ผีอำ

แค่นึกถึงก็ปิติจนน้ำตาไหลเลยค่ะ

 

โชคดีพี่นพมาแจม ลืมบอกให้สมาทานศีล และสมาทานกรรมฐานด้วย ในบทสมาทานกรรมฐานของวัดท่าซุง (มีอาราธนาพระอยู่ในตัว) และพิจารณาร่างกาย ทั้งอารธนาก่อนไปและขอขมาพระทุกครั้งก่อนกลับด้วยค่ะ



คำสมาทานพระกรรมฐาน
ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ)
ศิษย์หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา



นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)

อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจัจชามิ

ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

 

ความศักดิ์สิทธิ์ของหลักขึงสายอัพโภกาส

มาธุดงค์เป็นครั้งแรก และที่แรก ถือศีลแปดพร้อมปฏิบัติธุดงควัตรเป็นครั้งแรก และนอนในเขตวัดเป็นครั้งแรกในชีวิต มาถึงวัดปุ๊บรีบลงทะเบียน เสร็จแล้วหอบสัมภาระมาตามหมายเลขที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ณ ป่าร้อยไร่ ซึ่งเป็นเขตปักกลดของพรามณ์หญิง

ข้าพเจ้าขณะเตรียมกางเต็นท์ก็กางหนังสือหลักการปฏิบัติธุดงค์ ของวัดท่าซุงเพื่อศึกษา และท่องคาถาตามที่หนังสือสอนไว้ทุกประการ ไม่กล้าผิดหรือบิดพลิ้วแม้แต่น้อยเพราะกลัวผี ซึ่งประกอบไปด้วย การแผ่เมตตาจิตด้วยบท เมตตัญจะ ( ท่องตามหนังสือ ) และตั้งใจว่า

“ ขอท่านที่อยู่ที่นี้ทั้งหมด บรรดาอมนุษย์ทั้งหลาย มนุษย์ทั้งหลาย เทวดาหรือพรหมก็ดีที่รักษาที่นี้ เราขออาศัยสถานที่ท่านอยู่ เราขอยอมรับนับถือในท่าน ว่าท่านเป็นผู้มีสิทธิ์ ขอท่านได้โปรดคุ้มครองให้เรามีความสุข ปลอดภัยจากอันตราย แล้วก็ช่วยส่งเสริมในการเจริญสมณธรรมด้วย ”

ท่านบอกว่าบท วิปัสสิส ที่เขาสวดเวลาทำพิธีภาณยักษ์กัน อันนี้ไปที่ไหนไม่ควรใช้ ถ้าเผลอเมื่อไหร่เทวดาเขาตีพังเมื่อนั้นแหละ เอาไปเป็นบทขับผีขับเทวดาไม่ควรอย่างยิ่ง บทที่เป็นศัตรูกับเขาอย่าใช้ ใช้แต่บทที่เป็นมิตร

เวลาปักกลด ท่านสอนให้นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน แล้วว่าคาถาบารมี ๓๐ ทัศ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะปักเสร็จ คาถาคือ

อิติ ปาระมิตตา ติงสา อิติ สัพพัญญู มาคะตา
อิติ โพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะ เต นะโม

และเวลาตอกหลักขึงสายอัพโภกาส ( สายเชือกที่ขึงกลด ) ว่าคาถา “ ภะสัมสัม วิสะเทภะ ” ทีนี้ไอ้เราไม่ได้ปักกลดแต่กางเต็นท์แทน ทำไงดีหละ แต่ช่างเถอะถึงเรากางเต็นท์แต่ก็ท่องตามท่านเพราะกลัวผี ก็เปิดหนังสือด้วยพร้อมกับกางเต็นท์ไปด้วยอย่างทุลักทุเลไปจนเสร็จ

คืนแรกผ่านไปได้ด้วยดี หลับสบายเพราะเหนื่อยจากเดินทางและหอบสัมภาระรุงรังแถมกางเต็นท์เองแต่เพียงผู้เดียวอีก ( ไม่เคยทำพึ่งทำเป็นครั้งแรก )

