เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

แหม พี่meadก็ ถึงร่างกายจะขยายข้างออกไง แต่ตัวตนเราก็ยังไม่เปลี่ยนไปหรอกเนอะ อิอิ ไม่เป็นไรถ้าพี่เม้าส์จำนกไม่ได้ นกจะถือป้ายตัวใหญ่ๆเลย ว่าน้องนก บอร์ดวิทย์อาจารย์อนาลัย (b-deejai)

วันนี้นอนแบบลุกไม่ขึ้นเลย ว่าจะตื่นแต่เช้ามาตักบาตร แหม คลาดไปแค่ไม่กี่นาที พระไปหมดแล้วอ่ะ จะซักผ้าฝนก็ตกอีก เลยนอนต่อ ปรากฎว่านอนๆตื่นๆแต่ไม่ได้ลุกขึ้นมาทำอะไรเลยนะ นอนยันบ่าย4ครึ่งแน่ะ โห ทำไมมันลุกไม่ขึ้นอย่างนี้เนี่ย ไม่ไหวไม่ไหว ร่ายกายเราเป็นอะไรไปไม่สดชื่นเลย เดี๋ยวต้องพยายามปรับสภาพก่อนขืนปล่อยให้เป็นงี้แย่แน่ๆ

 

เห็นด้วยค่ะพี่นักเขียน เหมาะกับคนที่มีก๊าซเฉื่อยเยอะอย่างนกเลย จะได้มีเป้าหมายซะที เพราะมีพี่นักเขียนคอยกระตุ้นนกจะได้เดินให้ถูกทางหน่อย (good) เริ่มเรียนรู้ไปด้วยกัน ทีละเรื่อง ทีละเล่ม จะได้ตามกันทันเนอะ ช่วงนี้นกยิ่งกินเยอะน้ำหนักขึ้นอยู่ ไม่มีแรงวิ่ง 555 รอกันหน่อยนะคะ

 

ดีจังครับที่จะได้ศึกษาบทเรียนไปพร้อมๆกันอีก จะได้เข้าใจกันมากขึ้นอีก
บทที่ 1 ยังไม่ค่อยยากนะ แต่บทต่อไปเริ่มมีข้อสงสัยเพราะเหมือนกับบทเรียนที่ต้องเจาะลึกลงไปเรื่อยๆ ยังไงถ้ายังมีพี่นักเขียนคอยให้ความรู้และคำแนะนำไปด้วยสงสัยจะสอบได้เกรด 4 หมด

พี่นกน้อยสงสัยพวกนาคาคงจะติดใจ เลยเรียกตัวพี่นกน้อยไปอีก
แหม สเน่ห์แรงถึงเมืองบาดาลเลยนะพี่นกน้อยเรา

 

(b-deejai) ว้าว ถ้าไม่เบื่อกันซะก่อนก็พาพี่ไปเที่ยวบ่อยๆล่ะกันนะ ยินดีเสมอ เดินทางจะใกล้จะไกลขอให้บอก ไปได้หมดไม่รู้จักเหนื่อย แต่ที่สำคัญระหว่างเดินทางต้องมีของกินนะ จะได้ไม่เหงาปาก อิอิ

 

ห้องวิทย์ ปิดเทอมเหรอ เงียบจัง...

 

Fiber Optic & Cable

งานสถาปัตยกรรมในอเมริกามักใช้ Fiber Optic เพื่อนำแสงเข้ามาในอาคารแทน Direct Skylight คือแทนที่จะเจาะ Skylight ในตำแหน่งทีต้องการแสงธรรมชาติเข้ามาสู่อาคาร เขากลับเจาะ ณ ตำแหน่งหนึ่งๆเพียงตำแหน่งเดียว หรือติดตั้งการรับแสงของ Fiber Optic ณ จุดใดจุดหนึ่งนอกอาคาร แล้วเดิน Fiber Optic Cable จากจุดนั้นไปตามท่ออีกทีหนึ่งสู่ส่วนต่างๆของอาคาร เพื่อปล่อยแสงธรรมชาติตามตำแหน่งต่างๆตามต้องการในอาคาร โดยไม่ต้องเจาะ Skylight เพิ่ม และให้แสงได้ราวกับว่าเจาะ Skylight ณ จุดนั้นๆ แต่มองไม่เห็นช่องแสง จุดที่มี Fiber Optic จะดูสว่างราวกับเปิดไฟ แต่แสงที่ได้เป็นแสงธรรมชาติ โดยไม่มีช่องแสง

Fiber Optic มีคุณสมบัติพิเศษคือ เหนี่ยวนำแสงธรรมชาติไปสู่ทิศทางต่างๆ และปรับแสงธรรมชาติให้มีรูปทรงต่างๆได้ตามต้องการ ไม่ต่างไปจากที่เขาเคยใช้ Fiber Optic ในการปรับแสงไฟฟ้า

อุปกรณ์ Fiber Optic Cable มีขายมากมายในอเมริกา ลองไปดูได้ที่ :
http://www.del-lighting.com/
http://www.fiberopticsystems.com/tech4.htm
pdf file ที่แนบมาให้คุณ Mead เป็น Catalog ที่มีข้อมูลการติดตั้ง ขนาด cable และ Design guidlines ที่สถาปนิกใช้กัน หวังว่าคงมีประโยชน์กับ Interior Designer ไม่น้อยค่ะ เอาใจช่วยให้งานสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมค่ะ(rose)

 

