<<ปิดกระทู็ -มุมพระสะสมหลากหลาย หลวงพ่อหวั่น >>ปิดกระทู้

เหรียญแม่ทัพ หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ





เปิดให้บูชาพิเศษ 1,200 บาท


ปิดให้คุณศิวะบุตร ครับ

 

เบี้ยแก้เปลือย หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ขนาด ยาว 3.5 ซม.


เป็นสายหลวงปู่รอด วัดนายโรง ท่านจะทำไม่บ่อยนัก และ จะมีให้บูชา เท่าที่ท่านทำและปลุกเสกเสร็จเท่านั้นครับ


เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งมีมาตั้งแต่สมัยหลวงปู่รอด วัดนายโรง และหลวงปู่บุญ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันมีอานุภาพในการป้องกันเภทภัย คุณไสย์ เขี้ยวงา เป็นมหาอุด เมตตามหานิยม พกพาติดตัว หรือบูชาไว้ที่บ้านดีนัก

เบี้ยแก้นั้นเป็นเครื่องรางที่รวบรวมเอาพุทธคุณและอิทธิคุณของเครื่องรางของขลังทุกชนิดไว้ด้วยกัน

สรรพคุณหรือพุทธคุณเบี้ยแก้เป็นที่ร่ำลือในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม และป้องกันคุณไสยต่างๆ สามารถกันถูกกระทำย่ำยี กันคุณผี คุณไสยเวท อาถรรพณ์ ยาสั่ง ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิง กันไข้ป่าสารพัด ผีป่า ผีโป่ง ผีเปิ่ง ผีปอบกองกอย กันจิตคิดวิกลด้วยโรคอุปาทาน กันมนต์ยาดำย่ำยีด้วยเล่ห์กลมายาสารพัด เป็นต้น

พุทธานุภาพ "เบี้ยแก้"มีสรรพคุณร้อยแปดพันเก้าประการสุดที่ยากบรรยาย ครอบคลุมทุกด้านป้องกันสิ่งชั่วร้าย และแก้เหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดี พ่อค้าแม่ค้าขายหมั่นไว้บูชาจะไต่เต้าเป็นเจ้าสัว จักให้คุณเป็นถึงเจ้าพระยาพานทอง ทรัพย์สินของเต็มวัง อีกช้างม้า วัว ควาย นับได้เหลือหลาย แก้โรคภัยไข้เจ็บ ให้หนักเป็นเบา แก้คุณไสย ยาสั่ง ภูตผีปีศาจ อาถรรพ์อาเพศอัปมงคล เสนียดจัญไรทั้งหลาย และรวมทั้งให้คุณผู้บูชา และให้โชคลาภเรียกทรัพย์

นอกจากนี้ เบี้ยแก้ยังใช้ดีทางการแก้เรื่องร้ายให้กลายเป็นดี ถ้าเรื่องดีๆอยู่แล้ว ก็จะส่งเสริมให้ดียิ่งๆขึ้น.....ที่สำคัญก็คือเรื่องเมตตามหานิยมครับ

พระครูสุวรรณโชติวุฒิ หรือ หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี ปัจจุบันท่านอายุ 73 ปี วัดหูช้างของท่านอยู่ไม่ไกลจากวัดตะเคียนของหลวงปู่แย้ม ท่านเป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมเพียงรูปเดียวและมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง เกจิดังสมัยพ.ศ. 2500 ที่คนเมืองนนท์เคารพนับถือท่านมาก หลวงพ่อกี๋ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ท่านจึงได้วิชาการทำปลัดขิกมาอย่างเข้มขลังจนเป็นตำนาน ปลัดขิกเมืองนนท์ ที่สุดยอดปรารถนาและหายาก เนื่องจากพุทธคุณสามารถใช้แทนปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋อาจารย์ของท่านได้เลยทีเดียว รวมถึงท่านยังเป็นศิษย์ก๋งจาบ สำนักประดู่ทรงธรรม อยุธยา ศิษย์น้องหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ และหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ซึ่งเกจิร่วมสำนักทั้ง 3 รูปนี้ได้ก่อปาฏิหารย์ในคราวปลุกเสกพระที่วัดปราสาทบุญญาวาสสามเสน คือแผ่นทองแดงของพระอาจารย์ทั้ง 3 รูปหลอมไม่ละลายมาแล้ว นอกจากนี้ท่านยังเป็นศิษย์หลวงปู่แดง วัดตะเคียน นนทบุรี หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และเจ้าคุณโพธิ์ วัดชัยพฤกษ์มาลา อีกด้วย จึงนับว่าหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ท่านเป็นพระเกจิที่สืบสายพุทธาคมหลายอาจารย์มาอย่างเข้มขลัง โดยเฉพาะการทำปลัดขิก ตะกรุด และเครื่องรางของขลังต่างๆ ท่านยังคงจารมือเอง รวมถึงการเหลาไม้ และวัสดุมวลสารต่างๆเองทุกขั้นตอน จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านเข้มขลังและทรงคุณค่าและที่สำคัญหายากมาก

