ในระหว่างที่สวดมนต์ เห็นแบบนี้ผิดปกติหรือเปล่าคะ

ไม่แน่ใจว่าตั้งถูกห้องหรือเปล่า ขอผู้รู้ช่วยขี้แนะด้วยค่ะ

ปกติก่อนการสวดมนต์ทุกครั้ง เราจะนึกถึงองค์พระพุทธรูปที่เราชอบ
ตั้งจิตอยู่กับองค์พระก่อนการสวดทุกครั้ง และหลับตาสวดไปยาวๆ จนจบ
ตั้งแต่อิมินาไปจนพาหุงมหากา ต่อด้วยอิติปิโส 9 จบ และแผ่เมตตาทุกครั้ง
บางครั้งขณะที่สวดมนต์ จะคล้ายๆเห็นพระพุทธรูปปางต่างๆ เข้ามาให้เห็น
ทั้งๆที่หลับตานะคะ เห็นทีละองค์ๆ บางครั้งก็เป็นภาพเลือนๆ ไม่ค่อยชัด เหมือนกับมีอะไรมาบังๆ แต่บางครั้งเห็นส่วนฐานองค์พระสีออกทองๆ หรือเห็นเป็นรูปองค์พระทั้งรูปนั่งขัดสมาธิแบบเล็กๆไกลๆน่ะค่ะ แต่ถ้าระหว่างสวดคิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยก็จะไม่เห็นค่ะ จะเป็นอะไรมั้ยคะ

และในบางครั้งที่ติดขัดปัญหาที่แก้ไม่ตก พอถึงเวลาสวดมนต์(สวดก่อนนอนค่ะ) นั่งหลับตาสวดไปคิดไปเรื่อย ก็จะปิ๊งแนวทางแก้ไขปัญหาที่คิดไม่ตกขึ้นมาได้เอง
เป็นสิ่งที่ควรทำมั้ยคะ ความจริงแล้วพยามตั้งใจสวดเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าใจคิดเรื่องปัญหาใจมันจะฟุ้งแต่เรืองนี้ แต่หลับตาอยู่ปากก็จะท่องไปเรื่อย จนเกิดวิธีแก้ปัญหาได้ขณะที่สวดมนต์ค่ะ

เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเปล่าคะ

 

ถ้าลอยมาในมุมสูงทางด้านขวาของศรีษะไม่เป็นไรครับ
หรือปรากฏขึ้นตรงๆด้านหน้าเลยถือว่าปกติครับ
แต่ว่าไม่ควรไปยึดติดครับ.

 

ไม่ผิดปกติ เป็นอาการของภาพนิมิตในขณะจิตเริ่มเข้าสู่อุปจารสมาธิ
เห็นแล้ววางเฉย ใจไม่ซัดส่ายไม่กังวล ไม่บังคับภาพให้เกิด ไม่ปรุงแต่งจิต
พระจะลอยมาหายไป จะเปลี่ยนสีแปรสภาพ หรือคงอยู่ก็ให้เฉยไว้

เว้นแต่ว่าจะเริ่มจากการจับภาพพระทำสามธิแบบกสิณ ต้องคอยประคองภาพ
ที่เกิดขึ้นในจิตไว้ให้ดี แต่ห้ามบังคับภาพ ภาพจะเปลี่ยนไปแบบไหนให้ตามรู้
แต่ห้ามสงสัย ห้ามลังเล เมื่อประคองให้นิ่งแล้วลองทดสอบดูคือ

ขยายภาพพระออกให้ใหญ่ขึ้นเท่าตัวเรา เมื่อทำได้แล้วลองขยายออกอีกให้คลุมบ้าน
หรือโลก จากนั้นให้ย่อลง ลดขนาดลงเรื่อย ๆ จนเท่าปลายเข็ม ถ้าภาพพระยังอยู่
ก็แสดงว่าจิตเป็นสมาธิในระดับที่สูงขึ้น ให้ทำบ่อย ๆ จนชำนาญ

นี่เป็นเพียงขั้นต้นเท่านั้น

 

ไม่มีอะไรผิดครับ ทำได้แบบนี้ดีมากครับ

 

จริตแต่ละคนไม่เหมือนกัน

สร้างสมบารมีมาไม่เหมือนกัน จะเห็นแบบนี้ ไม่แปลกหรอกครับ


.

