ใครมีประสบการณ์พระเครื่องหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน มาเล่าสู่กันฟังบ้าง

เพิ่งมีโอกาสได้พระหลวงพ่อมาครับ

สาธุ สาธุ สาธุ เดี๋ยวลูกจะไปทำสร้อยอาราธนาขึ้นคอครับ ^^

 

อาตมาว่าพระนี้หลวงพ่อท่านไม่ได้สร้างเอง เป็นพระที่สมเด็จพระสังฆราชอยู่วัดสระเกศท่านสร้าง หลวงพ่อคงได้มาตอนท่านไปเรียนโหราศาสตร์กับองค์ท่าน ส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะมาพร้อมกันในชุดพระวัดพรหม แต่ก็น่ายินดีนะเพราะเป็นพระของอาจารย์หลวงพ่ออีกที น่าจะปลุกเสกร่วมอีกทีในพิธีของพระชุดวัดพรหมปี2495

 

พระพุทธนฤมิตรโชค ของดีของวิเศษ สุดยอดจริงๆนะครับ
พระรุ่นนี้ของหลวพ่อ มีเทพสถิตย์นะครับ...
ลองถามลูกศิษย์รุ่นเก่าหลวงพ่อดูได้เลยครับ

 

เหรียญหลวงพ่อจรัล รุ่น ๒

 

สวยสุดยอดครับ

 

เหรียญงามมากครับ ปีในหรอครับพี่ คนตลาดพลู ???

)

 

นมัสการครับหลวงพ่อ สาธุและขอขอบพระคุณครับสำหรับข้อมูลขอรับ พระองค์นี้อย่างน้อยหลวงพ่อท่านได้นำไปปลุกเสกอีกครั้งในชุดวัดพรหมปี 2495 มวลสารที่ใช้ทำก็ดีสุดยอดเลยครับ แค่นี้ผมก็ดีใจแล้วครับหลวงพ่อ

 

ในชีวิตผม ปลื้มใจมากที่เคยได้ไปถวายเงินกับองค์หลวงพ่อท่าน ถึงแม้จะเป็นเงินที่น้อยนิด แต่ก็สุขใจมากที่ได้ทำบุญกับพระอริยะสงฆ์ผู้เป็นเนื้อนาบุญของโลก กราบเท้าองค์หลวงพ่อจรัญ

 

กราบพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ)

นมัสการ (นะโม)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

ไตรสรณคมน์ (พุทธัง ธัมมัง สังฆัง)

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉาม

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

พระพุทธคุณ (อิติปิ โส)

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

พระธรรมคุณ

สะวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก
ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติฯ *

(* อ่านว่า วิญญูฮีติ)

พระสังฆคุณ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา
เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
อาหุเนยโย* ปาหุเนยโย* ทักขิเณยโย* อัญชะลี กะระณีโย
อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติฯ

(อ่านออกเสียง อาหุไนยโย ปาหุไนยโย ทักขิไณยโย โดยสระเอ กึ่งสระไอ)

พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)

พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง* วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา โย
วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญฯ

* พรัหมัง อ่านว่า พรัมมัง

มหาการุณิโก

มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง
ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ

ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง
ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะรา
ชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก
สัพพะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ

สุนั ขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ
สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะ** จาริสุ ปะทักขิณัง
กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง
มะโนกัมมัง ปะณิธี เต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ
กัตตะวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ

** พรัหมะ อ่านว่า พรัมมะ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ

หลังจากสวดมนต์ตั้งแต่ต้นจนจบบทพาหุงมาหากาฯ แล้วก็ให้สวดเฉพาะบทพระพุทธคุณ หรืออิติปิโส ให้ได้จำนวนจบเท่ากับอายุของตนเอง แล้วสวดเพิ่มไปอีกหนึ่งจบ ตัวอย่างเช่น ถ้าอายุ ๓๕ ปี ต้องสวด ๓๖ จบ จากนั้นจึงค่อยแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล

พุทธคุณเท่าอายุเกิน ๑ (อิติปิโสเท่าอายุ+๑)

