อัศจรรย์!!! กระแสพลังธรรม.. พระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้(ตำรับขุนแผนชมตลาด)

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย smart7667, 29 กรกฎาคม 2013.

  1. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    พระปิดตาไม่มีผงหลวงปู่โต๊ะหรอกครับแต่ผงชินบัญชรพ่อท่านไข่วัดลำนาวก็พลังล้นเหลือเต็มอณูแล้วขอให้ท่านถือศีลห้าให้ดีแล้วคล้องพระนะครับ พลังจะประกันชีวิตท่านเอง ผมรับรองหากไม่เป็นดังที่ว่าผมรับผิดชอบเอาไงว่ามาเลยครับ...เล่ากันว่า..พระสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังษี หรือพระวัดพลับ คือ เนื้อแห้งและแกร่ง เมื่อถูกสัมผัสจะหนึก
    นุ่มและเนื้อจัดมาก คาดว่าท่านคงสร้างไว้นานเป็นปีแล้วจึงนำมาแช่น้ำมนต์ เนื้อพระจึงไม่เปื่อยยุ่ย มีคราบน้ำมนต์จับสีขาวขุ่นบ้าง สีน้ำตาลบ้าง เกิดพลังอาโปเย็นยับที่จะดลบันดาลให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขและพัดพากระแสเงินทองเข้าหาผู้บูชา...พระผงโดยปรกตินั้น ถ้าเป็นเนื้อว่านอย่างเดียวนั้นจะไม่สามารถแช่น้ำมนต์ได้นานๆครับเนื่องด้วย
    ตัวประสานที่ใช้ส่านใหญ่จะใช้เป็นข้าวสุกหรือกล้วยและน้ำมันตังอิ้ว
    เมื่อแช่ในน้ำจะทำให้พระชำรุดครับ

    ส่วนพระที่พ่อท่านแช่น้ำมนต์นั้น จะแช่กันเป็นเดือนๆเกือบปีแล้วมั้ง..
    หลักการที่แช่น้ำมนต์ได้นั้นมวลสารหลักที่จะนำมาปั๊มก็จะเป็นจำพวกปูนซะส่วนใหญ่
    เช่น ปูนเปลือกหอย,ก้างปลา ,ปูนขาว จำพวกนี้เมื่อแข็งแล้วจะไม่ละลายน้ำแล้วครับอาจจะยุ่ยเล็กน้อย

    พระปิดตารุ่นนี้ผมได้เอาข้าวสุกใส่ลงไปด้วยในแต่ละครกตำมวลสาร...จะเรียกว่าพระปิดตาข้าวสุกก็ไม่น่าผิด...
     
  2. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    พระปิดตา กับพระขุนแผน ขุนแผนสร้างมาหลายปีแล้วตระเวณเสกนานมาก พระปิดตาสร้างหลังแต่ก็แช่น้ำมนต์เกือบปีก่อนที่จะเสกเต็มอณูกะว่าจะให้กันสารกัมมันตรังสีเลยให้ดีให้เฮงเน้อ......
     
  3. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    เรื่องของน้ำมนต์เป็นความเชื่อที่มีมาช้านานแล้วว่า สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้

    และด้วยความเชื่อเช่นนี้เอง จึงทำให้ “สุกัญญา คมสัน” พยาบาลหน่วยทารกแรกเกิด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ทำวิจัยเรื่อง “ทิพยมนต์กับการบำบัดโรค” ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ ในวารสารสำนักการแพทย์ทางเลือกปีที่ 3 ฉบับที่ 2 พฤษภาคม - สิงหาคม 2553

    ในบทคัดย่อของงานวิจัยนี้บอกไว้ว่า

    พระภิกษุผู้ปฏิบัติกรรมฐานได้ฌานระดับต่างๆ ย่อมมีพลังจิตสูง สามารถส่งพลังจิตผ่านการสวดมนต์ พลังจิตชนิดนั้น ก็จะถูกบันทึกไว้ในน้ำและสามารถถ่ายออกมา นำไปใช้ในโอกาสที่ต้องการ คือผู้ใช้ต้องตั้งจิตแน่วแน่ ขอรับเอาพลังในสิ่งนั้นๆมาใช้ให้เกิดผลดีกับตน

    ผู้วิจัยจึงเกิดแนวคิดว่า หากสามารถนำพุทธศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบำบัดโรคร่วมกับการรักษาของแพทย์ โดยเปรียบเทียบภาวะเจ็บป่วยตามกลุ่มอาการ 7 ชนิด ในทารกแรกเกิดจำนวน 482 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มควบคุมและกลุ่มที่ใช้น้ำทิพยมนต์

    ผลการวิจัยพบว่า จำนวนวันนอนโรงพยาบาลเฉลี่ยลดลงจาก 8.6 วัน เหลือ 4.8 วัน ค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและโรงพยาบาลลดลง

    ซึ่งน้ำแต่ละประเภทที่ทดลองมีการเรียงตัวของโมเลกุลแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต น้ำที่มีคุณภาพสูงจะมีการจัดเรียงโมเลกุลที่ดีกว่า แต่น้ำทุกประเภทที่ผ่านการสวดพระพุทธมนต์ ด้วยพลังแห่งพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ และสังฆานุภาพ สามารถเปลี่ยนโมเลกุล น้ำให้เป็นหกเหลี่ยม และเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม ถึงแม้ระยะเวลาจะผ่านไปหลายปี หรือการทำให้อุณหภูมิน้ำเปลี่ยนแปลงโดยการต้มหรือเข้าไมโครเวฟ จะยังคงสภาพเดิมอยู่ได้

    ทิพยมนต์นี้ เป็นการสวดพุทธคุณเข้าธาตุ คนเราเกิดมาต้องอาศัยธาตุทั้ง 6 ธาตุเหล่านี้เปลี่ยนแปลงได้ด้วยการกระทำของตนเอง หากกระทำดีธาตุจะให้คุณ

    อำนาจของพุทธคุณนี้ทำให้ธาตุของตน บริสุทธิ์ จิตจะผ่องใสและมีพลัง และเมื่อจิตฝึกหัดดีแล้ว ย่อมใช้อำนาจไปในทางที่ ถูกผูกใจคน ได้รับผลล้นค่า...

    ในระยะที่ผ่านมา มีการทดลองใน ญี่ปุ่น โดย ดร.มาซารุ เอโมโตะ เรื่อง The hidden messages in water ถ่ายรูป ผลึกของน้ำ เมื่อผ่านการฟังเสียงพูด เสียง เพลง ที่มีเจตนาอารมณ์ต่างๆกัน ผลึกของน้ำก็จะแตกต่างกัน มีทั้งสวยงามและไม่สวยงาม

    ผลงานนี้ได้เผยแพร่ให้นักวิทยาศาสตร์ ทั่วโลกได้รับรู้ด้วย จึงมีคำถามตามมาว่า

    ทำไมน้ำจึงรับพลังจิตได้หลากหลายจนกลายเป็นน้ำมนต์ น้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีกันทั่วโลกหลายพันปีแล้ว และกลายมาเป็นน้ำรักษาโรค

    ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำมนต์นั้นอธิบายด้วยวิชาฟิสิกส์ด้านควอนตัม ซึ่งหมายถึง อนุภาคที่เป็นส่วนย่อยของอะตอม มีอยู่ในอะตอมของทุกๆธาตุในโลก มีคุณสมบัติที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น อาจแสดงตัวเป็นมวล(สสาร) หรือเป็น คลื่น(พลังงาน)ก็ได้ แล้วแต่สิ่งแวดล้อม

    อนุภาคควอนตัมตัวเดียวอาจอยู่ได้หลายๆที่ในเวลาเดียวกัน และอนุภาคควอนตัมที่มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน เมื่อถูกจับแยกให้ห่างกัน แม้จะไกลเท่าใดก็ตาม ก็จะรับส่งข้อมูลติดต่อกันได้ด้วยความเร็วมากกว่าแสง

    • ระเบียบวิธีการวิจัย

    1. ตรวจโมเลกุลน้ำชนิดต่างๆ (น้ำ กรอง/ Sterie water/ 0.9 % Normal Saline/Intravenours Fluid) ด้วย Dark Field Microscoope กำลังขยาย 100-400 เท่า ก่อนและหลังนำเข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระสงฆ์จำนวน 9 รูป มีหลวงปู่ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผาน จ.จันทบุรี เป็นประธาน

    2. น้ำชนิดต่างๆที่ผ่านพิธีจะไม่มีการเปิดขวดหรือปนเปื้อนใดๆทั้งสิ้น

    3. นำน้ำที่เข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์แล้ว (น้ำทิพยมนต์) บำบัดโรคแก่ทารกที่เจ็บป่วยร่วมกับแผนการรักษาของแพทย์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ป่วยให้น้ำทิพยมนต์ ให้บริกรรมคำว่า “พุทโธ” และอธิษฐาน ขอให้ผู้ป่วยหายจากโรคที่เป็นอยู่ เพื่อเป็นอุบายในการคิดและปรารถนาสิ่งที่ดีต่อผู้อื่น

    4. เปรียบเทียบตัวชี้วัดตามกลุ่มอาการ ของโรค 7 ชนิด ระหว่างกลุ่มทารกเจ็บป่วย ที่ใช้ และไม่ใช้น้ำทิพมนต์ (กลุ่มอาการโรค ได้แก่ ภาวะหายใจลำบาก ปริมาณ gastric content เหลือค้างในกระเพาะอาหาร ภาวะตัวเหลือง จอประสาทตาเสื่อม ผื่นแพ้ แสงบำบัด PDA เปิด ภาวะหลอดเลือดดำอักเสบแดงจากการฉีดยา เป็นต้น) จากจำนวนทารกแรกเกิดที่มีภาวะเจ็บป่วยทั้งหมด 462 คน

