ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ช่วงนี้ใกล้สอบ...เลยไม่ได้แวะมาเยี่ยมคุณอาเลย...เดี๋ยวค่อยตามเก็บย้อนหลังอีกที...มาเป็นกำลังใจอีกหนึ่งเสียงครับ...(^ ๐๐ ^)

 

.........
...ขอบคุณทุกท่านที่.เป็นกำลังใจให้....
หวัดดี..หลานสวนพลู..หมูดำ..หลานเขม..เฉียวฟงหลานรัก..หลานเขม..
หลานsamzuza...และ..suppavut.....พร้อมกับ..คนในครอบครัวผม...
.........................................
เรื่องของหลวงพ่อทอง ตอนที่๕....
...................................................
......ท่านเจ้าคุณ..บอกว่า..หลังจากเกิดเหตุการณ์หลวงพ่อทอง..ระเบิดทองออกจากตัว
นั้นแล้ว..ต่อมาคืนหนึ่ง..หลวงพ่อก็เข้ามาในนิมิต..แล้วบอกกับ..ท่านว่า..ท่านจะไม่อยู่
ที่โบสถ์แล้ว...(ซึ่งจริงนั้น..ผมจำไม่ได้ที่เจ้าคุณเล่าให้ฟังแม่นยำ..ก็เลย..ไม่อยากมั่ว..
แต่ทำนอง..ว่า..หลวงพ่อ..อึดอัด..อยากอยู่ที่โล่งๆ..ที่เปิด..)..หลวงพ่อจะไปอยู่ข้างล่าง
..(ตรงตำแหน่งปัจจุบัน)..ก็ให้ท่านเตรียมสถานที่ไว้ให้ด้วย..และเปิดให้ผู้คนเข้ามาหา
หลวงพ่อโดยง่าย...
....นั่นคือ..เหตุที่มาที่หลวงพ่อลงมาอยู่ข้างล่าง..เพราะ..หลวงพ่ออยากมาอยู่เอง..ไม่ใช่ท่าน
เจ้าคุณ..เป็นคนนำหลวงพ่อลงมา.....
.....................................
....ส่วนเรื่อง..ร่างของหลวงพ่อที่ปรากฎ..ในนิมิตของท่านเจ้าคุณ..ที่เป็นชายชรานุ่งขาวห่มขาว
นั้น..ผมมีข้อสังเกตอย่างหนึ่งว่า..ตอนที่..หลวงพ่อฤาษีลิงดำ..ท่านเล่าว่า..อยากจะเห็น..
ท้าวเวสสุวรรณ..นั้น...ร่างที่มาปรากฏให้ท่านเห็น..ก็ออกมาในทำนองเดียวกัน..คือ..เป็นรูป
ของชายชรานุ่งขาวห่มขาวเช่นกัน..ไม่ได้..ปรากฏร่างในรูปยักษ์..แต่อย่างใด...........
..........ดังนั้นผมจึงมาคิดว่า..ร่างในนิมิตของหลวงพ่อทอง..ที่เจ้าคุณสุขท่านเห็นนั้น..เป็นแค่
ร่างที่หลวงพ่อต้องการให้..เห็นหรือเปล่า..หรือ..หลวงพ่อมีร่างจริงเป็นเช่นไร..ถ้าร่างที่ว่า
ไม่ใช่ร่างจริง..เหมือนทำนองเดียวกับ..ท้าวเวสสุวรรณ...ที่มาปรากฏให้หลวงพ่อฤาษีเห็น..
......................................................................
........................................................................
...คราวนี้..ก็มาถึง..เรื่องที่ไม่มีใครรู้..นอกจาก..ท่านเจ้าคุณ..ผม..และ..พี่ชาย....
...เรื่องนี้สำคัญครับ..ขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้..ผมยังสองจิต..สองใจอยู่เลย....ดังนั้น..ก็
ขอทำความเข้าใจ..เสียก่อนว่า..ข้อความในเครื่องหมายคำพูดต่อนี้เป็นสิ่งที่
ออกมาจากปากท่านเจ้าคุณเอง......
..........................................................................
++++++++++++”.....ข้างในหลวงพ่อทองนั้น...เป็นไม้.....”++++++
.........................................................................
....ผมถามว่า..ถ้าเป็นพวกเรา..มานั่งฟังท่านพูดในตอนนั้น..จะตาเหลือก..และ
หันมามองหน้ากันมั้ย....................
....ผู้พูดเป็น..พระที่ปฏิบัติดี..ปฏิบัติชอบ...การละเมิดศิล..การพูดจาโกหกหลอกลวง
นั้น..เป็นไปไม่ได้..แถม..คำพูดนั้น..ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรที่ต้องพูด..ยิ่งไปกันใหญ่
ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่.......................
.....ทั้งนี้พวกเรา..ต้องเข้าใจว่า..การจะทำอะไร..จะยกท่าน..จะเคลื่อนย้ายท่านนั้น..ไม่มี
ใครทำโดยพละการได้..นอกจาก..ท่านเจ้าคุณสั่งเท่านั้น...คือ..ทำได้แค่เท่าที่สั่ง.......
...มีแต่เจ้าคุณเท่านั้น..ที่ท่านสามารถ..จะดูตรวจสอบ..หรือ..พิจารณาท่านโดยละเอียดได้..
...ผมถึง..บอกว่า...เรื่องนี้..จะไม่มีใครอื่นรู้เลย..นอกจากท่านเจ้าคุณสุข........
.......ท่านบอกว่า..เกิดจากการตรวจสอบของท่านเอง..นานมาแล้ว..เนื่องจากหลวงพ่อ
องค์เล็ก..ท่านเจ้าคุณตอนที่ยังไม่ชรา..ก็แข็งแรงอยู่..ท่านได้พลิกหลวงพ่อด้วยตัวเอง..
ดูใต้ฐาน...แล้วพบว่า..แกนใน..หรือสิ่งที่อยู่ต่อจากเนื้อโลหะนั้น..เป็นไม้...ดังนั้น..ด้วย
น้ำหนักของไม้..ที่เป็นส่วนที่เป็นแกนนั้น..ไม่มาก..และอาจเป็นไม้ที่เบา..ดังนั้นเมื่อ
เทียบกับ..พระหล่อโลหะปกติ..จึงทำให้ไม่หนักขึ้นเท่าไหร่(แล้วจริงๆ...โลหะที่หุ้ม
นั้นน่าจะหนา..น้อยกว่า..พระหล่อทั่วไปด้วย)...จึงไม่ผิดสังเกต..แล้วระหว่าง..ยก..
หรือ..แม้แต่ตอนที่เอาทองออกนั้น...ไม่ได้มีการพลิกฐานขึ้นมา.....ก็จึงไม่มีใครทราบ
.......การวิเคราะห์ของผมนั้น...ผมต้องนึกถึง..จุดประสงค์..ที่มา..และการสร้าง
ของท่านด้วย..ในตอนหน้า..............

