อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ของดีที่ตกค้าง โดย อ.เล็ก พลูโต

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๗ วัดพลับพลา อ.เมือง จ. นนทบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถ แต่ขาดทุนทรัพย์ จึงคิดไปขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเกษม ขอสร้างเหรียญ และพระผง รุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา และหลวงพ่อได้อนุญาตให้สร้างตามประสงค์เมื่อวันที่ ๒๐สิงหาคม พ.ศ.๒๕๑๗ ทางวัดพลับพลา โดย หลวงพ่อพระครูสิรินนทคุณ เจ้าอาวาส จึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระด้วยกัน ๓ แบบ ดังนี้

1. เหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม เนื้อทองคำ เงิน นวโลหะ และทองแดง

2. รูปเหมือนเนื้อผง บล็อคเดียวกันกับเหรียญ

3. พระปิดตาเล็ก เนื้อผง ด้านหลังมีตัวหนังสือไทย อ่านว่า “เขมโก”

แต่ละแบบจำนวนไม่แน่ชัด แต่คงไม่มากนัก เพราะการประชาสัมพันธ์ในสมัยนั้น ไม่ล้ำยุคล้ำสมัยก้าวหน้าเหมือนสมัยปัจจุบัน คนที่รู้จักหลวงพ่อเกษมในตอนนั้น ยังไม่มากมายพอที่นายทุนจะกล้าเสี่ยง และอีกประการหนึ่ง หลวงพ่อเกษม ท่านไม่เคยอนุญาตให้วัดใดๆ สร้างวัตถุมงคลในนามของท่านมาก่อน ดังนั้น วัตถุมงคลรุ่นของวัดพลับพลานี้ จึงถือเป็นวัตถุมงคลรุ่นแรก ที่ไม่ได้สร้างโดยสุสานไตรลักษณ์ และได้รับอนุญาตจากหลวงพ่อเกษมอย่างแท้จริง

เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้นำขึ้นไปให้ หลวงพ่อเกษมปลุกเสก เมื่อวันที่ ๕ตุลาคมพ.ศ.๒๕๑๗เวลา ๑๙.๓๙น. ณ สุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ในพิธีมนต์ครั้งนี้ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นซึ่งท่านพระครูสิรินนทคุณได้บันทึกไวัดังนี้

ในวันปลุกเสกนั้นเป็นเวลากลางคืน ทางเหนือหมดฝนแล้วได้ เวลาหลวงพ่อเกษมเดินออกจากกุฏิที่พักของท่าน พอมาถึงศาลามุงแฝก (หญ้าคา) ปะรำพิธีปลุกเสก ข้าพเจ้ากับคณะกรรมการ และทุกคนในที่นั้น ได้ยินเสียงฟ้าผ่าเปรี้ยง ชาวลำปางจึงตั้งชื่อพระรุ่นนี้ว่า รุ่นฟ้าลั่น ปัจจุบันนี้ชาวลำปางเก่าๆยังจำชื่อรุ่นฟ้าลั่นได้ พระชุดนี้เริ่มออกจำหน่ายจ่ายแจก ในวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๗ ที่วัดพลับพลา จังหวัดนนทบุรี ได้เงินสมทบจากพระชุดนี้จนสร้างพระอุโบสถวัดพลับพลาสำเร็จ

อยู่มาเมื่อปี ๒๕๓๖ ทางวัดได้จัดเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังอุโบสถ ขาดทุนทรัพย์ จึงนำพระชุดนี้ในส่วนที่เหลือ คือ เหรียญเนื้อทองแดงประมาณ ๒๐๐ เหรียญ พร้อมพระผงปิดตาเขมโก และ พระผงรัตนเกษม ออกมาให้เช่าบูชา จนได้เงินค่าเขียนภาพจิตรกรรมสำเร็จ เงินเหลือจากค่าจ้างเขียนภาพก็นำไปสร้างโรงครัว และห้องน้ำ ๑๘ ห้อง ซึ่งในตอนนั้น เหรียญหลวงพ่อเกษม และพระปิดตาเขมโกหมดลงแล้ว คงเหลือแต่ พระผงรัตนเกษม หรือ พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม รุ่นสร้างโบสถ์วัดพลับพลา ปี ๒๕๑๗ เท่านั้น

