติให้พบก่อน แล้วค่อยสร้างสถานที่ขึ้นไปเหนี่ยวนำพลังงานมาใช้ จึงเป็นวิธีการที่พี่นักเขียนเชื่อและเห็นด้วยว่าถูกต้องและให้ผลดีที่สุดค่ะ

ความเป็นไปทั้งหมดนี้ น่าจะทำให้เราตระหนักได้ว่า จิตวิญญาณรวมทั้งหมดของสรรพส่ิงทั้งหลาย มีระบบความสมดุลย์อันเป็นเลิศ ที่มนุษย์ไม่ได้ตระหนักถึง แม้ว่ามนุษย์จะเชื่อว่า เราเป็นสัตว์โลกที่มีปัญญาเหนือสัตว์โลกทั้งปวง จนเราเชื่อว่า มนุษย์เท่านั้นที่ครองโลก และมนุษย์ก็อดที่จะเกรงกลัวความผิดพลาดของตนเองไม่ได้ว่า สักวันหนึ่งมนุษย์จะทำให้โลกขาดความสมดุลย์ แต่เบื้องลึกของความเป็นไปหมดทั้งหมดที่มนุษย์คาดคิดไม่ถึงก็คือ จิตวิญญาณรวมครอบครองจักรวาล ครอบครองโลก ครอบครองมนุษย์และสรรพสิ่งทั้งปวง และเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ของโลก ของมนุษย์และของสรรพสิ่งทั้งหลายด้วยเช่นกัน (rose)

 

ขอคุยต่อจากเรื่องนี้นะคะ พอดีเมื่อคืนฝันว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำข้ามแม่น้ำแห่งหนี่งซึ่งว่ายไปถึงครึ่งทางแล้ว ระหว่างทางที่ว่ายไปก็มีเกาะเล็ก ๆ หลายเกาะทอดไปจนถึงฝั่ง บนเกาะนั้นก็มีคนยืนอยู่ทุกเกาะและทุกคนก็ยืนมองเราเหมือนกับให้กำลังใจเราอยู่ แถมยังไม่พอบนฝังที่เรากำลังว่ายน้ำไปก็มีตัวเราอีกตัวตนหนึ่งยืนคอยให้กำลังใจอยู่ด้วยเช่นกัน จึงรู้สึกว่าเราไม่ได้เดินทางอย่างโดดเดี่ยว ยังมีจิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ และตัวตนอันเป็นไปได้ในอนาคตยังคอยให้กำลังใจเราอยู่เสมอตลอดเวลาตามที่พี่นักเขียนกล่าวไว้เลยค่ะ..

อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนเราถูกสอนให้เชื่อในเรื่องกฏแห่งกรรม ซึ่งเราก็ปฏิบัติจนระลึกได้ถึงเหตุแห่งกรรมนั้นจึงยิ่งทำให้เชื่อมากขึ้น เป็นเหตุให้แรงกรรมในอดีตผลักดันให้เรามาอยู่ตรงนี้ก็เป็นได้ จึงอยากจะขอขอบคุณพี่นักเขียนมาก ๆ เลยค่ะ ที่มาเปลี่ยนความเชื่อเดิม ๆ ให้เป็นความรู้ใหม่ เพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตให้เป็นไปในทางที่ดีต่อไปตามที่ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่า..

จิตวิญญาณจดจ่ออยู่กับภาวะใด จิตวิญญาณมีอยู่ เป็นอยู่ ตามภาวะนั้น..

แค่นี้ก่อนนะคะ พอดีต้องออกไปทำงานที่ จ.ชลบุรี น่ะค่ะ..
(b-smile) (b-smile) (b-smile)

 

Lucky Number

ต้องขอโทษด้วยค่่ะ พี่นักเขียนเพิ่งจะแก้ไขข้อมูลจากหลุมหมายเลข 13 เป็นหลุมหมายเลข 9 ไปค่ะ Golf Course ดังกล่าวนี้มีเพียง 9 หลุม แต่พี่นักเขียนพิมพ์ผิดไป เนื่องจากได้มองดูตัวเลขที่จดไว้หลายตัวเลขด้วยกัน และ 13 เกี่ยวพันเพราะเป็นหนึ่งในตัวเลขของระยะ หรือ PAR ของหลุมนนี้ค่ะ