ตื่นเช้ามา มองไปที่บนหลังคาตรงกลางยอดเต็นท์ ปรากฏว่า มดแดงหลายสิบตัวนอนตายกันดาษดื่น เนื่องจากเต็นท์ของเราอยู่ใต้ร่มไม้พอดี เจ้ามดแดงโชคร้ายคงบุกมาจู่โจมผู้บุกรุกหวังทำร้ายศัตรูในยามค่ำคืน ต้องมาตายเนื่องจากความศักดิ์สิทธิ์ของคาถาตอกหลักสายอัพโภกาสเป็นแน่แท้ อืม เรานั้นหนาได้แต่แผ่เมตตา....ตอนขออาศัยสถานที่ในครั้งแรกนั้น นึกถึงแต่มนุษย์ อมนุษย์ เทวดาและพรหม แต่ลืมนึกถึงเจ้ามดแดงอย่างเจ้า..... เราขอโทษ

 

ห๊า คาถาฆ่ามดได้ด้วยเหรอคะ...อันนี้มุขใช่มั้ยคะพี่ทองชมพู

 

เป็นเรื่องจริงค่ะ พระเวลาออกธุดงค์ในป่า เจอภัยทั้งมนุษย์ อมนุษย์ ผี พรหมเทวดาที่เป็นมิจฉา คุณไสยจากจอมขมังเวท ตลอดจนสัตว์ร้ายนานา ถ้าไม่มีคาถาป้องกัน เห็นทีจะเป็นศพจ้า

จะเป็นโทษเฉพาะผู้รุกล้ำเข้ามาอย่างสัตว์ร้ายเข้ามาใกล้ได้แต่ไม่สามารถล้ำสายอัพโภกาสเข้ามาทำร้ายได้จ้า

 

จริง ๆ นี่แยมก็เพิ่งรู้นะคะ เกี่ยวกับบทสวดจะส่งพลังร้อนเย็น หรือ
แต่ละภพภูมิไม่สามารถฟังบทสวดบทนั้นบทนี้ได้
เมื่อรู้ก็กลายเป็นต้องระวัง
ก็อ่านไปเรื่อย ๆ บางทีก็เจอบทสวดขององค์นั้นองค์นี้ที่เป็นแบบเฉพาะตัว
เยอะแยะไปหมด...

รู้สึกว่าสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับศาสนาพุทธนั้น รู้ไม่ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งของทั้งหมดด้วยซ้ำ
บางครั้งก็คิดว่าตัวเองมีศาสนาไว้ใส่ในบัตรประชาชนกับทะเบียนบ้านเท่านั้น..
ดีที่กลับใจทัน..หลงไปที่อื่นซะนาน..คนเราถ้ามันไม่เจอทุกข์
คงไม่หาที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ขอบคุณความทุกข์นั้น อิอิ
ขอบพระคุณที่แบ่งปันความรู้ค่ะ พี่ทองชมพู

 

จริง ๆ แล้วเราทราบไว้บ้างเพื่อป้องกันและหาทางหนีทีไล่ถูก แต่ก็อย่าถึงกับวิตกจนเครียดไป ขอให้เรายึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุดไว้ พร้อมกับมีศีลและให้ถึงพร้อมด้วยพรหมวิหาร เจริญเมตตาอันไม่มีประมาณ เท่านี้ก็คุ้มครองให้เราปลอดภัยได้ ภายใต้ไม่เกินกฎของกรรมจ๊ะ

ปล.เพิ่มระลึกถึงความตาย และตั้งเป้าหมายตายเมื่อใดขอไปนิพพานเข้าไปด้วย ทำได้เมื่อไหร่ ท้าวมหาราชส่งองครักษ์ส่วนตัวเป็นเทวดามาคุ้มครองแน่นอนค่ะ

 

บทนี้ คนสวดก็ต้องบริสุทธิ์ แถมก็ต้อง สวดให้ถูกกาลเทศะด้วย มันก็คงเหมือนไปประกาศกฏอัยการศึก กับ โลกวิญญาณ ก็เหมือนกับที่ท่านเคยสอนว่า อย่าอวดดีกับผี อย่าลองดีกับพระ มิฉะนั้น จะอ่วมใช่น้อย

 

ขอบคุณในคำชี้แนะค่ะ

 

