ทำไมเจอแต่คนที่คอยเอาเปรียบ เอาแต่ได้ตลอด

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย oliver076, 28 พฤษภาคม 2014.

  1. oliver076

    oliver076 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +564
    การที่ตัวเราเองจะทำอะไรหรือหวังคนที่เราคิดว่าเขาพอจะช่วยเหลือเราได้ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับหน้าเป็นหลัง ไป เวลากินเราก้ออกเงินเลี้ยงเขาตลอด แต่เวลาเราเดือดร้อนอยากให้ช่วย กลับมาบอกว่าติดปัญหาพอดี ไรมันจะบังเอิญพอดี เจอแบบนี้หลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนอื่นก็ตาม มักจะมาเอาเปรียบตลอด ทั้งที่แบบเราก็ดีกับเขามาให้เราช่วยไรก็เราก็ช่วยไม่เคยว่าหรือบ่นไร บางทีเห็นว่าเราซื่อ เลยคิดจะเอาเปรียบหรอกอะไรได้ก็หรอก ไม่รุ้จะทำอย่างไรเหมือนกัน ทั้งที่ผมเองก็ทำบุญใส่บาตรเป็นประจำ ทำบุญก็ทำ ทำไมเจอแต่คนแบบนี้ ผมต้องไปทำบุญอย่างไรถึงจะไม่เจอกับคนแบบนี้ อีกบ้างครับ ขอบคุณครับ
     
  2. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ก่อนอื่น ขออนุโมทนาในจิตเอื้ออารีย์ของท่านจขกท.ด้วยครับ สิ่งใดให้แล้ว ย่อมเป็น"อริยทรัพย์"ที่จะตามเอื้อเฟื้อสนับสนุนท่านในภายหน้า เมื่อได้ในวาระที่เหตุปัจจัยที่ลงตัวมาประชุมพร้อม..

    การที่ท่านพบบุคคลเห็นแก่ได้ ไม่คิดเอื้อเฟื้อท่านนั้น เพราะเหตุไกลคือความที่ท่านเองเคยตระหนี่เห็นแก่ได้ ทำอาการทำนองคล้ายๆบุคคลที่ท่านพบเจอมาในอดีตชาติ บัดนี้ผลเหล่านั้นได้จัดแจงมาให้ต้องเสพส้องกับคนใจคอคับแคบ ไม่คิดเอื้อเฟื้อใครในปัจจุบัน อันเป็นเหตุใกล้คือการประสบพบเจอคนประเภทนี้..

    ท่านจขกท. เมื่อจะให้หรือเอื้อเฟื้อใครก็พึงพิจารณาด้วยดี ว่า ท่านสามารถให้เขาได้โดยตนไม่เดือดร้อนหรือไม่ หรือให้แล้วท่านจะเสียใจในภายหลังเพราะรักษาเจตนาดีนั้นไม่ได้ อย่างนี้ก็พึงงดหรือยุติการให้นั้นเสียเพราะแทนที่จะเป็นบุญอันดีกลับกลายเป็นโทสะคิดเพ่งโทษเขาไปเสีย ทำบาปทางใจต่อเนื่องอีกยาวนาน..

    บัดนี้ท่านพึงยุติความเดือดร้อนใจลงเสีย การช่วยใครๆเป็นบุญอันดีที่คนฉลาดเท่านั้นทำได้ แต่ท่านพึงตั้งเจตนาให้ถูกต้องว่า เมื่อให้แล้ว จะไม่คิดหวังผลตอบแทนจากใครแม้ด้วยเพียงคำว่า ขอบคุณเลยไม่จำต้องกล่าวถึงอย่างอื่น ดังนี้ย่อมชำระเจตนาของตนให้บริสุทธิ์ได้อย่างยิ่ง แม้ผลย่อมไพบูลย์นัก..แล้วพิจารณาบุคคลที่ตนจะให้ ว่าเขาเป็นพาลหรือบัณฑิต มีศีลธรรมบ้างใหม เมื่อเห็นสมควรเท่านั้นจึงให้ เพราะการพิจารณาก่อนแล้วให้ เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ..

