รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

วัน ๆ เอาแต่นั่งทำตาเหลือกตาถลนใส่คนนั้นคนนี้ ปากก็พูด I E HA ชนิดที่พูดกันแบบเห็นภาพคือ มีแต่หนอนเน่า ๆ กระเด็นออกจากปากตลอดเวลา ...ชี้ไปทางไหน ก็พูดแต่ ไสยะ ไสยะ ไสยะ ...ทั้งประเทศ มีแต่ไสยะ วัดพุทธทุกวัด มีแต่ไสยะ ...ที่แห่งเดียวในประเทศไทย และในโลก ที่ไม่มีไสยะ คือ บ้านที่อยู่ตามพิกัดที่คุณกาลชินระบุให้ ค่ะ เขาบอกว่า บ้านหลังนั้น เป็นบ้านพระ ต่อตรงจากพระนิพพาน ทุกคนในบ้าน เป็นพระกันหมด (ทุกคนที่เข้าไป ถ้ารวยมาก ก็เป็นพระอรหันต์ ถ้ารวยน้อย ก็ ลดหลั่นกันลงไป ...มันง่ายมากเลย การจะได้เป็นพระอริยะบุคคลภายใต้บุคคลผู้นี้)


(ปล. อย่าให้บุคคลผู้นี้ โดนเนื้อตัวคุณเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นการโอบกอด หรือรับสิ่งของใด ๆ จากเขา หรือเพื่อการมอบพลังงานบางอย่างให้ ก็ตาม ... เพราะในที่สุดแล้ว โจร ก็คือโจร วันยังค่ำ ...เคยได้ยินไหมคะ เวลาให้ ให้ 10 แต่เวลาเอากลับ เอาไป 1000 ...บุคคลผู้นี้ ทำอย่างนั้นค่ะ พูดไปไม่น่าเชื่อนะ ถ้าเล่าไป ก็จะถูกถามกลับว่า คุณรู้ได้ยังไง...ขอเอาเป็นว่า บอกกล่าวไว้แค่นี้พอให้ได้ระวังตัวกันคะ)

 

ป่านนี้ ผวศ.ท่านนั้น คงนั่งท่องคาถาตาเหลือกตาปริ้น ส่งของไม่ดีบางอย่างมาให้บัวคำศรีอยู่แน่ ๆ ค่ะ รู้สึกตัวเองจะได้รับความรู้สึกเกลียดชัง เป็นพิเศษ ... มีคนบอกว่า เขาเจริญวาจาที่เรียกว่า ผรุสวาทที่รุนแรง ถึงดิฉัน เป็นปกติสม่ำเสมอ ... ถ้าหากเขาเล่นให้ตายได้ เขาก็คงกำลังทำอยู่...พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ... ดิฉันเข้าไปพบเขาด้วยใจบริสุทธิ์ แต่ถูกเขากระทำตอบด้วยใจและการกระทำที่ยอกย้อนประสงค์ร้ายตลอดเวลา ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอให้ดิฉัน มีแต่ความสุข แคล้วคลาดจากภยันตรายทุกประการ

 

ตอนที่ไปเจอเขาครั้งแรก เขาบอกว่า กำลังจะเปิด user ใหม่ ในนาม "ดาราแฟร์" บอกว่า การกลับมาอีกครั้งของเขา จะต้อง เว่อร์วังอลังการมากกว่าในนาม "ฮ..." อีกหลายเท่า... แต่ตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างนี้ (มีคนไปรู้มาแล้วว่า นามใหม่ คือ "ดาราแฟร์") ดังนั้น... คิดว่า ถ้ากลับมาใหม่ อาจมาในนามใหม่ ไฉไลกว่าเดิม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมาในนามไหน ดังนั้น มหาภัยพิบัติ ก็ยังคงมีกลิ่นอายตลบอบอวลอยู่ในเวบพลังจิตแห่งนี้ต่อไปแน่นอนค่ะ ...ขอให้ทุกคน ใช้จักรยานติดล้อในการติดตามกระทู้ต่าง ๆ กันต่อไป ค่ะ

 

