ประกาศชี้แจง เรื่องหลักธรรมะ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย telwada, 28 ตุลาคม 2007.

  1. nutman

    nutman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +259
    ู^_^ ไม่รู้ไม่เป็นไรครับ
    ว่าแต่ หนึ่งใน คุณสมบัติของ พระพุทธเจ้า คือ จะต้องมี พุทธวิสัย
    พุทธวิสัย คือ รู้ทุกเรื่องนี่ครับ หรือผมโง่เอง

    ^_^

    คำถามต่อไป
    จิต คือ อะไรครับ
    ใจ คือ อะไรครับ
    แล้ว จิต กับ ใจ ต่างกันยังไง

    ^_^

    ผมถามทาง ธรรมนะครับ ^_^
     
  2. TK the Naka

    TK the Naka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,190
    ที่ถามพี่เทวดาเพราะว่ายังไม่เข้าใจในคำอธิบายที่พี่โพสท์บอกคนอื่นๆไว้
    ต้องการฟังหลักการของพี่ว่าพี่คิดเห็นอย่างไร เพราะหลักการที่พี่บอกมาล้วนขัดแย้งต่อหลายๆสิ่งที่ผมได้รับรู้มา จึงอยากให้พี่มาอธิบายให้เข้าใจ เพราะผมเป็นคนยอมรับความคิดทุกความคิด แต่จะเลือกเฉพาะที่ดีที่สุดสำหรับตนเองนะครับ
    เพราะเห็นพี่เป็นคนมีหลายหลักการดี เลยอยากฟังความคิดเห็น หวังว่าคงไม่ขัดเคืองอะไร แต่ที่โพสท์ถามไปข้างบนก็กรุณาตอบให้หมดด้วยครับ ขอบคุณ
     
  3. ก้านคอคลับ

    ก้านคอคลับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +183
    ขอบอกเพิ่มเติมอีกนิดครับว่า
    สิ่งที่เขาบอกมา ยังขัดแย้งกันเองเลย




    จ๊ากกกก....ข้านี้หรือ คือพะสีอาน....อะจ๊ากกกกกกก
     
  4. wib

    wib Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +34
     
  5. hnokpisit

    hnokpisit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +267
    ...

    อย่าว่าเขาเลยครับ
    ผมเห็นมาหลายเว็บแล้วครับ

    ข้าคือเทพเจ้า อย่ามายุ่งกับข้านะ
    55+ ผมอ่านแล้วโครตโจ๊กเลย

    หลักการอะไรก็ไม่รู้ บอกจะไม่เอา พระธรรมมาเกี่ยวข้อง
    แต่ก็เอามาผสมนิดจับนี่มาหน่อย
    อ่านเยอะไป หรือบ้าเกินไป จะเป็นแบบนี้หล่ะ

    หลักการใช้คำก็สะถุนมาก ในการตอบ ในการพูด ในหลายกระทู้

    เทวดาเขาใช้คำพูดอย่างนี้กันหรือวะนี่ ยิ่งกว่าเราพูดอีก
    แล้วจะมาให้คนเชื่อ ให้คนนับถือ
    พันปียังไม่มีหน้าไหนเชื่อเลย
    อีโก้ก็เยอะ ใจร้อน เอาข้ออ้างจากหนังสือเข้ามาแทรก
    แถ ไปเลยๆ

    เห็นมาเยอะแล้วครับประเภทนี้

    ในบางกระทู้ คุณหมอให้ไปตรวจสุขภาพจิต พูดดีๆ ก็ไปด่าเขาอีก
    กำเวร คนไข้มักไม่ไปหาหมอเพราะว่าคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร

    พระพุทธเจ้านั้นเขาสอนหลักธรรม ถ้าใครมาขัดแย้งก็จะไม่โต้ตอบ
    ผิดกับคุณ

    พระเยชู คริส ยอมสละชีวิตเพื่อทุกคน
    คุณยอมไหมล่ะ

    ผมก็พูดได้ ว่าผมก็เป็นเทวดา
    ใครๆ ก็พูดได้

    คุณก็พูดได้ ผมก็คิดหลักการแบบคุณได้
    แต่ทำไมผมไม่ทำ ก็เพราะผม ยังเป็นคน คนนึงที่เดินบนโลก
    ที่มีปัญญาครบส่วน ไม่เกิน หรือ ขาด

