มงคลวัตถุ สิริแห่งชีวิต ที่สุดแห่งศรัทธา : รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ มหาจักร มหาสังข์ โคนนทสูร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย studio214, 19 กรกฎาคม 2015.

  1. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รับทราบการจองทุกรายการครับ ขอบคุณมากๆครับ
     
  2. everbrandnewday

    everbrandnewday สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +22
    รายการที่ 106 สีผึ้งเสาร์ 5 และ ประคำเสาร์ 5 พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน

    โอนเงินเรียบร้อยแล้วครับ รายละเอียดอยู่ใน pm นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2016
  3. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 111 ล็อคเก็ตงานมุฑิตาจิต 102 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต แห่งที่พักสงฆ์สวนทิพย์ หลังจีวร เกศา พระธาตุ มวลสารมหามงคล ฝังแผ่นโค้ต
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    แม้หลวงปู่จะเจริญอายุ ครบรอบ ๑๐๒ ปีแล้ว ธาตุขันธ์อาจจะเสื่อมไปตามกฎแห่งธรรมชาติ แต่องค์ท่านยังครองสติได้อย่างดีเยี่ยม ท่านอธิษฐานจิตวัตถุมงคลแต่ละครั้ง ครูบาอาจารย์หลายท่านกล่าวว่า เห็นองค์ท่านเรียบๆเย็นๆ แต่พลังเวลาท่านอธิษฐานนั้นประมาณมิได้เลย และที่สวนทิพย์ที่องค์หลวงปู่อยู่นั้น เทวดามีมากนับไม่ถ้วน อยากได้อะไรที่ไม่ผิดศิลธรรม ให้ตั้งจิตอธิษฐานเลย เทวดาท่านจะสงเคราะห์ องค์หลวงปู่เองตอนท่านยังแข็งแรงท่านก็บอกว่าอยากได้อะไรก้อให้ขอเทวดาเอา.. "ตั้งใจให้แน่วแน่ - เทวดาช่วยที...เรียบร้อย"

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๗ ปีขาล องค์ท่านเป็นศิษย์สำคัญองค์หนึ่งของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มที่มีอนาคตสดใส แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวชและปฏิบัติธรรมแบบถวายชีวิตต่อพระศาสนา ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด ท่านเป็นศิษย์กรรมฐานของ พระอาจารย์กู่ ธมฺมทินฺโน ท่านพ่อลี ธมฺมธโร และออกป่าติดตาม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม นานถึง ๙ ปี ในช่วงหลัง ท่านได้รับบัญชาจากคณะสงฆ์ธรรมยุตให้ท่านไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ จนเมื่อท่านชราภาพมากแล้วจึงกลับมาอยู่เมืองไทย ปัจจุบันท่านจำพรรษาอยู่ณ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ปากเกร็ด ปีนี้ท่านอายุ ๑๐๑ ปี

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ถือเป็นเสาหลักสำคัญองค์หนึ่งของพ่อแม่ครูอาจารย์พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น งานมุฑิตาจิตแต่ละปี จะมีครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสำคัญมากราบท่านอย่างเนืองแน่น ครูบาอาจารย์หลายองค์ได้กรุณาบอกถึงมหาบารมีขององค์หลวงปู่ ว่ามีบารมีมากเหลือเกิน ในสวนทิพย์นั้นมีเทพเทวดาสถิตรักษาองค์ท่านอยู่นับประมาณไม่ได้ หลวงปู่พิศดูเคยกล่าวไว้ว่าท่านนั้นมีบุญฤทธิ์สมดั่งชื่อท่าน

    “รู้ก็สักแต่รู้ เห็นก็สักแต่เห็น ถ้าเห็นธรรมก็หายทุกข์ ถ้าแสงสว่างเกิดขึ้นเมื่อใด ความมืดก็ดับ เหมือนไฟฟ้า เมื่อไฟสว่างมืดก็ดับเป็น ธรรมดา แสงสว่างที่ดับมืดคือพ้นโลก เป็นพุทธปัญญา“....”ความทุกข์ที่จริงเป็นสิ่งดี ทุกข์นี้ดีจะได้เบื่อ เบื่อว่ากูไม่อยากเกิดแล้วโว้ย จะได้ปรารถนาออกจากกาม เพราะถ้ามันสุขมันก็จะลืมตัว มันจะพาเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้แหละ”
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2017
  4. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 112 ล็อกเก็ตหลังพระอุปคุต+จีวรหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี (รุ่นประสบการณ์)
    ค่าจัดส่ง 60 บาท ปิดรายการ

    ล็อกเก็ตรุ่นนี้แม้ไม่ทันหลวงปู่ แต่ประสบการณ์เยอะมากๆ

    ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด คัดลอกจากบทความ คุณทุเรียนทอด (ประสบการณ์แค่บางส่วนเท่านั้น)

    ‪#‎วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นดีทุกรุ่นจริงครับ‬ แม้แต่รุ่นที่ไม่ทันท่านอธิษฐานก็ยังน่าใช้เลย..ผมได้ฟังมาก็หลายคนแล้วถึงประสบการณ์วัตถุมงคลล็อกเก็ตกระดาษชุดนี้ แม่ไม่ทันท่านอธิษฐาน ก็ยังปรากฏอิทธิปาฏิหาริย์ให้ได้เห็นกันอยู่ตลอด แม้แต่เรื่องทางโชคลาภนี้ ถ้าถึงคราวจำเป็นอธิษฐานจิตบอกหลวงปู่ก็เห็นผลกันแทบทุกราย บางคนที่ผมฟังมาใส่ของชุดนี้ไปอธิษฐานซื้อหวยก็ยังถูก บางคนก็เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ใช้ล็อกเก็ตกระดาษชุดนี้แล้ว "เฮง..มาก ทำอะไรไม่เคยพ่ายเลย.." ขนาดใส่เอาไปเล่นไพ่ก็ยังได้อยู่เสมอ ยิ่งถ้าวันไหนใส่สวดมนต์บูชาหรือใส่นอนยิ่ง ป๊อก.. เลย.. 
แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ และไม่ได้สนับสนุนให้ท่านผู้อ่านเอาวัตถุมงคลไปใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการพนัน เพราะหลวงปู่ท่านก็ยังบอกว่า " การพนัน ขันต่อ เป็นข้อทุกข์.. " แต่ว่าประสบการณ์ที่ฟังๆมาส่วนมากเป็นอย่างนั้นจริงๆ และส่วนมากที่เขาได้ผลกันจะประมาณว่า ถ้าถึงคราวจำเป็นจริงๆแล้วอธิษฐานขอหลวงปู่ท่าน ก็มักจะได้สมความปรารถนากันแทบทั้งสิ้น ส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยขออะไรจากท่านครับ เพียงแค่บูชา มีท่านอยู่ในใจและรู้สึกว่าองค์ท่านยังคุ้มครองเราอยู่เพียงเท่านี้ก็พอใจแล้วครับ..
    นี่ขนาดของชุดนี้ไม่ทันองค์หลวงปู่ท่านอธิษฐาน และไม่มีพระเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสกเลย มีแต่เพียงรูปขององค์หลวงปู่ท่านและชายจีวรชิ้นเล็กๆที่ใส่ไว้ด้านหลังรูปเท่านั้นครับ.. มีครูบาอาจารย์หลายท่านนะครับ บอกมาว่ารูปถ่ายขององค์หลวงปู่ แม้ไม่ได้ผ่านพิธีก็มีอานุภาพในตัวแล้ว สามารถคุ้มครองได้ตลอดไปแล้วครับ

    ล่าสุด.. !!! ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษ หลังพระอุปคุต ชายจีวรหลวงปู่พิศดู
    ‪#‎การกลับมาใหม่‬..
เมื่อไม่นานมานี้เอง มีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นครับ เป็นประสบการณ์จากคุณ บวรรัตน์ อยู่ที่ดอนเมืองครับ
คือคุณบวรรัตน์ได้ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว ต่อมามีอาการน้ำเดิน คือมีน้ำไหลออกจากช่องคลอด และมีไข้ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ทางแพทย์แทบไม่ได้ทำการรักษาอะไร เพียงแต่ให้นอนที่โรงพยาบาล 2 วัน รักษาไปตามอาการ ต่อมาอาการเริ่มทรุดหนักขึ้นจึงได้ย้ายไปตรวจอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ผลจากการตรวจคือ ครรภ์เป็นพิษ จนทำให้เด็กแท้งครับ ทางแพทย์ต้องทำการผ่าเอาเด็กออก ต่อมาก็มีอาการติดเชื้อเกิดขึ้น มีไข้ขึ้นสูงจนสลบไปไม่ได้สติ ความดันตกเหลือเพียง 40-45 เท่านั้น และต้องใช้อ็อกซิเจนช่วยในการหายใจ ซึ่งเคสนี้มีความเสี่ยงทำให้เสียชีวิตได้ง่ายมาก ทางคุณแม่ของคุณบวรรัตน์ และญาติๆก็กังวลกันมาก และทางแพทย์ก็ไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้ แต่ก็จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่..!! 
ทางพี่อั๋น ซึ่งถือเป็นญาติห่างๆกับคุณแม่ของคุณบวรรัตน์ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงแนะนำให้พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถืออยู่ จึงได้ไปเอาล็อกเก็ตกระดาษ หลังพระอุปคุตชายจีวร ที่ทางวัดเทพธารทองแจกมา เอามาอาราธนาขอบารมีพระอุปคุต และหลวงปู่พิศดู ให้ช่วยลูกสาวคนนี้ด้วย เขาเป็นคนดี ชอบทำบุญ ไม่เคยก่อกรรมอะไรร้ายแรง.. และจากนั้นก็ขอให้พยาบาลเอาไปคล้องคอของคุณบวรรัตน์ เพื่อหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์.. !!! ผู้เป็นแม่ และญาติๆก็พร่ำสวดมนต์แผ่เมตตา และรอความหวังอย่างใจจดใจจ่อ แม้ความหวังที่มีในตอนนั้นจะดูน้อยนิดก็ตาม.. ซึ่งหลังจากได้นำเอาล็อกเก็ตกระดาษไปคล้องคออยู่ได้เพียงไม่ถึง 1 วัน คุณบวรรัตน์ก็ฟื้นขึ้น อาการทุกอย่างดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางแพทย์ที่ทำการรักษายัง งง..??(แปลกใจ) เลยครับ พอหลังจากที่คุณบวรรัตน์ฟื้นขึ้นมาแล้ว ได้เล่าเหตุการณ์ที่คล้ายความฝันให้ฟังว่า..
" หลังจากที่เธอสลบไป ก็เห็นภาพตัวเองกำลังจมลงไปในท้องทะเลลึก และมืด ในใจก็คิดว่า ชาตินี้เรายังทำความดีไม่พอ นี่เราจะไม่รอดแล้วหรือ เราอยากจะกลับไปอีกครั้งเพื่อทำความดีให้มากกว่านี้.. ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า.. " กลับไปไม่ได้แล้ว.. " !!! 
ในวินาทีนั้น เธอก็คิดถึงพระอุปคุต และหลวงปู่พิศดูขึ้นมาเอง ก็พลันเห็นภาพพระองค์ผอมๆใส่จีวร แต่ว่าไม่ทันมองหน้า ท่านได้จับผมของเธอและเหวี่ยงขึ้นมาจากทะเลลึกนั้นกลับขึ้นมาบนฝั่งอย่างฉับพลัน แล้วเธอก็ได้สติขึ้นมา พบว่านอนอยู่บนเตียง ที่โรงพยาบาล.. พอตื่นขึ้นมา ก็เจอแม่เข้ามาเยี่ยม จึงได้บอกแม่ว่า ให้โทรไปขอบคุณ " น้าอั๋น " ที เพราะเชื่อว่า น้าอั๋นต้องเป็นคนที่มีส่วนช่วยให้ตนเองกลับมาในครั้งนี้อีก เนื่องจากน้าอั๋น ศรัทธาในพระมหาอุปคุต และหลวงปู่พิศดูเป็นที่สุดครับ..
หลังจากนั้นมาคุณบวรรัตน์ ก็มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถกลับมาบ้านได้แล้วครับ.. สาธุ