.................

........เวลาไม่มีทองหุ้มหนาๆ..ก็ได้อีกอารมณ์........
(ขอบคุณภาพจากbuddhismthailand.org....)

.....................ต่อตอนหน้า...............

 

ไม่ได้เขัามาซะนาน
เรื่องหลวงพ่อทองกำลังเข้มข้นเลยครับ
รอชม และเป็นกำลังใจให้ครับผม

 

ขอบคุณครับคุณอา ผมเองก็ได้รับข้อมูลมาจากผู้ใหญ่ที่นับถือท่านนึงว่า หลวงพ่อโสธรเอง องค์จริงก็เป็นไม้ แต่เท็จจริงอย่างไร ผมเองก็ไม่สามาถพิสูจน์เองได้เช่นกัน แต่ผมมีโอกาสเห็นภาพถ่ายมาครั้งนึงเหมือนกันครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล....ที่ลึกแบบสุดๆ ไม่เคยพบในตำรา...หลวงพ่อทอง พระที่ศักดิ์สิทธิ์ คู่ประเทศไทย ก็ว่าได้...

 

กราบสวัสดีพี่ Modpongและพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ
ปาฎิหารย์ระเบิดทองออกจากองค์ท่านนี้รึเปล่าครับ ที่เป็นจุดเริ่มของลูกอมทองไหลแห่งวัดเขาตะเครา เด็กเพชรอย่างผมก็เพิ่งจะได้มีโอกาสทราบข้อมูลเรื่องราวเก่าๆของวัดเขาตะเครา ก็จากเรื่องเล่าของพี่นี่ล่ะครับ ช่างน่าอัศจรรย์ใจมากๆครับพี่ ฟังแล้วอดภูมิใจในพระคู่บ้านคู่เมืองของบ้านเกิดเมืองเพชรไม่ได้ครับ กลับบ้านไปหนนี้ต้องไปกราบหลวงพ่อทองซะแล้วครับ ไม่ค่อยได้มีโอกาสแวะเวียนไปกราบท่านซักเท่าไหร่เลยครับ
ขอบพระคุณมากครับพี่สำหรับเรื่องเล่าดีๆอันทรงคุณค่าของวัดเขาตะเครา รักษาสุขภาพด้วยนะครับ...

