จิตวิปลาส

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย จิตสิงห์, 29 ธันวาคม 2014.

  1. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    พูดสภาวะตนเองเช่นนี้ ถ้าเป็นพระ เรียกอวดอุตรินะครับ

    ถ้าไม่ไช่พระ ก็ถือว่า อยากเล่า อยากระบาย แต่คงไม่ได้อยากอวด หรอกนะ
    ก่อนจะพูดให้คิดถึง เจตนาและประโยชน์ที่จะมี นะครับ
     
  2. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918

    ปวดกระบาล

    จังหวะที่หลวงตามหาบัว เล่า จิตผ่องใส แล้ว เกิดจิตสอนจิต
    อันนั้น เขาทราบเป็นการทั่วไป จาก ปากพระ ที่เป็นศิษย์ใกล้
    ชิด ท่านเหล่านั้นบอกว่า

    จังหวะจิตแบบนั้น เป็น จังหวะของ อนาคามี กำลังเดิน อรหัตถมรรค !!


    และ พอเกิด อกุศลธรรมตักเตือน( จิตสอนจิตว่า ความผ่องใสของจิต
    คือ ตัวกิเลส ) จึงเป็น จังหวะ จิตเห็นจิต หรือ จิตจับพิรุธในจิตได้
    หรือ ที่เรียกว่า เห็นทุกขสัจจ จึงเกิดการ โน้มไปเห็น ธรรมชาติอีก
    สิ่งหนึ่ง ที่ไม่ได้เกิดจากปัจจัย

    การไป ก๊อปปี้ ฟังธรรมเพื่อก๊อปปี้ มันจะ เฝ้นหาธรรมที่ คนเถียง
    ไม่ได้มาสมอ้าง สุดท้าย โง่สุดๆ ไป หยิบเอา อรหัตถมรรค มาสวมตัวเอง

    เรียกว่า เอาถาดทองมารองหมาเยี่ยว !!! [ เอาคุณธรรมของครู มารองรับกิเลส อยากมี อยากเป็น ]


    **************

    ส่วนการเป็น โพธิสัตว์ การเป็น โพธิสัตว์ เหตุมันมาจาก ความกตัญญู
    ( ดูเรื่อง พระมหาชนก ก็ได้ ....นั่นคือ พระโพธิสัตว์ ท่านสอน พระโพธิสัตว์
    ด้วยกัน ท่าเรียกหากัน ให้เข้ามาสู่ เมือง !!! ??? )

    โพธิสัตว์ ไม่สำเร็จแม้แต่ โสดาปฏิมรรค ไม่ตัดกิเลสสักแอะ แต่ใช้ จักรวรรติ
    สูตร ครอบงำ โลก(รูป นาม) ทั้งหมดเอาไว้ เขาจึงพูดว่า ภูมิจิตเหมือน
    อรหันต์


    ฟังธรรมไม่เป็น เห็นแต่ ก๊อปปี้ มั่วซั่วๆ ใครเขาพูดอะไร ดูเหมือนมีคน
    ค้านไม่ขึ้น ก็ไป ขนมาประดับว่า กูมีอย่างนั้นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2015
  3. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ไม่ใช่เรื่องตำราหรอก เป็นการเคารพธรรมวินัย พระธรรมคำสอนมากกว่า นี่ต้องระมัดระวัง

    ทีนี้ หากเข้าใจการเห็น ก็ควรให้แจ่มแจ้ง เห็นก็คือเห็น ไม่ใช่ตา ไม่ใช่สี ไม่ใช่ความหมายของวัตถุที่เห็น

    ส่วนที่ไประลึกได้ในการเห็น ก็เป็นเรื่องทางมโน เพราะรู้ได้ทั้ง ๕ ทวาร

    ตรงนี้ก็ควรกำหนดรู้โดยความต่าง รู้ทางตา รู้ทางใจ



    มโนวิญญาณไม่ใช่สัญญาขันธ์ นี่ต้องเข้าใจว่า หทัยวัตถุเป็นที่จิตเจตสิกอาศัยเกิดเท่านั้น

    เรื่องคนตาบอด และบอดภายหลังต่างกันมากนะ พิจารณาดีๆ เรื่องจักขุวิญญาณ

    บางคนตาดีแต่กลับมองไม่เห็น ก็มี

    ปล่อยให้ความคิดบังตา ก็มี
     
  4. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    การเคารพในพระธรรมวินัยนั้นง่ายนิดเดียวครับ แค่พูดความจริง เอาความจริงมาพูดเพื่อให้คนอื่นรับรู้และเข้าใจแต่ในความเป็นจริง นี่คือการเคารพต่อพระพุทธเจ้า สูงสุดแล้วครับ

    การให้ธรรมความจริงเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
     
  5. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เอกายโน อยํ ภิขฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา

    สติปฏฐานเป็นทางสายเอก เป็นทางไปสู่ความบริสุทธิ คือนิพพาน

    พึงทราบว่า สติปฏิปัฏฐานไม่ใช่มรรค เป็นทางไปสู่มรรค เป็นเหตุให้มรรคเกิด

    ผู้เจริญสติปัฏฐาน ดับกิเลส เป็นตทังคปหาน

    เมื่อเข้าสู่มรรคญาณปหาน ตรงนั้นจึงเรียกว่า มรรคบุคคล ดังนี้



    ถูกแล้ว แม่ยำในกำหนดรู้ทุกข์ยังอยู่ในสติปัฏฐาน

    แต่เป็นระดับอสัมโมหสัมปชัญยะ คือมีนามรูป ไตรลักษณ์เป็นอารมณ์ ไม่คลายออกจากปรมัตถ์


    รู้แล้ว รู้เลยนี่ก็ยังไม่ใช่มรรค เป็นเพียงหมายเอากำหนดรู้นามรูปเบื้องต้นเท่านั้น
     
  6. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    บางทีเราคิดว่าจริงแล้ว ถูกแล้ว แต่ขัดกับพุทธพจน์

    อย่างนี้ถือว่าจริงได้ไหม

    มันเป็นเรื่องทิฏฐิตนมากกว่า ธรรมวินัยไม่มีอะไรง่าย เพราะถ้าง่ายจริงแล้ว

    การศึกษาพระไตรปิฎก หรืออ่านพุทธภาษิตสักประโยคนึง ก็ควรบรรลุธรรมนานแล้ว
     
  7. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ทางสายเอกคือมรรค เพื่อสู่ผล

    รู้แล้วคือรู้เลย ต้องกลับมารู้ มาระลึก มาคิดอีกมั้ย ต้องจำมั้ย ไม่ต้อง มันคือมรรคที่เป็นผลแล้ว

    คิดว่าหลวงพี่น่าจะเข้าใจได้นะครับ
     
  8. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ไม่มีคำว่า ขัดกับพุทธพจน์ เพราะแม้พระพุทธเจ้าท่านก็อ้างอิงกับความเป็นจริงเท่านั้น คือ กฏแห่งกรรม ทำดีไดี ทำชั่วได้ชั่ว

    คำว่าถูกแล้วถูกต้อง ต้องตามความเป็นจริงตามกฏแห่งกรรมเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องอ้างพุทธพจน์หรืออ้างพระพุทธเจ้า เพราะพระพุทธเจ้าท่านสอนมาอย่างนี้ ตลอดมา
     
  9. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    รู้สึกอย่างไร ที่เราตอบไป
     
  10. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ต้องถามว่ารู้นั้นจำได้ไหม

    ถ้าจำได้ การระลึก การจำก็มี

    ต้องถามว่ารู้นั้น ขณะจำได้นั้นเป็นเรื่องราวความหมายไหม

    ถ้ารู้เป็นเรื่องราว ขณะนั้นความคิดก็มี

    ทั้งหมดนี้ปัญญากำหนดรู้ไหมว่าเป็นสภาวะธรรมที่แตกต่างกัน ไม่ใช่คน สัตว์

    พูดถึงมรรค ถึงผล ต้องพูดเรื่องกิเลส สังโยชน์
     
  11. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    รู้นั้น คือธรรม ไม่ต้องจำ ไม่ต้องคิด ไม่ต้องระลึก ไม่ต้องกำหนด ไม่มีความแตกต่าง เรื่องมรรคผล ไม่ไช่เรื่องกิเลส สังโยชน์ แต่มรรคผล คือเรื่องของ ธรรม ธรรมชาติล้วนๆ
     
  12. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนกฏแห่งกรรมอย่างเดียว

    ขันธ์ ธาตุ อายตนะ อริยสัจ ปฏิจสมุปบาท ทางพ้นทุกข์พวกนี้ พุทธองค์ก็ทรงพบมาสั่งสอน

    มันมีอยู่ ๒ ประเภทที่ควรข้ามเสีย คือ

    การกล่าวพุทธพจน์ กลับว่าผู้นั้นติดตำรา

    การกล่าวสภาวะ กลับว่าผู้นั้นไม่พุทธพจน์

    ดังนั้นควร เทียบเคียงว่าลงกันได้ไหม หากขัดกัน ให้เชื่อพุทธพจน์ไว้ก่อน

    จะเป็นประโยชย์ตน และประโยชน์ผู้อื่นด้วย
     
  13. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    งั้น ธรรมทั้งหลายที่พระพุทธเจ้าเอามาสั่งสอนคนทั้งหลาย มาจากตำราเล่มใดไม่ทราบครับ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต ไม่ได้หมายถึงธรรมในตำรา นะครับ
     
  14. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ไม่เข้าใจนามรูป ย่อมไม่เข้าใจเหตุปัจจัย