หลวงพ่อกี๋ท่านเรียนวิชาทำเบี้ยแก้ จากหลวงปู่รอด วัดนายโรง และวิชาปรอท จากเจ้าคุณโพธิ์วัดชัยพฤกษ์มาลา สมัยที่หลวงปู่โพธิ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี หลวงพ่อกี๋ท่านทำเบี้ยแก้ครั้งแรกได้ประมาณ 30ตัว แจกพระธุดงค์ร่วมสมัยและแจกคนใกล้ชิด ไว้กันภูตผีคุณไสย

หลวงพ่อตี๋ได้รับการสืบทอดวิชาต่างๆจากหลวงพ่อกี๋ ในการจัดสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางเบี้ยแก้ และปลัดขิกแบบจารอักขระเต็มตัวที่ไม่เหมือนใคร

หลวงพ่อตี๋ หรือพระครูสุวรรณโชติวุฒิ เจ้าอาวาสวัดหูช้าง ท่านจัดสร้างเบี้ยแก้ตามสูตรที่หลวงพ่อกี๋ท่านถ่ายทอดให้ ท่านสร้างคราวละไม่มากไม่เกิน 20-30 ตัว มีคนจองกันไปหมด

ในการจัดสร้างเบี้ยแก้ หลวงพ่อตี๋ท่านจะบรรจุปรอทตลอดจนอุดชันโรงและจารอักขระเองทุกตัว ทุกขั้นตอนล้วนแล้วแต่ทำด้วยมือภายในวัดทั้งสิ้นไม่ใช่ออกจากโรงงาน จึงค่อนข้างยุ่งยากและเสียเวลามากกว่าจะได้แต่ละตัว

เบี้ยแก้หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างมีด้วยกันสองแบบ แบบแรกเป็นเบี้ยแก้เปลือยหุ้มด้วยตะกั่ว หลวงพ่อตี๋ท่านจารอักขระยันต์เองพร้อมเสกทุกตัว ส่วนแบบที่สองเป็นเบี้ยแก้ถักเชือกลงรักมีหูทองแดง 5 เส้นเรียงกันเป็นขาเดียว

เบี้ยแก้เปลือยของท่านมีการตอกโค้ด ต.กลางดอกจัน และชื่อวัดหูช้างใต้ท้องเบี้ยทุกตัว

สำหรับเบี้ยแก้ถักเชือกลงรักท่านจะตอกโค้ดตัวอักษร ท.บ (ย่อมาจากทองใบ ซึ่งเป็นชื่อของท่าน) ไว้ที่หูทองแดง 5 เส้น

เบี้ยแก้ทั้งหมดของท่านๆจะปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์

เบี้ยแก้ตัวที่นำลงนี้เป็นเบี้ยแก้แบบตะกั่วเปลือย หลวงพ่อตี๋ท่านจารมืออักขระยันต์ไว้ครบสูตร หลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างของท่านมากครับ

ท่านที่สนใจเชิญครับ เบี้ยแก้หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ตำรับหลวงปู่รอด วัดนายโรง รุ่นตะกั่วเปลือย เป็นรุ่นมาตรฐาน ปรอทเต็ม 1 บาท พุทธคุณสูงสุด ตามแบบฉบับของวัดนายโรงโดยแท้ ท่านมั่นใจได้เพราะเบี้ยนี้มาจากวัดโดยตรง จึงรับประกันความแท้แน่นอน 100%

เมื่อบูชาให้อธิษฐานตั้งจิต ในคุณพระศรีรัตนตรัย และคุณของหลวงปู่รอด วัดนายโรง หลวงพ่อกี๋ และหลวงพ่อตี๋ ใช้ได้ตามความปรารถนาทุกประการ


ลดราคาบูชา 1,000 บาท สุดๆแล้วครับ คุณพรหมประกาศิต จอง

 