 

........................................
...เข้ามาก็ดีแล้ว..เพราะเรื่องนี้จริงนะ..อยากให้คนเพชรนั่นแหละ..อ่านเป็นหลัก...จะได้รับรู้ไว้..แล้วถ่ายทอดให้ลูกหลานชาวเพชร..ต่อเนื่องสืบกันไป
..................
...ไอ้เรื่อง..ลูกอม..อะไรนี่..พี่ไม่ทราบนะ..ขอโทษด้วย..เกี่ยวรึไม่เกี่ยวก็ไม่ทราบ....

 

...........
..เรื่องของหลวงพ่อทอง..ตอนที่๕..
.................................
............................................................
....รูปแบบแรกนั้น..ตัดไปได้เลย..คือ..รูปแบบที่เป็น..พระพุทธรูปบุเงิน..หรือ..บุทอง
..เนื่องจาก..พระพุทธรูปอย่างงี้สังเกตได้ง่าย..เพราะแผ่นโลหะ..จะบาง..และ..จะต้องนิ่ม
เพื่อจะตีให้แผ่นโลหะ..แนบไปกับ..หุ่นไม้.....
...ประการต่อมา..เนื้อของโลหะนั้น..ไม่ใช่เงิน..หรือ..ทอง..ไม่งั้นตอนแรก..ที่มีการพบท่าน
นั้น..จะต้อง..มีระบุชัดเจนไปแล้ว...เมื่อไม่ใช่ทั้งเงิน..และทอง..ก็น่าจะเป็นพวกสัมฤทธิ์
...เหมือนอย่าง...ที่สุนทรภู่เรียกท่านว่า..พระสัมฤทธิ์....แต่สัมฤทธิ์นั้น..เนื้อโลหะแข็ง...
...ไม่สามารถ..อ่อนตัวเพื่อตีให้แนบเนื้อไม้ได้...............จึงตัดไป....
.....สรุป..หลวงพ่อท่าน..ก็คงทำด้วย..วิธีหล่อ..และ..เนื้อเป็นสัมฤทธิ์...แต่แทนที่แกนใน
จะเป็น..ดินหุ่น..แต่กลับเป็นไม้แทน...แล้วทำไมต้องเป็น..ไม้..เพราะขั้นตอนต้องยุ่งยาก
แน่(ผมจะกล่าวถึง..ต่อไปภายหน้าว่า..ยุ่งยากยังไง)...
........แสดงว่า....ไม้ที่อยู่ในองค์หลวงพ่อนี่....ต้องไม่ใช่..ไม้ธรรมดา...............
....ต้องเป็น..ไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์..แน่นนอน..ไม่งั้น..ผู้สร้างคงไม่..ลงทุนทำให้ยากแบบนี้..
...และเมื่อเป็นเช่นนี้..ก็แสดงว่า...ร่างภายในที่สร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้คนทั้งหลายประจักษ์
รวมถึง..เข้ามาแสดงตนในนิมิต..ของท่านเจ้าคุณนั้น...ก็มีโอกาศสูงที่จะอยู่ในเนื้อไม้แต่เดิม
นั่นเอง..ก่อนที่จะมาทำเป็นองค์หลวงพ่ออย่างในปัจจุบัน......ซึ่งวิเคราะห์ตามหลักการความน่า
จะเป็นแล้ว...ไม่น่าจะมาอยู่หลังจากสร้างเสร็จแล้ว.....
....เรื่องต่อไปที่จะคิดคือ.......
.....หลวงพ่อเดิม...ท่านเป็น..พระพุทธรูปไม้..อยู่ก่อนหรือ..เปล่า....

แล้วต่อมา..อาจจะป้องกันการสึกกร่อน..หรือ..ต้องการความสวยงามและคงทน
ตลอดกาล..จึงคิดมาหล่อสัมฤทธิ์หุ้มท่าน.....หรือ....
...เดิมท่านอยู่ในต้นไม้เช่นกัน..แต่..ตั้งใจ..ทำเป็นแบบนี้..ตั้งแต่ต้นเลย..คือ..
แกะท่านเป้นรูปร่างคร่าวๆ..แล้ว..เทหล่อเนื้อสัมฤทธิ์..เสร็จเป็นองค์พระในคราว
เดียว..ไปเลย.....
.......เมื่อมาถึงอย่างนี้ทั้ง๒กรณี..ก็มีความเป็นไปได้..ที่เป้นเทพยดาอารักษ์..ที่ประจำอยู่ที่..
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์..หรือ..เป็นวิญญานชั้นสูง..หรือ..เป็นเทพอะไรซักอย่างที่อยู่ที่ต้นไม้นี้
...แล้ว..ต้นไม้นี้..อาจเก่าแก่ผุพัง..หักโค่นลงไป..ผู้ที่เคารพศรัทธาท่านจึงอัญเชิญท่าน
เข้ามาอยู่ในรูปทรงใหม่..เพื่อจะได้เคารพกราบไหว้ท่าน..ได้ตลอดไป...
...............ต่อตอนหน้า..................
..............................................

