มงคลวัตถุ สิริแห่งชีวิต ที่สุดแห่งศรัทธา : รูปถ่ายนิโรธสมาบัติ มหาจักร มหาสังข์ โคนนทสูร

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย studio214, 19 กรกฎาคม 2015.

  1. Natchapon

    Natchapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +1,218
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  2. Natchapon

    Natchapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +1,218
    จองด้วยครับ
     
  3. Natchapon

    Natchapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2008
    โพสต์:
    717
    ค่าพลัง:
    +1,218
    โอนเรียบร้อยแล้วครับ​

    ณัช​พล​ อนุสรณ์​สกุล​
    15​/286​ หมู่บ้าน​ภาสกร​ หมู่​9​ ถนน​สุขาภิบาล​1​ แขวง​บางบอน​ เขต​บางบอน​ กรุงเทพ​10150​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. สิงห์อัคนี

    สิงห์อัคนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +52
    จอง รายการที่ 172 พระหยกแกะ หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล ปี2536
    บูชา 550 บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท
     
  5. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 179 พระกริ่งอุปคุต (พระบัวเข็ม) หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม ออกวัดคุ้งตำหนัก

    รุ่นนี้หลวงพ่ออุตตมะเมตตาเป็นประธานในพิธี มีหลวงปู่โต๊ะและพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นร่วมเสก ออกปี 2522

    หลวงพ่ออุตตมะเป็นพระมหาเถระอีกองค์หนึ่งของชาวไทยและชาวมอญ ผู้ซึ่งเปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี พระอุปคุตนั้นเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวมอญซึ่งนิยมสร้างเพื่อบูชาในลักษณะของพระบัวเข็ม หลวงพ่ออุตตมะนั้น ครูบาอาจารย์มากมายต่างกล่าวสรรเสริญในบารมีขององค์ท่าน ทั้งหลวงพ่อฤษีลิงดำ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน (ในอดีตช่วงเวลาหนึ่งนั้นหลวงพ่ออุตตมะ เคยจำพรรษาที่วัดท่าขนุน)

    การบูชาพระอุปคุตนี้มีความหมายเป็น 2 นัย คือ 1 พระอุปคุตท่านเป็นพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ปราบมาร จึงช่วยปกป้องคุ้มครองให้ผู้ที่บูชาห่างไกลจากภัยอันตรายต่าง ๆ ส่วนนัยที่ 2 คือท่านจำศีลอยู่ในน้ำ จึงช่วยให้ผู้บูชาอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ

    พระอุปคุตปางพระบัวเข็ม ที่มาของการเรียกว่าพระบัวเข็มนั้นเนื่องจาก เป็นปางที่พระอุปคุตท่านเข้านิโรจสมาบัติใต้น้ำ องค์พระจะมีรูปดอกบัวที่ศรีษะท่านและรูปท่านนั่งอยู่บนดอกบัว จะสังเกตุได้ว่าเข็มติดอยู่ 9 จุด คือที่หน้าผาก 1 ไหล่ 2 สะโพก 2 มือ 2 เข่า 2 เดิมนั้นไม่มีการติดเข็มที่พระอุปคุต แต่ใช้พระบรมสารีริกธาตุติดที่องค์พระ 9 จุดดังกล่าว จึงเป็นที่มาของชื่อ พระบัวเข็ม สำหรับพระบัวเข็มองค์นี้เป็นพระปิดทองแบบศิลปะมอญพม่า ขนาดหน้าตัก 2 นิ้วกว่า

    พระราชอุดมมงคล หรือ “พระมหาอุตตมะรัมโภภิกขุ” (เอหม่อง อุตฺตมรมฺโภ) หรือที่รู้จักกันทั่วไปในนามของ “หลวงพ่ออุตตมะ” พระมหาเถระของชาวมอญและชาวจังหวัดกาญจนบุรี ผู้มีบทบาทเป็นผู้นำทางความคิดและจิตวิณญาณของชาวมอญพลัดถิ่นที่สังขละบุรี

    หลวงพ่ออุตตมะ เดิมชื่อ เอหม่อง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2453 ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ตำบลเกลาสะ อำเภอเย จังหวัดเมาะลำเลิง ประเทศพม่า หลังเรียนหนังสือจบจากพม่าเมื่ออายุ 18 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเกลาสะ ได้ศึกษาภาษาบาลี และพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมชั้นโท อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ ได้รับฉายาว่า อุตตมรัมโภ แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด โดยได้ตั้งเจตจำนงที่จะบวชไม่สึกจนตลอดชีวิต

    หลวงพ่อได้เดินทางไปศึกษาวิปัสสนากรรมฐานที่วัดตองจอย และวัดป่าเลไลยก์ จนมีความรู้ความสามารถในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธาคมเป็นอย่างดี และชอบออกเดินธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ ในประเทศพม่า

    อุตตมรัมโภภิกขุเข้ามาในประเทศไทยครั้งแรกทางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2486 โดยเดินธุดงค์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดสวนดอก ก่อนจะออกธุดงค์ไป แม่ฮ่องสอน ตาก เชียงราย น่าน กาญจนบุรี และกลับไปยังพม่า และเนื่องจากเหตุการณ์บ้านเมืองในประเทศพม่าขณะนั้น อุตตมรัมโภภิกขุจึงเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งทางหมู่บ้านอีต่อง ตำบลปิล็อก อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

    ในปี พ.ศ. 2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ ได้พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น มีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า วัดหลวงพ่ออุตตมะ ตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่าสามประสบ เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ในปี พ.ศ. 2505 ได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาให้ใช้ชื่อว่า "วัดวังก์วิเวการาม" ซึ่งตั้งตามชื่ออำเภอวังกะ ในวัดมีการก่อสร้างเจดีย์จำลองแบบจากวัดมหาโพธิ เมืองพุทธคยา ประเทศอินเดีย เริ่มก่อสร้าง พ.ศ. 2518 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2529

    ต่อมาทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้ก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำในปี พ.ศ. 2527 น้ำในเขื่อนเขาแหลมจะท่วมตัวอำเภอเก่ารวมทั้งหมู่บ้านชาวมอญ ทางวัดจึงได้ย้ายมาอยู่บนเนินเขาในที่ปัจจุบัน โดยทางราชการได้ช่วยเหลือในการอพยพผู้คนซึ่งมีอยู่ราว 1,000 หลังคาเรือน บนพื้นที่ 1,000 ไร่เศษ ส่วนบริเวณวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิม ปัจจุบันจมอยู่ใต้น้ำ และมีชื่อเสียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เป็นที่รู้จักในชื่อว่า วัดใต้น้ำ สังขละบุรี

    หลวงพ่ออุตตมะ มรณภาพจากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ เมื่อเวลา 7.22 น. ของวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2549 อายุรวม 97 ปี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2017
  6. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    [​IMG]

    องค์หลวงปู่ละสังขารแล้ว
    ขอน้อมกราบส่งหลวงปู่ผู้เมตตาไม่มีประมาณ กราบบูชาเหนือเศียรเกล้า
     
  7. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 180 ล็อคเก็ตอมตะ ปี2535 หลวงพ่อเกษม เขมโก หลังแผ่นทองแดง
    บูชา 1200 บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท

    รุ่นนี้มีประสบการ์มากมาย ผู้บูชามักจะรู้สึกว่าชีวิตดีขึ้น ราบรื่น มีความคล่องตัว สามารถอธิษฐานขอได้หากไม่ผิดศิลธรรม ยกดวง หนุนดวงดีมาก

