โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย bat119, 20 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    ปิดแล้วครับ
     
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319

    สวัสดียามสายครับป๋า:cool:
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  5. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    เหรียญพระพุทธสิหิงค์รุ่นแรก วัดมหาธาตุปี2485 (pm)

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7vAATLKItSIjqns" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a3c/EfVVsa.jpg" /></a>​


    เหรียญรุ่นนี้จัดพิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่โดยมี สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ ฯ เป็นประธานในพิธีและยังมีพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคอินโดจีน เช่นเดียวกับพระพุทธชินราชอินโดจีนวัดสุทัศน์ปีเดียวกันมาร่วมในพิธีมากมาย
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319

    สวัสดียามสายครับป๋า
     
  7. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  8. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    eq092627876th เชียงคำ
    eq092627880th ปากเกร็ด
    eq092627893th พุนพิน
     
  9. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    เส้นเดียวไปได้ทั่วครับ 1.พระกสิณหลวงปู่พิศดู พิมพ์ห้าเหลี่ยมท่านพ่อลี 2.พระผงรูปเหมือนรุ่น2 หลวงปู่พิศดู 3.เม็ดประคำข้อมือ หลวงปู่พิศดู(เด่นโชคลาภมากครับ) 4.แผ่นยันต์ตะกรุด ทองเหลืองตัดปีก หลวงปู่พิศดู 5.ตะกรุด ยันต์ดาบสะหลี๋กัญชัย ครูบากฤษดา 6.ตะกรุดอุปคุตมหาลาภ หลวงปู่พิศดู (pm)

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7AKJPtU0dsPUauN" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/ce9/ZiCHYd.JPG" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7AKKbsAhPY9mQvx" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a86/zoinxV.JPG" /></a> <a href="http://www.mx7.com/view2/z7AKKTpWR0xam7Yx" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a9c/wqkSl4.JPG" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7AKKxrgz8isCVxl" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/120/DqqKRG.JPG" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7AKKTpWQX40pxZC" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a4d/jUR3tR.JPG" /></a>

    ตะกรุดอุปคุตมหาลาภ
    ตะกรุดชุดนี้สร้างตามตำราโบราณของสายล้านนา ตะกรุดทำจากเนื้อดีบุก ลงอักขระตัวเมือง ที่ครูบาอาจารย์ท่านได้ดัดแปลงมาเป็นภาพพระอุปคุตจกบาตร
    ตามตำรากล่าวไว้
    หากปราถนา โชคลาภ ให้แช่น้ำผึ้ง
    หากปราถนา เมตตา ให้แช่น้ำมันหอม
    หากปราถนา ศิริมงคลและป้องกันภัย ให้แช่น้ำพุทธมนต์
    หากปราถนา ความแคล้วคลาดปลอดภัย ให้แช่ในน้ำมันงา
    สิ่งที่นำมาแช่ตะกรุดนี้สามารถใช้เจิมร้านค้า ข้าวของ และเจิมหน้าเจิมตัว เพื่อความเป็นศิริมงคล อุดมโชคลาภได้อีกด้วย หากว่าหมดหรือพร่องลงสามารถหามาเติมได้ตลอดไป
    ผู้ใดมีไว้บูชา และเก็บไว้ในที่เก็บเงินทองของมีค่า จะช่วยรักษาทรัพย์สิน ให้มีโชคมีลาภมั่งคั่งและอยู่เย็นเป็นสุข

    2.พระผงรูปเหมือน รุ่น2 ของหลวงปู่พิศดู
    - สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2547 โดยคณะศิษย์สาย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ถือได้ว่าสร้างได้ดีมากๆอีกรุ่นหนึ่งทีเดียว เพราะมีมวลสารต่างๆที่หลวงปู่มอบให้ไป รวมทั้งมวลสารที่ทางคณะนี้ได้นำมาใส่ไว้ด้วย อาทิ ผงวิเศษของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ผงหลวงปู่ทิม วัดพระขาว ฯลฯ
    โดยรูปแบบนั้นหลวงปู่ท่านสั่งให้ทำเป็นรูปใบโพธิ์ ใต้ฐาน บรรจุตะกรุดที่หลวงปู่จารอักขระเอง โดยจารใส่แผ่นใหญ่ๆ แล้วให้ตัดซอยออกมาได้หลายดอก แล้วจึงม้วนห่อไว้ด้วยเกษาของหลวงปู่พิศดูท่าน แล้วจึงบรรจุไว้ใต้ขอบล่างทุกองค์ เป็นชุดเล็กที่สุดยอดจริงๆครับ จำนวนสร้างทั้งหมดเพียง 1,000 องค์ อฐิษฐานจิตอยู่ข้างพระประธานกุฏิหลวงปู่หลังเก่าอย่างน้อย 2-3 ปีครับ


