ภพภูมิที่ทับซ้อนกันอยู่

ขอถามครับ อะไรทำให้คิดว่าเป็น พญาสดายุ ตรงไหนที่บ่งบอกครับ
อาจเป็นสัตว์สายพันธุ์ อื่น เหรือว่า เป็นเทพองค์อื่นก็ได้ เพราะเห็นแค่เงา
เรายังดูไม่ออกเลยว่าคืออะไร

 

ผมก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นว่าจะเป็นพญาสดายุ หรอกนะครับ ไม่งั้นผมจะเข้าถามชวนให้ผู้มีญาณทั้งหลายช่วยตรวจสอบทำไมละครับ แต่เมื่อพูดคุยกันมาถึงจุดนี้ผม แค่อยากยืนยันว่าผมไม่ได้โกหกเรื่องการหายไปอย่างไร้ร่องรอยของสิ่งนี้เท่านั้น ส่วนจะเป็นอะไรไม่สำคัญครับ

 

เจ้าของกระทู้เค้าเชื่อแบบนั้นต่อให้หยิบยกหลักการมากพูด ก็ไม่มีประโยชน์เหรอกครับเค้าไม่ฟัง แต่ผมชอบข้อมูลของคุณ Zeuss ที่หยิบมาอ้างนะระยะเวลา 24 วิเหมือนจะเร็วนะครับแต่ถ้าวัตถุที่เร็วในระดับนึง 24 วิคือโครตเร็วครับฉะนั้นสิ่งนั้นจะหายไปจากเฟรมแล้วตั้งแต่ 3-4 วินาทีแล้วครับหลังจากนั้นต้อง plan กล้องตามแล้วการมองในกล้องกับตาปล่าวจะต่างกันเวลามองในกล้องภาพจะถูกแบบให้แคบลงกว่ามองจากตาปกติ แล้วรูปนกที่เป็นแบบนั้นเพราะคุณถ่ายพอดีในจังหวะที่นกกระพือปีกลง ผมคิดว่าหลังจากคุณถ่ายเสร็จคุณจะก้มมาลองที่กล้องทันทีอัตโนมัิิติเพื่อเช็คความเรียบร้อยของภาพเป็นเวลา 24 วิถึงจะตั้งกล้องขึ้นไปถ่ายอีกครั้งคุณคงแช่กล้องที่พระอาิทิตย์เป็นเวลา 24 วิแน่นอนซึ่งตอนนั้นถ้าเป็นนกก็บินหลุดเฟรมไปไกลละครับ เพราะในรูปนกใกล้จะหลุดเฟรมแล้ว
ถ้าเป็นเครื่องบินอาจจะใช้เวลาหลายวิ เพราะเครื่องบินนั้นบินอยู่เหนือระดับเมฆคือสูงมากๆ
แต่นี้บินอยู่ในระัดับใต้เมฆแสดงว่าไม่สูงอยู่ในระดับปกติที่นกทั่วไปบินกันฉะนั้นระยะเวลาการหลุดเฟรมของนกจะไวกว่าเครื่องบิน

เอาเป็นว่านี้คือลูกของพญาครุฑละกันครับเพื่อความสบายใจของเหล่าคนที่ศรัทธาเนาะ

 

แปลกดีครับ จะใช่ไม่ใช่.. อย่าไปใส่ใจมากเกินไปเลยครับ คนที่บอกใช่ คนที่บอกไม่ใช่ ผมถามหน่อยว่า เคยเห็นตัวเป็นๆ หรือเปล่า .. เราก็เห็นตาม ตำรา ตามฝาผนัง ตามรูปถ่าย รวมถึงพี่ google อีกต่างหาก แต่ผมอ่ะเชื่อว่ามีจริง เพราะผมท่อง อิมินา.. เกือบทุกวัน ครุฑ คนธรรม นาคา พระเพลิง พระพราย พระพิรุน แถมในพระไตรปิฏก ก็มี ยังไงผมก็ว่ามีจริง แต่ หน้าตาเป็นแบบไหนนี่ดิ เอาแค่ รูปปั้นพญานาค ทางขึ้นวัดแถวบ้านผม ไม่มีหนวด ไม่มีเครา แต่รูปปั้นพญานาค ที่ภาคเหนือ ที่ผมมาเที่ยว มีหนวดมีเครา ตกลงเราแค่รู้ว่าถ้ามีเกล็ด มันคือพญานาคแน่ๆ ชัดๆ เลยใช่ไหม - -* ศรัทธาว่า มีจริงก็ ok แล้วครับ
สำหรับผม ผมชอบอ่ะ^^ มันแปลกดี ถ้าถ่ายมาจากต่างประเทศ ผมไม่ดูหรอก เพราะเขาไม่ได้นับถือไม่ได้ศรัทธาเหมือนเรา ถ้าประเทศไทย ถ้ามันมองแล้วไม่ใกล้เคียงกับสัตว์ที่เราเคยเห็น เราจะคิดทันทีเลยว่า นั่นคือ สัตว์ในตำนานความเชื่อของพุทธ แต่ถ้าต่างประเทศเห็นหรือมันออกมาจากต่างประเทศ เขาจะคิดทันที่เลยว่า "เห้ย อีแร้ง" ^^ ขำ ขำน่ะครับ