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติฯ

บทแผ่เมตตา

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กัน และกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้ พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเทอญ

บทอุทิศส่วนกุศล (บทกรวดน้ำ)

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตา ปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจะริยานังโหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจะริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ เวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

อิทัง สัพพะ สัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง จงมีความสุข

 

ขอไหว้งามๆคุณรับโชคสักทีหนึ่ง ในความเพียรพยายาม
ลงบทสวดมนต์ของหลวงพ่อจรัลเต็มสูตร ครบถ้วนกระบวนความ
บ่งบอกถึงความปรารถนาดีมีน้ำใจ แถมด้วยคำภาวนาง่ายๆ
แต่ได้ผลของหลวงพ่อ สันติกะโร ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดี....
...นับถือ..นับถือ....

 

ท่าน โจหงอย รู้จักหลวงพ่อ สันติกะโร ด้วยเหรอครับ ท่าน โจหงอย ไม่ธรรมดานะครับ ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดี บทนี้ชนะอุปสรรคทุกอย่างครับท่าน

 

เหรียญสวยจริงๆเลยนะคุณโยม สาธุๆ

 

ครูบาอาจารย์แต่ละท่านมีแนวการสอนที่แตกต่างกัน
หลวงพ่อจรัล ท่านสอนแนวสติปํฎฐาน ให้อยู่กับปัจจุบัน
เห็นหนอ ยินหนอ โกรธหนอ ดีใจหนอ เสียใจหนอ
ให้มีสติตลอดเวลา เป้าหมายถึงนิพพาน ไม่ใช่แค่สวรรค์ แค่พรหม
แต่ผมทำไม่ได้ เพราะกิเลสหนาปัญญาเบา ทุกวันนี้จึงยังไม่ได้ห้าได้สิบ
ย่ำอยู่กับที่ไม่ก้าวหน้า แต่บทสวดมนต์ของท่านได้ผลในปัจจุบันแน่นอน
ผมมีประสบการณ์ยืนยันได้
ส่วนหลวงพ่อสันติกะโร ผมเคยไปฟังท่านบรรยายธรรมที่
ซอยประชาอุทิศ26ประมาณ3ครั้ง ธรรมของท่านง่ายๆแบบชาวบ้านแต่ได้ผลในปัจจุบัน แค่ประโยค...ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดี....
ลองภาวนาดูซิครับ ภาวนาบ่อยๆ ความเครียดแค้นชิงชังลดลง
ความเศร้าหมองหดหู่อยากฆ่าตัวตายลดลง ความโกรธอยากฆ่าศัตรูลดลง
จะไม่ลดได้ยังไง ก็ใจมันยิ้มเสียแล้ว ความเครียดมันลดลงแล้ว
ใจมันผ่อนคลายเสียแล้ว จะเอาอะไรไปฆ่าใคร ......
ทั้งหมดนี้เป็นความส่วนตัวของผมเอง ผิดถูกอย่างไร ขออภัยนะครับ...

 

- กองทัพบกจะจัดข้าราชการทหารไปเข้าหลักสูตรพัฒนาบุคลากรที่วัดทุกปี ปีละหลายรุ่น

- ผมเองไปเข้าหลักสูตรพัฒนาบุคลากรที่วัดมา ๒ ปีแล้วครั้งที่ ๓ ก็จะเป็นวันที่ 24 มิ.ย.นี้

- ญาติผู้พี่ผมเขาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมานาน เรียกว่าทำบุญสงกรานต์ทุกปีต้องนิมนต์
พระวัดอัมพวันและวัดตาลเอนซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจรัญมาตลอด

- แต่ส่วนตัวผมเองชอบปฏิบัติสายหลวงพ่อวัดท่าซุง แต่ไม่ค่อยได้ไปวัดท่าซุงเท่าไหร่

 

ปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ครับ

 

พระพุทธนฤมิตรโชค หลวงพ่อจรัล

 

พระพุทธนฤมิตรโชค หลวงพ่อจรัล

 

สาธุสวยมากครับ

 

งามแต๊ๆ

 

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