    ‪#‎ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษชายจีวร‬ ‪#‎หลังพระมหาอุปคุต‬
    เรื่องนี้ท่านพระอาจารย์หนึ่ง สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ เป็นผู้เมตตาเล่าให้ฟังครับว่า..
‪#‎ชะตาขาด‬..!!!
ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 มีโยมคนหนึ่งมาหาท่านพระอาจารย์ที่สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ บอกว่ามีเพื่อนแนะนำให้มาหา ให้พระอาจารย์ช่วย.... แล้วโยมคนนัั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่า.. 
ตนเองมีความไม่สบายใจ จึงไปหาหมอดูดวง ซึ่งพอหมอดูได้ตรวจดวงแล้วก็บอกว่า ชะตาขาด จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงเดือนมีนาคม ทำให้ตนตกใจอย่างมาก จึงไปหาหมอดูอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ทักตรงกันว่าชะตาขาด จะอยู่ได้อีกไม่ถึงเดือนมีนาคม จากนั้นจึงไปหาร่างทรง อาจารย์ฆราวาส และก็พระเกจิอาจารย์ผู้มีความสามารถตรวจดวงได้อย่างแม่นยำ หลังจากท่านเหล่านั้นตรวจดวงอย่างละเอียดแล้วก็ยังบอกตรงกันอีกว่า จะอยู่ได้แค่ไม่ถึงเดือนมีนาคม จึงทำให้ตนเป็นทุกข์กายทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางออกอีกแล้ว พอดีมีเพื่อนแนะนำให้มาหาพระอาจารย์ให้ช่วยต่อดวงชะตาให้ ซึ่งพระอาจารย์ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกเห็นใจมาก และคิดว่า คนคนนี้อาจยังมีโอกาสรอด ด้วยอาศัยบารมีขององค์หลวงปู่ให้ช่วยปกปักรักษา ดังนั้นท่านพระอาจารย์จึงเรียกให้พระภิกษุในวัด มาร่วมสวดพระปริตร และสวดเสริมบารมีให้พอเป็นพิธี จากนั้นท่านพระอาจารย์ได้นำล็อกเก็ตกระดาษหลังพระมหาอุปคุต ที่มีชายจีวร มาอธิษฐานขอบารมีขององค์หลวงปู่ช่วยคุ้มครองให้โยมผู้นี้ปลอดภัย และมีอายุมั่นขวัญยืน แล้วท่านก็อธิษฐานคล้องคอให้ โดยบอกว่าให้โยมใส่ไป แล้วไม่ต้องคิดมาก หลวงปู่บารมีท่านสูงท่านจะคุ้มครองเรา แล้วท่านพระอาจารย์ก็เล่าชาดกบางตอนให้โยมฟัง ทำให้เขาสบายใจขึ้นเยอะ.. 
หลังจากนั้นไปอีกหลายวัน ประมาณวันที่ 20 กว่าๆของเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ขณะที่โยมคนนี้ขับรถอยู่ด้วยความเร็วพอสมควร อยู่ดีๆกรอบล็อกเก็ตกระดาษที่คล้องคออยุ่ก็มีเสียงดัง โพล๊ะ..!!! พอจอดรถดูก็ตกใจ เพราะว่ากรอบล็อกเก็ตกระดาษนั้นแตกละเอียดโดยที่ไม่มีสาเหตุ ใจก็เริ่มไม่ดี จึงโทรหาพระอาจารย์และเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ท่านฟัง พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า.. 
" ไม่เป็นไรแล้วหละโยม เพราะพระท่านรับเคราะห์แทนเราไปแล้ว ไว้โยมมาหาอาตมาที่วัด แล้วอาตมาจะคล้องให้ใหม่.. "
ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาโยมคนนั้นก็ยังอยู่รอดปลอดภัย หน้าตาดูสดใสจนถึงทุกวันนี้ครับ..

    ‪#‎วันนี้ขอแถมให้อีกเรื่องแล้วกันครับ‬.. สำหรับล็อกเก็ตกระดาษ
    ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษ หลังชายจีวร หลวงปู่พิศดู
วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นดีทุกรุ่นจริงๆครับ แม้แต่รุ่นที่ไม่ทันท่านอธิษฐานก็ยังน่าใช้เลย.. 
ปลายปีก่อนมีพี่คนหนึ่งมาเล่าให้ผมฟังครับว่า มีคนได้ล็อกเก็ตกระดาษที่ด้านหลังมีชายจีวรขององค์หลวงปู่ชิ้นเล็กๆ พร้อมสายสร้อยเชือกสำหรับคล้องคอไปจากทางวัด ผู้ที่ได้รับแจกหลายคนได้ไป ก็นำไปบูชาแขวนคอ เขาบอกกันว่า เมตตาค้าขายดี บางคนก็บอกว่า แคล้วคลาดปลอดภัยดี...ฯลฯ
    ‪#‎งูเห่าฉก‬..!!!
มีคุณป้าอยู่ท่านหนึ่งครับ บ้านอยู่แถว ต.บางกะจะ แกได้ไปก็นำมาแขวนเหมือนกัน และมีอยู่วันหนึ่งขณะที่คุณป้าท่านนี้กำลังเก็บผลไม้อยู่ในสวน โดยที่ไม่ทันระวังตัวปรากฏว่าลื่นไถลล้ม ตกลงไปในท้องล่องเล็กๆข้างๆสวนนั่นเอง พอตกลงไป ปั๊บ..!!! ก็จังหวะไปเจอกับงูเห่าตัวเกือบเท่าข้อมือตัวหนึ่ง คงด้วยความตกใจงูตัวนั้นได้พุ่งฉก ที่บริเวณหน้าผากของคุณป้าท่านนั้นทันที..!!! ปึ้กก.. แล้วเจ้างูก็เลื้อยหนีไป พอคณป้าตั้งสติได้ก็คลำตรงบริเวณหน้าผากดู แต่คุณป้าท่านนั้นกลับไม่ได้รับอันตรายจากพิษงูเลย ‪#‎เพราะงูตัวนั้นเวลาพุ่งฉกกลับอ้าปากไม่ขึ้น‬.. ได้แต่เพียงเอาปากมาชนแบบจุมพิตที่หน้าผากเท่านั้น คุณป้าบอกว่า แกหัวใจเกือบวาย นี่คงเป็นเพราะบารมีขององค์หลวงปู่แท้ๆที่ช่วยชีวิตแกไว้ เพราะทั้งตัวของคุณป้ามีเพียงสายสร้อยที่มีรูปกระดาษและชายจีวรเล้กๆ ขององค์หลวงปู่พิศดูเท่านั้นไม่มีวัตถุมงคลใดๆเลย..
    นี่ขนาดของชุดนี้ไม่ทันองค์หลวงปู่ท่านอธิษฐาน และไม่มีพระเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสก(เพียงแต่จุดธูปขอบารมีหลวงปู่ท่านเท่านั้น) เพียงรูปขององค์หลวงปู่ท่านและชายจีวรชิ้นเล็กๆที่ใส่ไว้ด้านหลังรูปครับ.. มีครูบาอาจารย์หลายท่านนะครับ บอกมาว่ารูปถ่ายขององค์หลวงปู่ แม้ไม่ได้ผ่านพิธีก็มีอานุภาพได้ สามารถคุ้มครองได้ตลอดไปแล้วครับ แล้วถ้ายิ่งเป็นวัตถุมงคลที่องค์หลวงปู่ท่านอธิษฐานด้วยแล้ว โดยเฉพาะของที่ท่านตั้งใจทำอย่างนี้ จะมีอานุภาพและความพิเศษขนาดไหนกันจริงไหมครับ..

    ‪#‎ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร‬..
    ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวรขององค์หลวงปู่พิศดู เหล่านี้ จริงๆผมน่าจะเคยลงไปบ้างแล้ว แต่ก็คงมีบางท่านยังไม่เคยอ่าน..
    มีเด็กคนหนึ่งอายุประมาณ 6 ขวบ ด้วยความที่เล่นซุกซน จนทำให้เกิดพลัดตกจากตึกสูงหลายชั้น ลงมาที่พื้นล่าง แต่กลับไม่เป็นไรเลย มีเพียงฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น เด็กคนนี้ก็ใส่ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร ขององค์หลวงปู่อยู่เพียงองค์เดียว..
    อีกประสบการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นกับเด็กอีกเช่นกัน เด็กคนนี้อายุก็ราว 5-6 ขวบ ไปเที่ยวกับพ่อแม่ ด้วยความที่วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานจนลืมระวังตัว ก็ทำให้ตกลงไปในสระน้ำ แล้วจมดิ่งลงไป แล้วจากนั้นตัวก็ลอยขึ้นมา และไม่จมลงไปอีกเลย เพียงแต่ลอยน้ำอยู่อย่างนั้น เด็กคนนี้ก็ใส่ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร ขององค์หลวงปู่อยู่องค์เดียวเช่นกัน..
    อีกเรื่อง เป็นประสบการณ์ของผู้ที่นำล็อกเก็ตไปแขวนไว้หน้ารถ ขณะขับรถไปทำธุระ ด้วยความเร่งรีบจึงขับด้วยความเร็จ 140-150 ก.ม.ต่อชั่วโมง แล้วอยู่ดีๆ ฝาที่ประกบล็อกเก็ตกระดาษ ที่แขวนอยู่หน้ารถก็กระเด้งออกจากกัน จึงทำให้เขาต้องถอนคันเร่งแล้วก็เบรกชะลอความเร็วลง ปรากฏว่าทางข้างหน้านั้นมีอุบัติเหตุ เนื่องจากว่าทางชำรุดอยู่ ทำให้เขาใจหายวาบเลย เพราะว่าถ้าหากฝาของล็อกเก็ตนี้ไม่กระเด้งออกจากกัน เขาก็อาจเป็นหนึ่งในผู้ประสบอุบัติเหตุนั้นก็ได้ ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2016
  5. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 113 ตะกรุดลอยนํ้าหลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)
    ปิดรายการ

    ตะกรุดลอยน้ำบันดาลโชคลาภ หลวงปู่เปรี่ยม สำหรับขอเลขรางวัล แล้วแต่ตอนตั้งจิตอธิฐานขอว่าจะขอสองตัวหรือสามตัว

    โดยทำหลังเที่ยงคืน ไม่เกินตี 3 ต้องทำในวันพฤหัสเท่านั้น ตั้งแต่ขึ้น 9 ค่ำ ถึงแรม 7 ค่ำ โดยจะไม่สามารถทำได้ทุกงวด เพราะต้องทำในวันที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นวันพฤหัสที่ใกล้หวยออกมากๆจะยิ่งแม่น (ตะกรุดจะลอยน้ำได้เป็นตัวเลข)

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    1. ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม (สำหรับบูชาพระ)
    2. บายศรีปากชาม 1 คู่
    3. ผ้าขาวสำหรับปูโต๊ะทำพิธี 1 ผืน
    4. ภาชนะใส่น้ำขนาดความกว้าง 9 - 12 นิ้ว
    5. ธูป 15 ดอก (สำหรับใช้ในพิธี)