พระจุฬามณีเจดียสถาน

เรียนท่านสมาชิกกระทู้ผีอำทุกท่านทราบ ต่อไปนี้จะเล่านิทานกล่อมท่านก่อนนิทรา ขอท่านจงตามมา เราจักพาท่านไป ก่อนอื่นขอให้ปฏิบัติตามกฎ มิเช่นนั้นจะไม่ให้ไป ถึงตามไป ก็ไม่เปิดประตูรับ

ขอทุกท่านจงลืมความชั่วที่เราเคยทำมาให้หมด ตอนนี้เราจะคิดดี ทำดี เท่านั้น (ไม่ต้องพูดให้อ่านอย่างเดียว)

ขอขมาพระรัตนตรัย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (ว่า 3 จบ)

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรมและพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดีด้วยทางกายก็ดี หรือวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี และมีเจตนาก็ดี ไม่มีเจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมรสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ


บูชาพระรัตนตรัย

โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม
สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง
อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ
สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ
ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ



สมาทานศีล ศีล ๕ หรือ ศีล ๘ ก็ได้ แต่ไหน ๆ ก็สมาทานแล้วก็ศีล ๘ ไปเลย ถือแค่ระหว่างเราฟังนิทานแป๊บเดียวเท่านั้นจ้า ไม่ได้ให้ถือตลอดไป หรือใครจะถือตลอดไปก็อนุโมทนาล่วงหน้าก็แล้วกัน

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ( ๓ ครั้ง )
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

คำสมาทานศีล 8

1.ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ด้วยตนเองและไม่ใช่ให้ผู้อื่นฆ่า)

2.อทินนาทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากการลักขโมยของผู้อื่นด้วยตนเอง และไม่ใช่ให้ผู้อื่นลักขโมย)

3.อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากอสัทธรรมกรรมอันเป็นข้าศึกแก่พรหมจรรย์)

4.มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากการพูดคำเท็จ คำไม่เป็นจริง และคำล่อลวงอำพรางผู้อื่น)

5.สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากการดื่มกินสุราและเมรัย เครื่องดองของทำใจให้คลั่งไคล้ต่างๆ)

6.วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากบริโภคอาหารในเวลาวิกาล)

7.นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากดู ฟัง ฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมเครื่องดนตรีต่าง ๆ และดูการเล่นที่เป็นข้าศึกแก่กุศล และทัดทรงตบแต่งร่างกาย ด้วยเครื่องประดับและดอกไม้ ของหอม เครื่องทาเครื่องย้อมผัดผิวให้งามต่างๆ)

8.อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ (ข้าพเจ้าขอสมาทานซึ่งสิกขาบท คือ งดเว้นจากการนั่ง นอน เหนือเตียง ตั่ง มีเท้าสูงเกินประมาณ และที่นั่งที่นอนอันสูงใหญ่ ภายในใส่นุ่นและสำลี อาสนะอันวิจิตรไปด้วยลวดลายงามด้วยเงินทองต่างๆ)


สมาทานพระกรรมฐาน

อิมาหัง ภะคะวา อัตตะภาวัง ตุมหากัง ปะริจัจชามิ

ข้าแต่สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอมอบกาย ถวายชีวิต แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออาราธนาบารมี พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ ขอพระกรรมฐานทั้ง ๔๐ ทัศ พระปีติทั้ง ๕ และวิปัสสนาญาณทั้ง ๙ จงมาบังเกิดปรากฏ ในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพระพุทธเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะแห่งเมฆจิต สามารถกำหนดจิต รู้ภาวะการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุ ผล อดีต อนาคต และปัจจุบัน ได้ทุกขณะจิต ที่ปรารถนาจะรู้ เมื่อรู้แล้ว ขอให้เห็นภาพนั้น ได้ชัดเจนแจ่มใส และพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกประการ เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้น ได้โดยมิต้องกำหนดจิต แม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ปล. ตรงคำว่า ข้าพเจ้าขอมอบกายถวายชีวิต ให้ตัดสินใจมอบชีวิตนี้ให้ท่านเด็ดขาดไปเลย

หายใจเข้า ภาวนาคำว่า นะมะ หายใจออก ภาวนาคำว่า พะธะ ประมาณ ๑๐ นาที

 

ตอนนี้เราเป็นคนดีแล้ว เราเป็นผู้ที่ทรงศีล ๘ ขอให้มั่นใจว่าตอนนี้เราเป็นคนดีจริง ๆ และคิดตามว่า