    ล็อคเก็ตอมตะ (รุ่นแรก) หลวงพ่อเกษม เขมโก บรรจุมวลสาร ๙ มงคล (ตอกโค๊ด-เขมโก) สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง รุ่นมงคลเกษม 81 ปลุกเสกเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 35 ภายในบรรจุมวลสาร 9 มงคลศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อไว้ ประกอบด้วย
    -จีวร
    -สายสิญจน์
    -เทียนชัย
    -ข้าวก้นบาตร
    -ผงธูป
    -ก้านธูป
    -ริบบิ้น
    -ดอกมะลิ
    -พลอยเสก

    ล็อกเก็ตรุ่นนี้นิยมมาก เพราะมีผู้แกะแกะดูภายในพบว่า มวลสารมงคลทั้ง 9 อย่างนั้น ได้แปรสภาพเป็นเม็ดกลมบ้าง เหลี่ยมบ้าง และรูปทรงต่างๆ บางเม็ดก็มีลักษณะใสคล้ายพระธาตุ ซึ่งมหัศจรรย์มาก

    ล็อกเก็ตรุ่นนี้มี 3 แบบคือ
    1. หลังหุ้มแผ่นทองคำ สร้าง 1,000 องค์
    2. หลังหุ้มแผ่นเงิน สร้าง 3,000 องค์
    3. หลังหุ้มแผ่นทองแดง สร้าง 5,000 องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2016
  8. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 181 พระพิฆเนศวร โบสถ์พราหมณ์ ปี 2545
    ปิด ค่าจัดส่ง 60 บาท

    พระพิฆเนศวร โบสถ์พราหมณ์ ปี 2545 พิมพ์เล็บมือ ขนาด 2.7x2 cm
    สุดยอดพิธีที่ดีที่สุดตามตำหรับหลวงเนื้อผงผสมกระเบื้องหลังคาโบสถ์พราหมณ์อายุ 200 กว่าปี ทำมาแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ผ่านพิธีกรรมที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ มานับร้อยนับพันพิธี อบอวลด้วยพระเวทและมนตรานับไม่ถ้วนบทที่เหล่าพราหมณ์สาธยายเป็นเทวบูชา พร้อมทั้งพิธีเทวาภิเษกที่จัดอย่างมโหฬารไม่รู้อีกกี่พิธี

    โบสถ์พราหมณ์มอบหมายให้ อาจารย์บุญส่ง นุชน้อมบุญ อาจารย์กรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบพิมพ์พระ และในวันขึ้นแบบแม่พิมพ์ตรงกับวันเสาร์ที่ 6 เมษายน 45 อันเป็นวันธงชัยตามหลักโหราศาสตร์ ได้อาราธนาพระอาจารย์สิงทน นราสโภ วัดพระพุทธชินราช พุทธชิโนฮิลล์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มานั่งปรกเป็นปฐมฤกษ์และขณะที่ขึ้นแบบนั้นพราหมณ์ก็ได้ทำพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์พร้อมกัน

    โดยก่อนประกอบพิธีเทวาภิเษกนั้น ท่านพระราชครูวามเทพมุนีได้นำพระพิมพ์ทั้งหมดลงบรรจุเป็นลำดับชั้นในตู้แก้วใบมโหฬารแยกเป็นสามตู้ ตามพิมพ์ที่จัดสร้าง เพราะเทพเจ้าทั้งสามองค์ย่อมต้องได้รับการปลุกเสกและประกอบพิธีกรรมโดยวิธีการแลพระเวทอันพึงสวดซึ่งต่างกัน ต่างแม้กระทั่งน้ำที่จะสรง ดอกไม้ที่จะโปรย ใบไม้ที่จะบูชา และในตู้ทั้งสามใบใช่บรรจุน้ำศักดิ์สิทธิ์มหามงคล ซึ่งเป็นน้ำจากแม่น้ำคงคาด้วยเชื่อว่าแม่น้ำคงคาเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากมวยผมแห่งพระศิวะ เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์เพราะไหลมาจากภูเขาหิมาลัยที่ชาวฮินดูศรัทธาว่าเป็นจุดตั้งเขาไกรลาส ทิพยวิมานของพระศิวะนั่นเอง
    โดยพระราชครูวามเทพมุนีได้เดินทางไปอัญเชิญน้ำจากแม่น้ำคงคาในประเทศอินเดียมาด้วยตัวเอง เทลงผสมกับน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกสองแหล่งคือ น้ำมนต์สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 220 ปีหรือน้ำมนต์นครฐานสูตร (นะคะระฐานะสูตร) และ น้ำเทพมนต์อายุ 100 ปีของเทวสถานโบสถ์พราหมณ์เอง การแช่น้ำมนต์นั้นได้แช่ตั้งแต่วันแรกคือวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคมจนตลอดพิธีกรรม 4 วัน 4 คืน และแม้พิธีเทวาภิเษกแล้วเสร็จก็ยังไม่ได้นำขึ้นหากปล่อยให้เอิบอาบอย่างนั้นอยู่ในโบสถ์อีก 2 วัน จึงทยอยขึ้นมาทีละตู้เริ่มแต่พระคเณศ พระศิวะ พระนารายณ์ เป็นลำดับ และอบไว้ในโบสถ์อีก 7 ราตรี

    เนื่องในปี 2545 เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ได้ดำเนินการบูรณะและซ่อมแซมเทวสถาน โบสถ์พราหมณ์ มีโบสถ์สามหลัง คือ โบสถ์พระอิศวร (โบสถ์ใหญ่), โบสถ์พระพิฆเณศ (โบสถ์กลาง) และโบสถ์พระนารายณ์ (โบสถ์ริม) คณะผู้จัดสร้างโดยพระราชครูวามเทพมุนี หัวหน้าคณะพราหมณ์ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลโดยนำกระเบื้องหลังคาโบสถ์ส่วนที่ชำรุดมาบด และกดเป็นพระพิมพ์เทวรูป พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพิฆเนศวร เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาสมทบทุนในการบูรณะเทวสถานโบสถ์พราหมณ์

    มวลสารทำจากกระเบื้องหลังคาโบสถ์ นำมาบด ผสมทรายทับทิม, ผงธูปจากเมืองการาจี ประเทศอินเดีย, ผงไม้จันทน์ นำมากดเป็นพิมพ์เทวรูป โดยมีต้นแบบจากพระประธานในโบสถ์ แช่ในน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จาก 3 แหล่ง ได้แก่ น้ำมนต์สมโภชน์กรุงเทพครบ 220 ปี (น้ำมนต์นครฐานสูตร), น้ำมนต์เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ 100 ปี และน้ำจากแม่น้ำคงคา ประเทศอินเดีย

    ผ่านพิธีเทวาภิเษก โดยคณะพราหมณ์ไทย, พราหมณ์อินเดียเหนือ (ฮินดูสมาช) , พราหมณ์อินเดียใต้ (วัดพระศรีมหาอุมาเทวี) และพิธีพุทธาภิเษกจากพระสงฆ์ผู้ทรงคุณวุฒิจาก มหานิกาย ธรรมยุตินิกาย และรามัญนิกาย พิธีเทวาภิเษกเมื่อ 18-21 พ.ค.45

    1.วันที่ 18 พ.ค. เวลา 5.30 น. พราหมณ์เทวสถาน นำโดยพระราชครูวามเทพมุนี จัดพิธีบวงสรวงบูชาฤกษ์ และประกอบพิธีเทวาภิเษก
    2.วันที่ 19 พ.ค. เวลา 9.00 - 20.00 น.พราหมณ์อินเดียใต้ จากวัดพระศรีมหาอุมาเทวี ประกอบพิธีเทวาภิเษก ตามแบบแผนอินเดียใต้
    3.วันที่ 20 พ.ค. เวลา 15.00 - 18.30 น. พราหมณ์อินเดียเหนือ โดยบัณฑิตวิทยาธร สุกุลพราหมณ์ ประกอบพิธีเทวาภิเษก ตามแบบแผนอินเดียเหนือ