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

    ขั้นตอนการปฏิบัติ
    1. จุดธูป 3 ดอก เพื่อบูชาพระรัตนตรัยที่หิ้งพระ
    2. ตั้งโต๊ะพิธี นำผ้าขาวมาคลุมโต๊ะ วางบายศรีปากชามทั้ง 2 ข้าง วางภาชนะที่ใส่น้ำไว้ตรงกลาง จากนั้นให้จุดธูป 15 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาชุมนุมเทวดา จากนั้น อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา แล้วนำธูปไปปักที่กลางแจ้ง
    3. หยิบตะกรุดออกจากกล่อง แล้วจับตะกรุดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ปิดหัวท้าย ครั้งละ 1 ดอก ก่อนวางว่าคาถา นะโมพุทธายะ นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ 1 จบ แล้วจึงค่อย ๆ วางตะกรุดลงบนผิวน้ำอย่างระวัง ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ จนครบหมดทุกดอก ถ้าตะกรุดดอกใดจมน้ำอย่าหยิบขึ้นมา ตะกรุดที่ลอยน้ำอยู่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากัน จากนั้นให้เพ่งดูตะกรุดที่ลอยน้ำ (ระหว่างนี้ให้ภาวนาคาถาไปเรื่อย ๆ คือ 1) นะโมพุทธายะ 2)นะมะภะทะ 3) จะภะกะสะ 4) นะมะอะอุ )

    วันทำพิธี
    เลือกวันพฤหัสบดีเท่านั้น ตั้งแต่ข้างขึ้น 9 ค่ำเป็นต้นไป แต่ไม่เกินข้างแรม 7 ค่ำ ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน จนถึง ตีสาม เท่านั้น

    หลวงปู่เปรี่ยม ท่านจะพิถีพิถันตามขั้นตอนการสร้างตะกรุดแต่ละตอกแต่ละประเภทจึงจะนำไปใช้ให้สำเร็จประโยชน์ ตะกรุดลอยน้ำเน้นตั้งแต่แผ่นโลหะก่อนลงอักขระเลขยันต์ต้อง สวดถอน สิ่งอัปมงคล ออกจากแผ่นโลหะเหมือนทำให้โลหะบริสุทธิ์จริงๆซะก่อนแล้วค่อยนำมาลงอักขระเลขยันต์ เน้น หัวใจธาตุทั้งห้า ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ นำไปสวดญัตติกรรม
    การสวดญัตติ จะต้องทำให้ครบ สี่ครั้ง เรียกว่า เหมือนกับพิธีอุปสมบทพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว หลวงปู่เปรี่ยมท่านก็อธิบายการนำตะกรุดเข้าโบสถ์สวดญัตติกรรมทำนองเดียวกันกับการบวชพระภิกษุหรือจะพูดง่ายๆเข้าใจแบบชาวบ้าน การสวดญัตติตะกรุดของหลวงปู่เปรี่ยมก็เหมือนกับ บวชตะกรุด ให้มีพลังความเข้มขลังเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง


    หลวงปู่เปรี่ยม พระอริยะผู้เมตตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่ได้สืบทอดวิชาของสายวัดระฆัง มาจากหลวงปู่หินโดยได้พบกับหลวงปู่หินในป่าแถบปักธงชัยขณะธุดงค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่หินเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมากมายหลายอย่าง เช่น การสร้าง ตระกรุด การทำผงพุทธคุณ 108คาถาอาคม และการปลุกเสกตลอดจนการเจริญภาวนา และภายหลังหลวงปู่ได้มาปรนนิบัติดูแล ลป.หิน ที่วัดระฆัง

    วัตถุมงคลทุกอย่าง หลวงปู่มีความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้คุ้มครองรักษาผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง แม้กระทั้งการเตรียมมวลสาร ผงต่างๆ ท่านจะพิถีพิถันตามตำราของท่าน เสกจนมวลสารศักสิทธิ์ จากนั้นกดพระแล้วเสกจนสำเร็จจนท่านมั่นใจ พระหลวงปู่เปรี่ยมเหมาะมากสำหรับท่านที่ศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จโต และ ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพราะหลวงปู่ท่านเสกตามตำหรับสายวิชาวัดระฆัง ตามที่ท่านรำ่เรียนมาจากหลวงปู่หิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2016
  6. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 114 เหรียญทำน้ำมนต์ รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) วัดป่ากุง รัอยเอ็ด เนื้อทองแดง พิมพ์ยันต์นะมหาเศรษฐี
    ปิดรายการ

    เหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) วัดป่ากุง รัอยเอ็ด รุ่นแรก พิมพ์ยันต์ยันต์นะมหาเศรษฐี ถวายหลวงปู่ศรีอธิษฐานจิตเมื่อเดือนมีนาคม ปี๒๕๕๒ โดยได้กราบเรียนหลวงปู่ถึงเรื่องของภัยพิบัติต่างๆในอนาคต และขออนุญาติหลวงปู่ท่านจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อป้องกันภัยพิบัติต่างๆ แบบเดียวกับ เหรียญทำน้ำมนต์ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ โดยองค์หลวงปู่ศรีท่านพิจารณาและเมตตาบอกว่าทำได้ และได้ใช้ยันต์ทำน้ำมนต์ (ยันต์พระสารีบุตร) แบบเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ผู้สร้างได้กราบเรียนหลวงปู่ศรีขอ "พลังอรหันต์ พลังเหนือโลก" และ ขอบารมีหลวงปู่ศรีอธิษฐานจิตให้มีพุทธคุณครอบจักรวาลครบ ทุกด้าน ทั้งกันและแก้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งนิวเคลียร์ รังสีต่างๆ โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ เป็นมหาสะท้อน มหาคุ้มกันภัย มหาเมตตา มหาโชคลาภค้าขาย หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดี อีกทั้งสามารถอธิษฐานทำน้ำมนต์ตามแหล่งน้ำต่างๆได้ โดยมีรัศมีและพุทธานุภาพครอบคลุมทั้งแหล่งน้ำและอธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค ได้ตามที่อธิษฐาน ให้เห็นผลโดยฉับพลัน

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) วัดป่าประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
    ท่านได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2488 ณ วัดราษฎร์รังสรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระโพธิญาณมุนี (ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา ทางพระพุทธศาสนาว่า "มหาวีโร" พรรษาแรกท่านได้พำนักศึกษาปฏิบัติธรรม อยู่กับท่านพระอาจารย์คูณ อุตตโม วัดประชาบำรุง มหาสารคาม ปีต่อมา พ.ศ. 2489 ท่านได้จาริกไปจำพรรษ ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี มีโอกาสศึกษา ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กับท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ซึ่งเป็นศิษย์สำคัญของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เมื่อออกพรรษาแล้วได้ออกจาริกแสวงธรรม ไปตามป่าเขาราวไพร อาทิ ภูเก้า ภูผักกูด บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม ปี พ.ศ. 2490 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ธุดงค์ไปพำนักที่ถ้ำพระเวส ครั้นเข้าพรรษา ได้ไปจำพรรษา ที่วัดบ้านนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งในยุคสมัยนั้น เป็นดินแดนที่ครุกรุ่นไปด้วยสถานการณ์ แห่งความขัดแย้ง ด้านอุดมการณ์ทางการเมืองแต่ท่านก็อยู่ด้วยความราบรื่น ปราศจากอันตราย

    พ.ศ. 2491 เข้าจำพรรษา ที่วัดโนนนิเวสน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาบารมีธรรมของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งขณะนั้น อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย พำนักอยู่ที่สำนักป่า บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์ศรี มหาวีโร จึงเข้าไปกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่สำนักป่าบ้านหนองผือ ขออนุญาต พำนักจำพรรษา และศึกษาธรรมกับท่าน ซึ่งหลวงปู่มั่น ก็เมตตาอนุญาต นับเป็นโอกาส อันเป็นมหามงคล ในชีวิตบรรพชิต ที่มีโอกาสศึกษาธรรม และอุปฏฺฐากพระบุพพาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมทั้งมีโอกาสเจริญธรรม กับสหธรรมิกร่วมสำนัก ร่วมครูอาจารย์เดียวกัน

    เมื่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาพาธพระอาจารย์ศรี ก็มีโอกาสถวายการปฏิบัติ หลังจากท่านพระอาจารย์ใหญ่ถึงแก่มรณภาพ พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนอง ผักตบ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร และปีต่อมา ได้มีโอกาส ไปพำนัก จำพรรษาที่ วัดบ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ได้มีโอกาส ศึกษาธรรมกับท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นประธานสงฆ์ในสำนักแห่งนี้ ปี พ.ศ. 2495 ได้ร่วมสร้างวัดป่าหนองแซง โดยบัญชาของพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ท่านพระอาจารย์ศรี ได้ออกจาริกห่างถิ่นมหาสารคาม และร้อยเอ็ดไปนานหลายปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2496 ท่านจาริกมายังวัดป่ากุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาประมาณ 170 ปี ท่านเป็นผู้นำศรัทธา ในการพัฒนาวัดป่ากุง ให้เรืองรุ่งโดยลำดับ จนกระทั่งเป็น "วัดประชาคมวนาราม" ที่งามสง่า หลวงปู่ศรี มหาวีโร จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร องค์ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2554 เวลา 05.34 น. ด้วยโรคชรา ภายในศาลากลางน้ำ วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด อายุ 94 ปี 3 เดือน 13 วัน ( 66 พรรษา)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2016
  7. everbrandnewday

    everbrandnewday สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +22
    ได้รับของแล้วนะครับ เมื่อวานนี้
    ขอบคุณครับ
     
  8. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 115 กายะพัน พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง
    ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท

    รูปแบบของกายะพัน คือ ประคดเอว
พี่พระสงฆ์ใช้ในการคาดเอว นิยมใช้ด้ายถักเป็นแผ่นเหมือนเข็มขัด มีสายโยงสำหรับผูกทั้งสองข้าง ยาวประมาณเมตรครึ่งถึงสองเมตร โดยที่สายผูกมีการถักล้อมตระกรุดไว้ทั้งสองข้าง จารอักขระเลขยันต์ตามสูตรวัดบ้านตรัง

    ประคดเอวนั้นถือเป็นของมงคล ที่ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนท่านจะเสกและมอบให้ศิษย์ใกล้ชิดไว้ป้องกันตัว ดังเช่นรัดประคดปราบมารของพระอุปคุตเถระเจ้า

    กายะพัน หรือ รัดประคด
เป็นวิชาที่เจ้าอาวาสสมัยเก่าก่อนของวัด
ได้บรรจงปรุงแต่งจากเลขยันต์
และสายกายะพัน(ประคด)ของพระสงฆ์
มีประสบการณ์เล่าขานมานานนับ100ปี
 วิชาเครื่องรางนี้เป็นวิชาประจำวัดบ้านตรัง
เป็นวิชามรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น
จนถึงยุค พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง 
ที่ท่านได้รับถ่ายทอดสืบสานต่อ
จากอดีตเจ้าอาวาสพระเกจิที่มี
ชื่อเสียงเด่นชัดในยุค มณฑณยะหริ่ง
นามพ่อแก่เจ้าไชย เถราจารย์แห่งยุค
ได้ประสิทธิถ่ายทอดให้พ่อแก่เจ้าแสง
อย่างหมดสิ้น ทุกๆแขนงวิชา
ล้วนเป็นภูมิปัญญาของบูราพาจารย์
แห่งวัดบ้านตรังมายาวนาน