 

...............
...เรื่องของหลวงพ่อทอง..ตอนที่๖(ตอนจบ)..
.............................
............................................................
....รูปแบบแรกนั้น..ตัดไปได้เลย..คือ..รูปแบบที่เป็น..พระพุทธรูปบุเงิน..หรือ..บุทอง
..เนื่องจาก..พระพุทธรูปอย่างงี้สังเกตได้ง่าย..เพราะแผ่นโลหะ..จะบาง..และ..จะต้องนิ่ม
เพื่อจะตีให้แผ่นโลหะ..แนบไปกับ..หุ่นไม้.....
...ประการต่อมา..เนื้อของโลหะนั้น..ไม่ใช่เงิน..หรือ..ทอง..ไม่งั้นตอนแรก..ที่มีการพบท่าน
นั้น..จะต้อง..มีระบุชัดเจนไปแล้ว...เมื่อไม่ใช่ทั้งเงิน..และทอง..ก็น่าจะเป็นพวกสัมฤทธิ์
...เหมือนอย่าง...ที่สุนทรภู่เรียกท่านว่า..พระสัมฤทธิ์....แต่สัมฤทธิ์นั้น..เนื้อโลหะแข็ง...
...ไม่สามารถ..อ่อนตัวเพื่อตีให้แนบเนื้อไม้ได้...............จึงตัดไป....
.....สรุป..หลวงพ่อท่าน..ก็คงทำด้วย..วิธีหล่อ..และ..เนื้อเป็นสัมฤทธิ์...แต่แทนที่แกนใน
จะเป็น..ดินหุ่น..แต่กลับเป็นไม้แทน...แล้วทำไมต้องเป็น..ไม้..เพราะขั้นตอนต้องยุ่งยาก
แน่(ผมจะกล่าวถึง..ต่อไปภายหน้าว่า..ยุ่งยากยังไง)...
........แสดงว่า....ไม้ที่อยู่ในองค์หลวงพ่อนี่....ต้องไม่ใช่..ไม้ธรรมดา...............
....ต้องเป็น..ไม้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์..แน่นนอน..ไม่งั้น..ผู้สร้างคงไม่..ลงทุนทำให้ยากแบบนี้..
...และเมื่อเป็นเช่นนี้..ก็แสดงว่า...ร่างภายในที่สร้างความศักดิ์สิทธิ์ให้คนทั้งหลายประจักษ์
รวมถึง..เข้ามาแสดงตนในนิมิต..ของท่านเจ้าคุณนั้น...ก็มีโอกาศสูงที่จะอยู่ในเนื้อไม้แต่เดิม
นั่นเอง..ก่อนที่จะมาทำเป็นองค์หลวงพ่ออย่างในปัจจุบัน......ซึ่งวิเคราะห์ตามหลักการความน่า
จะเป็นแล้ว...ไม่น่าจะมาอยู่หลังจากสร้างเสร็จแล้ว.....
....เรื่องต่อไปที่จะคิดคือ.......
.....หลวงพ่อเดิม...ท่านเป็น..พระพุทธรูปไม้..อยู่ก่อนหรือ..เปล่า....