    เมื่อไม่อยากพบคนพาล ก็พึงทำตนนั่นเองให้พ้นความเป็นพาล อันทำได้ด้วยวิธีเดียวคือการศึกษาพระธรรมคำสอน ของพระพุทธเจ้า เมื่อได้ศึกษาแล้วย่อมทราบการประพฤติอย่างบัณฑิตได้ไม่ยากเลย..เพราะได้ความเห็นที่ถูกตรงเป็นทางดำเนิน

    ..ขอให้ท่านพ้นความสงสัยอึดอัดคับข้องโดยเร็วครับ
     
  3. oliver076

    oliver076 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +564
    สาธุครับบ ขอบพระคุณมากครับ
     
  4. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    แวะมาให้กำลังใจครับ [​IMG][/URL][/IMG]
     
  5. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    ท่านอยากพบคนจริง การฝึกตั้งสัจจะ ก็ช้วยได้ครับ
    เวลาเราจะทำอะไร ก็พูดตามที่ทำ ทำตามที่พูด ตั้งคำพูดเพื่อฝึกการกระทำก็ได้ แล้วตอนทำเสร็จ ก็ตั้งใจขึ้นว่า ให้ได้พบคนจริง พอทำไปบ่อยๆทีนี้
    คำพูดและการกระทำมันจะตรงขึ้นเรื่อยๆไปเองครับ
    ทีนี้คนที่ไม่จริง เค้าจะเข้าไกล้เราไม่ได้ครับ เค้าจะรู้สึกอยากผลักไสเรา
    ไม่ก็อยากออกห่างจากเราไปเองครับ เหมือนรถไฟแล่นคนละลางกันหนะครับ
    เหมือนคนเดินผ่านกันเค้าไม่สะดุดตาเรา เราก็ไม่สะดุดตาเค้าเช่นกันครับ
    แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เจอเลยนะครับ ก็ต้องเจอไม่จริงเหมือนกัน
    เพราะกรรมทุกคนก็คงต้องมี
    แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ได้พบอะไรที่จริงๆมากขึ้นหนะครับ
    คนให้ความจริงไม่ได้ ก็ยอมรับความจริงตัวเองไม่ได้เช่นกันครับ
    ซึ่งก็มีผลในทางธรรมครับ จะต้องไปสงสัยในเรื่องต่างๆที่ไกล
    ความจริงที่ตัวเองเป็นอยู่หนะครับ เวลาคนพูดสิ่งที่เหมาะนี่จะฟังแล้วผ่าน
    เวลาคนพูดเยิ้นเย่อไกลออกไปนี่จะชอบฟังเป็นพิเศษ
    เพราะการกล่าวอะไรที่เกินๆ
     
  6. noawarat pakdee

    noawarat pakdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +682
    สุดยอด เลยค่ะ ขออนุญาติ โพสลงเฟสหน่อยนะค่ะ
     
  7. ladyinblack

    ladyinblack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +155
    ถ้าคุณสามารถเลิกยุ่งกะเขาได้ ก็เลิกยุ่งเถอะค่ะ อโหสิกรรมกันไป ขอให้ได้เจอคนดี ๆ สาธุ ๆ ๆ บางทีการที่มีแต่คนลักษณะนี้อยู่รอบกาย อยู่คนเดียวดีกว่า

    บางทีนะคะ เราไม่ควรคิดพึ่งคนอื่นแต่แรก ต่อให้เราเดือดร้อนแค่ไหน ต่อให้เราคิดว่ามีบุญคุณกะคนเหล่านั้น(ที่น่าจะพอช่วยเราได้ยามเราเดือนร้อน)ยังไง ตนก็เป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่ดีค่ะ ฟังดูอคติไปนิด มองโลกในแง่ร้ายไปหน่อย แต่ยิ่งหวังมากก็เจ็บมากค่ะ แล้วแถมเราก็รู้ด้วยว่าพวกเค้าเป็นแบบนี้แล้ว...