แต่ข้อคิดที่คุณ zip กล่าวว่า หากบุคคลที่มาตี Golf มีความคิดหรือความเชื่อใดๆ จะทำให้ความคิดหรือความเชื่อนั้นๆมีความเป็นไปได้ หรือเป็นจริงได้ เนื่องจากจุดนั้นเป็นจุดประสานมิติ - เป็นความเป็นจริง เพราะจุดประสานมิติเปรียบเสมือนเส้นทางลัดที่ทำให้ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดใดๆ แปลงสภาวะมาเป็นวัตถุธาตุ หรือกล่าวตามเส้นทางแห่งกาลเวลาได้ว่า เดินทางจากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้เร็วขึ้น

เลข 13 เป็น Lucky number ที่มาจากทฤษฏีตัวเลข ที่พี่นักเขียนนำมาให้ดูเล่นกัน คุณ zip คนช่างคิด และชอบ computer games อาจจะคุ้นเคยกับ game ตัวเลขไม่มากก็น้อย

Number Theory

ทฤษฎีของตัวเลข กล่าวว่า เลขนำโชค หรือ Lucky Number คือตัวเลขที่มีค่าเป็นธรรมชาติ คือใช้นับได้ ไม่มีค่าติดลบ ได้แก่เลข
1,2,3,4,5,6,7,8,9,10,11,12,13,14,15,16,17,18,19,20,21,22,23,24,25.....

หากเรานำเลขที่ตกอยู่ในตำแหน่งที่นับสองออกให้หมด คือเมื่อนับ หนึ่ง -สอง สลับไปเรื่อยๆ ตำแหน่งที่นับสองจะตกที่ตำแหน่งเลขคู่ทั้งหมด ให้ตัดเอาเลขคู่ออกไปให้หมด
จะเหลือ
1, 3, 5, 7, 9, 11, 13, 15, 17, 19, 21, 23, 25,......

จากนั้นตัดเอาตัวเลขที่ตกอยู่ในตำแหน่งที่นับสามออกให้หมด จะเหลือ
1, 3, 7, 9, 13, 15, 19, 21, 25,......

มาถึงจุดนี้ เลข 7 คือตัวเลขที่มาตกอยู่ที่ตำแหน่งนับสาม ให้ตัดเอาตัวเลขที่ตกอยู่ในตำแหน่งนับเจ็ดออกให้หมด จะเหลือ
1, 3, 7, 9, 13, 15, 21, 25,......

หากเราตัดตัวเลขที่ตกอยู่ในตำแหน่งนับเจ็ดออกไปเรื่อยๆ ในที่สุดตัวเลขที่เหลือรอดจากการตัดทอนออกไปจะเป็นเลขที่เรียกว่า เป็นเลขที่โชคดี หรือ เลขนำโชค Lucky number ได้แก่
1,3,7,9,13,15,21,25,31,33,37,43,49,51,62,67,69,73,75,79,87,93,99,....
Animation นี้แสดงให้เห็น ตัวเลขที่ถูกกรองด้วยวิธีการดังกล่าว
Lucky number จะเป็นเลขที่ปรากฏเป็นสีแดง


คุณ zip เคยกล่าวถึงความเป็นไปได้ และจักรวาลคู่ขนาน ซึ่งพี่นักเขียนมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาระนี้ และจุดประสานมิติ จะนำข้อมูลที่จดไว้มาถอดรหัสให้พวกเราได้ลองศึกษากันต่อไปค่ะ (rose)

 