ผมชอบท่อนนี้มากๆคับ เพราะเป็นความจริงที่ผมได้เรียนรู้และเผชิญมาด้วยตัวเองจนผ่านมาถึงปัจจุบัน ความจริงแล้วมันมีทางเดิน 2-3 ทาง ที่ชีวิตผมสามารถเลือกเดินไปทางเหล่านั้นได้ ตามกระแสแห่งความคิด อารมณ์ ความเชื่อที่ติดตัวผมมาตั้งแต่ชาติภพอื่นๆ ซึ่งแต่ละทางเหมือนได้ถูกกำหนดไว้ แต่เมื่อเราสามารถรับรู้ได้ถึงความเป็นไปต่อปในอนาคตที่จะเกิดกับเรา ถ้าเรายังไม่เรียนรู้และเข้าใจถึงระบบการทำงานของความเชื่อ กับ กรรม อย่างแท้จริง มันก็จะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นเดิมที่มีมา แต่เมื่อผใด้เรียนรู้ แข้ใจมันมากพอสมควร ผมได้รู้ว่า 2 -3 ทางนั้นมีอะไรบ้าง และได้สืบกลับไปในอดีตปรากฎว่าล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ตัวเองมีความชำนาญหรือเคยทำมาก่อนในอดีต แต่มาชาตินี้ผมไม่ต้องการทำสิ่งเหล่านั้นอีกแล้ว ผมสามารถปรับความเข้าใจ ความเชื่อ ได้และมีผลกระทบถึงสิ่งที่ควรจะเป็น แต่มีสื่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ เหมือนกับที่อาจารย์เคยกล่าวไว้ว่า จิตจดจ่อสิ่งใด ได้สิ่งนั้น ยังคงเป็นสัจธรรมที่ไม่ตายและอธิบายสิ่งต่างๆได้หลายอย่าง แต่สิ่งที่ๆผมไม่เลือกที่จะทำหรือเป็นบางอย่างก็น่าเสียดายจังคับ อยากลองทำแต่สายไปแล้วคับ..........เสียดายคับ แก่แล้ว

จวบจนถึงวันนี้ยังไม่มีเวลาอ่านหนังสืออาจารย์เลยคับ ยังตั้งประจันหน้าผมอยู่ชั้นวางหนังสือ ฝุ่นจับเชียวคับ ขอโทษคับ จะรีบหาเวลาอ่านแล้วเข้าชั้นเรียนด้วยนะคับ

 

จิตวิญญาณเอาความรู้ไปทำอะไร ?

จิตวิญญาณเอาความรู้ไปทำอะไร ?

ก่อนอื่นพี่นักเขียนคงต้องย้อนถามพวกเราว่า พวกเรามาสู่ห้องวิทย์ฯกันด้วยเหตุใด ?
พี่นักเขียนเชื่อว่า เราต่างก็มาสู่ห้องวิทย์ฯตามธรรมชาติความเป็นจริงที่ว่า จิตวิญญาณของเราใฝ่รู้
จิตวิญญาณของเราต่างก็ปรารถนาที่จะรู้จักที่มาและที่ไปของมันอย่างถ่องแท้
ความรู้และการศึกษาทางโลกสอนให้เราเอาตัวรอดได้ทางกายภาพ
แต่ข้อมูลความรู้ทางโลกไม่เคยสอนสิ่งที่เราปรารถนาจะรู้อย่างที่สุดคือ
เราคืออะไร เรามาจากไหน เมื่อเราจากโลกนี้ไป เราจะเป็นอย่างไร
ความลี้ลับเหล่านี้ คิือความรู้ที่จิตวิญญาณของเราต่างก็กระหาย
จิตวิญญาณของเราต่างก็รู้ดีว่า เราทั้งหลายต้องการความรู้เหล่านี้
เพื่อทำให้จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังคลายทุกข์ คลายความกลัว
ความทุกข์ และความกลััวของเราทั้งหลาย เกิดจากความไม่รู้
จิตวิญญาณของเราปรารถนาความรู้ เพราะจิตวิญญาณไม่ต้องการตกอยู่ในความทุกข์และความกลัว อันเกิดจากความไม่รู้

ความรู้ที่จิตวิญญาณต้องเรียนและต้องนำไปใช้ ปรากฏในหนังสือชุด 10 เล่มของท่านอาจารย์อนาลัย
โดยครอบคลุมความรู้ที่จิตวิญญาณจำเป็นต้อนำไปใช้ในขณะที่กำลังถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง
เพื่อให้เราทั้งหลายตระหนักได้ว่า จิตวิญญาณของเรามาถือกำเนิดพร้อมกับพร
และพลังอำนาจตามธรรมชาติที่เสมอเหมือนกับต้นกำเนิดที่เราจากมา
เราไม่ได้ถูกทอดทิ้ง เราไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของชะตากรรม
เราไม่ได้มาถือกำเนิดเพื่อชดใช้โทษบาป
และเราไม่ได้มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังที่ต่ำต้อย
ด้อยคุณค่าไปกว่าจิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้ของเรา