แล้วต่อมา..อาจจาการสึกกร่อน..หรือ..ต้องการความสวยงามและคงทน
ตลอดกาล..จึงคิดมาหล่อสัมฤทธิ์หุ้มท่าน.....หรือ....
...เดิมท่านอยู่ในต้นไม้เช่นกัน..แต่..ตั้งใจ..ทำเป็นแบบนี้..ตั้งแต่ต้นเลย..คือ..
แกะท่านเป้นรูปร่างคร่าวๆ..แล้ว..เทหล่อเนื้อสัมฤทธิ์..เสร็จเป็นองค์พระในคราว
เดียว..ไปเลย.....
.......เมื่อมาถึงอย่างนี้ทั้ง๒กรณี..ก็มีความเป็นไปได้..ที่เป็นเทพยดาอารักษ์..ที่ประจำอยู่ที่..
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์..หรือ..เป็นวิญญานชั้นสูง..หรือ..เป็นเทพอะไรซักอย่างที่อยู่ที่ต้นไม้นี้
...แล้ว..ต้นไม้นี้..อาจเก่าแก่ผุพัง..หักโค่นลงไป..ผู้ที่เคารพศรัทธาท่านจึงอัญเชิญท่าน
เข้ามาอยู่ในรูปทรงใหม่..เพื่อจะได้เคารพกราบไหว้ท่าน..ได้ตลอดไป...
...........................................................
คราวนี้มาเรื่อง..การหล่อ..ซึ่งผมมีประสพการณ์..และรู้ขั้นตอนพอสมควร....
...เอากรณีแรกก่อน...คือ....หลวงพ่อเดิมเป็นท่อนไม้..อยู่..หลักการทั่วไป..ก็ต้องบวงสรวง
บัดพลี..ขอขมา...แล้วทำการตัด..ออกมา..ซึ่งขนาดของท่านที่เป็นอยู่นั้น..ถ้าเป็นอย่าง
กรณีที่ว่า..ก็..ต้นไม้อาจไม่ได้ใหญ่โตมากมากมายอะไร....เพราะองค์ท่านเล็ก....
........ขั้นตอนแรก..นั้นเนื่องจากแกน..เป็นไม้..ดังนั้น..เวลาเททองหล่อ..ถ้าเราเททอง
สำรอกเทียนออก..ทองที่หลอมเหลว..นั้นร้อนมาก..ก็จะใหม้ไม้..แน่นอน..ดังนั้นเลี่ยงไม่
ได้..ต้องหุ้มไม้ด้วยดินหุ่น..เพื่อลดความร้อนลง...ก็คงเอา..ดินหุ่น..(..ก็..คินเหนียว..ผสม
ทราย..ผสมแกลบ..ผสมขึ้วัว..อะไรทำนองนี้)มาโป๊ะหุ้มไม้..จนรอบ..ส่วนที่จะเททอง..
แล้วค่อยเอา..เทียน..โป๊ะหุ้มแล้วก็แกะอีกที..เสร็จก็หุ้มด้วยดินหุ่นอีกครั้ง..เหมือนๆกับ
การเททองหล่อพระทั่วๆไป....
.....ดังนั้น..เนื้อโลหะของหลวงพ่อด้านใน..ก็จะต้องมีดินหุ่นคั่นอยู่แน่นอน..ก่อนถึง
ตัวเนื้อไม้....เพียงแต่ดินหุ่นคงไม่หนามาก..ข้างในส่วนใหญ่ก็จะเป็นเนื้อไม้ทั้งหมด..
.......เมื่อมาถึงตรงนี้..มันช่างสอดคล้องกับการพบ..หลวงพ่อมาก..เพราะ...
..................ท่านลอยน้ำมา...ยิ่งในทะเลความหนาแน่นสุง...เมื่อแกนในท่านเป็นไม้ทั้ง
หมด..หลวงพ่อย่อมลอยน้ำได้แน่..แต่มีข้อกังขาอีกข้อเดียวว่า..หลวงพ่อวัดบ้านแหลม
ท่าน..แกนใน..เป็นไม้เหมือน..หลวงพ่อทองรึเปล่าเท่านั้น..เพราะประวัติชัเจนว่า...
เจอพร้อมกัน..และ..ลอยมาด้วยกัน(..ลอยที่ผมว่านี่..ไม่ใช่ลอยเท้งเต้งนะ..แต่คงแบบ
ผลุบๆโผล่..มากกว่า).....
............ไอ้ที่ผมคิดนี่..แค่คิดไปเล่นๆ..เพียงแต่มันมีความเป็นไปได้เท่านั้นเอง..ไม่ได้ลบ
หลู่..ปาฏิหารย์ท่าน...............
...........ก็นี่แหละ..ครับ..ความลับที่ว่า.....คงไม่มีใครได้มีโอกาศพิสูจน์หรอก.......
...................แถมให้สำหรับ..ผู้ศรัทธา..ในองค์หลวงพ่อ...นอกจาก..สมเด็จสะดุ้งกลับ..
อันขึ้นชื่อลือชาแล้ว...ผมแนะนำอีกรุ่น..ต้องเป็นคนเพชรครับ..ถึงจะรู้..คนภายนอกรู้น้อย
ถ้าไม่ใช่เซียน...วัตถุมงคลรูปท่าน..ที่มีประสพการณ์สูงสุด..แต่ถูกกว่า..สะดุ้งกลับคือ..
................เหรียญใบมะขาม ปี ๒๕๐๑............(มีปลอมนะครับ..แต่ยังพอหาของจริงได้
ไม่ยาก...)...เหรียญรุ่นนี้ประสพการณ์สูงมาก..และ..ข้อดีคือ..เล็ก..เหมาะกับ..ผู้หญิง..
และ..เด็ก...ผู้มาปลุกเสก...นั้น..ผมไม่แน่ใจว่า..ปลุกกันตั้งแต่ ๒๕๐๐ แล้วมาออกในปี
๒๕๐๑ หรือเปล่า...(ท่านเจ้าคุณสุขนี่แหละครับเป็นผู้สร้าง)...เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น...
หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง..ต้องมาปลุกเสกด้วยแน่...แต่ที่แน่ๆ..รวมยอดเกจิ..
ทั้งจังหวัดเพชรบุรี..ในยุคนั้นทั้งหมดครับ..เพราะหลวงพ่อทองท่านเป็นพระพุทธรูปสำคัญ
ของจังหวัด....
.............ก็ฝากไว้แค่นี้แล้วกัน..อ่านเล่นพอเพลินๆ...ยาวเหมือนกันนะนี่..เหนื่อยวะ.....
.........................จบตอนพิเศษ...................................

