อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    สวัสดีครับพี่ตี๋...รับพรตอนสายๆครับ..
    สวัสดีครับคุณกันตฯ..สวยครับผมทำเป็นลืมไปแล้วนะเนี่ยรุ่นนี้..คุณกันตฯเอามาลงให้เกิดกิเลสอยากใด้ขึ้นมาอีกแล้ว..55..เดี๋ยวต้องไปหารุ่นน้องที่เป็นตำรวจสักหน่อยไม่รู้มันจะมีหรือเปล่า..
    สวัสดีครับพี่โญ...
    สวัสดีครับพี่เอ๊ะ...สวัสดีพี่น้องทุกๆท่านด้วยครับ.....
     
  2. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับคุณกันตฯ..สวยครับผมทำเป็นลืมไปแล้วนะเนี่ยรุ่นนี้..คุณกันตฯเอามาลงให้เกิดกิเลสอยากใด้ขึ้นมาอีกแล้ว..55..เดี๋ยวต้องไปหารุ่นน้องที่เป็นตำรวจสักหน่อยไม่รู้มันจะมีหรือเปล่า..

    สวัสดีครับพี่วุฒิ ผมเห็นทีแรกก็ชอบเลยครับ ยิ่งดูวัตถุประสงค์การสร้างแล้วยิ่งชอบมากๆครับ เลยตัดสินใจบูชาท่านครับ
     
  3. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ใกล้เที่ยงแล้ว อย่าลืมทานข้าวกันนะครับ
     
  4. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    [​IMG]


    นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา

    น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตาแต่งอ่อน กัลยาธัมโม
     
  5. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับ มีเหรียญหลวงตาอยู่เหมือนกันครับ เดี๋ยวจะค่อยๆลงนะครับ
     
  6. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    ตอนนี้เราเหลือเพียงเหรียญ

    เหลือเพียงภาพถ่าย เหลือเพียงความทรงจำ

    เหลือเพียงร่างที่ไร้วิญญาณความรู้สึก

    และที่สำคัญเหลือเพียงคติธรรมคำสอนที่ท่านเลยสอนไว้


    เพราะว่า...
    เมื่อเช้านี้ 07.58 น.
    พ่อแม่ครูอาจารย์ได้พิจารณาปล่อยวางธาตุขันธ์ไปแล้ว ครับผม


    [​IMG]
     
  7. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    น้อมกราบส่งหลวงปู่สู่แดนนิพพานด้วยความเคารพครับ......
     
  8. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480
    [​IMG]


    [​IMG]
     
  9. sellcat

    sellcat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +6,706
    วันนี้ขอมาแนะนำพระใหม่ ที่เก่งอีกองค์มีประสบการณ์กับทหารและราคาขึ้นไวมาก เหรียญรุ่นแรกสร้างช่วงปลายปีที่แล้วทองแดงลงยาแค่ไม่ถึงปีเพื่อนขอรับซื้อกับไปขายต่อเหรียญละ1500แล้ว เค้างเอาไปขายแพงกว่านี้ ตอนนี้ได้จัดสร้างเหรียญอายุยืนถ้าหาเก็บได้ราคาวัดก็รีบเก็บกันนะคับ หลวงพ่อใช้เวลาปลุกเสกนานมากพระออกเดือนกุมภาแต่ยอดจองเต็มตั้งแต่ในวัดวันแรกๆ คาดว่าวันพระออกเฉพาะทองแดงน่าจะขึ้นไปแตะ300-500

    [​IMG]
    [​IMG]

    พ่อแก่เจ้าแสง จนทวณโณ ตอน มนต์ขลังและพลังวัฒนธรรมแห่งมายอ

    แม้จะไม่ใช่ฤดูฝน แต่สำหรับปัตตานีแล้วยังคงเป็นวันที่มีฝนตกโปรยปรายสลับกับแสงแดดที่แผดจ้า ผมและเพื่อนๆ กำลังนั่งลุ้นอยู่บนรถระหว่างเดินทางบนถนนผ่านตัวเมืองปัตตานี ถึงเราจะมองเห็นแท่งปูนวางเรียงรายกันตามแนวขอบถนนสำหรับบรรเทาความเสียหายและป้องกันภัย แต่เราก็ยังคงเห็นผู้คนเดินไปมาขวักไขว่และใช้ชีวิตกันตามปกติ