หากเราปราศจากความรู้เหล่านี้
จิตวิญญาณจะดำเนินชีวิตเป็นร่างกายเนื้อหนังโดยไม่ได้ใช้พลังอำนาจตามธรรมชาติของมัน
ทำให้เราเผชิญกับชีิวิตที่ตกเป็นเหยื่อของความไม่รู้ตลอดชาติภพนี้
และทำให้จิตวิญญาณไม่อาจเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตได้อย่างสร้างสรรค์
ตกเป็นเหยื่อของความไม่รู้ที่ทำให้จิตวิญญาณไม่สามารถใช้พลังอำนาจได้อย่างที่ควรจะเป็น
เรียกได้ว่าหมดเวลาไปกับชาติภพหนึ่งๆโดยไม่มีโอกาสที่จะใช้พลังอำนาจของจิตวิญญาณได้อย่างที่ควรจะใช้
ทำให้จิตวิญญาณไม่พัฒนา หรือเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตไม่ได้เต็มที่
อย่างสุดความสามารถตามที่มันควรจะเป็น หากกล่าวตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จัก ก็อาจกล่าวได้ว่า
ทำให้ต้องเสียเวลาเกิดอีกหลายชาติภพกว่าจะเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตได้ตามเป้าหมาย

ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของการมาถือกำเนิดของจิตวิญญาณเป็นร่างกายเนื้อหนัง บรรจุอยู่ในหนังสือ
-โนวา อนาลัย ขยายความธรรมชาติของชาติภพ

ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณ และการมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปของจิตวิญญาณ ซึ่งไม่เคยหลับ ไม่เคยหยุด และเป็นไปข้ามชาติภพ หลากโลก หลากมิติ หลากเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ บรรจุอยู่ในหนังสือ
-ความฝันกับวิถีแห่งจิตวิญญาณ

ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของจิตวิญญาณ ซึ่งทำให้เราตระหนักได้ถึงพลังอำนาจที่แท้จริงของแก่นแท้ของตนเอง
และรู้จักที่จะใช้พลังอำนาจตามธรรมชาติในการสร้างสรรค์สุขภาพร่างกาย และประสบการณ์ชีวิตที่พึงปรารถนา บรรจุอยู่ในหนังสือ
-จิตวิญญาณประสานกาย
-อิสระแห่งความปรารถนา

ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของการมาถือกำเนิดเป็นบุคคลตัวตน ซึ่งทำให้เราตระหนักได้ถึงที่มาของเรา ความเป็นไปในปัจจุบันที่ทำให้การเป็นบุคคลตัวตนของเราคงสภาพอยู่ได้ในแต่ละชาติภพ โดยได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลความรู้ที่เราได้รับจากจิตวิญญาณที่กำลังมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปนอกเหนือชาติภพ บรรจุอยู่ในหนังสือ
-ประวัติศาสตร์ของจิตวิญญาณ
-ชีวิตนอกเหนือชาติภพ

ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของการดำเนินไปของจิตวิญญาณ หลังความตายและก่อนมาถือกำเนิด ทำให้เราตระหนักได้ถึงระบบของพัฒนาการของจิตวิญญาณ หากเราไม่มีความรู้ว่าจิตวิญญาณมีวิถีทางในการพัฒนาอย่างไร และมันจะดำเนินต่อไปอย่างไรหลังความตายและก่อนมาถือกำเนิด นอกจากความเชื่อในทางที่ผิดจะทำให้จิตวิญญาณจมอยู่กับความไม่รู้ ยังผลให้จิตวิญญาณพัฒนาไปล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นแล้ว ยังทำให้จิตวิญญาณของเราปฏิเสธหน้าที่และความเป็นไปที่จะทำให้มันพัฒนาไปสู่เป้าหมาย

เราทั้งหลายมักกลัวความตาย สงสัยเกี่ยวกับการมาถือกำเนิด มีคำถามมากมายว่าเรามาถือกำเนิดได้อย่างไร ตายแล้วไปไหน ความไม่รู้เหล่านี้นอกจากจะทำให้เราดำเนินชีวิตไปอย่างไร้จุดหมาย ขาดความมั่นคง ขาดความรู้สึกปลอดภัยแล้ว ยังทำให้เราดำเนินชีวิตไปด้วยความหวาดกลัว โดยไม่รู้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อไร และเมื่อมาถึงแล้วเราจะเผชิญกับอะไร ความไม่รู้เหล่านี้ทำให้เราหาความสุขได้ยาก ยิ่งอายุของเราย่างเข้าวัยที่เรียกได้ว่าใกล้ตาย ไม่ว่าจะด้วยวัยหรือด้วยการมีอาชีพเสี่ยงตาย มันยิ่งทำให้เราข้องใจว่า เรามีชีิวิตเพื่ออะไร และจะตายเพื่ออะไร ความไม่รู้ทำให้ชีิวิตเป็นทุกข์ เรียกได้ว่าเสียเวลาไปกับความทุกข์และความไม่รู้ แทนที่จะใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่ากับความรู้ ความสุขสำหรับการทำหน้าที่ในปัจจุบัน และเตรียมพร้อมสำหรับหน้าที่ต่อไป ในอนาคต ที่เรียกว่าภาวะหลังความตายและก่อนมาถือกำเนด ความรู้เหล่านี้บรรจุอยู่ในหนังสือ
- อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคต้น
- อมตะแห่งจิตวิญญาณ-ภาคปลาย

ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติความเป็นจริงของการมีิชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปของจิตวิญญาณในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ
เป็นข้อมูลความรู้ที่ทำให้เราเข้าใจได้ถึงภาวะจิตของเรา ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของประสบการณ์ชีวิตทางกายภาพทั้งหมดในปัจจุบัน ซึ่งสัมพันธ์กับโลกและจักรวาลอันไพศาล หากปราศจากความรู้เหล่านี้ จิตวิญญาณของเราจะสร้างโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพอย่างสะเปะสะปะ ดีบ้าง สุขบ้าง ทุกข์บ้าง สร้างสรรค์บ้าง ทำลายล้างบ้าง เผชิญกับปัญหาที่แก้ไขได้บ้าง แก้้ไขไม่ได้บ้าง เพราะเราไม่ได้ตระหนักว่า สรรพสิ่งทั้งหลายที่มาสู่โลกแห่งความเป็นจริงในวันนี้ของเรามาจากไหน เรามีส่วนร่วมอย่างไรในความเป็นไปของชีวิตของตนเอง ของสังคม ของโลก และจักรวาลที่เราอาศัยอยู่ เราคืออะไร โลกคืออะไร และจักรวาลของเราคืออะไร และเกี่ยวพันกับเราอย่างไร

หากปราศจากความรู้เหล่่านี้ เราจะคิดได้เพียงแค่ว่า เราคือตัวตนอันเป็นเอกเทศ สังคม โลก และจักรวาล เป็นสิ่งที่อยู่ภายนอก ไม่เกี่ยวพันกับการเป็นบุคคลตัวตนของเรา เราจะปราศจากความรู้อันสำคัญยิ่งว่า ทุกอนู ทุกความรู้สึกนึกคิดของเรา สัมพันธ์กับบุคคลทุกคน กับโลกและจักรวาล เรามีส่วนร่วมสร้างสรรค์และทำลายทุกอนูของบุคคล ของโลกและจักรวาล ความรักและสันติภาพของโลกจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความรู้เหล่านี้ ซึ่งยังผลให้เราต้องมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปในสังคม ในโลก ในจักรวาล ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง สงคราม การรุกราน ความกลัว และความหวาดหวั่นในการทำลายล้าง
ข้อมูลความรู้เหล่านี้บรรจุอยู่ในหนังสือ
- โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-ภาคต้น
- โลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติ-ภาคปลาย

ที่จริงแล้วความรู้ในระดับจิตวิญญาณ หรือความรู้ทั้งหลายที่จิตวิญญาณควรต้องเรียนรู้ ล้วนเป็นความรู้ที่ควรจะได้เรียนรู้ในโลกทางกายภาพ ในระบบการศึกษา แม้ว่าความรู้เหล่่านี้จะแทรกอยู่ในศาสนา แต่ก็ถูกลดค่าและความสำคัญลงไปทุกวัน เนื่องจากมนุษย์ให้คุณค่ากับวัตถุุธาตุและโลกทางกายภาพจนลืมเลือนโลกทางจินตภาพอันเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่งทั้งปวง วิทยาศาสตร์เป็นศาสตร์ที่เคยช่วยให้จิตวิญญาณสามารถจดจ่อและดำเนินชีวิตในโลกทางกายภาพได้ เพื่อความอยู่รอดของจิตวิญญาณที่เป็นร่างกายเนื้อหนัง แต่แล้ววิทยาศาสตร์ก็นำพาให้มนุษย์จดจ่อแต่ภาวะทางกายภาพจนห่างไกลและลืมเลือนภาวะทางจินตภาพและจิตวิญญาณ

ณ วันนี้มนุษย์โลกกำลังหวลกลับ นักวิทยาศาสตร์เริ่มตระหนักได้ถึงช่องโหว่ และความผิดพลาดที่พวกเขาพามนุษย์โลกวิวัฒนาการไปไกลทางกายภาพโดยทอดทิ้งพลังอำนาจสูงสุดของตนเองไปไกลจากจิตวิญญาณ วิทยาศาสตร์กำลังพยายามกลับลำ มนุษย์โลกกำลังพยายามกลับลำ กลับไปหาพลังอำนาจต้นกำเนิดทางจินตภาพ เพราะมนุษย์ได้บรรลุผลทางกายภาพเพืื่อการอยู่รอดทางกายภาพได้แล้วอย่างสมบูรณ์

ในมิติของจิตวิญญาณ การแบ่งระดับชั้นเป็นไปด้วยความรู้ โดยปราศจากชื่อ ปราศจากการเป็นบุคคลตัวตน แต่เป็นไปด้วยการรวมตัวกันของหมวดความรู้

โนวา อนาลัย - ตามความเป็นไปของจิตวิญญาณ คือหมวดของความรู้ ที่นำเสนอต่อจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังในโลกมนุษย์และโลกอื่นๆที่เป็นกายภาพ ให้รู้จักถึงการเป็นอิสระจากขึดจำกัดของภาวะทางกายภาพที่จิตวิญญาณ ที่มาถือกำเนิดเป็นรูปกายทางกายภาพ

โนวา อนาลัย ไม่ได้เป็นใคร ไม่ใช่ชื่อของบุคคล แต่เป็นการระบุถึงบุคลิกภาพของจิตวิญญาณหรือกลุ่มพลังงานที่เต็มไปด้วยข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ พร้อมด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เป็นไปตามความรู้ ที่นำเสนอข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการเป็นอิสระจากความปรารถนา ที่ทำให้จิตวิญญาณอันถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังหลุดพ้นจากความทุกข์ หลุดพ้นจากข้อจำกัดต่างๆที่เกิดจากความเชื่ออันจำกัด

