ไส้เดือนตื่น! หลังแผ่นดินไหวหนีขึ้นพื้นดินนับหมื่น!!!

ไส้เดือนนับหมื่นตัว ตื่นคลื่นแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา หนีพ้นเหนือพื้นดินเพียบที่พังงา ด้านนักแผ่นดินไหววิทยา แจงอย่าตื่นข่าวแผ่นดินไหวครบรอบ 10 ปี สึนามิ

วันที่ 27 ตุลาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าที่ทำการ อบต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา พนักงานและเจ้าหน้าที่ อบต.นบปริง ได้เข้ามุงดูเหตุการณ์แปลกประหลาด หลังจากมีไส้เดือนจำนวนนับหมื่นตัวได้ออกมาจากดินเลื้อยลักษณะมีการแตกตื่นกับเหตุการณ์บางอย่าง ภายในคูระบายน้ำของทาง อบต. ระยะทางกว่า 400 เมตร โดยพบว่ามีไส้เดือนจำนวนมากต่างเลื้อยไปมาในช่วงเช้า หลังจากมีเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย 5.3 แมกนิจูด ซึ่งสามารถรู้สึกได้ถึงเกาะภูเก็ต และ จ.กระบี่ โดยที่ จ.พังงา มีรายงานที่ อ.เกาะยาว ที่พบว่าสามารถรู้สึกได้

โดยเจ้าหน้าที่ อบต.นบปริง ได้พูดถึงเหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้วในช่วงเกิดเหตุการณ์สึนามิ เมื่อเดือนธันวาคม 2547 จึงทำให้หวาดวิตกว่าจะเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้นอีก หลังจากเกิดเหตุการณ์มาครบ 10 ปี

ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ ใสสด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนบปริง อ.เมือง จ.พังงา กล่าวว่า ในช่วงเช้าทาง อบต.นบปริง ได้จัดงานลงทะเบียนผู้สูงอายุอยู่นั้น พบว่ามีไส้เดือนจำนวนมากได้ขึ้นมาพ้นเหนือดิน เหมือนลักษณะหนีเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 07.02 น. ของวันนี้ (27 ตุลาคม) หลายคนเชื่อว่าเหตุการณ์นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว เนื่องจากปกติไม่มีไส้เดือนลักษณะอย่างที่เห็น

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.ไพบูลย์ นวลนิล นักแผ่นดินไหววิทยา ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวเกิดขึ้นตามปกติของเกาะสุมาตราที่จะเกิดขึ้นนาน ๆ ครั้งและไม่รุนแรงนัก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าจุดที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในแนวการมุดตัวที่เคยเกิดแผ่นดินไหวใหญ่จนทำให้เกิดสึนามิเมื่อปี 2547 อีกทั้งยังอยู่กันคนละฟากกันด้วย ดังนั้นไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกกับข่าวแผ่นดินไหวครบรอบ 10 ปีสึนามิ เพราะไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

 

แหมข่าวนี้มันน่าตืนตูมโดยแท้ คริๆ

 

อ้าว!!เอาเข้าอีกแล้วลุงแมวไม่ขำนะงานนี่

 

มีใครเป็นเหมือนผมไหม เพราะเอาข่าวแบบนี้มาลง แล้วเหมือนมีคนจะมาปาหินใส่หัว 5555555

 

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/S2jm7szBC3g" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เกิดแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย 5.3 แมกนิจูด ภูเก็ต กระบี่ รับรู้แรงสั่นไหวหลายจุด ด้านสตูลยัน ไม่กระทบ

วันนี้ (27 ตุลาคม 2557) เมื่อเวลา 07.02 น. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการเกิดแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.3 แมกนิจูด ความลึก 24 กม. ห่างจากทางทิศตะวันตกฉียงใต้ของ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ประมาณ 256 กม.

เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย ทั้งนี้มีรายงานว่าที่ จ.ภูเก็ต สามารถรับรู้แรงสั่นไหวได้หลายจุด ทั้งหาดกะตะ หาดกะรน หาดสุรินทร์ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการเกิดสึนามิ เพราะแผ่นดินไหวในครั้งนี้ มีขนาดที่ต่ำกว่า 6.0 แมกนิจูด และไม่ส่งผลต่อโครงสร้างอาคารใน จ.ภูเก็ต เนื่องจากต้นกำเนิดของจุดแผ่นดินไหวในครั้งนี้มีระยะทางอยู่ห่างจากจังหวัดภูเก็ตพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ทางการจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมมาตรการเฝ้าระวังเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อก ที่อาจจะเกิดตามมาหลังจากการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้

นอกจากนี้ จากการสอบถามผู้ที่อาศัยอยู่บนอาคารสูง เช่น คอนโดในเมืองกระบี่ พบว่าที่ชั้น 6 รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นได้ ประมาณ 12 วินาที และไม่มีสิ่งของเสียหาย หรือร่วงหล่นจากชั้นวางของ เพราะสั่นไม่มาก เพียงแค่รู้สึกได้

ขณะที่ นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ได้รับทราบแผ่นดินไหว ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบความเสียหาย และได้แจ้งให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อมสตูล กล่าวว่า ในส่วนของพื้นที่ จ.สตูล ไม่พบแรงสั่นสะเทือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกาะหลีเป๊ะ และบริเวณท่าเรือปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวแต่อย่างใด

KAPOOK

 

กิ้งกีออีกอย่างถ้ามันรวมตัวกันขึ้นมาแห่แหน
เป็นร้อยเป็นพัน แปลว่ามันได้รับสัญาณที่ไม่ปลอดภัย
สำหรับพวกมัน
ส่วนมนุษย์จะคิดอย่างไรกัน มันคงไม่สน

 

มันหนีขึ้นสูงนี่แสดงว่า อาจจะมีน้ำตามมา มันเลยหาที่หนีสูงขึ้นไป แต่เราอยู่กทม ไม่เป็นไร

 

ม่ายช่ายอ่ะครับ
ไม่ได้แปลว่าสัตว์เคลื่อนไหวอยู่ที่ไหน
แล้วจะเกิดเหตุเฉพาะ
ที่จุดนั้นเสมอไป
ปีนที่โน่น แต่เหตุอาจเกิดที่นี่
หรือปีนที่นี่ เหตุอาจเกิดที่นั่น
คนละพื้นที่ หรือคนละทิศก็ได้
แต่บางครั้งการคาดการณ์ของสัตว์ก็แอร์เรอได้
ดูข่าวต่างประเทศเห็น
มีสัตว์เคลื่อนไหวครั้งมโหฬาร
ให้เห็นแต่ก็ไม่เกิดเหตุการณ์ภัยธรรมชาติอะไร
ตามมาเลยก็มี ทำให้มนุษย์เสียเส้นแทบแย่!!!

 

การเคลื่อนไหวของสัตว์อาจเตรียมหลบเปียกแฉะ
ไปหาที่แห้ง
หรือจากที่ร้อนไปหาที่เย็นพอดีพอดี
ตามการสัมผัสด้วยสัญชาติญาณซึ่งจะ
ผิดพลาดน้อยกว่าคน
เพราะคนต้องใช้
เครื่องมือวัดต่างๆ เข้าช่วย

แต่บ่อยครั้ง
หยิบเครื่องมือไม่ทันเลยอ่วมซะก่อน

 

แล้วจะมีกรณีสัตว์ตกตะลึง!?!
จนไม่เคลื่อนไหว
แบบทำอะไรไม่ถูก งงเต็ก
มีหรือเปล่า??ลุงแมวไม่ทราบนะ

 

เสริมนิดนึงว่าสัตว์ที่เคลื่อนไหวแม้อยู่ห่างไกลคนละพื้นที่
หรือคนละทิศได้ เพราะส่วนหนึ่งสัญชาติญาณของสัตว์
สามารถสัมผัส
กับเวฟที่มีทิศทางเคลื่อนมาทาง
ที่สัตว์เหล่านั้นอาศัยอยู่จึงรับสัญญาณ
และตอบสนองเท่าที่คิดว่าปลอดภัย

 

แหม!!คุยซะเหมือนเคยเป็นกิ้งกือเลยทีเดียว

 

ไปงานทอดกฐินที่วัดสระจุลมณีที่นครพนมเมื่อหลายปีก่อนมีกิ้งกือมากมายก่ายกอง (น่าจะหลายพันตัว ตัวโตๆทั้งนั้นค่ะ) พระและโยมวัดบอกว่าเขาอยู่อย่างนั้นเป็นธรรมชาติ ก็เป็นเรื่องแปลกนะคะ
ส่วนช่วงปลายฝนต้นหนาว ไส้เดือนจะขึ้นมาบนผิวดินแล้วตายนี่เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ในโพสต์นี้บอกว่าไส้เดือนเป็นหมื่นๆตัว...ก็น่าคิดนะคะ