 

ลองไปตั้งกระทู้ในพันทิปดูไหมครับ

 

ผมว่ารูปมันไม่ได้ตัดต่อหรือว่าอะไรติดหน้าเลนส์กล้องหรอกครับ
ผมว่ามันคือนกจริงๆ ลักษณะการพระพือปีกแบบนี้บอกได้ว่าน่าจะเป็นสายพันธุ์นกนักล่า
นกสายพันธุ์นักล่าเป็นนกที่บินได้เร็วมากทั้งบินหลบหลีกได้เก่งจนเราสังเกตไม่ทันและบินได้สูงทีเดียว บางชนิดสามารถบินอยู่กับที่ได้เหมือนหยุดอยู่กลางอากาศ จะเป็นนกในตำนานหรือไม่ผมคงจนปัญญาที่จะตอบเอาเป็นว่า ตัวอย่างเช่น นกยูง นกยูงยังเป็นนกที่ถูกเอ่ยในตำนานมาเป็นพันๆปีทุกวันนนี้ก็ยังคงอยู่ให้เห็น ทั้งในตำนานฮินดูและพุทธศาสนา ก็เคยกล่าวถึงนกยูงมาก่อนแม้กระทั่งตำนานกรีกโรมันก็มีเรื่องราวของนกยูงเช่นกัน หากจะมีนกที่ชื่อ สดายุ ก็คงไม่แปลกอะไร เหมือนนกปักษาสวรรค์ Bird of Paradise ที่สวยเกินความเป็นจริง ไม่น่ามีตัวตนจริงแต่ก็มีตัวตนจริงๆ
คงต้องเอาไปถามนักปักษาวิทยาว่าน่าจะเป็นนกสายพันธุ์ไหน

 

ถูกต้องนะครับ ท่าน จขกท.

องค์สมเด็จฯช่วงที่พระองค์ท่านเห็นเปรตแถวเขาคิชกูฏ ท่านก็ไม่เล่าให้ใครอื่นฟัง
ท่านเกรงว่า คนที่ไม่เชื่อแล้วยังออกปาก จะไปทัวร์ชมไฟซะเปล่าๆ

ท่านต้องรอให้หลวงพ่อโมคคัลลาห์เห็นก่อนท่านจึงจะพูดน่ะครับ

กรณีรูปของท่าน จขกท.เนี่ยกึ่งๆคาบลูกคาบดอกอ่ะครับ ว่าใช่ไม่ใช่ จริงไม่จริง

ตัวผมเองก็ไม่กล้ายืนยันครับ ฌาณญาณ ตัวผมก้ไม่มี

เอาเป็นว่า ท่าน จขกท.ก็น่าจะปฏิบัติในระดับหนึ่งแล้ว ก็ทำต่อให้เห็นได้นี่ล่ะครับ
ถึงจะเจ๋งเป้ง

แต่ก็นะครับ เห็นเองก็เล่าให้คนอื่นฟังไม่ได้อยู่ดี ก็เล่าเชิงเป็นนิทานแล้วกันครับ

 

นี่แหละครับคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราในสิ่งที่เราเห็นเราก้จะมักมีอาการเคืองเพราะไม่ได้พูดไปกับทางเดียวของเรา
ผมโดนมาเยอะครับหลังๆมาก็ไม่อยากจะโพสต์จะพิมพ์อะไรมาก
เพราะรุ็ว่ามันจะไปขัดกับสิ่งที่เจ้าของกระทู้มองเห็นทำให้เกิดความไม่พอใจเพราะทุกคนต่างหาเหตุมาอ้างว่าไม่ใช่อย่างนั้นอย่างนี้
แต่ส่วนมากเจ้าของกระทุ้อยากให้เออออไปด้วยว่านี่คือสิ่งที่ตัวเองอยากจะบอกให้ทุกคนว่ามันคือความจริง
สรุปผมโดนมาก่อนแล้วและมันเป็นสัจธรรมสิ่งที่รุ็ก็รู็ได้เฉพาะตน
นานาจิตตังอย่ายึดถือครับถ้าคิดว่าดีเราก้เก็บไว้บูชาไม่เสียหายนะครับ

 

ผมก้อว่าลองเอารูปไปลงในพันทิปดูน่ะคับที่นั่นมีคนเก่งๆเยอะคับ
ยังไงก้อขอบคุณที่เอารูปมาให้ดูคับ!