    5. เปรียบเทียบผลการทดลองที่ได้ แปลผล และสรุปผล ภายใต้รูปแบบกระบวนการวิจัย

    คุณสมบัติของน้ำทิพยมนต์

    1. สามารถผ่านผนังเซลล์ได้ง่าย สามารถนำพาสารอาหาร เอนไซม์ แร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งออกซิเจนเข้าไปในเซลล์ เพื่อนำไปใช้ได้ง่าย เมื่อออกจากเซลล์ก็จะพาเอาสารพิษ สารตกค้าง และของเสีย จากกระบวนการเผาผลาญอาหารออกมา จากเซลล์ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผลคือเซลล์มีสุขภาพดี ชะลอการเสื่อมคุณภาพลงได้

    2. มีแรงตึงผิวต่ำจึงสามารถทำละลายได้ดี จึงทำละลายได้ดีทั้งออกซิเจน วิตามิน แร่ธาตุ และนำพาสารอาหารเข้าไปยังเซลล์ได้มากขึ้น ขณะเดียวกันของเสียในเซลล์ก็สามารถละลายได้ง่ายในน้ำนี้เช่นกัน

    ดังนั้น จึงถูกนำพาออกมากำจัดนอกเซลล์และถูกนำออกจากร่างกายได้โดยสะดวก เซลล์จึงแข็งแรงและมีภูมิต้านทานดีขึ้น

    3. มีปริมาณออกซิเจนสูง ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายได้รับออกซิเจนเพื่อสร้างพลังงานได้เร็วและมากขึ้น ออกซิเจนยังช่วยทำให้ Anaerobic Bacteria หยุดการเจริญเติบโตในที่ที่มีออกซิเจน

    4. มีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อนๆ (pH 7.5-8.0) ร่างกายมนุษย์ (ยกเว้นกระเพาะอาหารและไต) มีค่าเป็นด่าง(pH 7.4) น้ำโมเลกุลหกเหลี่ยมมีค่าเป็นด่าง มากกว่า จึงช่วยเจือจางของเสียที่มีฤทธิ์เป็นกรดภายในเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ให้สมดุล การเผาผลาญพลังงานทุกครั้งจะเกิดของเสียที่เป็นกรดสะสม การมีภาวะกรดในเลือดสูง ถ้าไม่มีน้ำดื่มที่เป็นด่างมาช่วยทำปฏิกิริยาต่อต้าน จะทำให้ร่างกายจำเป็นต้องดึงเอาแคลเซียมและแมกนีเซียมออกมาจากเนื้อของกระดูกฟัน และกล้ามเนื้อ เพื่อมาเจือจางความเป็นกรดในร่างกาย

    5. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เกิดจากออกซิเจนอิออน ซึ่งให้ ประจุลบไปหยุดวงจรของการเกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวทำลายเยื่อหุ้มเซลล์และความเสื่อมต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคข้ออักเสบ โรคเบาหวาน เป็นต้น ในบางครั้งออกซิเจนอิออนจะรวมกันเองกลายเป็นก๊าซออกซิเจนละลายอยู่ในน้ำ
     
  4. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    ด้วยความเคารพ น้ำมนต์มีพลังเอนกอนันต์แรงมากที่สุดพ่อท่านบ่าวท่านเข้ากรรมฐานเสกแบบยอดยุทธ ท่านเอาไปบูชาติดตัวครับ.....ด้านหลังติดธงไตรรงค์ด้วยครับ
     
  5. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    น้ำมนต์ได้ปรับพลังงานในองค์พระให้เย็นด้วยอาโปธาตุ สำคัญมากที่จะทำให้เราเย็นจิตเย็นใจสบายและเบาโล่งด้วย...ใครโดนมนต์ดำจะอาเจียนออกมาทันทีที่แขวนพระครับ ดวงดีอยู่แล้วก็ยิ่งดีครับ......
     
  6. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    มาเถิด ฟังนิทานก่อนนอนเพื่อประดับสติปัญญา ในเรื่อง"พระพุทธเจ้าสยบโรคห่ากินเมือง"

    โรคห่าเรียกในปัจจุบันว่าอหิวาต์ เมื่อก่อนเป็นโรคร้ายแรงยิ่งกว่ามะเร็ง เพราะทำให้คนตายหลายหมื่นคนได้ในเวลาอันรวดเร็วและไม่มียารักษา

    ราชกิจจานุเบกษาสมัย ร. ๔ ว่าขุนธรรมศาสตร์อายุ ๗๘ ปีเป็นมะเร็งกรามช้างมาช้านานไม่ร้ายแรง ป่วยโรคท้องร่วงตาย ชื่อมะเร็ง ปรากฎครั้งแรกนี้

    เมื่อตอนเป็นเด็กพอรู้ความ เทศกาลเก็บเกี่ยวข้าว ปีนั้นอหิวาต์ระบาดหนัก คนตายมากจนพระสวดไม่ทัน และไม่มีหมอหรือยารักษา

    วันหนึ่งตอนบ่ายมีดวงไฟใหญ่กว่าลูกมะพร้าวลอยอยู่บนฟ้าจากตะวันออกไปตะวันตก ทั้งบางนั่งลงกราบว่า “พ่อท่านโค๊ะ (หลวงพ่อทวด) โละมาช่วยรักษาโรคห่า”