จับคู่บูชา

พระสมเด็จหลวงปู่ก๋วน วัดตะเคียนทอง จ.ระยอง


ประวัติหลวงปู่ก๋วนโดยสังเขป หลวงปู่ก๋วน หรือ พระครูสุกิจจานุรักษ์ นามเดิม ก๋วน สกุล ริมราง บิดา นายเปรม ริมราง (มารดาผู้เขียนไม่ทราบ)
เกิดปีมะเมีย วันที่ 16 มิถุนายน 2461 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง
อุปสมบท 24 พฤษภาคม 2491 ณ.วัดตะเคียนทอง ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง
พระครูประทุมธรรมมาภิบาล พระอุปัชฌาย์
พระอธิการสนธิ์(พระครูโกศลสังฆกิจ) พระกรรมมาจารย์
พระอธิการรวย(พระครูสุนทรธรรมมานุศาสตร์)พระอนุสาวนาจารย์
สำเร็จญัตติจตุตถกรรมวาจาเวลา 14.29 น.ฉายาว่า อคฺควโย
มรณภาพเมื่อ 20 กันยายน 2548
หลวงปู่ก๋วน เป็นพระวิปัสสนา กัมมัธฐาน สายยุบหนอ พองหนอ
การปฏิบัติธรรมวัดตะเคียนทองลำดับสมาธิและญาณ 16 ของโยคีผู้ดำเนินทางสมถะวิปัสสนา
ลูกศิษย์ของหลวงปู่ก๋วน และที่ขยายสำนักของวัดตะเคียนทองมีดังนี้
1.พระอาจารย์น้ำเพชร มหาลาโภ เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง มีอาจารย์ต้อย อาจารย์เมิน
2.อาจารย์สันต์ เจ้าอาวาสวัดเขาตะแบก บ้านค่าย ระยอง
3.อาจารย์สันติ ดอยแม่สลอง เชียงราย
4.อาจารย์บุญมี วัดป่าสันติวัน มหาสารคาม
5.อาจารย์บุญมี วัดพุทธรรมวนาราม สุรินทร์
6.อาจารย์นพ วัดถ้ำเขาชะอางค์ กิ่งอำเภอเขาชะเมา ระยอง
7.อาจารย์สมคิด วัดศรีพุ่มโพธิ์ ชลบุรี
8.อาจารย์ไพรสณฑ์ วัดโคกหลวง ราชบุรี


หลวงปู่เป็นพระที่มีศีลจารวัตรดีเลิศ เอาใจใส่ลูกศิษย์ทุกคน หลวงปู่เป็นพระปฏิบัติดี
และสอนลูกศิษย์ให้ปฏิบัติตามท่าน

เหรียญหลวงปู่ทวด ย้อนยุค สองแผ่นดิน วัดพุทธไทยธรรมศิริวราราม มาเลเซีย ปี39

หน้ากากกะไหล่เงิน

จัดสร้างโดยคณะกรรมการวัดธรรมศิริวรารามและพี่น้องชาวไทยในมาเลเซีย บ้านกอหรา ต.เยอเนอรี่ อ.เสะ จ.ไทรบุรี (เคดาห์) มาเลเซีย

วัตถุประสงค์ 1.เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาศทรงครองสิริราชสมบัติ 50 ปี โดยขอพระบรมราชานุญาตอัญเชิญตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 มาประดิษฐานหลังเหรียญรุ่นนี้ด้วย

2.เพื่อเป็นทุนบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะภายในวัด

3.เพื่อสมทบทุนสร้างวิหารพระนอน และ

4.เพื่อเป็นทุนการศึกษากับเด็กไทยในมาเลเซีย เข้าพิธีพุทธาภิเษก 2 วาระ

วาระแรก อุโบสถวัดช้างให้ จ.ปัตตานี พร้อมวัตถุมงคลวัดช้างให้ ปี 2538

วาระที่ 2 อุโบสถวัดธรรมศิริวราราม รัฐเคดาห์ มาเลเซีย พิธีเสาร์ 5 วันที่ 23 มีนาคม 2539 โดยมีพระครูวิรัชโสภณ (พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์) เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และนั่งปรกปลุกเสก และยังมีพระเกจิเกจิอาจารย์ชื่อดังจากเมืองไทยและมาเลเซียร่วมในพิธีปลุกเสกอย่างมากมาย เช่น หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย ท่านเจ้าคุณปริยัติวรานุกูล วัดหงษ์ประดิษฐาราม (วัดคอหงษ์) เจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ พระครูอนุรักษ์วาปีพิสัย (หลวงพ่ออาคม วัดดาวนิมิตร) พระคณาจารย์สายหลวงปู่ทวด มีท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิศีลคุณ รักษาการเจ้าคณะรัฐเคดาห์ เป็นประธานกรรมการฝ่ายสงฆ์ และท่านอำนวย ถาวรวงค์ กงสุลใหญ่ ณ ปีนัง เป็นประธานกรรมการฝ่ายคฤหัสถ์ วัตถุมงคลที่จัดสร้าง ได้แก่ 1.เหรียญย้อนยุคพิมพ์เสมารุ่นแรกวัดช้างให้ ด้านหลังประดิษฐานตราสัญลักษณ์ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ประกอบด้วย เนื้อทองคำ, เนื้อเงินหน้า-หลังทองคำ, เนื้อเงิน, เนื้อนวะแก่ทองคำ, เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง และเนื้อทองแดง 2.พระกริ่งลูกแก้ว เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวะโลหะแก่ทองคำ และเนื้อทองเหลืองขัดเงา 3.พระผงพิมพ์เนื้อว่าน 108 4.พระพิมพ์เนื้อผงพุทธคุณมหาลาภ เนื้อสายรุ้ง เนื้อขาว และเนื้อน้ำตาล 5.พระศรีสักยะมุนี และ 6.พระโพธิสัตว์กวนอิม

