ปู่อินทร์ตาทิพย์ 114 ปี

มันเป็นเรื่องของเหล่ามหาเศรษฐีเขาทำกัน ส่วนชาวบ้านหาเช้ากินค่ำแบบเราๆ ก็ได้แต่นั่งมองหน้ากันไปมาตาละห้อย..ฮา

นี้คือ ปรากฏการณ์สำคัญอย่างหนึ่งหลังมีเหตุกาณืน้ำท่วมใหญ่ภาคกลาง..ปี 2554

เอามาให้อ่านเล่นๆ....อย่าไปคิดมาก

"เศรษฐี-ตระกูลดัง" กว้านซื้อที่ดินเขาใหญ่ต่อเนื่อง "จิราธิวัฒน์-เจียรวนนท์-สิริวัฒนภักดี-ภิรมย์ภักดี-มหากิจศิริ- วิไลลักษณ์"


สบช่องผังเมืองใหม่ยังไม่ประกาศใช้ นายหน้าค้าที่ดินระบุผังเมืองใหม่ยื้อประกาศเหตุขัดแย้งนายทุนสูง พบที่ดิน 90% ครอบครองโดยนายทุน

กลุ่มทุนที่รุกเข้าไป "จับจอง" ที่ดินรอบเขาใหญ่ เพื่อผุดโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่บรรดา"เศรษฐีตระกูลดัง" ล้วนมีที่ดินบริเวณโดยรอบเขาใหญ่ทั้งสิ้น บางรายเริ่มจากการซื้อที่ดินแปลงเล็กๆ ก่อนจะทยอยซื้อที่ดินผืนใหญ่หลักพันจนถึงหลักหมื่นไร่ อย่างเครือเซ็นทรัล ของตระกูล "จิราธิวัฒน์" ครอบครองที่ดินเส้นทางเขาใหญ่-วังน้ำเขียว นับพันไร่ ในตำบลโป่งตาลอง

ตระกูลดังแห่จับจองที่เขาใหญ่

ขณะที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ของตระกูล "เจียรวนนท์" ไม่พลาดที่ซื้อที่ดิน "ทั้งเวิ้ง" แถบบ้านเขาวง ตำบลหนองน้ำแดง มากกว่า 2,000-3,000 ไร่ อดีตเคยเป็นรีสอร์ทเก่าและบ้านของชาวบ้าน หลังจากซีพีเข้าไปซื้อที่ดิน กลุ่มชาวบ้านก็อยู่อาศัยและทำงานให้กับซีพีในบริเวณนั้น

ที่ผ่านมาซีพี ยังได้พัฒนาที่ดินเวิ้งดังกล่าว เป็นที่ตั้ง"โรงเรียนผู้นำ" พร้อมลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท ผุดโรงแรม 5 ดาว รองรับผู้เข้าอบรมสัมมนากับพนักงานในเครือซีพี ที่มีทั่วประเทศกว่า 6 หมื่นคน ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ซีพีได้ทยอยซื้อที่ดินแถบเขาใหญ่มาต่อเนื่อง ไม่เฉพาะบ้านเขาวง แต่ยัง "ข้าม" ไปซื้อที่ดินทำสัญญาล่วงหน้าปลูกพืชการเกษตร (คอนแทรคฟาร์มมิ่ง) เส้นทางเขาใหญ่-วังน้ำเขียว ในตำบลระเริง อำเภอวังน้ำเขียว

ส่วนตระกูล "สิริวัฒนภักดี" เจ้าของเบียร์ช้าง ความที่เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี นักสะสมที่ดิน ย่อมไม่พลาดที่จะซื้อที่ดินบริเวณเขาใหญ่ไว้กว่า 20,000 ไร่ กินบริเวณ 3 ตำบล คือวังกะทะ, หมูสี และ โป่งตาลอง