    ชาวบ้านพากันไปวัดพะโค๊ะ เอาน้ำมนต์มาแจกจ่ายให้คนเป็นอหิวาต์กิน คนที่ป่วยก็หาย โรคก็หายไปเป็นที่อัศจรรย์

    ก่อนนั้นในสมัย ร.๒ ราว พ.ศ.๒๓๖๓ เกิดโรคห่ากินเมือง คนกรุงเทพตายเป็นไบไม้ร่วงกว่า ๓ หมื่นคน ตอนนั้นกรุงเทพฯ มีคนไม่ถึง ๑๕๐,๐๐๐ คน

    ศพเผาไม่ทัน ทิ้งกลาดเกลื่อนเต็มวัด ทับกันเป็นกอง มีศพลอยตามแม่น้ำลำคลอง จนพระต้องหนีจากวัด คนหนีจากบ้าน เพราะไม่มีหมอหรือยาที่จะรักษา

    ในหลวงหมดทางช่วยราษฎร จึงทรงปรึกษาพระสังฆราชแล้วโปรดให้ตั้งการพิธีอาพาธพินาศหรืออาเพศพินาศ ณ พระที่นั่งดุสิต ในวันขึ้น ๗ ค่ำเดือน ๑๐ ปีนั้น

    โปรดให้อัญเชิญพระแก้วออกจากพระอุโบสถเป็นครั้งแรกนับแต่มาประดิษฐานที่วัดพระแก้ว ประดิษฐานในราชยานภายในบุษบก ประกอบเครื่องอิสริยยศเต็มอัตรา

    โปรดให้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุในขบวน มีพระสงฆ์ ๕๐๐ รูปนำโดยสมเด็จพระสังฆราช (มี) ประทับพระเสลี่ยง ในหลวงทรงศีล ๘ ขบวนแห่ออกจากพระบรมมหาราชวัง

    พระสงฆ์ทั้งนั้นสวดพระปริตรสำคัญบทหนึ่งชื่อรัตนสูตร เลียบรอบพระนครและประพรมน้ำพระพุทธมนต์เสร็จแล้วกลับพระราชวัง ฝนห่าใหญ่ตกลงมาทั่วพระนคร โรคห่าก็หายไปเป็นที่อัศจรรย์

    ในหลวงโปรดให้เร่งเผาศพ ทำบุญทำทานครั้งใหญ่และอภัยโทษครั้งใหญ่เป็นอภัยทานด้วย

    พระปริตรบทว่าด้วยรัตนสูตรที่พระสงฆ์สวดทำน้ำมนต์ครั้งนี้ คือมนต์บทสำคัญที่พระพุทธเจ้าทรงสอนพระอานนท์ พระพุทธอนุชาเพื่อสยบโรคห่าในครั้งพุทธกาล

    สมัยนั้นนครไพศาลีเมืองหลวงของแคว้นวัชชีบังเกิดโรคห่ากินเมือง ภูตผีปีศาจก็เข้าแทรกซ้ำเติม คนตายศพกลาดเกลื่อนทั้งเมืองเต็มถนนหนทาง แม่น้ำลำคลอง

    บังเกิดเป็นตรีภัยขึ้นในแคว้นวัชชี คือ ภัยความฝืดเคือง ๑ อหิวาต์ ๑ และภูตผีปีศาจเข้าแทรก ๑ ราษฎรกลับหลงผิดว่าเหตุเกิดจากพระเจ้าแผ่นดิน

    ราษฎรชุมนุมประท้วงหาว่ากษัตริย์วัชชีประพฤติผิดประเพณี ทรงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบว่าพระองค์ทำผิดอะไร ก็ไม่พบความผิดใด ๆ จึงทำพิธีบวงสรวงก็ไม่หาย

    มีอำมาตย์คนหนึ่งกราบทูลว่าพระพุทธเจ้าทรงคุณวิเศษ สยบโรคห่าได้ ทรงประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์ เมืองหลวงของแคว้นมคธ ขอให้กราบทูลเชิญมาช่วย

    กษัตริย์ลิจฉวีจึงตั้งคณะราชฑูตไปเฝ้าพระเจ้าพิมพิศาลกษัตริย์แห่งแคว้นมคธขอพระราชานุญาตให้พระพุทธเจ้าเสด็จไปช่วย

    พระเจ้าพิมพิศาลทรงโปรดให้คณะฑูตไปทูลอาราธนาพระพุทธเจ้า คณะฑูตไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลเชิญเสด็จ เมื่อทรงทราบว่าพระเจ้าพิมพิศาลทรงอนุญาตแล้วก็ทรงรับอาราธนา

    พระเจ้าพิมพิศาลตามส่งเสด็จจนสุดชายแดน ถึงฝั่งแม่น้ำคงคา

    พระพุทธองค์เสด็จประทับเรือพระที่นั่งที่พระเจ้าพิมพิศาลจัดถวายและพระเจ้าพิมพิศาลเสด็จลุยลงแม่น้ำคงคา ประคองเรือที่ประทับส่งเสด็จจนถึงน้ำลึกเพียงพระศอ จึงเสด็จกลับ