ขอบคุณข้อมูลจากเว็บพลังจิต โดยคุณ Norragate วัตถุมงคลหลวงพ่อทวดรุ่นนี้ส่วนใหญ่จะตกอยู่กับพุทธศาสนิกชนชาวไทยในมาเลเซีย จึงไม่ค่อยพบเจอของหมุนเวียนมากนักในเมืองไทย ถือเป็นหลวงพ่อทวดอีกหนึ่งรุ่นที่น่าบูชาสะสม เพราะมีเจตนาการจัดสร้างดี มวลสารดี และพิธีดี (พุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดช้างให้) เรียกได้ว่าดีทั้งนอกและใน


ให้บูชา คู่นี้ 600 บาท

 

พระผงญาณวิลาส เนื้อชานหมากหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ




เปิดให้บูชา 3,000 บาท

 

เหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง

พิธีจตุรพิธพรชัย นี้มีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อ หารายได้ไป ปฏิสังขรณ์ วัดเขาใหญ่ จ.สุพรรณบุรี โดยมีนายเรียม นุ่มดี ผู้บัญชาการเรือนจำ จ. อยุธยา เป็นผู้สร้าง เพื่อที่จะนำรายได้ ไปบูรณะวัดเนื่องจากทรุดโทรมมาก จึงได้ นำความประสงค์นี้ไป ปรึกษาหลวงปู่ดู่วัดสะแก ท่านจึงเมตตา ให้คำปรึกษาในการจัด สร้างวัตถุมงคล รุ่นนี้ขึ้นมา ตลอดจนการนิมนต์ พระเกจิมาร่วมปลุกเสกมากมาย ถึง 16รูปด้วยกัน ได้แก่
1.หลวงพ่อมหาสมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุญนาค เจ้าอาวาส สมัยนั้น (มาในนามหลวงปู่สี)
2.หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์ อยุธยา
3.หลวง พ่อโปร่ง วัดขุน ทิพย์ อยุธยา
4.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
5.หลวง พ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม อยุธยา
6.หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง อยุธยา
7. หลวงพ่อไวทย์ วัดบางซ้าย อยุธยา
8.หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
9.หลวง พ่อ เส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพ
10.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพ
11. หลวงพ่อนอ วัดกลาง อยุธยา
12.หลวงพ่อถิร วัดป่าเรไรย์ สุพรรณบุรี
13.หลวง พ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก้งธนู ลพบุรี
14.หลวงพ่อใหญ่ วัด สะแก อยุธยา
15.หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง อยุธยา
16.พระราชสุวรรณโสภณ วัด พนัญเชิง อยุธยา


เปิดให้บูชา 2,000 บาท

 

สนใจลงชื่อจองได้เลยนะครับ

 

สนใจเชิญครับผม

 

ขอจองครับ

 

เบี้ยแก้เปลือย หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ขนาด ยาว 3.5 ซม.


เป็นสายหลวงปู่รอด วัดนายโรง ท่านจะทำไม่บ่อยนัก และ จะมีให้บูชา เท่าที่ท่านทำและปลุกเสกเสร็จเท่านั้นครับ


เบี้ยแก้ เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งมีมาตั้งแต่สมัยหลวงปู่รอด วัดนายโรง และหลวงปู่บุญ สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันมีอานุภาพในการป้องกันเภทภัย คุณไสย์ เขี้ยวงา เป็นมหาอุด เมตตามหานิยม พกพาติดตัว หรือบูชาไว้ที่บ้านดีนัก

เบี้ยแก้นั้นเป็นเครื่องรางที่รวบรวมเอาพุทธคุณและอิทธิคุณของเครื่องรางของขลังทุกชนิดไว้ด้วยกัน

สรรพคุณหรือพุทธคุณเบี้ยแก้เป็นที่ร่ำลือในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม และป้องกันคุณไสยต่างๆ สามารถกันถูกกระทำย่ำยี กันคุณผี คุณไสยเวท อาถรรพณ์ ยาสั่ง ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิง กันไข้ป่าสารพัด ผีป่า ผีโป่ง ผีเปิ่ง ผีปอบกองกอย กันจิตคิดวิกลด้วยโรคอุปาทาน กันมนต์ยาดำย่ำยีด้วยเล่ห์กลมายาสารพัด เป็นต้น

พุทธานุภาพ "เบี้ยแก้"มีสรรพคุณร้อยแปดพันเก้าประการสุดที่ยากบรรยาย ครอบคลุมทุกด้านป้องกันสิ่งชั่วร้าย และแก้เหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดี พ่อค้าแม่ค้าขายหมั่นไว้บูชาจะไต่เต้าเป็นเจ้าสัว จักให้คุณเป็นถึงเจ้าพระยาพานทอง ทรัพย์สินของเต็มวัง อีกช้างม้า วัว ควาย นับได้เหลือหลาย แก้โรคภัยไข้เจ็บ ให้หนักเป็นเบา แก้คุณไสย ยาสั่ง ภูตผีปีศาจ อาถรรพ์อาเพศอัปมงคล เสนียดจัญไรทั้งหลาย และรวมทั้งให้คุณผู้บูชา และให้โชคลาภเรียกทรัพย์