เช่นเดียวกับตระกูล "ภิรมย์ภักดี" เจ้าของเบียร์สิงห์ เก็บที่ดินบริเวณเขาใหญ่ไว้กว่า 2,500 ไร่ แต่ยังไม่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เน้นไปที่การพัฒนาพื้นที่เชิงเกษตร เช่น บริษัท พีบี วัลเลย์ เขาใหญ่ ไวน์เนอรี่ บริษัทในเครือ บุญรอดบริวเวอรี่ รวมถึงฟาร์มโชคชัย ของตระกูล "บูลกุล" เนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ทำธุรกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตร

ตระกูล "มหากิจศิริ" ของ "ประยุทธ มหากิจศิริ" ส่งทายาท "อุษณา มหากิจศิริ" ตั้งบริษัทชื่อ เมาน์เท่น ครีก ดีเวลลอปเม้นท์ พัฒนาโครงการ เมาน์เท่นครีก กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ เรสซิเดนซ์ บนเนื้อที่ 1,750 ไร่ ตั้งอยู่บนตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว เป็นโครงการมิกซ์ยูส มีทั้งสนามกอล์ฟ และรีสอร์ท

ขณะที่ตระกูล "วิไลลักษณ์" โดย "วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์" กรรมการบริหาร บริษัท วิไลลักษณ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น คือผู้พัฒนาโครงการ ภูผาธารา เขาใหญ่ เนื้อที่ 71 ไร่ บนถนนเขาใหญ่-วังน้ำเขียว มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท มีทั้ง บ้านเดี่ยว คอนโดในชื่อ “เอชทูโอ คอนโดมิเนียม” และวิลล่าระดับ 5 ดาว

ดีเวลลอปเปอร์ไซส์กลางขอแบ่งเค้ก
นอกจากนี้ ในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ "ขนาดกลาง" ยังเข้าพัฒนาพื้นที่บริเวณเขาใหญ่คึกคัก อาทิ โครงการ "แสนดาว” ของบริษัทเขาใหญ่ท็อปฮิลล์ เจ้าของกลุ่มโรงพยาบาลสินแพทย์ โรงพยาบาลวิภาวดี ผู้พัฒนาโครงการหมู่บ้านสินธานี แกรนด์วิว มีที่ดินอยู่บนเส้นถนนผ่านศึก -กุดคล้า เนื้อที่ 13 ไร่ มีทั้งบ้านเดี่ยว และคอนโด
ขณะที่ทุนดั้งเดิมผู้บุกเบิกพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในยุคแรกๆ เริ่มต้นจาก “ภูภัทรา” มีเนื้อที่ 700 ไร่ พัฒนาเป็นรีสอร์ท ตั้งอยู่บนถนนกุดคล้า-ผ่านศึก เจ้าของคือ "เทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์" กรรมการบริหาร บริษัท เพชรบุญมา เจ้าของ โรงแรมแกรนด์ไดมอนด์ ประตูน้ำ และโครงการไดมอนด์ รัชดา ตระกูลนี้ เริ่มจากการซื้อที่ดินเก็บ ก่อนที่จะพัฒนาที่ดินแบ่งขายในปี 2549 ถือเป็นเจ้าแรกที่จดทะเบียนเป็นผู้จัดสรรที่ดินแบ่งขาย

บริษัท ชูเคร แอสเสท กลุ่มบริษัท น้ำตาลขอนแก่น จำกัด (มหาชน) หรือ เคเอสแอล กรุ๊ป เจ้าของโรงงานน้ำตาล ได้เข้าพัฒนาโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนกุดคล้า-ผ่านศึก ในพื้นที่มี 3 โครงการเป็นลักษณะคอนโด อาทิ “ชูเคร เขาใหญ่” มูลค่า 360 ล้านบาท, โครงการ "ฟอเรสต้า" และ โครงการ "อควา” โครงการใหม่ล่าสุด มูลค่า 170 ล้านบาท