    ส่วนถ้ามีใครมาพึ่งเรา(ทั้งในรูปแบบเอาเปรียบหรืออะไรก็แล้วแต่) หลายครั้งถ้าเราช่วยได้ก็ควรเต็มใจค่ะ บางทีไม่ชอบ แต่ถ้ามันไม่เหลือบากกว่าแรงแอบบ่น แอบเหน็บไปบ้างก็ได้ แต่คนหลายคนบางทีก็เกิดมาเป็นได้แค่ผู้ให้ นานๆ ทีถึงจะได้รับบ้าง (มันมีหลายปัจจัยอย่างเช่น เกิดมาหัวดีเรียนเก่ง ขยัน กะเกิดมารวย ฯลฯ) แต่คนบางคนก็เกิดมาเป็นผู้รับอย่างเดียวช่วยอะไรชาวบ้านเค้าไม่ได้ (อันนี้รวมการที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ กะไม่อยากช่วยไว้ด้วย)

    แต่ถ้าเราไม่อยากช่วย หรือเป็นที่พึ่งให้เค้าแล้ว เพราะรู้สึกไม่ดีหรือเราเดือดร้อน คือมันอาจจะเกินตัว ก็ไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ ถ้าเราปฏิเสธแล้วเค้าไม่เข้าใจ โกรธ หรืออะไรก็แล้วแต่ก็เลิกยุ่งกะเค้าเถอะค่ะ เพราะนอกจากเค้าจะไม่ได้ทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น ยังฉุดทำให้คุณเดือดร้อน บางอย่างที่มันต้องฝืนมาก ๆ บางทีมันก็ทำให้เราสุขภาพจิตเสีย อยากให้เลือกทำในสิ่งที่สบายใจค่ะ สู้ ๆ
     
  8. oliver076

    oliver076 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +564
    ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่เข้ามาแนะนำและเป็นกำลังใจ
     
  9. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    เมื่อไม่อยากพบคนพาล ก็พึงทำตนนั่นเองให้พ้นความเป็นพาล ประโยคนี้มีความหมายประมาณว่า ทำศีลของเราให้สูงกว่าคนพวกนี้แล้วเราจะพ้นจากคนกลุ่มนี้ใช่ไหมครับคุณddman
     
  10. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941

    ..กำลังนึกถึงท่านกลางฯอยู่ทีเดียวว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ตรงที่คล้ายกับท่านจขกท...แต่ดูจะสาหัสกว่ามากเพราะท่านกลางฯเคยเอื้อเฟื้อสงเคราะห์ญาติและเพื่อนๆในยามที่ยังรุ่งเรืองด้วยกิจการงานและทรัพย์...ครั้น"ตกอับ" หันไปหาใคร ต่างทำเหมือนไม่รู้จัก แม้ญาติก็ยังเมิน น่าสลดสังเวชนัก แต่ท่านกลางฯกลับสามารถฝ่าวิกฤติ (ชนิดไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะไปอยู่ที่ใหน ..จะมีอาหารกินหรือไม่..ฯลฯ ) ได้อย่างน่าชื่นชมด้วย"ธรรมะ"ของพระพุทธองค์ที่ได้ศึกษาและปฏิบัติด้วยดี ..

    ต่อคำถามของท่านกลางฯนั้น ตอบว่า นอกจากศีลที่ควรมีโดยบริบูรณ์แล้ว แม้ทานคือการให้และปัญญา ในการวินิจฉัยสภาพธรรมต่างๆที่ตนต้องประสบพบเจอได้ตามจริงย่อมยังตนไว้ให้พ้นกรรมดำที่คนพาลนิยมทำโดยประการต่างๆได้..เพราะทราบโทษทุกข์ที่จะตามมาด้วยปัญญา...