    4.วันที่ 21 พ.ค. พิธีมังคลาภิเษกโดยพระสงฆ์ เวลา 10.01 น. สมเด็จ พระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ประธานสงฆ์จุดเทียนชัย
    รายนามพระสงฆ์นั่งปรกอธิษฐานจิต
    ชุดที่ 1 (ธรรมยุต)
    -พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง) วัดป่าสำราญนิวาส จ.ลำปาง
    - พระปัญญาพิศาลเถระ (หลวงพ่อไพบูลย์) วัดอนาลโย จ.พะเยา
    - พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดป่าอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่

    ชุดที่ 2 (มหานิกาย)
    -พระครูวินัยวัชรกิจ(หลวงพ่ออุ้น) วัดตาลกง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี
    -พระครูประสาทพรหมคุณ (หลวงปู่หงษ์) สุสานทุ่งมน วัดเพชรบุรี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์
    -พระอาจารย์สิงห์ทน นราสโภ วัดพุทธชินราช พุทธชิโนฮิลล์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

    ชุดที่3 (รามัญนิกาย)
    -พระสมุห์ชำนาญ อุตตมปัญโญ วัดบางกุฎิทอง จ.ปทุมธานี
    -พระครูปลัดวีรวัฒน์ ชยธมฺโม (อาจารย์วิชาญ) วัดปรกยานนาวา กรุงเทพมหานคร
    -พระครูปราโมทสารคุณ วัดบางตะไนย์
    -พระครูเมตตาธรรมคุณ วัดโพธิ์เลื่อน

    หลวงปู่หงษ์กับการมังคลาภิเษกที่โบสถ์พราหมณ์
    เมื่อครั้งที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์ได้สร้างวัตถุมงคลที่สร้างจากกระเบื้อง หลังคาโบสถ์ของโบสถ์พราหมณ์ ซึ่งมีโบสถ์พระอิศวร โบสถ์พระนารายณ์ โบสถ์พระพิฆเณศวร มาบดผสมทำมวลสารเพื่อสร้างเป็น รูปเทพยดาเจ้าผู้ทรงมเหศักดิ์ทั้ง 3 พระองค์ คือพระอิศวร พระนารายณ์ พระพิฆเณศวร และได้จัดพิธีมหาเทวาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่ ครบถ้วนทั้งพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์ และยังได้อัญเชิญวัตถุมงคลที่จัดสร้าง ลงสรงอยู่ในน้ำพระพุทธมนต์-เทพมนต์จากพิธีสำคัญๆตั้งแต่ครั้งสร้างกรุง เป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์เหลือจะกล่าว ทั้งยังถูกต้องตามตำรับพราหมณ์อย่างที่สุดเพราะท่านทั้งหลายที่เป็นเจ้าพิธี ล้วนแต่เป็นพราหมณ์หลวง เป็นผู้มียศศักดิ์ทางราชการทั้งสิ้นและยังสืบสายเลือดมาแต่ตระกูลพราหมณ์ผู้มีศักดิ์สูงทุกท่าน

    หลวงปู่ท่านก็ได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีด้วย จำได้ว่าในชุดที่หลวงปู่ฯ ท่านเสกนั้นมีหลวงปู่เมตตาธรรมคุณ วัดโพธิ์เลื่อนท่านนั่งด้วยแต่ท่านเสกไม่นานประมาณ 30นาทีก็กลับ แต่หลวงปู่ท่าน เสกรวดจนจบพิธี พอเสกกันไปสักระยะ (2-3ช.ม.) ใกล้จะเสร็จพิธี ก็เกิดเสียงเหมือนอะไรถล่มลงมาจากทางโบสถ์พระพิฆเณศ ก็ทราบว่าเป็นกองกระเบื้องหลังคาที่ จะเอาไว้มุงโบสถ์ถล่มลงมา พิธีก็ดำเนินไปจนจบ

    เมื่อหลวงปู่ ฯ ท่านกลับไปพักที่บ้านท่านพระป๋องๆก็โทรมาเล่าความว่า หลวงปู่ท่านบอกว่า....พิธีนี่พระอิศวรสูง88 ศอกเสด็จมาในพิธี มายืนคร่อมโบสถ์(เสกที่โบสถ์พระอิศวร) ในโบสถ์มีเทวดามาชุมมุมประสาทพรกันอยู่แน่นไปหมด และข้างนอกโบสถ์ ก็มีครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ มาล้อมโบสถ์พระอิศวรอยู่แน่นไปหมด มองไปทางไหนก็เห็นแต่ครูบาอาจารย์ แต่ครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ท่านไม่เข้ามาในโบสถ์เพราะผู้ประกาศโองการ (น่าจะพระราชครูวามเทพมุนี ) ไม่ได้ประกาศกล่าวอัญเชิญ พระสงฆ์ เชิญแต่เทวดา แต่ที่พระสงฆ์มาเพราะพระคณาจารย์ที่รับนิมนต์มาเสกได้อธิฐานจิตอัญเชิญมา ครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ท่านจึงทำให้ดูว่าท่านมาจริง ด้วยการทำให้กระเบื้องหลังคาโบสถ์ทางโน้นถล่มลงมา......เราได้ฟังเรื่องแล้วก็รู้สึกทึ่ง เรื่องอะไรที่ได้รับทราบเกี่ยวกับหลวงปู่ท่านล้วนแล้วแต่มหัศจรรย์ก็จริงแต่ลองนึกภาพว่า ในพิธีหลวงปู่ท่านได้เห็นอะไรบ้างก็ไม่รู้จะบรรยายยังไงมันสุดที่จะบรรยายจริง และในวันต่อ ๆ มาผมกับท่านพระป๋องป๋องได้ไปที่โบสถ์พราหมณ์กันอีกครั้ง ก็ได้พบกับท่านพระราชครูฯก็เรียนความที่หลวงปู่ฯท่านเล่าให้ฟัง ให้ท่านพระราชครูฯท่านฟังต่อ ท่านก็ยอมรับว่า ท่านไม่ได้อัญเชิญพระสงฆ์ ท่านเชิญแต่เทวดาจริง ๆ เราก็นะหลวงปู่ของเราถ้าเรื่องนี้ไม่พลาดดอก

    ครั้งหลังมาพอทางโบสถ์พราหมณ์จัดสร้างพระตรีมูรติทองคำถวายในหลวง ก็ยังได้นิมนต์หลวงปู่ฯ ท่านมาอีก และพอหลวงปู่ไปถึง ท่านพระราชครูฯ ก็เข้ามาเรียนถามหลวงปู่ท่านทันทีว่าพิธีที่จัดนี้ถูกต้องหรือยังคราวที่แล้วพลาดไป หลวงปู่ท่านก็ดูให้แล้วบอกว่า ..ถูกต้องแล้ว

    พระพิฆเนศวร เป็นโอรสของพระอิศวรกับพระอุมาเทวี มีสี่พระกร พระเศียรเป็นช้างมีงาข้างเดียว พระวรกายสีเหลือง อ้วนพุงพลุ้ย มีหนูเป็นพาหนะ เป็นเทพแห่งสติปัญญาและความสำเร็จ พวกพราหมณ์ประกอบพิธีใดๆจะต้องบูชาพระพิฆเนศวรก่อน จึงจะบวงสรวงบูชาเทพอื่นๆต่อไป

    คำสวดไหว้พระคเณศ (พระพิฆเนศวร)
    โอม คะเณศายะ นะมะ
    (อ่านตามเสียงที่ใกล้เคียงภาษาสันสกฤต โอม กะเณ ฉายะ นะมะหะ)

