เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    จะจดข้อความนี้ไว้ในสมุดบันทึก และจำไว้ในจิตวิญญาณตลอดไปเลยค่ะ พี่นักเขียน และขอขอบคุณพี่นักเขียนมาก ๆ เลยค่ะ ที่แนะนำเคล็ดลับในการทำความเข้าใจข้อมูลในหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย เมื่อวานนี้ระหว่างอ่านหนังสือก็คิดแว๊ปขึ้นมาเหมือนกันค่ะว่า เราจะสามารถจดจำข้อมูลความรู้ที่ท่านอาจารย์มอบมาให้ทั้งหมดได้อย่างไร ในเมื่อเราอ่านเล่มนี้เสร็จไปอ่านเล่มใหม่ก็ชักจะลืมเรื่องเดิมอีกละ เพราะว่าความรู้ที่พี่นักเขียนถ่ายทอดมานั้นมากมายเหลือเกินค่ะ.. เลยได้คำตอบแบบบังเอิญแต่ไม่บังเอิญอีกแล้วค่ะ..
    (b-ping)
     
  2. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    วันก่อนที่ Post เรื่องราวของจักระไว้และตั้งใจว่าจะถามคำถามเมื่อพี่นักเขียนกลับมา ก็ปรากฏว่าเมื่อคืนก็ฝึกวิธีการนอนสมาธิตามปกติแล้วก็สัมผัสได้ว่าพลังงานไม่ได้หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายทางใดทางหนึ่งอย่างที่พี่นักเขียนกล่าวเลยค่ะ เพราะฉะนั้นจักระที่เราเคยศึกษาก็ไม่มีความหมายสำหรับเราอีกแล้ว เนื่องจากสัมผัสได้ว่าทุกอนูของร่างกายเรานั้นสามารถรับพลังงานได้ทั้งหมด และไม่ต้องเกรงกลัวว่าจะมีสิ่งลี้ลับใด ๆ มาทำอะไรเราได้ในขณะที่เรากำลังฝึกสมาธิอยู่ถ้าหากเราเชื่อว่าไม่มีอะไรมาทำอะไรได้ ( รึอาจจะเป็นเพราะว่าน้องนกกำลังหาข้อมูลในเรื่องของจักระอยู่ก็ไม่รู้นะคะจึงทำให้พิมพ์มาให้ซะยืดยาวเลยค่ะ.. )

    สำหรับความรู้สึกที่ว่าปราศจากร่างกาย แขนขา โปร่งใส หรือเป็นหนึ่งเดียวกับพลังงานนั้นขจรวรรณเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งที่ฝึกสมาธิตามแนวสติปัฏฐาน 4 แล้วพบว่า ร่างกายขณะที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้นไม่มีความรู้สึกแรก ๆ จะรู้สึกกลัวมากกลัวว่ากายที่อยู่ข้างในจะหลุดออกไป ต้องคอยสะบัดมือเป็นระยะ ๆ เพื่อให้รู้สึกว่ามีแขนขาอยู่ หลังจากนั้นก็พบว่าขณะที่ไม่มีความรู้สึกอยู่นี้ เรามีความสุข ปิติ อิ่มเอิมใจอย่างบอกไม่ถูก แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีพระองค์นึงเดินเข้ามาหาเราและพูดขึ้นมาว่าเรากำลังติดสุขอยู่ให้กำหนดรู้ไว้..

    และเมื่อไม่นานมานี้ก็มีโอกาสได้พบพระที่สอนภาวนาว่า ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดี ด้วยเหตุบังเอิญ ว่าเพื่อนแจ้งมาว่าจะมาทำบุญสร้างศาลาปฏิบัติธรรมแถว ๆ ที่ทำงาน ก็เลยออกไปพบ เมื่อเค้าทำกิจกรรมอะไรกันเรียบร้อยแล้วก็เลยไปนั่งอยู่บนเก้าอี้เพื่อพักผ่อนก่อนกลับที่ทำงาน ก็ปรากฏว่าพระอาจารย์ท่านนั้นก็เดินมาและยืนอยู่ข้างหน้าเราลักษณะเหมือนกำลังบรรยายธรรมอยู่ และท่านก็พูดขึ้นมาว่ามีอะไรจะถามอาตมามั้ย.. เราก็เฉย แล้วท่านก็คุยกับญาติโยมท่านอื่นต่อ แล้วท่านก็ยังหันมาถามอีกว่ามีอะไรจะถามอาตมามั้ยเป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 3 - 4 ครั้ง จึงตัดสินใจพูดขึ้นมาว่าเราก็ไม่รู้จะถามอะไรท่านแต่มีอยู่เรื่องนึงที่ตัวเองกำลังมีปัญหาอยู่ก็คือการยึดติดกับตัวตน ประมาณว่าใครว่าไม่ได้ โกรธ โมโห ท่านก็เลยแนะนำให้ลองใช้วิธีง่าย ๆ ในแบบของท่านดู เพราะเป็นปัญหาของคนรู้มาก และท่านก็บอกว่าเรากำลังยึดติดกับความสงบอยู่

