อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  2. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]
     
  3. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG][​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2014
  4. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG] [​IMG]
     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG]catt7catt7
     
  6. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094
    [​IMG]


    กรณีเหตุระทึกขวัญ คอนโดมิเนียมหรู สูง 6 ชั้นในพื้นที่ หมู่ 2 ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างพังถล่มทับคนงานได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตและมีผู้ที่ติดคาอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคาร เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ16.20น.ของวันที่ 11 สิงหาคม2557ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ22ราย เสียชีวิต3 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อเวลา10.30 น. วันที่ 12 ส.ค. ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) พร้อมคณะได้เดินทางตรวจสอบซากอาคารที่พังถล่ม พร้อมพูดคุยสอบถามรายละเอียด จากผู้รับเหมา วิศวกร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยศ.ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากความบกพร่อง 3 สาเหตุคือ 1.การออกแบบแปลนก่อสร้าง 2.วัสดุที่ใช้ก่อสร้าง และ 3.ขั้นตอนการก่อสร้าง โดยพบว่าพื้นปูนได้พังทลายลงมาในระนาบเดียวกันซึ่งแสดงว่าไม่สามารถรับ น้ำหนักตัวเองได้ ในขณะที่วิศกรควบคุมการก่อสร้างตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้จึงยังไม่ทราบถึง สาเหตุที่แท้จริง อย่างไรก็ตามในเวลา 14.00 น. วันที่ 13 ส.ค. ตนและผู้ที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงสาเหตุของการถล่มของคอนโดที่เกิดขึ้น ที่ชั้น 4 หอประชุม 1ตึกวสท.

    โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ กำลังใช้ความพยายามช่วยชีวิตอยู่นั้น ได้มีนางประทีพ อรุณศรี แม่ของ นายกล้าณรงค์ ได้เดินทางจากบ้านเกิดในจ.ชลบุรี เพื่อตามหาบุตรชาย เมื่อได้รับแจ้งว่า บุตรชายยังมีชีวิตอยู่ แต่ติดอยู่ใต้ซากหักพังของอาคาร ก็มายืนรอลุ้นให้เจ้าหน้าที่ช่วยชีวิต ลูกชายเป็นผลสำเร็จ พร้อมเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า นายกล้าณรงค์ ได้เดินทางมาทำงานเป็นช่างสลิงกับผู้รับเหมาเมื่อ2-3 วันที่ผ่านมา ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเมื่อทราบว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ก็ได้แต่ภาวนาให้เจ้าหน้าที่ช่วยลูกได้ สำเร็จ ถือเป็นของขวัญวันแม่ที่ล้ำค่าที่สุดแล้วในเวลานี้
    ล่าสุดเวลา ประมาณ18.45 น. ความพยายามที่จะช่วยชีวิตนายกล้าณรงค์ ตลอด 27 ชั่วโมงก็สัมฤทธิ์ผล โดยเจ้าหน้าที่สามารถนำร่างของหนุ่มดวงแข็งออกจากใต้ซากอาคารสู่โลกภายนอก ได้เป็นผลสำเร็จ ก่อนนำส่งรพ.ปทุมธานี อย่างเร่งด่วน โดยนายกล้าณรงค์ ผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่านอนทับร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย โดยศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งแล้ว เชื่อว่าในจุดใกล้เคียงที่ติดคาอยู่ จะมีผู้เสียชีวิตถูกแผ่นปูนทับอีก 4-5 ราย ไม่สามารถนำออกมาได้ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูอยู่ระหว่าง ใช้ความพยายามที่จะนำร่างผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย ออกมาให้ได้โดยเร็ว ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย
    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามอาการของ นายกล้าณรงค์ หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บที่ รพ. ปทุมธานี พบมารดาและญาติพี่น้องให้กำลังใจกันพร้อมหน้า โดย นพ.ปรัชญา โชติยะ แพทย์ผู้ตรวจดูอาการคนไข้ กล่าวว่า อาการโดยรวมไม่มีปัญหา แค่บาดเจ็บที่ช่วงขาทั้งสองข้าง กระดูกเชิงกราน และเจ็บในช่องท้องเท่านั้น
    ทั้ง นี้ นายกล้าณรงค์ เปิดใจ ถึงช่วงเวลา 26 ชม. ที่รอดตายมาได้ว่า ตนเองเป็นช่างสลิง ช่วงเกิดเหตุนอนหลับอยู่ชั้นล่าง เมื่อตื่นขึ้นมารู้สึกมึนงงและไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้น พบตัวเองติดอยู่ในซอกแท่งปูน เพื่อนร่วมงานเสียชีวิตอยู่ข้าง ๆ พยายามทบทวนเหตุการณ์อยู่นานกระทั่งพบว่า ตึกที่ทำงานถล่ม ได้แต่ภาวนาขอให้พระที่ห้อยติดตัว คือหลวงพ่อคูณคุ้มครองให้ปลอดภัย รู้สึกดีใจเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2014
  7. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดียามเช้าครับทุกๆท่าน
     