    พระอิศวร หรือพระศิวะ ตามคติพราหมณ์และฮินดู เป็นเทพผู้สร้างโลก
    คำสวดไหว้พระอิศวร (พระศิวะ)
    โอม นะมะ ศิวะ

    พระวิษณุ (พระนารายณ์) เทพผู้คุ้มครองโลก ความเชื่อของชาวฮินดูปัจจุบัน พระองค์ คือ เทพผู้ทำหน้าที่ี่บริหาร หรือ ผู้คุ้มครองโลก
    คำสวดไหว้พระนารายณ์
    โอม นารายณาย นมะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2017
  9. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 182 พระผงงานมุฑิตาจิต 101 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต

    ช่วงมุฑิตา 101 ปีนั้นหลวงปู่ดูแข็งแรงขึ้นมาก ให้พรได้สั้นๆ หลวงปู่ท่านอาพาธเพราะท่านอายุมาก แต่จิตท่านสติท่านสมบูรณ์เต็มร้อย สว่างมาก

    พระผงมุฑิตาจิตนี้มวลสารดีมากๆ ทุกอย่างที่เป็นของมงคลของหลวงปู่ได้ผสมเป็นมวลสารทั้งหมด ทั้งจีวร เกศา โลหิตธาตุ ข้าวก้นบาตร ฯลฯ

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๗ ปีขาลองค์ท่านเป็นศิษย์สำคัญองค์หนึ่งของหลวงปู่ชอบ ฐานสโม ในอดีตท่านเป็นนักศึกษาปริญญาจากต่างประเทศ เป็นข้าราชการหนุ่มที่มีอนาคตสดใส แต่ด้วยความเลื่อมใสปฏิปทาพระป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ท่านจึงลาออกจากราชการแล้วออกบวชและปฏิบัติธรรมแบบถวายชีวิตต่อพระศาสนา ออกธุดงค์อยู่ตามป่าตามเขาโดยตลอด ท่านเป็นศิษย์กรรมฐานของ พระอาจารย์กู่ ธมฺมทินฺโน ท่านพ่อลี ธมฺมธโร และออกป่าติดตาม หลวงปู่ชอบ ฐานสโม นานถึง ๙ ปี ในช่วงหลัง ท่านได้รับบัญชาจากคณะสงฆ์ธรรมยุตให้ท่านไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ จนเมื่อท่านชราภาพมากแล้วจึงกลับมาอยู่เมืองไทย ปัจจุบันท่านจำพรรษาอยู่ณ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ปากเกร็ด ปีนี้ท่านอายุ ๑๐๒ ปี

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ถือเป็นเสาหลักสำคัญองค์หนึ่งของพ่อแม่ครูอาจารย์พระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น งานมุฑิตาจิตแต่ละปี จะมีครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสำคัญมากราบท่านอย่างเนืองแน่น ครูบาอาจารย์หลายองค์ได้กรุณาบอกถึงมหาบารมีขององค์หลวงปู่ ว่ามีบารมีมากเหลือเกิน ในสวนทิพย์นั้นมีเทพเทวดาสถิตรักษาองค์ท่านอยู่นับประมาณไม่ได้ หลวงปู่พิศดูเคยกล่าวไว้ว่าท่านนั้นมีบุญฤทธิ์สมดั่งชื่อท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2017
  10. boon jeum

    boon jeum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    ขอจองรายการที่ 148 ครับ
     
  11. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 183 ตะกรุดเปิดสมอง หลวงปู่ผาด อภินันโท วัดไร่ จ. อ่างทอง 
    ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท

    ตะกรุดเปิดสมอง เป็นตะกรุดเนื้อตะกั่วน้ำนมดอกเล็ก จารยันต์เพียงตัวเดียวคือ ยันต์หัวใจพระสารีบุตร พระอรหันต์เบื้องขวาที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า มีสติ ปัญญา เหนือกว่าพระอรหันต์สาวกทั้งปวง มองเห็นรอยจารชัดเจน

    เหมาะสำหรับทุกวัย เด็กใช้อธิษฐานศึกษาเล่าเรียน คนทำงานอธิษฐานให้มีวิสัยทัศน์มีปัญญาตัดสินใจรอบคอบ
    ผู้สูงอายุอธิษฐานให้มีความจำดี สมองไม่ถดถอย ไม่หลงลืม มีสติอยู่กับตัว


    ตะกรุดเปิดสมอง เป็นตะกรุดที่ขจัดความไม่รู้ ความหลง ความลืม ความมืดบอด ขจัดความเกียจคร้าน ความอ่อนแอ ความเบื่อหน่าย
    ในการเรียน การแสวงหาความรู้ และด้วยแสงแห่งวิปัสนาญาณ ที่สว่างดุจพระอาทิตย์ร้อยดวง ที่ช่วยให้สติปัญญาของเด็ก เล็ก เด็กโต
    ผู้ใหญ่ เจริญงอกงาม มีความเฉลียว ฉลาด มีปฎิภาณไหวพริบ แคล่วคล่องว่องไว นึกอยากจดจำอะไร ก็เป็นไปได้โดยง่าย ยิ่งอ่านมากเท่าไร
    ก็จำได้มากเท่านั้น อ่านหนังสือทะลุปุโปร่ง จำได้ง่าย คิดได้ไว ปัญญาไว สอบเลื่อนชั้น เลื่อนตำแหน่ง สอบเรียนต่อ สอบชิงทุน ก็สำเร็จ
    ทุกประการ เหมือนพระอาทิตย์ร้อยดวงที่สว่างสุกใส ไม่มีประมาณ ไร้เมฆ ไร้หมอก มาบดบัง (แม้แต่ตัวหลวงปู่ผาดเอง เวลาว่างจากรับแขก
    ท่านจะหยิบตะกรุดเปิดสมองขึ้นมาลูบๆ พร้อมกับท่องคาถากำกับว่า  นะโปร่ง นะปุ นะทะลุปัญญา  โดยตลอด ท่านจึงเป็นผู้ไม่หลงลืม มีสติอยู่เสมอ..

    หลวงปู่ผาดท่านสร้างและเสกตะกรุดเปิดสมองนี้ด้วย วิปัสสนาญาณจิต ซึ่งเป็นตัวประหารความโง่ ความเขลา ความไม่รู้ ความด้อยปัญญา
    เมื่อบูชาติดตัวแล้วทำให้สมองปลอดโปร่ง ไม่ปวดหัว เวียนหัว จดจำอะไรได้แม่นยำขึ้น มีความจำดีมาก คุณวิเศษของตะกรุดเปิดสมองนี้
    จึงยากที่จะหาพระเครื่องของสำนักอื่นเทียบได้
    คาถากำกับว่า
    นะ ปรุ ปรุ โมโปร่ง โปร่ง พุธไม่หลง ธาทรงไว้ ยะ เลิศไกร คิดสิ่งใดสมปรารถนา อิสะวาสุฯ (ภาวนาไว้ แก้ปัญหาได้ทุกกรณี)

