วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

รายการที่ 62 พระผงใบโพธิ์สมาธิ พิมพ์ใหญ่ เนื้อดินเผา+เนื้อผง ปี 2520 (1 ชุด 2 องค์)
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 800-

 

รายการที่ 63 พระสมเด็จประทานพร เนื้อดิน ปี 2529
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 800-



แม่พิมพ์เดิมเป็นของคณะวรจักรจัดสร้างเมื่อปี 2520 ต่อมาทางวัดได้จัดสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 2525
แต่นำออกให้ทำบุญเมื่อปี 2529 ในคราวเกิดพุทธนิมิตรขึ้นที่วัด

 

รายการที่ 65 พระสมเด็จสามสมัย พิมพ์สุโขทัย พิธีจตุรพิธพรชัย ปี 2518
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 500-



วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้ ได้นำไปให้ ลป.ดู่ วัดสะแก อยุธยา ปลุกเสกเดี่ยว ก่อนจัดพิธีพุทธาภเษกอีกครั้งหนึ่ง

พิธีพุทธาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ จ.ศ. 1337
เวลา 15.09 น. โหรประกอบพิธีบูชาฤกษ์
เวลา 16.03 น. – 16.21 น. มหามงคลฤกษ์ ประกอบพิธีจุดเทียนชัย
เวลา 16.30 น. พระสงฆ์เถระ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ในพิธี ( ในพระอุโบสถวัดรัตนชัย)
เวลา 19.09 น. พระพิธีธรรม 4 รูปเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก พระคณาจารย์ 16 รูป เข้าประจำอาสนะปรก

รายนามคณาจารย์ที่นั่งปรก มีรายนามดังนี้
1. หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ อายุ 125 ปี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
( พระอาจารย์สมบูรณ์ ศิษย์ท่านมาแทนในนามของท่าน )
2. พระครูประสาธน์วิทยาคม ( หลวงพ่อนอ ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา
3. พระครูสันทัศธรรมคุณ ( หลวงพ่อออด ) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
4. พระรักขิตวันมุนี ( หลวงพ่อถิร ) วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.ลพบุรี
5. พระครูประสาทวรคุณ ( หลวงพ่อพริ่ง ) อ.เมือง จ.ลพบุรี
6. พระครูกวย ( หลวงพ่อกวย ) วัดโฆสิตาราม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท
7. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.อยุธยา
8. พระราชสุวรรณโสภณ ( โกย ) วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.อยุธยา
9. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
10. พระครูสังวรวิมล ( หลวงพ่อโต๊ะ ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี จ.พระนคร
11. พระโบราณคณิสสร ( หลวงพ่อใหญ่ ) วัดสะแก อ.อุทัย จ.อยุธยา
12. พระครูกัลยานุกูล ( หลวงพ่อเส่ง ) วัดกลัยาณมิตร ธนบุรี จ.อยุธยา
13. พระครูอดุลวรวิทย์ ( หลวงพ่อไวยท์ ) วัดบางซ้าย จ.อยุธยา
14. พระครูสังฆรักษ์ ( พระอาจารย์เฉลิม ) วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา
15. พระครูภัทรกิจโสภณ ( พระอาจารย์หวล ) วัดพุทไธสวรรย์ จ.อยุธยา
16. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ จ.อยุธยา

เวลา 22.00 น. ประกอบพิธีดับเทียนชัยพระอาจารย์เจ้าทั้งนั้น พรมน้ำพระพุทธมนต์ฯ นับได้ว่าเป็นมหาพิธียิ่งใหญ่พิธีหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนิมนต์พระภาวนาจารย์นั่งปรกในพิธีฯ
นายจอม ตรีนิตย์ อดีตพัศดีเรือนจำพระนครศรีอยุธยา เล่าถึงการนิมนต์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคฯ ร่วมพิธีปรกฯ
หลวงปู่สีท่านพูดว่า “ อายุมากแล้ว ไม่สะดวกในการเดินทาง ขอให้จัดอาสนะไว้หนึ่งที่ ถึงเวลาที่ฤกษ์กำหนดจะไปช่วยปลุกเสก ”

 

รายการที่ 45 พระพุทธข้าวสารหินแกะ ขนาดสูงประมาณ 1 นิ้ว มีจารหมึกใต้ฐาน
ลพ.เชย อมโร อาศรมวิเวกไพรสณ (เขาเจ้าหลาว) จันทบุรี
จองครับ

 

รายการที่ 66 พระแก้วมรกต 3 ฤดู ชุดกรรมการ ลงสีปิดทอง สภาพสวยมาก พิธีจตุรพิธพรชัย ปี 2518 (มีเกศาลป.ดู่ ทั้ง 3 องค์)
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 5,000-




พระแก้วมรกต 3 ฤดู จัดสร้างเป็นเนื้อผงและมีการลงสีเขียวที่พระวรกาย ปิดทองที่เครื่องทรง
เฉกเช่นเดียวกับพระแก้วมรกต วัดพระศรีรัตนศาสดาราม จ.กรุงเทพฯ
มีทั้งแบบบรรจุกล่อง (กรรมการ/ครบ 3 ฤดู) และที่ออกให้บูชาแบบเดี่ยว ๆ

ด้านหน้า เป็นรูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องตามฤดู (ร้อน / ฝน / หนาว)
ด้านหลัง ประทับยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ (นะโมพุทธายะ) และมีคำว่า “ วัดรัตนชัย
(จีน) อยุธยา ”

วัตถุมงคลที่จัดสร้างในครั้งนี้ ได้นำไปให้ ลป.ดู่ วัดสะแก อยุธยา ปลุกเสกเดี่ยว ก่อนจัดพิธีพุทธาภเษกอีกครั้งหนึ่ง

พิธีพุทธาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2518 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ จ.ศ. 1337
เวลา 15.09 น. โหรประกอบพิธีบูชาฤกษ์
เวลา 16.03 น. – 16.21 น. มหามงคลฤกษ์ ประกอบพิธีจุดเทียนชัย
เวลา 16.30 น. พระสงฆ์เถระ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ในพิธี ( ในพระอุโบสถวัดรัตนชัย)
เวลา 19.09 น. พระพิธีธรรม 4 รูปเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก พระคณาจารย์ 16 รูป เข้าประจำอาสนะปรก

รายนามคณาจารย์ที่นั่งปรก มีรายนามดังนี้
1. หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ อายุ 125 ปี วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
( พระอาจารย์สมบูรณ์ ศิษย์ท่านมาแทนในนามของท่าน )
2. พระครูประสาธน์วิทยาคม ( หลวงพ่อนอ ) วัดกลาง อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา
3. พระครูสันทัศธรรมคุณ ( หลวงพ่อออด ) วัดบ้านช้าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา
4. พระรักขิตวันมุนี ( หลวงพ่อถิร ) วัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.ลพบุรี
5. พระครูประสาทวรคุณ ( หลวงพ่อพริ่ง ) อ.เมือง จ.ลพบุรี
6. พระครูกวย ( หลวงพ่อกวย ) วัดโฆสิตาราม อ.สรรค์บุรี จ.ชัยนาท
7. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อ.บางปะหัน จ.อยุธยา
8. พระราชสุวรรณโสภณ ( โกย ) วัดพนัญเชิง อ.เมือง จ.อยุธยา
9. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี
10. พระครูสังวรวิมล ( หลวงพ่อโต๊ะ ) วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี จ.พระนคร
11. พระโบราณคณิสสร ( หลวงพ่อใหญ่ ) วัดสะแก อ.อุทัย จ.อยุธยา
12. พระครูกัลยานุกูล ( หลวงพ่อเส่ง ) วัดกลัยาณมิตร ธนบุรี จ.อยุธยา
13. พระครูอดุลวรวิทย์ ( หลวงพ่อไวยท์ ) วัดบางซ้าย จ.อยุธยา
14. พระครูสังฆรักษ์ ( พระอาจารย์เฉลิม ) วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา
15. พระครูภัทรกิจโสภณ ( พระอาจารย์หวล ) วัดพุทไธสวรรย์ จ.อยุธยา
16. หลวงพ่อโปร่ง วัดขุนทิพย์ จ.อยุธยา

เวลา 22.00 น. ประกอบพิธีดับเทียนชัยพระอาจารย์เจ้าทั้งนั้น พรมน้ำพระพุทธมนต์ฯ นับได้ว่าเป็นมหาพิธียิ่งใหญ่พิธีหนึ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนิมนต์พระภาวนาจารย์นั่งปรกในพิธีฯ
นายจอม ตรีนิตย์ อดีตพัศดีเรือนจำพระนครศรีอยุธยา เล่าถึงการนิมนต์หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาคฯ ร่วมพิธีปรกฯ
หลวงปู่สีท่านพูดว่า “ อายุมากแล้ว ไม่สะดวกในการเดินทาง ขอให้จัดอาสนะไว้หนึ่งที่ ถึงเวลาที่ฤกษ์กำหนดจะไปช่วยปลุกเสก ”