นอกจากนี้ เบี้ยแก้ยังใช้ดีทางการแก้เรื่องร้ายให้กลายเป็นดี ถ้าเรื่องดีๆอยู่แล้ว ก็จะส่งเสริมให้ดียิ่งๆขึ้น.....ที่สำคัญก็คือเรื่องเมตตามหานิยมครับ

พระครูสุวรรณโชติวุฒิ หรือ หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี ปัจจุบันท่านอายุ 73 ปี วัดหูช้างของท่านอยู่ไม่ไกลจากวัดตะเคียนของหลวงปู่แย้ม ท่านเป็นศิษย์เอกทายาทพุทธาคมเพียงรูปเดียวและมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง เกจิดังสมัยพ.ศ. 2500 ที่คนเมืองนนท์เคารพนับถือท่านมาก หลวงพ่อกี๋ ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ท่านจึงได้วิชาการทำปลัดขิกมาอย่างเข้มขลังจนเป็นตำนาน ปลัดขิกเมืองนนท์ ที่สุดยอดปรารถนาและหายาก เนื่องจากพุทธคุณสามารถใช้แทนปลัดขิกของหลวงพ่ออี๋อาจารย์ของท่านได้เลยทีเดียว รวมถึงท่านยังเป็นศิษย์ก๋งจาบ สำนักประดู่ทรงธรรม อยุธยา ศิษย์น้องหลวงปู่เทียม วัดกษัตราฯ และหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน ซึ่งเกจิร่วมสำนักทั้ง 3 รูปนี้ได้ก่อปาฏิหารย์ในคราวปลุกเสกพระที่วัดปราสาทบุญญาวาสสามเสน คือแผ่นทองแดงของพระอาจารย์ทั้ง 3 รูปหลอมไม่ละลายมาแล้ว นอกจากนี้ท่านยังเป็นศิษย์หลวงปู่แดง วัดตะเคียน นนทบุรี หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และเจ้าคุณโพธิ์ วัดชัยพฤกษ์มาลา อีกด้วย จึงนับว่าหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ท่านเป็นพระเกจิที่สืบสายพุทธาคมหลายอาจารย์มาอย่างเข้มขลัง โดยเฉพาะการทำปลัดขิก ตะกรุด และเครื่องรางของขลังต่างๆ ท่านยังคงจารมือเอง รวมถึงการเหลาไม้ และวัสดุมวลสารต่างๆเองทุกขั้นตอน จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านเข้มขลังและทรงคุณค่าและที่สำคัญหายากมาก

หลวงพ่อกี๋ท่านเรียนวิชาทำเบี้ยแก้ จากหลวงปู่รอด วัดนายโรง และวิชาปรอท จากเจ้าคุณโพธิ์วัดชัยพฤกษ์มาลา สมัยที่หลวงปู่โพธิ์เป็นเจ้าคณะจังหวัดนนทบุรี หลวงพ่อกี๋ท่านทำเบี้ยแก้ครั้งแรกได้ประมาณ 30ตัว แจกพระธุดงค์ร่วมสมัยและแจกคนใกล้ชิด ไว้กันภูตผีคุณไสย

หลวงพ่อตี๋ได้รับการสืบทอดวิชาต่างๆจากหลวงพ่อกี๋ ในการจัดสร้างวัตถุมงคลเครื่องรางเบี้ยแก้ และปลัดขิกแบบจารอักขระเต็มตัวที่ไม่เหมือนใคร

หลวงพ่อตี๋ หรือพระครูสุวรรณโชติวุฒิ เจ้าอาวาสวัดหูช้าง ท่านจัดสร้างเบี้ยแก้ตามสูตรที่หลวงพ่อกี๋ท่านถ่ายทอดให้ ท่านสร้างคราวละไม่มากไม่เกิน 20-30 ตัว มีคนจองกันไปหมด

ในการจัดสร้างเบี้ยแก้ หลวงพ่อตี๋ท่านจะบรรจุปรอทตลอดจนอุดชันโรงและจารอักขระเองทุกตัว ทุกขั้นตอนล้วนแล้วแต่ทำด้วยมือภายในวัดทั้งสิ้นไม่ใช่ออกจากโรงงาน จึงค่อนข้างยุ่งยากและเสียเวลามากกว่าจะได้แต่ละตัว

เบี้ยแก้หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างมีด้วยกันสองแบบ แบบแรกเป็นเบี้ยแก้เปลือยหุ้มด้วยตะกั่ว หลวงพ่อตี๋ท่านจารอักขระยันต์เองพร้อมเสกทุกตัว ส่วนแบบที่สองเป็นเบี้ยแก้ถักเชือกลงรักมีหูทองแดง 5 เส้นเรียงกันเป็นขาเดียว

