จิตวิปลาส

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย จิตสิงห์, 29 ธันวาคม 2014.

  1. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เข้าใจ กำหนดละว่าอย่างไร

    ทุกข์ และ สมุทัย เหมือนกัน หรือต่างกัน
     
  2. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อุปทานขันธ์มันคลาย มันคลายที่อายตนะกายใจ ไช่มั้ย เพราะมันหยุดวงจรแค่ที่ตัณหาเกิดมาแล้ว เพราะไม่หลงตัวสติรู้เลยไม่เข้าไปจับ ไปยึด(แต่อาจมีเผลอได้อยู่) ทีนี้ หลวงพี่ไม่ยอมตอบ งั้นผมอธิบายเอง

    ตัวสติรู้ หรือจิตวิญญาณเมื่อตายไปกายสลาย ตัวจิตวิญญาณมันก็ยังมัขันธ์ครบ

    แต่ในขณะที่สติรู้ รู้ทันตัณหาที่เกิดจาก อายตนะกายใจรับรู้มาปรุงได้แค่ตัณหา แล้วตัวสติรู้ทัน (การรู้ทันแปลว่า ไม่ได้หลงเผลเข้าไปร่วมปรุง ดังนั้น อายตนะกายใจจึงมีขันธ์ไม่ครบ

    ครับ
     
  3. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    ตรงไหนหรือ ที่บอกว่าให้คิด

    คิด กับ ใส่ใจ ต่างหรือเหมือนกัน

    เอาซักประเด็น ตอบไปเรื่อย ไม่ค่อยมีประโยชน์
     
  4. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    เป็นความรู้ใหม่

    อยู่ในพระสูตรเล่มไหน ช่วยนำมาให้พิจารณาด้วย
     
  5. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ผมไม่เคยกำหนดละ ไงครับ

    ทุกข์ มีสองแบบ แบบแรกเรียกว่า ธรรมชาติทั้งหลายที่ไม่เที่ยง คนไม่เข้าใจก็ไปตั้งชื่อให้มันว่า มีแต่ทุกข์ที่เกิดและดับ (อันนี้เรียกว่า ผิวเผิน)

    ทุกข์แบบที่สองก็คือ เมื่อธรรมชาติที่ไม่เที่ยงเหล่านั้นถูกอายตนะผัสสะรับรู้มาแล้วเกิดตัณหาแล้วเข้าไปยึดไปจับจนเกิดอุปทาน จนอยากหาทางกำหนดละ อันนี้คือทุกข์สมุทัยอริยสัจ แต่แบบที่สองนี้ คนที่มองว่าอะไรคือทุกขสัจนั้น ถ้ามองเป็นมันไม่ไช่เพราะตัณหาที่เกิด แต่เป็นเพราะความหลงเข้าไปยึดไปจับต่างหากคือ สมุทัยสัจ ที่แท้จริง
     
  6. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ก็เป็นท่านยกมาเอง ที่ว่า ตัณหามันเกิดที่ตรงไหน เพราะมีสติรู้ทัน ตัณหาจึงรู้ว่ามันตั้วอยู่ที่ อายตนะกายใจเท่านั้น ถ้าตัวสติรู้ไม่หลงเข้าใจยึด มันก็จะไม่เกิดอุปทานใดๆตามมา ตรงนี้ เขาเรียกปัญญา ครับ

    หรือแค่นี้ท่านยัง ทำความเข้าใจไม่ได้หรือครับ
     
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    อยานตนะ ไม่ครบ ......


    [​IMG]
     
  8. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    จริงอยู่ ในสัจจะ ๔ เหล่านี้ ทุกขสัจจะมีการเบียดเบียนเป็นลักษณะ มีความให้เร่าร้อนเป็นรส มีปวัตติเป็นปัจจุปัฏฐาน.

    สมุทยสัจจะมีเหตุเป็นแดนเกิดเป็นลักษณะ มีการไม่เข้าไปตัดเป็นรส มีปลิโพธเป็นปัจจุปัฏฐาน


    กำหนดรู้ตรงลักษณะ กิจ รส นี่ก็ต่าง
     
  9. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    ก็การกำหนดละที่เหตุแห่งทุกข์ ของท่านไง คือความคิด หรือท่านมีเหตุผลใดที่จะเรียกมันว่า ท่านไม่ได้คิด
     
  10. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    จะถือสาไหม หากจะว่านั้นไม่ใช่ปัญญา แต่เป็น ความไม่รู้

    เกิดจากการนึกคิดเอาเอง

    สติไม่ใช่ จิต ไม่ใช่วิญญาณขันธ์

    เมื่อแตกกาย จิตเข้าสู่จุติจิตเกิดดับ ปฏิสนธิจิตทันที เป็นไปตามอำนาจกรรม

    คงไม่ใช่เรื่องวิญญานออกจากร่าง มีขันธ์ ๕ อย่างที่เข้าใจ
     
  11. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    หลวงพี่ไม่ต้องแยกครับ รวมความว่า

    ทุกข์เกิดเพราะความหลงเข้าไปยึดไปจับ

    สรุปย่อลงว่า ทุกข์เกิดเพราะความหลง ใครหลง

    สรุปย่อลงที่ว่า ใครคือคนที่หลง
     
  12. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เอ้า...หลวงพี่จะเป็นแจ็คสะแปโร่ ออกเรือ อีกละ
     
  13. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ใครหลง !!?........