    บริเวณกลางเมืองปัตตานีเราเดินทางผ่านอาคารแห่งหนึ่งที่คงเหลือซากปรักหักพังหลังจากถูกลอบวางระเบิด ภาพและบรรยากาศที่เห็นนั้นเป็นนัยยะบ่งบอกว่าปัตตานีคือหนึ่งในจังหวัดเป้าหมายที่ถูกใช้เป็นสถานที่แห่งการต่อสู้เชิงสัญลักษณ์

    พวกเรากำลังเดินทางไปอำเภอมายอ จังหวัดปัตตานีครับ

    “มายอ” แปลว่า “ต้นมะตูม”

    ข้อมูลทางภูมิศาสตร์บอกเราว่าอำเภอมายอ ตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัดปัตตานี มีอาณาเขตติดต่อกับอำเภอข้างเคียงคือ ทิศเหนือ ติดอำเภอยะหริ่ง ทิศใต้ ติดอำเภอทุ่งยางแดงและยะรัง ทิศตะวันออก ติดอำเภอปะนาเระ,สายบุรีและทุ่งยางแดง ทิศตะวันตก ติดอำเภอยะรัง ประชากรในพื้นที่นับถือศาสนาอิสลามมากกว่าศาสนาพุทธ ภายในอำเภอมายอมีวัดไทยเพียงสองวัดคือ วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) และวัดมาลีนิเวศน์ (มายอ)

    ตามข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นทำให้ก่อนการเดินทางครั้งนี้พวกเราต้องมานั่งทำการบ้านอย่างหนักกันอีกครั้งครับ โดยทุกคนในกลุ่มสรุปว่าการเดินทางไป “วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง)” พวกเราต้องใช้เวลาทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะอำเภอมายอเป็นพื้นที่ที่อยู่ท่ามกลางระลอกคลื่นแห่งความขัดแย้งไม่ต่างไปจากอำเภอข้างเคียง เช่น ยะรัง ปะนาเระ สายบุรี ฯลฯ ดังนั้นการเตรียมตัวและเตรียมใจจึงต้องอยู่ในสภาพที่เตรียมพร้อม

    บนถนนมุ่งหน้าสู่อำเภอมายอ หลังจากที่ผ่านหน้าค่ายสิริธรมาได้ระยะหนึ่ง สิ่งที่เราพบเห็นมากที่สุดคือเครื่องกีดขวางสีส้มที่ถูกวางแนวสลับฟันปลา เพื่อให้รถที่แล่นผ่านไปมาลดความเร็ว ซึ่งการเลือกใช้เครื่องกีดขวางที่มากเป็นพิเศษของทางราชการ ทำให้การเดินทางของพวกเราค่อนข้างใช้เวลานานมากขึ้นกว่าที่ได้วางแผนไว้

    ก่อนการเดินทางครั้งนี้ คุณเพชรได้เล่าให้ฟังว่า “วัดประเวศน์ภูผา” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “วัดบ้านตรัง”ตำบลตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี มี “พระครูมงคลประภาต (แสง จนทวณโณ)” หรือ “พ่อแก่เจ้าแสง”(ภาษาท้องถิ่น) เป็นเจ้าอาวาส ด้วยอายุที่มากถึง ๙๔ ปี ๗๓ พรรษา ทำให้ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระอาจารย์ที่ทรงคุณธรรมและมีอาวุโสมากที่สุดใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้

    แต่จากสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ได้สร้างปัญหาให้กับชาวบ้านในพื้นที่มิใช่น้อย “วัดประเวศน์ภูผา” ซึ่งเดิมเคยเป็นวัดที่รวบรวมสรรพวิชาไสยศาสตร์และวัฒนธรรมพื้นบ้านที่มีชื่อเสียง ได้ถูกบรรยากาศแห่งความหวาดระแวงค่อยๆ กลืนกินความทรงจำของผู้คนไปทีละน้อย แต่นั่นก็มิได้หมายความว่า “มนต์ขลังและพลังวัฒนธรรม” ของวัดแห่งนี้จะหมดไป

    เพราะในทุกวันนี้ “พ่อแก่เจ้าแสง” ท่านได้ใช้ความสามารถในเชิงไสยศาสตร์และจิตสาธารณะมาเป็นตัวสร้างกำลังใจและเชื่อมความสัมพันธ์ของชุมชนชาวไทยพุทธในพื้นที่รอบๆ วัด ที่มีอยู่เพียงร้อยกว่าหลังคาเรือน ได้ผ่อนคลายความวิตกกังวลและสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง

    ปฏิเสธไม่ได้ครับว่าในพื้นที่ที่กฎปืนมีอำนาจมากกว่ากฎหมาย นอกจากกำลังทหารและอาวุธแล้วคงไม่มีสิ่งใดที่จะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจได้ดีไปกว่า พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังนานาชนิด ซึ่งวัตถุมงคลและเครื่องรางต่างๆ ที่พ่อแก่เจ้าแสงได้สร้างและเสกขึ้นมา เป็นที่ยอมรับกันว่าสามารถช่วยให้ชาวบ้านและทหารรอดพ้นจากอันตรายต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจครับ

    พูดกันง่ายๆ ก็ต้องบอกว่า “มหัศจรรย์แห่งเครื่องรางไทย” ได้สร้างประสบการณ์อย่างชัดเจนขึ้นที่วัดแห่งนี้ครับ

    ด้วยอายุของวัดที่ยาวนานร่วมกว่า ๒๐๐ ปีและยังคงต่อเนื่องยืนหยัดเป็นศูนย์รวมกิจกรรมและจิตใจของชาวไทยพุทธ ทำให้วัดบ้านตรังได้รับการขนานนามว่า “ธงธรรมที่โบกไสวอย่างมีชีวิต” และหากคำว่า “ชีวิต” หมายถึง“ความสืบเนื่อง” แล้ว วัดบ้านตรังก็ไม่ได้ต่างไปจากชีวิตในอดีตเลยครับ เพราะสิ่งปลูกสร้าง เสนาสนะภายในวัด ตลอดจนวัฒนธรรมท้องถิ่น ยังคงความมีเอกลักษณ์และความงามที่มากด้วยความหลากหลายครับ

    อย่างสิ่งปลูกสร้างเสนาสนะก็เช่น “หอไตร” ที่บริเวณยอดจั่วแกะเป็นลายกนกคล้ายรูปพญานาคอยู่เรียงรายกัน ได้ถูกใช้เป็นสถานที่เก็บพระไตรปิฎกไว้ให้พระภิกษุและประชาชนเข้ามาศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

    หรือจะเป็นเรื่องของวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น “การแสดงมโนราห์” ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการร่ายรำและการร้องที่ถูกผนวกเข้ากับความเชื่อในไสยศาสตร์ เช่น การเสกแป้งผัดหน้า การเสกเครื่องทรงและเครื่องประดับต่างๆ ฯลฯ ยังคงมีความต่อเนื่องผ่านอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ ผ่านความเชื่อในศาสนาพุทธ ผ่านความเชื่อดั่งเดิมของชาวใต้และผ่านกาลเวลา จนเกิดการตกผลึกทางวัฒนธรรมกลายมาเป็นความงดงามที่อยู่คู่กับท้องถิ่น ก็ยังคงมีการสืบทอดอย่างต่อเนื่องกับพี่น้องชาวไทยพุทธในละแวกชุมชนวัดบ้านตรังแห่งนี้ครับ

    “มือข้าทั้งสิบนิ้ว สอดขึ้นหว่างคิ้วเหนือเกล้าเกศี

    ยกขึ้นวันทา ลูกจะร้องเรียกหาโนรามี

    แต่ก่อนเขาใจดี พอมาปีนี้ลูกหลานไม่เคยเห็น

    แต่ก่อนแต่ไร โนรามียอดใยน้ำใจเย็น

    ลูกหลานไม่หอนเห็น มาเล่นมารำเสียเถิดหนา

    มาเถิดโนรา มีฤกษ์งามยามดี เชิญพ่อมา......”

    เสียงกลอนบทเชิญมโนราห์พร้อมปีกลองที่ประโคมให้สอดคล้องกับบทร้องดังก้องขึ้นเพื่ออัญเชิญ ”ราชครูมโนราห์” ในงานบุญสรงน้ำ “พ่อแก่เจ้าแสง” เจ้าอาวาสผู้ทรงความศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดบ้านตรัง

    คุณยายท่านหนึ่งที่ปักหลักนั่งชมการแสดงมโนราห์อย่างอินในอารมณ์พร้อมกับเคี้ยวหมากหยับๆ ตาใสเป็นประกาย เล่าให้พวกเราฟังว่า เด็กๆ ที่กำลังร่ายรำมโนราห์อยู่นี้ล้วนเป็นลูกเป็นหลานที่สืบเชื้อสายมโนราห์มาจากบรรพบุรุษ พวกเสื้อผ้าเครื่องประดับและเครื่องดนตรีที่เล่นประโคมอยู่นี้ได้รับการอุปถัมภ์จากพ่อแก่เจ้าแสง แกว่าเป็นบุญของเด็กๆ ที่พ่อแก่เจ้าแสงท่านเมตตายื่นมือเข้ามาโอบอุ้ม