 

รายการที่ 68 เหรียญหลวงพ่อบุญคุ้ม รุ่น 1 ปี 2529 (หลวงปู่ดู่อธิษฐานจิต)

บูชา 2,000-



โรงเรียนบุญคุ้มราษฎร์บำรุง นนทบุรี สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2482
บัดนี้มีนักเรียนกว่าพันห้าร้อยคน ทางรร.จึงมีดำริจะจัดตั้งมูลนิธิประจำโรงเรียนขึ้น
เพื่อนำดอกผลมาช่วยเหลือเด็กที่เรียนดีแต่ยากจนไว้เป็นทุนการศึกษา
คณะกรรมการของรร.จึงจัดสร้างเหรียญหลวงพ่อบุญคุ้ม พระพุทธรูปประจำรร.ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2529
จำนวน 10,000 เหรียญ เป็นเนื้อทองแดงรมมันปูเพียงเนื้อเดียว



รายนามคณาจารย์ที่เมตตาอธิษฐานจิตเดี่ยว
1. พระครูถาวรการโกวิท ( หลวงปู่รอด ) วัดบางพูน อ.เมือง ปทุมธานี
เสก 6 เดือนเศษ ซึ่งรวมตลอดพรรษาของปี 2529
2. หลวงพ่อบุญเย็น ฐานธัมโม วัดพระเจ้าพรหมมหาราช เชียงใหม่ เสกให้นาน 20 นาที
3. หลวงปู่เส็ง วัดบางนา อ.สามโคก ปทุมธานี ปลุกเสกให้นาน 1 ชม.
4. พระครูปทุมกิจโกศล ( หลวงพ่อแสวง ) วัดสว่างภพ อ.คลองหลวง ปทุมธานี
- ครั้งที่ 1 ปลุกเสกนาน 17 วัน
- ครั้งที่ 2 ตลอดพรรษา ปี 2533 ( 6 ก.ค.-10 พ.ย. 33 )
- ครั้งที่3 ปลุกเสกวันเสาร์ 5 ใหญ่ เดือน 5 ปี 2534 ( ในเดือน5 ปีนั้นมีวันเสาร์ 5 ครั้ง )
5. พระครูธัญญเขมคุณ ( หลวงพ่อทองพูล ) วัดแสงสวรรค์ อ.ธัญบุรี ปทุมธานี ปลุกเสกนาน 2 วัน
6. หลวงพ่อพรหม ติสสเทโว วัดขนอนเหนือ อ.บางปะอิน อยุธยา ปลุกเสกนาน 2 ชม.
7. พระอาจารย์เล็ก วัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ ปลุกเสกนาน 15 วัน
8. หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อ.อุทัย อยุธยา ปลุกเสก 30 นาที
9. หลวงปู่จู วัดเขียนเขต อ.ธัญบุรี ปทุมธานี ปลุกเสก 30 นาที
10. หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ อ.หนองแซง สระยุรี ปลุกเสก 2 ชม. 30 นาที
11. หลวงพ่อสอน วัดศาลเจ้า อ.เมือง ปทุมธานี ปลุกเสก 5 เดือน 15 วัน
12. พระอาจารย์มหาถาวร จิตตถาวโร วัดปทุมวนาราม เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ปลุกเสก 11 เดือนตลอดพรรษาปี 2532 ตั้งแต่ 16 พ.ค.2532–11 เม.ย. 2533
13. หลวงปู่เจ๊ก อาจารสุโภ วัดระนาม อ.อินทร์บุรี สิงห์บุรี เสกนานราว 30 นาที
14. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี เสกให้ 14 วัน ตั้งแต่ 26 พ.ค.- 8 มิ.ย. 2533
15. พระครูสิริปุญญาทร ( หลวงพ่อหมื่นอุดม ) วัดตูม อยุธยา ปลุกเสก 15 นาที
16. หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน อยุธยา ปลุกเสกราว 10 นาที
17. หลวงพ่อสิริ วัดตาล อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ปลุกเสกให้ตั้งแต่ 7-12 เม.ย. 2536 รวม 5 วัน 5 คืน



พิธีพุทธาภิเษก ได้นำเข้าร่วมพิธีใหญ่ๆถึง 10 พิธี ด้วยกัน คือ

1. พิธี “ สวดไซ” ณ วัดสว่างภพ อ.คลองหลวง ปทุมธานี โดยศิษย์หลวงพ่อเคน วัดถ้ำเขาอีโต้ ปราจีนบุรี ที่ว่ากันว่าเป็นเทพเจ้าของไซมหาลาภ โดยมีพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีพุทธาภิเษก เช่น
- ลพ.แพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
- ลป.เมฆ วัดลำกระดาน มีนบุรี กทม.
- หลวงพ่อใหญ่ ( พระอาจารย์ประสิทธิ์ ประสิทธิโก ) วัดหนองผักชี บางเขน กทม.
- พระครูสิริพัฒนาภรณ์ ( ลพ.เล็ก ) วัดกลางคลองสาม อ.คลองหลวง ปทุมธานี
- พระครูโสภณธัญญคุณ ( ลป.รส ) วัดสอนดีศรีเจริญ อ.หนองเสือ ปทุมธานี

2. พิธีพุทธาภิเษกรูปเหมือนเท่าองค์จริงหลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค
และวัตถุมงคลต่างๆ ณ วัดนก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ โดยพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อปานมาร่วมพิธี เช่น
- ลพ.ช่อ ( ฤาษีลิงขาว ) วัดฤกษ์บุญมี สุพรรณบุรี
- ลพ.เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา อ.บางบาล อยุธยา
- ลพ.ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว อ.บางบาล อยุธยา
- ลพ.มี เขมธัมโม วัดมารวิชัย อ.เสนา อยุธยา
- พระครูวิหารกิจจานุยุต (ลพ.อุไร) วัดบางนมโค อยุธยา
- ลพ.ไวทย์ วัดบรมวงศ์ อยุธยา
- พระมหาประยงค์ วัดบางพลัดใน กทม.
- พระมหาเวก (น้องลพ.ฤาษีลิงดำ) วัดดาวดึงส์ กทม.
- พระครูปลัดแสวง วัดนก กทม.

3. พิธีพุทธาภิเษกพระสมเด็จวัดเกษไชโย ณ วัดไชโยวรวิหาร อ่างทอง โดยมีพระคณาจารย์ต่างๆ ดังนี้
- พระธรรมปัญญาบดี วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
- พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดราชบพิธ กรุงเทพฯ
- พระวิบูลย์ธรรมภาณี วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
- ลพ.ยิ่งยง วัดนางแลว อ่างทอง
- ลพ.แพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
- ลพ.จรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
- ลป.บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสุข สิงห์บุรี
- ลพ.เชิญ วัดโคกทอง อยุธยา
- ลพ.เฉลิม วัดพระญาติ อยุธยา
- ลพ.หวล วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา
- ลพ.เอียด วัดไผ่ล้อม อยุธยา
- ลพ.เสงี่ยม วัดสุวรรณเจดีย์ อยุธยา
- ลพ.สอน วัดศาลเจ้า ปทุมธานี
- ลพ.ใหญ่ วัดสุวรรณภูมิ สุพรรณบุรี
- ลพ.จำเนียร วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
- ลพ.ตาบ วัดมะขามเรียง สระบุรี
- ลพ.ประสิทธิ์ วัดไทรน้อย นนทบุรี
- ลพ.เปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
- ลพ.เริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี
- ลพ.ทิม วัดคีรีวงศ์ เพชรบุรี
- ลพ.ชม ( ศิษย์ลพ.อี๋ ) วัดโป่งนาเกลือ ชลบุรี
- ลพ.เกรียง วัดวังน้ำเย็น อ่างทอง
- ลพ.เล็ก วัดทำนบ อ่างทอง
- ลพ.ทองใบ วัดอบทม อ่างทอง

4. พิธีพุทธาภิเษก พระปิดตาบรรจุกระดาษสา ณ วัดศาลเจ้า ปทุมธานี เมื่อวันมาฆบูชาที่ 20 กุมภาพันธ์ 2532
พระสงฆ์ 16 รูปเจริญพระพุทธมนต์ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร เจริญพระพุทธคุณ 108 ชินบัญชร 108
กลางคืนเกิดจันทรคราส หลวงพ่อสอนปลุกเสกเดี่ยว พระภิกษุที่ร่วมพิธีมี
- พระครูพัฒนกิจโกศล วัดชัยสิทธาวาส
- พระครูสิริปัญญาโสภณ วัดมะขาม
- พระครูโสภณพิทักษ์ วัดโสภาราม
- พระมหามนัส โชติปาโล วัดมะขาม
- พระอาจารย์บุญปลูก ฐิตเปโม วัดมะขาม
- พระอาจารย์สิริ กตปุญโญ วัดมะขาม
- พระอาจารย์ช่อ วัดหงส์
- พระอาจารย์ล้วน วัดหงส์
- พระอาจารย์สามารถ วัดไก่เตี้ย
- พระครูโสภณกิจจานุยุต วัดไก่เตี้ย
- พระสมุห์โสม วัดสะแก
- พระอาจารย์ปรีชา วัดโบสถ์
- พระครูโอภาสธัญกิจ วัดมูลจินดาราม
- พระครูปทุมคณารักษ์ วัดบางโพใน
- พระอาจารย์ใหญ่ จักกธัมมโม วัดหาดมูลกระบือ

5. พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า ปทุมธานี รุ่น เสาร์ 5
เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2533 (แรม 5 ค่ำ เดือน 5) ซึ่งมีพระคณาจารย์เข้าร่วมพิธีดังนี้
- หลวงพ่อไท วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม อ.เมือง ปทุมธานี
- พระครูปทุมคณารักษ์ วัดบางโพใน อ.เมือง ปทุมธานี
- พระมหามนัส โชติปาโล วัดมะขาม อ.เมือง ปทุมธานี
- พระครูพิพัฒน์นนทเขต (หลวงพ่อทุ่งจอมคาถา) วัดโพธิ์ทองบน นนทบุรี
- พระครูโอภาสธัญญกิจ วัดมูลจินดาราม อ.ธัญบุรี ปทุมานี
- พระสมุห์ราตรี ถาวโร วัดโบสถ์ อ.เมือง ปทุมธานี
- พระครุปทุมกิจโกศล (แสวง อริโย) วัดสว่างภพ ปทุมธานี
- หลวงพ่อสอน วัดศาลเจ้า ปทุมธานี

6. พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า ปทุมธานี รุ่น เสาร์ 5
เมื่อ 27 มีนาคม 2536 ( ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ) โดยมีพระเกจิอาจารย์นั่งปรกดังนี้
- ลพ.สอน วัดศาลเจ้า ปทุมธานี
- ลพ.อำภา วัดน้ำวน ปทุมธานี
- พระสมุห์โสม วัดสะแก ปทุมธานี
- ลพ.ประจวบ วัดคลองตะเคียน จันทบุรี
- พระมหามนัส วัดมะขาม ปทุมธานี
- ลพ.สิริ วัดตาล ปากเกร็ด นนทบุรี
- ลพ.แสวง วัดสว่างภพ ปทุมธานี

7. พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลวัดศาลเจ้า ปทุมธานี เมื่อ 11 สิงหาคม 2537 โดยหลวงพ่อสอน ปลุกเสกเดี่ยว

8. พิธีพุทธาภิเษกรูปหล่อหลวงพ่อแสวง อริโย เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ อ.คลองหลวง ปทุมธานี
เมื่อวันที่ 3-5 มีนาคม 2538 โดยมีพระเกจินั่งปรกบริกรรมดังนี้
- สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม กทม.
- ลพ.รส วัดสอนดีศรีเจริญ หนองเสือ ปทุมธานี
- ลพ.เล็ก วัดกลางคลองสาม คลองหลวง ปทุมธานี
- ลพ.สมบูรณ์ วัดแสวงสามัคคี คลองหลวง ปทุมธานี
- ลพ.ลมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี
- ลพ.สอน วัดศาลเจ้า ปทุมานี
- ลพ.อำภา วัดน้ำวน ปทุมธานี
- ลพ.เจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
- ลพ.วิเชียร กทม.
- ลพ.ผัน วัดแปดอา สระบุรี
- ลพ.คูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
- ลพ.ทอง วัดบ้านกลึง นครราชสีมา
- ลพ.สวัสดิ์ วัดศาลาปูน อยุธยา
- ลพ.ทองใบ วัดสายไหม ปทุมธานี

9. พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของวัดศาลเจ้า ปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2538
หลวงพ่อสอน ปลุกเสกเดี่ยวในฤกษ์ “ จันทรคราส ”

10. พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลวัดศาลเจ้า ปทุมธานี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2538
หลวงพ่อสอน ปลุกเสกเดี่ยวในฤกษ์ “ สุริยุปราคา ”

สรุป เหรียญหลวงพ่อบุญคุ้มได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกที่สำคัญๆ เช่น
1. เสาร์ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 2. เสาร์ 5 แรม 5 ค่ำ เดือน 5
3. เสาร์ 5 ใหญ่ เดือน 5 มีวันเสาร์ 5 ครั้ง 4. ปลุกเสกทั้งในฤกษ์ “ จันทรคราส ” และ “ สุริยคราส ”
5. ปลุกเสกในไตรมาส โดย ลพ.แสวง วัดสว่างภพ ปทุมธานี , ลพ.พระมหาถาวร วัดปทุมวนาราม กทม. , ลป.รอด วัดบางพูน ปทุมธานี

 

จองรายการที่ 64 ครับผม ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 72 หนุมานเนื้อผงกะลาตาเดียวคลุกรัก สอดตะกรุดเงิน ปี 2553 (มีจาร)
พระครูปัญญาวิมล (แป๋ว อนุตตโร) วัดดาวเรือง สิงห์บุรี

บูชา 800-




เป็นเนื้อว่านผสมผงพุทธคุณ และผงกะลาตาเดียวคลุกรัก แล้วสอดด้วยตะกรุดเงิน
จำนวนสร้างน้อยมากเพราะแพ้ยางรักกัน บางคนเป็นลมพิษเห่อขึ้นทั้วตัว
ตนนี้ลพ.แป่วจารหมึกให้ แล้ว อ.ธรรมนูญ บุญธรรม ลงเหล็กจารที่ใต้ฐานให้อีกทีหนึ่ง

หนุมานของท่านเสกจนมีตัวมีตน ท่านบอกให้หมั่นเลี้ยงเขาด้วย ไม่งั้นเขาจะไม่อยู่ เวลาเลี้ยงให้เลี้ยงด้วยน้ำสไปร์ท 1 แก้ว

คาถาหนุมาน
โอมเอิกเริกเลิกบาดาล โอมโสธายะ หนุมานะ มะอะอุ

 

รายการที่ 73 หนุมานจับหลัก (กระบอง) ไม้โมกแกะ มีจาร ปี 2526
พระครูปัญญาวิมล (แป๋ว อนุตตโร) วัดดาวเรือง สิงห์บุรี

บูชา 900-




หนุมานไม้โมกมันแกะ ของ ลพ.แป๋ว วัดดาวเรือง มีหลายรูปแบบหลายขนาด
มีทั้งแบบหนุมานทรงเครื่องและแบบลิงนั่งจับหลัก นั่งปิดตา นั่งจับเข่า ถือตรี ถือกระบอง ถือพระขรรค์ ถืออาวุธ 2 มือก็มี
สร้างตั้งแต่ปี 2526 ปลุกเสกนานร่วม 30 ปี

องค์นี้รับจากมือลพ.แป๋วเลย ท่านเมตตาเสกและจารที่ใต้ฐานให้ด้วย (หมึกน้ำเงิน)
เมื่อได้มาแล้วนำไปฝากให้ อ.ธรรมนูญ บุญธรรม ลงเหล็กจารและเสกเพิ่มให้อีก
เพราะวิชาหนุมานของสำนักบัวแปดกลีบ ถือได้ว่าเป็นเอกเทศที่ไม่เหมือนสำนักไหน

ซึ่งการลงวิชาของอ.ธรรมนูญท่านจะไม่ล้างวิชาเก่าที่มีอยู่ออกไป แต่จะเป็นการเสริมเพิ่มเติมเต็มในส่วนที่ขาด
ท่านจะขออนุญาตเจ้าของวิชาเดิมก่อนทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการสัก การจาร หรือเสกอะไรที่ผ่านการเสกหรือลงมาแล้ว

หลวงพ่อแป๋วได้รับการสักยันต์หนุมานตัวครูจาก หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม เป็นรูปหนุมานเหินหาว มีอักขระยันต์เกราะเพชรล้อมรอบ
ซึ่งไม่ปรากฏว่าหลวงพ่อกวยท่านเคยสักให้ใครมาก่อน

หนุมานของท่านเสกจนมีตัวมีตน ท่านบอกให้หมั่นเลี้ยงเขาด้วย
ไม่งั้นเขาจะไม่อยู่ เวลาเลี้ยงให้เลี้ยงด้วยน้ำสไปร์ท 1 แก้ว

คาถาหนุมาน
โอมเอิกเริกเลิกบาดาล โอมโสธายะ หนุมานะ มะอะอุ

หนุมานนี้เพื่อนที่สมาธิจิตดีเห็นเป็นหนุมานตัวเล็กๆ ซนมาก
ตีลังกากระโดดโลดเต้นตลอดเลย

 

รายการที่ 74 ผ้ายันต์พัดโบก+ลูกอมหนุมานครองเมืองเนื้อผง วัดซากกอไผ่ ระยอง ปี 2555

คุณ romegat บูชาแล้ว EK 169042688 TH




ผ้ายันต์พัดโบก จัดสร้างตามตำรับวิชาของ หลวงพ่อกราด วัดซากกอไผ่
พระอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาผ้ายันต์พักโบกให้กับ ลป.ทิม วัดละหารไร่ และอีกหลายๆ คณาจารย์ในแถบตะวันออก

ลูกอมหนุมานครองเมือง เนื้อผงผสมผงพรายกุมาร ลป.ทิม วัดละหารไร่ ทาบอรนซ์ทอง



พุทธาภิเษก ณ วัดซากกอไผ่ ระยอง เมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2555 โดย
1. หลวงปู่เกลิ้ยง วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี
2. หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม
3. หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ระยอง
4. หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดหงส์รัตนาราม กทม.
5. พระอาจารย์สุริยันต์ วัดป่าวังน้ำเย็น มหาสารคาม
6. พระอาจารย์มานิตย์ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) กทม.