ในช่วงที่ไปพบเขาแรก ๆ เขาจะคอยถาม เพื่อเช็คว่า เรารู้เรื่องของเขามากแค่ไหน ...เขาเอ่ยถึงกระทู้นี้ด้วย ...และเช็คว่า เราได้เข้ามาอ่านไหม เราคิดยังไง เรารู้สึกยังไง เมื่อได้อ่านกระทู้นี้...แต่เหมือนกรรมบังตา ตอนนั้น ด้วยความที่เป็นคนพยายามตัดเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเองออกไป การได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ..พออ่านเจอข้อความเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ก็ไม่ปักใจเชื่อ คิดว่า เป็นการใส่ร้ายป้ายสี ...ซึ่งเรื่องทำนองนี้ ก็มีอยู่ทั่วไปเป็นปกติ ...พอเขาเช็คว่า เราซื่อบื้อมากพอสำหรับการเป็นเหยื่อของเขา ...ทุกอย่าง มันก็เริ่มเดินทางไปตามเส้นทาง ที่เขาได้...จัดการไว้ .... โศกนาฏกรรมในชีวิต ก็เริ่มต้นขึ้น...(มีเพื่อนสองสามคน ที่ได้เจอเขาก่อนแล้ว ทุกคนผละจาก ผวศ.ผู้นี้ไป แม้เราจะสอบถามว่า ทำไม จึงไม่ติดตาม ผวศ.ผู้นี้ต่อ ...ทุกคนต่างปิดปากเงียบ ไม่ชอบเผยวาจาใด ๆ สักคำ ... ...พอหลังจากที่เราได้ไปพบสถานการณ์เลวร้ายต่าง ๆ มา ก็รู้สึกเสียใจต่อสหธรรมิกทุกท่าน ที่เก็บงำเรื่องราว ที่ควรบอกกว่าตักเตือนกันในหมู่กัลยาณมิตรด้วยกัน ... ที่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม โดยถือคติว่า "คิดเสียว่า เป็นกรรมของเขา ถ้าหากเขามีโอกาสได้เจอ" )

 

OMG OMG OMG
ดิฉันได้แต่อุทานคำนี้เมื่ออ่านที่คุณบัวคำศรีเล่า
น่าแปลกใจที่สหธรรมิกของคุณบัวคำศรีไม่บอกเล่า ไม่เตือน
แต่บางท่านอาจจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดร่วมขบวนการเล่นละครตบตาเพื่อให้ ผวศ ดูเป็นผวศค่ะ
เพราะเท่าที่เคยเห็นก็มีคนที่แสดงเป็นคนถูกผีเข้า ( ทั้งที่อยู่ที่วัด นั่งกันอยู่บริเวณหน้าองค์พระประธาน ) เพื่อให้ผวศ ดูเก่งมาก นั่งไล่ผีปากเปล่า "ไป ออกไป อย่ามารบกวนน้อง" ดิฉันนั่งดูก็สงสัยมาก ทำไมผีไม่กลัวพระพุทธ แถมเป็นผีคร่ำครวญร้องไห้ ร้องคร่ำครวญจนปวดหัวไปเอง ก็เลิกเล่นละครไปเอง คนดูก็นั่งดูแบบงง คนเล่นก็ไม่ได้ถ้วย555

 

หลังจากที่ดิฉันกับคุณกาลชินเผ่นแน็บออกจาก ผวศ.ผู้นั้น ...ก็มีเพื่อนสหธรรมิกอื่นอีกหลายคนบอกว่า "ปล่อยเขาไปเถอะ ไม่ต้องไปพูด ไม่ต้องไปบอกใครหรอก ...หากใครจะได้พบเจอ ก็คิดเสียว่า เป็นกรรมของเขาเองก็แล้วกัน ...เพราะการที่เราไปบอกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เราได้ไปพบเจอมา ก็เป็นการต่อกรรมกันไปไม่รู้จบ"....แต่พอคิดถึงสิ่งที่เรา ควรได้รับ ...เผื่อจะได้มีแนวทางการพิจารณาไตร่ตรอง เพื่อดึงรั้งสถานการณ์ไว้ ...แล้วไม่มีใครให้หนทาง หรือแนวทาง.... มันก็อดไม่ได้ ที่จะแบ่งปันสิ่งต่าง ๆ ออกมา เผื่อใครได้มาอ่านเจอ จะได้ไม่ตกเป็น "เหยื่อ" อย่างที่หลาย ๆ คน ได้เจอ