เบี้ยแก้เปลือยของท่านมีการตอกโค้ด ต.กลางดอกจัน และชื่อวัดหูช้างใต้ท้องเบี้ยทุกตัว

สำหรับเบี้ยแก้ถักเชือกลงรักท่านจะตอกโค้ดตัวอักษร ท.บ (ย่อมาจากทองใบ ซึ่งเป็นชื่อของท่าน) ไว้ที่หูทองแดง 5 เส้น

เบี้ยแก้ทั้งหมดของท่านๆจะปลุกเสกเดี่ยวในโบสถ์

เบี้ยแก้ตัวที่นำลงนี้เป็นเบี้ยแก้แบบตะกั่วเปลือย หลวงพ่อตี๋ท่านจารมืออักขระยันต์ไว้ครบสูตร หลวงพ่อท่านตั้งใจสร้างของท่านมากครับ

ท่านที่สนใจเชิญครับ เบี้ยแก้หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง ตำรับหลวงปู่รอด วัดนายโรง รุ่นตะกั่วเปลือย เป็นรุ่นมาตรฐาน ปรอทเต็ม 1 บาท พุทธคุณสูงสุด ตามแบบฉบับของวัดนายโรงโดยแท้ ท่านมั่นใจได้เพราะเบี้ยนี้มาจากวัดโดยตรง จึงรับประกันความแท้แน่นอน 100%

เมื่อบูชาให้อธิษฐานตั้งจิต ในคุณพระศรีรัตนตรัย และคุณของหลวงปู่รอด วัดนายโรง หลวงพ่อกี๋ และหลวงพ่อตี๋ ใช้ได้ตามความปรารถนาทุกประการ


ลดราคาบูชา 1,000 บาท สุดๆแล้วครับ
ขอจองครับ


รับทราบครับ

 

รูปหล่อลอยองค์พระสีวลี หลวงปู่ญาท่านโทน เนื้อทองฝาบาตร


พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่ญาท่านโทน" วัดบ้านพับ ต.ก่อเอ้ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ได้อธิษฐานจิตวัตถุมงคลไว้หลายรุ่น

ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาและนักสะสม ล่าสุดกำลังมาแรง "พระสีวลีศรีคำรุ้ง"

สำหรับ "พระสีวลีเถระ" ท่านเอต ทัคคะในทางผู้มีลาภมาก เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติลงถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์ของพระ มารดา นานถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน

ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดาและพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า "ขอพระนาง สุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด"



ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไป พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลายได้ขนานพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า "สีวลีกุมาร"

"พระสีวลี" ได้รับยกย่องในทางผู้มีลาภมาก ด้วยอำนาจบุญที่ท่านพระสีวลี ได้บำเพ็ญสั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยดา นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย นำมาถวายโดยมิขาดตกบกพร่อง



"พระสีวลีศรีคำรุ้ง" เป็นตำราเก่าของการสร้างพระสีวลีผู้มีลาภมากเมืองศรีคำรุ้ง เป็นเมืองที่รุ่งเรืองในนครจำปาสัก บางท่านว่าเป็นเมืองลับแลที่ "หลวงปู่ญาท่านโทน" ท่านได้สืบสานวิชามา

คำว่า "ศรีคำรุ้ง" แปลว่า รุ่งเรืองฟุ้งไปด้วยทอง ซึ่ง "คำ" ภาษาอีสานแปลว่าทอง

การปลุกเสกพระสีวลีตำรับนี้ ตำราท่านให้ใช้ผอบทองหรือกล่องทองคำครอบพระสีวลีไว้ แต่จะหาผอบทองคำจากที่ไหนได้และวัดบ้านพับก็ไม่มีกำลัง

หลวงปู่ญาท่านโทน จึงต้องโยงสายสิญจน์จากพระประธานใหญ่ ต่อกับทองคำแท่งหนัก 10 บาท และต่อสายสิญจน์จากปลายทองคำมาคลุมพระสีวลีทั้งกอง แค่นี้ท่านก็ว่ามีผลเท่ากับเอาทองคำครอบพระไว้ทั้งหมด



เปิดให้บูชา 400 บาท

 

สนใจเชิญได้ครับ

 

สนใจ แจ้ง ต่อรอง พูดคุยกันได้ครับผม

 

เหรียญหลวงพ่อพร วัดหนองแขม ปี 2519


หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี และหลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปลุกเสก ครับ


ให้บูชา 300 บาท

 

เหรียญนางกวัก หลวงพ่อสมชาย วัดโพรงอากาศ ฉะเชิงเทรา เนื้อเงิน เลี่ยมพลาสติกกันน้ำพร้อมบูชา