    พระเนื้อดิน และพระเนื้อผงผสมดินของหลวงปู่พิศดูท่าน เรียกว่า พระกสิณ ครับ เริ่มสร้างประมาณปี 2520 เป็นต้นมา... พระเนื้อดินเผา เมื่อกดพิมพ์พระ และนำมาตากแห้งเรียบร้อยแล้ว จะนำมาเผาไฟ สุมด้วยแกลบตามกรรมวิธีแบบโบราณ ในระหว่างนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์เดินจงกรมบริกรรมทั้งหมด ถ้าดินสุกแล้วท่านจะนำมาไว้ที่ห้องสวดมนต์ ท่านจะสวดลายลักษณ์ของพระพุทธเจ้า ตลอดถึงพระคาถาและบทสวดต่างๆมากมายเลยครับ สำหรับพระยุคแรกๆของท่าน
    องค์หลวงปู่ได้ทําการลงอักขระบนกระดาน และลบผงเอง นอกจากนั้น ยังแกะพิมพ์และกดพิมพ์กันเองในวัด โดยลูกศิษย์ลูกหาที่มีความสามารถ และผู้ที่สนใจ (ฟังแล้วคิดถึงตอนที่สมเด็จโต วัดระฆังท่านสร้างพระสมเด็จครับ) อย่างใน มวลสารหลักๆ นอกจากผงที่หลวงปู่ท่านได้ลบสูตรเองแล้ว ยังมี ธูปอธิษฐาน ดอกไม้องค์หลวงปู่ไหว้พระ ว่านยา แร่ต่างๆ ผงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ กาฝาก 108 เกศา ชาญหมาก ดิน ทรายลำธารศักดิ์สิทธิ์ของวัดเทพธารทอง(ปฐวีธาตุ)
    พระกสิณ คณะสมัยก่อนได้เล่าให้ฟังว่า องค์หลวงปู่ได้บอกว่า ถึงไม่ค่อยสวย แต่ก็เมตตามากนะ อีกหน่อยจะหายาก...ซึ่งก็เป็นไปตามองค์หลวงปู่ได้ทํานาย ใครมีใครก็หวง จะหาได้ที่ไหนที่พระป่าสายกรรมฐานจะสร้างพระแบบนี้ครับคือ ลงมือทําเอง และลบผงเองครับ (ส่วนมากทางสายป่ากรรมฐานนี้ลูกศิษย์จะยกมาให้เสก เสกเสร็จก็ยกไปแจกครับ)
    พระกสิณถ้าจะมองผ่านๆบางคนอาจจะบอกว่า ไม่คมไม่สวย แต่ถ้าคิดในมุมกลับจะรู้ถึงคุณค่า เพราะกว่าจะได้แต่ละองค์ต้องผ่านอะไรๆหลายๆอย่าง เช่น หามวลสาร ทําบล็อค รวมถึงองค์หลวงปู่จะต้องลบผงอีกต่างหาก อีกทั้งองค์หลวงปู่จะเดินจงกลมรอบกองไฟ ระหว่างเดินท่านจะภาวนาตลอดครับ เรียกได้ว่าทุกขั้นตอนการสร้างท่านควบคุมดูแลตลอด ไม่ปล่อยให้ตกหล่นเลยครับ คณะสมัยนั้นเล่าให้ผมฟังว่า แม้กระทั่งที่ไม่สวยองค์หลวงปู่สั่งว่าห้ามทําลาย ให้ปล่อยไว้แบบนั้นครับ.. ( ข้อมูลคุณแฝงจันทร์.. )