.... แม้ ณ วันนี้ มีคุณป้าคนหนึ่ง ซึ่งได้มีความศรัทธาต่อนามนั้นมาก พอเขาเอ่ยปากว่า นามนั้น อยากได้ที่ดินแปลงนั้น (ซึ่งงามมาก ๆ) ในย่านสุพรรณบุรี ...คุณป้าคนนั้น ไม่ต้องใช้เวลาทบทวน หรือปรึกษาครอบครัว ...รีบตัดสินใจยกให้แบบเซ็นโอนกันเลย...แล้วหลังจากนั้นอีกไม่ถึงปี ก็ยินข่าวว่า ผวศ.ผู้นี้ ได้บอกให้คุณป้าคนนั้น นำที่ดิน ไปเอ่ยปากขายต่อ (ไม่ต้องห่วงเรื่อง เหตุผลที่สมควรขายเลย เพราะ ผวศ.ผู้นี้ เขาเป็นเจ้าแห่งเหตุผล ที่ฟังพอเคลิ้ม ๆ -อาจใช้มนต์ดำสักเล็กน้อย- คนฟังถ้ามีศรัทธาจริตมาก ก็จะรีบทำตามเลย) ...พอดิฉันได้ทราบข่าวเรื่องการนำที่ไปขายต่อนี้ ถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน เพราะมันไม่ผิดไปจากที่เคยคาดการณ์กันไว้เลย ... และยังสงสัยว่า คุณป้าคนนั้น ไม่รู้สึกเอะใจอะไรบ้างเลยหรือ


ปล.เรื่องที่ไม่มีใครยอมปริปากเล่าเรื่องราวให้ดิฉันฟัง ทบทวนดูแล้วคิดว่า ตอนนั้น และแม้กระทั่งเวลานี้ ทุกคน อาจจะยังคิดว่า ผวศ.ผู้นี้ มีหูทิพย์ มีตาทิพย์ มีวาจาสิทธิ์ ....แต่ดิฉัน กับคุณกาลชิน ได้พิสูจน์เขาอยู่หลายวาระ ... สรุปว่า ...เข้หกทั้งเพ

 

มันเป็นอย่างนั้นจริง ที่กัลยาณมิตรของบัวคำศรีไม่มีใครมาบอก ถึงพฤติกรรม ที่ค่อนข้างคลุมเครือ ของ ผวศ ตนนี้....อาจจะเป็นเพราะว่า ยังติดอยู่ตรงที่ คิดว่า ผวศ ตนนี้ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ จริงตามที่อวดอ้าง.... และกลัวการ กระทำตอบกลับ ต่างๆนาๆ แบบลับหลังจาก ผวศ ตนนี้ ..... ซึ่งนั่นเป็นลักษณะเฉพาะ ตัวของ ผวศ ตนนี้อยู่แล้ว......

..... เมื่อถึงคราวซวย ที่ต้องไปพบเจอ และได้พิสูจน์ หลายวาระ วิเคราะห์ จากสิ่งที่พบเจอมากับตัว และจากข้อมูลคำบอกเล่าของ ผู้ใหญ่ฝ่าย โคตรตระกูล ของ ผวศ ตนนี้ ด้วยตนเอง ..... บุคคลผู้นี้ไม่ได้มีฤทธิ์ ไม่ได้มีญาณหยั่งรู้อะไรใดๆ ไม่ได้มีหูทิพย์ ตาทิพย์ อย่างที่ ตนอวดอ้าง และทำให้ผู้อื่นเชื่อถือตน....