    ก็เลยสงสัยขึ้นมาว่าแล้วการที่เราฝึกสมาธิ จุดประสงค์ที่แท้จริงของเราคืออะไรกันแน่ ในเมื่อมีความสุขก็บอกว่าติดสุข เมื่อสงบก็บอกว่าติดความสงบ พี่นักเขียนพอจะให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บ้างมั้ยคะ..
    (b-uh)
     
  3. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขออนุญาตถามพี่นักเขียนต่อนะคะ ธรรมชาติของชาติภพ บทที่ 10 การเป็นอิสระจากขีดจำกัดของโลกมนุษย์
    หน้า 135 ความสามารถพิเศษทั้งหลายที่เธอรู้สึกว่ามีอยู่นั้นจะพัฒนาเป็นจริงขึ้นได้เสมอ หากเธอตัดสินใจที่พัฒนาตัวเอง เพียงแค่การตัดสินใจก็เป็นการกระตุ้นกลไกของจิตใต้สำนึกให้ทำงาน

    อยากทราบว่าจิตวิญญาณกับจิตใต้สำนึก เหมือนหรือต่างกันอย่างไรคะพี่นักเขียน?
    (b-smile)
     
  4. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    บทที่ 11 อำนาจแห่งปัจจุบัน
    หน้า 154 ความคิดและการกระทำในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอดีต - ความเชื่อในอดีต ตลอดจนการตอบสนองทั้งหมดในอดีตด้วย ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เธอเปลี่ยนความเชื่อเธอก็พลิกผันประสบการณ์ในอดีตทั้งหมด

    คือนึกภาพไม่ออกน่ะค่ะว่าปัจจุบันจะสามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้อย่างไร? เพราะคิดในเรื่องเวลาในลักษณะทางกายภาพอยู่ พยายามนึกถึงภูเขาแล้วว่า ถ้าหากชั้นบนของภูเขาแตกหักแล้วจะทำให้ชั้นล่างเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร ในเมื่อชั้นล่างก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมอยู่น่ะค่ะ..
    (b-uh)
     
  5. userx

    userx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2007
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +1,061
    ผมชอบอ่านแนวนี้นะ แนวจิตวิญญาน (Spiritual)และธรรมชาติของสรรพสิ่งและสากลจักรวาล อย่างกระทู้นี้แหละ ศึกษาตามแนวศาสนาแล้วรู้สึกเหมือนพวกคลั่งลัทธิ คลั่งศาสนา งมงายกับเรื่องอิทธิฤทธิปาฏิหาร ยังไงไม่รู้ รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยศรัทธาในศาสนาเท่าไหร่ แต่ศรัทธาในธรรมชาติมากกว่า เหมือนเวลาเข้าวัดแล้วไม่ค่อยรู้สึกสงบ แต่รู้สึกหดหู่มากกว่า ไม่เหมือนเวลาอยู่ในธรรมชาติ เช่น ในทุ่งโล่งๆ ที่มีท้องฟ้ากว้างๆ ในป่า หรือบนภูเขา รู้สึกได้ความรับสงบมากกว่า เหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างที่ทำให้เราสบายใจรู้สึกมีความสุขและทำให้ตัวเรารู้สึกมีความเมตตาต่อสรรพสิ่งด้วย
     
  6. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ห้องวิทย์นี้ขาดพี่ใหญ่รุ่นบุกเบิกไปก็เหงาแย่สิพี่เม้าส์ เลยต้องรีบวิ่งไปตามก่อนกลัวลืมกัน อิอิ (b-smile)
     