 

รายการที่ 75 หนุมาน เนื้อทองแดง พิมพ์ใหญ่ รุ่นแรก อุดผงพรายกุมาร ปี 2551
ครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต วัดแสงแก้วโพธิญาณ จ.เชียงราย

บูชา 800-




จัดเป็นหนุมานเนื้อโลหะ รุ่นแรกของท่าน
ใต้ฐานอุดผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ตอกโค๊ตกำกับ ความสูง 2.5 ซม.
ได้นำไปให้ อาจารย์ธรรมนูญ บุญธรรม สำนักบวแปดกลีบ ท่านเสกเพิ่มให้อีก
ท่านได้เมตตาจารหัวใจหนุมานที่ใต้ฐานให้ด้วย

ครูบาอริยชาติ ท่านมีชื่อเสียงจากการเข้านิโรธกรรมเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน
โดยของท่านเรียกการปฏิบัติอุกฤษฏ์แบบนี้ว่า “ การอยู่กรรม ”
ซึ่งจะกระทำในวันเข้าพรรษา โดยให้ปลูกกระโจมมุงด้วยหญ้าแฝก
บริเวณด้านนอกโดยรอบกระโจม ทั้ง 4 ทิศ ปักไม้มงคล เป็นเขตสังฆาวาส
เพื่อป้องกันสัตว์ร้าย ภูตผี ปีศาจทั้งหลาย อมนุษย์ทั้งหลาย มิให้เข้ามาในบริเวณกระโจมนิโรธได้
ภายในกระโจม ให้ขุดหลุมลึก 50 ซม. ปูรองด้วยหญ้าคาแห้ง เพื่อให้ครูบาเข้าไปนั่งภาวนาอยู่กรรม
โดยท่านจะนั่งภาวนาในกระโจมนี้ นาน 7 วัน 7 คืน ไม่พูด ไม่คุย ไม่ฉันอาหารหนัก
ฉันแต่เพียงน้ำสะอาด ที่กรองผ้าขาวบางเนื้อละเอียด 7 ชั้นเท่านั้น

โดยส่วนตัวแล้วรู้จักครูบาอริยชาติตั้งแต่ท่านเป็นเณรอยู่ที่วัดวังมุย (วัดครูบาชุ่ม โพธิโก)
ตอนนั้นแวะไปกราบรูปหล่อครูบาชุ่มก้ไปเจอเณรรูปหนึ่งผิวพรรณดี ดูมีราศีนั่ง อยู่ในโบสถ์
คุยกันแล้วเลยรู้ว่าทำพวกตะกรุดแจกตั้งแต่ยังเป็นเณร ก็เลยนำพระที่ติดไปขอให้ท่านช่วยเสกให้หน่อย
ตอนนั้นก็ไม่ได้หวังอะไรมาก ปรากฏว่าพอท่านเสกสักพักก็ปรากฏควันคล้ายๆ ควันธูปลอยขึ้นมจากกองวัตถุมงคล
ตอนแรกนึกว่าตาฝาด เลยเพ่งดูใหม่ก็ยังเห็น เลยหันไปมองรอบๆ เผื่อว่าจะเป็นควันธูปจากที่ไหนลอยเข้ามาหรือเปล่า
แต่ปรากฏว่าในโบสถ์ไม่ได้จุดธูปหรือเทียนเลย และควันนี้ค่อยๆ ลอยออกมาจากกองวัตถุมงคลแน่ๆ
เลยสะกิดเพื่อนที่นั่งหลับตาเสกอยู่ให้ช่วยดูทีสิว่าเห็นอะไรหรือเปล่า
ปรากฏว่าเห็นตรงกันมีควันขาวๆ ค่อยลอยขึ้นมาจริงๆ
พอท่านเสกจะเสร้จก็มีลมพัดมาวูบใหญ่แบบผิดปกติ
พอท่านลืมตาก็ถามท่านเลยว่า...เณรใช้กสิณไฟเสกเหรอ
ท่านก็ยิ้มน้อยๆ ตามแบบฉบับของท่านแล้วบอกว่า..เปล่า ใช้กสิณลม

 

รายการที่ 76 มัจฉานุ รุ่นแรก เนื้อโลหะผสม อุดสีผึ้ง+ตะกรุด ปี 2554
พระอาจารย์ไพรวัลย์ ชยทตฺโต วัดหาดทรายแดง ตราด

คุณ ณรงค์รัตน์ บูชาแล้ว




การสร้างเครื่องรางวัตถุมงคลรูปมัจฉานุมีมาแต่โบราณกาลแล้ว
เหตุก็เพราะว่า มัจฉานุ มีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่างหลายประการ
แม้ว่าจะเป็นเด็กอายุเพียงไม่ถึง 10 ขวบ แต่เผ่าพันธุ์ของมัจฉานุแต่ละท่านล้วนแล้วแต่เก่งๆ ได้รับพรจากพระนารายณ์และสวรรค์ทั้งนั้น
มัจฉานุของวัดหาดทรายแดง รังสรรค์โดยทีมช่างปฏิมากรรมมือหนึ่งที่ปั้นนารายณ์กวนเกษียรสมุทร สนามบินสุวรรณภูมิ
มัจฉานุของวัดหาดทรายแดงจึงมีลีลาน่ารัก อ่อนช้อย สวยงาม จัดเป็นมัจฉานุที่สวยที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา

มัจฉานุ
– มีปู่เป็นเจ้าแห่งลม คือ พระพาย
- มีตาเป็น ทศกัณฐ์ พญายักษ์เจ้าแห่งกรุงลงกา ซึ่งมีอำนาจและฤทธิ์เดชมาก มีบริวารมาก
- มีแม่เป็น นางสุพรรณมัจฉา หรือที่เราเรียกกันว่า นางเงือก คือ ร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์ ร่างกายท่อนล่างเป็นปลา
เมื่ออยู่ในน้ำจะมีฤทธิ์มาก มีบริวารมากมายมหาศาลในท้องน้ำ
- มีพ่อเป็น หนุมาน ทหารเอกของพระราม มีความเป็นอมตะใครฆ่าไม่ตาย ถึงตายก็ฟื้นเมื่อลมพัดผ่านมาโดนร่างกาย
หนุมานถือว่าเป็นยอดแห่งชายชาตรี คารมดี องอาจกล้าหาญ ใจถึงพึ่งได้
มีเสน่ห์อยู่ในที เป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีเพศ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ เป็นลิง มนุษย์ นางเงือก ฯลฯ เป็นว่าหลงในเสน่ห์ของหนุมานหมด

มัจฉานุได้รับการถ่ายทอดคุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้มาตามสายเลือด
เก่งเหมือนพ่อเมื่ออยู่บนดิน เหาะเหินเดินอากาศ มีความเป็นอมตะใครฆ่าไม่ตาย
มีเสน่ห์เป็นที่ต้องตาต้องใจ ใครเห็นก็รักและเมตตา
ในน้ำมัจฉานุก็ได้คุณสมบัติของแม่ไป ไม่มีใครจะหาญกล้าต่อกรกับลิงน้อยตนนี้
เรียกได้ว่าเก่งทั้งในน้ำ บนบก และในอากาศ
แม้จะมีฤทธิ์มากยิ่งกว่าผู้ใหญ่ แต่ด้วยความที่เป็นเด็ก กริยาท่าทางจึงน่ารัก น่าสงสาร มีเสน่ห์ชวนเอ็นดู