หรียญนางกวักรุ่น2 ปี2553 หลวงพ่อสมชายวัดโพรงอากาศ
เนื้อเงิน หลังจารมือ เหรียญประสบการณ์
พุทธคุณเรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม มหาโชค มหาลาภ เจริญรุ่งเรือง

หลวงพ่อสมชายเป็นศิษย์เอกหลวงพ่อแจ๋ ติสสโร วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ (หลวงปู่แจ๋ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ลือชื่อของเมืองแปดริ้วและเป็นผู้สร้างเหรียญนางกวักมีพุทธคุณสูง มูลค่าประมาณเหรียญละหลายแสน) โดยได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้จนกระทั่งท่าน มรณภาพลง และได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมจนหมดสิ้น ถึงขนาดหลวงพ่อแจ๋เอ๋ยปากว่า “ท่านสมชายนี่เขาแทนฉันได้” ซึ่งหลวงพ่อแจ๋เป็นผู้สืบสายพุทธาคมของหลวงปู่ไข่วัดเชิงเลน ตำนานเหรียญพระเกจิมูลค่าสูงที่สุดในเมืองไทย

นอกจากนี้ ท่านยังไปต่อวิชาจากบรรดาสุดยอดคณาจารย์ดังหลายองค์ เป็นต้นว่าพระครูญาณรังษีมุนีวงษา (ทำ) วัดสัมปทวน ก็เรียนจนทะลุปรุโปร่ง จึงเดินทางไปขอเรียนวิชาจาก หลวงพ่อทอง วัดก้อนแก้ว ซึ่งได้รับวิชาตกทอดมาจาก หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก (หลวงพ่อทองท่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่เหลือวัดสาวชะโงก ที่สร้างปลัดขิกได้เข้มแข็งพอๆกับหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ)และ หลวงพ่อถึก วัดสนามช้าง ผู้โด่งดัง วิชาทั้งของหลวงพ่อเหลือ และหลวงพ่อถึก ได้แก่วิชา นะเก้ายอด เป็นต้น จึงตกทอดมาที่ หลวงพ่อสมชาย จนหมดสิ้น แล้วไปศึกษาวิชาพุทธาคมกับ พระครูนนทกิจนิเทศ (กี๋) วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว หลวงปู่ถิร วัดป่าเลไลยก์ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา หลวงพ่อสีหมอก วัดวังตะโก (ลูกศิษย์หลวงพ่อกบ วัดเขาสาลิกา ลพบุรี อาจารย์หลวงพ่อโอภาสี บางมด) ฯลฯจากนั้นท่านจึงธุดงค์รอนแรมไปในภาคเหนือ เพื่อศึกษาและฝึกฝนพุทธาคมจนได้ไปพบกับ หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง จึงอยู่จำพรรษาฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐานกับ หลวงพ่อสิม จนแตกฉาน แล้วธุดงค์กลับมา วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ ช่วยงาน พระครูโพธิวรานุรักษ์ (ไพบูลย์) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ เป็นศิษย์ หลวงพ่อแจ๋ รุ่นพี่พัฒนา วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ จนเจริญรุ่งเรือง

อุปนิสัยของหลวงพ่อสมชายท่านชอบเก็บตัวอยู่เงียบๆ แต่กระแสความดังนั้นไม่เงียบ ท่านไม่ต้องโฆษณาตัวเองแต่อย่างใด เพราะกลุ่มคนที่มาหาต่างรู้ถึงกิตติศัพท์ในฐานะผู้สืบสายพุทธาคมของหลวงปู่ไข่มาจากหลวงพ่อแจ๋ จากปากต่อปากความศรัทธาจึงมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้วัตถุมงคลของหลวงพ่อสมชายทุกรุ่นเป็นที่นิยมสะสมอย่างกว้างขวางเพราะมีประสบการณ์ให้เห็นจริงๆ และพิธีปลุกเสกพระเครื่องหลายรุ่นต้องนิมนต์ท่านเข้าร่วมนั่งปรก เพราะเชื่อในวิชาอาคมขลังที่มีอยู่ในตัวท่านทั้งวิชาจากหลวงพ่อ