    “ชาวบ้านในพื้นที่ละแวกวัด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ทำนา มีรายได้พอเพียงเลี้ยงครอบครัว ซึ่งเมื่อบรรพบุรุษของพวกเขาดำเนินชีวิตมาแบบนี้ การจะย้ายหรืออพยพไปแสวงหาโอกาสในที่ใหม่ จึงไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจได้ง่ายๆ เลย ทุกวันนี้ก็ได้พ่อแก่เจ้าแสงนี่แหละ ที่เป็นขวัญกำลังใจของคนในพื้นที่ เด็กๆ ที่นี่มีฝีมือในการแสดงทุกคน”

    พี่ทหารที่ถือปืนยืนเฝ้ารักษาความปลอดภัยในงานบอกรายละเอียดคร่าวๆ

    แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายครับว่า ทุกวันนี้โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ต่างถิ่นบางคนมองว่ามโนราห์เป็นเพียงการแสดงชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเฉพาะท้องถิ่นในภาคใต้ ซึ่งความคิดนี้มันก็ไม่ใช่ว่าจะผิดไปเสียทั้งหมด เพียงแต่ว่ามันถูกน้อยไปหน่อยครับ

    เพราะเหตุว่าคนใต้โดยสายเลือดแล้ว มโนราห์ถือเป็นการแสดงชั้นเลิศเลยทีเดียว อีกทั้งวิธีการแสดงอย่างที่คนใต้ฝึกฝนกันมาก็ต้องถือว่าเป็นภูมิปัญญาที่น่าอัศจรรย์ใจครับ ซึ่งการจะเล่นมโนราห์ให้ได้ดีนั้น ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เสียงดีหรือดนตรีไพเราะ ความสำคัญอยู่ตรงที่การจะเล่นมโนราห์ได้ดีต้องมีความเข้าใจ,ความเคารพในศาสตร์และวิถีของมโนราห์อย่างแท้จริง

    คุณเพชร ผู้เป็นทั้งล่ามและผู้นำทางของพวกเราเล่าว่า มโนราห์เป็นศาสตร์การแสดงที่นอกจากจะสืบทอดกันมาแบบสายเลือดแล้ว ยังเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกกันเข้าใจง่ายๆ ว่า “แรงครู” ซึ่งครูหมอมโนราห์นั้นจะแรงและลึกมาก หากว่าผิดครูหรือผิดธรรมเนียมปฏิบัติ ครูหมอมโนราห์ก็จะให้โทษ เช่นมีอาการเจ็บปวดตามร่างกาย หรือมีอาการป่วยกระเสาะกระแสะตลอดเวลาอย่างหาสาเหตุไม่พบ

    บางคนใช้การแพทย์สมัยใหม่ที่ผ่านการยอมรับว่ามีความถูกต้องและสากลตามหลักวิทยาศาสตร์เข้าทำการรักษาแต่ก็ไม่ได้ผล จึงต้องย้อนกลับมารักษาในแบบดั้งเดิมพื้นบ้านที่เชื่อมโยงเข้ากับความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรมของท้องถิ่น ซึ่งกรณีการผิดครูหมอมโนราห์ จะต้องใช้การรักษาเพียงวิธีเดียวคือการกราบขอขมาลาโทษ

    วีธีการรักษาโดยการขอขมาลาโทษนั้นก็คงเหมือนกันในด้านเนื้อหา คือเชิญครู แก้บน ฯลฯ แต่สาระแล้วคงเป็นเรื่องของแต่ละพื้นที่แต่ละความเชื่อ สำหรับพื้นที่นี้ (ละแวกวัดบ้านตรังและพื้นที่รอบๆ ) ก็จะพากันมาให้พ่อแก่เจ้าแสงทำการรักษาหรือแก้ไขด้วยพิธีกรรมที่วิทยาศาสตร์ก็ดูเหมือนจะหยั่งลงไม่ถึงครับ

    เพื่อนรุ่นพี่ท่านหนึ่งเคยเล่าให้ฟังว่า ตอนเด็กๆ แกมีเนื้องอกขึ้นบริเวณหน้าผาก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย คุณแม่จึงได้พามาหาครูหมอมโนราห์รักษาด้วยวิธีการเหยียบไปบริเวณเนื้องอกนั้น ก็เหยียบอยู่สามวัน วันละครั้ง เนื้องอกก้อนนั้นก็ยุบตัวลง ทุกวันนี้บริเวณหน้าผากของเขายังมีรอยบุ๋มตรงจุดที่ครูหมอมโนราห์เหยียบ แกเล่าพร้อมกับชี้ให้ดูรอยแผลนั้น