สัญญา คือ การจดจ่ออยู่กับ พันธนาการ แห่งจิตวิญญาณ สู่ความนึกคิด

โลกมนุษย์ เลยมั่ว เพราะ
มัวพากันหลงทาง ห่างความดี หนีไปหาทุกข์ แก่งแย่ง แข่งขันกัน เพื่อ ตน พวกพ้องตน ทรัพย์ตน ทั้งสิ้น
นั่นคือความยึดมั่น ถือมั่น ถือตัว ถือตน จึงหลุดไม่พ้น จากการยึดติดมั่น
ในตัวตน พี่น้องตน พรรคพวกตน ศัตรูตน ทรัพย์สิ่งของๆตน สิ่งเหล่านี้
นี่คือที่มา สัญญา พันธนาการ จิตวิญญาณตน วนเวียนต่อไป ไม่หลุดพ้นเสียที
จึงจำต้องใช้ กุศโลบายธรรม นำทางให้หลุดพ้น
ผลที่สุดแล้ว จึงย่อมเข้าใจได้ว่า
จิตมนุษย์ทั้งมวลนั้น บริสุทธิ์ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทุกสรรพสิ่ง
มีสัญญา พันธนาการ เชิงบวกที่ดี มีความรักต่อกัน อันมีพรหมวิหาร เป็นพื้นฐาน
และในที่สุด จะหลุดพ้นได้ ต้องด้วยความเป็นกลาง วางอุเบกขา ให้รับได้ทั้งบวกและลบ ประดุจนิวตรอน
จากนั้นจึง ผสานตัวเองไป กลายเป็น ความว่าง ทางนิพพาน สูงสุดยอด สู่สามัญ นั่นเอง
(kiss) (kiss) (kiss)
จุดประสานมิติ มีอยู่ทุกๆที่ ทุกเวลาขณะจิต ที่คิดดี
ประสานกายใจ ไปสู่ความว่าง อันมีอยู่ที่ทุกสรรพสิ่ง
และหรือนี่คือ พลังแห่งพุทธานุภาพ นั่นเอง
<!-- / message --><!-- sig -->

 

หลักปฎิจจสมุทปบาท
หลักสัมพันธภาพ

ไม่ต่างกับ
ขวดโหลที่มีลูกแก้วอยู่เต็ม หากหยิบลูกที่อยู่ล่างๆออกหนึ่ง
จะทำให้ลูกแก้วที่เหลือเคลื่อนไหวปรับตัวสู่สมดุล จนนิ่งได้ในที่สุด

และนั่นคือ
หลักแห่งความสัมพันธกันทั้งจักรวาล ที่มีผลต่อกันทุกสรรพสิ่ง
เป้าหมายสู่การอยู่ร่วมกัน ด้วย ความสมดุลยภาพที่สุด นั่นเอง
(kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss) (kiss)

 

หลานสาวมาเลยโดนแย่งเล่นคอมซะ ไม่เป็นไรมาเล่นที่ทำงานก็ได้ (deejai)
กลางวันนี้มีของอร่อยมาอีกแล้ว ชอบอะไรเลือกตามสบายจ้า

 

อันนี้อาหารเจล้วน ๆ จ้า

 

คุณ leogirl มาพร้อมอาหารเลย ดูน่ากินทั้งนั้นเลย ดีนะที่กินมาแล้ว

ลองเอาตัวเลข lucky series ที่พี่นักเขียนไล่มาให้ดู เอามาจัดใหม่ให้ลองเรียงตัวเลขบรรทัดละ12 กับ 11 ก็ได้ออกมาตามรูป ตัวที่ hilight สีเหลืองคือเลข lucky series ดูแปลกตาไปอีกแบบเหมือนกัน

 

เกือบช็อคแน่ะนู๋ตา!! เล่นจู่โจมเข้ามาทักทาย +-+
เชิญมานั่งแถวหน้าเลยครับ ที่ว่างๆ ข้างคุณ Zip

วันนี้พวกเราได้รับความรู้จากมากมายจริงๆนะครับ
ขอขอบคุณพี่นักเขียนมาก อ่านทั้งหมดแล้วอิ่มจุใจทีเดียวครับ
วันนี้งานออกแบบล้นมือครับ เข้ามาทักทายได้นิดหน่อย
ตั้งใจเรียนกันนะครับ

 

ผมเองก็ชอบและสนใจเรื่องจุดประสานมิติมากครับ
เพราะอ่านแล้วรู้สึกว่า..นี่เลย..