 

สิ่งบอกเหตุก่อนเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ และ สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของสัตว์โลก


http://www.dmr.go.th/main.php?filename=precursory

 

ก็คงมีเหตุการณ์ทางธรรมชาติตามมาล่ะครับ สัตว์เขาใช้สัญชาติญาณของเขา แต่ผมไม่มีแบบสัตว์หรอก แต่สมองมันสั่งคนว่าสัตว์มันแสดงอาการผิดปกติ มันก็น่าคิด ส่วนคนภูเก็ตก็คงตื่นกลัวธรรมดา เพราะเคยผ่านประสบการณ์ที่ไม่ดีมาก่อนเป็นเรื่องปกติ เหมือนกบกินผึ้งโดนผึ้งต่อยต่อไปมันก้เรียนรู้ว่าผึ้งนี่เป็นอันตรายต่อมัน คนไกล้กับคนไกลมักมองในมุมมอง และความรู้สึกที่ต่างกัน ส่วนหินปาหัวน่ะไม่บอกผมก้รู้ครับ มันแข็งและก็เจ็บแน่นอนครับ สมัยเด็กเคยฟังเทศน์หลวงปู่สี มหาวีโร ท่านว่าคนเราได้ยินว่าเสือ เห็นรูปเสือ นี่ล่ะคือเสือ ที่เป็นสัตว์ดุร้าย แต่คนก้ยังไม่รู้หรอกครับมันดุร้ายยังไง มันควรจะน่ากลัวหรือไม่ หรือที่ไม่กลัวเพราะเห็นมันอยู่ในกรง ยังเอามือชี้ดุมันได้ แต่เมื่อเราเผชิญหน้ากับมันจริงๆด้วยตัวของเราเองนั้นแหละ เราถึงจะได้ทราบความจริง ความดุร้าย หรือความกลัวที่เรายังรู้สึกไม่ได้

 

เคยเห็นนะครับ สัตว์เลี้ยงนี่ล่ะ แต่มันน้อย ไม่ใช่ฝูงใหญ่ จึงไม่แน่ใจว่าจะเรียกสัญชาตญาณได้หรือไม่

 

.
อย่างนี้ต้องเจอกลอนมนตรา ของนักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทานครับ
มนตราบทนี้สร้างและร่ายเวทย์ไว้ ตั้งแต่ก่อนปลายปี ๒๐๑๒
เพื่อแก้อาการตื่นกลัวของมหาชนชาวเวบพลังจิต ที่กลัวกันแยะ

มีความดังนี้ ว่า


...ลืมไปได้เลย เรื่องภัยพิบัติ ฉันฝันว่าจัด การมันจนสิ้น
ไม่ว่าเรื่องน้ำ หรือเรื่องแผ่นดิน ชั้นจัดการสิ้น ไม่ดิ้นรุนแรง
จะเรื่องดาวหาง หรือดาวผลุบโผล่ ดาวชวนโมโห ผลุบโผล่กวนทีน
ชั้นเป่าโอมเพี๊ยง โคจรเอียงซักมิล โลกพ้นด้วยกสิณ แล้วนอนดิ้นไปมา

...เรื่องแผ่นดินไหว ก็จงวางใจ เราจำฝันได้ ฝันดีติดตา
เรามองขวาซ้าย คิดไปคิดมา กาวช้างนี่แหละหวา เอามาเชื่อมแผ่นดิน
หยอดหยอดมันเข้าไป ในร่องของแผ่นดิน เชื่อมไว้ไม่ให้ดิ้น แถวแผ่นดินอินโด
นี่คือเรื่องจริง ที่มันได้เกิด ฉันฝันเตลิด แล้วนอนดิ้นไปมา

...เรื่องฝนเรื่องน้ำ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง ชั้นฝันตอนง่วง ในห้วงนิทรา
ว่าได้ตีซี้ พี่น้องนาครา เรื่องน้ำเรื่องท่า เดี๋ยวนาคราโชว์พาว
หรือเรื่องพายุ ลูกใหญ่มหึมา มังกรของข้า เลี้ยงมารับมือ
แค่ส่งขึ้นฟ้า เมฆาครางฮือ ฉันฝันตาปรือ แล้วนอนดิ้นไปมา