    ใครๆ ก็พูดได้ครับ มันอยู่ที่การกระทำ ของคุณเอง
    ดังเช่น พระศาสดาอื่นๆ ที่เขาได้ทำกัน

    คุณทำเช่นนี้ก็เหมือนไอ้บ้าคนนึ่ง ที่ใครเขามาแย้งก็มาด่าเขา
    แล้วใช้ภาษาที่ไพร่เขาใช้กัน พูดกันตรงๆ
    ถ้าคุณเป็นประเภทที่ ละทิ้งได้หมดแล้ว
    ไม่ว่าคำด่าเท่าไร คำพูดเท่าไร
    ก็ทำไรคุณไม่ได้ อย่างกับภูเขาที่ตั้งตะหง่าน
    แต่นี้อะไรนิดอะไรหน่อยก็มาด่าเขากลับ
    พระศาสดาอื่นเขาไม่ทำกัน เพราะมันเป็น สันชาติญาญสัตว์
    ที่ใครจะมาขัดแย้งกับตนไม่ได้
    พระศาสดาอื่นเขาจะไม่ยึดติดครับ
    แต่คุณยึดติดเต็มๆ
    พระศาสดาอื่นเขาจะไม่ฟังคำติฉินนินทา
    เขามีหน้าที่เผ่ยแพร่ศาสนาอย่างเดียว ไม่ข้องเกี่ยวกับสิ่งพวกนี้
    แต่คุณมีเต็มๆ เลยครับ

    แล้วจะให่เรียกคุณว่าเทวดา หรือพระศรีอาน อีกหรือ

    เชื่อไหมเดียวเขาก็จะมาด่าเราอีก คอยดู



    เราคือเทวดา ผู้วิเศษ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2007
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ที่คุณกล่าวมา เป็นความเข้าใจผิด ของคุณ อีกทั้ง คุณยังมีความคิดที่ตื้นเขิน ไม่มีใครที่จะรู้ทุกเรื่อง ดอกขอรับ เพราะเรื่องบางเรื่อง จะรู้ก็ได้ไม่รู้ก็ได้ เพราะไม่มีผลต่อการปฏิบัติธรรม
    อย่างเรื่อง ที่คุณถามว่า "ดวงจิตดวงแรกมาจากไหน" อะไรนั่นแหละ คุณรู้ไหม ไม่ใครถามอย่างนั้น ดอกนะ เพราะคุณรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร รู้แล้ว ก็ไม่ก่อให้เกิดการแปลงความรู้ให้เป็นการปฏิบัติ
    ข้าพเจ้า ขออัญเชิญ พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ซึ่งทรงกล่าวไว้ในวันปีใหม่หรืออะไรสักอย่าง จำไม่ได้ พระองค์ทรงกล่าวมีกระแสพระราชดำรัสในตอนหนึ่งไว้ว่า
    " จงทำปัจจุบันให้ดี แล้วท่านทั้งหลายก็จะดีไปเอง"

    ส่วนคำถามของคุณ ที่ถามว่า จิตกับใจ คืออะไรนั้น คำถามข้อนี้ อนุโลม ว่าควรรู้ได้ เพราะจะได้เกิดความเข้าใจไม่สงสัย
    จิตกับใจ ก็คือ สิ่งสิ่งเดียวกัน ความแตกต่าง แตกต่างกันตรงที่ภาษา และความหมายเพียงเล็กน้อย
    แต่ถ้าจะกล่าวโดยรวมแล้ว
    จิต หมายถึง จิตวิญญาณ
    ใจ หมายถึง หัวใจ อันเป็นที่สถิตย์แห่งจิตวิญญาณ หลัก สมองและส่วนอื่นๆ จะเป็นที่สถิตย์ จิตวิญญาณ รองๆลงไป
     
  7. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณถามเรื่องอะไร
    หลักการของข้าพเจ้าขัดแย้งกับคนอื่น หลักการหรือหลักธรรมะศรีอาริย์ใช่ไหม
    ถ้าใช่
    คุณก็ไปคิดพิจารณาเอาเอง อ่านให้ดี พิจารณาให้ดี ไม่เข้าก็ถาม ตอบได้ก็จะตอบ แต่บางอย่าง จะไม่ตอบ
    ถ้าจะพิจารณา ก็ขอแนะนำให้มองดูพฤติกรรมของตัวคุณเองแลคนรอบข้าง คือมองจากตัวคุณออกไป
     