  8. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]
    การจัดสร้างเหรียญหลวงปู่เครื่อง พระเครื่องบูชา พระพิมพ์ผงสมเด็จฯ ในพระราชศรัทธา
    วัดเทพสิงหาร บ้านนายูง ต.นายูง อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี (ช่วง พ.ศ.2521 – 2522)
    ได้ข้อมูลมาตามที่ปรากฏในหลักฐานช่วงประมาณ พ.ศ.2521 - 2522 วัตถุประสงค์ของการดำเนินการสร้างพระเครื่องบูชาหลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร เนื่องด้วยวัดเทพสิงหาร เป็นวัดที่สร้างมาประมาณ 90 ปีเศษแล้วยังไม่มีพระอุโบสถ ทางวัดได้ริเริ่มทำการก่อสร้างพระอุโบสถขึ้น ซึ่งได้ดำเนินการสร้างไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังขาดอุปกรณ์และทุนทรัพย์ในการก่อสร้างอีกมาก ทางเจ้าอาวาสคือหลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร ร่วม กับข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ในจังหวัดอุดรธานี ได้มีความเห็นพ้องต้องกันเพื่อวัตถุประสงค์จะให้อุโบสถที่ได้ดำเนินการสร้างไว้แล้ว ได้เสร็จสมบูรณ์ โดยจัดทำเหรียญหลวงปู่เครื่อง และพระเครื่องบูชา เพื่อมอบให้แก่บุคคลผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบสร้างพระอุโบสถวัดเทพสิงหาร
    ในการดำเนินการสร้าง และปลุกเสกพระเครื่องบูชาครั้งนี้หลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร ได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตสร้างเหรียญหลวงปู่เครื่อง และขออัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร. มาประดิษฐานไว้ด้านหลังของเหรียญ เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งศิริมงคล และแสดงถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อวัดเทพสิงหารและประชาชนทั่วไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราช ทานพระบรมราชานุญาตเป็นกรณีพิเศษ ให้หลวงปู่เครื่องดำเนินการได้ตามความประสงค์
    ปูชนียวัตถุที่สร้าง
    1.พระพุทธรูปบูชาเนื้อทองขัด มีขนาด 5 นิ้ว และ9 นิ้ว
    2.เหรียญหลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร มี เหรียญทองคำ เหรียญเงิน เหรียญนวโลหะ และเหรียญทองแดง
    3.พระพิมพ์ผงสมเด็จฯ
    รายชื่อผู้ดำเนินงานสร้าง ( ยศ และตำแหน่ง ในช่วง พ.ศ.ที่กล่าวถึง)
    ประธานกรรมการ
    พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ รมว.กระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก
    รองประธานกรรมการ
    แม่ทัพภาคที่ 2
    กรรมการ
    1.ม.ล.ทวีสันต์ ลดาวัลย์ ราชเลขาธิการ
    2.ดร.กัลย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา
    3.นายพูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ เลขาธิการสำนักพระราชวัง
    4.รองแม่ทัพภาคที่ 2 ทุกนาย
    5.นายจินดา เจนอักษร
    6.นายทองดำ บานชื่น รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
    7.พล.ต.อาทิตย์ กำลังเอก ผบ.พล.1 รอ.
    8.พ.อ.(พ) สง่า สายมงคล ผบ.พตท.1718
    9.นายมณเฑียร แก้ววงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุดรธานี
    10.พ.ต.อ.ประทิน วงศ์รักมิตร รอง ผบก.ภ.5
    11.พ.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผกก.ภ.จว.อ.ด.
    12.นายบุญเหลือ แฝงเวียง ศึกษาธิการจังหวัดอุดรธานี
    13.นายประเสริฐ บรรลุศิลป์ ศึกษาธิการจังหวัดอุบลราชธานี
    14.พ.ต.ชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา ศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ
    15.นายอำเภอทุกอำเภอ และปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอทุกอำเภอ
    กรรมการและเลขานุการ
    นายพิศาล มูลศาสตรสาทร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี
    กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
    1.นายประกอบ แพทยกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด
    2.นายมังกร กองสุวรรณ ปลัดจังหวัดอุดรธานี
    รายนามพระเถระที่จะนิมนต์มาประกอบพิธีพุทธาภิเศกการจัดทำเหรียญหลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร
    1.หลวงปู่เครื่อง ธมฺมจาโร วัดเทพสิงหาร อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี
    2.หลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์
    3.หลวงปู่สาม วัดไกรวิเวก อ.เมือง จ.สุรินทร์
    4.หลวงปู่สนธิ์ วัดอรัญญานาโพ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
    5.พระอาจารย์อ่อน ญาณศิริ วัดป่านิโครธาราม บ้านหนองบัวบาน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    6.พระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดป่าภูทอก อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย
    7.พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสารวัน อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    8.หลวงปู่สินธิ์ วัดอรัญญานาโพ อ.เมือง จ.มหาสารคาม
    9.เจ้าคุณพระอุดมสังวร (วัน อุตโม) วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.ส่องดาว จ.สกลนคร
    10.พระมหาบัว วัดหลักศิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
    11.อาจารย์ผาง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
    12.พระครูกิตติคุณ วัดอัมพวัน อ.เมือง จ.อุดรธานี
    13.พระอธิการฉวี ฉวิวณฺโน วัดป่าสมาธิวัฒนาราม อ.เมือง จ.อุดรธานี
    14.พระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    15.หลวงปู่ขาว อนาลโญ วัดถ้ำกองเพล อ.หนองบัวลำภู จ.อุดรธานี
    สถานที่สั่งจองพระเครื่องฯ ในช่วงนั้น
    1.ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี
    2.กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี
    3.ที่ทำการสรรพากรจังหวัดอุดรธานี
    4.ที่ทำการป่าไม้จังหวัดอุดรธานี
    5.เทศบาลเมืองอุดรธานี
    6.ที่ทำการอำเภอและกิ่งอำเภอจังหวัดอุดรธานีทุกแห่ง
    7.ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาอุดรธานี
    ที่มาข้อมูล : ท่าน kla_in_black เว็ปอุดร108