จิตวิญญาณอันยึดติดกับการเป?็นบุคคลตัวตนทั้งหลาย ไม่ว่าเธอจะเรียกชื่อจิตวิญญาณเหล่านั้นว่าอะไร ยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปจนกว่าจะหลุดพ้นจากการยึิดติดกับการเป็นบุคคลตัวตนอันจำกัด ส่วนฉัน-แม้เป็นจิตวิญญาณที่ปราศจากการเป็นบุคคลตัวตนแล้ว ก็ยังคงต้องเรียนรู้ต่อไปไม่มีวันจบสิ้น เพราะการเรียนรู้ของจิตวิญญาณทุกหน่วยทำให้จักรวาลขยายตัวต่อไปอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เรียกได้ว่า การเรียนรู้ของหน่วยย่อยของจิตวิญญาณที่ต่ำต้อยที่สุด-ตามคำนิยามของเธอทั้งหลาย ก็ทำให้จักรวาลขยายตัว และทำให้จิตวิญญาณที่สูงที่สุด-ตามคำนิยามของเธอทั้งหลาย ต้องแสวงหาความรู้ต่อไปด้วยเช่นกัน และเมื่อจิตวิญญาณที่สูงที่สุด-ตามคำนิยามของเธอทั้งหลายได้แสวงหาความรู้ต่อไป ก็ทำให้จิตวิญญาณที่ต่ำต้อยที่สุด-ตามคำนิยามของเธอทั้งหลายต้องขยายความสามารถในการเรียนรู้ต่อไปอีกในแต่ละชาติภพ หรือมีวิวัฒนาการในแต่ละชาติภพกว้างไกลต่อไปอีกกว่าที่เคยเป็นมา

ความเป็นไปของจิตวิญญาณที่ก้าวหน้ากว่าเธอ-ตามคำนิยามของเธอทั้งหลาย เป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายรู้เห็นได้ในความฝัน เพราะจิตวิญญาณที่ก้าวหน้ากว่าเธอ ไม่ได้แปลกแยกไปจากเธอ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเธอที่เธอเรียกว่า-จิตวิญญาณในอนาคตของเธอ
เธอรู้เห็นการเรียนรู้ หน้าที่ และความเป็นไปของจิตวิญญาณที่ก้าวหน้ากว่าเธอเสมอๆ และความก้าวหน้า-การเรียนรู้ของจิตวิญญาณเหล่านั้น ก็ส่งผลกลับมาสู่เธอ-ผู้เป็นจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง-ในปัจจุบัน-ยามตื่น-อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน



ความเป็นไปเหล่านี้ปราศจากขีดจำกัด ปราศจากเวลา และเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ไม่มีวันสิ้นสุด แต่ตราบใดที่เธอไม่เรียนรู้ว่า มันมีอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปจริง ความก้าวหน้าของจิตวิญญาณในอนาคตจะส่งผลลัพธ์ให้เธอมากมายเพียงใด แม้ตัวตนภายในของเธอจะรับเอา แต่ตัวตนภายนอกพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะที่เธอคิดว่าเป็นของเธอ-คือเธอ ก็มักจะไม่รับเอา และไม่นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับชีวิตประจำวัน

โลกของเธอกำลังจะก้าวหน้าไปหลายขุม-อย่างก้าวกระโดด เพราะมีผู้ที่รับเอาความก้าวหน้าของจิตวิญญาณในอนาคตที่ส่งผลลัพธ์มาให้ตัวตนภายนอก พร้อมด้วยสติสัมปชัญญะที่เธอคิดว่าเป็นของเธอ-คือเธอ-ในปัจจุบัน ได้อย่างเป็นธรรมชาติเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยังผลให้จิตวิญญาณในอนาคตก้าวหน้าไปหลายขุม-อย่างก้าวกระโดด เช่นกัน

ในโลกมนุษย์-จิตวิญญาณเอาความรู้ไปทำให้จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนัง สามารถเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ชีวิตและคุณค่าชีวิตได้อย่างเต็มความสามารถ ด้วยการเป็นได้-มีได้-ทำได้สมความปรารถนา ได้อย่างดีที่สุด(rose)

 

Better Late Than Never

ฝรั่งเขาว่า ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 ปี
บ้างก็ว่า Better Late Than Never

พี่นักเขียนมีคุณครูสอนเปียโนที่หันมาเอาดีทางเต้นรำ โดยเริ่มเรียนเต้น Ballet และเต้นรำเมื่อท่านมีอายุได้ 47 ปี คือคุณครู จรินทร์ ยุทธศาสตร์โกศล ท่านได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงของโลก ได้ลง Guinness World Record ได้เต้นรำกับ Champion โลกเมื่อท่านอายุได้ 71 ปี พี่นักเขียนได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากท่านเสมอมาจนทุกวันนี้ว่า ไม่มีคำว่าสายเกินกว่าที่จะเรียน หรือสายเกินไปที่จะทำสิ่งใดที่ใจปรารถนา

ณ วันนี้คุณครูของพี่นักเขียนอายุ 77 ปี ท่านกลับมาเล่นเปียโนอีกครั้งหลังจากร้างราไปหลายปี และท่านบอกกับพี่นักเขียนว่า ความฝันของท่านคือจะเล่น Etude ของ Chopin ถวายสมเด็จฯ ท่านได้ฝึกซ้อมด้วยตนเอง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วท่านได้เดินทางไปหานักเปียโนระดับโลกคนหนึ่งเพื่อขอให้เขาติชมแก้ไข

วันแรกที่คุณครูจรินทร์ เล่นให้เขาฟัง เขากล่าวว่า "You are not good enough to perform for the Queen" คุณครูเสียใจมาก แต่บอกกับพี่นักเขียนว่า คุณครูอ้อนวอนเขาให้ติว่า จุดใดคือจุดอ่อนและข้อเสียของท่าน เขาก็ติมากมายหลายจุด คุณครูก็จดจำไว้หมด กลับไปที่พักก็ซักซ้อมแก้ไขตนเองอย่างดีที่สุดที่จะทำได้ มีเวลาเพียง 3 วันที่จะมีโอกาสได้พบนักเปียโนระดับโลกผู้นั้นอีก

คุณครูขอร้องให้เขาฟังท่านเล่นอีกเป็นครั้งที่สอง ภายในเวลาเพียง 3 วัน เมื่อเล่นจบ นักเปียโนระดับโลกกล่าวว่า "You are the fastest learner I've ever seen in my life! Now you're now ready to perform for the Queen!"