คุณสมบัติของมัจฉานุ
• มือขวา ถือตรี หมายถึง พ่อ (หนุมาน) ลูกพระพาย ผู้ไม่ตาย
ทำภารกิจได้สารพัด ถึงติดขัดปัญหาก็ชนะในทุกภารกิจ
• มือซ้าย ถือดอกบัว หมายถึง แม่ (สุพรรณมัจฉา) ผู้มีชีวิตอยู่ในน้ำ และมีบริวารมากมาย
• มัจฉานุมีความกตัญญู ผู้มีความกตัญญูเป็นทุนจะไม่มีทางอับจน
ถึงจะมีอุปสรรคปัญหาบ้าง แต่ผลข้างหน้าคือความสำเร็จ
เพราะเทวดาทั้งหลายรักผู้มีความกตัญญูรู้คุณ
• ลีลาของมัจฉานุ รุ่นแรก วัดหาดทรายแดง อยู่ในอิริยาบถที่เตรียมพร้อม กระฉับกระเฉง โผนทะยานอยู่บนผิวน้ำ
น้ำหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ความเย็นสบาย
• มัจฉานุ ยังอยู่ในวัยเด็ก ใครเห็นก็รัก น่านิยมชมชอบ ทำให้เป็นเสน่ห์ที่รักของผู้ที่ได้พบเห็น

ทั้งหมดนี้คือคุณสมบัติสำคัญที่ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านนำเอามาสร้างเป็นเครื่องรางของขลัง
กล่าวกันว่ามัจฉานุสร้างให้ขลัง สร้างให้ดี สร้างยากยิ่งกว่าหนุมานเสียอีก

มวลสารที่บรรจุใต้ฐาน
• ผงพรายกุมาร ลป.ทิม วัดระหารไร่
• มวลสาร ลป.หิน วัดหนองสนม ระยอง
• มวลสาร ลพ.เริ่ม วัดจุกกะเฌอ ชลบุรี
• มวลสารผงพุทธคุณต่างๆ
• ตะกรุดและสีผึ้ง ของ พระอาจารย์ไพรวัลย์

ชนวนมวลสาร
1. ตะกรุดทองแดง ลพ.พริ้ง วัดบางปะกอก เจ้าของเดิมแท้ๆ เป็นคนพื้นเพอยู่ใน อ.พระประแดง สมุทรปราการ
ในวัยหนุ่มก็มุ่งหน้าพายเรือแจวไปหา ลพ.พริ้ง วัดบางปะกอก เพื่อขอของดีมาคุ้มครองรักษาตัว
หลวงพ่อท่านก็เมตตาให้ตะกรุดมาพวงหนึ่ง ใช้มาอย่างโชกโชนจนเชือกที่ใช้ร้อยตะกรุดเปื่อยยุ่ยไปตามกาล
ตะกรุดทั้งหมดจึงถูกยกขึ้นหิ้งพระกราบไหว้บูชา และเมื่อถึงวันเวลาอันสมควรก็มอบให้ลูกชายทายาทคนโต
ซึ่งลูกชายของท่านคนนี้เป็นหนึ่งในศิษย์รักของพระอาจารย์ไพรวัลย์ ชยทตฺโต
เมื่อทราบว่าพระอาจารย์จะสร้างเครื่องรางรูปมัจฉานุ จึงยินดีสละตะกรุดหลวงพ่อพริ้งที่ทั้งรักทั้งหวงมาเป็นชนวนมวลสาร
2. ก้านชนวนที่เหลือจากการหล่อพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด คือ หลวงพ่อทันใจ
และก้านชนวนรูปหล่อหลวงปู่คำพันธ์ ซึ่งก้านชนวนดังกล่าวก็มาจากสิ่งมงคลหลายๆ อย่างอาทิ
ตะกรุดหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ แผ่นจารทองคำ ตะกรุดของครูบาอาจารย์ยุคเก่าหลายองค์หลายท่าน
3. ก้านช่อพระกริ่งมหาปราบ หลวงปู่ทิม อิสริโก ปี 2546
4. ก้านช่อพระปิดตาโสฬส หลวงปู่ทิม อิสริโก ปี 2533
5. ก้านช่อรูปหล่อหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า
6. ห่วงเหรียญของคณาจารย์จำนวนมาก เช่น ลพ.ชื่น วัดมาบข่า ลพ.หอม วัดซากหมาก ห่วงเหรียญรุ่นแรกลพ.วงศ์ วัดบ้านค่าย ห่วงเหรียญรุ่นต่างๆ ลป.ทิม อิสริโก และห่วงเหรียญของพระเกจิอาจารย์สายตะวันออกครบเกือบทุกองค์
7. ตะกรุด แผ่นจารอักขระ และตะกรุดลูกปืนของครูบาอาจารย์สายตะวันออกอีกหลายองค์

พิธีพุทธาภิเษกและเทวาภิเษก ณ วัดหาดทรายแดง เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2554 โดยมีราชวัตร ฉัตรธง หน่อกล้วย หน่ออ้อย หน่อมะพร้าว
และในช่วงเช้าได้มีพิธีการบวงสรวงภูมิเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่สถิตอยู่ในวัดหาดทรายแดง
หลังจากนั้นพระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ยาวต่อเนื่อง 1.5 ชั่วโมง จนถึงเวลา 15.55 น. เป็นว่าเสร็จพิธีในช่วงแรก

พอได้เวลา 16.30 น.พระอาจารย์ไพรวัลย์ เริ่มทำพิธีอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
จนกระทั่งเวลา 18.45 น. พระอาจารย์ฯ จึงออกจากสมาธิ รวมเวลาที่ท่านนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกนาน 2 ชั่วโมง 45 นาที

พระอาจารย์ไพรวัลย์ท่านเป็นผู้สืบทอด ยันต์มหา (สม) ปรารถนา จาก ลป.คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
ซึ่งกว่าท่านจะเรียนและเข้าใจยันต์นี้สำเร็จต้องใช้เวลาถึง 3 ปี
หลังจากนั้นท่านก็ได้ไปศึกษาวิชาอาคมจากครูบาอาจารย์ต่างๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะ ลพ.สาคร วัดหนองกรับ
วัตถุมงคลของท่านสร้างประสบการณ์ใน 3 ชายแดนจังหวัดภาคใต้มาแล้ว
ลูกศิษย์ท่านพกตะกรุดท่านติดตัวโดนลอบวางระเบิด ทหารตายทั้งคันรถยกเว้นลูกศิษย์ท่านคนเดียวแต่ก็หูดับไปหลายวัน

หมายเหตุ มัจฉานุนี้ได้นำไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกรูปหล่อบูชา 5 นิ้ว ลพ.สิริ วัดตาล ณ สำนักปฏิบัติประสิทธิโชค ชลบุรี
เมื่อวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2556 โดย ลพ.สิริ วัดตาล นั่งปรกปลุกเสกเดี่ยว

 

จองครับ.................

 

รายการที่ 77 พระเนื้อดิน พิมพ์พระสรรค์ยืน วัดดาวเรือง ปี 2517 (ลพ.กวย เสก)
พระครูปัญญาวิมล (แป๋ว อนุตตโร) วัดดาวเรือง สิงห์บุรี

วันทวี บูชาแล้ว EK 169093472 TH



เป็นพระที่ลพ.แป๋ว วัดดาวเรือง สร้างมื่อปี 2517 โดยผสมผงและมวลสารต่างๆ ตามสูตรการสร้างพระของลพ.กวย
เสร็จแล้วได้นำไปให้ ลพ.กวย อธิษฐานจิตให้ก่อนเป็นปฐมฤกษ์
ก่อนนำกลับมาจัดพิธีพุทธาภิเษกที่วัดดาวเรืองอีกครั้งหนึ่ง
พระพิมพ์พระสรรค์นี้มีคุณทางกันภัย กันอาถรรพ์ และกันผีดีนักแล
องค์นี้รับจากมือลพ.แป๋วเองเลย ท่านเมตตาจารหมึกด้านหลังให้ด้วย

ประสบการณ์ของพระพิมพ์สรรค์ที่ อ.เฒ่า สุพรรณ ได้บันทึกไว้

เรื่องแรก เรื่องนี้เป็นเรื่องของวิบากกรรมที่ตามมาทัน โดยมีสามีภรรยาคู่หนึ่งได้มากราบหลวงพ่อและขอเครื่องรางไปคุ้มตัว
โดยผู้เป็นเมียได้เล่าเรื่องแต่เบื้องหลัง เล่าไปด้วยความรู้สึกละอายใจ ไม่ยอมเงยหน้า

เดิมทีแล้วผู้เป็นเมียนี้มีอาชีพเป็นหมอตำแย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากแม่หมอตำแย
อยู่ต่อมามีคนมาติดต่อให้แกไปเอาเด็กออก คือ ผู้หญิงท้องไม่มีพ่อ บางคนมีลูกมากแล้วไม่อยากมีอีกก็ให้แกทำแท้งให้
ใหม่ๆ แกก็ไม่อยากไม่เต็มใจทำให้ อยู่ต่อมาก็เคยชินแถมค่าทำแท้งก็ได้มากกว่าค่าทำคลอดอีก
วิธีทำแท้งแบบโบราณ ก็คือ บีบเคล้นเอาเด็กออก เด็กบางคนแข็งแรงไม่ยอมออกต้องใช้วิธีหักคอ บางคนก็ตายทั้งลูกทั้งแม่