  7. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    ของนกต้องบอกว่าใช้วิธีของอาจารย์อนาลัยได้ผลดีเยี่ยมยอดที่สุดแล้วล่ะค่ะพี่ขจรวรรณ
    ถ้านกยังไม่ได้อ่านหนังสือที่มีค่ามากมายขนาดนี้ ก็คงยังไม่พบอะไรดี ๆ ในตัวเราเองที่มีอยู่ ทำให้ฟื้นความรู้เดิมออกมาใช้ได้มากเลย
    แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยจดจ่อเวลาหลับเท่าไหร่ เลยฝันจำได้บ้างไม่ได้บ้าง
    เมื่อคืนลองเอาคริสตัลIsisที่พี่เม้าส์ให้มาวางไว้ใต้หมอน เพื่อจะให้รู้สึกสงบขึ้น
    ก่อนนอนลองหมุนจักระตามจักระต่าง ๆ ดู แต่ก็ยังเริ่มต้น มีไม่เข้าใจอยู่อีกมากมาย
    เลยหลับฝันถึงการเปิดจักระ รับพลังจักรวาล เหมือนเรากำลังนั่งสอนตัวเองอยู่ว่าจักระนี้หมุนมาตรงนี้ไล่มาตรงนี้ เหมือนได้เรียนรู้ยามหลับเลย
    ตอนนี้ตั้งใจทำอยู่อย่างนึง คือจินตนาการว่าตัวเองหุ่นดีวันละ 5 นาที (b-smile)
    สักเดือนนึง ดูสิว่าจะมีผลอะไรกับตัวเองบ้างไหม สู้ ๆ
     
  8. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    นกก็ชอบถ่ายพี่mead เจออะไรถ่ายหมด แต่ไม่ค่อยชัดหรอกเพราะเป็นกล้องจากมือถือ
    ที่ชอบ ๆ คงเป็นทะเล ให้ถ่ายมุมไหน มุมเดิม ก็ชอบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2007
  9. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอบคุณครับที่ชม แต่ฝีมือยังไม่เก่งกาจอะไรมากหรอก บางรูปก็อาศัยการสังเกตเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นรูปใยแมงมุมกับหยดน้ำค้าง รูปแมงมุมนั้นตอนแรกมันอยู่ข้างหน้าใย พอเอากล้องเข้าไปใกล้ๆ มันก็เผ่นแนบไปอยู่ข้างหลัง ตอนหลังมานึกได้ว่าทำไมไม่ลองซูมกล้องเข้าไป บางทีอาจจะได้ภาพที่ดูใกล้กว่านี้ก็ได้ รูปหยดน้ำก็เหมือนกัน

    ส่วนรูปเด็กนั่น ผมเล็งถ่ายตั้งแต่เด็กเข้าร้านจนออกมาจากร้านขึ้นรถ ถึงจะได้ภาพนั้นมา ในภาพกำลังกลับพอดี พ่อเค้ามาถ่ายรูปในร้านหน่ะ ตั้งกล้องเล็งเด็กไว้ตลอดเลย แล้วก็ถ่ายเร็วๆ

    ส่วนภาพถังน้ำนั้น ไปเห็นมุมประมาณนี้ในหนังสือบนเครื่องบิน เลยลองถ่ายตามดูบ้าง

    คุณนกก็มีภาพสวยๆ มาเหมือนกันนะ ภาพจากมือถือสวยๆ ก็มีนะ แบบกล้องชิดซ้ายไปเลย อย่าง 2 ภาพนี้ (ภาพใหญ่เลยทำเป็นลิงค์ให้กด)
    http://www.pixpros.net/forums/attachment.php?attachmentid=17924&stc=1&d=1166368839
    http://www.pixpros.net/forums/attachment.php?attachmentid=17928&stc=1&d=1166369535
    ลองศึกษาดูได้ที่กระทู้นี้คับ http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=2349
    http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=9555

    ดูแล้วจะเข้าใจว่ากระบี่อยู่ที่ใจคับ

    ภาพที่ชอบก็ชอบภาพในหนังสือ national geographic ภาพมันเหมือนบอกเล่าเรื่องราวในภาพของมันเองได้ ดูมีชีวิตชีวามากเลย