    เนื้อดินเผา ผสมผงวิเศษ และเผาแบบสุมไฟด้วยแกลบให้ดินสุก โดยทำกันในวัด ในระหว่างนี้หลวงปู่ท่านจะเดินจงกรมรอบกองไฟ(เพิกกสิณ)ครับ..
    พระกสิณนี้ เมื่อทำสำเร็จและได้จำนวนมากพอแล้ว ท่านจะสั่งให้ลูกศิษย์เอามาเก็บไว้ที่กุฏิโดยเอาผ้าขาวปูรอง แล้วเอาพระกสิณวางเรียงกันไว้เป็นชั้นหนึ่ง จากนั้นก็เอาผ้าขาวปูทับ และนำพระมาเรียงซ้อนกันไว้อีกเป็นชั้นที่สอง แล้วปูผ้าขาวทับอีก สลับกันไปเรื่อยๆ จนพระหมด ท่านจึงทำการอธิษฐานจิต เป็นเวลายาวนานนับสิบๆปี คล้ายกับรอเวลาที่จะแจกในอนาคตมากกว่า.. ซึ่งโดยปกติพระที่มีพลังจิตสูงอย่างหลวงปู่พิศดู ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเสกพระอะไรที่ยาวนานขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแค่ท่านกำหนดจิตแป๊บเดียว หรือแค่จิตท่านคิดของก็มีความศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงที่สุดแล้ว.. แต่การอธิษฐาน สวดมนต์ ภาวนาเป็นระยะเวลานานเกือบ 20 ปี พระที่อยู่กับท่านจะยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์มากแค่ไหน..? อันนี้คงไม่ต้องกล่าวถึง
    แต่ที่หลวงปู่เก็บพระชุดนี้ไว้นานถึง 20 ปี ก็เพราะว่าท่านอาจทราบเหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าในอนาคตจะมีภัยต่างๆมากขึ้น อีกอย่างถ้าหลวงปู่ท่านแจกพระในสมัยที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักท่าน พระที่ทำก็คงสูญหายไปหมด ไม่มีใครรู้จัก สิ่งที่สร้างไว้ก็คงเสียเปล่า..
    พระอริยะอจิณไตยอย่างองค์หลวงปู่พิศดู ท่านทราบความเป็นไปในทุกสภาวะธรรม(ชาติ) ทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ท่านทราบโดยละเอียดด้วยความเมตตากรุณา สิ่งใดที่ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้น ย่อมมีเหตุมีผลทั้งสิ้น เรื่องบางเรื่องเราไม่อาจรู้ได้ แต่หลวงปู่ท่านรู้โดยละเอียด..
    พระกสิณนี้ก็เป็นวัตถุมงคลอีกสิ่งหนึ่งที่หลวงปู่เป็นผู้ดำหริให้จัดสร้างด้วยองค์ท่านเอง ด้วยมวลสารที่ท่านสะสมมาสมัยธุดงค์ และของมงคลของครูบาอาจารย์ของท่าน ฯลฯ ทุกอย่างทำกันในวัด ทั้งลบผง ผสมเนื้อ กดพิมพ์ เผาดิน ตลอดถึงการอธิษฐานจิตเดี่ยว ด้วยจิตใจที่มุ่งมั่น ตั้งใจอย่างดีที่สุด นับเป็นพระเครื่องชุดแรกของท่านก็ว่าได้ ถึงรูปแบบอาจจะดูไม่สวยคมชัดเหมือนพระสมัยนี้ แต่ว่ามีความคลาสสิคในตัวมาก เพราะพระทุกองค์เป็นงานที่ทำด้วยมือ และใจของผู้ศรัทธาจริงๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจสูงมาก.. หลวงปู่เคยบอกว่า ถึงจะไม่ค่อยสวย แต่คุณภาพสูงครับ.. สาธุ
    ( ข้อมูลคุณทุเรียนทอด..)

    " นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะโมพุทธายะ นะชาลีติ พุทธคุณัง ธัมมะคุณัง สังฆคุณัง สะระณังคัจฉามิ "
    พระคาถาหลวงปู่พิศดู ไว้สวดเสกกำกับ พระกสิณ. เวลาเราสวมใส่เห็นหน้าใครต้องการผูกมิตรทำจิตใจให้เป็นสมาธิ แล้วบริกรรม. เมกะมุอุ. ครับ. หลวงปู่เคยกล่าวไว้ว่า การบูชาพระพุทธเจ้านำมาชื่งเดชเดชาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระธรรมเจ้านำมาซึ่งปัญญาอันยิ่งใหญ่ การบูชาพระสงฆ์เจ้านำมาซึ่งทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ครับ. พระผงกรรมมัฏฐาน ยุคแรกๆของท่านสามารถใช้มือกำภาวนาได้ครับ คาถากำกับ พระขมิ้นเสกต่าง มิตติ จิตติ จิตติ มิตติ นะชาลีติ นโมพุทธายะ. (ทำไมหลวงปู่ถึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระครับ. เหตุผล. พระเวลาบวชต้องห่มเหลืองสมัยก่อนเขาใช้ขมิ้นย้อมผ้า. ขมิ้นเหลืองดั่งทองคำมิผันแปรเหมือนดั่งทองคำ. ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ท่านจึงนำขมิ้นมาบดผสมทำพระเสมอๆครับ. ) หลวงปู่เสกพระด้วยบทกรรมมัฏฐานทั้งสิ้น เช่นสวดพิจารณาอาการ32 เกสา โลมา.........มัตถะลุงคันติ สาคะลังฯ และอื่นๆ คาถาพระปัจเจกก็ใช้สวดด้วย สมัยก่อนท่านสวดทุกเช้าศิษย์เก่าๆรู้ดีครับ..
    ( ข้อมูลคุณเอื้อนขจี.. )

    พระกสิณหลวงปู่พิศดู ครูบาอาจารย์บอกมาว่าหลวงปู่ท่านลงวิชาหัวใจพระพรหม ไว้ในองค์พระมีอยู่ 2 รุ่น คือพระกสิณ และพระรูปหล่อพระธรรมธาตุ
    หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ หรือหลักของผู้ครองเรือน ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ
    - เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
    - ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
    - มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
    - อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย
    ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ
    ( ข้อมูล การสร้างพระกสิณ ของหลวงปู่พิศดู.. )