 

คุณลองเอาไปลงก็ได้นะครับ ผมอนุญาติ แต่ผมคงไม่เอาไปลงเองแล้วหละครับ เพราะเบื่อ ถ้าเอาไปลงแล้ว เป็นยังไงบ้างก็กลับมาบอกกันได้นะครับ

 

ก็ใช่แหละครับมันเป็นการรู้ได้เฉพาะตน ต่างคนต่างมอง นานาจิตตัง ซึ่งผมก็ยืนยันสิ่งที่ผมเห็นจากเหตุการณ์ที่ได้พบเจออย่างที่เคยกล่าวไปทั้งหมด ส่วนจิตใครจะเชื่อจะมองเห็นแบบไหนก็แล่้วแต่บุคคลนั้นๆแล้วกันครับ ส่วนเรื่องเคืองคนอื่นไหมผมก็ไม่ได้เคืองนะครับ ผมเพียงแสดงข้อมูลของผมตามที่ประสบมา ไม่ถือว่าเคืองใครนะครับ เชื่อไม่เชื่อก็ไม่มีปัญหา เป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่คิดไปละเมิดหรอกครับ ถ้ามีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมผมก็จะเอามาลงเพิ่มให้ดูอีกครับ คิดว่ามันคงจะเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันต่อไป อาจทำให้บางคนฉุกคิดอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อยแหละครับ สิ่งที่เกิดขึ้นมันได้ผ่านไปแล้วและจะเป็นประวัติศาสตร์ต่อไป

 

เชื่อ (ไม่) ทุกเรื่องครับ

โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าเทวดา นางฟ้า พรหม นรกสวรรค์ นิพพาน มีจริงและถ้าในกรณีคลายๆแบบนี้ว่า พญาครุฑ และพญานาค ก็มีจริงที่ตามชาดกในพระพุทธศาสนาได้บันทึกไว้ และผมเองก็บูชาทั้งพญาครุฑและพญานาคเช่นกัน แต่จะอาศัยตามหลักการในพระพุทธศาสนาเป็นหลักนะครับ

ขอแยกไว้เป็นข้อๆดังนี้นะครับ

1.ผมเชื่อว่าพญาครุฑมีจริง แต่ยัง(ไม่เชื่อ)ที่มาของต้นกำเนิดของพญาครุฑตามลัทธิของฮินดูที่เล่ากันมา เพราะผมยังไม่เคยได้ยินหรือได้อ่านในชาดกทางพระพุทธศาสนาว่าต้นกำเนิดของพญาครุฑก็ดี หรือของพญานาคก็ดีว่ามีที่มาเดียวกันกับของทางฮินดู แต่ผมเองก็ไม่ลบหลู่ความเชื่อของฮินดูนะครับ

2.ที่ท่านเจ้าของกระทู้อธิบายว่าเป็นพญาสดายุนั้นผมก็ขอยังไม่เชื่อเช่นกันครับ เหตุผลเพราะว่าพญาสดายุเป็นตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ซึ่งก็เป็นนิยายทางฮินดูที่แต่งขึ้นมา ซึ่งในพระพุทธศาสนาไม่ได้กล่าวไว้ ลักษณะคล้ายกับสามก๊กนั่นแหละครับคือตัวละครในนิยายนั้นบางตัวก็มีตัวตนจริงๆเช่นโจโฉ เล่าปี่ นั้นก็ได้รับการยืนยันว่ามีจริงๆ แต่นิสัยใจคอหรือที่มาที่ไปต่างๆก็ไม่ได้ตรงกับในนิยายที่เขียนออกมาซะทีเดียว ในนิยายจะถูกแต่งเติมเสริมแต่งให้น่าติดตามมากขึ้น ซึ่งต่างจากความเป็นจริงพอสมควรครับ ฉันใดก็ฉันนั้น แต่ก็ขอย้ำว่าไม่ลบหลู่ในความเชื่อของแต่ละศาสนาครับ และของแต่ละบุคคล