    เมื่อตนทำกรรมขาวได้มาก ผลนั้นย่อมจัดแจงให้ตนไม่ถูกพาลชนเบียดเบียน แม้จะตั้งบ้านเรือนอยู่ท่ามกลางพาลชนเหล่านั้น เพราะอานุภาพแห่งกรรมขาวหรือบุญชนิด ไม่อาจพาใครไปถูกใครเบียดเบียนเอาเปรียบทำร้ายเสียหายได้เลยโดยประการทั้งปวง...สิ่งเลวร้ายทั้งหลายเกิดจากเหตุคือการทำตนเป็นพาลทั้งนั้น..บัณฑิตย่อมมีใจดี..นิยมให้ทาน มีความละอายชั่วกลัวบาป จึงรักษาศีลได้เป็นปรกติและมีปัญญาทราบเรื่องกรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า...


     
  11. กลางทาง

    กลางทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2013
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +702
    ขอบคุณท่านddmanสำหรับคำตอบครับ ส่วนตัวผมนั้นที่ท่านได้บอกว่าผมฝ่าวิกฤตินั้นอันที่จริงผมไม่ได้ดีขนาดนั้นครับ แต่ผมอยู่เฉยๆซะมากกว่า เพียงแต่ท่องไว้ในใจว่า เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วเดี๋ยวมันต้องดับไปแน่ๆ และผมได้อ่านกระทู้นี้แล้วก็รู้สึกเห็นใจจขกท ก็อยากแนะนำแต่ไม่รู้จะแนะอย่างไรดี ก็ในเมื่อตัวผมเองก็เรียกได้ว่าเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน อย่างไรก็ตามผมขอให้ท่านwed245อดทนสู้ไป สุขทุกข์อย่างไรมันก็อยู่ที่ใจทั้งสิ้น หาทางวางจิตวางใจให้ดีจากหนักผมเชื่อว่าจะเป็นเบา เวลาที่ไม่เดือดร้อนมันก็พอจะเข้าใจความจริงได้ แต่เวลาทุกข์ใจมันก็มืดไปซะทุกด้าน ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ
     
  12. แน้ว

    แน้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2010
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +222
    เป็นเรื่องปกติครับ อย่าไปคิดมาก คุณเป็นคนจิตใจสูง เอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ผู้อื่นดีแล้ว เป็นบุญติดตัวแล้วหากไม่ได้รับการสนองตอบ ก็ไม่ต้องน้อยใจครับ
     
  13. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เอามาฝากค่ะ

    เรื่องราวซ้ำๆ คนซ้ำๆที่ปรากฏขึ้นในชีวิต ลองสังเกตดูจะพบว่ามีรูปแบบหลายอย่าง มีความรู้สึกบางอย่างที่คุ้นเคย เชื่อมอยู่ในแต่ละเหตุการณ์ เปลี่ยนแค่ตัวผู้แสดง
    บางคนต้องเสียศรัทธา กับผู้ใหญ่ เจ้านาย หัวหน้า บริษัท คนที่เคารพ แบบเดิมซ้ำๆ
    บางคนสูญเสียเงินซ้ำๆ มีปัญหาทางการเงินไม่รู้จบ แก้ได้ก็ทำให้เงินหายไปด้วยการใช้หรือลงทุนแล้วสร้างหนี้ใหม่อีก
    เหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว หรือถ้าเกิดอีก ก็ลดความรุนแรงลง รู้ทันได้เร็วขึ้น จัดการรับมือได้ดี นั่นเพื่อเป็นจุดเปลี่ยนในการส่งเราไปในจุดที่ดีกว่าสำหรับชีวิต ชีวิตเราจะดีขึ้นในทุกมิติ
    แต่เมื่อใดที่เริ่มมีรูปแบบของเหตุการณ์และคนซ้ำๆปรากฏขึ้น โดยเรารับมือได้ไม่ดีขึ้นหรือเร็วขึ้นเลย เหมือนเดิมทุกอย่าง เปลี่ยนแค่ตัวแสดง และยังสร้างความเสียหายในระดับเท่าเดิม เป็นสัญญาณจากโลก เพื่อแสดงให้เราเห็นสิ่งที่อยู่ภายในใจของเรา

