หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

เมื่อวานไปกราบหลวงปู่สนั่น ที่วัดป่าคลองกุ้งมาครับ ท่านเมตตามากๆ ได้สนทนากันหลายเรื่องครับ มีอยู่เรื่องหนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังครับว่า สมัยสงครามอินโดจีน หลวงปู่ท่านเป็นทหารผ่านศึกครับ ส่วนใหญ่ทหารแทบทุกคนต้องมีของดีติดตัว ตามความเชื่อ ท่านเล่าว่าสมัยนั้นที่จันทบุรีเรานี้มีพระเกจิอาจารย์เก่งอยู่องค์หนึ่ง ชื่อว่า หลวงพ่อจิ่ม วัดไผ่ล้อม อ.ท่าใหม่ ท่านมีชื่อเสียงเกียรติคุณมากเรื่องหนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน ยิง ฟันแทง ไม่เข้า ทหารที่สัตหีบเวลาวันหยุดต้องพากันยกขบวนมาขอของดีจากท่าน นั่นก็คือเสื้อยันต์ และผ้าประเจียดสีแดง หลวงปู่สนั่นท่านบอกว่ามีประสบการณ์มากมาย จริงๆหลวงพ่อจิ่มนี้ท่านก็ไม่ใช่พระที่อวดคุณวิเศษอะไร แต่ว่าพวกทหารที่ท่านให้ของดีไป ก็เจอประสบการณ์ เลยบอกต่อๆกัน บ้างก็เอาไปลอง บ้างก็เข้ามาในวัดไผ่ล้อมแล้ว ก็ลองเอาปืนยิงไก่ในวัดดู เพราะว่าไก่ในวัดนั้นกินข้าวเสกของหลวงพ่อ ก็ปรากฏว่ายิงไม่เข้า ก็เลยพากันแห่มาขอของดีกัน พวกทหารนี่ก็มีส่วนทำให้พระดังมากเหมือนกัน.. คนสมัยก่อนเขาใจมั่นจริง วิชาที่เล่าเรียนก็ของจริง ใช้ได้ผลจริงๆ ผิดกับสมัยนี้.. หลวงปู่สนั่นกล่าว