อาจจะเป็นที่มา หรือเบื้องหลังของศาสตร์ฮวงจุ้ย
และศาสตร์อื่นๆอีกก็ได้นะครับ..

 

ขอความช่วยเหลือครับ

เรียนพี่ ๆ น้อง ๆ ที่รักทั้งหลายครับ ต้องรบกวนพี่ ๆ น้อง ๆ ในที่นี้อย่างมากครับ
ช่วยขายหนังสือ ของอาจารย์ให้ด้วยครับ ทางร้านขายหนังสือไม่ให้ความสำคัญกับการขายหนังสือของอาจารย์เลย ทำให้หนังสือไม่เดิน หนังสือที่พิมพ์ไว้เหลืออีกเป็นจำนวนมาก อยากได้คนช่วยเอาหนังสืออาจารย์ไปขายบ้าง
เพราะว่าตอนนี้ผมหมุนเงินไม่ทันจริง ๆ เพราะไปอยู่ในหนังสือหมดแล้ว ขอความช่วยเหลือด้วยครับ ถ้าใครอยากเอาหนังสือท่านอาจารย์ไปขายติดต่อ ผมได้โดยตรงเลยครับ (b-uh) 081 7102018 ,02 7461004-6 oak

 

ช่วยกันครับช่วยเผยแผ่ ความรู้นี้สู่สาธารณะชน
เมื่อวานมีน้องคนหนึงโทรมาคุยเรื่องคอมพิวเตอร์ เเล้วเค้าก็สนใจเรื่องจิตวิญญาณ เลยได้โอกาสแนะนำให้ไปหาซื้อมาอ่าน
และเราคงได้นักเรียนจิตวิญญาณเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง

 

เดี๋ยววันนี้จะออกไปเหมาหนังสือมาให้ครบชุด (ที่ BigC-นครสวรรค์) ช่วยกระตุ้นยอดขายครับ..เป็นแบบนี้ล่ะครับหนังสือดีๆแต่มีคนรู้จักกันน้อย เป็นตลาดกลุ๋มเล็กถ้าเทียบกับตลาดหนังสือด้านอื่นๆ ถ้าเจอใครที่สนใจหนังสือแนวนี้ก็ช่วยกันแนะนำหน่อยนะครับ อะไรที่พอจะช่วยได้ยินดีครับคุณโอ๊ค..ขอให้หนังสือขายดีขึ้นทุกวันๆ พวกเราเอาใจช่วยครับ

 

ใช่เลยครับพลังของศาสตร์ต่างๆพากันหลั่งไหลมาจากจุดนี้
จุดประสานมิติ ที่เห็นๆคาดว่าน่าจะอยู่แถวนี้นะครับ ตรงกลุ่มมหาปิรามิดอียิปต์เป็นจุดสำคัญจุดนึง อีกจุดคงในทะเลแถวๆสามเหลื่ยมเบอร์มิวด้า แถวนี้ดูมีอะไรลึกลับมาก ส่วนในเมืองไทย ก็น่าจะเป็นแถวกาญจนบุรี นครสวรรค์ นี่มี UFO ผลุบๆโผล่ๆและมีตำนานเมืองลับแลด้วย พื้นที่ที่มึจุดประสานมิติเหล่านี้ถ้าเอามาใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์จะมีประโยชน์มากเหลือเกิน โดยเฉพาะด้านการรักษาและด้านจิตวิญญาณ เวลาเวียนหัวหรือคิดอะไรไม่ออก เดินไปมาหาเคลื่อนตัวเข้าหาจุดพลังเหล่านี้น่าจะworkครับ! ที่สำคัญคือวิธีที่จะหาให้พบ? อันนี้คงต้องฝึกวิธีสัมผัสพลังที่ว่านี้กันให้ชำนาญก่อนครับ

ตอนนี้กำลังออกแบบรีสอร์ทสไตล์มายันอยู่เลยค้นหาข้อมูลหนัก
เห็นแล้วก็ทึ่งกับคนโบราณยุคนั้นมาก เก่งจริงๆทั้งการก่อสร้างทั้งศิลปะ
ยิ่งค้นยิ่งสนุก