    เพิ่มเติมครับ ท่านเจ้าของข้อมูลไม่แน่ใจว่า หลวงปู่เครื่องได้ร่วมพิธีด้วยหรือเปล่าเพราะท่านมรณภาพลงใน พศ. 2523
     
  9. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]

    พระผงอังคารฐาตุ ออกที่วัดหนองจรเข้ ปี 2535

    หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ (จริง ๆ ท่านชื่อบุญธรรม) พระปฏิบัติกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ไม่ค่อยมีผู้รู้จัก ทั้ง ๆ ที่ท่าน เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นใหญ่ ที่ได้ออกธุดงกับพระอาจารย์ใหญ่ เป็นศิษย์สหธรรมมิกหลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม ท่านมรณภาพประมาณ 2522


    ถึงจะไม่ทันหลวงปู่บุญทัน แต่หลวงพ่อที่มาอฐิตฐานจิตให้ มี
    - หลวงพ่อพุธ ฐานิโย นครราชสีมา
    - หลวงปู่หลวง กตปุญโญ จ.ลำปาง
    - หลวงปู่บุญเพ็ง
    - หลวงตาพวง จ.ยโสธร
    - หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
    - หลวงพ่อสิริ สิริวัฑฒโน วัดตาล นนทบุรี
    - หลวงปู่อ่ำ ธัมมกาโม