หลังจากนั้นทางวัดได้นำพระผงรูปเหมือนหลวงพ่อเกษม ในส่วนที่เหลือออกให้เช่าบูชาอีกครั้ง โดยท่านพระครูสิรินนทคุณได้มีลิขิตอธิบายดังนี้ ข้าพเจ้าได้ทราบว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเกษม ได้ละสังขารไปแล้ว เมื่อวันที่ ๑๑มกราคม ๒๕๓๙ ข้าพเจ้าได้รำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อเกษม เขมโก ที่มีเมตตาต่อวัดพลับพลามาในอดีต คือ ได้เมตตาอนุญาตวัดพลับพลาจัดสร้างเหรียญ และพระผงรูปเหมือนของหลวงพ่อเกษม เพื่อแจกจ่ายให้แก่คณะศรัทธาบริจาคทรัพย์ สร้างอุโบสถจนสำเร็จตามโครงการ ข้าพเจ้าจึงปรึกษากรรมการวัดว่า พวกเราควรหาทางตอบแทนพระคุณของท่านบ้าง เพื่อทำบุญอุทิศไปให้ท่าน จึงได้นำพระผงรัตนเกษมที่เก็บไว้จำนวน ๒,๐๐๐ องค์ ไปมอบให้ท่านประธานจัดงานศพ คือ เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง เพื่อสมทบทุนมูลนิธิหลวงพ่อเกษม เขมโกต่อไป โดยมอบให้เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ พร้อมรับเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมถวายในวันนั้นด้วย

หลังจากเจ้าประเวทย์ ได้รับมอบพระผงรัตนเกษมแล้ว ท่านคิดว่า การก่อสร้างของสุสานไตรลักษณ์ หรือสิ่งอื่นภายในเมืองลำปาง โดยเฉพาะในสุสานไตรลักษณ์นั้น ไม่มีอะไรจะปลูกสร้างแล้ว หรือว่าจะสร้างต่อไป มูลนิธิของหลวงพ่อเกษมก็มีเพียงพอ จึงปรึกษากันว่า สำหรับพระผงรัตนเกษม ๒,๐๐๐ องค์นี้ ควรจะได้สร้างอะไรสักอย่าง ที่เป็นอนุสรณ์ของหลวงพ่อเกษม ถวายให้วัดพลับพลา พอดีวัดพลับพลากำลังจะดำเนินการสร้างศาลาการเปรียญขนาด ๑๐ X ๑๕ เมตร อยู่ เนื่องจากของเก่าไม่พอต้อนรับประชาชนในเวลาเทศกาล เจ้าประเวทย์ จึงเมตตามอบพระผงรัตนเกษมกลับคืนให้วัดพลับพลาเพื่อดำเนินการต่อไป และขอให้ตั้งชื่อศาลาการเปรียญว่า ศาลาการเปรียญเขมโก

นี่ก็เป็นอันว่าพระผงรัตนเกษมที่เคยสร้างพระอุโบสถวันพลับพลาเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ จึงได้กลับมาสร้างศาลาการเปรียญให้วัดพลับพลาอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือ ๒๒ ปีให้หลัง

ผมดูรูปภาพที่บันทึกเหตุการณ์ ตอนหลวงพ่อเกษมปลุกเสกแล้วเกิดศรัทธามาก ดูแล้วเห็นว่าหลวงพ่อมีความตั้งใจปลุกเสกพระชุดนี้อย่างแท้จริง ทั้งนั่งปรกให้ และลงมาพรมน้ำมนต์ให้อย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นนัก แต่โอกาสที่จะหาพระชุดปี ๒๕๑๗ ของวัดพลับพลานี้ "มีน้อยมาก" ด้วยเซียนพระ หรือ นักนิยมสะสมพระเครื่องทั้งหลาย มักจะนิยมสะสมพระเครื่องหลวงปู่เกษมทุกรุ่น ที่สร้างก่อนปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ดังนั้น พระเครื่องรุ่นนี้ตอนสมัยเมื่อผมยังอยู่เมืองไทย และอยู่ในสนามพระเครื่องต่างๆ จึงไม่เคยได้พบเห็นในแผงพระสักองค์เดียว ทั้งที่เป็นของดี ราคาถูก ตอนที่วัดพลับพลานำออกมาให้บูชาอีกครั้งในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ และ พ.ศ. ๒๕๓๙ ผมมาอยู่อเมริกา โอกาสที่จะเช่าหาหรือไปบูชาที่วัดไม่มี จึงไม่ได้เก็บเอาไว้สักองค์เดียว