...เห็นคนอื่นเล่า เรื่องราวที่ฝัน เราก็มีเหมือนกัน เลยแบ่งปันกันมา
แต่ว่าในฝัน ฉันมักรู้ตัว ไม่ได้พูดมั่ว รู้ตัวไม่ได้ฝัน
ภาพที่ฉันเห็น ชัดเจนเต็มที่ ดุจดั่งทีวี เฮชดีพลาสม่า
นี่ว่าเรื่องฝัน ไม่ใช่เรื่องจริง เล่าเสร็จจนสิ้น เดี๋ยวจะนอนดิ้นไปมา


แค่ไส้เดือนนี่เรื่องจิ๊บๆ ครับ เค้าแค่อยากออกมาโชว์แค่นั้นเอง ๕๕๕
ไม่ต้องห่วง ประเทศไทยของพวกเราปลอดภัยแน่นอน สิบแสนเปอร์เซ็นต์ หึหึหึ


ปีกแห่งแสง / ไทยแรนโนเซารัส ย๊ากษ์
.

 

วันนี้ก็ยังมีข่าวน่ะ


ชาวบ้านพังงา ตื่น! กองทัพไส้เดือนหนีขึ้นเหนือพื้นดิน เจ้าหน้าที่ทรัพยากรฯ เข้าตรวจสอบ มั่นใจ ไม่ได้เกิดจากแผ่นดินไหว สันนิษฐานเบื้องต้น แค่อากาศเปลี่ยนแปลงหนาวขึ้น

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 29 ต.ค.57 นายนิธิวุฒิ ระวิวรรณ ผอ.ส่วนทรัพยากรน้ำ ทสจ.พังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบบริเวณคูระบายน้ำ ของทาง อบต.นบปริง อ.เมือง จ.พังงา เพื่อดูสภาพไส้เดือนเป็นจำนวนมาก ว่าเกิดมาจากสาเหตุใด หลังจากมีประชาชนทั้งในพื้นที่และละแวกใกล้เคียงได้แห่เข้าดูไส้เดือนจำนวนมากเลื้อยอยู่ในคูระบายน้ำดังกล่าว หลังจากการตรวจสอบพบว่า คูระบายน้ำดังกล่าว เป็นปูน มีดินเพียงเล็กน้อยผสมอยู่ บริเวณใกล้เคียงเป็นสนามหญ้า ซึ่งเป็นไปได้ว่า สนามหญ้าดังกล่าวเป็นที่อาศัยของไส้เดือนเหล่านี้ และพบว่า ในช่วงเช้ามีไส้เดือนได้ออกมาเลื้อยอยู่ในคูระบายน้ำของทาง อบต.นบปริง มากกว่าที่ผ่านมา



โดย นายนิธิวุฒิ ระวิวรรณ ผอ.ส่วนทรัพยากรน้ำ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดพังงา กล่าวว่า เบื้องต้นที่พบไส้เดือนดังกล่าวมีจำนวนมาก ซึ่งได้มาเห็นตอนแรกคิดว่า ที่ไส้เดือนได้ขึ้นมาอยู่บนพื้นดิน เนื่องจากมีสารเคมีปนเปื้อน แต่เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบว่ามีการใช้สารเคมีปนเปื้อนทั้งในพื้นที่และในละแวกใกล้เคียง จึงตัดประเด็นการใช้สารเคมีจนทำให้ไส้เดือนโผล่ขึ้นเหนือพื้นดิน อีกประเด็น คือ อุณหภูมิของดินเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน เช่น มีสภาพอากาศหนาว เบื้องต้นจึงคาดการณ์ว่า น่าจะเกิดจากอุณหภูมิของดินที่มีอากาศหนาวขึ้น ทำให้ไส้เดือนได้โผล่ขึ้นมาเหนือดิน เพื่อปรับสภาพอากาศ และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากไม่ได้เกิดจากการสั่นสะเทือนของดิน หรือแผ่นดินไหว เพราะตามธรรมชาติของไส้เดือน ไม่มีการแตกตื่นจากเหตุแผ่นดินไหว

 

กลัวไส้เดือนนะคะ ไม่ชอบเลย เหอๆ แต่ก็อดเข้ามาอ่านไม่ได้

 

หวังว่าจะไม่ใช่สัญญาณอันตรายใดๆ อย่างที่ว่านะครับ