นับตั้งแต่เราอยู่ในท้องแม่มา เราต้องนอนคุดคู้อยู่ในท้อง ท่านคิดว่าอยู่ในท่านี้ตั้ง ๙ เดือน ท่านรู้สึกเมื่อยไหม ถ้านึกไม่ออกให้นั่งกอดเข่าอยู่ท่าเดียว ห้ามเปลี่ยนท่าเลยสัก ๓ ชม. ดู ว่าท่านรู้สึกอย่างไร และต้องนอนอยู่ท่ามกลางน้ำเลือดน้ำคร่ำที่แสนสกปรก แถมกินเลือดเป็นอาหารอีกด้วย พอคลอดออกมาเป็นทารกแล้วก็ยังพูดและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หิว ปวดเมื่อย ปวดอึ ปวดฉี่ ก็บอกไม่เป็น ได้แต่ร้อง และนอนแช่อึแช่ฉี่อยู่นานกว่าจะมีคนมาช่วยเปลี่ยนให้

พอโตขึ้นมาหน่อยก็ต้องโดนบังคับให้ไป ร.ร. เรานั้นขี้เกียจจนเหลือทน พ่อแม่ก็ไม่ยอมเข้าใจหัวอกเราเลย แถมยังเอาไม้มาฟาดเราอีกด้วย เรียน เรียน และเรียน ตั้งหลายปีกว่าจะจบ ต้องเหนื่อยหางานทำ

ได้งานก็ไม่ถูกใจ เจ้านายจุกจิกจู้จี้ขี้บ่น แถมเพื่อนร่วมงานก็งี่เง่า เรานั้นเบื่อจะตายชัก แต่ต้องทนถ้าตกงานเห็นทีต้องอดตาย พอเราจะรักใครสักคนเขานั้นก็ไม่รักเรา แถมบางทีมาจีบเพื่อนแทนซะหน้าตาเฉย แต่ไอ้คนที่เราไม่ต้องการมันกลับหน้าด้านตื้อเช้าเย็น แถมหิวโน่นนี่อยากได้เสื้อผ้าสวย ๆ กระเป๋าแอร์เมต และทองเพชรมาใส่ อีกทั้งรองเท้าคู่ใหม่ที่แสนแพง ไม่พอยังอยากได้รถยนต์ และอีกบ้านช่องเอาไว้อาศัย

แต่งงานมีลูกยิ่งเหนื่อย ต้องรับใช้ทั้งลูกทั้งผัว แถมต้องเอาใจทั้งพ่อแม่ผัวและญาติพี่น้องเพื่อนฝูงอีกกองพะเรอ ทำงานหาเงินเหนื่อยใจแทบขาด กลับมาบ้านยังต้องเก็บกวาด แถมซักผ้าทั้งครอบครัว เฮ้อ...เหนื่อยอยากยื่นใบลาออกทั้งตำแหน่งเมียและตำแหน่งแม่ แต่จะไปยื่นกับใคร อีกทั้งเงินไม่พอต้องไปยืมเขาเป็นหนี้เป็นสินหมุนหน้าหมุนหลัง หมุนจนเวียนหัว สรุปแล้วเกิดเป็นคนมีแต่ทุกข์ สุขหาไม่เจอ เราเบื่อแล้วใช่ไหม ถ้าเบื่อแล้วต่อไปนี้เราไม่อยากเกิดอีกต่อไป หากตายตอนนี้ได้ก็ยิ่งดี จะได้ไปอยู่กับพระพุทธเจ้าให้รู้แล้วรู้รอดไป

เมื่อเราตกลงปลงใจไม่อยากเกิดอีกต่อไปได้แล้ว ให้ทำจิตแค่สบาย ๆ แค่เบาสบาย และอย่าคิดอะไร คิดแค่ว่าเราจะไปพระจุฬามณี และเอาจิตตามเรามา

 