    ‪#‎พระกสิณ‬‬‬ หลวงปู่พิศดู
    มีคำถามเข้ามาถามผมหลายคำถาม ว่าเหตุใดพระที่องค์หลวงปู่พิศดูได้จัดสร้างขึ้นในยุคแรกๆจึงเรียกว่า พระกสิณ จึงเป็นที่มาของการเขียนข้อความเหล่านี้ ตามสติปัญญาที่ผมพอจะเข้าใจ และพอจะถ่ายทอดได้ เพื่อบันทึกไว้ในกระดานนี้เป็นกรณีศึกษาครับ
    ขึ้นชื่อว่ากสิณนั้นตามข้อความที่ผมได้หยิบยกมาให้ทุกท่านได้ศึกษากันก่อนหน้านี้ น่าจะพอมีประโยชน์ในการทำให้เข้าใจเรื่องของกสิณมากขึ้น ต่อจากนี้ผมจะได้อธิบายให้เห็นถึงความเป็นพระอัจฉริยภาพขององค์หลวงปู่ที่ท่านทำพระของท่านประกอบรวมเข้ากับคำว่า กสิณ
    พระ = ประเสริฐ (ยิ่ง)
    กสิณ = กำหนดจิตเพ่งอารมณ์(กรรมฐาน) ทำให้เกิดฤทธิ์
    พระ+กสิณ = สิ่งประเสริฐ(พระ) ที่สำเร็จได้ด้วยการกำหนดเพ่งจิต ทำให้เกิดฤทธิ์..
    หรืออีกความหมายหนึ่ง คือ สิ่งประเสริฐ(พระ) ที่สามารถใช้ในการกำหนดเพ่งอารมณ์ในการทำกรรมฐาน สามารถทำให้เกิดฤทธิ์..
    วัตถุทั้งหลายในโลกล้วนแต่ประกอบไปด้วย "ธาตุ" ธาตุทั้งหลายในโลกนี้มีอยู่ด้วยกันหลักๆ 4 ธาตุด้วยกัน คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ โดยธาตุทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนแต่มีประโยชน์ของแต่ละธาตุไป แม้แต่ร่างกายของคนเราก็ยังประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 ประชุมรวมกันขึ้นเป็นกาย หากขาดธาตุใดธาตุหนึ่งแล้วร่างกายก็ย่อมเสื่อมสลายลงไป..
    แบบแผนการปฏิบัติพระกรรมฐานนั้นมีมากมายถึง 40 กอง แต่ละกองก็ถูกกำหนดเป็นทางให้ผู้ปฏิบัติว่าจะเลือกแบบใด เพื่อให้ตรงตามแก่จริตวิสัยของตน ที่มุ่งหวังในผลอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุด แต่ว่ามีกรรมฐานอยู่ 10 ใน 40 กองที่เรียกว่า หมวดกสิณ 10 ผู้ที่บำเพ็ญธรรมที่มุ่งหวังในฤทธิ์อภิญญา พึงเลือกปฏิบัติพระกรรมฐานในหมวดนี้ แต่ทว่า.. การปฏิบัติในหมวดของกสิณนั้นค่อนข้างยากเอาการ และต้องมีความเพียรพยายามสูงจริงๆ หากว่าในระหว่างที่ปฏิบัตินั้น ผู้ปฏิบัติฝืนตั้งอารมณ์ผิด หรือทำเกินคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ ก็อาจมีผลข้างเคียงโดยอาจทำให้เสียจิตได้ เพราะฉะนั้นจะมีผู้ที่สำเร็จในหมวดของกสิณนับว่ามีน้อยยิ่งนัก ยิ่งถ้าได้สำเร็จกสิณครบทั้ง 10 กองด้วยแล้วยิ่งหาได้ยากยิ่ง..
    หากผู้ที่สำเร็จชำนาญในกสิณทั้ง 10 กอง ก็จะสำเร็จเป็นพระอภิญญา ที่มีอิทธิฤทธิ์ จะสามารถบันดาลในเรื่องต่างๆให้เป็นได้ดังปรารถนา พระระดับนี้ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องขลังศักดิ์สิทธิ์ไปหมด เพราะว่าจิตของท่านนั้นเสมือนเป็นแหล่งพลังงานที่ระเบิดตัวเองออกมาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งการที่ท่านเหล่านั้นสร้างวัตถุมงคลขึ้นมาด้วยความตั้งใจ และเจตนาเพื่อที่ต้องการสงเคราะห์โลกนั้น ยิ่งจะมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นพิเศษทีเดียว
    การทำพระผงในยุคแรกขององค์หลวงปู่พิศดูนั้น ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2520 โดยท่านได้กำหนดจัดสร้างขึ้นด้วยองค์เอง เพื่อสำหรับแจกให้กับญาติโยมเพื่อใช้ป้องกันภัยต่างๆ ตลอดจนเป็นเครื่องเมตตามหานิยม ความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย และถึงที่สุดให้ทุกคนเข้าถึงธรรม