    นอกจากนี้ยังมีเพื่อนของแก มีอาการคอบวมใหญ่มาก มารักษาโดยวิธีการเหยียบกับครูหมอมโนราห์ ก็ยุบและหายเป็นปกติจนถึงทุกวันนี้ครับ ซึ่งการรักษาโรคด้วยวิธีการแบบนี้มโนราห์อาวุโส ซึ่งส่วนมากจะมีความรู้ทางด้านไสยศาสตร์จะทำพิธีติดต่อกับครูหมอมโนราห์โดย “การเชื้อ” คือเชิญครูหมอมาสอบถามก่อนทำการรักษาครับ

    คุณเพชรเล่าว่าพ่อแก่เจ้าแสงท่านสืบสายวิชาทางด้านมโนราห์มาจาก โนรานุ่ม โนรานิ่ม โนราแคล้ว ซึ่งเป็นโนราที่มีชื่อเสียงมากในหัวเมืองปัตตานีสมัยก่อนมาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวิชาเสกหวาย วิชาทำเชือกคล้องหงส์ วิชาคันธนูพรานบุญ เป็นต้น

    พ่อแก่เจ้าแสง จนทวณโณ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีรูปร่างสันทัดครับ ถึงในวันนี้ท่านจะมีอายุสูงและผ่านการผ่าตัดหัวเข่าทั้งสองข้าง แต่ก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่ถึงอายุมากแต่ท่านก็สามารถฟื้นคืนสภาพและเดินเหินได้เหมือนคนปกติทั่วไป

    ใบหน้าของท่านที่สงบนิ่งในทีและดวงตาที่คมกริบราวกับพยัคฆ์ สามารถทำให้พวกเรารับรู้ได้ถึงความเป็นพระที่คงแก่วิชาจริงๆ สมแล้วที่คุณเพชรได้ให้ข้อมูลว่าท่านเป็นพระที่มีดีและมีตบะกล้าแข็ง สามารถสร้างและเสกของด้วยวิชาอาถรรพ์โบราณได้อย่างเชี่ยวชาญ

    ด้วยความเข้าใจภาษาท้องถิ่นของพวกเราที่มีน้อยมาก เรื่องราวของท่านที่เล่าผ่านล่ามจำเป็นได้ถูกถ่ายทอดออกมาว่า “พ่อแก่เจ้าแสง” มีชื่อเดิมว่า “แสง” นามสกุล“แก้วทอง” เกิดเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๒ ท่านเป็นบุตรของ “คุณพ่อบุญทอง-คุณแม่แมะ แก้วทอง”อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดประเวศน์ภูผา เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๘๓ โดยมี “พระครูสุวรรณไพบูลย์ (จันทร์ทอง)” เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นพระอุปัชฌาย์

    ท่านเล่าว่าหลังจากที่เสร็จสิ้นการบวชแล้ว ท่านได้เข้าจำพรรษา ณ วัดบ้านตรัง ด้วยความที่ในสมัยนั้นอำเภอมายอมีสภาพไม่ต่างไปจากเมืองชายขอบ ความเจริญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ การศึกษา ฯลฯ รวมไปถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ยังคงเดินทางเข้าไปไม่ถึง ชาวบ้านยังคงความเสถียรกับการดำรงชีวิตในรูปแบบเดิมคือความพอเพียง ดังนั้นทุกๆ ชีวิต ทุกๆ ลมหายใจ จึงดำรงอยู่ภายใต้กฎการพึ่งพาตนเอง

    ท่านว่าเมื่อได้เห็นสภาพของสังคมเป็นแบบนี้ ท่านจึงได้ตระหนักถึงความเป็นพระว่ามิใช่มีเพียงแต่ฉันอาหารและสวดมนต์เท่านั้น สิ่งที่จะแสดงให้ชาวบ้านมองเห็นถึงคุณค่าว่าการน้อมตัวลงกราบไหว้ของพวกเขาไม่ได้เป็นการไหว้แบบเสียมือ คือการที่พระต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม

    จากการตกผลึกความคิดดังกล่าว ท่านจึงได้ตัดสินใจหันมาศึกษาในเรื่องของคาถาอาคม ซึ่งพระอาจารย์องค์แรกที่สอนวิชาให้ท่านคือ “พ่อท่านทองแก้ว” ยอดพระขมังเวทย์แห่งวัดบ้านตรัง สิ่งที่พ่อท่านทองแก้วกำชับกับท่านเสมอๆ คือ ไสยศาสตร์ไม่ใช่เรื่องที่จะมาล้อเล่นหรือเป็นเรื่องที่เรียนเอาไว้เพื่ออวดตัว

    “ไสยศาสตร์เป็นเรื่องที่แปลก วิชาเดียวกันสามารถทำให้เกิดได้ทั้งคุณและโทษ คาถาอาคมจึงเป็นพื้นฐานของธรรมะ พื้นฐานของคุณธรรมที่ฝังอยู่ในจิตใจของผู้เรียน ใช้ให้ดีก็มีแต่สิ่งดีๆ ใช้ในเรื่องไม่ดีก็มีแต่โทษและความเสื่อม”

    ด้วยไหวพริบปฏิภาณที่ดีเยี่ยม ทำให้ท่านสามารถเรียนรู้จากพ่อท่านทองแก้วได้อย่างแตกฉานและด้วยความเป็นผู้ใฝ่รู้ตลอดเวลาท่านจึงได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ของ “พ่อแก่เจ้าไชย” เจ้าอาวาสวัดบ้านตรัง (ในขณะนั้น)

    ชะรอยพ่อแก่เจ้าไชยจะทราบอนาคตว่าวัดบ้านตรังแห่งนี้จะรุ่งเรืองด้วยบารมีของพระใหม่องค์นี้ ท่านจึงได้ถ่ายทอดสรรพวิชาโบราณต่างๆ ที่อยู่คู่กับวัดบ้านตรังมาแต่เดิม เช่น วิชาสั่งสูญ (ธนูสั่ง) การผูกหุ่นพยนต์ การทำความธนู ฯลฯ ให้แก่พ่อแก่เจ้าแสงจนหมดสิ้น

    ท่านเล่าว่า “พ่อแก่เจ้าไชย” เป็นพระที่สมถะ เรียบง่าย ความสามารถในด้านคาถาอาคมก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพ่อท่านทองแก้วแต่อย่างใด ท่านว่าพ่อแก่เจ้าไชยได้สอนท่านทุกอย่าง ทุกตัวอักษรที่ปรากฏอยู่ในตำราอย่างเคร่งครัด

    โดยพ่อแก่เจ้าไชยได้ให้เหตุผลว่า วิชาเหล่านี้เป็นวิชาอาถรรพ์ ดังนั้นหากไม่รู้จริงสิ่งลึกลับที่แฝงอยู่ในวิชาจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ที่ทำวิชานั้น

    ท่านหยุดพูดและหันไปหยิบประคตเอวที่ได้ลงอักขระกำกับไว้

    “อันนี้เป็นวิชากายะพัน ตามชื่อคือวิชามหาอุดแต่มีความพิสดารตรงที่แฝงเร้นด้วยเรื่องเมตตา เรื่องนี้สามารถดูได้จากอุปเท่ห์การใช้ที่โบราณาจารย์ผู้รจนาได้บอกถึงคุณวิเศษของวิชาไว้ว่า เอาสายประคตคาดขวางไปทางซ้ายจะเป็นเมตตามหานิยม แต่หากต้องการให้เป็นมหาอุดหยุดปืนไฟ ต้องคาดขวางไปทางขวา”

    พ่อแก่เจ้าแสงขยายความให้ฟังว่า “กายะพัน” นี้เป็นหนึ่งในวิชาไสยศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในตำราโบราณของวัดบ้านตรัง จริงอยู่ถึงมองดูแล้วมันจะเป็นแค่ประคตเอวที่นำมาลงอักขระและถักร้อยเข้ากับตะกรุด แต่กว่าจะทำสำเร็จได้แต่ละเส้นต้องใช้เวลานานมาก เพราะการทำต้องอาศัยองค์ประกอบ ฤกษ์ยามและพิธีกรรมตามที่ตำราได้ว่าไว้

    ท่านบอกว่า “กายะพัน” ทุกเส้นคือตัวแทนของท่าน ดังนั้นความสมบูรณ์ของอักขระและวิธีการทำจึงต้องทำให้มันถูกต้อง ท่านว่าเคยมีคนภายนอกติดต่อเสนอมาให้ท่านทำออกมาเยอะๆ แต่ท่านก็ได้ปฏิเสธ เพราะในฐานะของผู้ทำที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้ที่นำไปใช้แล้ว ท่านยังต้องคำนึงด้วยว่าของสิ่งนี้จะตกไปอยู่ในมือของใคร ถ้าไปอยู่ในมือของคนไม่ดี เรื่องเลวร้ายต่างๆ ก็อาจจะเกิดขึ้นได้