คุณครูเล่าให้พี่นักเขียนฟังพร้อมกับสอนพี่นักเขียนว่า "จำไว้นะหนู ไม่มีสิ่งใดไกลเกินเอื้อม ไกลเกินฝัน หากเราทำด้วยใจอย่างสุดความสามารถ วันนี้ครูอายุ 77 แล้ว แต่ไม่มีคำว่าสายเกินไป เพราะครูยังมีอะไรต้องทำอีกมากมาย และครูเชื่อมั่นว่าครูยังทำประโยชน์ได้อีก"
http://www.guinessworldrecords.com/...olden_oldies/oldest_performing_ballerina.aspx

พี่ีนักเขียนขอนำเสนอเรื่องราวของคุณครูจรินทร์ ยุทธศาสตร์โกศล คุณครูสอนเปียโนคนแรกในชีวิตของพี่นักเขียน ด้วยความรัก-เคารพเทิดทูน-แด่คุณครูด้วยดวงใจ(rose)

 

ขอบคุณพี่นักเขียนครับที่แนะนำน่าสนใจมาก
Fiber Optic Cable เป็นสุดยอดของเทคนิคด้านแสงที่ประหยัดพลังงานและใช้ตกแต่งได้สารพัด ต้องขอบคุณคนที่คิดค้นด้วยครับงานนี้ว่าจะเอามาใช้แน่นอน

ตอนนี้วาง Concept ทั้งตัวอาคารและตกแต่งด้วยกับเพื่อนๆ 3-4 คนช่วยกันครับ ชาวโอมานเป็นเจ้าของเงิน แต่คนไทยเป็นเจ้าของโครงการ ถ้างาน Present ผ่านอนุมัติคราวนี้ คงทุ่มเทกันเต็มที่เพื่อให้ออกมาสุดยอดให้เป็นระดับ 7 ดาวให้ได้ครับ

จริงๆโครงการนี้จะทำมาหลายปีแล้ว พี่เจ้าของโครงการ เค้าก็สู้เพื่อให้งานเกิดขึ้นหลายครั้ง เพิ่งจะเห็นใกล้ความก็ครั้งนี้ล่ะครับ เชื่อว่าถ้าเราไม่ท้อถอยหนทางที่ตั้งใจไว้ก็ไม่เปลื่ยนแปลง ถึงแม้จะมีอุปสรรคระหว่างทางบ้าง แต่ใจยังสู้ซะอย่าง ลุ้นอีกนิดความฝันก็จะเป็นความจริงขึ้นมาแล้วครับ
โครงการนี้เปิดกว้างจริงๆครับ จำได้ว่าพี่นักเขียนเคยบอกว่างานชิ้นนี้รวมศาสตร์ความรู้และรวมรูปแบบแต่ละศาสนาไว้ด้วยกัน ใช่จริงๆครับพี่นักเขียนรู้อีกแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่เคยบอก


(b-flower)

 

การเดินทางของสิ่งสิ่งหนึ่งก่อนจะถึง เส้นชัยและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงนั้น..
บางครั้งหนทางนั้นไม่ได้โรยด้วยกลิบกุหลาบ และกลิ่นที่หอมรวยริน
ยิ่งสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่สูงค่า การเดินทางด้องอาศัยความพยายามอย่างสูงสุด
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะรวมเอาความงดงามของจิตวิญญานที่บริสุทธิ์
มาประสานเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ ดังเช่นคำสอนของพระอาจารย์โนวา อนาลัย

เป็นสิ่งที่สูงค่าหาค่าวัดไม่ได้ เป็นธรรมชาติไม่ขัดแย้งกับสิ่งใดทั้งสิ้น มีเหตุและผลพร้อมในตัว
มีพลังที่ยิ่งใหญ่ พื้นฟูสภาพจิตที่หลงทางให้เดินอย่างอิสระและทรงพลัง
เชื่อมั่นว่า หนังสือของท่านอาจารย์ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อ่านจะเลือกอ่าน แต่ หนังสือชุดนี้ มีพลังพอในตัวตน ที่จะแสวงหาผู้อ่านและเลือกผู้อ่านเอง ....หรือคือสัญลักษณ์ของผู้รู้กับผู้ที่ต้องการรู้มาบรรจบกัน โดยไม่มีเงื้อนไขใดๆ ทั้งสิ้น

การเดินทางของคำสอนของพระอาจารย์ กำลังเริ่มต้นเดินทาง ด้วยพลังแห่งความบริสุทธิ์ และ ค้นหาผู้อ่านด้วยอำนาจแห่งพลังนั้น....มิมีสิ้นสุด

เชื่อมั่น ในพลังอันยิ่งใหญ่นี้ ......