    <img src='http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2013/pungpond/28-2/article-2283784-183FAAE4000005DC-739_634x499.jpg' width=200>
     
  14. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    บอกไปแล้วว่าไม่ใช่เรื่องคิด หาความหมาย ไตร่สวน ให้ค่าอะไร

    ทำไมเข้าใจอย่างนั้นหนอ

    นี่จับประเด็นได้อย่าง ว่า

    ตลอดเวลาที่โยมกำหนดรู้นั้น ไม่ใช่สภาวะจริง เพียงแต่ไปหลงกำหนดเงาในกระจก

    หมายถึง กำหนดสัญญามาปะปนกับสภาวะปัจจุบัน

    ดูจากหลายๆคำตอบที่ผ่านมา

    พูดอย่างนี้ก็คงจะค้านอีก งั้นถามว่า ตัณหาเกิดตรงไหน รู้ทุกข กับ เหตุทุกข เอาอะไรมาสังเกตุ
     
  15. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เอา คำว่า ยังเผลอหรือไม่เผลอ ยังกำหนดรู้หรือไม่ต้องกำหนดรู้

    ถ้าไม่มีตัวเราที่เป็นความหลงผิด จะไม่เรียกว่าตัณหา แต่จะเรียกสิ่งที่อายตนะกายใจรับมาปรุงนั้นว่า อารมณ์ความคิดปกติครับ เมื่อไม่มีตัวเราต้องหลงเข้าไปปรุง อุปทานก็ไม่มีวันเกิดขึ้นมาได้ ว่าแต่หลวงพี่เข้าใจตรงนี้มั้ยครับ
     
  16. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อายตนะกายใจ รับผัสสะมาปรุงร่วมกัน มันคือความรู้สึกอารมณ์ความคิดตามธรรมชาติตามเหตุปัจจัยที่รับรู้มา ปรุงเสร็จก็จบลง ไม่มีการปรุงเพิ่มเติมหรือไม่อยากปรุง
     
  17. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ขอโอกาส

    บังเอิญว่า น้าจร สร้างคำถามได้ดี เหมือนกัน กรณี ถามว่า

    " แล้วจะพิสูจน์ว่า มีสติระลึก รูป นาม ดับไป(เกิดการละไปแล้ว) ถูกต้อง ไม่ใช่คิดไปละ "
    อันเป็นตัว ภังคยาน ได้เยี่ยงใด

    ก็ต้องตอบว่า

    อย่างน้อย จะต้องเห็นแต่ องค์ฌาณ " ปิติ สุข เอกัคคตา " ซึ่งก็คือ มีจิตไม่ห่าง
    จากฌาณ 2

    ถ้าละสข ทุกข์ ได้ดีกว่านั้น ควรน้อมไปในญาณทัศนะ เพื่อ ตรวจทาน ความบริสุทธิ
    ของ จิตที่ไม่ห่างจากฌาณที่ยิ่งๆ ขึ้นไป ( ซึ่ง ควรกำหนดรู้ยิ่ง....ขึ้นไป )


    การมีจิตไม่ห่างจาก ฌาณ2 จะเป็นตัวบอกว่า ยังคิด หรือ ไม่คิด

    ถ้าจิตไม่มีองค์ฌาณให้ระลึก คิดล้วนๆ หนอนแทะกระดาษ เงาะป่าล้าน%
     
  18. จิตสิงห์

    จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +687
    อย่าไปรวมกันเลย

    วิปัสสนา ท่านให้แตกออกมา ความเป็นกลุ่มก้อนก็ไม่ปรากฏ

    ความเห็นเป็นคนสัตว์ก็ไม่ปรากฏ ละสักกายทิฏฐิได้

    แล้วจะไม่มาถามว่าใครหลง
     
  19. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    น่าพิจารณาครับหลวงพี่ ตัณหาเกิดตรงไหน
    นั่งคิดทวน ก็ต้องย้อน ปฏิจจสมุปบาท ไป ท่าจะยังอีกไกล
    แต่ก่อนยังคิดละตรงผัสสะ ถอยมาเวทนา ยังเอาไม่อยู่
    มาอยู่ตรง ตัณหา ละอายชั่ว กลัวบาป แหะๆ เท่านี้พอได้ครับ
     
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ตามเหตุปัจจัยที่รับรู้มาปรุง อย่าเรียกว่า เวทนา อย่าเรียกว่า มีวิญญาณ อย่าเรียกว่าตัณหา

    เพราะสิ่งเหล่านี้ อายตนะกายใจ มีครบทั้ง รูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส จะเอาสิ่งใดมาเพิ่มให้เป็นส่วนเกินทำไมครับ

    ที่ไม่เพิ่ม ไม่มีอุปทานก็เพราะ ไม่มีความหลงว่ามีตัวเรา เสพ เลือกเสพ นั่นแหล่ะครับ

    สรุปง่ายๆก็คือ ไม่มีอวิชชานั่นเองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...