    คุณจิตต์ ขอบคุณมากสำหรับของรางวัลครับ

    ต่อเรื่องภาพต่อ อิอิ บางทีนั้น บางภาพดูแล้วก็เฉยๆ แต่พอเข้า photoshop ใส่ฟิลเตอร์เข้าไป จากภาพธรรมดาๆ บางทีก็ดูสวยขึ้นได้เหมือนกัน บางภาพสวยอยู่แล้ว ก็ดูสวยในมุมอื่นเข้าไปอีก อันนี้เป็น sample

    อย่างภาพดวงอาทิตย์ตก ลองใส่ฟิลเตอร์ไปหลายๆ แบบ ก็ดูสวยในหลายๆ มุมเหมือนกัน
    ภาพชายหาดที่ดูธรรมดา (อันนี้ถ่ายที่เวียดนามเหมือนกัน มีต้นฉบับให้เทียบ) ลองใส่ฟิลเตอร์เข้าไป ก็ดูแปลกตาขึ้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2007
  10. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ยินดีครับ มีแนวร่วม จิตวิญญาณที่เป็นธรรมชาติเพิ่มอีกคนหนึ่ง คุณ userx มาถูกห้องแล้วครับ ห้องนี้ไม่มี เหาะเหิร เดินอากาศ ระเบิดภูเขา เผากระท่อม (เกี่ยวกันมั๊ยเนี่ย) ไม่มีอิทธิฤทธิ์ มีแต่ปาฏิหารย์ครับ
    ไม่ทราบคุณ userx อ่านหนังสือธรรมชาติของชาติภพหรือยัง ถ้ายังลองไปหาอ่านดูซิครับ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจถามกันได้นะครับ ถ้าพวกเราตอบไม่ได้ เดี๋ยวอาจารย์นักเขียนท่านก็จะเมตตาตอบให้ครับ
    แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันบ้างนะครับ
     
  11. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    โห คุณ zipper เล่นเอาผมหลงรักโทรศัพท์มือถือขึ้นอีกเยอะเลย ปกติผมใช้รับกับโทรออกอย่างเดียว
    ก็เป็นการเรียนรู้จากธรรมชาติด้วยการถ่ายรูป (ฝึกสมาธินอกเบาะ)
     
  12. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    (b-smile)

    เก่งจริงๆครับขยันถ่ายกันมาก แล้วเอามา Post อีกนะ
    (ดูเหมือนจะน้องนกชอบถ่ายของกินเป็นหลัก อิอิ)

    ที่นกบอกจะลดน้ำหนัก ลองดูนะครับน่าจะได้ผลดี
    ทำให้ผอมเพรียวด้วยการใส่รหัสบอกกับเซลล์ของเราบ่อยๆ
    แต่คงต้องลดอาหารพวกแป้งกับของมันๆลงด้วยนะ เอาใจช่วยคับ



    เพิ่งดูรายการเบื้องหลังที่เค้าเชิญอ.สุรพล มาสาธิตเกี่ยวกับ "พลังจิตใต้สำนึก"ที่คุณขจรวรรณถาม คุณซิปเปอร์ส่ง link มาให้ครับ http://www.tv5.co.th/live/clips.php
    รู้สึกว่าจะอยู่อันที่ 13

    เห็นว่าในรายการนี้ มีการทดสอบให้คน 4 คนใช้นิ้วเดียวยกคนคนเดียว ทิชชู่ตัดดินสอ ฯลฯ ได้ยินมาว่า(จากในรายการนี้) ตอนนี้ที่จีน ที่ญี่ปุ่น เด็กๆ ที่นั่นก็จะหัดเรียนการบังคับจิตใต้สำนึกกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว ผมเคยพบ อ.สุรพล ครั้งนึงครับ เลยเคยได้ทดสอบเรื่องพวกนี้หมดแล้วครับ