3.ผมเข้าใจท่านเจ้าของกระทู้ว่าท่านอาจจะถ่ายติดได้จริง เป็นรูปที่ไม่ได้ผ่านการตกแต่งมาจริง และท่านเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริง แต่การที่หลายๆท่านได้อ่านและได้โพสต์โต้ตอบออกทำนองคล้ายๆว่าไม่เชื่อนั้น ท่านอื่นที่เขาไม่เชื่อนั้นก็ไม่ผิดหรอกนะครับ ซึ่งท่านเจ้าของกระทู้ก็พยายามอธิบายถึงเหตุผลต่างๆให้ท่านอื่นได้เข้าใจนั้นก็ไม่ผิดเช่นกัน แต่ท่านเจ้าของกระทู้ต้องการจะให้ท่านอื่นๆเชื่อในสิ่งที่ท่านเชื่อนั้น อาจจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่นัก เพราะความเชื่อของแต่ละคนนั้นมีแนวความคิดเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ก็เหมือนกับมีคนมาเคาะกระจกรถท่านเพื่อขายพวงมาลัย แต่ท่านไม่อยากซื้อท่านก็ไม่ซื้อ คนขายพวงมาลัยไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาพวงมาลัยมาใส่มือท่านและขอให้จ่ายค่าพวงมาลัยมา ฉันใดก็ฉันนั้นครับ

4.ผมเชื่อในเรื่องของมิติที่ซ้อนทับกันอยู่และภพภูมิต่างๆว่ามีจริงตามที่ท่านเจ้าของกระทู้เชื่อ มันอาจจะมีช่วงระยะเวลาช่วงหนึ่งที่จังหวะเวลาของภพเราหรือของภพเขาตรงกันในช่วงเวลาสั้นๆที่เราสามารถมองเห็นได้ ยกตัวอย่างจังหวะเวลาดังว่าเปรียบเทียบกับการเกิดสุริยุปราคาซึ่งทั้งโลกทั้งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ต่างก็มีวงโคจรเป็นของตัวเอง แต่ก็จะมีจังหวะหนึ่งที่ทั้งสามดวงโคจรมาอยู่ในระนาบเดียวกันก็จะเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น แต่ว่าพอสักพักก็จะคลายตัวออกไปตามวงโคจรของใครของมัน เพียงแต่ว่ามิติที่ซ้อนทับนั้นเราไม่อาจะเห็นด้วยตาเปล่าได้ง่ายๆ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน

สุดท้ายนี้ถ้าการแสดงความเห็นของผมได้ทำให้ท่านผู้ใดไม่พอใจหรือไม่ถูกใจ ก็ต้องขอโทษเป็นอย่างสูงด้วยนะครับ และผมไม่ขอโกรธหรือตำหนิท่านอื่นๆด้วยเพราะในเมื่อเราแสดงความเห็นออกมาสู่สาธารณะชนก็ต้องพร้อมรับทั้งคำตำหนิและคำชม เพราะถ้าไม่พร้อมรับก็ไม่ควรที่จะแสดงความเห็นอะไรออกมา สู้เก็บไว้คนเดียวก็คงไม่มีใครตำหนิหรือว่าชมได้
ขอบคุณครับ

 

แต่ผมชอบที่ คุณ palati แสดงความคิดเห็นนะ.

 

ส่งการบ้านท่าน จขกท เจ้าค่ะ

ไม่ได้เข้ามาป่วนใคร แต่ท่าน จขกท ขอให้เพื่อนสมาชิคใช้วิจารณญาณ ในการชม
เชื่อว่าภาพที่ได้เป็นภาพที่ถ่ายได้จริงมิได้มีการแต่งภาพขึ้นมา
แต่หนูก็ใช้วิจารณญาณ แบบที่หนู คิดว่ามันน่าจะเป็นและชี้ให้เห็นในมุมที่ต่าง
ที่น่าจะเป็นไปได้นะเจ้าค่ะ ไม่ได้มาเถียงข้างๆคูๆแบบลอยๆ

สรุปกระทู้นี้หนูขอจบตรงนี้นะจ๊ะ

 