 

cd เพลง มนตราอนาลัยเสร็จแล้วครับ

เรียนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในห้องวิทย์ครับ cd เพลง มนตรา อนาลัย ของท่านอาจารย์อนาลัยเสร็จแล้วครับ ใครอยากได้ ติดต่อผมได้เลยครับ 027461004-6
อ้อ มีหนังสือปกแข็งอยู่ไม่กี่ชุด หากใครสนใจเป็นเจ้าของ ติอต่อมาได้เลยครับขอบคุณครับ

 

ขอบคุณครับ

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะที่ผ่านมาหนังสือเลือกคนอ่านจริง ๆ ขอบครับคุณ ชมภูเขา มาก ๆ ครับ

 

ขอบคุณมากคับ ที่เป็นกระบอกเสียงของความต้องการลึกๆของผม ผมมีกำลังใจมากๆเลยคับจากคำสอนของอาจารย์ แต่ ผมมีข้อสงสัยอยู่อย่างนึงคับว่า ทำไมชาตินี้เราถึงมีบุคคลิกที่ต่างจากนิสัย ใจคอจริงที่เราเคยเป็นมาก่อนในชาติที่ผ่านๆมาอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับจะเป็นสิ่งทดสอบยังไงอย่างงั้นเลยคับ อย่างเช่นชาติที่ผ่านๆมาผมจะเป็นคน active เรื่องความต้องการของตัวเอง ไม่ว่าจะสูงแค่ไหนทุกอย่างผมคว้ามาได้หมด มีความกล้าหาญในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะรุนแรงขนาดไหนก็ตาม แต่มาชาติปัจจุบันผมรู้สึกว่าแค่การเอื้อมอะไรสักอย่างที่ไม่สูงจนเกินไป ก็เป็นการฝืนตัวเองเสียเหลือเกินทั้งๆที่ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวตนที่ควรจะเป็น แต่ผมก็รู้ข้อแม้ของจิตนะคับว่า ถ้าผมพังกำแพงนี้ลงได้ ทุกอย่างจะกลับมา แต่มันยากจังคับ เอาชนะใจตัวเองเนี่ยคับ
แต่มันก็แค่ความต้องการทางโลกและเป็นบทบาทนึงในชาตินี้ของผมคับ ซึ่งจิงๆแล้วมันก็ไม่ได้ความหมายมากมายเท่าไหร่คับ

 

สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องขอแก้ที่ผิดก่อน ที่ก่อนหน้านี้อ้างถึงหนังสือ ข้ามภพ เกี่ยวกับเรื่องมองหน้า ชื่อจริงๆ คือชื่อว่า "ข้ามภพ ย้อนเวลาเยียวยาปัจจุบัน" รีบร้อนไปหน่อย เลยไม่เห็นตัวอักษรเล็กๆ ที่อยู่ข้างล่างคำว่าข้ามภพ

คุณ Mead ครับ เคยฝันเจอผีนะ แต่ในฝันไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ เพราะไม่ใช่เป็นผีจริงๆ มาเข้าฝัน ส่วนผีจริงๆ ยังไม่เคยเห็นเลย แต่ถ้าเสียงแปลกๆ เคยได้ยิน แบบว่าข้างหลังไม่มีใครอยู่ แต่ได้ยินเสียงถอนหายใจด้านหลังอะไรเงี้ย ปัจจุบันบางทีที่เสียวๆ กลัวเจอผี ก็รู้สึกว่าเป็นเพราะหลอนๆ ตัวเองเหมือนกัน(ตัวเองหลอนตัวเอง นึกว่าจะเจออย่างโน้นอย่างนี้)

พี่นักเขียนครับ แล้วมันจะแพงกว่าเดินไฟปกติหรือเปล่า ความรู้สึกแล้วน่าจะแพงตรงใยแก้วนำแสง แต่รู้สึกว่าจะประหยัดค่าไฟกว่า แล้วอีกอย่าง ถ้าเป็นตึกหลายๆ ชั้น สายไฟเบอร์ออฟฟิกก็จะใช้เยอะมากเลย คงเป็นมัดใหญ่ๆ เลย ความสว่างในแต่ละจุด เดาว่าคงขึ้นกับขนาดมัดของสายไฟเบอร์ออฟฟิค มัดใหญ่แสงก็เยอะ


วันพฤหัสนี้ผมก็จะไปเที่ยวต่างประเทศ (ไปเวียดนาม) 7 วัน ไปโฮจิมินซีตี้(ไซ่ง่อน) ก่อนแล้วค่อยเดินทางขึ้นไปทางเหนือ เว้ ฮอยอัน แล้วก็ไปสุดที่ฮานอย หายไปหลายวันหน่อย กลับมาคงมาตามอ่านย้อนหลังกันยาวแน่เลย (ขออนุญาตลาพักผ่อนครับ อิอิ) เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาก็เตรียมหาของเดินทาง

คุณ oak จะขอรอชมซีดีเพลงตามร้านขายเพลงล่ะกัน

 

ขอให้เที่ยวเพลิดเพลินครับคุณซิปฯ ถ่ายรูปมาฝากกันหน่อยนะ
เวียดนามช่วงนี้น่าไปเที่ยวครับ..