แม้แต่ในปัจจุบัน ซึ่งแถวๆอ.ท่าใหม่ และในจ.จันทบุรีนั้นก็ยังมีผู้กล่าวขานถึงเกียรติคุณของท่านพ่อจิ่ม วัดไผ่ล้อมกันอยู่ ส่วนใหญ่ที่ได้ฟังก็จะเป็น เครื่องบินมาทิ้งระเบิดบริเวณใกล้ๆวัด หลวงพ่อท่านออกมายืนกลางแจ้ง ชูมือขึ้นแล้วใช้ผ้าประเจียดโบกไปมาพร้อมกับบริกรรมคาถา ปรากฏว่าลูกระเบิดตกลงมาไม่ถูกวัด หรือบ้านคนบริเวณนั้นเลย กลับไปตกในป่า ในน้ำเสียส่วนใหญ่ แต่ส่วนที่ตกลงมาใกล้ๆบริเวณนั้น ลูกระเบิดกลับด้านไม่ทำงานบ้าง (ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้เก็บลูกระเบิดที่ด้านเอาไว้อยู่..) หรือเรื่องเครื่องบิดลาดตระเวณของทหารหน่วยอื่นที่มาช่วยราชการที่สนามบินท่าใหม่ ได้ขับเครื่องบินข้ามหลังคาโบสถ์วัดไผ่ล้อมโดยที่ไม่ตั้งใจเพื่อกลับไปยังสนามบิน เนื่องจากวัดดังกล่าวนั้นอยู่ใกล้กับสนามบิน แต่พอจะร่อนเครื่องลง ปรากฏว่าระบบล้อเกิดขัดข้องไม่กาง จึงต้องบินวนรอบสนามบินอยู่อย่างนั้นหลายรอบ พยายามแก้ไขอย่างไรก็ไม่ได้ผล จนต้องวิทยุขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์บัญชาการ ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์(เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อจิ่ม)ก็เลยเอะใจ ถามว่าที่ผ่านมา ไปบินข้ามวัดอะไรมาหรือเปล่า ทางนักบินก็บอกว่า บินข้ามหลังคาแหลมๆสีแดงๆ หลังใหญ่ๆ อยู่ไม่ห่างจากสนามบินมากนัก ไม่รู้ว่าใช่วัดที่ว่าหรือเปล่า ได้ฟังดังนั้น ทางศูนย์ก็ตกใจเลยต้องรีบให้ทหารที่ศูนย์ภาคพื้นดิน รีบขับรถไปกราบขอขมาหลวงพ่อจิ่ม วัดไผ่ล้อม ว่าทหารต่างชาติเพิ่งมาประจำการใหม่ ไม่รู้เรื่องมาบินข้ามหลังคาโบสถ์ที่วัดไผ่ล้อม ตอนนี้มีปัญหาล้อเครื่องบินไม่กาง และน้ำมันใกล้จะหมดแล้ว กลัวเครื่องบินจะตก ขอให้หลวงพ่อช่วยด้วย หลวงพ่อจิ่มท่านก็บอกว่า " กูก็นึกว่า ใครมันมาท้าทายกู เมื่อตะกี้กูเห็นมันมาบินข้ามหลังคาโบสถ์ ที่มีพระประธานอยู่ บินข้ามหัวพระหัวเจ้ามันไม่สมควร.." งั้นกระผมก็ต้องขอขมาแทนทหารใหม่ด้วยขอรับ หลวงพ่อโปรดอโหสิกรรมให้ด้วยเถิดครับ.. หลวงพ่อท่านก็บอกว่า " เออๆๆ แล้วก็แล้วกันไปวะ ขอให้ล้อเครื่องบินมันกางได้ ขอให้มันปลอดภัย... " สิ้นคำพูดของหลวงพ่อจิ่ม ล้อเครื่องบินก็กางได้ทันที..

นี่เป็นเพียงประสบการณ์ตัวอย่างที่มีการเล่าขานกันมาถึงทุกวันนี้ครับ นอกจากนี้ยังมีประสบการณ์ต่างๆอีกมากมาย แต่ที่เห็นว่าจะมีเกิดขึ้นบ่อยๆก็คือ เรื่องของหนังเหนียว ความอยู่ยงคงกระพัน ยิ่งไม่ออก แทงไม่เข้า ฯลฯครับ
ปัจจุบันนี้วัตถุมงคลของหลวงพ่อจิ่มก็ยังพอหามาบูชากันได้ ราคาจัดว่าไม่สูงเกินไปนัก ถ้าเทียบกับสมัย 20-30 ปีก่อนนั้น สนนราคากันหลายๆพันถึงเรือนหมื่น แต่ปัจจุบันราคาลงมาเยอะก็เป็นเรื่องน่าแปลก คงเป็นเพราะว่าปัจจุบัน คนรุ่นใหม่เล่นพระกันแบบธุรกิจ เลยลืมพระดีพระเด่น ของคนรุ่นเก่าๆที่มากประสบการณ์ล้วนๆไปแล้วครับ บอกตามตรงตอนนี้ผมทราบมาว่ามีผู้ใหญ่ในวงการหลายท่าน และผู้นิยมพระท้องถิ่นก็แอบเก็บพระหลวงพ่อจิ่มบ้างแล้วครับ สังเกตุง่ายๆจากกระดานพระเครื่องทั่วไป...
ด้วยความที่เป็นคน อ.ท่าใหม่ และได้คลุกคลีกับนักเลงรุ่นเก่ามาบ้าง เลยทำให้พอทราบข้อมูลดีๆ มาบอกต่อเล่าสู่กันฟัง และเอาไว้เป็นตำราเวลาเสาะหาของดีมาสะสมครับ เพราะอย่างไรเสีย เพชรก็ยังเป็นเพชร ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟเผา ผมเชื่อว่าสักวันคนที่จันท์เองก็หนีความจริงกันไม่ได้ ต้องกลับมาเล่นหาของดีที่มีอยู่กับบ้าน ของจริงย่อมรอวันเด่นดังและประกาศก้องในวงการอย่างสง่างาม ดุจพญาราชสีห์ เฉกเช่นวัตถุมงคลของท่านพ่อผุด วัดวังเวียน พระปรมาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมขลัง ผู้ครองใจชาวเมืองจันท์ตลอดกาลครับ..

