ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

"ขออนุโมทนาอย่างสูง กับทุกๆ ความดีในเวปแห่งนี้ สาธุ อนุโมทามิ"

 

ถ้าต้องถูกน้ำฝนมีวิธีแก้ไขอย่างไร..ครับ

 

ศึกษาภูมิประเทศภาคเหนือ...
เพื่อรับสถานการณ์แม่น้ำโขงทะลักเข้าไทย
โดยคุณหนุมาน ผู้นำสาร​

​

เมื่อถึงวันนั้น...น้ำแข็งบนยอดเทือกเขาหิมาลัย คงทะลายไหลลงสู่แม่น้ำโขงอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำจะมีพลังมหาศาล เหลือคณานับ พุ่งชน กระแทก กัดเซาะ ท่วมทะลักทั้งตามลำน้ำ และพื้นราบ....เมื่อมาถึง "เชียงแสน" คุ้งลำน้ำที่มีจุดอ่อนเป็นรูป ตัวยู กระแสน้ำจะไหลขึ้นเหนือไม่ทัน....ระดับน้ำจะทะลักเข้าแผ่นดิน แถบเชียงแสน เชียงของ...

กระแสน้ำและคลื่นจะ กลืนบ้านกลืนเมือง ที่ขวางทาง...ทำลายภูเขาหลุดออกเป็นลูกๆ...เกิดน้ำวนขนาดใหญ่คลุมพื้นที่เกือบทั้งจังหวัด...ก้อนหินยักษ์จากภูเขา จะกลิ้งทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า...ป่าไม้จะกลายเป็นท่อนซุงยักษ์กวาดทุกอย่างไปตามกระแสน้ำ....น้ำมหาศาลที่อยู่บนจังหวัดทางเหนือพยายามหาทางออกไหลลงที่ต่ำกว่า คือ ภาคกลาง....

กว่าก้อนหินใหญ่จะสิ้นแรงแถวตาก แถวกำแพงเพชร ก็กลายเป็นกรวดเป็นทรายจำนวนมาก....จะเกิดเนินเขาใหม่ๆ มากมาย จากการทับถมสิ่งต่างๆ ที่พัดมากองรวมกัน (ที่จังหวัดตาก มี แหล่งท่องเที่ยว ต้นไม้ใหญ่โบราณกลายเป็นหินขนาดใหญ่จำนวนมาก ในอดีตคงเกิดเหตุการณ์นี้มาแล้ว) บ้านเมืองต่างๆ จะถูกดินหินทรายทับจนหาไม่เห็นทรากสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ....

แผ่นดินบางแห่งจะมีพื้นดินสูงกว่าเดิมมาก (ที่จังหวัดเชียงใหม่ มี เวียงกุมกาม ในอดีตก็คงเกิดเหตุการณ์นี้เช่นกัน แล้วยังมีตำนานอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองและจมหายไปทั้งในดิน และกลายเป็นทะเลสาป)....แล้วปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลจะไหลท่วมจนไปถึง เมืองหลวงกรุงเทพฯ...

ส่วนภาคอีสานก็ท่วมเช่นกัน...อย่าเชื่อว่าฉันอยู่จังหวัด สองเชียง สองลำ แล้วจะปลอดภัยแน่นอน....เพราะทั้ง ๔ จังหวัดนี้ ล้วนมีเส้นทางที่น้ำจากแม่น้ำโขงไหลมาถึงอย่าแน่นอน....การท่วมครั้งนี้ ไม่เหมือนน้ำท่วมทุกครั้ง ที่ระดับน้ำค่อยๆ เพิ่มทั้งจากฝนตก และน้ำในแม่น้ำ...แต่การท่วมครั้งนี้เสมือนยักษ์หิ้วถังน้ำใหญ่เท่าน้องๆ อ่าวไทยมาเทลงใส่ที่แม่น้ำโขง....

หากเหตุการณ์นี้ มีสาเหตุจาก "การใช้ระเบิดนิวเคลียร์"....ก็ต้องมีผลต่อเนื่องทั้งเรื่องแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก พายุขนาดใหญ่ พายุหมุนโหมกระหน่ำซ้ำเติม...จะเกิดการระเบิดจากใต้ดิน...ลาวาจะทะลักออกมาลุกเป็นไฟสีเขียว....แม่น้ำเจ้าพระยาจะกลายเป็นลาวา แผ่นดินสองฝั่งเจ้าพระยาจะไหลลงแม่น้ำ...ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว....