ปกติแล้ว ผมเป็นคนหวงพระของหลวงปู่เกษมมาก แม้จะเป็นรุ่นท้ายๆ ก่อนท่านละสังขารก็ตามที เพราะแต่ละอย่างมีเพียงไม่กี่องค์ เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ด้าน "โชคลาภ" จากวัตถุมงคลรุ่น "เจ้าสัว" ที่สร้างในปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เมื่อคราวติดขัดเรื่องการเงิน ค่าใช้จ่ายรายเดือนค่ารถ ค่าเช่าบ้าน หลังจากกลับมาจากเมืองไทยเมื่อคราวไปทำเช็งเม้งในปีหนึ่ง และมีโอกาสกราบท่านอย่างใกล้ชิด ชนิดที่คนอีก ๒๐๐ กว่าคนที่รอหน้าห้อง และมาก่อนหน้านั้น ไม่มีโอกาสดังกล่าว ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ใช้เส้นสาย หรือรู้จักผู้หนึ่งผู้ใดมาก่อน

จะเห็นได้จากเมื่อครั้งที่ผมเรียบเรียงประวัติของหลวงปู่เกษม นำมาตีพิมพ์ใน น.ส.พ. เสรีชัย เมื่อหลายปีก่อน ผมไม่ได้นำวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่ผมมีอยู่ ออกมาให้บูชาเลยสักองค์เดียว และเมื่อผมกลับมาจากเช็งเม้งในปีนี้ (๒๕๕๖) ก็มีหลายท่านโทร.ถามว่า ไม่มีวัตถุมงคลติดไม้ติดมือจากเมืองไทยมาฝากบ้างหรือ ผมก็บอกว่า "พอมีบ้าง" แต่ยังให้บูชาไม่ได้ จนกว่าจะจบเรื่องราวของ "หลวงปู่ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า" ซึ่งหลายคนก็เข้าใจว่า ผมคงมีวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาพรหมามาให้บูชาเป็นแน่ แต่แล้วก็พลิกล็อคถล่มทลาย เพราะผมหาไม่ได้สักองค์ในเมืองไทย ใครมีก็หวงแหน เก็บเงียบ ไม่แบ่งให้กันง่ายๆ

จะว่าไปแล้ว ไปเมืองไทยเที่ยวนี้ก็ไม่ถึงกับเสียเที่ยวนัก เพราะน้องชายที่อยู่ในวงการพระเครื่อง เปิดแผงอยู่ในตลาด อ.ต.ก. ๓ นนทบุรี ได้แบ่งปัน "พระหลวงพ่อเกษม เขมโก" รุ่นปี ๒๕๑๗ มาให้จำนวนหนึ่ง (๑๕ องค์) เป็นพิมพ์พระเนื้อผงรูปไข่ ดังภาพ ซึ่งผมก็ถามว่า เอามาจากไหน? เขาก็บอกว่า ได้มาจากวัดโดยตรง ผมก็ถามว่า ที่วัดยังเหลืออีกหรือ? ได้ข่าวว่าหมดไปนานแล้ว หลวงพ่อผู้สร้างก็มรณภาพไปแล้ว บล็อกต่างๆ ก็ถูกทำลายทิ้ง เมื่อสร้างเสร็จ เขาก็บอกว่า ที่ยังหลงเหลืออยู่นั้น เป็นของที่ทางวัดคัดออก เพราะถูกน้ำท่วม ปลวกขึ้น ส่วนนี้จึงไม่ได้นำออกมาให้บูชา ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก แต่ภายหลังมีคนรู้เข้า และอยากได้ ก็ไปขอทำบุญกับทางหลวงพ่อหลวงพี่ที่เก็บพระชุดนี้ไว้ในกุฏิ ตอนขนหนีน้ำท่วม (ถือเป็นสมบัติส่วนตัวของท่าน เพราะวัดตัดออกจากบัญชีแล้ว) จนในที่สุดบรรดาเซียนพระรายหนึ่งรู้เข้า ก็เลยไปขอเหมาเอามาจำหน่าย ทำให้พระชุดนี้ หมดจากวัดชนิดไม่เหลือติดวัดแม้แต่องค์เดียว น้องชายผมก็ได้ขอแบ่งจากเซียนพระท่านนั้นมาอีกต่อหนึ่ง