ผู้เป็นเมียทำอาชีพนี้มานาน ต่อมาจึงได้แต่งงานจนกระทั่งท้อง ตอนนางท้องมักจะไม่สบาย เป็นไข้แพ้ท้อง
และมักจะฝันไปว่าได้เห็นวิญญาณเด็กหลายสิบคนมารุมล้อมจะมาเอาชีวิตจะไม่ให้มีลูก
บางครั้งก็ฝันเห็นหญิงท้องแก่ที่ตายไปเพราะนางทำแท้ง หน้าตาเขียวปัด
แล้วนางก็จะเพ้อมีไข้ไมได้สติเป็นลมสลบไป ฟื้นขึ้นมาตัวซีดเขียว
หลายครั้งต้องไปตามหมอผีมาขับผีออกจากตัว
หมอผีบอกว่า มีผีแทรก หรือมีผีมาแฝง คือ ผีเข้า พอหมอผีมาผีก็ออกเป็นอยู่อย่างนี้
ต่อมานางก็แท้งลูก ผลกรรมเห็นทันตาเป็นเวลาหลายปีแท้งลูกมา ๔ คน บางครั้งเสียเลือดมากไม่ได้สติแทบเอาชีวิตไม่รอด

ทั้งคู่ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังดังนี้ หลวงพ่อท่านไม่พูดอะไร ไม่พูดแม้แต่คำเดียว ท่านลุกขึ้นไปหยิบพระพิมพ์สรรค์มาให้ ๑ องค์
ต่อมาอีก ๒ ปี ทั้งคู่ได้มากราบหลวงพ่ออีกครั้งพร้อมลูกชายตัวเล็ก
นางเล่าว่า หลังจากที่นางนำพรพิมพ์สรรค์มาติดตัว ตอนท้องปรากฏว่าไม่มีวิญญาณมารบกวนนางอีกเลย
รู้สึกว่าจะนำเด็กให้หลวงพ่อตั้งชื่อให้ ชื่อ รอด

เรื่องที่สอง ศิษย์รุ่นเก่าของหลวงพ่อชื่อ ยิ่ง ชาวบ้านเรียกแกว่า เสือยิ่ง บ้านอยู่ดงคอน สรรคบุรี
เสือยิ่งเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ

สมัยก่อนตำรวจ สภ.อ.สรรคบุรี สภ.อ.ค่ายบางระจัน สภ.อ.เดิมบางนางบวช ๓ จังหวัดติดต่อกัน มีประสิทธิภาพสูง
ปราบกันชนิดถึงพริกถึงขิงเลย โจรก็ร้ายตำรวจก็ร้ายจึงจะปราบกันได้
ตำรวจสมัยก่อนนี่คัดมาชนิดเส้นมือขาดกันทั้งนั้นเลย หลายครั้งที่เสือยิ่งหนีการจับกุมของตำรวจไปได้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด

โบราณว่าคนลิขิตไม่เท่าฟ้าลิขิต วันที่แกโดนล้อมจับ ล้อมยิงที่หนองบอน
ปืนเป็นสิบๆ กระบอกยิงแกไม่ถูก ยิงตรงยิงใกล้กลับยิงไม่ออก
ความที่แกชักจะมีอายุมากขึ้น ตัวคนเดียวน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟเป็นธรรมดา หนีมากๆ ก็หนีไม่ไหว โดนล้อมกรอบทุกทิศทาง
โดนตีด้วยด้ามปืนคนละเปรี้ยง สองเปรี้ยง...ตายเลย ทางญาติได้มาดูศพนัยน์ตาเหลือกโพลง

ตำรวจค้นในตัวไม่ปรากฏว่ามีวัตถุมงคลชนิดใด ทางญาติได้นำตัวมาเผาที่วัดบ้านกร่าง วัดนี้อยู่เลยวัดหลวงพ่อไป อยู่ใกล้ๆ วัดหนองตาแก้ว
ความรีบร้อนได้เผาด้วยแกลบ เผาไป ๒ คืน กับอีก ๑ วัน ปรากฏว่าเผาไม่ไหม้ ตัวดำปี๋เลย อ้าปากหวอ คนไปดูกันเต็มวัดไปหมด
บางคนบอกว่าเสือยิ่งหวงร่าง บางคนว่าเสือยิ่งมีของดี
ญาติเกิดเอะใจขึ้นมาล้วงเข้าไปในปากเจอพระพิมพ์สรรค์อยู่ ๑ องค์ ชนิดพิมพ์เล็ก
เป็นของหลวงพ่อกวย จึงได้ขอขมาและเผาจึงไหม้

เรื่องที่สาม มีคนหนึ่งชื่อ บุญธรรม เป็นศิษย์รุ่นเก่าคนบ้านแค ถ้ามาบ้านแคให้ถามถึงสังนายธรรม คือ คนตายแล้วเขาจะเรียกสัง
นายบุญธรรมเคยโดนยิงใกล้ๆ ยิงไม่ออก เคยโดนฟันก็ฟันไม่เข้า แกคงจะแสบทีเดียว
ภายหลังโดนรุมตีตาย ทางญาติแหกปากดูเจอพระพิมพ์สรรค์

เรื่องที่มีคนใช้พระของหลวงพ่อแล้วตายนี่ บางคนอาจคิดว่างั้นพระหลวงพ่อก็ไม่เก่งจริงสิ โดนทุบตีก็ตาย
คือ อันนี้ขึ้นอยู่กับวิบากกรรม โดนทุบตายยังมีศักดิ์ศรีดีกว่าโดนยิงโป้งเดียวตาย

 

รายการที่ 78 พระพิมพ์ลีลา เนื้อดิน วัดดาวเรือง ปี 2517 (ลพ.กวยเสก)
พระครูปัญญาวิมล (แป๋ว อนุตตโร) วัดดาวเรือง สิงห์บุรี

บูชา 1,200



สร้างพร้อมกันกับพิมพ์พระสรรค์ พระที่สร้างในปีนั้นมีหลายพิมพ์ มีพิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น
พิมพ์ปรกโพธิ์พุทธกวัก พิมพ์แหวกม่าน พิมพ์นางพญาข้างเม็ด
สร้างเสร็จก็ขนไปให้ลพ.กวยท่านเสกถึงที่วัดท่าน
แล้วนำกลับมาจัดพิธีพุทธาภิเษกอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งลพ.กวยท่านก็มานั่งปรกด้วย
เท่ากับลพ.กวยเสกให้ 2 ครั้งด้วยกัน

 

จองรายการนี้ด้วยครับ..

 

รายการที่ 79 พระสมเด็จเสตังคมุนี ปี 2515
พระครูญาณวิลาส (แดง รตฺโต) วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี

บูชา 700-



พระพุทธเสฏฐมุนี (เสตังคมุนี) เป็นพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่ง ประดิษฐาน ณ ศาลาการเปรียญ วัดสุทัศน์ฯ กทม.
รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้นำกลักฝิ่นที่ยึดไว้เมื่อตอนปราบปรามฝิ่นครั้งใหญ่ที่สุด
นำมาหลอมสร้างเป็นพระพุทธรูปมีขนาดหน้าตักกว้าง 1 วา 1 คืบ 1 นิ้ว

ท่านเจ้าคุณพระสุนทรกิจโกศล คณะ 5 วัดเทพธิดาราม กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหลานชายของ พระครูญาณวิลาศ (แดง) วัดเขาบันไดอิฐ
มีความประสงค์จะบูรณะปฏิสังขรณ์กุฏิที่คณะ 5 ท่านจึงได้สร้างพระขึ้นเพื่อหาทุนมาดำเนินการดังกล่าว
โดยสร้างเป็นพระเนื้อผงผสมน้ำมันและเนื้อผงใบลานขึ้นมา 5 พิมพ์ คือ

1. พระสมเด็จรูปเหมือนหลวงพ่อแดง
2. พระสมเด็จเสตังคมุนี
3. พระสมเด็จพระปทุมรังษี
4. พระร่วงหลังรางปืน
5. พระประทานพรทรง 3 เหลี่ยม

สำหรับพระสมเด็จเสตังคมุนี องค์พระมีขนาด 2.6 X 4 ซม.
เป็นเนื้อผงผสมน้ำมัน มีหลายวรรณะ ทั้ง สีขาว เหลือง แดง เทา