 

รูปหล่อโบราณ รุ่น๑ หลังค่อม






รูปหล่อพิมพ์ต้อ ฐานบาง






รูปหล่อพิมพ์หลังตรง ฐานหนา







รูปเหมือนครึ่งซีก เนื้อตะกั่ว





​

 

นอกจากนี้แล้วยังมีเหรียญ รุ่น 1-3

เสื้อยันต์ , ผ้ายันต์แปดทิศ

ตะกรุด

สีผึ้ง

ฯลฯ

โดยเฉพาะเครื่องรางของท่านนั้น หาได้ยากยิ่งกว่าพระเครื่องเสียอีก เนื่องจากผู้ที่เก็บไว้ต่างหวงแหนมาก และส่วนหนึ่งอาจจะผุพังไปตามกาลเวลา...

 

สวัสดีครับพี่เอ็กซ์ ผมเองเคยได้มีโอกาสได้กราบหลวงปู่สนั่นท่านครั้งหนึ่งที่วัดอโศฯ และร่วมทำบุญกับท่าน ตอนนั้นยังไม่รู้จักท่านเลยครับ ไม่รู้ว่าท่านคือใคร มาจากวัดไหน แต่สิ่งที่สัมผัสได้ ณ ตอนนั้นคือความเมตตาล้วนๆที่รู้สึกและรับรู้ได้จริงๆ ซึ่งอาจรวมไปถึงบารมีธรรมของท่านด้วย เพื่อนที่ไปด้วยกันยังทักเลยครับว่าท่านน่าจะเป็นพระอริยะองค์นึงเลยนะ...

ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านจำวัดอยู่ที่กุฏิ(เดิม)ของท่านพ่อลี ที่วัดป่าคลองกุ้งนั่นแหละ

ผมเองตั้งใจไว้เลยครับ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน หากมีโอกาสจะไปกราบแทบเท้าท่านอีกสักครั้ง และอีกหลายๆครั้งเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเลยครับ ทุกวันนี้ได้แต่นึกถึงท่านและกราบท่านเท่านั้น

 

สาธุ.. โชคดีนะครับที่ได้พบองค์ท่าน ท่านเป็นพระอริยะที่บริสุทธิ์มากครับ และเป็นสหธรรมมิกขององค์หลวงปู่พิศดู ที่สนิทกันมากที่สุดด้วยครับ

 