    หลวงปู่ผาด อภินันโท วัดไร่ จ. อ่างทอง 
    หลวงปู่ผาด อภินันโท หรือพระครูมงคลสาธุวัตร เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 ก.ย.2459 ที่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ชีวิตในวัยเด็ก ครอบครัวยากจน เรียนจบชั้น ป.4 ก่อนเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดยางมณี โดยมีหลวงพ่อชวน วัดยางมณี เป็นพระอุปัชฌาย์ ก่อนได้รับความเมตตาจากท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนี วัดชีโพน อดีตเจ้าคณะจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา รับท่านเป็นศิษย์ในสำนักเรียนวัดชีโพน ครั้นมีอายุครบบวช เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทสีมาวัดยางมณี เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2481 โดยมีหลวงพ่อปลื้ม วัดช้าง เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อชวน วัดยางมณี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อแทน วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และยังเคยฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ท่านเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี หรือหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ และได้สำเร็จวิชาธรรมกายอีกด้วยอีกด้วย ในสมัยเป็นพระลูกวัด ศึกษาวิชากัมมัฏฐาน ตลอดจนอักขระวิธี และพุทธาคมจากท่านเจ้าคุณพระรัตนมุนี แห่งวัดชีโพน ท่านยังได้เล่าเรียนสรรพตำรา จากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยนั้น จนเมื่อพ.ศ.2495 ก็ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่
    หลวงปู่ท่านเป็นผู้ห่างพ้นกิเลศทั้งปวง ไม่ยึดติด ไม่สะสม จำวัดกลางศาลาใหญ่ใกล้เมรุเผาศพ เมื่อคราวน้ำท่วมอ่างทองครั้งใหญ่ นำเอ่อล้นท่วมทุกที่แต่ที่ศาลาใหญ่ ที่ท่านจำวัด ซึ่งสูงกว่าพื้นถนนไม่ถึงฟุต สายนำกลับวกไปไม่ท่วมถึง การนั่งอธิฐานจิต วัตถุมงคลท่านจะนั่งลืมตาเสก ว่าคาถาเป่าไปเรื่อย ๆ ผู้รู้บอกว่าการลืมตาเสกเป็นการเสกแบบเปิดโลก แบบเดียวกับหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    หลวงปู่ผาด มรณภาพอย่างสงบที่ โรงพยาบาลอ่างทอง ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 15 ม.ค สิริรวมอายุได้ 99 พรรษา 77
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2016
  12. boon jeum

    boon jeum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +8
    โอนเงินลำดับที่ 148

    โอนเงินลำดับที่ 148 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 184 ตะกรุดลอยนํ้าบันดาลโชคลาภชุดใหญ่ (1/3) หลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)
    ปิดรายการ

    ชุดใหญ่เต็มสูตร 99 ดอก พร้อมใบฝอยเดิม

    ตะกรุดลอยน้ำบันดาลโชคลาภ หลวงปู่เปรี่ยม สำหรับขอเลขรางวัล แล้วแต่ตอนตั้งจิตอธิฐานขอว่าจะขอสองตัวหรือสามตัว ตระกรุด 99 ดอก ปี 48

    โดยทำหลังเที่ยงคืน ไม่เกินตี 3 ต้องทำในวันพฤหัสเท่านั้น ตั้งแต่ขึ้น 9 ค่ำ ถึงแรม 7 ค่ำ โดยจะไม่สามารถทำได้ทุกงวด เพราะต้องทำในวันที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นวันพฤหัสที่ใกล้หวยออกมากๆจะยิ่งแม่น (ตะกรุดจะลอยน้ำได้เป็นตัวเลข)

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    1. ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม (สำหรับบูชาพระ)
    2. บายศรีปากชาม 1 คู่
    3. ผ้าขาวสำหรับปูโต๊ะทำพิธี 1 ผืน
    4. ภาชนะใส่น้ำขนาดความกว้าง 9 - 12 นิ้ว
    5. ธูป 15 ดอก (สำหรับใช้ในพิธี)

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

    ขั้นตอนการปฏิบัติ
    1. จุดธูป 3 ดอก เพื่อบูชาพระรัตนตรัยที่หิ้งพระ
    2. ตั้งโต๊ะพิธี นำผ้าขาวมาคลุมโต๊ะ วางบายศรีปากชามทั้ง 2 ข้าง วางภาชนะที่ใส่น้ำไว้ตรงกลาง จากนั้นให้จุดธูป 15 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาชุมนุมเทวดา จากนั้น อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา แล้วนำธูปไปปักที่กลางแจ้ง
    3. หยิบตะกรุดออกจากกล่อง แล้วจับตะกรุดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ปิดหัวท้าย ครั้งละ 1 ดอก ก่อนวางว่าคาถา นะโมพุทธายะ นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ 1 จบ แล้วจึงค่อย ๆ วางตะกรุดลงบนผิวน้ำอย่างระวัง ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ จนครบหมดทุกดอก ถ้าตะกรุดดอกใดจมน้ำอย่าหยิบขึ้นมา ตะกรุดที่ลอยน้ำอยู่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากัน จากนั้นให้เพ่งดูตะกรุดที่ลอยน้ำ (ระหว่างนี้ให้ภาวนาคาถาไปเรื่อย ๆ คือ 1) นะโมพุทธายะ 2)นะมะภะทะ 3) จะภะกะสะ 4) นะมะอะอุ )

    วันทำพิธี
    เลือกวันพฤหัสบดีเท่านั้น ตั้งแต่ข้างขึ้น 9 ค่ำเป็นต้นไป แต่ไม่เกินข้างแรม 7 ค่ำ ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน จนถึง ตีสาม เท่านั้น

    หลวงปู่เปรี่ยม ท่านจะพิถีพิถันตามขั้นตอนการสร้างตะกรุดแต่ละตอกแต่ละประเภทจึงจะนำไปใช้ให้สำเร็จประโยชน์ ตะกรุดลอยน้ำเน้นตั้งแต่แผ่นโลหะก่อนลงอักขระเลขยันต์ต้อง สวดถอน สิ่งอัปมงคล ออกจากแผ่นโลหะเหมือนทำให้โลหะบริสุทธิ์จริงๆซะก่อนแล้วค่อยนำมาลงอักขระเลขยันต์ เน้น หัวใจธาตุทั้งห้า ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ นำไปสวดญัตติกรรม
    การสวดญัตติ จะต้องทำให้ครบ สี่ครั้ง เรียกว่า เหมือนกับพิธีอุปสมบทพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว หลวงปู่เปรี่ยมท่านก็อธิบายการนำตะกรุดเข้าโบสถ์สวดญัตติกรรมทำนองเดียวกันกับการบวชพระภิกษุหรือจะพูดง่ายๆเข้าใจแบบชาวบ้าน การสวดญัตติตะกรุดของหลวงปู่เปรี่ยมก็เหมือนกับ บวชตะกรุด ให้มีพลังความเข้มขลังเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง


    หลวงปู่เปรี่ยม พระอริยะผู้เมตตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่ได้สืบทอดวิชาของสายวัดระฆัง มาจากหลวงปู่หินโดยได้พบกับหลวงปู่หินในป่าแถบปักธงชัยขณะธุดงค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่หินเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมากมายหลายอย่าง เช่น การสร้าง ตระกรุด การทำผงพุทธคุณ 108คาถาอาคม และการปลุกเสกตลอดจนการเจริญภาวนา และภายหลังหลวงปู่ได้มาปรนนิบัติดูแล ลป.หิน ที่วัดระฆัง

    วัตถุมงคลทุกอย่าง หลวงปู่มีความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้คุ้มครองรักษาผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง แม้กระทั้งการเตรียมมวลสาร ผงต่างๆ ท่านจะพิถีพิถันตามตำราของท่าน เสกจนมวลสารศักสิทธิ์ จากนั้นกดพระแล้วเสกจนสำเร็จจนท่านมั่นใจ พระหลวงปู่เปรี่ยมเหมาะมากสำหรับท่านที่ศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จโต และ ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพราะหลวงปู่ท่านเสกตามตำหรับสายวิชาวัดระฆัง ตามที่ท่านรำ่เรียนมาจากหลวงปู่หิน

    โทรศัพท์ 094 949 4633
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  14. สิงห์อัคนี

    สิงห์อัคนี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +52
    จองรายการที่184ครับ
     