    ไม่รู้เหตุปัจจัย ย่อมไม่แทงตลอดความเกิดดับ

    มรรคผล ยังไม่พูดถึง


    เพราะอะไร เพราะเหล่านี้เป็นวิปัสสนาญาณ

    บางคนคิดว่าผ่านสภาวะมามาก แต่ปัญญารู้อะไรเกี่ยวกับนามรูปบ้าง ตรงนี้สำคัญมาก

    การปฏิบัติธรรม ต้องไม่รีบร้อน ไม่รีบเร่ง

    ค่อยๆคลายกิเลสหยาบ กลาง ละเอียด ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา

    ขณะนี้รู้ไหมว่าติดข้อง รู้ไหมว่าสภาวะธรรมเกิดอยู่ แม้รู้อยู่ก็ยังเป็นตัวเราที่รู้ รู้นั้นยังเป็นเรา

    ก็ต้องหมั่นกำหนดรู้ ระลึกรู้กันตรงปัจจุบัน ขณะนี้
     
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ตราบใดที่มีกายใจ มีอายตนะ สภาวะธรรมย่อมเกิดอยู่ แต่เหตุปัจจัย มันเกิดแต่เราหรือภายนอกซึ่ง เหตุปัจจัยที่ทำให้สภาวะธรรมเหล่านี้เกิดอยู่ มันคือธรรมชาติครับ ท่านยังสงสัยสิ่งใดงั้นหรือครับ ผมไม่เห็นจะสงสัยในสภาวะธรรมใดใดเลย
     
  16. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ก็คำสอนนี้มาจากที่ใด ก็มาจากพระโอษฐ์ถูกไหม

    ทีนี้เมื่อก่อนปรินิพพาน ทรงกล่าวว่า ธรรมและวินัยจะเป็นศาสดาแทนเรา

    ธรรมและวินัยอยู่ที่ไหน ตอบว่าอยู่ในพระไตรปิฏก พระสรุเสียง คำสอนยังรอผู้ฟังเสมอ

    ให้มองข้ามตำราไปเลย อุปมาเหมือน

    เห็นพระพุทธรูป แทงไปที่พุทธคุณ

    เห็นพระไตรปิฏก แทงไปที่ธรรมคุณ

    เห็นพระสงฆ์ แทงไปที่สังฆคุณ

    อย่าไปติดที่เปลือกนอก
     
  17. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ปัจจัยเหตุเกิดดับต่างๆไม่ได้เกิดแต่เรา หรือเพราะเรา อย่างที่เข้าใจ

    จิตที่วิปลาสเท่านั้น ที่เห็นว่าเที่ยง ว่าเป็นเรา ว่างาม


    ตามที่โยมว่า ไม่สงสัยในสภาวะธรรมใดๆเลย สงสัยบ้างไหมว่าทำไมถึงไม่สงสัย ^^
     
  18. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ถามว่า มาจากพระโอษถ์ มาถามหา พลังงาน เหตุปัจจัย จากตัวหนังสือในตำรากันมั้ย ว่า มันมีผลอะไรกับผู้ใด อย่างไร เมื่อใครคนนั้นอ่านแล้ว มันกระทบเข้าไปถึง ใจ ของเขาทำให้เขา เกืดมีปฏิกิริยา ในการเกิดวิปัสสนา สิ่งใดใหม่ต่อยอดจากเดิมมั้ย

    นี่คือ เรื่องเหตุปัจจัย หรือ การมีมรรคใดๆเกิดกับ ใจวิปัสสนาของเขาคนที่อ่านนั้นบ้าง
     
  19. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เพราะมันเป็นธรรมชาติของวัฏกะสงสารนี้ มันเป็นตามกรรมของสรรพสัตว์เช่นนั้น
    มันเคลื่อนของมันเพราะแรงกรรมอยู่ตลอดเวลา

    ที่ไม่สงสัยเพราะ รู้แล้วว่า ถึงสงสัยไป ก็ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ และถึงไม่สงสัย คำนี้หมายถึง เพราะเข้าใจ จึงไม่สงสัย
     
  20. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ถ้าเป็นอุฆติตัณญู การได้ฟัง หรือได้อ่าน พุทธพจน์ ก็สามารถแทงตลอดในธรรมได้

    ถ้าเป็นวิปจิตัณญู การได้ฟัง ได้อ่าน ทำความเข้าใจ ก็สามารถแทงตลอดในธรรมได้

    แต่ไหนมา พุทธองค์ทรงในอนุสาสณีาฏิหาร์ในการแสดงธรรม คือฟังให้เข้าใจ สัตว์บรรลุนับไม่ถ้วน

    นี่คืออานุภาพแห่งการฟัง แล้วเข้าใจ

    ปัจจุบัน ทั้งอ่าน ทั้งฟังยังไม่เข้าใจ แล้วจะไปปฎิบัติ

    ก็เหมือนวิศวกรที่เรียนไม่ดี แล้วรีบรับงาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...