  8. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    [ข้อความของคุณ Wip
    คุณ เทวดา ทราบไหม คำสอนของพระพุทธเจ้า กล่าวว่า


    คุณ ประกาศธรรมออกมา หากผู้คนไปพูดให้ใครฟังเป็นทุกข์ เห็นได้ชัด

    คุณ ประกาศธรรมออกมา ผู้คนเห็นแล้วเป็นทุกข์ เห็นได้ชัด

    คุณ ประกาศธรรมออกมา ผู้คนนำไปกล่าวต่อ จะทำให้เขาผู้นั้นว่าสติเสีย

    คุณ ประกาศธรรมออกมา หากผู้คนนำกล่าวต่อ หากผู้ใดได้สัมผัส เขาจะ
    หาว่าบ้า

    หากคุณ ไม่มีสาวก ก็เท่ากับไม่มีคน เป็นพยานในหลักธรรมของ คุณ

    ซึ่งต่างจากพระพุทธเจ้า ซึ่งมีพยาน และสาวกมาถึง 2500 ปี

    ในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้ว่า


    หู ตา จมูก ปาก และกายสัมผัส เป็นต้นเหตแห่งการเกิดทุกข์

    หากไม่ฟังเรื่องไม่ดี ไม่ดูเรื่องไม่ดี ไม่ได้กลิ่นๆ ไม่ดี และไม่สัมผัส
    สิ่งไม่ดี ย่อมไม่เกิดทุกข์

    หากคุม หู ตา จมูก ปาก และกายสัมพัสได้ คุณก็เป็นปัจเจกพระพทธเจ้า
    ได้
    สาธุ[/QUOTE]

    คำตอบ..........
    แล้วคุณรู้ไหมว่า หลักธรรมของศรีอารย์ กล่าวไว้ว่าอย่างไร
    หลักธรรมของศรีอารย์ กล่าวไว้ว่า
    เครื่องดิ้นรนแห่งสรรพสิ่ง อันมีองค์ 8 ล้วนเป็นสิ่งที่ต่อให้เกิด อารมณ์ ความรู้สึก ทั้งที่เรียกว่า ความทุกข์ ทั้งที่เรียกว่า ความสุข รวมไปถึงสภาพสภาวะจิตใจในรูปแบบต่างๆ ประกอบไปด้วย

    1.ทาน 2. การครองเรือน
    3.กตัญญู 4.เจรจา
    5.สรรพอาชีพ 6.ประพฤติ
    7.ระลึก 8. ดำริ

    ถ้าคุณพิจารณา ได้อย่างรอบคอบ คุณก็พบทางสว่างในตัวคุณแล้วนะ
    ส่วนเรื่องอื่นที่คุณกล่าวมา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยนะ จะมีสาวกหรือไม่มีสาวก ก็ไม่เดือดร้อนนะคุณ และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรดอกนะ เรื่องธรรมด๊า ธรรมดา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2007
  9. nutman

    nutman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +259
    มีข้อสงสัยตรงที่ว่า
    อาจารย์บางท่าน มักพูดว่า เมื่อปฎิบัิติตามแนว มหาสติปัฎฐาน 4 แล้วนั้น
    จิตกับใจ จะแยกออกจากกัน จะรู้ว่า ใหนจิต ใหนใจ

    นั่นแปลว่า เมื่อ จิตกับใจ เป็นสิ่งเดียวกัน อย่างที่คุณ เทวดา กล่าว มันจะแยกออกจากกันได้อย่างไร

    คำถามอีกข้อ
    จิต สติ ความคิด
    อันไหนมาก่อนมาหลัง
     
  10. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้าพเจ้าไม่ได้ฝึกตามแนว มหาสติปัฏฐาน 4 ข้าพเจ้าคงไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร

    ข้าพเจ้าเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับจิต แต่ลบไปแล้ว
    เอาเป็นว่า อาจารย์ที่คุณกล่าวถึงนั้น อาจจะหมายกายทิพย์ ก็เป็นได้ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่า กายทิพย์เป็นอย่างไร เพราะเมื่อปรากฎการณ์ทางสรีระร่างกายของข้าพเจ้าเกิดขึ้นในบางครั้ง สรีระร่างกายของข้าพเจ้าจะโปร่งแสง สามารถมองทะลุผ่านได้ อันนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่ข้าพเจ้าเรียกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า "นิพพาน" (ยืมเอาคำศัพท์ทางศาสนาพุทธมาใช้) เพราะข้าพเจ้านับถือพุทธ และศึกษาค้นคว้า วิจัย มาทางพุทธ แต่เขาจะออกกฏหมายลูกมาบังคับ ก็ต้องแยกตัวออกมา และจะเรียก ปรากฏการณ์ทางสรีระร่างกายนี้ใหม่ว่า
    ชั้น "มหาพรหม"

    อนึ่งคุณต้องทำความเข้าใจ อีกอย่างหนึ่ง ในเรื่องเกี่ยวกับจิต และใจ ตามที่ข้าพเจ้าได้เขียนไป
    ถ้านับในทางศาสนา จิต และใจ คือตัวเดียวกัน
    ถ้าจะนับในทางอื่น จิต และใจ จะมีความหมายแตกต่างจากกัน จิต น่าจะมีความหมายถึง จิตวิญญาณ หรือจะเรียกสั้นว่า วิญญาณ ก็น่าจะถูก
    แต่ถ้าเป็นในทางหลักธรรมศรีอาริย์แล้ว จิตกับใจก็คือตัวเดียวกัน ต่างกันที่ภาษา แต่จิตและใจ เป็นนิวเคลียส หรือเกิดจากการรวมตัวของนิวเคลียส และนิวเคลียส แห่งจิตหรือใจนั้นสามารถจะคลื่นที่หรือไหลไป หรือลอยไป ได้ หากฝึกปฏิบัติ ไปจนถึงระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างมากมายหลายประการ (อาจจะสับสนไปบ้างเล็กน้อย เพราะการเขียนให้ผู้อื่นเข้าใจนั้น บางครั้ง มันเขียนสั้นๆก็อ่านไม่ค่อยจะรู้เรื่อง)

    ส่วนคำถามที่ว่า จิต สติ ความคิด อันไหนมาก่อนหลัง ไม่ทราบว่าคุณจะรู้ไปทำไม จะเอาไปทำข้อสอบหรืออย่างไร ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้เลยนะคุณ แต่เมื่อคุณอยากรู้ ก็จะอธิบายให้ฟัง ตั้งใจอ่าน และทำความเข้าใจให้ดีนะและต้องคิดพิจารณาเอาเองบ้าง หมายความว่าอ่านแล้วก็ตอบได้เองเลยนะ

    คำว่า จิต หรือใจนั้น เป็นอวัยวะ ภายในร่างกายของเรา และดังที่ได้กล่าวไป ในร่างกายเรา ย่อมมีจิตที่เป็นประธาน และจิตที่เป็นรองลงไป ซึ่งก็จัดเป็นอวัยวะต่างๆภายในร่างกายนั่นแหละ

    สติ คือ ความรู้จักระลึกได้ สิ่งที่จะทำให้ระลึกได้ คืออะไร หมายความว่า อวัยวะส่วนไหนที่จะทำให้เกิด ความรู้จักระลึกได้ คำว่า ระลึกได้ ก็คือ คิดได้ คิดถึงอดีตได้ ปัจจุบันได้ อนาคตได้ ซึ่งจะระลึกได้เรื่องอะไรก็ตามแต่ และสติก็คือ ความคิดชนิดหนึ่ง แต่จะคิดถึงเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่เรากำลังกระทำอยู่

    ความคิด ก็คือ สิ่งที่ได้รับจากภายนอก แล้วถูกเก็บไว้ในรูปแบบของคลื่น เก็บไว้ในอวัยวะของร่างกายอีกนั่นแหละ และเราเรียกว่าสมอง เมื่อสมองมีข้อมูลอันได้รับจากประสบการณ์ต่างๆ ก็จะส่งคลื่นไปตามเส้นประสาทเส้นเลือด กล้ามเนื้อ สู่หัวใจ หัวใจก็จะส่งคลื่นนั้นกลับไปสู่สมอง ทำให้เกิดเสียงหรือสัญญาณ อันเรียกว่าความคิด การส่งคลื่นจากสมอง หรืออวัยวะใดใดสู่หัวใจนั้น จะทำให้เกิด อารมณ์ ความรู้สึก และเมื่อหัวใจส่งคลื่นกลับไปที่สมอง ก็จะเกิดความคิด