    เหมือนสั่งจิตให้นำเอาพลังอีก 93 % ที่ซุกซ่อนอยู่เอาออกมาใช้
    ความรู้สึกว่าการใช้พลังจิตใต้สำนึกนี่ดูจะเครียดและกดดันสักหน่อย และการนำมาใช้บ่อยๆร่างกายจะดูเหนื่อยมาก คล้ายๆดึงพลังแบตอออกมาให้มากที่สุดแล้วค่อยชารต์เข้าไปใหม่ พลังจิตใต้สำนึกน่าจะเป็นพลังส่วนหนึ่งที่ห่อหุ้มจิตวิญญาณอยู่ (หรือเมอร์คะบาร์+ยานพาหนะของจิต ที่ห่อหุ้มปกป้องจิตวิญญาณเอาไว้) เป็นการใช้ความเชื่อมั่นที่คิดว่าต้องทำได้และต้องได้จริงตามนั้น เช่น การตัดดินสอด้วยกระดาษ ต้องนึกว่าดินสอนั้นคือเต้าหู้นิ่มๆ แล้วกระดาษคือกระบี่คมๆ ใส่รหัสเข้าไปแล้วตัดด้วยความเชื่อมั่น..(นิ้วจะโดนก็ช่างแต่ต้องไม่เจ็บ..และอย่าไปใส่ใจครับ)..รวมๆคือการกระตุ้นสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นในวินาทีนั้นอย่างเฉียบคมครับ


    (b-smile)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2007
  13. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    พี่เหลย เอาใจช่วย สู้สู้ ถ้าหุ่นดีเหมือน น้องแพนเค็กเมื่อไหร่ จะเอาลูกชายไปเดินโชว์ตัวหน้าออฟฟิตให้ดูครับ
     
  14. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คิดไปคิดมา จะบอกว่าเป็นการบังคับจิตใต้สำนึกก็ไม่ถูก น่าจะเรียกว่าสั่งจิตใต้สำนึกมากกว่า พิธีกรรายการนี้คือ มดดำคับ กะว่ากลับไปบ้านจะโหลดคลิปเก็บลงเครื่องซักหน่อย

    มดดำมาเล่าให้ฟังในรายการวิทยุ แฉแต่เช้า ของเค้าในเช้านี้ว่า ตั้งแต่ออกรายการพลังจิตนี่ไป มีคนโทรเข้ามาสอบถามเยอะมาก

    อ้อ อีกเรื่องที่ลืมไป ในรายการจะมีให้เอามือบิดช้อนด้วยครับ ช้อนแข็งๆ นี่แหล่ะ ใช้มือเปล่าบิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2007
  15. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    สวัสดีค่ะ จิตต์จัดส่งรางวัลให้กับ 4 ท่านแล้วค่ะ ในลำดับที่ 6 ของแต่ละท่านจะไม่เหมือนกันลุ้นกันเอาเองนะคะ
    **คุณซิปเปอร์คะ คุณไม่ส่งชื่อ-นามสกุลให้จิตต์ จิตต์ก็เลยระบุหน้าซองว่า คุณ Zipper รอรับนะคะ

    [b-hi]
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    ขอบคุณมากครับ ก็ตั้งใจจะให้ระบุชื่อไปประมาณนั้นอยู่แล้วล่ะ คงไม่เป็นไรมั๊ง คนทางบ้านคงไม่งงกัน

    พูดเรื่องภาพมือถือเลยเอาภาพมือถือที่เคยถ่ายเอามาให้ดูมั่ง แต่ตอนนี้กล้องมือถือเจ๊งแล้วหล่ะ หล่นบ่อย ขี้เกียจเอาไปซ่อมด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. obniti