    พระพุทธองค์เสด็จโดยทางชลมารคระยะทาง ๑ โยช ถึงท่าเรือในเขตไพศาลี ได้เสด็จขึ้นและเสด็จพุทธดำเนินโดยทางบกอีก ๓ วันถึงนครไพศาลี กษัตริย์ลิจฉวีและเหล่าเสนาอำมาตย์เฝ้ารับเสด็จ

    พระพุทธองค์เสด็จถึงชานพระนครพร้อมด้วยพระสาวกแล้ว ทรงประทับยืนเจริญสมาธิและเพ่งทอดพระเนตรไปที่ท้องฟ้า

    ทรงกระทำสัตยาธิษฐาน พระไตรปิฎกระบุเหตุการณ์ตอนนี้ว่า

    "ทันใดนั้นมหาเมฆก็ตั้งขึ้นดังแผ่นศิลาสีครามยาวเหยียดตลอดทิศปัจจิม แผ่ปกคลุมนครไพศาลีฟ้าส่งเสียงคำราม คำรณดังเปรี้ยงปร้าง.. แล้วฝนห่าใหญ่ก็ตกลงมาท่วมบ่าชะล้างซากศพทั่วทุกแห่งกวาดลงแม่น้ำสู่ทะเล ความร้อนแห่งอากศก็หายไปด้วยพุทธานุภาพ

    พระตถาคตเจ้ารับสั่งเรียกพระอานนท์ แล้วตรัสสั่งว่า

    "อานนท์ เธอจงเรียนมนต์รัตนสูตรนี้ แล้วจาริกไปในกำแพงเมืองเพื่อความสวัสดีจากภัยอันใหญ่ของราษฎรเถิด"

    ราตรีนั้นพระอานนท์เรียนมนต์รัตนสูตรทรงจำไว้เป็นอันดีแล้วประคองบาตรน้ำมนต์ของพระผู้มีพระภาคเจ้านำพระสงฆ์จาริกไปตามแนวกำแพงเมืองเป็นขบวนใหญ่

    กษัตริย์ลิจฉวีและขุนนางผู้ใหญ่ตามพระอานนท์ซึ่งท่องมนต์รัตนสูตรและประพรมน้ำมนต์ไปทั่วพระนคร โรคห่า ความฝืดเคืองและปีศาจทั้งหลายก็หายไปด้วยพระพุทธมนต์

    เหตุนี้รัตนสูตรจึงเป็นมนต์ครั้งแรกและบทแรกที่พระพุทธองค์ทรงสอนด้วยพระองค์เองสำหรับสยบโรคห่า ความฝืดเคืองและภูตผีทั้งปวง ซึ่งถือเป็นปริตรบทสำคัญที่สุด

    นับแต่นั้นมาก็เป็นแบบการเรียนมนต์ในพุทธศาสนาและตั้งเป็นพิธีกรรม จนรวบรวมเป็นบทสวดพระปริตร ๗ บทหรือ ๑๒ บท ดังที่เรียกว่าบทสวดมนต์ ๗ ตำนาน หรือ ๑๒ ตำนาน สำหรับพระสวดในกาลต่าง ๆ จนบัดนี้

    มนต์รัตนสูตรมีเนื้อหาสรุปว่าเป็นการกระทำสัตยาธิษฐาน ในประการต่าง ๆ แห่งพระรัตนตรัย ขออำนาจความสัตย์นั้นบันดาลให้สรรพโรค สรรพภัย พินาศไป และให้ชนทั้งหลายถึงซึ่งความสวัสดี

    ถือเป็นวิธีการทำอธิษฐานฤทธิ์ชนิดหนึ่ง

    ประเทศไทยตอนนี้เหมือนห่ากินเมือง ประสบภัย ๒ อย่างคือความฝืดเคือง และปีศาจ (การเมือง) เข้าแทรก ควรขอรับพระราชทานพิธีอาเพศพินาศเพื่อความสวัสดี

    ขออานุภาพแห่งการประกาศพระธรรมนี้ได้ดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายถึงซึ่งความสวัสดี ปราศจากภัยทั้งปวง
    พระปิดตาลืมตามิดปิดตาเห็น แช่น้ำมนต์ให้บูชาแล้ว ท่านจองและโอนปัจจัย สองร้อยบาท ค่าส่งหกสิบบาท วันจันทร์ วันศุกร์น่าจะได้รับแล้ว ด่วนครับพี่น้องสหายธรรมผู้เข้าถึงใจกันด้วยเมตตาจิตเอื้ออาทร.....
     
  7. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    พระปิดตาทำไม...ทำไมพระปิดตา....