มวลสาร 1. ผงพระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม
2. ดอกไม้ที่บูชาพระบรมธาตุเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุหลายแห่ง เป็นต้นว่า
• พระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
• พระธาตุหริภุญชัย ลำพูน
• พระธาตุเจดีย์วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
• พระบรมธาตุดอนเต้า ลำปาง
• พระบรมธาตุลำปางหลวง ลำปาง ฯลฯ
3. ผงธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น
• วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
• พระประธานในอุโบสถ วิหารหลวงวัดมหาธาตุ
• ผงที่ตกอยู่หน้าตักรูปปั้นของพ่อแก่ (เจ้าอธิการฤทธิ์)
• ผงที่ตกอยู่หน้าตักรูปปั้นท่านเจ้าคุณพระเพชรคุณมุนี วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี
4. ผงธูปและดอกไม้จากสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ เช่น
• ผงธูปและดอกไม้บูชาพระพุทธชินราช พิษณุโลก
• ผงธูปและดอกไม้วัดมหาธาตุกรุงเก่า สุโขทัย
• ผงธูปและดอกไม้ วัดตาล น่าน
• ผงธูปและดอกไม้ในพระอุโบสถวัดราชนัดดา กทม.
• ผงธูปและดอกไม้วัดสุทัศน์ฯ กทม.
• ผงธูปและดอกไม้วัดพระเชตุพน กทม.
• ผงธูปและดอกไม้วัดมหาธาตุ กทม.
• ผงธูปและดอกไม้วัดปรินายก กทม.
• ผงธูปและดอกไม้วัดอรุณราชวราราม กทม. ฯลฯ
5. ผงอิทธิเจ
6. ดินสังเวชสถาน 4 แห่ง ในประเทศอินเดีย

การปลุกเสก 1. ลพ.แดง วัดเขาบันไดอิฐ ปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์นาน 3 เดือน
2. พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดปริณายก กรุงเทพมหานคร โดยมีพระคณาจารย์ที่มาร่วมในพิธีปลุกเสก อาทิ
• พระราชปัญญาโสภณ (สุข) วัดราชนัดดา กทม.
• พระครูปลัดสำเริง วัดราชนัดดา กทม.
• พระญาณโพธิ์ วัดสุทัศน์ฯ กทม.
• พระครูสิริวรคุณ วัดพระยาศิริไอยสวรรค์
• พระครูนิมิตสีลคุณ วัดใหม่เทพนิมิต
• พระครูพิทักษ์วิหารกิจ (สา) วัดราชนัดดา กทม.
• พระครูปัญญาโชติวัตร (เจริญ) วัดทองนพคุณ เพชรบุรี
• หลวงพ่อมิ วัดสิงห์ (เชิงสะพานกรุงธน) กรุงเทพฯ เป็นต้น

หมายเหตุ ต่อมาในปี 2516 ได้มีการสร้างเพิ่มขึ้นมาใหม่อีก 3 พิมพ์
1. พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อแดง พิมพ์จันทร์ลอย
2. พระปิดตาจันทร์ลอย
3. พระพิมพ์สมเด็จฐาน 3 ชั้น หลังยันต์ครูของหลวงพ่อแดง
เป็นพระเนื้อผงผสมชานหมากหลวงพ่อแดง ผงเกสร ผงเมตตามหานิยมที่หลวงพ่อแดงปลุกเสกให้
เมื่อสร้างเสร็จแล้วก็นำมาให้หลวงพ่อแดงปลุกเสกตลอดไตรมาสเช่นกัน

 

พระที่คุณหมอส่งมาได้รับแล้ว ขอบคุณครับ
ขอจอง
รายการที่ 69 เหรียญหล่อพระพุทธปางป่าเลไลย์ รุ่น 2 เนื้อทองเหลือง ปี 2529 (มีจาร)
รายการที่ 71 ผ้าขอดจีวรถัก (10 ปม 3 ชุด) ปี 2555 ครับ

พรุ่งนี้จะให้แฟนโอนให้นะครับ พร้อมกับค่าพระลพ.เชย พอดีใช้มือถือเข้าเวป ระยะนี้รวนบ่อยครับ

 

รายการที่ 80 พระผงพุทธรักษา เนื้อว่านชานหมาก ปี 2537
พระครูพุทธสิริวัฒน์ (เมี้ยน พุทธสิริ) วัดโพธิ์กบเจา อยุธยา

บูชา 650-



พระพุทธรักษา จัดเป็นพระเครื่องพิมพ์หนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ ลพ.เมี้ยน
ท่านชอบพระพิมพ์นี้มาก จึงสร้างออกมาหลายครั้ง
องค์นี้เป็นเนื้อว่านยาผสมชานหมากของท่าน และที่สำคัญคือ ท่านเจิมน้ำหมากท่านให้ด้วย

หลวงพ่อเมี้ยนท่านเป็นพระหมอยา ท่านดัง ด้วย 5 ม. คือ มีดหมอ ไม้ครู น้ำมัน น้ำมนต์ และน้ำหมาก
เล่ากันว่าหลวงพ่อเมี้ยน ท่านมีความสามารถในการไล่ภูตผี ปีศาจมาก
ใครโดนเสน่ห์ยาแฝด คุณไสย ต่างมาขอบารมีหลวงปู่ทั้งสิ้น
จนเคยมีลูกศิษย์ของท่านไปหาหลวงปู่มีว่าให้ช่วยถอนคุณไสยด้วยยันต์เกราะเพชร หลวงปู่มีหัวเราะแล้วกล่าวว่า...ท่านเมี้ยน ทำเก่งกว่าข้าอีก

ในพิธีพุทธาภิเษกที่วัดบางนมโค ประมาณปี ๒๕๓๖ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมพิธี
ในพิธีนั้นมีเกจิชื่อดังจากประจวบฯ เจ้าของปลัดขิกที่โด่งดังได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีด้วย และมาถึงตอนใกล้จะถึงเวลาฤกษ์เสกพอดี
ท่านพูดออกมาว่า " วันนี้ขอลองวิชากับพระอยุธยาหน่อย "
ปรากฏว่าในช่วงที่นั่งปลุกเสกในโบสถ์ ท่านก็ใช้กสิณไฟทำให้อากาศบริเวณพิธีร้อนมากๆ
เมื่อเวลาผ่านไปพระเกจิอาจารย์ที่เข้ามาร่วมพิธีเหงื่อแตกเกือบทุกองค์ บางองค์เริ่มทนอากาศร้อนไม่ไหวก็เริ่มทยอยออกจากโบสถ์
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง เหลือพระเกจิอยุธยาไม่กี่องค์
และเมื่อเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น ทำให้บางองค์ต้องลุกออกจากโบสถ์
เหลือหลวงพ่อเมี้ยน กับหลวงพ่อชื่อดังจากประจวบฯ เพียง 2 องค์จนกระทั่งปลุกเสกเสร็จ
หลวงพ่อจากประจวบฯ ยกมือไหว้หลวงพ่อเมี้ยนและกล่าวว่า “ ผมยอมหลวงพ่อแล้วครับ ”
มีศิษย์ของท่านที่ไปด้วยเห็นความผิดปกติ เลยถามหลวงพ่อว่าทำไมหลวงพ่อถึงไม่มีเหงื่อออกเลย
หลวงพ่อเมี้ยนท่านตอบว่า " ไม่รู้จักเมี้ยนซะแล้ว เมี้ยนลูกศิษย์หลวงพ่อจงนะ "

 

รายการที่ 81 พระพิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว วัดสรรเพชญ นครปฐม ปี 2512
ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ อธิษฐานจิต

บูชา 1,500-



พระวัดสรรเพชญ จัดสร้างโดย พระอาจารย์ทองเจือ ธัมมธีโร วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ คุณหมอสุพจน์ ศิริรัตน์
ที่ได้รับอนุญาต จากท่านเจ้าคุณนรฯ ให้สร้างเพื่อหาทุนสร้างพระอุโบสถวัดสรรเพชญ นครปฐม

พระรุ่นนี้มีหลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ที่เด่นๆ คือ
1. พิมพ์ประทานพร เป็นพระเนื้อผงรูปห้าเหลี่ยม องค์พระนั่งยกมือประทานพร
ด้านหลังปั๊มตรายางเป็นยันต์องค์พระ และมีภาษาไทยกำกับอยู่ข้างล่างว่า “ สุโข วิเวโก ”
2. พิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว เป็นพระเนื้อผงรูปห้าเหลี่ยม ขนาดใหญ่กว่าพิมพ์ประทานพรเล็กน้อย
องค์พระนั่งสมาธิในซุ้มเรือนแก้วเหนืออาสนะบัวคว่ำบัวหงาย
ด้านหลังปั๊มตรายางองค์พระและมีภาษาไทยเขียนไว้ข้างใต้ว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ”
3. พิมพ์สมเด็จ สร้างไว้หลายแบบ บางพิมพ์มีไม่ถึง 100 องค์
เช่น พิมพ์จันทร์ลอย พิมพ์สาม เหลี่ยมหน้าหมอน แต่ที่สร้างไว้มากมีอยู่ 2 พิมพ์ คือ
1) พิมพ์สมเด็จวัดสรรเพชญ เป็นพระสมเด็จฐาน 3 ชั้น มีพระพักตร์ชัดเจน ด้านหลังเป็น
ยันต์องค์พระปั๊มนูน และมีตัวหนังสือว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ” สร้างโบสถ์วัดสรรเพชญ
จำนวนสร้าง พิมพ์ใหญ่พิเศษ (กรรมการ) มีโมเสสและพลอยเมืองจันทร์อยู่ด้านหลัง 200 องค์
พิมพ์ธรรมดา 8,000 องค์
พิมพ์พระประธานพร (พิมพ์เล็ก) 10,000 องค์
2) พระสมเด็จพิมพ์นิยม เป็นพระสมเด็จฐาน 3 ชั้นทั่วไป ด้านหลังปั๊มตรายางรูปองค์พระ
และมีภาษาไทยเขียนไว้ข้างใต้ว่า “ ธมฺมวิตกฺโก ” แบบเดียวกับพิมพ์สมาธิซุ้มเรือนแก้ว