เช่นเดียวกับโครงการ “เฌอ เอลเพนด์ เขาใหญ่" เจ้าของคือ พี.พี.เอส พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง บนที่ดิน 28 ไร่ นำมาพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส มูลค่าโครงการ 900 ล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม เฌอ เอลเพนด์
ส่วนโครงการ "เดอะ เซนเน็กซ์" ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชต์ เจ้าของคือบริษัท เค.ดี.แอสเซท แอนด์ ดีเวลล็อปเม้นท์ นักพัฒนาอสังหาฯ จากกรุงเทพฯ ที่ขยายตัวไปสู่เขาใหญ่ มูลค่าโครงการ 650 ล้านบาท พัฒนาโครงการคอนโดโลว์ไรส์ ขายยูนิตละ 3.8-12 ล้านบาท

กลุ่มทุนท้องถิ่นที่ยังมีที่ดินเก็บไว้มากถึง 3,000 ไร่ อย่าง "ทพ.รัชภูมิ เผ่าเสถียรพันธ์" เจ้าของ เดอะ ซีเคร็ท รีสอร์ท และ ภูเพชรรีสอร์ท นักธุรกิจบิ๊กเนมแถวปากช่อง เจ้าของธุรกิจก่อสร้าง ก็หันมาพัฒนาบ้านเดี่ยวบน เนื้อที่ 100 ไร่ เส้นทางถนนธนะรัชต์ พัฒนาโครงการ “มาริโน่ เขาใหญ่" บ้านเดี่ยวทรงอิตาลีเปิดตัวไป 2556 ภายใต้บริษัท มาริโน่ กรุ๊ป ตลาดลูกค้าระดับบี ถึงบีบวก ราคาเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท รองรับกลุ่มคนชนชั้นกลาง

คอนโดกว่า5พันยูนิตผุดขึ้นบนเขาใหญ่
บริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ได้สรุปจำนวนโครงการบริเวณเขาใหญ่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (ปี 2538- มี.ค.2557) มีทั้งสิ้น 5,834 ยูนิต โดยปี2556 ถือเป็นปีที่มีบ้านพักตากอากาศ และที่ดินเปล่าแบ่งขายมากที่สุด 1,384 ยูนิต และมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จ (ตั้งแต่ ปี 2538-มี.ค.2557) รวม 350 ยูนิต

หลังจากปี 2554 เป็นต้นมา มีการเปิดขายคอนโดนับพันยูนิต โดยปี 2556 ทำลายสถิติเปิดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์รวมทั้งปีมีคอนโดเปิดขาย1,582 ยูนิต ขณะที่ปี 2555 หลังเกิดน้ำท่วมมีการเปิดขายคอนโดไปแล้วถึง 1,261 ยูนิต ส่วนปีนี้สัญญาณการขายเริ่มแผ่ว แต่ยอดการเปิดขายคอนโดมีต่อเนื่องทั้งสิ้น 480 ยูนิต ช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นปีที่ทำลายสถิติทุกปีก่อนที่น้ำท่วม

ผังเมืองใหม่ขัดแย้งนายทุนสูง
ในช่วงสุญญากาศผังเมืองรวมจังหวัดนครราชสีมา (ผังเมืองรวมโคราช) ที่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ประกาศใช้ นายหน้าค้าที่ดินรายหนึ่งบอกว่า กฎหมายผังเมืองฉบับใหม่อาจจะยืดเยื้อไปอีกนาน เพราะที่ดินส่วนใหญ่ใน ปากช่อง ครอบครองโดยกลุ่มทุนกว่า 90% คาดว่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งสูง หากผังเมืองขีดเส้นให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่การเกษตร เพราะกลุ่มทุนที่ซื้อที่ดินไปในราคาสูง แต่ไม่สามารถพัฒนาเชิงธุรกิจได้ ย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน

"สมเกียรติ พยัคฆ์กุล" นายกเทศมนตรี ตำบลหมูสี มองว่า กฎหมายผังเมืองฉบับใหม่หากประกาศใช้จริง จะส่งผลดีต่อโครงการที่สร้างก่อนผังเมืองบังคับใช้ ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดก่อนผังเมืองใหม่ จะมีราคาสูงขึ้น เพราะปริมาณโครงการมีจำกัด เมื่อเทียบกับความต้องการที่อยู่อาศัยที่ยังมีสูง
ในความเห็นของเขาข้อเสียของการประกาศใช้กฎหมายผังเมืองในอนาคต คือ การเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตมากในรอบ 2-3 ปีก่อน แต่จะแผ่วลง โดยเฉพาะหมูสีถือเป็นตำบลที่มีโฉนด น.ส.3 มากที่สุดในปากช่อง แม้ว่าช่วง 1 ปีที่ผังเมืองยังไม่ประกาศใช้ ทำให้ราคาที่ดินชะลอตัวลงไปเล็กน้อย ซื้อขายเปลี่ยนมือกันน้อย
<!-- Tags Keyword -->
ที่เหลือใครสนใจก็ตามนี้เลยครับ

http://www.bangkokbiznews.com/home/...79009/µÃСÙŴѧáËèµع·Õèà¢Òã˭è-ÃءÍÊѧËÒÏ-à¡ɵÃ.html

 

ลำดับต่อไป...

หลังจากปี 2560... มีแน้วโน้มที่จะมีการเขยิบราคาที่ดินของฝั่งอีสานตอนล่าง...ขยับไต่ขึ้นไปทางอีสานตอนบนไปอีกเรื่อยๆ..

ส่วนที่มาที่ไปก็คงต้องมาลุ้นว่าจะมีปัจจัยอะไรเข้ามาที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น???ไม่เชื่อใช่มั๊ย? คอยดูกันต่อไปอีกไม่กี่ปีนี้เอง

แต่สิ่งที่น่าวิตกคือจะเหลือพื้นที่ทำกินให้ชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่ เจ้าของที่ดินเดิมได้เลี้ยงปากท้อง เหลือกันอยู่สักเท่าไรกัน...

เพราะสุดท้ายเพราะความจนยาก..และอำนาจลัทธิวัตถุนิยมเข้ามาครอบงำ
..ที่สุดก็แพ้อำนาจเงินคนมีทุนทรัพย์สูง จนแทบไม่เหลือผืนดินเดิมตกทอดถึงรุ่นลูกรุ่นหลานอีกต่อไป.. หรืออาจต้องเข้าไปขออาศัยงานทำ..ในที่ดินที่เคยเป็นของตัวเอง
น่าอนาถใจ!!!

 

มหาเศรษฐีไปซื้อที่ดินเขาใหญ่-วังน้ำเขียว

ก็เพื่อพัฒนาอสังหาฯตามแบบฉบับของคนกรุงเป็นนักลงทุน
ซึ่งถ้าพัฒนากันไปเรื่อยๆไม่มีขอบเขต
ทรัพยากรในพื้นที่คงไม่พอให้ใช้กันแน่ๆ

มาคิดดูว่า อ.ปากช่อง ไม่มีที่ทำนา มีแต่ไร่ข้าวโพด/ป่ามัน
น้ำก็หายาก ขุดก็ลึกปริมาณก็น้อย
ยิ่งผู้คนรุกป่ามากเท่าไหร่ ความเป็นธรรมชาติก็หายไปมากเท่านั้น

แล้วขอโทษที นะครับ
เขาใหญ่/ปากช่อง ต่อไปจะไม่เป็นที่หลบภัยธรรมชาติได้อีกต่อไป
เพราะปัจจัยสี่ที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่จะรองรับผู้คนขนาดนั้นได้
เคยบอกไว้นานแล้วว่าจะเป็นทางเสือผ่าน
อยู่ลำบากแน่นอน

 

ผมก็พูดได้เต็มปากเต็มคำ

ว่า..อันว่า คือว่า!!!(แท้จริง...หากพิจารณามันก็เป็นปริศนาธรรมได้อย่างหนึ่ง)

toplus99 ..ยากง่าย..ลำบากบ้างตามประสา มันก็คนชนชั้นล่าง.. ตามปะสาปุถุชนทั่วไปนั่นแหละ