ตอนนี้พระผงรัตนเกษม ปี ๒๕๑๗ ที่ออกวัดพลับพลา มีค่านิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เหรียญทองแดง สภาพสวยๆ เดิมๆ ราคาหลักหมื่นขึ้นไป ส่วนพระผงรูปเหมือน พระปิดตา ยังอยู่ในหลักพัน แต่ก็หาของได้ยากมาก ด้วยมีประสบการณ์ต่างๆ ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาดป้องกันภัย และลาภผล แก่ผู้พกพาติดตัวอยู่เสมอ

สำหรับพระผงรัตนเกษม ที่เหลือตกค้างจากการออกให้บูชาในปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ยังได้นำเข้าปลุกเสกพิธีใหญ่ที่วัดพลับพลาในปี พ.ศ. ๒๕๑๙ โดยมีพระคณาจารย์ปลุกเสก ดังนี้

๑.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ๒. หลวงพ่อคำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี ๓.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์ ลพบุรี ๔. หลวงพ่อคล้าม วัดกุ่มหัก สระบุรี ๕.หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา๖. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์๗.หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี ๘ หลวงพ่อแก้ว วัดปทุมวนาราม อยุธยา ๙, หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง ๑๐.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา ปทุมธานี

๑๑.หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก ระยอง ๑๒.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม ๑๓. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณ์ กทม. ๑๔. หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี ๑๕.หลวงพ่อโต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ๑๖. หลวงพ่อพระโพธิวรคุณ วัดโพธินิมิต กทม. ๑๗.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม ๑๘. หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ เพชรบุรี ๑๙. หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง เพชรบุรี ๒๐. หลวงพ่อพยนต์ วัดเกตุมวดีย์ สมุทรสาคร ๒๑. หลวงพ่อพระพุทธมนต์วราจารย์ วัดสุทัศน์ฯ กทม. ๒๒. หลวงพ่อสนิท วัดศีลขันธาราม อ่างทอง ๒๓. หลวงพ่อกาหลง (ไม่ทราบวัด) จังหวัดจันทบุรี ๒๔. หลวงพ่อเก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี ๒๕. หลวงพ่อสะอาด วัดฝาง นนทบุรี

หากท่านผู้อ่านท่านใดสนใจอยากได้ไว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต ก็ติดต่อขอบูชาจากผมได้โดยตรง ในอัตราค่าบูชา องค์ละ ๙๙ เหรียญ (รวมทั้งค่าตลับ และค่าจัดส่ง) โดยส่งเช็คส่วนตัว หรือ มันนี่ออร์เดอร์ สั่งจ่ายในนาม Boonsom Corhiran 2948 Chino Hills Pkwy., Chino Hills, CA. 91709 กรุณาโทร.ถาม หรือ สั่งจองไว้ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่ายังมีเหลือให้บูชาที่เบอร์โทร. (909) 525-6041

พระทุกองค์อยู่ในสภาพสวยสมบูรณ์ และต้องบอกก่อนนะว่า พระทุกองค์มีคราบปลวก มากบ้างน้อยบ้าง เหมือนพระปิดตาคูณลาภ หลวงพ่อคูณ ปี ๒๕๑๗ ที่หลวงพ่อคูณนำมาเข้าร่วมพิธี และถวายไว้ที่วัดพลับพลา และผมเคยนำมาให้บูชาเมื่อ ๒-๓ ปีก่อน โบราณถือว่า ปลวกเป็นสัตว์ที่นำโชคลาภมาให้ ยิ่งปลวกที่อยู่ด้วยกันเป็นเนิน หรือที่เรียกว่า "จอมปลวก" ด้วยแล้ว ท่านถือว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาอารักษ์สถิตอยู่ ดังนั้น ค่านิยมแขวนพระที่มีขี้ปลวก เพื่อเสริมลาภผลสำหรับนักนิยมสะสมพระเครื่องบางคน รวมทั้งผมด้วย ก็มีด้วยประการฉะนี้