แท่น.. แท๊น..นนน

พระจุฬามณีเป็นมณฑปแก้ว ๗ สี ส่องประกายระยิบระยับ ทรงระฆังคว่ำ มียอดแหลม พร้อมกับธงโบกปลิวไสว ธงนั้นมีแฉกตรงกลางคล้ายกับตุงของบ้านเรา ที่ทางขึ้นมีบันไดสูงลิ่วทั้ง ๔ ด้าน ทอดลงมา ข้างราวบันไดคือพญานาคตัวใหญ่ทั้ง ๒ ข้าง ที่ประตูทางเข้า มีเทวดาเฝ้าทั้ง ๔ ด้าน จะเข้าข้างในไม่รับใครให้ซี้ซั้ว ต้องมีตั๋วผ่านประตูกันทุกคน ไม่รับสินบนทั้งเงินทองของกำนัลทุกชนิด เฉพาะ คนที่ทรงศีล ๕ บริสุทธิ์ ขึ้นไปเท่านั้นจักเข้าได้ หนึ่งในเทวดาที่เฝ้าคือท่านพี่ มเหสักขา มากมายด้วยฤทธาศักดานุภาพเกรียงไกร อ. บอกว่านี่คือพี่ของเจ้า ก่อนเข้าข้างในให้ทักทาย รู้จักไว้หากสงสัยเรื่องจุฬามณีให้ถามพี่

ข้างในนั้นใหญ่โตโอ่โถง จุคนได้ไม่อั้นจำนวน คนน้อยหน่อยก็หดเข้ามา คนมากหน่อยก็ขยายออกไป เพชรพลอยแก้วมณีส่องประกายวิบวับ ข้างในเต็มไปด้วยเทวดาแต่งตัวสวยประชันกันระยิบระยับละลานตา ทุกท่านล้วนมาสักการะพระเขี้ยวแก้วและพระเกศเมาลี ต่างเก็บดอกไม้มาบูชา

เรานั้นหนามาตัวเปล่าทำไงดี อ.บอกว่าจะยากอะไรนึกเอาซี่ ธูปเทียนดอกไม้แก้ว หรือดอกบัว แถมพวงมาลัยก็ยังได้ นึกปุ๊บมาได้ดั่งใจรีบถวายท่านเร็วรี่ ข้างในสุดติดข้างฝาพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นองค์ใหญ่ ท่านนั่งอยู่ รีบ ๆ เข้า ไปกราบขอพร ท่านก็ยกพระหัตมาลูบหัวพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ กราบท่านเสร็จนั่งมองพระองค์ไม่อยากลุกไปไหน

แต่ อ.สิบอกว่าเสร็จแล้วออกมานี่ มากราบท่านปู่พระอินทร์และท่านย่า ที่บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ เป็นสีแดง แท่นนั้นสูงใหญ่เท่าตึกหลายชั้นต้องแหงนหน้าดู แท่นแห่งนี้จะหยาบกระด้างทันทีหากผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ในเมืองมนุษย์ถูกรังแก หรือตกระกำ

อ.บอกว่าสถานเขตนี้ปกครองและเป็นใหญ่โดยเทวดาที่มีศักดานุภาพเกรียงไกรมากที่สุดในดาวดึงส์ คือท่านปู่พระอินทร์มีท่านย่าสุชาดาเป็นชายา ท่านปู่นั้นรูปงามเป็นชายหนุ่มอายุไม่เกิน ๒๐ ปี และท่านย่าก็รูปสวยหุ่นแบบบางรูปร่างอรชร โดยเฉพาะเสื้อผ้าเต็มไปไปด้วยเพชรพลอย อีกทั้งแหวนเพชรทั้ง ๑๐ นิ้ว ชฎาท่านนั้นยอดแหลมมีแต่เพชร มาถึงก็อย่าช้ารีบไปกราบท่านที่ตักเร็วรี่ปะไร ระหว่างกราบทั้งสองท่านก็ลูบหัวด้วยความเมตตา

เสร็จแล้วขอพบท่านพ่อกับท่านแม่ในอดีตกาล โอ้โหมีมากมายตั้งหลายแสน แยกกายสิยืนเซ่ออยู่ทำไมไปกราบท่านให้ครบทุกองค์ ท่านลูบหัวทั้งดีใจและภูมิใจลูกมาหา เมื่อเสร็จแล้วก็ถึงเวลาพบปะเพื่อนฝูงนั้นมากมายแต่ละท่านล้วนดีใจ กริยาลิงโลดคล้ายเราเลย แหวนเพชรมีตั้งมากน่าจะแบ่งให้เราบ้างเถิดท่านเจ้าขา