เป็นเด็กบ้านนอกเต็มอัตราแต่จังหวะของชีวิตที่ดันมีโอกาสดีกว่าบางคน..หน่อยนั่นก็

..เห็นความลำบากของคนชนบท...
เห็นการพัฒนาบ้านเมือง ไฟฟ้า น้ำปะปา ถนนราดยางมะตอย..
สาธารณูปโภคอื่นๆแบบมีเล่ห์เหลี่ยม ของผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้ว่า สจ. สส. และนักโกงเมือง และนโยบายเชิงแฝงผลประโยชน์มาพอประมาณ


มีโอกาสได้เรียน ทำงาน ผ่านการเดินทางไปศึกษางานต่างประเทศบ้าง

ได้พบปะ เห็นฟังเรื่องเล่า...หน้าไหว้หลังหลอก การเอาเปรียบประชาชนของคนสังคมตีกอล์ฟไฮโซบ้าง..


และเห็นการสร้างโอกาสการฉกฉวยเอารัดเอาเปรียบ ของกลุ่มคนบางคนบนพื้นฐานความโลภ และการเอาตัวรอดของข้าราชการไทย... โดยไม่ละอายใจ
....อดสงสารบ้านเมืองไม่ได้




รวมถึงพอรับทราบ...ผลบาปกรรมบางอย่าง
รวมถึงผลกรรม..การออกข่าวชวนเชื่อสร้างโอกาสบางอย่างบนความทุกข์ทน ของผู้อื่น
ในโลกชีวิตหลังความตาย


เฮ้อ..นรกของใครของมันจริงๆ..

 

เมื่อครั้งยังมีชายคนตาบอด...มายาวนาน นับแต่กำเนิดเกิดมาบนโลกมนุษย์คนหนึ่ง..

ชั่วทั้งชีวิตของเขา ไม่เคยเห็น... แสงสี.. รู้เห็นสันฐาน หรือดำ-มืด

หรือรูปทรงเว้าแหว่ง เปลี่ยนแปลงไปของ "พระจันทร์"

ก็อาจพูดบอกต่อใครได้ว่า..ข้าไม่เชื่อว่าในท้องฟ้า..โลกเรานี้มี "พระจันทร์"

หรือถึงมี..และไม่มีพระจันทน์ อยู่บนท้องฟ้า...ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับตัวเองแต่อย่างใดทั้งสิ้น!!!


แต่โดยความเป็นจริงแล้ว..พระจันทร์ก็ยังคงให้ผล และมีอยู่จริงต่อโลกใบนี้อยู่เฉกเช่นเดิมมิใช่หรือ!!!

...โดยไม่ได้มีผลจากเพราะความเชื่อของคนตาบอดนั่นเลย


เช่นเดียวกับผลกรรมดี..กรรมชั่ว ของสัตว์โลก

ก็ยังคงให้ผลส่งผลกับสัตว์โลกเช่นเดิม แน่นอน มิเปลี่ยนผันไปเลย

...โดยมิได้สนใจว่ามนุษย์โลก สัตว์โลกผู้นั้น..

จะเชื่อ..ไม่เชื่อว่ามันมีจริงหรือไม่!!!!
========

ก็พยายามสื่อสาร...บอกเล่ากันไปประมาณนี้

 

ผืนที่รอบๆเขาใหญ่,วังน้ำเขียว,ปากช่อง
*** เจ้ากรมแผนที่ทหาร,กรมป่าไม้ โปรดจับตาการรุกคืบทำลายผืนป่าบางบริเวณให้ดี

เปรียบเทียบแผนที่ดาวเทียมก่อนและหลัง...
โปรดใส่ใจเป็นพิเศษเปรียบเทียบดูให้ดีต่างกันมากเพียงใด


โดยเฉพาะวันหยุดราชการติดต่อกันหลายวัน บ้านเมืองวุ่นวนการเมืองเช่น สงกรานต์ ที่ผ่านมา