 

สวัสดีครับ คุณลุง ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลย ได้รับรู้อะไรดีๆเยอะเลย ครั้งแรกที่ไปไหว้หลวงพ่อทอง เพราะพี่ที่รู้จักกันเคยพูดถึงวัดนี้ ... ผมยังคิดเลยว่าทำไมต้องนำท่านมาไว้ที่ศาลา เป็นอย่างนี้นี่เอง ... ว่าแล้ว สายตรงถึงรุ่นพี่ อยากมีเหรียญใบมะขามบ้าง
เรื่องสมเด็จท่านผมไม่กังขาเลย เพราะรุ่นพี่ผมคนนี้เป็นสายตรงวัดบวร แต่พี่ห้อยสมเด็จวัดเขาตระเครานี่แหละ ผมจึงเชื่อ ... โดยไม่กังขาเลย

 

กราบสวัสดีพี่ Modpongและพี่ๆน้องๆทุกท่านครับ
อ่านซะเพลินจุใจเลยครับพี่ ควบสองตอนรวดจนจบเรื่องหลวงพ่อทองวัดเขาตะเครา เล่นเอาถึงกับต้องอุทานแบบนี้ ถ้าผมอยู่ใกล้ล่ะก็จะขอนวดให้ศิษย์พี่ซักยกสองยกครับ ฐานะที่ต้องหลังขดหลังแข็งพิมพ์บอกเล่า เรื่องเก่าในวันวานอันทรงคุณค่าของวัดเขาตะเคราครับ และตามข้อสันนิษฐานของพี่ ผมอ่านแล้วก็คล้อยตามแลเห็นด้วยทุกประการครับ หลักคิดวิเคราะห์ของพี่ผมว่ามีความเป็นไปได้สูงทีเดียวครับ ตอบโจทย์ถึงตำนานเรื่องเล่าแต่ครั้งเก่าก่อนได้แบบมีเหตุมีผลมากๆ โดยที่มิได้ลบหลู่ดูหมิ่นถึงความศักดิ์สิทธิ์ในองค์หลวงพ่อเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าความศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละองค์นั้น ล้วนเป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ทุกคนอยู่แล้วครับ...

 

กลับมาจากการท่องเที่ยวแล้วครับคุณอา จบตอนไปอย่างสนุกครับ หลวงพ่อทอง วัดเขาตะเครา เดี๋ยวไปศึกษาเส้นทาง น่าจะมีรถประจำทางผ่าน ไปกราบขอพรซักหนึ่งครั้ง คงเป็นมงคลชีวิตมากๆ

 

เข้าทักทายพี่ modpong ครับ ไม่ได้เข้ามาซะนาน ติดธุระ พอเวลาจะเข้าจริง ๆ กลับเข้าไม่ได้ ไม่อยากพูดมากอะไร เดี๋ยวจะเป็นไข้เหลืองอีก รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่

 

ช่วงนี้ผมยุ่ง ๆ เลยไม่ได้เข้ามาอ่านกระทู้คุณลุง
กลับมาอีกที่ก็มีหัวข้อใหม่เรื่องหลวงพ่อทองแล้ว
ขอบคุณคุณลุงมาก ๆ ครับ ที่แบ่งปันความรู้จากรุ่นสู่รุ่นครับ

 

................................
..ขอบใจ..ในความหวังดี.......
...คือถ้าไม่มี..ที่มาเลย..ยังไงก็สันนิษฐานไม่ออกหรอก....
..แต่เพราะได้ความจริงจาก..เจ้าคุณสุข..นี่แหละพี่ถึง
จะวางแนวทางได้....
...เรื่องลบหลู่ท่าน..ไม่มีอยู่ในสมองอยู่แล้ว..เพราะของท่าน..พี่ก็ติดตัวอยู่๒๔ชม..."แหนบเงินลงยาราชาวดี(สำหรับกรรมการ)..ของวัดเขาตะเครา..งานผูกพัธสีมาโบสถ์ปี ๒๕๐๑(ปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญ..รุ่นใบมะขาม)..ห้อยอยู่ที่ข้อมือตลอดเวลา..