เกาะต่างๆ จะท่วมหายไป ประเทศที่ทำกรรมไว้มากหลายประเทศจะล่มจมหายไปในทะเล...เกิดคลื่นขนาดยักษ์ยิ่งกว่าในหนังภาพยนต์ทำลายกลืนกินเมืองต่างๆ ทั่วโลก....เปลือกโลกทั้งหมด จะขยับตัวครั้งยิ่งใหญ่ ประชาชนที่เหลือหลายแห่งจะไม่มีแผ่นดินอยู่....กลับไปเรื่องแม่น้ำโขงทะลักเข้าไทย...ก็ขอให้เริ่มศึกษาลักษณะภูมิประเทศ ศึกษาที่ต่ำ ที่สูงรีบค้นหาที่ปลอดภัย...เพราะเรื่องนี้ต้องเตรียมการนาน หาที่ปลอดภัยจริงๆ จึงจะรอด...

ผู้ที่อ่านแล้วมองเห็นภาพ....ผู้นั้นอาจจะรอดตาย หากไม่ประมาท และรู้จักศึกษาเตรียมตัวให้พร้อม....โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต...น่าสงสารผู้ที่ยังลุ่มหลงวัตถุ ยังใช้ชีวิตอย่างประมาท ยังไม่รู้ "กรรมที่ยิ่งใหญ่" กำลังใกล้มาถึง....ขอให้ผู้ที่เชื่อใน "หลักสัจจะธรรม" ได้มีโอกาสอ่านข้อมูลนี้ ก่อนเกิดสถานการณ์จริง


" หนุมาน ผู้นำสาร " 28-12-2006, 08:03 AM

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=63707&page=5
<!-- / message -->

 

การเตรียมตัว เตรียมปัจจัยเพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว โดย อ.ปริญญา ตันสกุล

1. เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย 3 - 6 เดือน
2. เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย
ได้แก่เสื้อผ้า กระเป๋าน้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ
3. เครื่องใช้ที่จำเป็น
4. ที่อยู่อาศัย
5. ยารักษาโรค

6. ด่างทับทิมและคาราไมล์ (จำเป็นมาก)

ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม(ใช้ล้างร่างกายที่ถูกน้ำฝนที่มีพิษได้ด้วย) เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนัง(ถูกน้ำฝนที่มีสารพิษ) ที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายได้อย่างน่าอัศจรรย์

7. ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ
8. เครื่องช่วยชีวิต
9. แสงสว่าง เช่นเทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้น ท้องฟ้าจะมืดมิด 7 วัน เท่ากับ 1 ราตรี และจะมืดมิดรวม 7 ราตรี หรือ 49 วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)
10. เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ

1. ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิด ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นญาติสนิท หรือคนที่เรารู้จักก็ตาม
2. ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรค สารเคมีที่มนุษย์สร้าง
3. ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนานๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง
4. ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่น เพราะช่วงเวลานั้น ประตูมิติของโลกทั้ง 3 ภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก ผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณก็จะได้เห็น คนที่มาเยือน อาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้ และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด
5. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด (ในช่วงเวลานั้นสนามแม่เหล็กโลก จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง การกินเนื้อสัตว์อาจจะไปกระตุ้นให้เส้นโลหิตในสมองแตกได้ และช่วงนั้นเนื้อสัตว์จะปนเปื้อนไปด้วยสารพิษที่สัตว์ตัวนั้นกินเข้าไป จึงไม่ควรนำมาบริโภค -เกษม-)
6. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม
7. ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย
8. ระวังอากาศที่หนาวเย็น
9. ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่น งูพิษ จระเข้
10. ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน 3 ชั้น เพราะตึกสูงเกิน 3 ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=3906

 

โอ อ่านข้อความของคุณหนุมานแล้วนึกภาพตาม เห็นจิตที่ยังหวั่นไหวไปกับการกลัวความตาย ไม่อยากนึกเลยว่าถึงเวลาจริงๆแล้วจะยังคุมสติอยู่หรือเปล่า

 

ดูคำทำนายที่เมืองโบราณมาเขาบอกว่าปีนี้ทั้งปีไม่มีอะไรดีเลยครับเป็นปีแห่งความเศร้า
ถ้าอยากรู้ประวัติของอาจารย์ วรธนัท อัศกุลโกวิท ดูมติชน วันที่ 13/1/51 หน้า17-18 ครับ ไม่น่าเชื่ออายุ 68 ดูยังหนุ่มอยู่เลยครับแกปิดเมืองโบราณเสียไปกี่บาทไม่รู้