    วิชากายะพัน ตามชื่อคือวิชามหาอุดแต่มีความพิสดารตรงที่แฝงเร้นด้วยเรื่องเมตตา เรื่องนี้สามารถดูได้จากอุปเท่ห์การใช้ที่โบราณาจารย์ผู้รจนาได้บอกถึงคุณวิเศษของวิชาไว้ว่า เอาสายประคตคาดขวางไปทางซ้ายจะเป็นเมตตามหานิยม แต่หากต้องการให้เป็นมหาอุดหยุดปืนไฟ ต้องคาดขวางไปทางขวา
กายะพัน 
เป็นเครื่องรางของขลัง
ที่พ่อท่านจัดสร้าง
เพื่อให้ลูกศิษย์ติดตัว
ไว้ป้องกันภัยนานาประการ
บูชาไว้ในบ้านเรือนเป็นมงคลยิ่ง ติดตัวไว้ก็ป้องกันภัยอันตรายทั้งหลาย


    วิธีใช้ ปกติก็ตั้งบูชาไว้ที่บ้านหรือหิ้งพระ หากมีเหตุจำเป็นใดๆที่ต้องเสี่ยงอันตรายหรือไปในที่ไม่ดี หรือนอนต่างถิ่น ให้อาราธนาครูบาอาจารย์เจ้าของวิชา พ่อแก่เจ้าแสง และ เทวดาผู้รักษาทั้งหลายให้คุ้มครอง แล้วว่าคาถาบูชา เสร็จแล้วใช้คาดเอว จะคุ้มครองป้องกันภัยหรือสิ่งที่มองไม่เห็น แคล้วคลาดปลอดภัย

    คาถาบูชา
    พุทธัง กายะพันธะนัง อธิษฐามิ
    ธัมมัง กายะพันธะนัง อธิษฐามิ
    สังฆัง กายะพันธะนัง อธิษฐามิ
    พุทธัง คงกระพัน อธิษฐามิ
    ธัมมัง คงกระพัน อธิษฐามิ
    สังฆัง คงกระพัน อธิาฐามิ
    พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด
    พระพุทธเจ้าย่างบาท อิติปิโสภะคะวา เมตตาคุณนัง อะระหังเมตตา มนุษย์ในใต้หล้าเมตตาติ

    พระครูมงคลประภาต (แสง จนทวณโณ)
    “พ่อแก่เจ้าแสง” ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่อาวุโสและทรงภูมิมากรูปหนึ่ง ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๒ ท่านอุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี ณ วัดประเวศน์ภูผา เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๔๘๓ โดยมี “พระครูสุวรรณไพบูลย์ (จันทร์ทอง)” เจ้าอาวาสวัดตะเคียนทอง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้ศึกษาหลักธรรม วิปัสสนากรรมฐาน ไสยวิชาอาคมสรรพวิชาการเรียกสูตร ลงอักขระ เลขยันต์ ลงสูตรลบผงวิเศษ และ มหาธาตุวัตถุ อาถรรพณ์ในตำราพิชัยสงคราม จากองค์พระอุปัชฌาย์ของท่าน โดยท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของ พ่อท่านหวาน (พระครูสุวรรณโสภิต) แห่งบ้านลานควาย ซึ่งเป็นพระอาจารย์ ผู้เข้มขลัง มากด้วยบารมี เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านอย่างกว้างขวาง

    นอกจากนี้ท่านยังได้เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ของ “พ่อแก่เจ้าไชย” (เจ้าอาวาสวัดบ้านตรังในขณะนั้น) ท่านได้เรียนวิชาโบราณต่างๆ ที่อยู่คู่กับวัดบ้านตรังมาแต่เดิม เช่น วิชาสั่งสูญ (ธนูสั่ง) การผูกหุ่นพยนต์ การทำควายธนู และสรรพวิชาต่างๆอีกมากมาย

    พ่อท่านเป็นเนื้อนาบุญผู้เป็นแสงสว่างให้กับชาวมายออย่างแท้จริง ท่านเป็นดั่งคมในฝัก สงบเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและบารมีอย่างประมาณไม่ได้ ครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณในละแวกใกล้เคียงต่างทราบกันดี ในสมัยก่อนครูบาอาจารย์หลายรูปจะสร้างพระก็ต้องมาขอผงวิเศษจากพ่อแก่ท่าน องค์ท่านอยู่อย่างสมถะปิดตัวเองไม่วุ่นวายทางโลกมาโดยตลอด จนมาถึงช่วงหลังที่ท่านอายุมากแล้ว วัดต้องบูรณะหลายอย่าง ต้องเตรียมค่ารักษาพยาบาลพ่อแก่ท่าน ท่านจึงอนุญาติจะมีการจัดสร้างวัตถุมงคลมากขึ้น โดยส่วนตัวศรัทธาท่านมาก ท่านเป็นพระแท้ที่ไม่ยึดติดใดๆในลาภสักการะ หอมไปด้วยศีลอันบริสุทธิ์ ศึกษาเล่าเรียนทั้งปริยัติ และปฏิบัติดีปฎิบัติชอบมาโดยตลอด 79 พรรษา ท่านศึกษาสรรพวิชามาอย่างถ่องแท้ ของจริงตามสายวิชาในท้องถิ่น หากแต่สำผัสได้เลยว่าท่านไม่ได้ยึดติดในวิชาเหล่านั้นเลย เชื่อได้เลยว่าท่านเลยไปกว่านั้นแล้ว เพราะคำสอนหรือหลักธรรมของท่านนั่น ลุ่มลึกและมุ่งให้คิดตามแบบอย่างของพระพุทธศาสนา มิได้ให้หลงงมงายใดๆ ปัจจุบันท่านอายุ 99 ปี 79 พรรษา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2016
  9. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 116 ครูพรานกอบลาภ หลังพ่อแก่ พ่อครูพระศิริพงศ์ ครุพันธ์กิจ เรือนพระภรตมุนี
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    ครูพรานกอบลาภ พ่อครูสร้างโดยครื่องสังเวยพลีกรรมบวงสรวงบอกกล่าว น้าครูพรานที่ใช้ใส่แสดงอายุเก่าแก่ เพื่อขอบดทำมวลสารตั้งต้น แล้วนำผงอิทธิเจสายศิลปิน มวลสารมงคลสายศิลปินถิ่นถนนพะเนียง วัดแคนางเลิ้งกรุงเทพมหานคร ผสมมวลสารในพระอุโบสถวัดพระแก้ววังหน้า ต้นกำเนิดของแดนศิลปินนาฏศิลปและดนตรี
    และแป้งผัดหน้าสายศิลปินเข้าผสม ปั้มขึ้นรูปครูพราน มุ่งเน้นให้มีพลังอาถรรพ์ด้านกอบโชคกอบลาภเมตตาเสน่หาสายศิลปิน จึงขนานนามตั้งชื่อว่า “ครูพรานกอบลาภ”
    ปั้มในวันพฤหัส ๑๙ ขึ้น ๙ ค่ำ วันมหาคุรุเทพ บวงสรวงกลางพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ภายในพระราชวังบวรสถานมงคล

    ครูพรานกอบลาภ เมตตาเสน่หาสายศิลปินแท้ๆ ดีเด่นเรื่องมีผู้ให้ความอุปถัมภ์ค้ำชูอุดหนุน เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมหยิบจับทำการสิ่งใดเป็นเงินเป็นทอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2017
  10. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    <a href="http://www.mx7.com/view2/yZu23DTeM4B2VOBi" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/da6/uGIVaF.png" /></a>

    น้อมกราบส่งหลวงพ่อครับ ก่อนท่านมาณภาพหนึ่งวัน ผมขับรถผ่านปากทางวัด ปกติก็ผ่านบ่อย แต่ครั้งนี้ไม่รู้เป็นไงเลี้ยวเข้าวัดเฉยเลย ไปถึงจึงทราบว่าท่านอยู่โรงพยาบาล มีความรู้สึกบางอย่างจึงเช่าเบี้ยท่านมา รุ่งขึ้นอีกวันท่านก็สิ้น ทุกครั้งที่ท่านอยู่ ถ้าหากได้พบท่าน ท่านจะเสกให้อีกทุกครั้งเป็นเวลานาน

    ท่านที่มีวัตถุมงคลท่าน ขอให้น้อมระลึกถึงท่าน เป็นการบูชาครูบาอาจารย์ เมื่ออาราธนาของท่านติดตัว จะได้มีกระแสถึงกันได้ดียิ่งขึ้น หากมีโอกาสได้ทำบุญ ให้น้อมถวายท่าน จะได้มีบุญสัมพันธ์ต่อกัน (ใช้กับครูบาอาจารย์ทุกองค์ที่เราแขวน)

    “พระครูพิทักษ์วีรธรรม” หรือ “หลวงพ่อสืบ ปริมุตฺโต” ละสังขารด้วยโรคชรา สิริอายุ 84 ปี 45 พรรษา ท่านได้บริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลศิริราช

    ตามประวัติ หลวงพ่อสืบ ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน ,หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร, หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว (วิชาตีเบี้ยแก้),หลวงพ่อสุด วัดกาหลง, หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ ฯลฯ อัธยาศัยของหลวงพ่อสืบเป็นคนมีจิตใจนักเลงติดตัวมาตั้งแต่ครั้งเป็นฆราวาส จึงมีจิตใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยว พูดอย่างไรทำอย่างนั้น ท่านเป็นพระใจดี มีเมตตาไม่แบ่งชนชั้น ท่านจึงมีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศและต่างประเทศ

    เวลาไปกราบท่าน ท่านเมตตามาก วัตถุมงคลทุกอย่างที่ท่านสร้าง ล้วนมาจากสิ่งที่ท่านเรียนมา ท่านไม่ชอบทำของมั่วๆ โดยเฉพาะตระกรุดและเบี้ย ท่านจะเสกจนท่านพอใจ ถึงจะอนุญาติให้นำลงมาให้บูชาได้ เคยคุยกับหลวงตาท่านบอกว่า เคยนำลงมาก่อนเพราะเห็นว่าท่านเสกนานแล้ว ท่านกลับมาบอกให้เอาขึ้นไปที่เดิมเพราะยังเสกไม่เสร็จ

    ส่วนตัวชอบเบี้ยท่านมาก สร้างและเสกตามวิชาสายวัดกลางบางแก้วอย่างถูกต้อง หลวงปู่เจือท่านมาครอบครูจับมือตอกเบี้ยให้ถึงวัดสิงห์ หลวงพ่อเองท่านก็บูชาครู เบี้ยที่ทำออกมาเยอะได้ ก็หลังจากที่หลวงปู่เจือมรณภาพแล้ว ท่านใดอยากได้เบี้ยส่ยวัดกลางบางแก้ว แท้ๆ หาของหลวงปู่เจือที่มั่นใจจริงไม่ได้ แนะนำเลยครับ ของแท้ ประสบการณ์มากมาย หลายคนเจอสั่นเตือนมาแล้ว

    กราบหลวงพ่อครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    ขอบคุณมากๆครับ
     
  12. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 117 ล็อกเก็ตหลังพระอุปคุต+จีวรหลวงปู่พิศดู ธัมมจารี (รุ่นประสบการณ์)
    ค่าจัดส่ง 60 บาท จอง

    ล็อกเก็ตรุ่นนี้แม้ไม่ทันหลวงปู่ แต่ประสบการณ์เยอะมากๆ

    ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด คัดลอกจากบทความ คุณทุเรียนทอด (ประสบการณ์แค่บางส่วนเท่านั้น)