 

รอติดตามตอนต่อไปครับผม
น่าสนใจมากจริงๆครับ
เป็นกำลังใจให้ครับผม

 

ขอบพระคุณครับ..คุณอาสำหรับบทความหลวงพ่อสุข เป็นกำลังใจให้คุณอาด้วยครับ

 

..............
....หวัดดี..หลานKIM..หลานสวนพลู..กำธรน้องรัก..Orkarรุ่น๑..punthai
..สายน้ำเพชรศิษย์น้อง..suppavut..และ..เฉียวฟงหลานรัก...
.....................
..ต่อจากตอนที่แล้ว...
....................
..............................................................
...ก็ดูชื่อราชวงศ์ก็น่าจะทราบ..ว่า...คืออะไร..ราชวงศ์จักรี....จักร+กรี.....
..เทพองค์เดียวที่มีอาวุธ..อยู่ด้วยกันแบบนี้..ก็คือ..พระนารายณ์...หมายถึงว่านี่คือ
วงศ์ของรัชกาลที่๑ที่ท่านเปรียบดุจ..นารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์......
...มาเป็นอะไร..ก็มาเป็น..พระราม..คล้ายๆกับ..สมัยอยุธยา....เพราะพระนามเต็ม
ก็ยังมีคำว่า..”..สมเด็จพระรามาธิบดีที่๑..”...ดังนั้นรูปแบบ..และ..แนวทางก็แทบ
ไม่เปลี่ยน..จากยุคอยุธยา.....
....ความจริงแล้ว...ตราแผ่นดินนั้น..เราก็ใช้..ตรานารยณ์ทรงครุฑยุคนาคมาตลอด..
(แม้จะเรียกว่า...ครุฑพ่าห์..มาแต่เดิม..แต่จริงๆเป็นรูป..นารายณ์ทรงครุฑ..เราเริ่มมาใช้
กันเป็นพิธีการเนื่องจากต้องมีเอกสาร..ที่สยามมีข้อตกลง..กับต่างประเทศในสมัย
รัชกาลที่๔ เป็นเรื่องเป็นราว..พระองค์ท่านก็ใช้ตรานารายณ์ทรงครุฑยุดนาค..ทำขึ้น
เป็นตราประทับบนพระราชสาสน์..ดูในรูปแรก..และใช้ต่อกันมาจนถึง..รัชกาลที่๕)
..แม้แต่..ในเงินพดด้วงสมัยรัชกาลที่ ๒ ก็ปรากฏในทำนองเดียวกับ..เงินพดด้วงสัมย
พระนารายณ์..ที่บอกมา...ตราบจนถึง..ต้นรัชกาลที่๕..ซึ่งประเทศเราเข้าสู่ยุคสากล..
..รัชกาลที่๕..ท่านจึงอยากทำให้ตราแผ่นดิน..มีความเป็นสากล....
..จึงได้เปลี่ยนมาใช้..ตราอารม์..ซึ่งดัดแปลงมาจาก..ทางประเทศยุโรปแทน..
ตั้งแต่เมื่อ...ปี ๒๔๑๖..ใช้อยู่ ๒๐ ปี..พระองค์ท่านคงเห็นว่า..มันไม่แสดงเอกลักษณ์
ของชาติ..พระองค์ท่านก็เลยกลับมาใช้ในทำนองเดิม..แต่ให้น้องชายท่านกรมพระ
ยานริศรานุวัติวงศ์เขียนให้ใหม่..ซึ่งออกมาในสไตล์แนวฝรั่ง(รูปที่๒)..ใช้ได้ไม่นาน
กรมพระยานริศฯเขียนถวายใหม่..เหลือ..แต่..ครุฑอย่างเดียว..ร.๕..ก็ชอบพระทัย..
(รูปที่ ๓)..แล้วจึงใช้..เรื่อยมา..และ..ก็ยังเรียกว่า..ตราครุฑพ่าห์..เช่นเดิม..หลังจากนั้น
ก็มีการเปลี่ยนเล็กๆน้อย...แต่..รูปแบบหลัก..ก็คือ..เหลือแค่ครุฑ..อย่างเดียวเท่านั้น..
...ไม่มี..พระนารายณ์..และ..นาค..อีกต่อไป......
.....จริงๆแล้ว..จากเจตนาเดิม..นั้น..ก็ยังคงอยู่..ก็คือ..เป็นพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค
นั่นแหละ...เพียงแต่รูปนั้น..ให้..ครุฑ..แทนความหมายของ..เดิม..ซะเพื่อความโด่ดเด่น
..และ..ชัดเจน..ก็คือ..กษัตริย์ที่อวตารมาจากพระนารายณ์..ทรงไว้ซึ่งราชอำนาจเหนือ
แผ่นดินนี้ทั้งหมด.....
............ซึ่งเหตุผลที่..สนับสนุนนี้..ก็คือ..แม้ในรัชสมัยรัชกาลที่๖..ที่พระองค์ใช้ตราแผ่น
ดินเป็น..พระครุฑพ่าห์..ที่เป็นรูปครุฑ..เพียงอย่างเดียวนั้น..แต่พระองค์กลับสร้างโขนเรือ
พระที่นั่งในสมัยของพระองค์เป็น..พระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค..ซึ่งมีความหมายเป็น..
ตัวแทนของพระองค์..ตามราชประเพณีโบราณ..ตามเดิม..แล้วเรือนี้..ก็กลับมาฟื้นคืนชีพ
สมัย..รัชกาลที่๙ อีกครั้ง..กลายมาเป็น...
....เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่๙....นั่นเอง...นารายณ์ทรงครุฑยุดนาค..
หายจากสยาม..ประมาณร่วมร้อยปี..แล้วคืนชีพใหม่อีกครั้ง..และยังคงอยู่ไปตลอดกาล...
...................เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในสมัยรัชกาลที่๗...ปี ๒๔๗๕ นั้น.......
...ผู้ก่อการฯ..ไม่ได้เปลี่ยน..ตราแผ่นดิน..ก็จริง..แต่ความหมายของมันได้เปลี่ยนไปแล้ว..
...เพราะ..ระบอบการปกครองเปลี่ยน...และ..ชื่อของ..ก็เปลี่ยนด้วย..กลายเป็น..ตราครุฑ..
เฉยๆ...แทนความหมายด้วย..แผ่นดินไทยที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยภายใต้องค์
พระมหากษัตริย์...ไม่ใช่..ภายใต้ระบอบกษัตริย์ที่มีพระราชอำนาจสูงสุดเหนือแผ่นดินไทย
พระองค์เดียว......นั่นแหละ..จึงเป็นข้ออ้างเพื่อยังคงใช้..ตราครุฑอยู่ต่อไป....และ..เพื่อผล
ทางจิตวิทยาต่อ..ประชาชนชาวไทยด้วย..เพราะส่วนใหญ่ของประเทศ..ขณะนั้น..ยังไม่รู้
เรื่องอะไรเป็นอะไร...เมื่อเห็นอะไร..ที่เป็นตราครุฑ..ก็ต้องนึกถึงว่า..เป็นเรื่องของในหลวง
...แล้วก็กลายเป็น..หลวง..เฉยๆในภายหลัง..ซึ่ง..หลวง..ในภายหลัง..ก็หมายถึง..รัฐ..นั่นเอง..