สังสรรค์ยังมิทันอิ่ม เสียงออร์ดดังกริ๊ง หมดเวลา ก่อนกลับท่านเทวดา โบกมือบ๊ายบาย..........?????....อั๊ย..ยยยะ......เทวดา

อุทิศส่วนกุศล



อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้า
ทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

และข้าพเจ้าทั้งหลาย ขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุขเช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด


จบทริปดาวดึงส์ ฟังนิทานเสร็จหลับฝันดีกันทุกท่านนะคะ ไปเที่ยวดาวดึงส์ให้คล่อง ๆ ไว ๆ รอบหน้าจะพาไปเที่ยวนิพพานกัน

 

ขึ้นได้ไหมแยมมี่ ไม่ชัดก็ไม่เป็นไรจ้า

 

เหมือนจำลองความฝัน
ของฉันในคืนนั้นออกมาเลยค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณทองชมพู

ขออนุโมทนาค่ะ

 

จะไป จะไป ...พาไปโหน่ยยค่า

 

พี่ทองชมพูขา หนูไม่ได้อ่านบรรยายลักษณะของพระจุฬามณีเลย หนูเว้นเลยค่ะ

เพราะหนูอ่าน ที่พี่แนะนำว่า
"ขึ้นไปดูเองและมาเทียบเอาทีหลังจะง่ายกว่า ถ้าอ่านตำราก่อนจะฟุ้งซ่านและจะเห็นสภาพตามจริงได้ยากค่ะ"

หนูเป็นชนีขี้มโนค่ะ...ไม่ปลอดภัย เด๋วถ้าได้ไปเราค่อยมาเปรียบเทียบ..55
จะได้ไปมั้ย..อีกเรื่องหนึ่งเลยค่ะ

 

ถ้าอยากขึ้นจริง ๆ ไปที่วัดท่าซุงนะ มีการสอนแบบครึ่งกำลังทุกวัน เวลา ๑๒.๐๐ - ๑๔.๐๐ น. ที่วิหารแก้วร้อยเมตร ขึ้นได้ถึงพระนิพพานเลยจ๊ะ ขึ้นไม่ยากใช้กำลังใจแค่นิดเดียว ใคร ๆ ก็ทำได้ สามารถไปลงทะเบียนพักที่วัดได้เลย ไม่เกิน ๗ วันนะ ส่วนใหญ่คนที่ฝึกก็ทำได้เลยตั้งแต่ครั้งแรกจ๊ะ วันต่อมาก็ทบทวน พอกลับมาที่บ้านเราก็มาทำเองได้ และสวดมรต์ทุกครั้งเราก็ไปสวดข้างบนเลยค่ะ จิตเราจะได้เกาะข้างบน ทำบ่อย ๆ เมื่อจิตชินกับข้างบนแล้้ว เวลาเราตายก็จะไปข้างบนได้ง่าย

 

ขอบคุณมากค่ะ...หนูจะหาเวลาไปค่ะ
ตอนนี้พยายามสงบและทำตัวให้พร้อมที่สุดทั้งกายและใจ
แยมตั้งใจว่า ถ้าอาจารย์ยังไม่มาปรากฏกายในนิมิต แยมจะไปหาอาจารย์เอง
เลยตั้งใจจะไปวัดท่าซุง เพราะคุณแม่เคยไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤษีลิงดำ ..ขอบพระคุณมากๆๆๆนะคะพี่ทองชมพู...

 

มัวแต่รอครูอาจารย์ในฝัน แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปจ๊ะ เสียโอกาสเปล่า ๆ รีบ ๆ เวลาไม่รอรี เราตายวันไหนก็ไม่รู้ได้จ้า
เมื่อกี้รับ pm หรือยังเอ่ย

 

ฝึกบ่อยๆหลวงปู่ท่านบอกว่า
เราจะเข้าถึงสภาวะที่จิตเห็นจิตค่ะ

ตอนนี้ พี่เพียรพยายามฝึกไปเรื่อยๆค่ะ
น้องแยม พวกเราค่อยๆไปแบบไม่ต้องเร่ง
เดี๋ยวจะเกิดความตึงจนเกินไป
แล้วจะทำให้เข้าถึงสภาวะธรรมยากค่ะ