    ‪#‎วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นดีทุกรุ่นจริงครับ‬ แม้แต่รุ่นที่ไม่ทันท่านอธิษฐานก็ยังน่าใช้เลย..ผมได้ฟังมาก็หลายคนแล้วถึงประสบการณ์วัตถุมงคลล็อกเก็ตกระดาษชุดนี้ แม่ไม่ทันท่านอธิษฐาน ก็ยังปรากฏอิทธิปาฏิหาริย์ให้ได้เห็นกันอยู่ตลอด แม้แต่เรื่องทางโชคลาภนี้ ถ้าถึงคราวจำเป็นอธิษฐานจิตบอกหลวงปู่ก็เห็นผลกันแทบทุกราย บางคนที่ผมฟังมาใส่ของชุดนี้ไปอธิษฐานซื้อหวยก็ยังถูก บางคนก็เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ใช้ล็อกเก็ตกระดาษชุดนี้แล้ว "เฮง..มาก ทำอะไรไม่เคยพ่ายเลย.." ขนาดใส่เอาไปเล่นไพ่ก็ยังได้อยู่เสมอ ยิ่งถ้าวันไหนใส่สวดมนต์บูชาหรือใส่นอนยิ่ง ป๊อก.. เลย.. 
แต่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่านะครับ และไม่ได้สนับสนุนให้ท่านผู้อ่านเอาวัตถุมงคลไปใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการพนัน เพราะหลวงปู่ท่านก็ยังบอกว่า " การพนัน ขันต่อ เป็นข้อทุกข์.. " แต่ว่าประสบการณ์ที่ฟังๆมาส่วนมากเป็นอย่างนั้นจริงๆ และส่วนมากที่เขาได้ผลกันจะประมาณว่า ถ้าถึงคราวจำเป็นจริงๆแล้วอธิษฐานขอหลวงปู่ท่าน ก็มักจะได้สมความปรารถนากันแทบทั้งสิ้น ส่วนตัวผมเองก็ไม่เคยขออะไรจากท่านครับ เพียงแค่บูชา มีท่านอยู่ในใจและรู้สึกว่าองค์ท่านยังคุ้มครองเราอยู่เพียงเท่านี้ก็พอใจแล้วครับ..
    นี่ขนาดของชุดนี้ไม่ทันองค์หลวงปู่ท่านอธิษฐาน และไม่มีพระเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสกเลย มีแต่เพียงรูปขององค์หลวงปู่ท่านและชายจีวรชิ้นเล็กๆที่ใส่ไว้ด้านหลังรูปเท่านั้นครับ.. มีครูบาอาจารย์หลายท่านนะครับ บอกมาว่ารูปถ่ายขององค์หลวงปู่ แม้ไม่ได้ผ่านพิธีก็มีอานุภาพในตัวแล้ว สามารถคุ้มครองได้ตลอดไปแล้วครับ

    ล่าสุด.. !!! ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษ หลังพระอุปคุต ชายจีวรหลวงปู่พิศดู
    ‪#‎การกลับมาใหม่‬..
เมื่อไม่นานมานี้เอง มีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นครับ เป็นประสบการณ์จากคุณ บวรรัตน์ อยู่ที่ดอนเมืองครับ
คือคุณบวรรัตน์ได้ตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้ว ต่อมามีอาการน้ำเดิน คือมีน้ำไหลออกจากช่องคลอด และมีไข้ จึงไปตรวจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ทางแพทย์แทบไม่ได้ทำการรักษาอะไร เพียงแต่ให้นอนที่โรงพยาบาล 2 วัน รักษาไปตามอาการ ต่อมาอาการเริ่มทรุดหนักขึ้นจึงได้ย้ายไปตรวจอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ผลจากการตรวจคือ ครรภ์เป็นพิษ จนทำให้เด็กแท้งครับ ทางแพทย์ต้องทำการผ่าเอาเด็กออก ต่อมาก็มีอาการติดเชื้อเกิดขึ้น มีไข้ขึ้นสูงจนสลบไปไม่ได้สติ ความดันตกเหลือเพียง 40-45 เท่านั้น และต้องใช้อ็อกซิเจนช่วยในการหายใจ ซึ่งเคสนี้มีความเสี่ยงทำให้เสียชีวิตได้ง่ายมาก ทางคุณแม่ของคุณบวรรัตน์ และญาติๆก็กังวลกันมาก และทางแพทย์ก็ไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้ แต่ก็จะพยายามรักษาอย่างเต็มที่..!! 
ทางพี่อั๋น ซึ่งถือเป็นญาติห่างๆกับคุณแม่ของคุณบวรรัตน์ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงแนะนำให้พึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนนับถืออยู่ จึงได้ไปเอาล็อกเก็ตกระดาษ หลังพระอุปคุตชายจีวร ที่ทางวัดเทพธารทองแจกมา เอามาอาราธนาขอบารมีพระอุปคุต และหลวงปู่พิศดู ให้ช่วยลูกสาวคนนี้ด้วย เขาเป็นคนดี ชอบทำบุญ ไม่เคยก่อกรรมอะไรร้ายแรง.. และจากนั้นก็ขอให้พยาบาลเอาไปคล้องคอของคุณบวรรัตน์ เพื่อหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์.. !!! ผู้เป็นแม่ และญาติๆก็พร่ำสวดมนต์แผ่เมตตา และรอความหวังอย่างใจจดใจจ่อ แม้ความหวังที่มีในตอนนั้นจะดูน้อยนิดก็ตาม.. ซึ่งหลังจากได้นำเอาล็อกเก็ตกระดาษไปคล้องคออยู่ได้เพียงไม่ถึง 1 วัน คุณบวรรัตน์ก็ฟื้นขึ้น อาการทุกอย่างดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางแพทย์ที่ทำการรักษายัง งง..??(แปลกใจ) เลยครับ พอหลังจากที่คุณบวรรัตน์ฟื้นขึ้นมาแล้ว ได้เล่าเหตุการณ์ที่คล้ายความฝันให้ฟังว่า..
" หลังจากที่เธอสลบไป ก็เห็นภาพตัวเองกำลังจมลงไปในท้องทะเลลึก และมืด ในใจก็คิดว่า ชาตินี้เรายังทำความดีไม่พอ นี่เราจะไม่รอดแล้วหรือ เราอยากจะกลับไปอีกครั้งเพื่อทำความดีให้มากกว่านี้.. ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า.. " กลับไปไม่ได้แล้ว.. " !!! 
ในวินาทีนั้น เธอก็คิดถึงพระอุปคุต และหลวงปู่พิศดูขึ้นมาเอง ก็พลันเห็นภาพพระองค์ผอมๆใส่จีวร แต่ว่าไม่ทันมองหน้า ท่านได้จับผมของเธอและเหวี่ยงขึ้นมาจากทะเลลึกนั้นกลับขึ้นมาบนฝั่งอย่างฉับพลัน แล้วเธอก็ได้สติขึ้นมา พบว่านอนอยู่บนเตียง ที่โรงพยาบาล.. พอตื่นขึ้นมา ก็เจอแม่เข้ามาเยี่ยม จึงได้บอกแม่ว่า ให้โทรไปขอบคุณ " น้าอั๋น " ที เพราะเชื่อว่า น้าอั๋นต้องเป็นคนที่มีส่วนช่วยให้ตนเองกลับมาในครั้งนี้อีก เนื่องจากน้าอั๋น ศรัทธาในพระมหาอุปคุต และหลวงปู่พิศดูเป็นที่สุดครับ..
หลังจากนั้นมาคุณบวรรัตน์ ก็มีอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และสามารถกลับมาบ้านได้แล้วครับ.. สาธุ

    ‪#‎ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษชายจีวร‬ ‪#‎หลังพระมหาอุปคุต‬
    เรื่องนี้ท่านพระอาจารย์หนึ่ง สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ เป็นผู้เมตตาเล่าให้ฟังครับว่า..
‪#‎ชะตาขาด‬..!!!
ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2556 มีโยมคนหนึ่งมาหาท่านพระอาจารย์ที่สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ บอกว่ามีเพื่อนแนะนำให้มาหา ให้พระอาจารย์ช่วย.... แล้วโยมคนนัั้นก็เล่าเรื่องนี้ให้ฟังว่า.. 
ตนเองมีความไม่สบายใจ จึงไปหาหมอดูดวง ซึ่งพอหมอดูได้ตรวจดวงแล้วก็บอกว่า ชะตาขาด จะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงเดือนมีนาคม ทำให้ตนตกใจอย่างมาก จึงไปหาหมอดูอีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ทักตรงกันว่าชะตาขาด จะอยู่ได้อีกไม่ถึงเดือนมีนาคม จากนั้นจึงไปหาร่างทรง อาจารย์ฆราวาส และก็พระเกจิอาจารย์ผู้มีความสามารถตรวจดวงได้อย่างแม่นยำ หลังจากท่านเหล่านั้นตรวจดวงอย่างละเอียดแล้วก็ยังบอกตรงกันอีกว่า จะอยู่ได้แค่ไม่ถึงเดือนมีนาคม จึงทำให้ตนเป็นทุกข์กายทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีทางออกอีกแล้ว พอดีมีเพื่อนแนะนำให้มาหาพระอาจารย์ให้ช่วยต่อดวงชะตาให้ ซึ่งพระอาจารย์ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกเห็นใจมาก และคิดว่า คนคนนี้อาจยังมีโอกาสรอด ด้วยอาศัยบารมีขององค์หลวงปู่ให้ช่วยปกปักรักษา ดังนั้นท่านพระอาจารย์จึงเรียกให้พระภิกษุในวัด มาร่วมสวดพระปริตร และสวดเสริมบารมีให้พอเป็นพิธี จากนั้นท่านพระอาจารย์ได้นำล็อกเก็ตกระดาษหลังพระมหาอุปคุต ที่มีชายจีวร มาอธิษฐานขอบารมีขององค์หลวงปู่ช่วยคุ้มครองให้โยมผู้นี้ปลอดภัย และมีอายุมั่นขวัญยืน แล้วท่านก็อธิษฐานคล้องคอให้ โดยบอกว่าให้โยมใส่ไป แล้วไม่ต้องคิดมาก หลวงปู่บารมีท่านสูงท่านจะคุ้มครองเรา แล้วท่านพระอาจารย์ก็เล่าชาดกบางตอนให้โยมฟัง ทำให้เขาสบายใจขึ้นเยอะ.. 
หลังจากนั้นไปอีกหลายวัน ประมาณวันที่ 20 กว่าๆของเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ขณะที่โยมคนนี้ขับรถอยู่ด้วยความเร็วพอสมควร อยู่ดีๆกรอบล็อกเก็ตกระดาษที่คล้องคออยุ่ก็มีเสียงดัง โพล๊ะ..!!! พอจอดรถดูก็ตกใจ เพราะว่ากรอบล็อกเก็ตกระดาษนั้นแตกละเอียดโดยที่ไม่มีสาเหตุ ใจก็เริ่มไม่ดี จึงโทรหาพระอาจารย์และเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้ท่านฟัง พระอาจารย์ท่านก็บอกว่า.. 
" ไม่เป็นไรแล้วหละโยม เพราะพระท่านรับเคราะห์แทนเราไปแล้ว ไว้โยมมาหาอาตมาที่วัด แล้วอาตมาจะคล้องให้ใหม่.. "
ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมาโยมคนนั้นก็ยังอยู่รอดปลอดภัย หน้าตาดูสดใสจนถึงทุกวันนี้ครับ..