 

ห้วงเวลาละครับ จะเกิดเมื่อไร หรือปี พ.ศ. ไหน ครับ

 

อยากทราบว่าต้องทำอย่างไรครับถึงจะทำให้คนอื่นที่เขาปฎิบัติธรรมแต่เขาไม่เชือเรื่องภัยที่จะเกิดขึ้นครับแบบว่าวันนั้นเขาไม่ได้ไปฟังสัมมนาที่ ม.ธ เลยไม่ได้ให้เบอร์ไว้เขาจะได้รู้ว่าภัยที่มันจะเกิดแบบ big one มันจะเกิดตอนไหน
พวกพี่ๆๆจะช่วยได้ยังไง ผมอยากได้แบบการส่ง sms ไปทางมือถือครับ
เขาจะได้มีเวลาปกกันตัวเองครับ

 

ตอนนี้เป็นน้ำแข็งอยู่ ใช่ปล่าว!

...........

 

เรื่องที่ยังไม่เกิด มักถูกมองว่าไม่น่าเชื่อและเป็นไปไม่ได้แบบนี้เสมอครับ..ผมว่าการที่เค้าอยู่กับปัจจุบันนะดีแล้ว ไม่วิตกกังวลและยังปฎิบัติธรรมสม่ำเสมอด้วย ถ้าผลกรรมไม่เกินLimit ก็ดีไปครับ ส่วนผู้ที่มีหน้าที่ตามรหัส มักจะรู้ตัวและเข้ามาค้นหาเองในที่สุด (บางคนอาจไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง) เราไม่ต้องกังวลไปแค่บอกว่าเราเป็นห่วงและเตือนไม่ให้ประมาทถือว่าดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องให้เค้าเชื่อเราทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้ครับ..
คนจะรอดไม่ได้อยู่ที่เชื่อหรือไม่ครับ เค้าเองอาจรอดแบบปาฎิหาริย์ก็ได้ ถ้าจิตใจบริสุทธิ์เป็นเมล็ดพันธ์ที่ถูกคัดสรรแล้ว

 

ทราบมาว่าใกล้แล้วครับ ส่วนมากระบุใกล้เคียงกัน
ห้วงเวลานี้เลยครับ ปี 2551-2552
หลังจากนั้น ปี 53 น่าจะเข้าสู่ยุคใหม่กันแล้ว

อาจารย์จิตรา บอกว่ายุคต่อจากนี้ไปจะเป็นยุคของ "โยคีฆราวาส "[Household Yogi] คือไม่ต้องบวชพระก็ปฎิบัติธรรมได้และสามารถบรรลุเป้าหมายทางจิตได้เช่นกัน (ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องออกบวช อันนี้แล้วแต่..) เพราะยุคนี้ทุกคนมีหน้าที่ ไม่อาจละทิ้งภาระครอบครัว พ่อ-แม่ ได้เหมือนก่อน ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้อื่นแลเห็นจนขยายวงแห่งความดีงามออกไปให้มากที่สุด..โดยเริ่มที่ตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก

ประเทศไทยถูกเบื้องบนแปลนไว้ว่า จะเป็นเสาหลักของโลกในยุคนี้จนอนาคตจากนี้ไป ผู้คนจะหลั่งไหลเข้าหาประเทศไทยเพื่อศึกษาวิทยาการและภูมิปัญญาของเรา (และมีปัจจัยอื่นๆอีกมากอย่างไม่นึกไม่ฝัน)แม้ว่าช่วงนี้จะเห็นว่าไม่น่าเป็นไปได้ก็ตาม เพราะฝ่ายพลังลบ เค้ารู้แผนการณ์นี้เช่นกัน จึงเข้ามาทำลายล้างตามหน้าที่ของเค้า..แต่ในที่สุดเค้าก็จะถูกชำระจิตใจเช่นกัน..