  15. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 185 ตะกรุดลอยนํ้าบันดาลโชคลาภชุดใหญ่ (2/3) หลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    ชุดใหญ่เต็มสูตร 99 ดอก พร้อมใบฝอยเดิม ชุดใหญ่หายากมาก ตระกรุดชุดนี้ได้มาจากลูกศิษย์หลวงปู่ทำบุญมาสมัยหลวงปู่อยู่กรุงเทพ มี3 กล่อง เหลือเพียง 2 กล่องสุดท้ายครับ ชุดใหญ่นี้พึ่งเคยได้ครั้งแรก

    ตะกรุดลอยน้ำบันดาลโชคลาภ เป็นวิชาคู่บารมีองค์หลวงปู่เปรี่ยม สำหรับขอเลขรางวัล แล้วแต่ตอนตั้งจิตอธิฐานขอว่าจะขอสองตัวหรือสามตัว ตระกรุด 99 ดอก ปี 48

    โดยทำหลังเที่ยงคืน ไม่เกินตี 3 ต้องทำในวันพฤหัสเท่านั้น ตั้งแต่ขึ้น 9 ค่ำ ถึงแรม 7 ค่ำ โดยจะไม่สามารถทำได้ทุกงวด เพราะต้องทำในวันที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นวันพฤหัสที่ใกล้หวยออกมากๆจะยิ่งแม่น (ตะกรุดจะลอยน้ำได้เป็นตัวเลข)

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    1. ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม (สำหรับบูชาพระ)
    2. บายศรีปากชาม 1 คู่
    3. ผ้าขาวสำหรับปูโต๊ะทำพิธี 1 ผืน
    4. ภาชนะใส่น้ำขนาดความกว้าง 9 - 12 นิ้ว
    5. ธูป 15 ดอก (สำหรับใช้ในพิธี)

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

    ขั้นตอนการปฏิบัติ
    1. จุดธูป 3 ดอก เพื่อบูชาพระรัตนตรัยที่หิ้งพระ
    2. ตั้งโต๊ะพิธี นำผ้าขาวมาคลุมโต๊ะ วางบายศรีปากชามทั้ง 2 ข้าง วางภาชนะที่ใส่น้ำไว้ตรงกลาง จากนั้นให้จุดธูป 15 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาชุมนุมเทวดา จากนั้น อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา แล้วนำธูปไปปักที่กลางแจ้ง
    3. หยิบตะกรุดออกจากกล่อง แล้วจับตะกรุดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ปิดหัวท้าย ครั้งละ 1 ดอก ก่อนวางว่าคาถา นะโมพุทธายะ นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ 1 จบ แล้วจึงค่อย ๆ วางตะกรุดลงบนผิวน้ำอย่างระวัง ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ จนครบหมดทุกดอก ถ้าตะกรุดดอกใดจมน้ำอย่าหยิบขึ้นมา ตะกรุดที่ลอยน้ำอยู่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากัน จากนั้นให้เพ่งดูตะกรุดที่ลอยน้ำ (ระหว่างนี้ให้ภาวนาคาถาไปเรื่อย ๆ คือ 1) นะโมพุทธายะ 2)นะมะภะทะ 3) จะภะกะสะ 4) นะมะอะอุ )

    วันทำพิธี
    เลือกวันพฤหัสบดีเท่านั้น ตั้งแต่ข้างขึ้น 9 ค่ำเป็นต้นไป แต่ไม่เกินข้างแรม 7 ค่ำ ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน จนถึง ตีสาม เท่านั้น

    หลวงปู่เปรี่ยม ท่านจะพิถีพิถันตามขั้นตอนการสร้างตะกรุดแต่ละตอกแต่ละประเภทจึงจะนำไปใช้ให้สำเร็จประโยชน์ ตะกรุดลอยน้ำเน้นตั้งแต่แผ่นโลหะก่อนลงอักขระเลขยันต์ต้อง สวดถอน สิ่งอัปมงคล ออกจากแผ่นโลหะเหมือนทำให้โลหะบริสุทธิ์จริงๆซะก่อนแล้วค่อยนำมาลงอักขระเลขยันต์ เน้น หัวใจธาตุทั้งห้า ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ นำไปสวดญัตติกรรม
    การสวดญัตติ จะต้องทำให้ครบ สี่ครั้ง เรียกว่า เหมือนกับพิธีอุปสมบทพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว หลวงปู่เปรี่ยมท่านก็อธิบายการนำตะกรุดเข้าโบสถ์สวดญัตติกรรมทำนองเดียวกันกับการบวชพระภิกษุหรือจะพูดง่ายๆเข้าใจแบบชาวบ้าน การสวดญัตติตะกรุดของหลวงปู่เปรี่ยมก็เหมือนกับ บวชตะกรุด ให้มีพลังความเข้มขลังเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง


    หลวงปู่เปรี่ยม พระอริยะผู้เมตตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่ได้สืบทอดวิชาของสายวัดระฆัง มาจากหลวงปู่หินโดยได้พบกับหลวงปู่หินในป่าแถบปักธงชัยขณะธุดงค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่หินเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมากมายหลายอย่าง เช่น การสร้าง ตระกรุด การทำผงพุทธคุณ 108คาถาอาคม และการปลุกเสกตลอดจนการเจริญภาวนา และภายหลังหลวงปู่ได้มาปรนนิบัติดูแล ลป.หิน ที่วัดระฆัง

    วัตถุมงคลทุกอย่าง หลวงปู่มีความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้คุ้มครองรักษาผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง แม้กระทั้งการเตรียมมวลสาร ผงต่างๆ ท่านจะพิถีพิถันตามตำราของท่าน เสกจนมวลสารศักสิทธิ์ จากนั้นกดพระแล้วเสกจนสำเร็จจนท่านมั่นใจ พระหลวงปู่เปรี่ยมเหมาะมากสำหรับท่านที่ศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จโต และ ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพราะหลวงปู่ท่านเสกตามตำหรับสายวิชาวัดระฆัง ตามที่ท่านรำ่เรียนมาจากหลวงปู่หิน

    โทรศัพท์ 094 949 4633
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  16. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +1,010
    จองครับ
    รายการที่ 185 ตะกรุดลอยนํ้าบันดาลโชคลาภชุดใหญ่ (2/3) หลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)
    บูชา 2,500 บาท ค่าจัดส่ง 60 บาท
     
  17. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +1,010
    โอนเงินแล้วครับ 15/07/16 เวลา 11.50 น. จำนวน 2560 บาท ส่งของที่
    ่นายสมชาย รอดนุช 78/2 หมู่ 8 ถนนพระประโทน-บ้านแพ้ว ต.ดอนยายหอม
    อ.เมือง จ.นครปฐม 73000
     
  18. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 186 ตะกรุดยันต์ดาบสะหลี๋กัญไชยด้ามแก้ว ครูบากฤษดา สุเมโธ
    ปิดรายการ ค่าจัดส่ง 60 บาท

    ครูบาจารมือทุกดอก เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ชอบพกมีดหมอ อาราธนาใส่ไปต่างที่ต่างถิ่นป้องกันคุณไสย์ วิญญาณร้าย คุณผีคุณคน