    เมื่อคุณอ่านทั้งหมดแล้ว คุณก็จะได้คำตอบตามที่คุณต้องการ ถ้ายังสงสัยก็ถามได้อีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2007
  11. wib

    wib Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +34
    ช่วยวิเคราะห์ คำพูดต่อไปนี้ครับ

    คนเราเกิดมา มีหน้าที่ต้องใช้กรรม และสร้างกรรม

    สืบทอดเผ่านพันธุ์

    อบรมจิตใจ

    วิเคราะห์ให้หน่วย ว่าเริ่มต้นมีที่มาอย่างไร ถ้าคุณวิเคราะห์ได้ตรงความคิดผม

    ถือว่าคุณ รู้สภาวะจิตผม
     
  12. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,790
    ค่าพลัง:
    +7,482
    เราว่าเวปมาสเตอร์คงไม่มีเวลาเข้ามาตรวจสอบทุกกระทู้หรอก เพราะเวปค่อนข้างกว้าง และทีมงานก็มีงานประจำทำกันอยู่แล้ว สิ่งที่เวปมาสเตอร์ต้องการก็คือการให้สมาชิกด้วยกันเองออกความเห็นกันเอง ตักเตือน ชักจูงหรือผลักดันกันเอง เว้นเสียแต่ว่ากระทู้มันร้อนแรงเกินไป ทางทีมงานจึงเข้ามาตรวจสอบอีกครั้ง ว่าจะย้ายหรือจะลบกระทู้ ซึ่งเราก็เห็นด้วยกับวิธีนี้นะ เป็นประชามติของสมาชิกที่ดีทีเดียว เพราะฉะนั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้นจะยังคงเปิดกว้างอยู่ตลอดไป และเวปก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องด้วยบอร์ดนี้เปรียบเสมือนกับบอร์ดของทุกๆคน

    หากใครทำไม่ดีก็อยู่ไม่ได้เอง ก็เหมือนกับกรณีเมื่อเร็วๆนี้
     
  13. combasion

    combasion เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +598
    ข้าพเจ้าเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับจิต แต่ลบไปแล้ว
    เอาเป็นว่า อาจารย์ที่คุณกล่าวถึงนั้น อาจจะหมายกายทิพย์ ก็เป็นได้ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่รู้อีกนั่นแหละว่า กายทิพย์เป็นอย่างไร เพราะเมื่อปรากฎการณ์ทางสรีระร่างกายของข้าพเจ้าเกิดขึ้นในบางครั้ง สรีระร่างกายของข้าพเจ้าจะโปร่งแสง สามารถมองทะลุผ่านได้ อันนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะ แต่ข้าพเจ้าเรียกปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า "นิพพาน" (ยืมเอาคำศัพท์ทางศาสนาพุทธมาใช้) เพราะข้าพเจ้านับถือพุทธ และศึกษาค้นคว้า วิจัย มาทางพุทธ แต่เขาจะออกกฏหมายลูกมาบังคับ ก็ต้องแยกตัวออกมา และจะเรียก ปรากฏการณ์ทางสรีระร่างกายนี้ใหม่ว่า
    ชั้น "มหาพรหม
    - ถ้าอย่างนั้นวิญญาน ที่ตายไปแล้วก็แสดงว่าเอข้านิพานสิครับไม่ต้องกกลับมาเกิดใหม่ใช่ไหม เพราะ โปร่งแสงสามารถมองทะลุได้