    ขอเรียนว่า....หมายถึงพระอรหันต์รูปใดในตำนานพุทธสาวกกล่าวว่า ท่านคือพระควัมปติเป็นพระสาวกรุ่นแรกๆ ของพระพุทธองค์ ก่อนอุปสมบทดำรงฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีมีทรัพย์ ระดับเดียวกันกับ ยสมานพ(อ่านยะสะ) เป็นเพื่อนเกลอรักใคร่ชอบพอกันมาก ครั้งเกิดธรรมาพิสมัย จึงพร้อมใจกันอุปสมบทในสำนักของพระบรมศาสดา ภายหลังต่อมาได้บรรลุอรหันต์ทั้งสองรูปท่านพระควัมปติทรงเป็นเอตะทัคคะ 1 ในพระอรหันต์ผู้ทรงเอตะทัคคะ 80รูปในด้านอินทรีย์สังวร ท่านบรรลุซึ่งเตวิชโชหรือวิชชาสาม เชี่ยวชาญในอิทธิวิธี เชียวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน เคยใช้ฤทธิ์ห้ามกระแสน้ำในลำน้ำสรภู ซึ่งไหลเชี่ยวให้หยุดไหลได้ อาการที่สำรวมทั้งภายนอกภายในโดยเคร่งครัดสม่ำเสมอนี้ ทำให้เทพยดาแลมนุษย์พากันเคารพสรรเสริญ ต่อมาได้พากันสร้างรูปของท่านเพื่อสักการบูชาลักษณะการยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์จัดเป็นธรรมาธิษฐาน มิใช่บุคคลธิษฐาน เพราะการสำรวมอายะตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่จำเป็นต้องปิดหน้า"พระปิดตา" แต่เป็นการแสดงความหมายให้ทราบเท่านั้น
    อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า "พระปิดตา"ชนิดนี้คือพระมหากัจจายน์เถระเจ้า ปางอธิษฐานเนรมิตกาย ความเดิมมีว่าท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าท่านนี้ เป็นเอตะทัคคะในการขยายความย่อให้พิสดาร และเป็นผู้วางหลักสูตรพระบาลีมูลกัจจายน์ คือการสอนพระบาลีไวยากรณ์ในสมัยก่อน เกิดในวรรณะพราหม์ในสกุลกาญจนโคตร ประกอบผิวพรรณวรรณะ อาการแห่งลีลารวมทั้งวรกายละม้ายคล้ายองค์พระบรมศาสดาเจ้า หากดำเนินมาแต่ไกล ผู้คนมักจะจำผิดพากันคิดว่าพระพุทธองค์เสด็จและแม้แต่เทพยดาก็พากันหลงผิด ลีลาสง่างามยิ่งนัก เป็นที่เสน่หานิยมชมชอบของเทพยดาแลมนุษย์ชายหญิงทั้งหลาย และพากันถวายฉายาว่า “ควัมปติ” แปลว่าผู้มีวรกายแลละม้ายคล้ายพระศาสดา (ได้ค้นศัพท์ในพจนานุกรมแล้วไม่มีปรากฏ)
    ในกาลครั้งหนึ่งโสไรยเศรษฐีบุตร พ่อค้าวานิช ได้คุมกองคาราวานไปค้ายังเมืองไกล บังเอิญประจวบเหมาะได้พบเจอกับท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าก็คิดรำพึงอยู่ภายในไจว่า ภรรยาเรานะนับว่ามีความงามเป็นเลิศ ยังมิอาจเทียบเท่ากับสมณะท่านนี้ หากเราได้ภรรยาเช่นนี้จะปลื้มใจสักเพียงใด พอความนึกคิด สะดุดหยุดลง โสไรยเศรษฐีบุตรพลันกลับกายร่างเป็นเพศหญิงในทันทีทันใด บังเกิดความละอายยิ่งนัก หลบหน้าหลบตาไม่ยอมพบประผู้คน ทั้งไม่ยอมหลับไปยังสถานที่อยู่เดิม ทอดทิ้งบุตรภรรยาและบิดามารดาให้รอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ สุดท้ายหมดเนื้อหมดตัว ไปได้สามีแลได้บุตร๒ คน รวมกับบุตรที่มีอยู่เดิม ๒ คน เป็น ๔ คน ยิ่งฟุ้งซ่านใหญ่กาลเวลาผ่านมาหลายปี จนกระทั้งอยู่มาวันหนึ่งนางก็ได้เห็นท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้า ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ นางจรึงจัดภัตตาหารพร้อมด้วยขันใส่ข้าวสุก ไปคอยดักใส่บาตร และกราบทูลความเป็นไปให้ทราบ อ้อนวอนให้ท่านพระมหากัจจายนะเจ้าจงโปรดช่วยเหลือ ท่านมหากัจจายนะเถระเจ้าจรึงนัดพบหลังจากเสร็จจากการบิณฑบาตและกระทำภัตตกิจเรียบร้อยแล้ว ท่านกล่าวว่านึกไม่ถึงและไม่มีเจตนาแต่ประการใดเพียงแต่มีข้อแม้ว่าหากท่านช่วยอธิษฐานกลับเพศให้ได้ดังเดิมแล้ว โสไรยเศรษฐีบุตร ต้องอุปสมบทเป้นพระภิกษุในพระบวรพุทธศาสนาโสไรยเศรษฐีบุตรจึงตกลงรับคำ และกลับเพศให้สมปรารถนาท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าทรงเป็นอุปัชฌาย์อุปสมบทให้โดยเรียบร้อย ภายหลังต่อมาพระโสไรย ได้บรรลุอรหัตตผล
    ท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าจึงทรงรำพึงว่าอันความสวยความจนทำให้เทพยดาแลผู้คนพากันใหลหลงเป็นของมีโทษ เรียกว่ากามวิตกเป็นหนทางแห่งการมัวหมองเราควรจะแปรเปลี่ยนสรีระเสียใหม่ให้สิ้นซึ่งความสง่างามรำพรึงดังนั้นแล้วท่านก็ทรุดองค์ลงนั่งคู่บรรลังก์ยกหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์อธิษฐานเนรมิตวรกายให้มีรูปร่างอ้วนเตี้ยม้อต้อมีอุทรอันพลุ้ยสิ้นซึ่งความสง่างามลักษณะเช่นนี้เรียกว่าบุคคลาอธิษฐาน มิใช่ธรรมาอธิฐาน ท่านผู้อ่านจะยึดในธรรมาธิษฐานหรือบุคคลธิษฐานหรือจะเชื่อเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งก็สุดแต่ใจเถิด ล้วนเป็นของประเสริฐทั้งสิ้นปรัศนีนี้มักนำปัญหาค้านแย้งมาให้ขบคิด ปัญญาจะได้แตกฉานพระอรหันต์ตามที่กล่าวนี้เป็นคนละองค์ ปรากฏในตำนานพุทธสาวก แลทรงเอตะทัคคะไปคนละแนวถ้าหากเป็นองค์เดียวกันปัญหาจะไม่ยุ่งยาก แต่อย่างไรก็ตาม ท่านพระควัมปติเป็นพระนามตรงและเรียกกันมาแต่โบราณกาลแล้ง สำหรับการแนะแนวถ้าเรานึกบุคคลาธิษฐานท่านก็คือ พระมหากัจจายนะเถระเจ้าถ้าเราคิดไปในแง่ธรรมาธิฐาน ท่านก็คือพระควัมปติคิดไปได้สองแง่สองมุม หรือสองนัยะอย่าไปคิดฟุ้งสร้านติดยึดในรูปนาม นามะรูปังทุกข์นามารูป์อนิจจ์ นามารูปังอนัตตา
     