    ‪#‎วันนี้ขอแถมให้อีกเรื่องแล้วกันครับ‬.. สำหรับล็อกเก็ตกระดาษ
    ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษ หลังชายจีวร หลวงปู่พิศดู
วัตถุมงคลขององค์หลวงปู่พิศดูนั้นดีทุกรุ่นจริงๆครับ แม้แต่รุ่นที่ไม่ทันท่านอธิษฐานก็ยังน่าใช้เลย.. 
ปลายปีก่อนมีพี่คนหนึ่งมาเล่าให้ผมฟังครับว่า มีคนได้ล็อกเก็ตกระดาษที่ด้านหลังมีชายจีวรขององค์หลวงปู่ชิ้นเล็กๆ พร้อมสายสร้อยเชือกสำหรับคล้องคอไปจากทางวัด ผู้ที่ได้รับแจกหลายคนได้ไป ก็นำไปบูชาแขวนคอ เขาบอกกันว่า เมตตาค้าขายดี บางคนก็บอกว่า แคล้วคลาดปลอดภัยดี...ฯลฯ
    ‪#‎งูเห่าฉก‬..!!!
มีคุณป้าอยู่ท่านหนึ่งครับ บ้านอยู่แถว ต.บางกะจะ แกได้ไปก็นำมาแขวนเหมือนกัน และมีอยู่วันหนึ่งขณะที่คุณป้าท่านนี้กำลังเก็บผลไม้อยู่ในสวน โดยที่ไม่ทันระวังตัวปรากฏว่าลื่นไถลล้ม ตกลงไปในท้องล่องเล็กๆข้างๆสวนนั่นเอง พอตกลงไป ปั๊บ..!!! ก็จังหวะไปเจอกับงูเห่าตัวเกือบเท่าข้อมือตัวหนึ่ง คงด้วยความตกใจงูตัวนั้นได้พุ่งฉก ที่บริเวณหน้าผากของคุณป้าท่านนั้นทันที..!!! ปึ้กก.. แล้วเจ้างูก็เลื้อยหนีไป พอคณป้าตั้งสติได้ก็คลำตรงบริเวณหน้าผากดู แต่คุณป้าท่านนั้นกลับไม่ได้รับอันตรายจากพิษงูเลย ‪#‎เพราะงูตัวนั้นเวลาพุ่งฉกกลับอ้าปากไม่ขึ้น‬.. ได้แต่เพียงเอาปากมาชนแบบจุมพิตที่หน้าผากเท่านั้น คุณป้าบอกว่า แกหัวใจเกือบวาย นี่คงเป็นเพราะบารมีขององค์หลวงปู่แท้ๆที่ช่วยชีวิตแกไว้ เพราะทั้งตัวของคุณป้ามีเพียงสายสร้อยที่มีรูปกระดาษและชายจีวรเล้กๆ ขององค์หลวงปู่พิศดูเท่านั้นไม่มีวัตถุมงคลใดๆเลย..
    นี่ขนาดของชุดนี้ไม่ทันองค์หลวงปู่ท่านอธิษฐาน และไม่มีพระเกจิอาจารย์ท่านใดปลุกเสก(เพียงแต่จุดธูปขอบารมีหลวงปู่ท่านเท่านั้น) เพียงรูปขององค์หลวงปู่ท่านและชายจีวรชิ้นเล็กๆที่ใส่ไว้ด้านหลังรูปครับ.. มีครูบาอาจารย์หลายท่านนะครับ บอกมาว่ารูปถ่ายขององค์หลวงปู่ แม้ไม่ได้ผ่านพิธีก็มีอานุภาพได้ สามารถคุ้มครองได้ตลอดไปแล้วครับ แล้วถ้ายิ่งเป็นวัตถุมงคลที่องค์หลวงปู่ท่านอธิษฐานด้วยแล้ว โดยเฉพาะของที่ท่านตั้งใจทำอย่างนี้ จะมีอานุภาพและความพิเศษขนาดไหนกันจริงไหมครับ..

    ‪#‎ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร‬..
    ประสบการณ์ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวรขององค์หลวงปู่พิศดู เหล่านี้ จริงๆผมน่าจะเคยลงไปบ้างแล้ว แต่ก็คงมีบางท่านยังไม่เคยอ่าน..
    มีเด็กคนหนึ่งอายุประมาณ 6 ขวบ ด้วยความที่เล่นซุกซน จนทำให้เกิดพลัดตกจากตึกสูงหลายชั้น ลงมาที่พื้นล่าง แต่กลับไม่เป็นไรเลย มีเพียงฟกช้ำเล็กน้อยเท่านั้น เด็กคนนี้ก็ใส่ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร ขององค์หลวงปู่อยู่เพียงองค์เดียว..
    อีกประสบการณ์หนึ่ง เกิดขึ้นกับเด็กอีกเช่นกัน เด็กคนนี้อายุก็ราว 5-6 ขวบ ไปเที่ยวกับพ่อแม่ ด้วยความที่วิ่งเล่นอย่างสนุกสนานจนลืมระวังตัว ก็ทำให้ตกลงไปในสระน้ำ แล้วจมดิ่งลงไป แล้วจากนั้นตัวก็ลอยขึ้นมา และไม่จมลงไปอีกเลย เพียงแต่ลอยน้ำอยู่อย่างนั้น เด็กคนนี้ก็ใส่ล็อกเก็ตกระดาษหลังชายจีวร ขององค์หลวงปู่อยู่องค์เดียวเช่นกัน..
    อีกเรื่อง เป็นประสบการณ์ของผู้ที่นำล็อกเก็ตไปแขวนไว้หน้ารถ ขณะขับรถไปทำธุระ ด้วยความเร่งรีบจึงขับด้วยความเร็จ 140-150 ก.ม.ต่อชั่วโมง แล้วอยู่ดีๆ ฝาที่ประกบล็อกเก็ตกระดาษ ที่แขวนอยู่หน้ารถก็กระเด้งออกจากกัน จึงทำให้เขาต้องถอนคันเร่งแล้วก็เบรกชะลอความเร็วลง ปรากฏว่าทางข้างหน้านั้นมีอุบัติเหตุ เนื่องจากว่าทางชำรุดอยู่ ทำให้เขาใจหายวาบเลย เพราะว่าถ้าหากฝาของล็อกเก็ตนี้ไม่กระเด้งออกจากกัน เขาก็อาจเป็นหนึ่งในผู้ประสบอุบัติเหตุนั้นก็ได้ ..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มีนาคม 2016
  13. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 118 พระกริ่งชินบัญชร เสาร์ ๕ เนื้อรวมชนวนมวลสาร บรรจุกริ่ง หลวงปู่จันทร์ วัดซับน้อย จ.เพชรบูรณ์
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    หลวงปู่จันทร์ ตั้งใจปลุกเสกวันเสาร์ ๕ วันที่ 20 เดือนมิถุนา 58 หลวงปู่ท่านบอกว่า วันเสาร์ ๕ เป็นวันดี ท่านว่าไม่เหมาะในการทำงานมงคล แต่เหมาะสุดในการปลุกเสกพระเครื่อง จะทำให้พระเครื่องมีพุทธานุภาพที่ประมาณมิได้

    วันเสาร์ห้า คือ วันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ ซึ่ง โอกาสที่จะเกิดวันเสาร์ห้า นั้นเกิดได้ยาก ตามคติความเชื่อของโบราณเชื่อว่า ดาวเสาร์เป็นดาวแห่งความเข้มแข็ง และมีพลังมาก หากมีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลในวันเสาร์ห้า จะมีพุทธคุณด้านคงกระพัน และแคล้วคลาด มากกว่าวันปกติ“ ฤกษ์มหามงคลเสาร์ห้า มหาเศรษฐี 100 ปี มีครั้งเดียว นี่เอง..เป็นฤกษ์งามยามดี มีดาวบนท้องฟ้าโคจรในตำแหน่งที่สวยงาม เป็นวันที่ควรจะได้มีกิจกรรมอันเป็นมหามงคลร่วมกัน หรือได้ไปอยู่ในพิธีอันเป็นมงคลจะได้อำนวยอวยสุข อำนวยอวยพรให้เกิดสุข และผล เป็นมิ่งมงคลแก่ท่านทั้งหลาย ตามโบราณกาลมีมา เราถือว่าเป็นวันแรง และวันที่แข็ง เสาร์ห้า มี ๓ ฤกษ์สำคัญๆ ราชาฤกษ์ โสภณ และ ลาภะ ซึ่งเป็นฤกษ์ที่เป็นมงคล และดีเลิศทุกอย่าง

    "...งานสร้างพระกริ่งเสาร์ ๕ นี้ ทางประธานคณะกรรมการและกรรมการวัดได้ประชุมกันกับหลวงปู่จันทร์ ว่าปีนี้จะสร้างอะไรดี เพื่อให้ลูกศิษย์ลูกหาได้ร่วมทำบุญ หาปัจจัยสร้างศาลาการเปรียญที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ ท่านจึงได้บอกว่า " พระกริ่งชินบัญชรซิ พวกโยมเคยเห็นไหม ? หลวงพ่อทิม ท่านสร้างไว้ มีคุณค่านัก สร้างไว้สักรุ่น ต่อไปคนมีเก็บไว้ เหมือนเขามีทองอยู่ที่บ้าน " ทางประธานและกรรมการวัด ฟังแล้วก็เห็นพ้องต้องกันกับหลวงปู่ จึงได้เกิดการย้อนตำนานพระกริ่งอันโด่งดังเช่นเดียวหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ พระเกจิดังภาคตะวันออก หลวงปู่จันทร์ ท่านสำทับอีกทีว่า " ต้องปลุกเสกในวันเสาร์ ๕ เดือนมิถุนานะ ถึงจะดีที่สุด... "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2017
  14. whitenaga

    whitenaga เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    796
    ค่าพลัง:
    +2,752
    รายการที่ 100 ตะกรุดเปิดสมองหลวงปู่ผาด วัดไร่ โอนวันจันทร์ (รอเงินเดือน)
     
  15. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ
     
  16. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 119 นพเก้า : กระเบื้องหุ้มองค์พระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก
    บูชา 440 บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    แผ่นกระเบื้องมงคลนพเก้า บางท่านนำไปอธิษฐานวางไว้ใต้ฐานพระพุทธรูปที่บ้าน นำไปเลี่ยมห้อย หรือ นำไปขอเมตตาครูบาอาจารย์อธิฐานอีกครั้งให้เป็นแผ่นทำน้ำมนต์

    ลักษณะเป็นกระเบื้องโบราณมี 9 ช่องจึงเป็นที่มาของนพเก้า และจะมีการลงรักปิดทองคำแท้ไว้ด้านนอก ส่วนด้านหลังกระเบื้องที่มี9ช่องเอาไว้โบกปูนปิดหุ้มองค์พระปรางค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ปัจจุบันอายุเกิน100 ปี และ ผ่านการปลุกเสกมานานแสนนานทุกพิธีใหญ่ในการปลุกเสกจะมีการโยงสายสิญจน์จากองค์พระปรางค์นี้เข้าไปยังวิหารพระพุทธชินราชทุกครั้ง ซึ่งพิธีใหญ่ๆพิธีหลวงที่ผ่านมาเกิน100ปี คิดเอาครับว่าผ่านการปลุกเสกยาวนานขนาดไหน นพเก้านี้ถือเป็นของสูงปิดไว้บนยอดหุ้มองค์พระปรางค์ของวัดเลย สืบเนื่องจากกาลเวลาผ่านไปทำให้นพเก้าบางส่วนได้หลุดออกมา และทางวัดได้นำมาเปิดให้ประชาชนบูชาในช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะหมดไปอย่างรวดเร็ว สำหรับประวัติรายละเอียดมีดังนี้
    วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร สถานที่ประดิษฐานพระพุทธชินราช มีการบูรณะพระปรางค์ประจำวัด ศิลปะสมัยอยุธยา ที่ตั้งอยู่ด้านหลังวิหารพระพุทธชินราช ในการบูรณะจะมีการแกะชิ้นส่วนของพระปรางค์ ที่เรียกว่านพเก้า (แผ่นกระเบื้องโมเสกสีทอง ขนาด 3 x 3 ซ.ม.) ออก (เป็นพระปรางค์องค์เดียวในประเทศไทยที่มีการติดนพเก้า หรือกระเบื้องโมเสกสีทอง) ซึ่งทางกรมศิลปากร และวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ได้มีมติให้นำชิ้นนพเก้าออกให้ประชาชนเช่าบูชาเก็บไว้ เพื่อความเป็นสิริมงคล