    จิต สติ ความคิด ตามที่ผมเข้าใจนะครับ
    จิต คือผู้รู้ รู้ในความเป็นจริง อย่างเห็น ขาว ก็รู้ว่าขาว เห็นดำก็รู้ว่าดำ ผิด ก็รู้ว่า ผิด ถูก ก็รู้ว่า ถูก จิต มันจะรู้ของมันเอง
    สติ คือ ปัจจุบัน รู้กิริยาใหญ่ว่า นั่ง นอน เดิน ยืน รู้ไว้ในปัจจุบัน กิริยาย่อย ยกแขนยกขา พูด คุย คือปัจจุบัน คือสติ ในการระลึกรู้อนาคต อดีต ตามที่ท่านเทวดาบอกกล่าวผมไม่แน่ใจนะครับว่าใช่สติหรือไม่ครับ แต่ผมยึดตามแนวพระพุทธเจ้าของเราว่า ให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน อดีตเป็นไงปล่อยมัน อนาคตจะเกิดอะไรก็ช่างมันครับ
    ความคิด คือ สิ่งที่ปรุงแต่ง เกิดจากสมองของเรานี้เหละ คือ เราเห็นขาว เรารู้ว่าขาว แต่จะปรุงแต่งว่าชอบ หรือไม่ชอบ ได้กลิ่นหอม ก็ปรุงแต่ง ว่าชอบหรือไม่ชอบ พอเกิดความคิดปรุงแต่งไปเรื่อยๆ จนสะสมมากๆก็จะกลายเป็นนิสัยของแต่ละคน ว่าเป็นคน แล้วแต่ว่าจะถูกปรุงแต่งมาอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2007
  14. nutman

    nutman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +259
    ขอบคุณครับ

    อย่าง จิต กับ ใจ ที่ผมเข้าใจนั้น
    ในทาง พระพุทธศาสนา แปลอย่างนี้ (คนไม่เห็นด้วยแย้งได้นะครับ)
    คำว่า ใจ หรือ หทัย แปลว่า กล่องเก็บอารมณ์ เพราะทุกอย่างมันมาจากใจ เช่น เรารักใครชอบใคร
    ถามว่ารักที่ไหน รักที่สมอง หรือ รักที่ใจ เป็นต้น

    คำว่า จิต แปลว่า คิดตามอารมณ์ เรามักได้ยินคำว่า "จิตเกิด" ยกตัวอย่าง มีกระทู้ที่ความคิดเห็นไม่ตรงกับเรา (ไม่ขอพูดว่าผ่าน ผัสสะไหนบ้าง) พอมาถึงใจ เราไม่พอใจ เกิดอารมณ์ ทำให้ "จิตเกิด"

    แต่จะมีอีกคำก็คือ จิตเดิมแท้ นั่นคือ จิตที่เป็นนิพาน ไม่ใช่ เห็นกายในกาย เป็นตัวใสๆ

    คำถามต่อไปครับ

    อะไรคือ ทุกข์ ในหลักธรรมของ พระศรีอารย์

    ^_^
     
  15. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ตอบ........ นั่นเป็นความคิดของคุณ แต่ข้าพเจ้าจะแนะนำคุณไว้สักเล็กน้อยว่า การคิดพิจารณาสิ่งใด ควรได้คิดพิจารณา ให้เป็นไปตามหลักความจริง ตามธรรมชาติ
    อย่างคำว่า "สติ" ตามความเข้าใจของคุณที่กล่าวมา ก็แสดงว่า คุณไม่ได้สังเกตหรือสนใจตัวคุณเองเลย คุณก็เลยเข้าใจไปตามที่คุณได้รับการขัดเกลามา โดยความรู้เท่าไม่ถึงกาล ฉะนั้นคุณควรได้ทำความเข้าใจคำว่าสติให้ดีกว่านั้น

    เรื่อง ความคิดก็เช่นเดียวกัน คุณจะยึดถือตามแนวทางใด ก็เหมือนกันทั้งนั้นและคุณ จะต่างกันก็ตรงที่ภาษา และภาษานั่นแหละที่ทำให้คุณไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2007
  16. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    แล้วข้าพเจ้าจะวิเคราะห์ตรงกับความคิดของคุณเพียงเพื่อต้องการรู้สภาวะจิตของคุณ เพื่ออะไรกันละคุณ
     