  8. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    พระปิดตาสร้างมาแล้วหาใช่จะเสกอะไรลงไปก็ได้โบราณเขามีวิชาเสกของเขาอ้อมีหลายบทคาถาเสกธาตุให้เต็มลงจิตให้หนาแน่นเล่นกสิณบรรจุใส่ให้มีชีวิต ขลังนักแล...
     
  9. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    พระปิดตาลืมตามิดปิดตาเห็น แช่น้ำมนต์เช่าด่วนโอนเงินได้เลยเสกดี รอดูภาพเร็วๆนี้สวยงามลึกซึ้งเข้มขลัง ธงไตรรงค์เสกสิบปีโดยพ่อท่านเกลื่อน วัดประดู่หมู่ สงขลา 106ปี รับพระไม่เกินเจ็ดวัน....แรงครับ ท่านใดมีประสบการณ์แจ้งมาเป็นการภายในนะครับเราอยากเล่าต่อเพื่อเผยแพร่บารมีพระรัตนตรัย......ครับผม
     
  10. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    ท่านที่เข้ามากระทู้นี้ใหม่ครับ.....กระทู้นี้จำเป็นต้องอ่านตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าปัจจุบันนะครับ.........เพื่อความเข้าใจในบริบทครับ....พระขุนแผน พระปิดตา น้ำมัน สีผึ้ง ว่าด้วยอะไรและท่านจะได้อะไรที่คุ้มค่าต่อเงินและเวลาครับ.....
     
  11. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    เสกดีมาก ปัจจัตตัง....กำพระในมืออธิฐานขอลาภทันทีจะสัมผัสกระแสธรรมได้จากองค์พระทั้งพระปิดตาแลพระขุนแผนครับ....ส่วนสีผึ้ง กับน้ำมันแรงมากครับรีบเช่าซะจะได้ดีไม่ลงเหวครับ...เราตรงไปตรงมา...เพื่องานบุญครับผม.....
     
  12. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    เรื่องสัมผัสพลังระวังใจเอนเอียงก่อให้เกิดอุปาทานนิดนึงครับ...ฝึกกรรมฐานมากๆนะครับ....ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในหัวใจก็ดีวิเศษเชื่อมั่นกันนะครับ....
     
  13. sayank

    sayank เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,118
    ค่าพลัง:
    +2,368
    โอนเงินแล้วครับ รายละเอียดใน email ครับ
     
  14. พระสารทะ

    พระสารทะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,402
    ค่าพลัง:
    +4,697
    ถ้าถึงขั้นเสกให้กันสารกัมมันตภาพรังสีได้นี่ ก็แสดงว่าต้องกันอันตรายได้ทุกอย่างเลยใช่ไหม เช่นกันปืน ระเบิด มีด ไม้ และกันสัตว์ร้ายต่างๆ เช่นงู, ตะขาบ, หมากัด, กันยุง (ไข้ป่า ไข้เลือดออก) กันแมลงผึ้ง ต่อ แตนต่อย, กันปลิง กันทากดูดเลือด กันสัตว์มีเขี้ยวมีงาได้ด้วยหรือเปล่า (ที่ถามเพราะความอยากรู้เท่านนั้น ไม่ได้กวนแต่อย่างใด โปรดเข้าใจเจตนา)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2013
  15. TOEFL_iBT