    ผมมองดูประคตเอวที่ถูกถักร้อยขึ้นเป็นเครื่องรางในมือท่าน มองดูพานทองเหลืองที่เต็มไปด้วย “หุ่นพยนต์”หน้าตาน่ารัก มองดูคุณลุงสูงวัยที่กำลังปั้น ”วัวธนู” และก็มองเลยไปที่ถาดใบใหญ่ซึ่งเวลานี้เต็มไปด้วยเม็ดกลมๆ ที่เรียกว่า “ลูกนูสั่งสูญ” แอบคิดในใจไม่ได้ว่าสิ่งที่ท่านและลูกศิษย์กำลังช่วยกันทำนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องของไสยศาสตร์แล้ว

    อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องยกชูขึ้นคือเรื่องของศิลปวัฒนธรรม ด้วยเหตุที่ว่าวัฒนธรรมคือกระบวนการสรรสร้างที่สืบเนื่องมาจากการปรับตัวของมนุษย์ให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมดีๆ นี่เอง

    ซึ่งถ้าเราไม่คิดมาก เปิดใจให้กว้างและมองทุกสรรพสิ่งในแบบองค์รวม คำว่า “เครื่องรางของขลัง”มันก็คือการตกผลึกทางความคิดของโบราณาจารย์ ที่ท่านได้คิด ประดิษฐ์และสร้างสรรเครื่องรางที่แตกต่างกันขึ้นมาที่ละประเภท โดยการอาศัยธรรมชาติของโลก ธรรมชาติของวิถีชีวิตมนุษย์ขึ้นมากำหนดให้ตรงตามความต้องการนั่นเอง

    ส่วนตัวแล้วผมมองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องแค่ความขลังเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่องของความสวยงาม เป็นเรื่องของ “ชีวิต” เลยทีเดียวครับ

    นอกเหนือไปจากเรื่องของเครื่องรางของขลังแล้ว พ่อแก่เจ้าแสงท่านยังมีดีและมีครูบาอาจารย์อีกหลายองค์ครับ อย่างเช่นการทำ “ผงนะปถมัง” ที่ท่านได้ศึกษามาจากพระอุปัชฌาย์ของท่าน คือ “พ่อท่านจันทร์ทอง แห่งวัดตะเคียนทอง” ซึ่งลูกศิษย์ของพ่อท่านจันทร์ทองและเป็นศิษย์น้องของพ่อแก่เจ้าแสงที่สร้างผงนะปถมังได้โด่งดังเป็นที่เลื่องลือก็คือ “พ่อท่านหวาน วัดลานควาย” ครับ

    ท่านเล่าว่า “ผงนะปถมัง” มีคุณวิเศษและอานุภาพมากมาย สามารถใช้ได้ทั้งทางเมตตาและคงกระพัน พระเกจิอาจารย์สายใต้ที่สร้างพระขึ้นจากผงนะปถมังและมีชื่อเสียงนอกจากพ่อท่านหวานแล้ว ก็ยังมีพ่อท่านมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ อีกหนึ่งองค์ครับ

    ต้องยอมรับครับว่าช่วงเวลาที่พวกเราได้สนทนากับพ่อแก่เจ้าแสงค่อนข้างจะน้อย แต่สิ่งที่พวกเราได้รับรู้มากมายคือที่มาของความรู้ในคาถาอาคมต่างๆ ที่ท่านได้ร่ำเรียนมา ประเด็นสำคัญที่สุดสำหรับผมคือการได้พบว่าในความเป็น “พระ” ของพ่อแก่เจ้าแสง

    ท่านเป็นพระที่ใจดีอ่อนโยน ผิดกับใบหน้าที่นิ่งสงบราวกับพระพุทธรูป ท่านเอื้อเฟื้อและแบ่งปันธรรมะด้วยวิธีการง่ายๆ ซึ่งพวกเราสังเกตุได้จากการสอนลูกศิษย์และชาวบ้านแต่ละคนด้วยวิธีการแตกต่างกันไป

    มีบางครั้งที่พวกเราเผอเรอพูดจาเพ้อเจ้อไร้สาระเรื่องความขมังเวทย์ ท่านก็จะนั่งนิ่งเงียบ บางครั้งก็นั่งหันข้างและคุยไปในเรื่องอื่นท่านไม่ได้ให้ความสนใจหรืออวดอ้างในคุณวิเศษใดๆ ทั้งๆ ที่ท่านทำได้

    “ไหว้แม่ไหว้ป้า ที่นั้งหน้าเวที

    พรานอย่ายืนแข็ง ลองแหลงแลถี่

    ยืนเฉยพรรนี้ ไม่มีน้ำยา

    อย่าสนเลยแม่ อย่าแลดีหว่า

    หันหาโนรา หน้าตาชื่นบาน...”