  17. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้าพเจ้าไม่โต้แย้งคุณเรื่อง จิตหรือใจอะไรนั่น เพราะจริงแล้ว ไม่รู้ก็ได้ จะรู้ก็ได้ แต่ขอเตือนคุณไว้อย่างหนึ่งว่า จะรู้อะไร ก็ให้เรียนรู้ ตามหลักความจริงตามธรรมชาติ เพราะศาสนามาจากธรรมชาติ และคุณควรแยกแยะในการใช้ภาษา เช่นภาษาบางคำ อาจจะไม่สามารถนำไปใช้ในการพูดให้เหมาะสมได้ ภาษาเป็นเพียงบอกให้รู้ แต่ความจริงย่อมต้องเป็นอีกแบบหนึ่ง ดังเช่นที่คุณยกตัวอย่างมา ว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องมาจากใจ นั่นเป็นภาษาพูด ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เพราะหากจะพูดอธิบายว่า "จะรักใคร จะต้องมีข้อมูลที่ได้จากการพบปะ พูดคุย ได้ใกล้ชิด แล้วใจจึงจะมีอารมณ์และความรู้สึก หรือสภาพสภาวะจิตใจที่เรียกว่า รัก" อย่างนี้ คงไม่มีใครเขาพูดกัน
    เขาก็พูดสั้นๆว่า รักจากใจ
    ส่วนเรื่องมั่วๆ อื่นข้ามไปไร้สาระ
    ส่วนคำถามที่คุณถามมา ว่า "อะไรคือ ทุกข์ ในหลักธรรมศรีอาริย์"
    ความจริงถ้าคุณอ่านกระทู้แรกเลย ก็น่าจะรู้แล้วว่า อะไรคือ ทุกข์ ในหลักธรรมศรีอาริย์ แต่ไม่เป็นไร จะตอบให้อีก ถือเป็นการทบทวน ดังนี้

    หลักธรรมะศรีอาริย์ หลักธรรมนี้ เป็น หมวดบทเรียนหนึ่ง ในหลายหมวดบทเรียน มีชื่อว่า
    "เครื่องดิ้นรนแห่งสรรพสิ่ง อันมีองค์ 8 ล้วนเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิด อารมณ์ ความรู้สึก หรือสภาพสภาวะจิตใจ ที่เรียกว่า ความทุกข์ หรือความสุข ประกอบไปด้วย

    1. ทาน 2. การครองเรือน
    3. กตัญญู 4. เจรจา
    5. สรรพอาชีพ 6. ประพฤติ
    7. ระลึก 8. ดำริ

    ถ้าอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ ก็ขยายความว่า ทั้ง 4 คู่ 8 ข้อ นั่นแหละคือสิ่งที่เป็นความทุกข์ หรือเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความทุกข์
    อนึ่ง คุณไม่ต้องแสดงความคิดเห็นดอกนะ เพราะข้าพเจ้าจะไม่แยกแยะรายละเอียดในทุกข้อให้คุณหรือให้ใคร
     
  18. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    มีซิขอรับ ถ้าคุณได้เรียนแพทย์ หรือไม่ได้เรียนก็ศึกษาได้ แล้วก็จะรู้ว่า เส้นประสาทจากสมองสู่หัวใจหรือจากหัวใจสู่สมองเขาเรียกว่าอะไร หาดูตามเวบฯต่างๆก็ได้ขอรับ มีเยอะแยะ
     
  19. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อย่าสนใจเลยขอรับ รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ข้าพเจ้าตอบมั่วไปอย่างนั้นแหละอย่าคิดมากเลยคุณ
     
  20. nutman

    nutman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +259
    ทางสายเอก ของพระพุทธศาสนา ก็คือ
    มหาสติปัฎฐาน 4 ซึ่งแปลว่า เห็นตามจริง
    หลักการปฎิบัติ ก็คือ ให้รู้ กาย เวทนา จิต ธรรม
    ผลของการปฎิบัติ คือ มีสติ อุปมาว่า เป็นการฝึกสติ หรือ สะสมสติให้มีมาก

    คำของท่านเทวดา ที่กล่าวว่า "จิตหรือใจอะไรนั่น เพราะจริงแล้ว ไม่รู้ก็ได้ จะรู้ก็ได้"
    ผมขอแย้ง ประโยคนี้ ครับ



    ก็เพราะว่าผม อ่านกระทู้แรกแล้วไม่เข้าใจไงครับ
    ก็เลย จะถามเป็น ข้อๆ ทีละเรื่อง

    ข้อแรก ก็คือ ทุกข์ ในความหมายของ พระศรีอารย์ นั่นแหละ ที่ผมยังไ่ม่เข้าใจ


    คำถาม ต่อไป
    เราจะต้องปฎิบัติยังไง ให้บรรลุ ธรรม ครับ ^_^
     

แชร์หน้านี้

Loading...