    ครูบากฤษดา สุเมโธ พระโพธิสัตว์ผู้เปี่ยมไปด้วยเมตตาบารมี ครูบาท่านอายุไม่มากแต่ได้รับการรับรองถึงบารมีท่านจากพระมหาเถระมากมาย หนึ่งในนั้นคือองค์หลวงปู่พิศดู ที่รับรองว่าครูบาท่านคือองค์พระพระโพธิสัตว์ ที่สำคัญยังเป็นสายที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธุ์กับองค์พระอุปคุตอีกด้วย หลวงปู่พิศดูยังรับรองถึงบารมีและพลังจิตของครูบาท่าน ว่ามีอยู่มาก ลูกศิษย์ท่านทั้งตนไทยและฮ่องกง ทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ ชาวบ้านธรรมดา คนรวย คนจน ท่านเมตตาเสมอกันหมด ประสบการณ์จากองค์ท่านเองและวัตถุมงคลของท่านมากมายนับไม่ถ้วน หลายคนเคยปรามาสท่านเพราะเห็นเป็นพระที่ยังอายุน้อย แต่เมื่อได้มีโอกาสกราบท่านจริงๆกลับพูดไม่ออกกันทุกคน

    ตะกรุดยันต์ดาบสะหลี๋กัญไชยด้ามแก้ว ครูบากฤษดา สุเมโธ สร้างตามรูปแบบขององค์ครูบาขันแก้ว ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาส โดยตำราสืบทอดมาจาก ครูบาชุ่มซึ่งรับมาจากครูบาเจ้าศรีวิชัย (ครูบาศรีวิชัย ท่านได้มาเมื่อครั้งท่านได้ไปเข้านิโรธสมาบัติที่ถ้ำเชียงดาว) ซึ่งยันต์ดาบสะหลี๋กัญไชยนี้เป็นยันต์ที่ใช้ลง มีดพระขรรค์ไชยศรีของพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองได้มอบตำราและพระเวทย์ที่ใช้กับพระขรรค์ไชยศรีให้ไว้กับพ่อขุนเม็งราย ซึ่งเป็นศิษย์ของท่าน จึงได้ตกมาอยู่ที่เมืองเหนือ จนถึงสมัยองค์ครูบาศรีวิชัยได้พบตำราเมื่อธุดงค์ไปที่ถ้ำเชียงดาว

    พุทธคุณของตระกรุดสะหรี๋กัญไชย ใช้ป้องกันภัยอันตรายต่างๆ และเป็นตบะมหาอำนาจ หนุ่นดวงคำ้ดวง กันคุณไสย์สิ่งไม่ดี ทำน้ำมนต์แล้วแต่จะอฐิธาน (ฝอยท่วมหลังช้าง)
    รวมๆก็คือ เหมือนพกพระขรรค์หรือมีดหมอดีๆนี่เอง

    ประสบการณ์มีอยู่เรื่อยๆ ในทางป้องกันอันตราย ที่ชัดเจนคือประสบการณ์จากศิษย์ที่พกแล้วไม่ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ที่สนามบิน เพราะเจ้าหน้าที่มองเห็นเป็นมีดเล่มเล็ก หลังจากโดนค้นกระเป๋าในจุดที่เห็นเป็นมีด เปิดออกมาเป็นตระกรุด

    เชื่อว่าตระกรุดนี้ต่อไปจะหายาก และด้วยลักษณะของครูบาท่าน คือ ถ้าท่านไม่รู้จริงท่านไม่สร้างแน่นอน ท่านบวชมาตั้งแต่เณร สนใจศึกษาตำราเก่าแก่ล้านนามากมาย ศึกษาเล่าเรียนวิชากับองค์ครูบาอินตา ตลอดจนใฝ่หาความรู้จากครูบาอาจารย์มากมาย และด้วยบารมีเก่าทำให้ท่านแตกฉานในทุกสิ่งที่ท่านเรียน

    ปัจจุบันครูบาท่านมีศิษย์เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยบารมีองค์ท่านและบารมีครูบาอาจารย์ที่เกี่ยวข้องกับท่าน วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่ต้องการมาก และอนาคตจะหาได้ยาก เพราะทุกสิ่งที่ทำ ครูบาท่านเป็นผู้คิดและตัดสินใจทั้งหมด ที่วัดไม่มีตู้วัตถุมงคล ท่านเคยบอกว่าช่วงนี้สร้างมากหน่อย เพราะวัดกำลังบูรณะครั้งใหญ่ ต่อไปเมื่อวัดเสร็จ ก็ไม่มีความจำเป็นต้อสร้างออกมาเยอะ

    โทรศัพท์ 094 949 4633
    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  19. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 187 ตะกรุดลอยนํ้าบันดาลโชคลาภชุดใหญ่ (2/3) หลวงปู่เปรี่ยม อติภัทโท วัดโพธิ์เรียง (วัดบ้านคลองทรายเหนือ จ.สระแก้ว)


    ชุดใหญ่เต็มสูตร 99 ดอก พร้อมใบฝอยเดิม ชุดใหญ่หายากมาก ตระกรุดชุดนี้ได้มาจากลูกศิษย์หลวงปู่ทำบุญมาสมัยหลวงปู่อยู่กรุงเทพ มี 3 กล่อง กล่องนี้กล่องสุดท้ายครับ ชุดใหญ่นี้พึ่งเคยได้ครั้งแรก

    ตะกรุดลอยน้ำบันดาลโชคลาภ เป็นวิชาคู่บารมีองค์หลวงปู่เปรี่ยม สำหรับขอเลขรางวัล แล้วแต่ตอนตั้งจิตอธิฐานขอว่าจะขอสองตัวหรือสามตัว ตระกรุด 99 ดอก ปี 48

    โดยทำหลังเที่ยงคืน ไม่เกินตี 3 ต้องทำในวันพฤหัสเท่านั้น ตั้งแต่ขึ้น 9 ค่ำ ถึงแรม 7 ค่ำ โดยจะไม่สามารถทำได้ทุกงวด เพราะต้องทำในวันที่กำหนดเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นวันพฤหัสที่ใกล้หวยออกมากๆจะยิ่งแม่น (ตะกรุดจะลอยน้ำได้เป็นตัวเลข)

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    1. ธูป 3 ดอก เทียน 2 เล่ม (สำหรับบูชาพระ)
    2. บายศรีปากชาม 1 คู่
    3. ผ้าขาวสำหรับปูโต๊ะทำพิธี 1 ผืน
    4. ภาชนะใส่น้ำขนาดความกว้าง 9 - 12 นิ้ว
    5. ธูป 15 ดอก (สำหรับใช้ในพิธี)

    บทสวดชุมนุมเทวดา
    สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน
    ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะวัตถุมหิ เขตเต
    ภุมมา จายันตุ เทวา ชะละถะละวิสะเม ยักขะคันธัพพะนาคา
    ติฏฐันตา สันติเก ยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุ
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา
    ธัมมัสสะวะนะกาโล อะยัมภะทันตา

    ขั้นตอนการปฏิบัติ
    1. จุดธูป 3 ดอก เพื่อบูชาพระรัตนตรัยที่หิ้งพระ
    2. ตั้งโต๊ะพิธี นำผ้าขาวมาคลุมโต๊ะ วางบายศรีปากชามทั้ง 2 ข้าง วางภาชนะที่ใส่น้ำไว้ตรงกลาง จากนั้นให้จุดธูป 15 ดอก ตั้งนะโม 3 จบ แล้วสวดคาถาชุมนุมเทวดา จากนั้น อธิษฐานขอในสิ่งที่ปรารถนา แล้วนำธูปไปปักที่กลางแจ้ง
    3. หยิบตะกรุดออกจากกล่อง แล้วจับตะกรุดด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ปิดหัวท้าย ครั้งละ 1 ดอก ก่อนวางว่าคาถา นะโมพุทธายะ นะมะภะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ 1 จบ แล้วจึงค่อย ๆ วางตะกรุดลงบนผิวน้ำอย่างระวัง ตั้งใจทำไปเรื่อยๆ จนครบหมดทุกดอก ถ้าตะกรุดดอกใดจมน้ำอย่าหยิบขึ้นมา ตะกรุดที่ลอยน้ำอยู่จะค่อย ๆ เลื่อนเข้าหากัน จากนั้นให้เพ่งดูตะกรุดที่ลอยน้ำ (ระหว่างนี้ให้ภาวนาคาถาไปเรื่อย ๆ คือ 1) นะโมพุทธายะ 2)นะมะภะทะ 3) จะภะกะสะ 4) นะมะอะอุ )