    obniti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +305
    สวัสดีครับทุกท่าน ติดตามอ่านเรื่อย ๆครับ ตอนนี้เข้าใจว่านอ้ง ๆกับหลาน ๆ กำลังสนใจเรื่องเปลี่ยน (ทำ)ความคิดให้เป็นรูปธรรมในมิติต่าง ๆ กันอยู่ ขอเล่าในส่วนที่ผมเคยรับรู้ในวิธีการคร่าว ๆสู่กันฟังครับ ปี 2517 ผมเรียนถามหลวงพ่อพุธฐานิโยถึงวิธีการที่หลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลายท่านสามารถสร้างวัดได้วิจิตตระการตา คิดเป็นราคาหลายร้อยล้านบาทท่านแนะนำดังนี้ครับ ให้เข้าสมาธิระดับฌาน(เป็นจริงแค่ไหนขึ้นอยุ่กับระดับของฌาน) พักอยู่พอมีกำลังแล้วถอยออกมาระดับขนิกกะสมาธิ อธิษฐานขอให้ความปราถนาเป็นจริง(ถาจะให้หนักแน่นต้องรู้สึกทางสัมผัสทั้ง 5 ด้วย เรืองนี้ตอนนั้นท่านไม่ได้บอกครับ น่าจะเป้นรายละเอียดที่ตอ้งการให้ไปได้ด้วยตัวเองจริง ) จากนั้นให้เข้าสมาธิระดับฌานอีก ทำสลับกันดังนี้ตลอดไปโดยมี อิทธิบาท 4 เป็นกรอบในหรือถ้าจะเทียบเคียงที่เป็นขั้นตอนเป็นรูปธรรมให้ลองดูวิธีภาวนาคาถา ปัจเจกพุทธเจ้าของหลวงพ่อปานครับ ยังมีที่ผมไปเข้าคอร์สของอาจารย์วรรณีและมาสเตอร์ ฉั่วก็อกสุย และที่อ่านมาจาก power unlimit ของ Anthony Robbins ซึ่งมีขั้นตอนค่อนข้างละเอียดชัดเจน วันนี้พิมพ์เหนื่อยแล้วครับวันหลังจะสัมภาษณ์ภรรยาผมซึ่งมีประสบการได้รับวัตถุ materailise จากท่านไสบาและท่านครูบาชัยวงศาจารย์มาเล่าสู่กันฟัง การสั่งจิตต์ใต้สำนึกของอาจารย์สรพลผมเคยไปเข้าชั้นเรียนมาเหมือนกันครับจะมีท่ากายบริหารประกอบเพื่อไม่ให้เครียดและเพลียจากการใช้พลังครับ
     
  18. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ประสบการณ์ไม่ธรรมดาเลยครับ
    อย่างการนั่งสมาธิ เข้าฌานนี่ยอมรับครับว่าทำได้
    แต่ในส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบแบบนี้ครับ แต่ไม่ต่อต้านนะ อาจจะเป็นเพราะว่าผมทำไม่ได้ว่างั้นเถอะ จริตเลยไม่ค่อยชอบอิทธิฤทธ์(ไม่เหมือนตอนวัยรุ่น ตอนนี้หมดวัยโชว์แล้ว)
    ก็ชอบศึกษานะครับ เล่าให้ฟังบ่อยๆก็ดี เพราะประสบการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน เป็นการเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์ครับ
     
  19. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    ในการถ่ายภาพแต่ละครั้งจุดประสงค์เพื่อเก็บภาพที่ประทับใจ
    ธรรมชาติมีความงดงามอยู่ในตนเอง + มุมมองของผู้ถ่ายภาพ
    สถานที่เดียวกันแต่มองคนละมุม ถ่ายคนละครั้งก็มีความงดงามสมความปรารถนาของผู้ถ่ายภาพนั้น ๆ จิตต์เองเป็นคนที่รักการเดินทาง
    จึงเลือกที่จะเก็บความประทับใจจากสถานที่นั้น ๆ
    **บางภาพที่ถ่ายมา หาโอกาสยากมากที่จะได้ถ่ายภาพในระยะใกล้
    ดังเช่น ภาพสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2550
    ลางานเพื่อไปถวายพระพรในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ท่าน
    โดยส่วนตัวก็มีความปิติที่จะได้กราบพระองค์ท่านซึ่งถือว่าเป็นราชาแห่งสงฆ์
    ขณะเดียวกันท่านเสด็จผ่านจับระยะได้ 2 ภาพ แต่ภาพนี้ออกมางามที่สุด
    (ตัวเองเป็นนักถ่ายรูปสมัครเล่น บางครั้งค่าล้างรูปก็มากพอควร)
    พอไปถึงบริเวณที่มีนักข่าวเยอะ เจ้าหน้าที่จึงห้ามถ่ายภาพเพราะแสงของแฟชจะไปทำลายพระเนตรของพระองค์ท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SANY0017.JPG
      SANY0017.JPG
      ขนาดไฟล์:
      907.8 KB
      เปิดดู:
      30
    • SANY0019.JPG
      SANY0019.JPG
      ขนาดไฟล์:
      979.1 KB
      เปิดดู:
      33
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2007
  20. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ขออนุญาติตอบคำถามตัวเองอีกแล้วค๊า.. จากประสบการณ์ส่วนตัวแล้วมักจะเจออาการลักษณะนี้เสมอคือ ส่วนใหญ่แล้วจะมีอาการถามเองตอบเองบ่อย อย่าพึ่งรำคาญไปก่อนนะคะ คือเมื่อเช้าตื่นขึ้นมาจิตก็แว๊ปขึ้นมาว่าเรื่องนี้เคยอ่านแล้ว แล้วก็เดินไปดูกองเอกสารซึ่งเป็นซีตเก่า ๆ นานแล้ว แต่ยังเก็บไว้อยู่ แล้วหยิบขึ้นมาอ่านปรากฏว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำสมาธิ ก็เลยนำมาให้พี่ ๆ น้อง ๆ อ่านกันเล่น ๆ ค๊า..