    TOEFL_iBT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +439
    พระขุนแผนพิชัยสมบัติเนื้อผงเหล็กน้ำพี้(ตำรับขุนแผนชมตลาด)ปัดทอง 1 องค์ครับ
    พระปิดตา 1 องค์ครับ

    โอนเงินแล้วจะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ
     
  16. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    ด้วยความเคารพครับ เรื่องพระที่กันสารเคมีกัมมันตรังสีนี่ผมเคยถามแบบที่สงสัยนั่นแหละครับ ผมถามหลวงปู่ทิมวัดพระขาวว่าอำนาจคุณพระที่กันอะไรได้บ้างครับ..ท่านว่าหากเชื่อว่าพระรัตนตรัยมีอำนาจอยู่จริงนั้นย่อมกำจัดภัยได้จริง ภัยนี่ภัยอะไรครับ ภัยทุกชนิดใช่ไหมครับ ดังนั้นกันหมากัด กันทาก กันยุง กันมีด กันปืน กันดาบ ด้วยได้ไหม ท่านว่า มันเป็นภัยถึงตายไหม ถ้าถึงตายพระจะช่วยให้รอดตาย คอมเม้นท์นะครับว่าต้องมีศีลห้าด้วย...ฉะนั้นสารกัมมันตภาพรังสี นั่นเป็นภัยไหมนั่นก็ภัยครับ...หากเชื่อว่าพระท่านมีคุณท่านก็กันได้ หากไม่เชื่อว่าพระมีคุณ ก็กันไม่ได้...ฉะนั้น เชื่อว่าพระปิดตากันสารร้ายแรงเพียงนั้นได้ไหมก็อยู่ที่เชื่อครับ ถ้าเชื่อก็ดีไม่เชื่อก็ไม่ดี...ครับ ถามคำถามแบบนี้ดีมากเพราะสังคมไทยพีอาร์โดยไร้เหตุผล ถามมาครับจะวิสัชนาให้เลยตามทัศนะคติของผมนะครับ ทุกคำตอบไม่มีผิดไม่มีถูกว่าแต่ น้องผมเขาเอาปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันที่กันนิวเคลียร์ได้มาให้เมื่อเดือนก่อนครับ แต่ผมไม่สงสัยเพราะเชื่อว่าคุณพระมีจิงครับ ด้วยความเคารพ...
     
  17. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    ด้วยความเคารพ ผมเกิดมานานแล้วผมเข้าใจทุกท่าน แสดงทัศนคติกันได้เลย หากพร้อมเราจะลงปัตตานีพร้อมกันด้วยดีไหมผมมีทริปพิเศษที่เราจะสร้างบารมีร่วมกันโดยเฉพาะที่อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอยะรัง ระเบิดทุกวันวัดเทพนิมิตรที่เคยถูเผาไม่มีพระจำพรรษาครับและทหารเข้ามายึดดูแลแล้ว พระปิดตาพ่อท่านบ่าวจะช่วยเราให้รอดครับหากเราแน่ใจในพระรัตนตรัยและความไม่ประมาทททททท...ครับ...
     
  18. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ทำบุญครับช่วงนี้ผมอยู่สามจังหวัดภาคใต้ จะค่อยๆทยอยลงภาพข่าวนะครับ ระยะหลังเวลาที่จะลงภาพน้อบลงด้วยภาระทางโลกครับ ชอบครับที่มีส่วนมอบความเมตตาให้กันและกันครับ...วันนี้ทุกท่านสวดมนต์แล้วหรือยังครับ..ผมเพิ่งกลับจากปัตตานีเมื่อกี้ว่าจะสวดมนต์สักนิดแล้วจะพักผ่อนครับท่านที่ร่วมบุญรับพระสักนิดนะครับ....สาธุในเมตตาจิตครับ
     
  19. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    เราจะดำเนินการส่งพระให้ท่านเร็วที่สุดวันนี้ไปรับพระมาแล้วครับ...พระปิดตาน่ะครับผม บูชาองค์ละ200บาทค่าส่งหกสิบบาทนะครับผม..ตามสะดวกได้ครับเชิญครับ...โมทนาบุญครับผม.....
     
  20. smart7667

    smart7667 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3,871
    ค่าพลัง:
    +6,755
    เดือนกันยายนนี้แจก แจกลูกประคำโทน ครูบาสร้อยวัดมงคลคีรีเขตนะครับ ผมได้มานานโขแจกทุกท่านท่านละสองเม็ดครับหรือต้องการมากกว่าแจ้งมาเลยอบ่าเกรงใจครับ อุทิศบุญนี้ให้ครูเฒ่าเขาอ้อ และครูบาอาจารย์ทุกท่านเพราะเอาไปเสกที่เขาอ้อเพิ่มเติมเมื่เดือนสามที่ผ่านมานะครับ.....ครูบาสร้อยท่านอยู่ท่าสองยางครับ ผมไปกราบท่านเมื่อปี2534ครับผม...
     

แชร์หน้านี้

Loading...