    พระของท่านทำด้วยเนื้อผงวิเศษที่ท่านเขียน-ลบสูตรด้วยตนเอง ผงธูปกรรมฐาน ประกอบกับการใช้วัตถุธาตุต่างๆ ที่มีคุณในตัว บางอย่างเป็นแร่วิเศษเป็นของทนสิทธิ์ตามธรรมชาติ ว่านยา ไม้กาฝากมงคลต่างๆที่เก็บสะสมมาตั้งแต่สมัยเดินธุดงค์ และมวลสารที่มีผู้นำมาถวาย ดินหรือปฐวีธาตุในวัด ฯลฯ ซึ่งมวลสารเหล่านี้รวมแล้วก็ประกอบไปด้วยธาตุทั้ง 4 นั่นเอง ใช้เป็นมวลสารในการสร้างพระของท่าน เพื่อผลแห่งการอธิษฐานตั้งธาตุ หนุนธาตุ แปลธาตุ โดยอาศัยผลแห่งการอธิษฐานเดินประจุกสิณ 10 ประการ อันประกอบไปด้วยฤทธิ์ ที่อธิษฐานไว้ในองค์พระที่ได้จัดสร้างเหล่านั้น จึงได้เรียกว่า " พระกสิณ " หากว่าผู้อธิษฐานไม่สำเร็จในกสิณจริงแล้ว ย่อมไม่อาจสามารถทำพระกสิณให้สำเร็จได้เลย
    อันผลแห่งการใช้กสิณ 10 ในการอธิษฐานพระของท่านนี้ ยังผลให้บังเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์โดยตรงต่อผู้บูชา หลวงปู่ท่านอธิษฐานพระของท่านไว้เหมือนเป็นแก้วสารพัดนึก อันเกิดจากดวงจิต ดวงธรรม มหาบารมีอันบริสุทธิ์ แห่งคุณพระศรีรัตนตรัย พรหมเทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย อีกทั้งพระเหล่านี้อยู่กับท่านทุกวันนับเป็นเวลาหลายปีด้วยกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าสรรพวิชาใดๆที่มี ท่านก็คงอธิษฐานใส่ไว้จนหมดสิ้น และทราบมาว่า หลวงปู่ท่านมีวิชาเอกอยู่วิชาหนึ่งคือวิชา หัวใจมหาพรหม ที่หลวงปู่ท่านตั้งใจอธิษฐานใส่ไว้ในองค์พระด้วย อันหัวใจมหาพรหมนี้ ถ้าให้กล่าวก็คงคล้ายคลึงกับวิชา โสฬสมหาพรหม ที่ว่ากันว่าหากผู้ใดได้มีไว้บูชา ก็เหมือนมีพระพรหมคอยปกปักรักษาผู้นั้นมิให้ตกต่ำ และสามารถดลบันดาลในสิ่งที่ปรารถนาได้(แต่ไม่เกินกฏแห่งกรรมของผู้นั้น) เรียกง่ายๆว่า จะมีเทพชั้นพรหมคอยรักษาประจำองค์พระทั้งหมดทุกองค์นั่นเอง หากเราหมั่นทำบุญ สวดมนต์บูชา แผ่เมตตาอยู่เสมอ ก็จะได้รับพลวประโยชน์เสมอมิได้ขาด
    และที่สำคัญท่านสอนให้ผู้ที่ได้รับพระไป นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือการใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงธรรม โดยการกำหนดเพ่งมององค์พระนั้นให้จำภาพได้ จากนั้นให้ทำสมาธินึกถึงภาพพระ ภาวนาว่า พุท-โธ เป็นการกำหนดอารมณ์สมถกรรมฐาน จนจิตเกิดเป็นสมาธิ ก็จัดว่าเป็นกสิณได้กองหนึ่งด้วย ซึ่งมีผลต่อทิพย์จักษุญาณ อันเป็นประโยชน์มากในการปฏิบัติ.. ไม่ว่าผู้ใดได้รับพระไปแล้วหากทำได้ตามนี้ ท่านบอกว่า " ผู้นั้นใช้ของเป็น " หมายความว่า ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระจะสามารถช่วยเราได้เต็มที่... ลองคิดดูว่าพระนี้กว่าจะใช้เวลาสร้างได้ถึงขนาดนี้ และเวลาในการอธิษฐานอยู่กับหลวงปู่ท่านนับว่ายาวนานเป็นที่สุด แน่นอน เรื่องพลังงานไม่ต้องพูดถึงว่าจะมากเพียงใด และพระที่มีประจุพลังงานมากๆ หากคนเรานำมาใช้แขวนอย่างเดียวไม่หมั่นบูชาด้วยใจที่ศรัทธา ก็คงใช้ประโยชน์จากพลังงานนั้นได้เพียงแค่ไม่กี่ % แต่ก็มากพอแล้วที่จะคุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุขได้อย่างสบาย แต่เมื่อเทียบกับพลังงานทั้งหมดที่มี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความศรัทธา และกำลังใจของเราด้วยเป็นสำคัญครับ ความศรัทธาในการบูชานั้น ก็เหมือนกับเราเปิดก็อกพลังงานนั่นเอง ยิ่งมีศรัทธามาก หมั่นบูชาด้วยความเคารพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติบูชา ก็เหมือนทำให้เราสามารถเปิดก็อกพลังงานได้อย่างเต็มที่นั่นเองครับ.. สาธุ
    ข้อมูลคุณสิรภพ
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319