..... มั่นใจเถอะค่ะ สิ่งที่นำมาเล่ามาบอกต่อ ทั้งหมดนี้คือ ความจริง และเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น จากหลายๆคน หลายๆวาระ ในช่วงเวลาเดียวกัน

...... นี้คือ สิ่งเดียว ที่ต้องการบอกต่อกันไปว่า มิจฉาชีพ โคตร 18 มงกุฏ มีจริงๆ ในคราบ ชุดขาว ...

 

จากการที่ดิฉันได้เคยไปร่วมทำบุญที่วัดกับคณะนี้ ดิฉันก็มั่นใจว่า เจ้าป้าฯไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์ใดๆทั้งสิ้น รวมทั้งไม่ได้เป็นผู้มีศีลมีสัตย์แต่อย่างใด มองเห็นแต่มิจฉาชีพ 18 มงกุฎเต็มขั้นคนหนึ่งเท่านั้นค่ะ
อย่าจิตอ่อนหลงเชื่อว่าเขาเป็นผู้มีฤทธิ์ค่ะ
ดิฉันสงสัยว่า หากเจ้าป้าฯตายไป ลูกๆของเธอจะอยู่อย่างไร จะมีอาชีพ 18 มงกุฎสืบต่อหรือไม่

 

อย่าไปกลัวคำแช่งของเจ้าป้าฯค่ะ
แม้นว่าบางครั้งจะมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณ ตรงกับที่เจ้าป้าได้แช่งไว้
นั่นเป็นเพราะคุณได้เคยเปิดเผยข้อมูลของตนเองให้เจ้าป้าได้รู้ เจ้าป้าจึงแช่งระบุถึงรายละเอียดของตัวคุณได้ อาจจะบังเอิญตรง
หากเขาไม่รู้ข้อมูลของคุณ โอกาสที่จะแช่งแล้วบังเอิญเกิดตรงมันก็น้อยลงค่ะ

 

ส่วนตัวของดิฉัน เห็นว่า ...ถ้าโดยวิสัย ...อุปนิสัย ความเป็นไปได้ มีโอกาสค่อนข้างสูงมาก เพราะพวกเขาไม่ได้รับการส่งเสริมให้มีวิชาความรู้ หรืออาชีพใด ๆ ติดตัว ..แม้แต่คำว่า กรรมเวร พวกเขาก็ยังไม่ได้นึกสำเนียกถึงเลยค่ะ คิดแต่ว่า จะได้ จะเอา จะต้องได้ โดยไม่สนใจว่า การได้มานั้น จะมาด้วยวิธีใด ... หนำซ้ำ สิ่งที่เขาพบเห็นอยู่ตลอดเวลา คือ การใช้ปากของผู้เป็นแม่ กับผู้คน ทั้งที่พวกเขาเอง ก็รู้ว่า สิ่งที่แม่ของเขาพูดนั้น เชื่อถือไม่ได้เลยสักนิด ... แต่พวกเขาก็ไม่เคยปริปากบอกใคร หรือเตือนใครว่า อย่ามายุ่งกับแม่เขาหรือครอบครัวของเขาเลย เพราะขืนยุ่ง ก็มีแต่จะพบกับบาปกรรม ...

การที่แม่เขา หอบหิ้วพวกเขา กระโตงกระเตง ไปนอนบ้านคนนั้น กินบ้านคนนี้ เป็นเดือน พวกเขาไม่เคยรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ควรทำ ไม่ควรไปอยู่เลย เรื่องการอบรมสั่งสอน แม้แต่อยู่ในบ้านของพวกเขาเอง ...แม่เขาก็ไม่เคยสั่งสอนอบรมว่า สิ่งนั้นดี ให้รีบทำ สิ่งนั้นไม่ดีให้อยู่ให้ห่าง สัจจะวาจา เป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์ต้องมี ฯลฯ นั่นแค่น้ำจิ้ม ที่เขาควรได้รับการอบรมสั่งสอน ...แต่พวกเขาไม่เคยจะได้รับฟังสิ่งเหล่านั้น ....มีแต่จะส่งเสริมให้ทำอะไรก็ได้ คิดวิธีการยังไงก็ได้ เพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองทำในสิ่งที่ชอบธรรม ...ยกตัวอย่าง มีผู้ชายส่งของขวัญให้ลูกสาว ... ลูกสาวไม่ได้มีใจชอบผู้ชาย แต่ก็รับของนั้นไว้ โดยที่แม่เขาบอกว่า "ทำไมไม่คิดว่า ถ้าผู้ชายคนนั้นรักลูกจริง เขาต้องไม่เอาของนั้นคืนซิ" ...นั่นคือ สิ่งที่พวกเขาอบรมสั่งสอนกันมาตลอดค่ะ