เมื่อหลายปีก่อน วันที่ 7 มีนาคม 2538 เวลา 03.00 น. คนร้ายแปดคนเข้าใจว่าท่านเก็บเงินไว้ให้ช่างสร้างโบสถ์จำนวนมาก ทั้งที่เงินเหล่านั้นช่างเอาไปก่อนแล้ว ได้บุกเข้าไปในกุฏิขณะท่านจำวัดอยู่ในกลดซึ่งแขวนไว้กลางกุฏิ คนร้ายปลดกลดลงแล้วรุมทำร้ายท่าน ยิงด้วยปืนหลายกระบอกหลายนัดก็ไม่ออก แทงด้วยเหล็กขูดชาฟหลายอันก็ไม่เข้า จึงเอาไม้และกระโถนลายครามทุบท่านเหมือนกับการปิดประตูตีแมว เสียงดังลั่นกุฏิ พระสุริยา กัลยาโณ พระผู้ช่วยงานหลวงพ่อสมชายที่พักอยู่ใกล้กันตื่นขึ้นวิ่งเข้าไปช่วย โดนคนร้ายยิงสวนออกมาโดนเต็มที่ล้มลงขาดใจตาย คนร้ายหันปืนกระบอกนั้นยิงหลวงพ่อสมชายอีกแต่ไม่ออก จึงคว้าย่ามหลวงพ่อหนีกันไป เพราะมีพระจำนวนมากตื่นวิ่งเข้าไปช่วย พบว่าหลวงพ่อสมชายไม่เป็นอะไรเลย ฟกช้ำดำเขียวจากการโดนทุบ มีเหล็กขูดชาฟหลายอันตกอยู่ในที่เกิดเหตุ คืนนั้นเองชาวบ้านออกมาช่วยกันตามล่าโจร จับได้ 1 คน ต่อมาภายหลังจับได้ครบทั้ง 8 คน ล้วนเป็นโจรมืออาชีพทั้งสิ้น ทำให้ปัจจุบันท่านไม่สามารถเดินได้เหมือนคนปกติ ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุง เนื่องมาจากการโดนทำร้ายบริเวณท้ายทอย กระทบถึงเส้นประสาท

หลวงพ่อสมชายท่านเป็นพระนักสร้างนักพัฒนาที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการดูดวง สะเดาะเคราะห์ อดีตของท่านก่อนบวชถือว่าเป็นชายชาตินักสู้ บู๊ทุกรูปแบบ หนังเหนียวตีรันฟันแทงไม่เข้า เพราะหลวงพ่อแจ๋ลงกระหม่อม และมอบตะกรุดไว้ให้ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ท่านก็ปฏิวัติตัวเองให้สมกับเพศสมณะ โดยใช้วิชาความรู้ของครูบาอาจารย์มาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่สังคมทั้งทางโลกและทางธรรม

มงคลวัตถุของ หลวงพ่อสมชาย ซึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดพุทธาคมมาจากเกจิอาจารย์ชื่อดังจำนวนมาก หลวงพ่อสมชาย พุทธสโร เป็นพระเกจิอาจารย์สำคัญของเมืองฉะเชิงเทรา เป็นผู้สืบทอดพุทธาคมสาย หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ที่มีเหลืออยู่เพียงองค์เดียวเท่านั้น และที่นับว่าสำคัญอีกประการหนึ่งคือ หลวงพ่อสมชาย พุทธสโร เป็นพระเถระที่มีศีลาจารวัตรเป็น พระแท้ ที่กราบได้สนิทใจองค์หนึ่ง ซึ่งมิใช่จะหาได้ง่ายๆ ในยุคนี้

ท่านเป็นพระเถระที่มีพุทธาคมสูงส่ง ปฏิบัติธรรมด้วยศีลาจารวัตรน่าศรัทธาเลื่อมใส มงคลวัตถุของท่านเข้มขลังโดดเด่นทุกด้านดั่งแก้วสารพัดนึก มีคุณค่าควรแก่การแสวงหาในปัจจุบันนี้ จากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่นำพระของท่านไปบูชา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมตตาค้าขาย ขึ้นโรงขึ้นศาล ที่เด่นสุดๆคือเรื่องอุบัติเหตุทั้งทางรถ ทางเรือ มีเรื่องให้เล่ากันไม่ขาดสายและเมื่อมาผนวกรวมกับประสบการณ์ด้านคงกระพันของท่านเอง เลยยิ่งดังไปใหญ่ ดังนั้นอย่าแปลกใจเลยครับที่วัตถุมงคลของวัดนี้จะถูกบูชาหมดไปจากวัดอย่างรวดเร็ว


เปิดให้บูชา 2,500 บาท

 

พระเนื้อดิน ปางสมาธิ ไม่ทราบที่




เปิดให้บูชา 400 บาท

 

.

 

ช่วงเย็นลงเพิ่มเติมนะครับ

 

เหรียญหลวงพ่อโสธร เนื้อเงิน ปี 2540 หลวงพ่อสมชาย วัดโพรงอากาศ




ให้บูชา 2,000 บาท

 

ส่วนตัว มองว่า การให้ของขวัญปีใหม่ด้วย วัตถุมงคล เป็นการดีทั้งผู้ให้ และผู้รับ

และ มอง การซื้อหินสีเครื่องประดับ ราคาค่อนข้างแพง โดยมีสรรพคุณหลายอย่างนั้น อย่างงงๆ เพราะ วัตถุมงคล ที่ปลุกเสกแน่นอน ผญ.หลายคนมองเป็นพุทธพาณิชย์ แต่ หินสีที่อ้างว่ามีสรรพคุณเหล่านั้น น่าเชื่อถือตรงไหน

 

สนใจลงชื่อจองได้เลยครับ