.....................

............ตราแผ่นดินของเดิม.......

......................

.......ตราที่กรมพระยานริศฯออกแบบขึ้นใหม่เพื่อใช้แทน..ตราอาร์ม..

......................

.....ตรา..ครุฑพ่าห์..ตราแผ่นดิน..ร.๕ มาใช้ใหม่..แทน..นารายณ์ทรงครุฑยุดนาค..ที่ออกแบบใหม่..

........

......เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่๙(รัชกาลที่ ๖ เดิม).....

..........................ต่อตอนหน้า...................

 

กราบขอบคุณสำหรับความรู้ เกี่ยวกับหลวงพ่อทอง

 

สวัสดีครับคุณลุง ผมมีเรื่องสอบถามเกี่ยวกับเหรียญใบมะขามวัดเขาตะเคราอ่ะครับ
เหรียญใบมะขาม 01 มีลงยาด้วยเหรอครับ เพราะได้ยินมาแค่ มีลงยาเป็นเหรียญกลม

ถามใครไม่ได้ต้องถามคุณลุง เพราะเกิดทันอิอิ ในเวปเดี๋ยวนี้เชื่อยาก เน้นขาย+ สร้างนิทานเรื่อย

แอดมินคร๊าบ อย่าลบรูปนะครับ ผมขอนำมาลงเพื่อการศึกษาครับ ขอบคุณครับ