ขอตอบนะครับว่า
1 ผมไม่เคยบอกให้ใครเชื่อว่าเป็นพญาสดายุเลย ลองไปอ่านข้อความทุกข้อความของผม แม้กระทั่งเรื่องเล่าถึงเหตุการณ์ ในการถ่าย ผมก็ยังพิมพ์บอกอยู่นะครับ ว่าสันนิฐานกันไปต่างๆนาน แล้วก็ยังแอบคิดว่าอาจจะเป็นสิ่งไม่ดีก็ได้ ถึงกลับไปลบทิ้ง เมื่อหลายปีก่อน
2 ผมก็ยังเล่าถึงว่าผมบังเอิญได้ไปตำหนักพญาครุฑ ซอย อ่อนนุช 66 แล้วลองถามท่านว่า รูปที่ผมเคยถ่ายติด คืออะไร แล้วท่านก็บอกว่า พญาสดายุ ซึ่งผมก็ยังไม่ปักใจเชื่อ จึงเอาภาพนี้เข้ามาตั้งกระทู้ลองถาม เชิญ ท่าน ที่มีญาณทั้งหลายช่วยดูหน่อยนะครับ ว่าใช่ไหม
3 เมื่อมีคนเข้ามาดูแล้วมีคอมเม้นแรกๆ ก็จะบอกว่าผมตัดต่อภาพ ผมจึงเอารูปอีก 2รูปมาให้ดูแล้วเช็ค ว่าได้ตัดต่อหรือไม่ นี่ต้องดูนะครับ ว่าประเด็นแรก คือ คนที่เข้ามาดูคิดว่าผมแต่งรูป พอรู้กันแล้วว่าไม่ได้แต่งรูป ก็มีอีกประเด็นงอกขึ้นมา คือ
4 ท่านที่เข้ามาคอมเม้นทั้งหลายบอกว่าเป็นนกธรรมดา ซึ่งผมก็ บอกว่ามันไม่ธรรมดา แต่ไม่เคยบอกยืนยันว่า เป็น พญาสดายุจริงๆหรือไม่ หลังจากนั้นผมก็ถกเถียงประเด็นที่ว่า ถ้าเป็นนกธรรมดา จะหายตัวไปได้รวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร ทั้งๆที่ท้องฟ้าเปิด ไม่มีเมฆ ไม่มีที่ให้นกตัวใหญ่ขนาดนั้นหลบได้ นี่คือสิ่งที่ผมถกเถียงกับเพื่อนสมาชิคมา แล้วผมก็ยังไม่เคยบอกเลยนะครับว่าเป็นพญาสดายุจริงๆ ลองกลับไปทวนคำพูดผมดูได้ ผมก็ยังบอกว่าไม่เคยอยากจะไปบังคับใครให้เชื่อนะครับ แต่ผมกำลังจะบอกว่า ที่ถ่ายติดนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่นกธรรมดา แค่นั้น แต่ หลายท่านคงไปยึดติดกับ หัวข้อกระทู้ซะมากกว่า จนลืมอ่านเรื่องราวที่ผมเล่าเหตุการณ์ไปหรือเปล่าครับ

 

นึกว่าหัวข้อกระทู้คือ "ถ่ายติดพญาสดายุ" ซ๊ะอีก

 

ข้อ 1 ผมอยากจะพูดว่า ภาพนี้มันเป็นเพียงภาพ 2 มิติ โดยไม่สามารถวัดความกว้างของวงแหวนจริงๆได้อย่างชัดเจน ใช่ไหมครับ
2 ผมอยากจะพูดแค่ว่า ดังนั้นระยะห่างของวงแหวนพระอาทิตย์ทรงกลด กับ นกที่บินอยู่มันวัดระยะความห่างทางแท้จริงไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นเพียงมุมในการถ่าย ที่ทำให้ดูเหมือนใกล้กัน
3 ดังนั้น หากจะวัด ความห่างระหว่างวงแหวนกับนกจริงๆแล้ว มันอยู่ไกลกันแค่ไหน ก็บอกไม่ได้ครับ ผมจึงจะบอกว่า เรื่องเวลา 24 วินาที ที่ถ่ายภาพที่ 2นั้น มันจึงไม่หน้าจะวัดได้ว่านกนั้น บินออกไป จากวงแหวน ได้หรือยัง เพราะวงแหวนแท้จริงมันกว้างใหญ่มาก เพียงแค่มุมถ่ายเป็นแนวระนาบ ภาพวงแหวนกับนกมันจึงเหมือนจะอยู่ไม่ห่างกัน

ผมก็ไม่ได้จะมาเถียงอะไรกับผุ้มีความรู้อย่างคุณคนสวยนะครับ^_^

 

ไม่ใช่นะครับ ผมแค่มาถามผู้มีญาณ ต่างหากครับ ว่าใช่ไหม ไอ้หัวข้อกระทู้ก็ต้องตั้งให้มันหน้าสนใจ ไม่ใช่เหรอครับ ก็เหมือนพาดหัวข้อข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ไงครับ เมื่อหัวข้อข่าวหน้าสนใจแล้ว ก็ต้องมาอ่านเนื้อหาข่าวให้ละเอียดว่า มีใจความอย่างไร ^_^

 

แล้วแต่ใจจะไขว่คว้าแล้วละนะงานนี้ ใครเชื่อแบบไหนก็เชื่อไป แอบเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของหลายๆท่าน