จัดสวนให้วัดหนองกรับ ระยอง​

เมื่อวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา ผมและคณะครูอีก 3 ท่านได้มีโอกาสรับใช้ทางวัดหนองกรับ ด้วยการเสนอตัวขอจัดสวนหย่อม ณ บริเวณศาลาที่ใช้ในการทำบุญทำทานของบรรดาญาติโยมชาวพุทธศาสนิกชน ให้ทางวัดหนองกรับฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ปัจจุบัน ศาลาแห่งนี้นอกจากจะใช้ในกิจของสงฆ์ต่างๆแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่บรรจุสรีระสังขารขององค์หลวงพ่อสาคร พระเกจิองค์สำคัญของชาวจังหวัดระยองอีกด้วย ซึ่งตัวผมเองได้ยินได้ฟังบารมีขององค์หลวงพ่อมานานแล้ว หากแต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสเข้ามากราบองค์หลวงพ่อ ดังนั้นคณะของผมจึงมีความตั้งใจจริงที่อยากจะมาสร้างสมบารมีด้วยการจัดสวนให้กับทางวัด ในขณะที่เรากำลังขมักเขม้นทำงานกันอยู่ หนึ่งในคณะของเราก็กำลังจับจอบขุดดินเพื่อปลูกต้นไม้ ในขณะนั้นเองจอบก็พลันไปเกี่ยวดึงสายไฟของหลอดไฟดวงใหญ่ที่ทางพระภิกษุสงฆ์ได้นำมาติดไว้เพื่อให้แสงสว่างในการทำงานของคณะเรา สายไฟถูกจอบกระชากอย่างแรง ผลทำให้หลอดไฟดวงใหญ่ (คล้ายกับหลอดไฟตกปลาหมึกที่ใช้อยู่บนเรือชาวประมง) เกิดระเบิด เศษแก้วกระจัดกระจายบินลอยไปอย่างไร้ทิศไร้ทาง ขณะนั้นคณะเรายืนอยู่ในรัศมีประมาณ 1-2 เมตร เท่านั้นเอง ผมรับรู้ได้ถึงเศษแก้วที่วิ่งผ่านผิวหนังไป ผมและคณะต่างสอบถามกันว่ามีใครเป็นอะไรไหม? ทุกคนให้คำตอบว่าไม่เป็นไร ก็ทำให้โล่งใจขึ้นมาหน่อย ยอมรับว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ทุกคนไม่ได้ตั้งตัวกันเลยและก็ตกใจกันพอสมควรเหมือนกัน ผมก้มมองตามพื้นดินเศษแก้วชิ้นใหญ่ชิ้นน้อยตกอยู่เต็มไปหมด

จะด้วยความโชคดี หรือจะเป็นเพราะบารมีขององค์หลวงพ่อสาคร , พระภูมิเจ้าที่วัด ,เทวดา หรือจะด้วยเหตุผลอื่นใดก็ดีที่คุ้มครองรักษาให้พวกเราทุกคนปลอดภัย พวกเราก็อดไม่ได้ที่จะถามไถ่กันว่า "ใครคล้องพระอะไรกันบ้าง?" คำตอบก็คือ ครูคนที่หนึ่ง เป็นคนปัตตานี แน่นอนครับ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นเก่าจำนวน 5 องค์ (หาดูยาก) , ครูคนที่สอง เป็นคนระยอง คล้องพระชัยวัฒน์ ของหลวงปุ่ทิม วัดระหารไร่ (หาดูยาก), ครูคนที่สาม เป็นคนนครพนม คล้องเหรียญรุ่น 1 พระอาจารย์เสาว์ ปัตติกาโร วัดโกศลมัชฌิมาวาส, และครูคนที่สี่ เป็นคนจันทบุรี (คือเจ้าของเรื่องนั่นเอง) คล้องพระผงพุทธมงคล ของหลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง

 

ขอบคุณท่านปัทมินทร์ครับที่นำประสบการณ์ดีๆมาเล่าสู่กันฟังครับ..หากมีประสบการณ์ดีๆอีก รบกวนลงถ่ายทอดให้เพื่อนๆสมาชิกได้รับฟังกันอีกนะครับ.. สาธุ

 

ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับผมท่านทุกเรียนทอด ...วัตถุมงคลของหลวงปู่พิศดูก็ดี หรือของครูบาอาจารย์องค์ใดก็ดีที่เรามีความเคารพรัก ศรัทธา หากผู้สวมใส่ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรม เคารพและกตัญญูต่อพ่อแม่ครูอาจารย์ ผู้มีคุณ หรือมีโอกาสได้เจริญจิตภาวนาเป็นนิจด้วยแล้วล่ะก็ ประสบการณ์ดีๆทั้งหลายจะเกิดขึ้นกับตัวเราแน่นอนครับ

 