ต่างด้าวทำงานล้มป่าไม้ เครื่องเลื่อยยนต์ก้องป่า
...ถากเจาะขุด ขนดินภูเขากันเต็มอัตราศึก ข้ามวันข้ามคืน
ชาวบ้านแจ้งร้องไป
กว่าหน่วยราชการจะมาตามหน้าที่.. รถเครื่องมือ..หายเงียบ
(ก็มาให้แล้วไง)


พื้นที่เดิม... รุกซื้อแปลงที่ดินเป็นโฉนด โดยนายทุนแฝงระดับมหาเศรษฐี

พื้นที่ใหม่...บุกรุกรานทำลายผืนป่าของชาติโดยข้าราชการชั้นสูง วางแผนฮั้วะกับคนส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง
(ใช้แรงงานลูกจ้างต่างด้าว)

แล้วค่อยดูเหตุการณ์เงียบ ..ให้ชาวบ้านยากจนปลูกไร่บังหน้าหากินไปวันๆ
ได้เวลาก็ขายทอดเอาเงินนายทุนกันต่อไป..(เชิดหน้าชูตระกูล รุ่งเรืองเหลือเกิน)

บรรลัยล่ะบ้านเมือง

เว้นแต่มีใบสั่ง.....รับรู้กัน...เลยเงียบเป็นใบ้

 

ราว ๆ ยี่สิบปีก่อน อยู่มาวันหนึ่ง มีคนมาบอกว่า 'แม่ฉันไปซื้อที่ที่เขาใหญ่ ไม่รู้คิดยังไง คนในบ้านก็ไม่เห็นด้วยเลย ต้องลากน้ำ ลากไฟขึ้นไป เยอะแยะมากมาย นี่ ต้องไปที่นั่นเป็นเพื่อนแม่เรื่อย ๆ'

ผ่านไปนาน จนปัจจุบัน แม่ของเธอก็ปลูกกล้วย ปลูกอะไร ต่ออะไรเยอะแยะ

มีโอกาสเลยถามว่า ขุดบ่อหรือยัง สาวเจ้าว่า ยังไม่ขุด เลยบอกไปว่า 'เหลือแต่บ่อแล้ว ขุดเสียเถอะ พร้อมอยู่แล้ว'

 

ฮัลโหล ลุง และน้องน้ำใส (ไม่งอก)
กลับมาแล้วจ้า seven days in yangoon ทำงานสนุกมาก บรรยากาศดี อาหารอร่อย แถมได้ไหว้พระด้วย
และกำลังจะต่อขึ้นเหนือ ไม่กลัว earthquake หรอก
ป้าแก่ง่ายตายยาก อิอิ

 

ซาธุ...อนุโมทามิ...

โห.....ป้า เค้าจะเรียกมากินมะม่วงเขียวเสวยยักษ์
ลูกละโลกับสามลูกสองโล.....กาน

แต่ขณะนี้ย่อยไปหมดแล้ว ยังงัยป้าก็ช่วยอร่อยในจิตนาการด้วยนิ....

มะม่วงกะล่อน (เอ๊ย...มะม่วงน้อย) ที่ป้าเอามาจากหาดใหญ่เมื่อปีก่อน
บ้านน้ำใสเค้าก็มี...จร้า ไม่รู้จะเก็บไว้ทันป้าหรือเปล่า

ถ้าไม่ทันป้าก็อนุโมทนา...ความอร่อยให้ผู้รับประทานอีกรอบ...แล้วกาน

 

.....ขอบคุณกับเรื่องราวดีๆ ครับ

 

แวะวนเวียนพลังจิตมาหลายปี จากน้ำใส จะกลายเป็นน้ำข้นแล้วล่ะ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่คงแห้ง เหี่ยว แล้วไหม้เป็นเถ้า ในที่สุด เห้อๆๆๆๆๆ

นานๆ มาฮัลโหลกันที เงียบหายไปช่วงแผ่นดินไหวอดเป็นห่วงไม่ได้ ดีใจที่ได้เห็นหน้าเอ่ยวาจาต่อกัน
อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนที่ปรึกษาให้กำลังใจสู้สู้กับชีวิตที่เหลืออยู่อันน้อยนิดกันต่อไป

ช่วงนี้ที่บ้านมะม่วงกำลังตกลูก ว่าจะเอาเขียวเสวยยักษ์ไปฝากที่กรุงเทพงวดที่แล้ว โทรหาเห็นเงียบ อดเรยยย...