 

น้อมกราบพระรัตนตรัย
น้อมกราบพระอาจารย์ไพรวัลย์ ชยทตฺโต วัดหาดทรายแดง จ.ตราด


​

 

**



​

 

สวัสดีครับพี่โญ พี่ชาญ

 

พระรูปเหมือน หล่อลอยองค์ หลวงพ่อรวย รุ่น2 สร้างอุโบสถ วัดตะโก ปี2537 จ.อยุธยา

 

หลวงพ่อแพ ท่านเป็นพระเกจิที่เก่งและดังมากๆ อีกท่านหนึ่งของสิงห์บุรี ท่านมีลูกศิษย์มากมายทั่วประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง ทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย

วัตถุมงคลที่ท่านสร้างมีประสบการณ์มากมาย ทั้งแคล้วคลาด คุ้มครอง โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ลูกศิษย์ที่ใช้พระของท่าน เห็นมีข่าว ได้โชว์พระท่านกันบ่อยๆ เดี๋ยวนี้พวกสิงคโปร์กำลังนิยมเก็บพระเครื่องของท่านอยู่ด้วย

ตอนนี้ผมกำลังตามเก็บหลวงพ่อแพด้วยคับราคาถูกดี และคาดว่าต่อไปน่าจะแพงแน่ๆ

 

สวัสดียามดึกครับพี่ชาญ...

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
jumbo_a44, jaya, tee_tores


รอดูบอลอยู่หรือเปล่าครับคุณเอ็ม?

 

น่าจะมีมากกว่าที่เห็นนะครับคุณเหน่ง...

 

เยอรมัน นำ ฝรั่งเศสไปแล้วครับพี่เอ๊ะ

 

ยังมีอีกไหมหนอ อยู่ไม่ไกลนะเนี่ย

 

;aa44 สวัสดียามเช้าวันเสาร์ครับทุก ๆ ท่าน


​

 

วันที่ 04 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21:31 น. ข่าวสดออนไลน์


สิ้น ครูบาอินถา ฐิตธัมโม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดยั้งเมิน จ.เชียงใหม่



เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายเฉลิมศักดิ์ อภิสาร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านใหม่ประชาชื่น ต.ยั้งเมิน อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า พระครูถาวรมงคลวัตร หรือ ครูบาอินถา ฐิตธัมโม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดยั้งเมิน ได้มรณภาพลงอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ภายในกุฏิวัดยั้งเมิน

นายเฉลิมศักดิ์ กล่าวว่าก่อนหน้านี้ ครูบาอินถายังมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีอาการอาพาธแต่อย่างใด เมื่อช่วงเช้ายังออกรับนิมนต์จากชาวบ้านตามปกติ ในช่วงบ่าย ครูบาอินถากลับเข้าพักที่กุฏิเพื่อจำวัด กระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ตนเข้าไปที่กุฏิครูบาอินถาเพื่อคอยรับใช้อุปัฏฐากตามปกติ แต่เมื่อเข้าไปพบว่า ครูบาอินถามรณภาพลงอย่างสงบ คาดว่าท่านจะมรณภาพลงช่วงเวลาประมาณ 14.00-15.00 น. หลังจากนั้น มีคณะศิษย์ทั่วไปเดินทางมาที่วัดยั้งเมิน เพื่อกราบศพและแสดงความอาลัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเบื้องต้น คณะสงฆ์วัดยั้งเมิน จัดพิธีรดน้ำศพครูบาอินถา ในวันอาทิตย์ที่ 6 ก.ค.ที่กุฏิวัดยั้งเมิน จากนั้นจะนำศพบรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งบำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน








น้อมกราบพระรัตนตรัย

น้อมกราบหลวงปู่สู่แดนนิพพาน

 

สวัสดียามเช้าครับผม

 

กราบครูบาอินถา

 

สวัสดียามเช้าครับ สมช. "อัลบั้มพระ" ทุกท่าน​