    ปี พ.ศ. ๒๔๔๔ พระปรากรมมุณี ( เปลี่ยน ) เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหา วิหาร จังหวัดพิษณุโลก ในขณะนั้น ได้รวบรวมเงินจากผู้มีจิศรัทธาสั่งซื้อกระเบื้องสีทองจากประเทศอิตาลี เรียกว่าแผ่นนพเก้า สาเหตุที่เรียกว่าแผ่นนพเก้า เนื่องจากมี ๙ ช่อง แต่ละช่องมีจุด ๓ จุด ๓x๙ = ๒๗ และ ๒+๗ =๙ บางแผ่นแต่ละช่องมี ๔ จุด ๔x๙ = ๓๖ และ ๓+๖ = ๙ แผ่นนพเก้าปิดทองนี้ติดบนองค์พระปรางค์เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔และในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ รัฐบาลได้มอบให้กรมศิลปากรทำการซ่อมแซมองค์พระปรางค์ใหม่ จึงได้นำแผ่นนพเก้าที่สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ออก และมอบให้ทางวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร เพื่อมอบให้แก่ผู้มีจิตศรัทธาทำบุญสร้างนพศูลทองคำติดบนยอดพระปรางค์ แผ่นนพเก้านี้ มีอายุ ๑๐๖ ปี ใครบูชาหรือมีไว้นับว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง

    นพเก้านี้จากการบอกเล่าจากคนเฒ่า คนแก่บอกว่าเมื่อสมัยก่อนจนถึงปัจจุบันนี้เมื่อมีงานพุทธาภิเษกพระหรืองาน มงคลต่างๆทางวัดใหญ่ก็จะนำสายสิญจ์ขึ้นไปโอบพันรอบพระปรางค์เก่านี้ไว้โดย ตลอด เท่ากับว่านพเก้านี้ผ่านการปลุกเสกมานับไม่ถ้วยเลยทีเดียวครับ แต่ก่อนนั้นนพเก้ากว่าจะได้มาสักหนึ่งองค์นั้นยากแสนยาก เพราะต้องรอนพเก้าหลุดล่วงหล่นลงมาถึงจะมีการเอานพเก้านี้ออกมาให้บูชากัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2016
  17. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 120 เหรียญท้าวมหาพรหมธาดา ปรมาตม (จักรเพชร 3) สำนักพรหมธาดา(สถานค้นคว้าสัจธรรมปุรุโษตตมะ)
    ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท

    เหรียญท้าวมหาพรหมธาดา ปรมาตม (จักรเพชร 3) สำนักพรหมธาดา หลังเรียบจารหลังทุกเหรียญโดยศิษย์รุ่นลูกท่าน สามเณรวิรัช ลุปซ่าร์ พิธีอัญเชิญทิพย์สภาวะแห่งกระแสขององค์ธรรม หรือ องค์สมเด็จพระบรมครูท่านท้าวมหาพรหมธาดา ครบตามแบบฉบับเฉพาะของสำนัก

    สามเณรวิรัช ลุปซ่าร์ บ้านเดิมอยู่ย่านวัดดอน ยานนาวา มีปู่เป็นชาวเยอรมันชื่อเฟอร์โด ลุปซาร์ เคยเป็นครูสอนเกษตรในไทยก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๑ คุณย่าชื่อแช่ม สกุลเดิมคือศรีโยหะ บิดาชื่อวินิจ ลุปซาร์ สามเณรวิรัช ลุปซาร์ เกิดเมื่อปี ๒๔๙๐ เป็นลูกคนที่สี่ บวชเป็นเณรที่วัดดอน ยานนาวาตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ศึกษาวิชาไสยศาสตร์กับอาจารย์ที ชาวเขมรที่ศรีสะเกษจนสำเร็จ อาจารย์ทีสิ้นชีวิตเมื่ออายุ ๑๒๔ ปี ขณะนั้นสามเณรวิรัชอายุได้ ๑๒ ปี เมื่อได้วิชาแล้วสามเณรวิรัช กลับมายังวัดดอนยานนาวาที่บวชอยู่และเผยแพร่วิชาไสยศาสตร์ที่ร่ำเรียนมา มีทั้งการลงเสือ ลงช้าง เสกเป่า เมื่อลงเสร็จแล้วก็ทดลองกันเดี๋ยวนั้นในโบสถ์วัดดอน จนมีชื่อเสียงกระฉ่อน แต่สามเณรวิรัชมีอายุที่ได้รับจากเบื้องบนเพียง ๑๙ ปี มรณะปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ก่อนมรณะได้สร้างเหรียญจักรเพชรขึ้นและได้บรรจุวิชาสำคัญครบเครื่องตั้งแต่เมตตามหานิยม แคล้วคลาด จนถึงคงกระพันชาตรี เป็นเหรียญที่โด่งดังมาก "ก่อนมรณะได้ ๒๕ วันก็สึกเป็นฆราวาสใช้ชีวิตสนุกสนานเป็นการอำลาโลก" และก่อนมรณะภาพได้เชิญ"สมเด็จปู่พระพรหม"มาครอบวิชาให้กับ"คุณวินิจ ลุปซาร์"ผู้เป็นบิดา ส่วนอดีตเณรวิรัชถึงแก่มรณะด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยที่เพื่อนๆที่ไปด้วยปลอดภัยทุกคน วันที่ตั้งศพอยู่ที่วัดมกุฎกษัตริยารามวิญญาณได้มาเข้าทรงน้องสาวคือ.. "คุณนงลักษณ์ ลุปซาร์" ประกาศว่าจะอยู่ใกล้ชิดกับศิษย์ทั้งหลายตลอดไปใครมีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้เชิญมาได้โดยให้คุณนงลักษณ์เป็นร่างทรง
    สำนักทรงชื่อว่า"สถานค้นคว้าสัจธรรมปุรุโษตตมะ"

    ปัจจุบันมีลูกศิษย์ผู้ศรัทธามากมาย ประสบการณ์เด่นมากทางสายเหนียวสายบู๊ สุดยอดองค์ท้าวมหาพรหมสายปราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2016
  18. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 121 พระสมเด็จเกศไชโยพิมพ์ใหญ่ ผสมเกศา ปี๕๖ หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี
    ค่าจัดส่ง 60 บาท ปิดรายการ

    บางท่านเรียกสมเด็จฟ้าผ่า เพราะมีประสบการณ์จากคนที่โดนฟ้าผ่าที่เพชรบูรณ์แล้วไม่ได้รับอันตราย มีเพียงรอยฟกช้ำและรอยไหม้เล็กน้อยเท่านั้น

    เป็นพระสมเด็จรุ่น ๒ หลังจากสมเด็จรุ่นแรกเข็มหัก มีประสบการณ์โชกโชน หากันไม่ได้ ครั้งนี้จึงเกิดการสร้างพระสมเด็จเกศไชโยขึ้นอีกครั้ง ได้รวบรวม
    ข้าวก้นบาตรวันพระ
    เกศาหลวงปู่พวง
    ผงเก่าสมเด็จเกศไชโยที่แตกหัก
    ผงพระสมเด็จรุ่นแรกหลวงพ่อทบ 
    พระสมเด็จรุ่นแรกหลวงปู่พวง
    ผงปถมัง ผงอิธิเจ ผงมหาราช ผงพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห
    และมวลสารศักดิ์สิทธิ์และมวลสารต่างๆอีกกว่า ๙๙๙  ชนิด
    หลวงปู่พวงมอบจีวร ให้นำมาเพื่อเป็นมวลสารได้นำมาบดจนสีจากผ้าเหลืองแสงแห่งธรรมได้ใหลรวมเข้าเป็นเนื้อเดียวในองค์สมเด็จเกศไชโย ทำให้พระสมเด็จมีสีเหลืองตระการตาสวยสดงดงามเสมือนได้เห็นหลวงปู่พวงอยู่ตรงหน้า พิมพ์สมเด็จเกศไชโยนี้ด้านหลังหลวงปู่พวงบอกว่า เอาท่านไว้ด้านหลัง เอาพระพุทธไว้ด้านหน้า ส่วนพิมพ์รูปเหมือนนั้นให้ทำเต็มองค์ พระสมเด็จเกศไชโยนี้ ขอบารมีสมเด็จโตมาเป็นประธาน หากใครนำไปใช้แล้วจะบังเกิดลาภทบทวีคูน ด้วยการสร้างแบบโบราณภายภาคหน้านั้นพระสมเด็จเกศไชโยจะแตกลายงาตามกาลเวลา จงอย่าตกใจ นี่แหละคือของดีที่หนึ่ง จำให้ดี จะมีค่าในภายหน้า จงนำไปใช้แล้วจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง พุทธคุณลงครบทุกด้าน เน้นเมตตามหานิยมเป็นหลักรองลงมาให้เป็นเรื่องชาตรี กิจการต่างๆจะรุ่งเรืองมีโชคมีชัย คิดหวังสิ่งใดจะสำเร็จ จัดสร้าง 1,999 องค์

    หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี ( เกิด พ.ศ.2468 ) บวชเมื่อเป็นเณร อายุครบบวชพระก็บวชเลย เรียนวิชากับหลวงพ่อทบ มากที่สุด หลวงพ่อทบรักมาก สอนให้หมด ทั้งพาไปฝากให้เรียนวิชากับหลวงพ่อเขียน สำนักขุนเณร ด้วยตัวของท่านเอง ตอนอยู่กับหลวงพ่อทบ ท่านมีหน้าที่ช่วยหลวงพ่อทบ จารตะกรุดมั่ง ม้วนมั่ง ถักมั้ง ตอนอยู่กับหลวงพ่อเขียน ท่านมีหน้าที่ตักน้ำใส่ถัง ให้หลวงพ่อเขียนทำน้ำมนต์ ต่อมาท่านฝากตัวเรียนวิชากับหลวงพ่ออ้วน วัดดงขุย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า หลวงพ่ออ้วนรับศิษย์ยากมาก ถ้าไม่เก่งจริงไม่มีพื้นฐาน ท่านจะปฏิเสธแต่กับหลวงพ่อพวง ท่านทดสอบจนแน่ใจว่า จิตดี บารมีสูง จึงรับเป็นศิษย์ต่อวิชาชั้นสูงให้หลวงปู่พวง วัดน้ำพุสามัคคี มรณภาพเมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลาเที่ยงคืนโดยประมาณ

    หลวงปู่พวงท่านเป็นพระแท้ ไม่ไช่ดังเพราะเพียงแรงโปรโมต ท่านเก่งจริง ท่านเป็นดั่งคมในฝักอย่างแท้จริง หลากหลายครูบาอาจารย์รับรองเมื่อได้สำผัสวัตถุมงคลท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2016
  19. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 122 พญาการะเวก เนื้ออัลปาก้า หลวงพ่อใจ ฐิตาจาโร วัดพระยาญาติ (ปากง่าม)
    ค่าจัดส่ง 60 บาท จอง