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ oakpr
เรียนพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในห้องวิทย์ครับ cd เพลง มนตรา อนาลัย ของท่านอาจารย์อนาลัยเสร็จแล้วครับ ใครอยากได้ ติดต่อผมได้เลยครับ 027461004-6
อ้อ มีหนังสือปกแข็งอยู่ไม่กี่ชุด หากใครสนใจเป็นเจ้าของ ติอต่อมาได้เลยครับขอบคุณครับ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ผมขอสั่ง CD สักชุดครับคุณโอ๊ค
ทึ้งตะขอเลิกเป็นโจรสลัดซะที
จะได้ฟังเพลงเหมือนเดือนชัดๆกันล่ะครับ



ถามคุณโอ๊คแล้ว199.-บาทเท่านั้น..
เอาไว้เปิดฟังร่วมกับการทำสมาธิเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับพลังงานต้นกำเนิด
และยังช่วยกล่อมจิตใจให้อ่อนโยนแจ่มใสได้ทุกเวลาครับ

คุยกันยาวครับ คุณโอ๊คอัทยาศัยดีและมีอุดมการณ์ดีๆหลายอย่างครับ
มีความรู้ด้านแก่นธรรมไม่ธรรมดาด้วยครับ
แต่คุณโอ๊คบอกว่าขอเป็นผู้ดู และผู้สังเกตุการณ์ห่างๆแบบนี้จะเหมาะกว่า
ขอบคุณคุณโอ๊คมากครับที่จัดส่งให้ แล้วจะโทรไปหาใหม่ครับ

 

ไม่แพงเลย.. อยากได้สัก 1 ชุดเหมือนกันค่ะ..
แต่เกรงใจเรื่องการจัดส่ง ไม่ทราบว่าจะมีวางขายตามร้านเมื่อไหร่คะ?
แล้วจะวางขายในร้านหนังสือรึว่าร้านเพลงเอ่ย?
(sing)

 

ขออนุญาตเริ่มถามบทเรียนที่ 1 ธรรมชาติของจิตวิญญาณเลยนะคะ
จากหน้า 3 หากเธอคิดว่า ฉันเป็นเพียงภาพลวงตาหรือนวนิยายเพราะฉันปราศจากร่างกายและสมองที่เป็นกายภาพ ฉันก็เป็นภาพลวงตาหรือนวนิยายเรื่องเดียวกันกับชีวิตของเธอ

แสดงว่าท่านอาจารย์อนาลัยก็เป็นจิตวิญญาณที่มีคุณสมบัติทางพลังงานที่เหมือนกับพวกเราที่เป็นมนุษย์โลกด้วยใช่หรือไม่? หรือว่าพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของท่านอาจารย์อนาลัย หรือท่านเป็นต้นกำเนิดของพวกเรา? แต่ท่านก็เคยกล่าวไว้ว่าท่านก็เคยเกิดเป็นมาเป็นมนุษย์มาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า ( ถึงแม้ท่านจะกล่าวไว้ว่าไม่ควรจะถามว่าท่านเป็นใคร แต่พวกเราก็อดที่จะคิดแบบจิตมนุษย์ไม่ได้จริง ๆ ค่ะ.. )
(b-ng)

 

จากหน้า 4 จิตวิญญาณอันเป็นร่างกายเนื้อหนังที่ลืมเลือนเป้าหมายดั้งเดิมก่อนหน้าที่จะมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ มักให้คุณค่าของเงินและวัตถุธาตุมากกว่าความรู้ ความโลภของมนุษย์เพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียวมีพลังอำนาจที่จะขวางกั้นไม่ให้คนจำนวนมากได้รับความรู้ได้อย่างเหลือเชื่อ มันเป็นความหลงทางของจิตวิญญาณที่น่าสมเพชยิ่ง

จากหน้า 5 เพราะเมื่อใดที่จิตวิญญาณของเธอตระหนักได้ในธรรมชาติแห่งความเป็นจริง เธอจะพบว่าจิตวิญญาณคือแก่นแท้ของเธอที่เต็มไปด้วยข้อมูลความรู้ที่สถิตย์อยู่กับเธอเป็นแก่นแท้ของเธอตลอดไป ทุกชีวิต - ทุกชาติภพ ทุกชีวิตก่อนการเกิด ทุกชีวิตหลังความตาย และทุกชีวิตนอกเหนือขาติภพ

หมายความว่าถ้าหากความเชื่อใดที่เป็นความรู้ที่แท้จริงแล้ว แม้ว่าเราจะเกิดอีกกีภพกี่ชาติ เราก็จะไม่ลืมความรู้นั้นใช่หรือไม่? แต่ทำไมเดิมทีที่จิตวิญญาณมาถือกำเนิดในชาติภพแรก ซึ่งจิตวิญญาณมีความรู้ความสามารถที่แท้จริงจึงถูกกำหนดให้ลืมความรู้ของต้นกำเนิดทางจิตวิญญาณคะ?
(b-smile)

 

ทุกอย่างถูกเปิดกว้างไร้ขีดจำกัด การแสวงหาและการเรียนรู้
ของจิตวิญญานได้เริ่มบรรเลงแล้ว อิสระแห่งการเรียนรู้
ไม่จำกัดว่าต้องได้มาจากทางเดียว นับว่าเป็นการบรรเลงบทเพลง
ที่งดงามไม่มีเงื้อนไขและข้อจำกัด บทเพลงที่งดงามยิ่ง
กำลังถูกบรรเลงในระบบ อิสระแห่งการเรียนรู้เชิง online

ในอนาคต อาจจะมีการขับร้องประกอบลงใน ระบบ online
เพื่อ เผยแพร่อย่างไม่มีขีดจำกัด ภาพที่ยิ่งใหญ่และงดงามนี้
พวกเราจะได้ สัมผัสสักวัน ...

ชาวภูเขาทั้งหมดขอสนับสนุนอย่างเป็นทางการ