 

การสวดมนต์ เป็นการปฏิบัติสมาธิทำให้จิตใจสงบรูปแบบหนึ่ง ถ้าจิตใจไม่สงบ ก็ผิดหลักวิธีในทางพุทธศาสนา ยิ่งถ้านึกภาพ เห็นภาพ ยิ่งอันตรายต่อตัวคุณนะขอรับ ขอเตือนว่า อย่าทำอย่างนั้นโดยเด็ดขาด เหตุเพราะ ถ้าหาก คุณเลิกสวดมนต์แล้ว สมองของคุณได้รับการขัดเกลาอย่างนั้น เวลาไปทำงานอื่นใด ก็จะไม่มีสมาธิกับงานนั้น จะเกิดความผิดขึ้นได้ เพราะสิ่งที่คุณเล่ามา เป็นสิ่งผิดธรรมชาติ ผิดปกติธรรมดา
ส่วนที่คุณว่า คุณสวดมนต์ แล้วสามารถคิดแนวทางแก้ไขปัญหาที่คิดไม่ตกได้ ข้าพเจ้ากล่าวตามตรงเลยว่า อันตรายอย่างยิ่งยวด จริงอยู่ว่าสิ่งที่คุณเล่ามา เป็นไปได้นะขอรับ แต่ต้องดูว่า ขณะนั้นเรากระทำสิ่งใด หากเป็นการสวดมนต์ นั่นหมายถึง การฝึกสมาธิ รูปแบบหนึ่ง ไม่ควรคิดเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน แต่ถ้าคุณทำงานหรือทำสิ่งใดที่ไม่ใช่การสวดมนต์ ก็ย่อมทำได้ สรุปแล้ว ถ้าหากสวดมนต์ ควรทำจิตใจให้สงบสนใจอยู่กับบทสวด อย่าออกนอกขอรับ

 

ปกติ

 

โห..คิดได้ขนาดนี้เลยหรือครับเนี่ย

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ telwada อ่านข้อความ
การสวดมนต์ เป็นการปฏิบัติสมาธิทำให้จิตใจสงบรูปแบบหนึ่ง ถ้าจิตใจไม่สงบ ก็ผิดหลักวิธีในทางพุทธศาสนา ยิ่งถ้านึกภาพ เห็นภาพ ยิ่งอันตรายต่อตัวคุณนะขอรับ ขอเตือนว่า อย่าทำอย่างนั้นโดยเด็ดขาด เหตุเพราะ ถ้าหาก คุณเลิกสวดมนต์แล้ว สมองของคุณได้รับการขัดเกลาอย่างนั้น เวลาไปทำงานอื่นใด ก็จะไม่มีสมาธิกับงานนั้น จะเกิดความผิดขึ้นได้ เพราะสิ่งที่คุณเล่ามา เป็นสิ่งผิดธรรมชาติ ผิดปกติธรรมดา
ส่วนที่คุณว่า คุณสวดมนต์ แล้วสามารถคิดแนวทางแก้ไขปัญหาที่คิดไม่ตกได้ ข้าพเจ้ากล่าวตามตรงเลยว่า อันตรายอย่างยิ่งยวด จริงอยู่ว่าสิ่งที่คุณเล่ามา เป็นไปได้นะขอรับ แต่ต้องดูว่า ขณะนั้นเรากระทำสิ่งใด หากเป็นการสวดมนต์ นั่นหมายถึง การฝึกสมาธิ รูปแบบหนึ่ง ไม่ควรคิดเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน แต่ถ้าคุณทำงานหรือทำสิ่งใดที่ไม่ใช่การสวดมนต์ ก็ย่อมทำได้ สรุปแล้ว ถ้าหากสวดมนต์ ควรทำจิตใจให้สงบสนใจอยู่กับบทสวด อย่าออกนอกขอรับ

ไม่ใช่ความคิดขอรับ แต่เป็นประสบการณ์ จากการศึกษาค้นคว้า วิจัย ทดลอง และปฏิบัติ ความจริงแล้ว ระบบการทำงานของร่างกายยังมีความซับซ้อนมากยิ่งกว่าที่ข้าพเจ้าอธิบายไปด้วยซ้ำเพียงแต่ ไม่เหมาะที่จะเผยแพร๋ เพราะเผยแพร่ไป ก็เหมือนสีซอให้ควายฟังขอรับ เพราะถ้าเป็นมนุษย์หรือคนได้อ่านได้ทำความเข้าใจ ก็จะเกิดความรู้ เกี่ยวกับร่างกายของตนเองมากยิ่งขึ้น

 

ตามความหมายตรงลายเซนคุณ telwada นี่หมายถึงว่าคุณเป็น "พระศรีอาริย์" หรืออย่างไรครับ

หรือมีความหมายอย่างไร ช่วยสงเคราะห์แจ้งให้ผมหายสงสัยทีเถอะครับ

 

เข้าไปอ่านเรื่องตลกเบาสมองได้ที่นี่ครับ

http://palungjit.org/threads/telwada-ทำไมจึงคิดว่าตัวเองเป็น-พระศรีอารย์.202/

 

ผลของการ สวดมนต์ ก่อให้เกิดสมาธิได้ บางครั้งถึงระดับ ฌาน (นั่นคือเป้าหมายของการสวดมนต์เพือให้จิตสงบ เมื่อจิตสงบแล้ว จะได้เห็นสภาวะความสงบนิ่ง หลายๆ แบบ นี่คือ ฌาน 2)