 

แม่เค้า เคยบอกลูกเค้าว่า "อึง อย่ายุ่ง ให้อยู่เฉย ๆ มีกิน มีแอกทุกวันนี้ ก็เพราะอู"

 

ถ้านะ ตอนนี้ ...ให้เขาแช่งมาเถอะค่ะ ... ให้พูดแช่งจนตายไปเลย ก็ดี ...เขาจะได้สิ้นเวรสิ้นกรรม คนอื่น ๆ จะได้ไม่ต้องมาตกเป็นเหยื่อของเขาอีก

 

หลายคนคงจำเหตุการณ์ในวันนี้ได้ดี นะคะ

http://goo.gl/woZw36

ซึ่งมีความเป็นมาในงานบุญนั้นอย่างไร .... @ ไม่ทราบค่ะ

...แต่ส่วนตัวแล้ว ..... ในเหตุการณ์นี้ไม่ได้อยู่ด้วยค่ะ เพราะ ยังไม่ได้รู้จัก กับ ผวศ รายนี้แต่อย่างใด

....แต่สำหรับ งานบุญในครั้งนี้ หลายท่านคงจะจำกันได้ ......@ ทราบ ว่ามัน มีความ ฉ้อฉล อย่างไร และแนบเนียน ขนาดไหน .....

http://goo.gl/rsK1jA

โดยการหลอกใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ หลังจากที่มาวิเคราะห์ เหตุการณ์ และสถานการณ์ ต่างๆ ที่ ผวศ จัดฉากสร้างขึ้น อย่างเจาะลึก จึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว ..... ผวศ ตนนี้ เป็น คนเช่นไร

 

มีท่านที่ดังๆในเวป"ติด"มากเลยครับ Thanks for the info

 

สิ่งที่กล่าวอ้างอวดโอ้ต่างๆนาๆ เพื่อทำให้คนหลงเชื่อ ถ้ามีกาลามสูตรเป็นเกราะป้องกัน ก็จะไม่โดนหลอกลวงต้มตุ๋นได้ง่ายๆเลย สุดท้ายก็ปิดกระทู้หนี ทำลายหลักฐานการประชุมของสภาธรรมสวรรค์เก๊ ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆต่อการอวดอ้างต่างๆที่ได้กระทำลงไป

ใครมีรูปป้าแก ช่วยส่งมาให้หน่อยครับ ขอบคุณล่วงหน้า

.

 

จริงอย่างที่คุณ hiflyer บอกว่า ถ้าหากไม่ทิ้งหลักกาลามสูตร ...และน้อมนำมาพิจารณาเสมอ โอกาสจะตกเป็นเหยื่อมีน้อยมาก... ส่วนดิฉัน เมื่อโดนฉุดกระชากลากถู กระทำชำเราความรู้สึกทางจิตใจหนัก ๆ เข้า คิดถอยออกมา จึงได้น้อมนำหลักกาลามสูตรมาพิจารณาทีละอย่าง ๆ จนเห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่ ผวศ. ได้พูดและทำนั้น ... ไม่มีเหตุผลใด ๆ มารองรับ ....แต่ละอย่าง เขาจะให้เรา เชื่ออย่างเดียว ห้ามสงสัย ...ที่สำคัญ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเราหลาย ๆ ท่าน ที่คอยสอนมา ไม่เคยมีใครทำต่อผู้เดินตามด้วยกิริยา วาจาที่หยาบคาย ต่อใครเลย ก็ยิ่งเห็นชัดเจนว่า ... เขาเป็นควรที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่เราควรจะถอยห่าง ... แม้กระทั่งวาระสุดท้ายที่ตัดสินใจ ยังคิด ขอพิสูจน์เป็นครั้งสุดท้าย ... และก็ได้เห็นว่า สิ่งที่เราได้ทบทวนมานั้น ไม่ผิดเลยสักนิด

หากเรานำหลักกาลามสูตรมาพิจารณาเสียแต่แรก ชีวิตคงไม่ไปเจอความอัปมงคลระดับนั้นได้ค่ะ ...