    สวัสดียามสายครับป๋า ชุดใหญ่ข้างบนน่าอยากได้จัง:cool::cool:
     
  11. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท ถักมาลองใส่แค่ครั้งเดียว อลังการงานสร้างจริงๆครับ
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319

    :cool::cool::cool:
    สวัสดียามสายครับป๋า
     
  13. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  14. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    บูชา 12,000ครับ
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319

    สวัสดียามสายครับป๋า:cool::cool::cool:
     
  16. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    สวัสดีครับเสี่ยเฟริส์ท
     
  17. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    ‪#‎ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี‬ เพื่อสมทบทุนบูรณะถาวรวัตถุภายในวัด
    ณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2559
    เวลา 10.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
    เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์
    เวลา 12.00 น. ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี
    ท่านที่ไม่สะดวกเดินทางไปร่วมงาน สามารถโอนปัจจัยเข้าบัญชีพระอาจารย์หนึ่งได้ตามนี้ครับ..
    พระสุรพงศ์ ปัญญาวุฑโฒ
    237-0-15651-1
    ธนาคารกรุงไทย


    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7XU3YYDM8bMwt9F" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e25/FZi2as.jpg" /></a>
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7XU4kXk3F5LMkca" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/e01/dkBC5I.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7XU4kXk3IXLlcEn" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/a8d/Me9AcH.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7XU4kXk3IvDlJtP" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/949/aP8IVj.jpg" /></a>

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7XU3YYDM7EXRKNj" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/cc2/ZzpHON.jpg" /></a>​
     