ส่วนภาคต่างๆของไทย...มีผลกรรมเฉพาะพื้นที่กำกับไว้ เช่น..
ภาคใต้ การแย่งชิงดินแดน ยึดล่าอานิคม ข่มเหงกัน จนถึงการประมงล่าสัตว์ คือผลกรรมหลักๆของที่นั่น ภาคใต้พื้นดินจะจมลงหายไปหลายส่วน..เหลือเป็นเกาะตามที่หลายๆคนทราบกันดี
ภาคเหนือ ผมกรรมจากการประพฤติผิดด้านกามารมณ์ การล่วงประเวณี จากความเชื่อผิดๆ กรรมดั้งเดิมจะส่งผลให้พบ ภัยจากน้ำและธรณีสูบ เป็นต้น

เวลา: เหลือน้อยมาก ให้โอกาสมาหลายครั้งก็ไม่เปลี่ยนแปลง แก้ไขให้ดีขึ้น จนตอนนี้สายไปแล้ว ประเทศไทยจะพบกับเหตุการณ์ที่หนักที่สุดก่อน..ตอนนี้เริ่มแล้วกำลังจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น...พวกเราทำได้อย่างเดียวคือทำตัวเองให้ดี รับรู้ดูเห็นเหตุการณ์ก็แค่ให้รู้ไว้พอแล้ว เรื่องเวลาที่จะเกิดภ้ยใหญ่นั้นย่อมไม่มีใครล่วงรู้ ถึงรู้ก็ไม่มีตรง จะเป็นวันที่รวดเร็วและตั้งตัวไม่ทัน

คุณสมบัติของผู้ที่จะรอด: เตรียมจิตของตัวเองให้ดีที่สุด รอดก็รอดที่จิตตัวเองเท่านั้น ตัวเราเลือกเองตัดสินไว้เองทั้งสิ้น คนที่อื่นก็รอด ชาวนาที่จิตใจดีงามบริสุทธิ์รอดเยอะเพราะเค้ามีหน้าที่สำคัญด้านเกษตร ผู้มีหน้าที่สำคัญด้านต่างๆก็จำเป็นต้องรอดทุกวิชาชีพ เพื่อการพัฒนาการในยุคต่อไป


อาจารย์ดาสิรา นาราดา ฝากมาบอกว่าให้พวกเราเก็บหนังสือต่างๆที่มีประโยชน์ไว้ให้ดีๆทั้งบันทึกประวัตศาสตร์ ภูมิปัญญา เทคนิคการเพาะปลูก ปศุสัตว์ ฯลฯ เก็บไว้ให้ปลอดภัยเพราะจะมาค่ายิ่งกว่าอะไร แม้แต่การจุดไฟอย่างง่ายๆก็ตาม

อาจารย์ยังหวังว่าจะไม่ถึงขั้นเปลื่ยนโลกใหม่..หรือเปลี่ยนมิติไปอยู่อีกที่หนึ่งโดยไม่จำเป็น เพราะการกำเนิดของมนุษย์โลกต้องมานับหนึ่งใหม่โดยเสียไปเปล่าๆ สู้คัดเลือกเฟ้นหาเมล็ดพันธุ์มนุษย์ที่จิตใจดีงามพร้อมไปสร้างโลกใหม่จำนวนนึงบนโลกใบเดิมดีที่สุด..




<!-- / message --><!-- sig -->http://palungjit.org/showthread.php?t=104085&page=10

 

โลกใบเดิม...แต่จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เพราะ ....น้ำจะมาเพิ่มแทรกเข้าไปในทุกอณูทุกสิ่ง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** หากเชื่อโลกุตตระ ให้โอกาสตนเอง ****

จุดธูป ๗ ดอก
ขอขมาโลกุตตระธรรม และ ถวายสัจจะ
เชื่อโลกุตตระและสัจจะ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต
ข้าพเจ้าขอน้อมรับสิ่งที่โลกุตตระมอบประทานให้ พร้อมด้วยกายวาจาใจ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ทุกยุค ****

ผู้นำพาให้พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พบสัจจะธรรม
คือ องค์โลกุตตระธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เมื่อ 2-3 อาทิตย์ก่อน ได้คุยกับเพื่อนร่วมงาน มาจากโคราช กล่าวถึงพระอาจารย์ท่านหนึ่ง แทบภาคอีสานเพื่อนร่วมงานท่านนี้เคยไปบวชอยู่กับท่าน พระองค์นี้ ท่านเคยเตือนตอนก่อนจะเกิดคลืนยักถล่มภาคใต้ ให้โทรบอกญาติพี่น้องให้ขึ้นมาจากทางใต้ หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็โดน.. ท่านเล่าว่าท่านปู่พญานาคมาบอกในนิมิตเตือน และขณะนี้ท่านก็เตือนมาว่าให้ระวัง ในปี 2552 เป็นต้นไป ถึง 54 ให้เพื่อนผมเร่งภาวนาให้มาก