    ข้อมูล ท่านs4250078 เว็ปอุดร108
     
  10. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866

    ปลามหัศจรรย์
    วันหนึ่งพวกญาติโยมชาวบ้านเขาจะพากันไปทำบาปคือ ไปทอดแหหาปลามาฆ่ากินกัน หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ ท่านรู้ว่าชาวบ้านจะไปทอดแหกันซ้ำร้ายชาวญาติโยมทั้งหลายได้มานิมนต์หลวงปู่ให้ไปฉันข้าวป่าซึ้งเป็นประเพณีในถิ่นนั้นอีกด้วย หลวงปู่รู้ว่า พวกญาติโยมจะไปจับปลามาปรุงเป็นอาหารเพื่อถวายพระในวันนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ไม่ควร แม้ว่าพระองค์ใดรู้การกระทำบาป โดยการใดก็ตาม แล้วขึ้นรับฉัน ก็ถือว่าอาบัติแก่พระองค์นั้นๆ

    หลวงปู่ท่านได้ออกปากชวนตาปะขาวนิน ไปสู่หนองน้ำก่อนล่วงหน้า แล้วท่านสั่งให้ตาปะขาวนินไปตัดกระบอกไม้ไผ่ 3-5 กระบอกมาวางไว้ตรงหน้า จากนั้นท่านได้ลงมือเขียนอักขระเป็นคาถา หัวใจปลาช่อนใส่ลงไปบนกระบอกไม้ไผ่ ร่ายมนตร์ทำจิตสงบอฐิษฐานใจจากฤทธิ์อภิญญา กลายเป็นปลามหัศจรรย์โดย การโยนกระบอกไม้ไผ่ลงน้ำทันที ปลาเที่ยวแหวกว่ายไปมาอย่างสนุกสนานทันทีที่ลงถึงน้ำ เที่ยวดำผุดดำว่ายดังกับว่ามีปลาช่อนเป็นร้อยเป็นพัน หลวงปู่อฐิษฐานฤทธิ์กระบอกไม้ไผ่เป็นปลาช่อนแล้ว ท่านก็ชวนตาปะขาวนิน ไปยังแถบหนึ่งของหนองน้ำนั้น เพื่อรอดูญาติโยมจะมาจับปลากัน

    หลวงปู่ได้เล่าให้ตาปะขาวนินว่าพวกญาติโยม จะไม่ได้ปลาสักตัวเดียว เพราะปลาวิเศษเหล่านี้มันจะมีกำลังมาก วิ่งชนแหที่ดักปลาขาดหมด หลวงปู่รอเวลาเฝ้าดูพวกญาติโยมพักหนึ่ง ก็เห็นกลุ่มชาวบ้าน พร้อมกับอุปกรณ์จับปลามายืนดูความอัศจรรย์ในหนองน้ำ ปลาจำนวนมากเที่ยวดำน้ำไปมาจนน้ำขุ่นไปเลยทีเดียว พวกชาวบ้านมองเห็นเช่นนั้นก็คิดว่าปลาต้องมีมากมายแน่ๆ แล้วก็กรูกันลงไปในหนองน้ำ บ้างก็เหวี่ยงแหแล้วกระโดดตามลงไปอย่างลิงโลด ความจริงไม้ไผ่นั้นไม่ถูกคนรบกวน มันก็เป็นไม้ไผ่อยู่เช่นเดิม ครั้นทอดแหลงไปเมื่อไรกระบอกไม้ไผ่ก็จะแสดงฤทธิ์ ด้วยอำนาจอภิญญาของหลวงปู่มันกลายเป็นปลาวิ่งชนแหที่เหวี่ยงครอบมันไว้ขาดเป็นช่อง แล้วก็พุ่งเข้าชนผู้คนญาติโยม ถึงกับสะดุ้งตกใจไปตามกันเลยทีเดียว จำนวนปลาก็ดูเหมือนจะเพิ่มทวีขึ้นเรื่อยๆ พวกญาติโยมพยายามอย่างเต็มที่สุดฝีมือ เพื่อจะจับปลาให้จงได้

    ปลาช่อนในหนองน้ำนั้น ก็ชนแหจนขาดสะบั้นไปมา ไม่มีใครได้ปลาเลยสักตัวเดียว จนเป็นที่อ่อนอกอ่อนใจ ในที่สุดก็เลิกรากันกลับบ้านไป