    ถ้าเราไม่อยากเจอบทเรียนเดิมซ้ำอีก เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมความเคยชินของตัวเอง ดึงด้านที่ดีที่สุดของเราออกมาดูแลสถานการณ์และดูแลตัวเราเอง จนเรารู้สึกนับถือตัวเราเองได้อย่างแท้จริง
    แล้ว ณ จุดนั้นวงจรเหตุการณ์จะเปลี่ยนทิศ คนจะเห็นความจริง และคนจะเข้าใจ โดยเราไม่ต้องทำอะไร ส่วนคนที่พูดให้ร้ายผู้อื่นเพื่อปกปิดสิ่งไม่ดีของตัวเองก็จะได้เรียนรู้บทเรียนของเขา เมื่อเราวางเขาลงอย่างแท้จริง เพราะตราบที่เรายังคิดอยากให้เขาได้รับการลงโทษ เขาจะอยู่ดีมีสุข เพราะความคิดร้ายของเราทำร้ายเรา แต่กลับเป็นพลังสนุบสนุนเขา พลังคิดร้ายของเราบวกกับพลังร้ายของเขา ทำให้สิ่งไม่ดีมีกำลังเพิ่ม


    ฐิตินาถ ณ พัทลุง
     
  14. sassygile

    sassygile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +217
    อย่าไปคิดอะไรมากเลย กรรมเก่า
    -สมัยก่อนแม่เราเจอโขกสับ ไม่มีน้ำใช้ ก็ไปรองน้ำที่หยดออกมาจากแท้ง เค้ายังมาด่า สุดท้ายต้องเก็บเงินขุดน้ำบาดาลหลายหมื่น เขาก็ขอใช้ด้วย แม่เราก็ไม่ว่าอะไร
    -แม่เราไปเอาเม็ดขนุนที่เขาทิ้ง จะเอาไปปลูกไว้กิน เขายังด่า ขอคืน
    -แม่เราโดนใช้งานอย่างกับทาส แต่ไม่เคยได้รับเงินสักบาท
    -แม่เราไม่มีไฟฟ้าใช้ ขอโยงไฟใช้ เค้าไม่ให้ ปล่อยให้แม่อยู่อย่างไม่มีไฟฟ้า
    -สมัยตอนเราเด็กๆ เวลาปวดหนัก แม่เราต้องขุดดิน แล้วทำภารกิจ ห้องน้ำมีเป็น 6 ห้อง แต่เขาไม่ให้ใช้
    -เวลาขอติดรถไปด้วย ในทางที่เขาก็ผ่าน ก็โดนเก็บเงิน
    สารพัดค่ะ คนเหล่านี้ เป็นญาติทางพ่อเรา แม่เราเข้ามาอยู่ เมื่อก่อนญาติเรารวยมากๆ สุดท้ายล่มจม ขายสมบัติ แทบจะไม่เหลืออะไร ผิดกับแม่เรา ที่ทุกวันนี้มีพร้อมทุกอย่าง แต่แม่เรากลับคอยช่วยเหลือ แบ่งปัน แม่เราไม่โกรธอะไรเลย เราถามแม่เพราะอะไร แม่บอกว่า แม่สงสารเค้า

    เราฟังแม่เราเล่าเห็น แม่น้ำตาซึม เรารู้สึกดีใจที่มีแม่จิตใจดีขนาดนี้ ถึงเขาจะทำไม่ดีกับเรา แต่เราต้องทำดีต่อไป
     
  15. ข้าวราดแกง

    ข้าวราดแกง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2013
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +55
    คนเรามีทั้งเวลาที่ดีและไม่ดี อยู่ในคนเดียวกัน บางทีตัวเราอาจมีกรรมไม่ดี เค้าเลยทำไม่ดีกับเรา แต่ถ้าตัวเรามีกรรมดีอยู่มาก เค้าก็ดีกับเรา
     

แชร์หน้านี้

Loading...