 

สำหรับบุคคลผู้นี้... การที่เราได้พบเขาครั้งแรก ในภาคของคนเสื้อขาว ชุดขาว ... บีบน้ำเสียง บีบรอยยิ้ม ให้ดูเป็นผู้มีบุญ มีบารมี เปล่งเสียงพูดให้ดูไพเราะหน้าฟัง ... เราแทบจะไม่รู้เลยว่า เขาซ่อนมีดซ่อนดาบไว้ข้างหลัง (อาจเพราะประสบการณ์ชีวิตที่เลวร้ายโชกโชนที่เขาผ่านมาอย่างหนักก็เป็นได้ ทำให้เขาเป็นคนที่เลวร้ายได้ระดับนี้) ...พอเราหลงเชื่อเขาในระดับหนึ่ง การสนทนา จะพูดคุยเรื่องต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลของเรา ...คนส่วนใหญ่หลงคิดว่า เขาเป็นคนดีมีภูมิ ก็จะเผยเรื่องราวของตัวเอง บางคนก็อมทุกข์เอาเรื่องทุกข์ของตัวเองไปเล่าให้เขาฟัง .... ในขณะเดียวกัน คนที่ปฏิบัติภาวนามาในระดับหนึ่ง ก็อดที่จะบอกเล่าให้เขาฟังเพื่อหาหนทางเดินหน้าต่อ ... ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ทั้งหมดนั้น ล้วนแต่เป็นข้อมูลที่เขาเก็บเกี่ยวเอาไว้ เพื่อใช้ทำร้ายเราทีหลังทั้งสิ้น

ในหมู่คณะเกือบ 30 คนที่ได้พบเจอกันในรอบนี้มีบางท่านที่เป็นคนในศาสนาอื่น มีการทำสมาธิที่เจริญก้าวหน้ามาโดยลำดับ...แต่มาเจอ ผวศ.ผู้นี้...เลยถูกใช้ความก้าวหน้านั้น เพื่อประโยชน์ของ ผวศ.เองอย่างเต็มที่ ... การเข้าสมาธิแล้วไปเห็นสิ่งนั้นสิ่งนี้ ... ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ หรือแม้จะมีใครรู้ แต่สิ่งที่เห็น ล้วนแต่เป็นภาพหลอกตา ไม่ใช่ภาพจริงเลย... ทำไมดิฉันรู้ หรือคะ .... ก็เพราะดิฉัน เป็นเหยื่อที่ถูกเขาบอกว่า ตายแล้ว เน่าเฟะแล้ว รอส่งกลิ่น รอหนอนขึ้น (ทุกคน ที่เข้าสมาธิเพื่อไปดูดิฉันตามคำสั่งของ ผวศ. เห็นแต่ภาพเหล่านี้ทั้งนั้น ).... ดิฉันได้ฟังเรื่องเหล่านี้ทีหลัง...ก็อดรู้สึกสงสารคนเหล่านั้นไม่ได้.... นี่แหละหนา ที่ครูบาอาจารย์ท่านเตือนหนักหนา ให้ระวังภาพที่เห็นสมาธิให้ดี .... น่าอนาถใจแท้

 

ขุดๆ OMG กัน ยกแรก ค่ะ :boo: เวอชั่นเต็ม !


>>>>> ฮั๋วโต๋ _ สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ_ <<<<<

 

กระทู้ 18 มงกุฏ_ ฮั๋วโต๋ _ สัญญาณฟ้าเตือนภัยพิบัติ - PaLungJit_com

กลายเป็นอันนี้ไปแล้วครับ

 

อันเดียวกันค่ะ