ล็อกเก็ตรุ่น 8 หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา (ล็อกเก็ตมหาจักรพรรดิ์)
- รุ่นนี้สร้างในปี พ.ศ.2552 โดยท่านครูบากฤษดา สุเมโธ ท่านขออนุญาติองค์หลวงปู่โดยตรง รุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับผู้ที่ทำคุณประโยชน์กับทั้งสองวัด และเป็นที่ละลึก คือเป็นรุ่นที่พิเศษมากๆ ครูบาท่านตั้งใจสร้างเองโดยตรง ด้วยมวลสารที่สุดยอดๆ ที่ท่านเก็บสะสมมา ผงที่ท่านทำเองและผงของครูบาอาจารย์ต่างๆด้วย และอธิษฐานจิตเอาไว้ตลอดมา รวมทั้งสุดยอดของผงมวลสารในแต่ละสำนัก อาทิ..

- เกศา ครูบาเจ้าศรีวิชัย
- เกศา เล็บ จีวรเก่าของหลวงปู่พิศดู
- เกศา ครูบากฤษดา
- ผงพระธาตุต่างๆ
- ผงสมเด็จวัดระฆัง
- สมเด็จบางขุนพรหม
- ผงพระรอด และพระกรุสกุลลำพูน
- มวลสารจิตลดา
- ผงหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
- ผงหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
- ผงหลวงปู่สี วัดเขาถ้าบุญนาค(รุ่นอายุยืน และชาญหมาก)
- ผงกสิณของ หลวงปู่พิศดู ที่ท่านทำเองตั้งแต่ปี 2520
- ผงโสฬสมหาพรหม
- ผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
- ผงพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเคลือวัลย์
- และผงอีกหลายชนิด รวมทั้งมหาว่านมงคลต่างๆ เป็นจำนวนมาก
ฯลฯ...ฯลฯ

พระทั้งหมดนี้ท่านครูบาเมตตาจารอักขระเองทั้งหมดที่ฝาด้านใน ครูบาท่านจารอักขระไว้เยอะมากๆไม่มีที่ว่างเลย จากนั้นเอาเกศา เล็บ ของหลวงปู่พิศดู เกศาครูบาศรีวิชัย บรรจุเอาไว้แล้วจึงเอาจีวรปิดทับอีกชั้นแล้วจึงเอามวลสารต่างๆที่ผสมแล้วพอกอีกชั้นหนึ่ง หลังจากพวกมวลสารแล้วจึงเอาพระชัยประจำตะกูลที่สร้างเอาไว้ปี 2550 และเม็ดประคำแท้ๆของครูบาเจ้าศรีวิชัย บรรจุเอาไว้ทุกองค์ครับ เป็นวิธีการสร้างที่ละเอียดลออมาก โดยทุกขั้นตอนจะมีการกำหนดฤกดิ์-ยาม และท่านครูบาจะเป็นผู้กำกับเองทั้งหมด จากนั้นจะทำการอธิษฐานจิตเองทุกวัน โดยท่านอัญเชิญบารมีของคุณพระ ครูบาอาจารย์ทั้งหมด บารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดูให้มาร่วมพิธีด้วยทุกวัน จากนั้นจึงได้นำพระทั้งหมดเอามาถวายให้องค์หลวงปู่ท่านเสกอธิษฐานอีกทีแล้วจึงมอบให้กับผู้ที่สมควรต่อไปครับ
จำนวนสร้าง มีออกมาด้วยกัน 2 แบบ คือแบบซ้อนตรง 16 องค์ และซ้อนข้าง 16 องค์ ครับ