สำหรับพิมพ์จันทร์ลอย เป็นพิมพ์ที่แจกกรรมการ มี 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก
1. พิมพ์ใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 ซม.
ด้านหน้า เป็นพระพุทธปางมารวิชัยประทับเหนือสิงห์ตรงกลางกลีบบัว และมีการวางยันต์
ต่างๆ ไว้มากมาย
ด้านหลัง ก็มีการวางยันต์ไว้มากมาย เป็นยันต์ของคณาจารย์ต่างๆ ของนครปฐม และที่อื่นๆ
ด้วย เช่น นะล้อมโลกของหลวงพ่อน้อย ตรงกลางกลีบบัว และยันต์ของหลวงพ่อ
ต่างๆ ไว้ในกลีบบัว ซึ่งสัดส่วนต่างๆ นั้นลงตัวและมีความคมชัดมาก
2. พิมพ์เล็ก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3.5 ซม.
ด้านหน้า เป็นพิมพ์พระพุทธมารวิชัยเช่นกัน จะสังเกตได้ว่าเป็นการจำลองจากพิมพ์ใหญ่มา
แล้วได้ว่างยันต์ไว้ด้านล่าง
ด้านหลัง เป็นยันต์ปิดตาล้อมด้วยมังกร

มวลสารประกอบด้วย
1. เส้นเกศาเจ้าคุณนรฯ และผงเสกไตรมาสวัดวิเวกวนาราม (ประมาณปี๊บครึ่ง)
2. ผงลบถม 12 คัมภีร์ ของ อ.รอด สุขเจริญ ได้แก่
- ผงปถมัง - ผงอิทธิเจ
- ผงมหาราช - ผงสุกิตติมา
- ผงนอโม - ผงอาการวัตตาสูตร
- ผงอิติปิโสรัตนมาลา - ผงธรรมคุณ
- ผงสังฆคุณ - ผงพระสิวลี
- ผงพาหุง - ผงนะ 108
3. ผงศิลาธิคุณ หรือ ผงฤาษีผสม ที่เขาเจียก ดีทางรักษาโรค เมตตา มหานิยม แคล้วคลาด
4. ผงดินสอฤาษี (สีเหลือง) มีอานุภาพทางเมตตา มหานิยม แคล้วคลาด
5. ผงจันทรประภา ทำได้เฉพาะในคืนวันเพ็ญ เดือน 12 ที่ตรงกับวันจันทร์เท่านั้น มีอานุภาพทางมหาเสน่ห์ เมตตา มหานิยม อย่างเอกอุ
6. ผงสุริยประภา ผงนี้ทำจากกะลามะพร้าวตาเดียวแกะเป็นรูปราหูอมจันทร์นำมาเสกแล้วเผาตำ
ให้เป็นผง และต้องทำในวันที่เกิดสุริยุปราคาเท่านั้น ผงนี้มีอิทธิคุณทางกันภัยและโชคลาภ
7. แร่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น
- แร่เกาะล้าน ดีทางแคล้วคลาด คงกระพัน กันอสรพิษ
- แร่นกกาสัก (ขี้นกกาสัก) พบมากที่ อ.อู่ทอง สุพรรณบุรี
ตามตำนานกล่าวไว้ว่า แร่นี้เกิดจากพระฤาษีได้สร้างนกกาสักขึ้นด้วยอาคม
แล้วให้นกนี้ไปกินแร่ที่ศักดิ์สิทธิ์ตามที่ต่างๆ แล้วถ่ายออกมาเป็นแร่นี้
มีคุณทางคงกระพันและแคล้วคลาด
- สะเก็ดดาว หรือ อุลกมณี
- แร่เขาสารพัดดี อยู่บนเทือกเขาสารพัดดี ชัยนาท วันดีคืนดีจะได้ยินเสียงดนตรีประโคมดัง
- แร่เขาสามยอด
8. พลอยเมืองจันทบุรี
9. น้ำมันหอม 9 กลิ่น ลพ.จ่าย วัดรุ้ง ที่ท่านเสกจนเดือด
10. ผงลพ.สด วัดปากน้ำ และผงพระวัดปากน้ำ รุ่น 1-3 ที่แตกหักชำรุดจำนวนมาก
11. ผงพระชุดเบญจภาคีที่ชำรุดแตกหัก
12. ผงพระกรุเก่าจากที่ต่างๆ ทั่วประเทศ
13. กระเบื้องโมเสค หลวงพ่อโต วัดอินทรวิหาร
14. ผงพระสมเด็จวัดสามปลื้ม

การกดพิมพ์ กระทำโดยพระเณรในวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยในขณะกดพิมพ์จะต้องภาวนาว่า “ พระสัมมา อรหัง จุติ ”
เมื่อเสร็จเป็นองค์พระเรียบร้อยแล้วก็นำใส่กล่องห่อด้วยผ้าขาวนำไปให้ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านอธิษฐานจิต
แต่ท่านเจ้าคุณนรฯ กลับตอบว่า
“ ในพรรษานี้จะไม่มีการปลุกเสกพระใดๆ (ที่วัดเทพศิรินทร์) ทั้งสิ้น
ขอให้คุณนำกลับไปไว้ ณ ห้องชั้นบนโรงเรียนภาวนานุสรณ์ พร้อมจัดตั้งอาสนะไว้
เวลา 2 ทุ่มตรง ให้จุดเทียนชัยและธูป อาตมาจะสวดมนต์แผ่เมตตาไปให้ "

พุทธาภิเษก 2 วาระ
วาระที่ 1 ที่วัดชิโนรส กทม. มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม , หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ร่วมปลุกเสก
วาระที่ 2 อธิษฐานจิตเดี่ยวโดยท่านเจ้าคุณนรฯ ซึ่งท่านได้เมตตาปลุกเสกให้ถึง 3 วาระ ด้วยกัน คือ
1) ท่านเจ้าคุณนรฯ ได้เมตตาปลุกเสกผงวัดวิเวกวนารามให้ตลอดไตรมาสเมื่อ ปี 2511
ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า
เมื่อสร้างเป็นพระเครื่องแล้ว ไม่จำเป็นต้องนำมาให้ท่านปลุกเสกอีกก็ได้ เพราะผงนี้เป็นผงวิเศษที่ดีอยู่แล้ว
2) ปลุกเสกโดยญาณ โดยท่านเจ้าคุณนรฯ ได้สั่งให้พระอาจารย์ทองเจือ จัดอาสนะไว้ให้ท่านเพื่อปลุกเสกให้
ซึ่งเมื่อได้จุดธูปเทียนบอกกล่าวนิมนต์ท่านแล้ว ก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นทันที คือ
เปลวเทียนที่จุดไว้ลุกสว่างจ้าขึ้น และเอนลู่ไปคล้ายมีลมพัดอย่างแรง
ทั้งๆ ที่ขณะนั้นประตูห้องทุกบานและหน้าต่างปิดหมด
ซึ่งพระอาจารย์ทองเจือได้ทำแบบนี้ตลอดพรรษาปี 2513
3) พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดเทพศิรินทร์ กทม. เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2513 ซึ่งเป็นการอธิษฐานจิตเดี่ยวครั้งใหญ่และเป็นสุดท้ายของท่านเจ้าคุณนรฯ
ซึ่งเมื่อท่านอธิษฐานเสร็จท่านได้เปล่งเสียงออกมาดังๆว่า
“ พระเมตตา พระมหานิยม พระอุดมลาภ พระมหาลาภ พระมหาอุด พระแคล้วคลาด พระคงกระพันชาตรี พระล่องหนหายตัวได้ ”

หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชญ ท่านมีความสนิทสนมกับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม มานาน
ทั้งได้แลกเปลี่ยนวิชาความรู้กันตลอดตั้งแต่ตอนที่ท่านเพิ่งย้ายมาอยู่วัดสรรเพชร(สรรเพชญ)
ถ้ามีลูกศิษย์จากอำเภอสามพราน นครปฐมไปกราบไปขอของดีจากหลวงพ่อเงิน
หลวงพ่อเงินท่านจะบอกว่า ไม่ต้องมาไกลหรอก หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชร ท่านก็เก่งไม่เบาเลยทีเดียว
อีกทั้งหลวงปู่เพิ่มยังได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนทดลองวิชากับ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ อีกด้วย
รวมทั้งได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีปลุกเสกหมู่ของทางวัดกลางบางแก้วหลายครั้งเลยทีเดียว