    เสียงกลอนมโนราห์พร้อมปีกลองที่ประโคมให้สอดคล้องกับบทร้องยังคงดังก้อง คุณยายคนเดิมที่ปักหลักนั่งชมการแสดงมโนราห์อย่างอินในอารมณ์ยังคงเคี้ยวหมากหยับๆ ตาใสเป็นประกาย

    จำนวนผู้คนด้านหน้าเวทีเริ่มมากขึ้น ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยทักทายกันอย่างสบายใจ ดูเหมือนว่าความวิตกกังวลหรือความหวาดระแวงต่างๆ ได้ถูกปล่อยกองไว้นอกกำแพงวัด

    ว่ากันว่าบนถนนแห่งกาลเวลาอันยาวไกลของวัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) วัดชายขอบที่มีชีวิตเคลื่อนไหวและดำเนินไปพร้อมๆ กับวิถีชีวิตของผู้คน ความแตกต่างระหว่างวัดบ้านตรังกับวัดอื่นๆ ในพื้นที่หรือจังหวัดที่ปลอดภัยอยู่ตรงที่ ความเข้มข้นของความเป็นวัดที่ค่อนข้างพิเศษกว่าวัดอื่นๆ คือการเป็นวัดที่ต้องรับบทบาททางการเมืองอย่างไม่ได้ตั้งใจมาตลอด

    การที่วัดหรือชาวไทยพุทธแห่งนี้สามารถดำรงอยู่ได้มิใช่เกิดจากการยอมสยบต่อภัยต่างๆ แต่พวกเขาอยู่ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจในบารมีของ “พ่อแก่เจ้าแสง” พระผู้เป็นศูนย์รวมของจิตใจ เป็นธงธรรมที่คงโบกไสวอย่างมั่นคงในใจของทุกคน.....สวัสดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2014
  10. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    การแบ่งปันโดยไม่เบียดเบียนตนเอง
    เป็นความสุขเล็ก ๆ ซึ่งกันและกันครับพี่ตี๋...:cool::cool::cool:
     
  11. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    น้อมกราบหลวงตาสู่พระนิพพาน
     
  12. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ครับรับทราบ
     
  13. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา น้อมกราบนมัสการ ลป.ด้วยความอาลัย
     
  14. วุฒิ สิงห์

    วุฒิ สิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    1,428
    ค่าพลัง:
    +13,055
    รู้จักท่านมาประมาณสองปีละครับแต่ไม่เคยมีของท่านเลย..เคยจะบูชาวัวธนูของท่านเมื่อปีที่แล้วแต่ก็หมดเสียก่อน
    เห็นด้วยครับพี่โญ....
     
  15. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เหรียญ ๑ บาท พรรคพวกกันขอไปทำพิธีหาเลขหวยตั้งแต่ปี 29 และไม่เอามาคืน เหลือแต่เหรียญ ๑ อัฐเหรียญเดียว

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามค่ำ อ.โญ คุณวุฒิ คุณปู คุณกันต์ คุณเหน่ง คุณช้างป่า คุณจายา คุณเอ๊ะ คุณโอ๊ต คุณชาญ คุณกูล คุณแพน คุณเอ็ม คุณเอ๋ คุณรุ่ง คุณบอยและทุกๆท่านครับ
     
  17. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    พระไพรีพืนาศ ลป.บุญมี โชติปาโล อุบล

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  18. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    เมื่อหัวค่ำ เวป นี้เล่นไม่ได้เลยครับ
     
  19. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]
    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ชาญ พี่รัก พี่ช้าง พี่รุ่ง พี่อ้วน คุณบอย น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว คุณหนุ่ม น้องเอ๋ คุณวุฒิ น้องนิก คุณตั้น คุณกันตปัญโญ คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณjamitcom คุณEYEOFVENUS คุณwawa22 น้องกานต์ คุณpp2 น้องแพน น้องนายและพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  20. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    "สุขใจ" กับเช้าวันศุกร์คร๊าบบ​
     

แชร์หน้านี้

Loading...