  18. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    ‪#‎ปฐมเหตุแห่งการสร้างวัตถุมงคลของสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ‬..
    ตั้งแต่องค์หลวงปู่พิศดูได้เข้านิพพานตามกาลเวลาแห่งอายุสังขาร ก็เหมือนเรือใหญ่ขาดใบ ลอยเคว้งคว้าง ขาดหลักใจสำคัญ หากแต่ความศรัทธาของผู้คนก็มิได้ตกหรือลดน้อยลงไปแต่อย่างใด นับวันมีแต่จะแผ่ขยายเพิ่มมากขึ้น เพราะยังคงเชื่อว่าดวงจิตอันบริสุทธิ์ขององค์หลวงปู่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเรา ก็ยังคงเฝ้าคอยดูแลอยู่ตลอดเวลามิได้ห่างหายไปไหน.. ท่านพระอาจารย์เจ้าอาวาสวัดทั้งหลายที่อยู่ในเครือขององค์หลวงปู่ก็เสมือนเป็นผู้ทำหน้าที่สานต่อเจตนารมณ์ขององค์ท่านให้ดำเนินต่อไปและตลอดไป ตราบที่วัดยังคงเป็นวัด และมีพระภิกษุประจำอยู่ในอารามนั้น ฯ
    ท่านพระอาจารย์สุรพงศ์ ปัญญาวุฒโฑ หรือพระอาจารย์หนึ่ง เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ(สาขาวัดเทพธารทอง) ก็เป็นศิษย์ผู้หนึ่งที่องค์หลวงปู่ได้ส่งให้ไปบุกเบิกสร้างวัดในต่างพื้นที่ เพื่อเผยแผ่หลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนา และปฏิบัติธรรมดำเนินรอยตามครูบาอาจารย์ เพื่อความหลุดพ้นจากห้วงแห่งวัฏสงสารนี้.. ท่านเป็นพระผู้มีเมตตาจิตสูง และมีปัญญาหลักแหลม ผู้ที่ได้พบเห็นองค์ท่านมักเกิดความเลื่อมใสในเมตตาจิตที่ท่านมีให้กับทุกคน ไม่มีเลือกชั้น วรรณะ ประกอบกับการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆในวัดเพื่อเป็นสถานที่รวมพลังศรัทธาของชาวบ้านที่ยังต้องการที่พึ่งทางใจ
    พระอาจารย์เคยบอกว่า.. " เราตั้งใจสร้างวัดนี้ขึ้นมา ก็เพื่อหวังว่าหากองค์หลวงปู่ท่านต้องการความสงบในบั้นปลายชีวิต เราจะอาราธนาให้ท่านมาอยู่ที่นี่ เพื่อให้เราได้ดูแลท่าน.." ซึ่งองค์หลวงปู่ก็ทราบเจตนาอันนั้น และเคยมาพำนักอยู่ด้วยเป็นครั้งคราว
    ต่อมาท่านพระอาจารย์มีโครงการก่อสร้างพระเจดีย์เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ และพระอัฐิธาตุ อัฐบริขารขององค์หลวงปู่ เพื่อน้อมถวายเป็นอาจาริยะบูชาแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่อไป... ซึ่งการก่อสร้างนี้ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ประกอบกับทางสำนักสงฆ์อยู่ในที่ห่างไกลความเจริญ จึงทำให้ท่านมีความกังวลในเรื่องปัจจัยการก่อสร้าง และปัจจัยที่ต้องใช้จ่ายต่างๆ ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงปรึกษาคณะกรรมการวัด จึงได้ข้อสรุปคร่าวๆว่า จะสร้างวัตถุมงคลเพื่อมอบเป็นที่ระลึกแด่ผู้ร่วมบุญ แต่ก็ยังกังวลอยู่อีกว่า จะให้ผู้ใดอธิษฐานจิต จึงจะทำให้ผู้ที่ได้รับมอบไปนั้นเกิดความมั่นใจ..??? ตรงนี้แหละจึงเป็นเหตุชนวนที่มาของวัตถุมงคลทุกรุ่นที่ผ่านมา กล่าวคือ.. ในระหว่างที่ท่านพระอาจารย์ยังมีความกังวลในใจในเรื่องต่างๆอยู่นั้น ‪#‎องค์หลวงปู่ท่านก็ได้มาเข้าฝันท่านพระอาจารย์ว่า‬..
    " องค์หนึ่งไม่ต้องกังวลเลย อยากทำอะไรก็ทำไป เดี๋ยวเรามาเสกให้.. "
    พอท่านพระอาจารย์ตื่นขึ้นมา ก็ทบทวนความฝัน ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่า องค์หลวงปู่ท่านไม่ได้ทอดทิ้งพวกเราไปไหนเลย ท่านยังคอยเฝ้าดูอยู่ตลอด หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ท่านพระอาจารย์ก็ได้ฝันถึงองค์หลวงปู่อีก 2-3 ครั้ง ท่านมาเพื่อย้ำอีกว่า..
    " องค์หนึ่งไม่ต้องกังวลเลย อยากทำอะไรก็ทำไป เดี๋ยวเรามาเสกให้.. "
    แม้แต่เรื่องการก่อสร้างพระเจดีย์ดังกล่าวนี้ ท่านพระอาจารย์ก็ยังฝันเห็นองค์หลวงปู่ 3 คืนติดๆ ท่านมาพูดย้ำให้ทำอะไรบางอย่างตามเจตนาขององค์ท่าน ยิ่งทำให้ท่านพระอาจารย์มีความมั่นใจเต็มที่ว่า วัตถุมงคลที่ทางวัดจัดสร้างนี้ จะมีความศักดิ์สิทธิ์มีพุทธานุภาพสูงส่งอย่างแน่นอน ด้วยอาศัยมหาบารมีธรรมขององค์หลวงปู่ครอบให้ทุกครั้ง โดยท่านพระอาจารย์จะเป็นผู้อัญเชิญองค์หลวงปู่ให้ท่านเมมตาช่วยแผ่พลังบารมีให้ และทุกครั้งที่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา ก็มักจะมีเหตุการอันน่าอัศจรรย์เสมอ และพลังแห่งวัตถุมงคลที่ท่านพระอาจารย์ได้สร้างขึ้นมานั้น ว่ากันว่า มีพุทธานุภาพสูงมากไม่ต่างกับตอนที่องค์หลวงปู่ยังทรงขันธ์อยู่เลย..
    ‪#‎ท่านพระอาจารย์กล่าวว่า‬.." เราทำตรงนี้ ไม่ได้คิดจะไปเทียบครูบาอาจารย์อย่างใด งานทั้งหมดที่ได้ทำนี้ ทำเพื่อบูชาพระคุณแด่องค์หลวงปู่พิศดู และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เพื่อเป็นอนุสติ และเป็นศูนย์รวมใจแด่หมู่ลูกศิษย์ และชาวพุทธบริษัททั้งหลาย ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ให้รำลึกถึงคุณงามความดีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านต่อไป.."
     
  19. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,567
    ค่าพลัง:
    +30,871
    http://palungjit.org/9851496-post9273.html
    ข้อมูลการจัดสร้างรูปหล่อพระมหาอุปคุต วัดเขาน้ำซับ

    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7Y4XitPXNOR9imZ" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/t/136/Ic6n0V.JPG" /></a>
    <a href="http://www.mx7.com/view2/z7Y4WWv9GebcjeNH" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/54b/j1CNfB.JPG" /></a><a href="http://www.mx7.com/view2/z7Y4XitPXO2V91Xv" target="_blank"><img border="0" src="http://www.mx7.com/i/dc9/Ingrob.JPG" /></a>​
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,159
    ค่าพลัง:
    +14,319
    สวัสดียามสายครับป๋า:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...