    หลวงปู่บุญทัน ฐิตปัญโญ ท่านเป็นชาวศรีสะเกษ ก่อนฝากตัวเป็นศิษย์ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเล่าเรียนด้านวิชาอาคม คุณไสย ต่างๆจากแดนเขมร เช่น วิชาบิดไส้-บังฟัน-เสน่ห์ยาแฝด-เสกหนังเข้าท้อง-ผีพราย-เสือเสมิง ?ฝังรูปฝังรอย-ยาสั่งและสิ่งอาถรรพณ์ต่างๆ และศึกษาวิชาอาคมต่างๆจากฝั่งลาว โดยเรียนจากอาจารย์เตี้ย ซึ่งเป็นศิษย์ของสำเร็จลุน และหลวงปู่ก็มาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น

    หลวงปู่บุญทัน ท่านเล่าว่า ในระหว่างที่ท่านเร่งความเพียร อย่างหนัก ทำให้ท่านหลงสำคัญตนว่า ท่านสำเร็จหมดจากกิเลสแล้ว (ซึ่งจริงๆ แล้วท่านเข้าใจผิด เนื่องมาจากอาการวิปลาสจากการภาวนา หรือวิปลาสเนื่องมาจากวิปัสสนูปกิเลส)
    จึงได้ออกติดตามหาหลวงปู่มั่น เพื่อจะแจ้งความในใจให้พระอาจารย์ ได้รับรู้ หลวงปู่บุญทันท่านเหาะไปในระดับยอดไม้

    หลวงปู่ตื้อไปยืนแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำท่ารอดูหลวงปู่บุญทัน แล้วพูดเตือนท่านด้วยเสียงอันดังว่า
    ?โน่น พระอรหันต์ผีบ้า พระอรหันต์โลกีย์ พระอรหันต์เวียนตาย เวียนเกิด มาแล้ว โน่นเหาะมาแล้ว?

    ก่อนที่พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จะมรณภาพในปี พ.ศ. 2520 นั้นหลวงปู่บุญทันได้บอกกับพระลูกศิษย์ของท่านที่วัดป่าประดู่ในตอนเช้าของวันที่ 29 ธันวาคม 2519 ว่า ?เมื่อคืนนี้จารย์ครูฝั้น ท่านได้มาลาจะมรณภาพ " การที่หลวงปู่บุญทันท่านเรียกพระอาจารย์ฝั้นว่า ?จารย์ครู? ก็หมายถึงว่าท่านเคารพนับถือเป็น เหมือนครูบาอาจารย์ ที่สอนชี้แนะในทางปฏิบัติให้แก่ท่านนั้นเอง และการมาบอกลานี้ก็มาในลักษณะที่ท่านส่งกระแสจิต มาบอก ในตอนที่หลวงปู่บุญทัน ท่านกำลังนั่งสมาธิอยู่ หลวงปู่บอกว่าเป็นธรรมเนียมของพระในสายของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่จะต้องมาบอกลากัน และแล้วพอในวันที่ 4 มกราคม 2520 ข่าวหลวงปู่ฝั้น มรณภาพก็แพร่กระจายออกไปทั่วประเทศ

    ข้อมูล ubonpra.com

     
  11. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    สวัสดียามเช้า คุณปู คุณเอ็ม คุณกันต์ คุณเอ๊ะ อ.โญ คุณโอ๊ต คุณกูน คุณอ้วน คุณวุฒิ คุณวรรณ คุณกานต์ คุณบอย คุณรุ่ง คุณแพน คุณพีพี2 คุณเคี้ยว คุณบุศรินทร คุณจายาและทุกๆท่าน
    ทำการทำงานใด ทำมาค้าขายใด ขอให้เจริญรุ่งเรือง ปลอดโปร่ง ราบรื่นกันนะครับ
     
  12. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ตามอ่านย้อนหลัง หลายหน้า พระดีๆทั้งนั้นเลยครับ
     
  13. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    (f) (f) (f)
     
  14. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    ลป.เครื่อง อุดร และ ลป.เครื่อง ศรีสะเกษ ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้ง ๒ รูป ครับ
     
  15. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดียามเช้าครับพี่ตี๋
     
  16. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2013
    โพสต์:
    7,468
    ค่าพลัง:
    +38,819
    (f)(f)(f)
     
  17. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,069
    ค่าพลัง:
    +53,094

    สวัสดียามเช้าเช่นกันครับพี่กัน พี่ตี๋ และทุกๆท่าน
     
  18. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    ;aa44 สวัสดีครับพี่ตี๋ คุณเอ็ม คุณกันต์และทุก ๆ ท่าน
     