ล็อกเก็ตชุดนี้หลวงปู่พิศดูบอกว่า" แจกเฉพาะคนสมควรแจก.. " ซึ่งก็มีคนเคยมาของท่าน ท่านก็บอกประโยคนี้ครับ แสดงว่าล็อกเก็ตชุดนี้ต้องพิเศษจริงๆ
ข้อมูลจากวงใน..มีคนเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่ครูบาท่านจะนำล็อกเก็ตชุดนี้มาถวายให้หลวงปู่อธิษฐานที่วัดเทพธารทอง ครูบาท่านก็ได้อธิษฐานจิตล็อกเก็ตชุดนี้อยู่ที่วัดสันพระเจ้าแดงทุกวันเป็นเวลานับเดือน ซึ่งเวลาที่ท่านครูบาอธิษฐานจิตล็อกเก็ตชุดนี้ ญาณขององค์หลวงปู่ก็จะไปร่วมอธิษฐานจิตที่วัดสันพระเจ้าแดงด้วยทุกวันครับ ท่านครูบาบอกว่าพระชุดนี้ขลังมากๆน่ะ.. และคำที่เรียกว่า ล็อกเก็ตมหาจักรพรรดิ์ นั้นทราบมาว่าท่านครูบาเป็นผู้ขนานนามนั้นขึ้นมานั่นเองครับกระผม.. สาธุ ๆ ๆ กราบครูบาอาจารย์ทั้งสองไว้เหนือเศียรเกล้าครับ..

 

ขออนุญาต แจมนิดนึงนะครับ

อยู่ที่คอทุกวันครับ อุ่นใจ และ เตือนสติทุกๆวัน ผมเป็นคนชอบแขวนพระองค์เดียว(เป็นซะส่วนมากตั้งแต่หนุ่มๆแระ เวลาเจอประสพการณ์จะได้รู้และมั่นใจแน่นอน )

 

สุดยอดๆๆ ครับ.. พี่หมวดมีวาสนาเยอะเหมือนกันนะครับ..

 

จะหาจากไหนได้สักองค์นะ

 

มีแต่ล็อกเก็ตรุ่น ๒ (ล็อกเก็ตสุคโต) ที่อาราธนาเหน็บติดตัวอยู่ทุกวัน

 

ล็อกเก็ตครูบากฤษดา รุ่นพลังอมตะ ได้รางวัลจากการตอบคำถามใน Facebook ห้องศิษย์ครูบากฤษดา

 

กราบ กราบ กราบหลวงปู่เเละครูบาเป็นที่สุดครับ

 

ลูกสาวผมห้อยล็อกเก็ตหลวงปู่หลังพระอุปคุต รุ่นพระราชทานเพลิงฯ กับพระอุปคุตเนื้อว่านหลวงพ่ออุตตมะ ติวหนังสือไปสอบ ป.๑ หลักสูตรพิเศษ ให้ขอพรปู่และปู่ที่หิ้งพระ ผลผ่านฉลุย

เมื่อวานไปเรียนว่ายน้ำสระมาตรฐาน ปรากฏว่าฝาล็อกเก็ตหลุด ภาพหลวงปู่หลุดเข้าเขตน้ำลึก ต้องให้ครูงมหาให้ กลับมาบ้านบอกว่าพ่อปู่หาย พ่อดูแล้วเลยบอกว่าปู่ไม่ได้หาย มีแค่รูป ปู่คงอยากออกมาว่ายน้ำกับหนู ครูเขาเก่งภาพใบเล็กเท่าเล็บมือ...ยังหาเจอ

ท่านคงอยากอยู่โปรดลูกหลานต่อไป...(ผมสวดคาถา ๓ บทและคาถาท่านพ่อลี ทุกวัน)

 

ยินดีด้วยครับ.. ล็อกเก็ตพลังอมตะนี้ เห็นว่าอธิษฐานปรับธาตุในร่างกายได้ด้วยนะครับ

 

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณของ พระมหาอุปคุตเถระเจ้าครับ

ล็อกเก็ตรุ่นนี้ เป็นรุ่นที่ผม ติดตัวตลอดเหมือนกันครับผม
พี่ครับ ( ^ ^ ) ประสบการณ์ดีมาก ๆ จริง ๆ ครับผม

ที่บ้านผม คุณแม่ คุณพ่อ และ ผม บูชาติดตัว
ตลอดเลยครับ

 

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณของ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกครับ

ยินดีด้วยครับผม บุญนำพาครับผม ( ^ ^ )