    หลวงพ่อใจท่านจัดสร้าง"พญาการะเวก"ในรูปแบบเครื่องรางโดยนำชนวนจันทร์เพ็ญของทุกๆปีไปทำการหล่อหลอมรวมกับชนวนมวลสารอื่นของท่าน หลวงพ่อใจ นิสัยส่วนตัวท่านจะเมตตามาก และท่านเสกของทางเมตตาขึ้น ใครเคยไปกราบท่านจะรู้ดี เข้าไปกราบไปขอท่านเมตตาเรื่องใด ท่านไม่เคยปฏิเสธ และ ไม่สนใจด้วยว่าจะถวายปัจจัยหรือไม่ ไม่เคยเลือกแบ่งชนชั้นวรรณะ และท่านมีความรู้หรือวิชาเรื่องใด ท่านทำให้หมด ทั้งจารของ เสกพระ จารตระกรุด วิชาใบมะนาว จารกระหม่อมลงทอง ลดน้ำมนต์ แม้กระทั่งเป่าฝีเป่างูสวัด ฯลฯ ชาวบ้านรักท่านมาก เคยคุยกับชาวบ้านท่านหนึ่งบอกว่าเป็นฝีเรื้อรังไปหาหมอโรงพยาบาลก็ไม่หาย เงินก็ไม่ค่อยมี เลยมาขอท่านพ่น ดีขึ้นตั้งแต่ครั้งแรก

    พญาการะเวก สัตว์หิมพานต์ ชนิดหนึ่งที่มีพรสวรรค์มาก ในเรื่องแห่งเสียงที่ไพเราะเสนาะหู เมื่อใครได้ยินก็จะเกิดความเมตตา แม้แต่เทพ พรหม องค์อินทร์ และบรรดาเทพเทวดาทุกๆชั้น เพียงได้ยินเสียง ก็เกิดภวังค์ กับคำว่าเคลิ้ม และหลง ในเสียง จนได้รับการเรียกขานจากองค์พระนารายณ์ ว่า "จ้าวพญาการะเวก" ขนาดศัตรูขององค์เทพและพรหมบนสวรรค์ ที่เกรี้ยวกราด และมุ่งหมายจะทำลายล้างสวรรค์ (บรรดาพวกยักษ์มาร) ยกกองทัพมาถึงหน้าประตูสวรรค์ องค์พระนารายณ์ ท่านได้ส่ง "พญาการะเวก"ไปเกาะข้างหูบรรดายักษ์มารแล้วส่งเสียงร้อง ข้างหู จนทำให้บรรดายักษ์มารที่ได้ยินเสียง เกิดเปลี่ยนใจในการรบ และยกทัพกลับไปหลายรอบแล้ว พระนารายณ์เจ้าเลยตรัสกับเทวดาทุกองค์ว่า ผู้ใดที่มี"พญาการะเวก"อยู่คู่กาย ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะสำเร็จ สัมฤทธิ์ผล ทุกประการ

    พุทธคุณสูงด้านเมตตา-มหานิยม-มหาเสน่ห์ โดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจการงานด้านเจรจา รวมไปถึงนักร้อง พิธีกรโฆษก นักจัดรายการต่างๆ บูชาติดตัวจะเป็นมหาเสน่ห์อย่างดีเยี่ยม ใครได้ยินเสียงเราแล้วเกิดความหลงใหลในน้ำเสียงที่มีความไพเราะจับใจ อยู่ไกลแสนไกลแค่ไหนเมื่อได้ยินเสียงเราก็ต้องมาให้เห็นหน้า ถ้าไม่ได้มาเหมือนหัวใจจะแตกเป็นเสี่ยงๆทีเดียวนับว่าเป็นวิชาอาถรรพณ์โบราณอีกรูปแบบหนึ่งท่านสามารถทำได้ ก่อให้เกิดผลดีทุกด้านเกิดความมั่นใจในการประกอบธุรกิจการงานติดต่อประสานงานกับบุคคลทั่วไป

    พระอธิการใจ ฐิตาจาโร
    ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในธรรมวินัย ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่าสมบูรณ์ เอาใจใส่ในกิจการของสงฆ์ มีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตน สันโดษ มักน้อย มีเมตตามาก
    และเป็นที่รักและเครารพนับถือของชาวบ้านอัมพวา และตำบลใกล้เคียง ท่านเรียนมามาก เป็นศิษย์มีอาจารย์ ท่านเป็นพระที่เรียนมาจริง มีวิชาจริงสามารถช่วยลูกศิษย์ของท่าน
    ได้จริง แม้แต่เกจิอาจารย์ตามที่ต่างๆ ที่ท่านไปร่วมปลุกเสกด้วยในแต่ละครั้ง ยังเอ่ยปากชมและยอมรับในตัวท่าน..

    ท่านเกิดในปี พ.ศ. 2490 อุปสมบทในวันที่ 14 มีนาคม 2514 โดยมีพระครูโกวิท สมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี เป็นพระอุปฌายะ, พระครูสมุทรภัทรกิจ (หลวงพ่อทอง)
    วัดพระยาญาติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูสมุทร ธีรคุณ (หลวงพ่อมหาพิน) วัดช่องลม เป็นพระอนุสาวณาจารย์ ณ.อุโบสถ วัดช่องลม ได้รับฉายาว่า “ฐิตาจาโร”

    หลังจากนั้นหลวงพ่อท่านก็ย้ายมาอยู่ที่วัดพระยาญาติกับหลวงพ่อทอง ซึ่งหลวงพ่อทองท่านเก่งด้านการรักษาผู้ที่ป่วยอัมพาต และทำนายทายทัก (ดูดวง)

    หลังจากที่ท่านได้บวชเรียนจนจบนักธรรมชั้นเอกแล้วท่านก็คิดในใจว่าสงสัยเราต้องสึกซะทีจะได้ไปช่วยโยมบิดามารดาทำมาหากิน พอหลวงพ่อท่านไปหาหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    เพื่อที่จะขอลาสิกขาบถทีไร กลับถูกหลวงพ่อเนื่องปฏิเสธมาทุกครั้ง จนครั้งหนึ่งเมื่อหลวงพ่อไปขอสึก หลวงพ่อเนื่องท่านก็เอ่ยขอให้หลวงพ่อใจบวชต่อไป เพื่อรับใช้พระพุทศาสนาและ
    ต่อไปในภายภาคหน้าเมื่อสิ้นหลวงพ่อเนื่องจะได้ช่วยเหลือญาติโยมที่เขาเดือดร้อน

    หลวงพ่อเนื่องท่านได้สอนสรรพวิชาต่าง ๆ ที่ท่านมีไม่ว่าจะเป็นการลงตะกรุดมหาปราบ มหารูด มหาระงับ ตรีนิสิงเห ยันต์โสฬส ยันต์วิรุฬจำบัง ยันต์พัดโบก ทำน้ำมนต์ใบมะนาว
    การลงเจ็ดเสาร์ เจ็ดอังคาร รวมถึงทำน้ำมนต์ เพื่อไล่สิ่งที่เป็น อัปมงคล ฯลฯ จัดได้ว่าหลวงพ่อท่านได้สรรพวิชาจากหลวงพ่อเนื่องจนหมดไส้ หมดพุงเลยทีเดียว

    และท่านยังได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่าง ๆ จากโยมพ่อใบ คำอึก ซึ่งเป็นศิษย์พี่ ศิษย์น้องกับหลวงพ่อเนื่อง โยมพ่อใบ คำอึกนี้ มีวิชามากมาย แค่จับเถาวัลย์เท่านั้น เถาวัลย์ยังเลื้อย
    ขึ้นมือเอง หลวงพ่อใจท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ เช่น การกวนสีผึ้ง เพือเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม, การจับปลายเถาวัลย์, การล้างอาถรรพ์, การแก้คุณไสย, การทำน้ำมนต์เดือด
    และบอกหลวงพ่อว่า “สิ่งที่ฉันให้หลวงพ่อไป หลวงพ่อเอาไว้ช่วยคนนะ ฉันจะได้ขึ้นสวรรค์กับเขาซักที”

    หลังจากที่หลวงพ่อได้เรียนกับโยมพ่อใบ คำอึก จนสำเร็จ หลวงพ่อเนื่องได้ให้หลวงพ่อไปหาหลวงพ่อหนูวัดภุมรินทร์ และหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง ท่านทั้ง 2 องค์นี้ก็เป็นศิษย์หลวงพ่อคง
    เหมือนกัน ท่านได้สอนสุดยอดวิชาของท่านให้กับหลวงพ่อคือวิชา ดำน้ำลงตะกรุด ซึ่งวิชานี้ปีหนึ่งจะทำได้แค่ครั้งเดียว คือวันเพ็ญเดือน 12 เท่านั้น ตะกรุดที่ดำน้ำทำในแต่ละปีจะได้ไม่กี่ดอก
    ใครที่มีไว้ครอบครองถ้าอธิษฐานใช้แล้วก็จะสำฤทธิ์ผลได้ดั่งใจ พอหลวงพ่อท่านเรียนวิชาจากหลวงพ่อหนูจนเสร็จท่านก็ได้ไปกราบหลวงพ่อปึก วัดสวนหลวง เพื่อศึกษายันต์ครูจากหลวงพ่อปึก
    ซึ่งหลวงพ่อปึกองค์นี้สามารถ ตบยันต์ทะลุกระดาษทุกแผ่นได้เลยทีเดียว

    หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้สอนให้หลวงพ่อเรียนวิธีหุงสีผึ้ง, ทำตะกรุดลูกอม, ทำน้ำมนต์ตลิ่งพัง ตามตำรา หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ และยังได้สอนให้เรียนวิธีการทำพระปิดตาที่มีเมตตาสูงส่ง
    ตามตำราของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว

    นอกจากนี้หลวงพ่อใจท่านยังเรียนทำตะกรุดจากหลวงพ่อน้อย วัดปากคลองจังหวัดเพชรบุรี หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ หลวงพ่อง้อ วัดดาวดึงส์ หลังจากนั้นท่านก็เดินทางกลับสู่วัดจุฬามณี
    เพื่ออยู่คอยดูแล และรับใช้หลวงพ่อเนื่อง จนหลวงพ่อเนื่องมรณะภาพลง หลวงพ่อท่านก็กลับสู่วัดพระยาญาติ และในปี พ.ศ 2538 หลวงพ่อทองเจ้าอาวาสองค์เก่าวัดพระยาญาติได้มรณะภาพลง
    ญาติโยมและชาวบ้านจึงกราบอารธนาหลวงพ่อให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระยาญาติ ซึ่งตรงกับวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2539

    หลังจากหลวงพ่อท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว ท่านได้ช่วยพัฒนาวัดจนดีขี้นเป็นลำดับ และได้สงเคราะห์ญาติโยมด้วยความเมตตาในหลากหลายเรื่อง เช่น ทำตะกรุดเพื่อปกป้องคุ้มครอง
    เสกใบมะนาว เพื่อรักษาโรคที่รักษาไม่ได้ ทำน้ำมนต์ พ่นรักษาโรค ฯลฯ ท่านเมตตาช่วยศิษย์ทุกคนโดยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ

    ประสบการณ์ตะกรุด และลูกสะกดของท่าน ที่ท่านทำแจกให้ไปมีประสบการณ์กันมาก เช่น วัยรุ่นถูกคู่อริยิง แล้วยิงไม่เข้า, ขับรถหลับในชนศาลาริมทางคนที่นั่งไปด้วยเสียชีวิต แต่คนขับที่มี
    ตะกรุดกลับไม่เป็นอะไรเลย เคยมีโยมพาลูกมาให้หลวงพ่ออาบน้ำมนต์ให้ พอหลวงพ่อเห็นเด็ก หลวงพ่อก็หยิบลูกสะกดพร้อมด้ายเจ็ดสี และพูดขึ้นว่า “ใส่คอไว้นะ อย่าเอาออก” พอหลังจากเด็ก
    กลับไปแล้วเกิดพลัดตกน้ำแต่กลับลอยขึ้นมาไม่จม, แม่ค้า พ่อค้า นักธุรกิจ ที่ได้อาบน้ำมนต์กับหลวงพ่อ และรับแจกตะกรุดกลับไป สามารถพลิกชีวิตพลิกธุรกิจให้ดีขึ้นได้มากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2017
  20. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705

แชร์หน้านี้

Loading...