  19. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับพี่โญ
     
  20. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงตาบุญหนา วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร
    ประวัติหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วัดป่าโสตถิผล จ.สกลนคร ศิษย์ธรรมสาย"หลวงปู่มั่น" หลวงตาบุญหนา ธัมมทินโนพระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยชื่อดังรูปหนึ่งแห่ง เมืองสกลนคร ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้ายที่ยังดำรงอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

    อัตโนประวัติหลวงตาบุญหนา ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่ออายุ 12 ปีได้เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดแจ้ง บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านเอง หลวงปู่บุญหนา ท่านได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์นานถึง 12 ปี ตั้งแต่ครั้งสมัยเป็นสามเณร เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นหลวงอาได้นำท่านมาอยู่ด้วย และโดยเฉพาะกับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ในช่วงที่เป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์อ่อนเคยไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นประจำ โดยมีพระอาจารย์อ่อนนำพาไป สาเหตุที่ได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์อ่อน ด้วยพระอาจารย์อ่อนเดินธุดงค์มาพำนักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้าน หนองโดก (ปัจจุบันคือวัดป่าโสตถิผล หรือวัดป่าบ้านหนองโดก) ตอนนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณร แต่เป็นฝ่ายมหานิกาย พักอยู่วัดแจ้ง บ้านหนองโดก เป็นวัดบ้านของท่านเอง และไม่ไกลจากป่าช้าที่พระอาจารย์อ่อนไปพักอยู่นั้นมากนัก

    หลวงปู่บุญหนาท่านบอกว่า ตอนที่ไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) ครั้งแรกไปกับพระอาจารย์อ่อน พร้อมกับสามเณรอีกรูปหนึ่งและญาติโยม 4-5 คน เดินมุ่งหน้าสู่เทือกเขาภูพานที่อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านหนองโดก ก่อนเดินทางถึงวัดป่าบ้านหนองผือ เวลาประมาณบ่าย 3 โมง พอเข้าไปภายในบริเวณวัด รู้สึกว่าภายในวัดร่มรื่นสงบเงียบ เหมือนกับไม่มีพระเณรทำให้ตื่นตาตื่นใจเป็นครั้งแรก เห็นพระเณรกำลังทำกิจวัตรกวาดลานวัดด้วยไม้ตาด ส่วนพระอาจารย์อ่อน พร้อมคณะ เข้าไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่นบนกุฏิ เสร็จแล้วก็กลับที่พัก ปัดกวาดลานวัด ตักน้ำใช้น้ำฉันจากบ่อน้ำ เสร็จจากนั้นก็เตรียมรอสรงน้ำพระอาจารย์มั่นบริเวณหน้ากุฏิ ซึ่งมีพระเตรียมน้ำสรงไว้โดยใช้น้ำร้อนผสมพอให้อุ่น เมื่อพระอาจารย์มั่นเข้ามานั่งบนตั่งแล้ว คราวนี้พระเณรทั้งหลายห้อมล้อม เพื่อเข้าไปถูหลังขัดไคลถวายอย่างเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา ส่วนสามเณรบุญหนา มีโอกาสเข้าไปร่วมสรงน้ำท่านพระอาจารย์มั่นในครั้งนี้ด้วย

    เมื่อพระอาจารย์มั่นเห็นท่านซึ่งเป็นสามเณรมาใหม่ พระอาจารย์มั่นจึงพูดสำเนียงอีสานขึ้นว่า "เณรมาแต่ไส..." แต่สามเณรบุญหนาไม่ทันตอบ มีพระอาจารย์ทองคำตอบแทนว่า "เณรมากับครูบาอ่อน ข้าน้อย" จากนั้นท่านไม่ได้ว่าอะไรต่อไป จนเสร็จจากการสรงน้ำท่านในวันนั้น นอกจากนี้ ท่านยังได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อื่นๆ อีก เช่น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม พระอาจารย์ลี ธัมมธโร พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ เป็นต้น

    หลวงตาบุญหนา ได้มาพำนักจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่ควรค่าแก่การกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูป หนึ่งที่ยังเหลืออยู่ หลวงปู่บุญหนา ได้ให้สติแก่ญาติโยมผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกาย วาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ ซึ่งเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่นครั้งนั้นว่า "กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์"


    ข้อมูล thana-pra.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...