 

หากพิจารณาบทสวดมนต์ทำวัตรแล้วจะพบลายแทงขุมทรัพย์ทำให้เกิดปัญญาและให้ที่พึ่งทางใจแก่เราได้

พะหุง เว สะระณัง ยัติ ปัพพะตานิ วะนานิ จะ, อารามะรุกขะเจต<SUB>.</SUB>วะนานิ มนุสสา ภะยะตัชชิตา
มนุษย์เป็นอันมาก, เมื่อเกิดมีภัยคุกคามแล้ว, ก็ถือเอาภูเขาบ้าง, ป่าไม้บ้าง, อารามและรุกขเจดีย์บ้างเป็นสรณะ<O</O
<O> </O>
เนตัง โข สะระณัง เขมัง, เนตัง สะระณะมุตตะมัง, เนตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะ ทุกขา ปะมุจจะติ<O</O
นั่นไม่ใช่สรณะอันเกษมเลย, นั่นไม่ใช่ สะระณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะนั้นแล้ว, ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้<O</O
<O> </O>
โย จะ พุทธัญจะ ธัมมัญจะ สังฆัญจะ สะระณัง คะโต, จัตตาริ อริยะสัจจานิ สัมมัปปัญญายะ ปัสสะติ<O</O
ส่วนผู้ใดถือเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะแล้ว, เห็นอริยสัจคือความจริงอันประเสริฐสี่ด้วยปัญญาอันชอบ<O</O
<O> </O>
ทุกขัง ทุกขะสะมุปปาทัง ทุกขัสสะ จะอะติกกะมัง, อะริยัญจัฏฐังคิกัง มัคคัง ทุกขูปะสะมะคามินัง<O</O
คือเห็นความทุกข์, เหตุให้เกิดทุกข์, ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้, และหนทางมีองค์แปดอันประเสริฐเครื่องถึงความระงับทุกข์<O</O
<O> </O>
เอตัง โข สะระณัง เขมัง, เอตัง สะระณะ มุตตะมัง, เอตัง สะระณะมาคัมมะ สัพพะทุกขา ปะมุจจะติ<O</O
นั่นแหละเป็นสรณะอันเกษม, นั่นเป็นสรณะอันสูงสุด, เขาอาศัยสรณะนั้นแล้ว, ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้<O</O

 

<TABLE class=tborder id=post948609 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>ปุณกะ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_948609", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:23 PM
วันที่สมัคร: Dec 2007
ข้อความ: 14 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 0 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 152 ครั้ง ใน 14 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 0


</TD><TD class=alt1 id=td_post_948609 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->"ผู้เขียนยังเป็นคนหนา ปัญญายังหยาบ ไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของบุคคลคนอื่นต้องขออภัย มัวแต่ค้นหาความเลวในใจตน เราคณะปฏิบัติธรรมต้านภัยพิบัติเขามหาชัย ยินดีให้ทุกท่านที่สนใจร่วมปฏิบัติธรรม โปรดอย่าถามว่าปฏิบัติสายไหน เราไม่มีสาย ไม่มีก๊ก ไม่มีเหล่า เราถือพุทธบิดรองค์เดียวกัน คือพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ เอาพระธรรมเป็นแม่ เพราะดื่มน้ำนมท่านคือรสของพระธรรม พระอริยสงฆ์เป็นที่พึ่งครูบาอาจารย์ พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย เทพพรหมทั้งหมดเป็นพี่เลี้ยง นำพาเราไปสู่สัมมาทิฐิ ใช้ปัญญาที่มีอยู่ถึงแม้เล็กน้อย ขอพิสูจน์คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า " ขอดำรงพระศาสนา สืบพระศาสนา เผยแพร่พระศาสนา ประกาศพระศาสนาสืบไป"
<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>


</FIELDSET>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ขอโมทนาบุญด้วยอย่างที่สุดครับเมื่อถึงวาระพวกเราจะได้พบและร่วมงานเพื่อพระพุทธศาสนากันต่อไปครับ

สิ่งสำคัญก็คือการประสานรวมสายการปฏิบัติของพุทธศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียวสายพระพุทธเจ้าครับ ด้วยเหตุนี้ พระพุทธศาสนาจึงจะเจริญรุ่งเรืองดั่งสมัยพุทธกาลได้ครับ

ชื่นใจที่ท่านและหมู่คณะได้เห็นภาพรวมสำคัญเดียวกันในการทำงานครับ สาธุ