สภาวะที่กล่าว นั้น เกิด ฌานขึ้น จิตจะเกิดปัญญา ขึ้นมาตอบปัญหาที่ คาใจให้
สภาวะแบบนี้ สามารถมีได้


บางคนถึงสภาวะแบบนี้ ได้ด้วยการสวดมนต์ (แล้วมาบอกต่อคนอื่นๆ ทำการสวดมนต์สิ ... บางคนจริต อาจไม่ใช่ มันเป็นปัจจักตังค์เฉพาะคน)

บางคนถึงสภาวะแบบนี้ ได้ด้วยการ นั่งสมาธิ ก้อแล้วแต่ จริต หรือ ภูมิธรรม ในแต่ละคน

ท่านสามารถรวมจิต ได้ด้วยการสวดมนต์ เป็นสิ่งทีดีแล้ว ต่อไปเรียนรู้สภาวะแบบนี้ แล้ว ลองไปนั่งสมาธิ ดู ต่อไป อาจไม่ต้องอาศัยการสวดมนต์เลย ก้อได้

จริงๆ แล้ว เราต้องการ สมถะ( ความสงบ ) เพื่อเข้าทำ วิปัสสนา ( ใช้ปัญญาไตร่ตรองภายใต้ความสงบ) ... นี่คือ หลักการ

 

สว่างเลยผม

 

เอ้ยยยยยย

อุบ่ะ ตอบเเบบนี้กดไหล ให้ไปเลยยยยยยยยยย

เทวดาคิดได้

เทวดาคิดเป็น

เทวดาเหาะได้เเล้วววววววว

 

คุณขอรับ คุณอย่าคิดว่าเมื่อพวกบ่างขึ้อิจฉา แถมยังช่างยุ คิดว่าเป็นเรื่องตลก เมื่อคุณเข้าไปอ่านตามที่พวกมารศาสนา 500 จำพวกแนะนำแล้ว คุณบอกว่าคุณสว่าง ความหมายไม่ชัดเจนขอรับ

ส่วนคำถามของคุณ ข้าพเจ้าคงไม่ต้องตอบขอรับ (เพราะพวกผู้ดูแล เขาเน้นศาสนาพุทธ แต่เขาไม่รู้ว่า พระศรีอาริยเมตไตรย คือ ใคร พวกเขาคิดว่ายังมาไม่ถึงตามพระไตรปิฎกขอรับ) แต่ข้าพเจ้าก็กล้าท้า ให้มาพิสูจน์ได้อยู่แล้ว

 

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ใจเย็นๆนะคะ
อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ

ขอออภัยทุกท่านนะคะ ถ้าสิ่งที่ถามกลายเป็นสาเหตุให้ผิดใจกัน
ขออนุญาติปิดกระทู้เพียงเท่านี้นะคะ (แต่จะปิดยังไงก็ไม่ยู้... :'()

 

เรื่องของ telwada นั้น ให้วางเฉยไปเสีย อย่าไปใส่ใจใดๆ ไม่เช่นนั้น จะยิ่งทำให้กรรมตกหนักไปที่เขายิ่งกว่าเดิม (เพราะมาก่อกวนการที่ผู้ปฏิบัติไม่ให้ได้ความรู้ที่แท้จริงในการปฏิบัติ)

 

ไม่มีอะไรครับ ความหมายที่ว่าสว่างของผมก็ คือ คุณ telwada รู้ตัวเองว่าเป็นพระศรีอาริย์

ฉะนั้นและฉะนี้ ผมคงต้องวางตัวเองใหม่ ไม่ไปแหย่กับคุณต่อไปอีกแล้วครับ

ขอบคุณครับที่ได้คุยกัน

 

อย่ารู้สึกผิด และอย่าคิดว่าตัวเองผิดเลยครับ เฉยๆ ไว้พอ

 

ขอถามหน่อยครับ........แล้วเวลาสวดมนต์ไปสักพัก....เหมือนมันหลับไปเฉยเลยกลางอากาศ..........แล้วก็กลับมาสวดต่อแบบมันหายไปตอนไหนไม่รู้
2.นอนหลับกลางดึกมันชอบรู้สึกตัวแล้วเหมือนเราลอยขึ้น.....แบบกางแขนขา.......แล้วก็หมุนแบบล้อรถ.....ตรงนี้กลัวมาก....พอรู้ตัวกลัวปุ๊บ....ร่างจะลอยลงมาแล้วเหมือนตัวถูกตรึงกับพื้น.....ขยับไม่ได้ซักพักครับ....นานๆจะเป็นครับ....ตื่นแล้วปวดต้นคอมากแบบหน่วงๆครับ
ท่านที่รู้กรุณาตอบให้หายข้องใจหน่อยครับ