    กว่ามนุษย์จะวิวัฒนาการจากสิ่งมีชีวิตที่เดินด้วยเท้า 4 เท้า มาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เดินด้วยเท้า 2 เท้านั้น ใช้เวลาหลายล้านปี ซึ่งนับเป็นวิวัฒนาการที่ก้าวหน้าและสำคัญ

    การแสวงหาทางจิตวิญญาณหรือการพัฒนาทางจิตวิญญาณคืออะไร นี่เป็นเรื่องนอกเหนือจากการทำความดีและการพูดด้วยความจริงใจ

    การพัฒนาทางจิตวิญญาณ หมายถึง การพัฒนาทั้งด้านสมองและด้านจิตใจไปสู่การรู้ถึงความรู้แจ้งเห็นจริง ละกิเลสและพัฒนาจิตให้อยู่เหนือโลกของวัตถุ ( Transcendence ) การจะไปถึงจุดนั้นได้ เราจะต้องมีความถ่อมตน ฝึกฝนตนเอง ละความเห็นแก่ตัว ยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของความรักความเมตตา พร้อมกับอยู่ในขอบข่ายแห่งความเป็นจริง

    ส่วนนี้เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฝึกสมาธิ หลังจากการฝึกฝนให้อยู่เหนือโลกของวัตถุได้ในระดับหนึ่ง เราก็สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ ซึ่งเป็นการสั่งสมบารมีในขณะที่มีชีวิตอยู่

    การทำสมาธิ เป็นการพัฒนาความสามารถของจิตให้ไปถึงความรู้แจ้งเห็นจริง คือเข้าใจความจริงอันสูงสุด ( สัจธรรม ) เราต้องใช้ความพยายามของเราไปถึงจุดนั้น ไม่มีใครให้ปริญญาหรือปริญญาบัตร ให้ของขวัญ เพื่อทำให้คนเป็นพระพุทธเจ้าหรือพระเยซูคริสต์ได้ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนสามารถปกป้องหรือช่วยเหลือเราให้มาสู่ระดับการพัฒนาไปเป็นผู้ประเสริฐ ( Supreme Being ) แต่ในการรักษาตัวเองให้อยู่ในระดับนั้นได้จิตใจของเราจะต้องเอื้ออาทรและมีความรัก ความเมตตาต่อมนุษย์ทั้งมวล

    หากเราจะดำเนินชีวิตไปในเส้นทางที่คลุมเครือและไร้จุดหมาย เราก็ควรที่จะเลิกล้มความคิดที่จะแสวงหาจิตวิญญาณเลยดีกว่า เพราะการทำอย่างนั้นเป็นการสูญเปล่า ไม่มีทางได้พบชีวิตทางจิตวิญญาณและจะเป็นสั่งสมกรรมให้เพิ่มพูนขึ้น

    การทำสมาธิ เป็นการช่วยให้เราก้าวหน้าไปสู่ระดับสูงขึ้น และเป็นทางที่ถูกต้องที่จะนำไปสู่การตื่นตัวจากตัวเองและการรู้แจ้งเห็นจริง ความเข้าใจในพลังจักรวาล เข้าใจในธรรมชาติของโลกที่มองเห็นและที่มองไม่เห็นและเข้าใจในสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด วิธีการใดที่ไม่ช่วยให้เราไปถึงเป้าหมาย และไม่ช่วยปลดปล่อยเราจากภาพลวงตา วิธีการนั้นก็ไม่ใช่วิธีการอันถูกต้อง
    (b-smile)
     

แชร์หน้านี้

Loading...