ตอนนี้เขียวเสวยวายไปแล้ว เหลือไอ้เจ้าพวกนี้อยู่นิดหน่อย ถือโอกาสเอามาฝากยั่วน้ำลาย กันตรงนี้เลย จร้า



มะม่วงแก้วยักษ์ ดำไปนิด ใครจะกิน ล้างเอา




ไม่รู้มะม่วงอะไร ไม่มีในพจนานุกรม ผลเล็กเหมือนมะม่วงน้อยแต่บ่ายโบกไม่ได้จ้า



ต้นเป็นแบบนี้




น้ำดอกไม้ยักษ์



อกร่องยักษ์(ยังไม่โต) อยู่ในระหว่างขุนๆๆๆ

 

คุณน้องคะ
ชีพจรมันลงเท้าค่ะ เสียดายจัง :'(
วันหลังบอกลุง ใส่ถุงไปห้อยไว้ที่รั้วเลยนะน้อง เรื่องรับประทานนี่ พลาดไม่ได้ายยย

 

กระทู้นี้คุยกันกระหนุงกระหนิงเหมือนวัยรุ่นน่ารักจัง

 

แม่นๆๆ ครับ
โดยเฉพาะคุณป้านั่นยังอยู่ในวัย "แรกแย้ม" อยู่ เรย ครับ

ถ้าจัด "รับประทานทัวร์" เมื่อไหร่ คุณป้าไม่พลาดแถวหน้า....ซะด้วย

 

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

แรกแย้มฝาโลง น่ะสิ 55555

 

​

 

ขอวิธีไล่มดแบบธรรมชาติ และไม่ฆ่าด้วยจ้ะ จู่ๆมันเดินขบวนกันยกใหญ่ แต่ยังไม่ขนไข่มาด้วย เดินเป็นสาย ลอยชายน่าจัดการมาก

 

ใช้น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำ 1:50 ครับ ( ผมใช้ 1:20 )

ฉีดพ่นรอบบ้านหรือใส่บัวรดรอบๆบ้าน

ผมเคยใช้แล้วได้ผลแต่กลิ่นน้ำส้มควันไม้บางคนไม่ชอบครับ(แฟนผม )แต่ผมว่าหอมดี

ของผมซื้อน้ำส้มควันไม้จากเพื่อบ้านเพราะเขาเผาถ่านขายและทำน้ำส้มควันไม้ด้วย

 

แถวนี้ก็เคยใช้สารพัดสารชีวภาพไล่มดแดง

ฉีดไปไม่นานมีเสียงหัวเราะ...5555
แล้วก็ยกพลลงมาจากต้นมะม่วงหน้าบ้าน
ทำท่าจะเข้ามายึดห้องนอนเป็นที่พำนัก

เลยต้อนรับด้วยไบกอนกระป๋องดำ
ปรากฏว่าหันหลังกลับ แล้วไม่ค่อยมารบกวนอีกเลย

ทีนี้โปรเจคสวนมะนาวน้อยใกล้เสร็จ
จำนวนประมาณ 400 วงบ่อ (ส้วม)
พวกบรรดาหนอนม้วนใบ หนอนชอนใบ
ทำท่าฮึกเฮิมเข้ามาลองของ ลองเชิงเข้ามากัดกิน
เดี๋ยวปลูกเสร็จแล้วคงต้องทำสงครามกันขนานใหญ่
ขณะนี้สะสมกำลังอาวุธไว้เรียบร้อยแล้ว....อิอิอิอิอิ............