    วันทำพิธี
    เลือกวันพฤหัสบดีเท่านั้น ตั้งแต่ข้างขึ้น 9 ค่ำเป็นต้นไป แต่ไม่เกินข้างแรม 7 ค่ำ ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืน จนถึง ตีสาม เท่านั้น

    หลวงปู่เปรี่ยม ท่านจะพิถีพิถันตามขั้นตอนการสร้างตะกรุดแต่ละตอกแต่ละประเภทจึงจะนำไปใช้ให้สำเร็จประโยชน์ ตะกรุดลอยน้ำเน้นตั้งแต่แผ่นโลหะก่อนลงอักขระเลขยันต์ต้อง สวดถอน สิ่งอัปมงคล ออกจากแผ่นโลหะเหมือนทำให้โลหะบริสุทธิ์จริงๆซะก่อนแล้วค่อยนำมาลงอักขระเลขยันต์ เน้น หัวใจธาตุทั้งห้า ประกอบด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ และวิญญาณธาตุ นำไปสวดญัตติกรรม
    การสวดญัตติ จะต้องทำให้ครบ สี่ครั้ง เรียกว่า เหมือนกับพิธีอุปสมบทพระภิกษุในพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว หลวงปู่เปรี่ยมท่านก็อธิบายการนำตะกรุดเข้าโบสถ์สวดญัตติกรรมทำนองเดียวกันกับการบวชพระภิกษุหรือจะพูดง่ายๆเข้าใจแบบชาวบ้าน การสวดญัตติตะกรุดของหลวงปู่เปรี่ยมก็เหมือนกับ บวชตะกรุด ให้มีพลังความเข้มขลังเพื่อให้พิธีสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีนั่นเอง


    หลวงปู่เปรี่ยม พระอริยะผู้เมตตา เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่ได้สืบทอดวิชาของสายวัดระฆัง มาจากหลวงปู่หินโดยได้พบกับหลวงปู่หินในป่าแถบปักธงชัยขณะธุดงค์ ได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่หินเป็นเวลา 6 ปี ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมมากมายหลายอย่าง เช่น การสร้าง ตระกรุด การทำผงพุทธคุณ 108คาถาอาคม และการปลุกเสกตลอดจนการเจริญภาวนา และภายหลังหลวงปู่ได้มาปรนนิบัติดูแล ลป.หิน ที่วัดระฆัง

    วัตถุมงคลทุกอย่าง หลวงปู่มีความตั้งใจอย่างมาก เพื่อให้คุ้มครองรักษาผู้ใช้ได้อย่างแท้จริง แม้กระทั้งการเตรียมมวลสาร ผงต่างๆ ท่านจะพิถีพิถันตามตำราของท่าน เสกจนมวลสารศักสิทธิ์ จากนั้นกดพระแล้วเสกจนสำเร็จจนท่านมั่นใจ พระหลวงปู่เปรี่ยมเหมาะมากสำหรับท่านที่ศรัทธาในเจ้าประคุณสมเด็จโต และ ชอบสวดพระคาถาชินบัญชร เพราะหลวงปู่ท่านเสกตามตำหรับสายวิชาวัดระฆัง ตามที่ท่านรำ่เรียนมาจากหลวงปู่หิน


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019
  20. studio214

    studio214 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +705
    รายการที่ 188 เหรียญทำน้ำมนต์ รุ่นแรก หลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) วัดป่ากุง รัอยเอ็ด เนื้อทองแดง พิมพ์ยันต์นะมหาเศรษฐี
    ค่าจัดส่ง 60 บาท

    เหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) วัดป่ากุง รัอยเอ็ด รุ่นแรก พิมพ์ยันต์ยันต์นะมหาเศรษฐี ถวายหลวงปู่ศรีอธิษฐานจิตเมื่อเดือนมีนาคม ปี๒๕๕๒ โดยได้กราบเรียนหลวงปู่ถึงเรื่องของภัยพิบัติต่างๆในอนาคต และขออนุญาติหลวงปู่ท่านจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อป้องกันภัยพิบัติต่างๆ แบบเดียวกับ เหรียญทำน้ำมนต์ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ โดยองค์หลวงปู่ศรีท่านพิจารณาและเมตตาบอกว่าทำได้ และได้ใช้ยันต์ทำน้ำมนต์ (ยันต์พระสารีบุตร) แบบเดียวกับเหรียญทำน้ำมนต์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ผู้สร้างได้กราบเรียนหลวงปู่ศรีขอ "พลังอรหันต์ พลังเหนือโลก" และ ขอบารมีหลวงปู่ศรีอธิษฐานจิตให้มีพุทธคุณครอบจักรวาลครบ ทุกด้าน ทั้งกันและแก้ได้หมดทุกอย่าง ทั้งนิวเคลียร์ รังสีต่างๆ โรคระบาด โรคภัยไข้เจ็บ เป็นมหาสะท้อน มหาคุ้มกันภัย มหาเมตตา มหาโชคลาภค้าขาย หนุนดวง กลับร้ายกลายเป็นดี อีกทั้งสามารถอธิษฐานทำน้ำมนต์ตามแหล่งน้ำต่างๆได้ โดยมีรัศมีและพุทธานุภาพครอบคลุมทั้งแหล่งน้ำและอธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค ได้ตามที่อธิษฐาน ให้เห็นผลโดยฉับพลัน

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร (พระเทพวิสุทธิมงคล) วัดป่าประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ต.ศรีสมเด็จ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
    ท่านได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. 2488 ณ วัดราษฎร์รังสรรค์ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระโพธิญาณมุนี (ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา ทางพระพุทธศาสนาว่า "มหาวีโร" พรรษาแรกท่านได้พำนักศึกษาปฏิบัติธรรม อยู่กับท่านพระอาจารย์คูณ อุตตโม วัดประชาบำรุง มหาสารคาม ปีต่อมา พ.ศ. 2489 ท่านได้จาริกไปจำพรรษ ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี มีโอกาสศึกษา ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กับท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ซึ่งเป็นศิษย์สำคัญของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เมื่อออกพรรษาแล้วได้ออกจาริกแสวงธรรม ไปตามป่าเขาราวไพร อาทิ ภูเก้า ภูผักกูด บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม ปี พ.ศ. 2490 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ธุดงค์ไปพำนักที่ถ้ำพระเวส ครั้นเข้าพรรษา ได้ไปจำพรรษา ที่วัดบ้านนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งในยุคสมัยนั้น เป็นดินแดนที่ครุกรุ่นไปด้วยสถานการณ์ แห่งความขัดแย้ง ด้านอุดมการณ์ทางการเมืองแต่ท่านก็อยู่ด้วยความราบรื่น ปราศจากอันตราย

    พ.ศ. 2491 เข้าจำพรรษา ที่วัดโนนนิเวสน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาในปฏิปทาบารมีธรรมของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งขณะนั้น อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย พำนักอยู่ที่สำนักป่า บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร พระอาจารย์ศรี มหาวีโร จึงเข้าไปกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่สำนักป่าบ้านหนองผือ ขออนุญาต พำนักจำพรรษา และศึกษาธรรมกับท่าน ซึ่งหลวงปู่มั่น ก็เมตตาอนุญาต นับเป็นโอกาส อันเป็นมหามงคล ในชีวิตบรรพชิต ที่มีโอกาสศึกษาธรรม และอุปฏฺฐากพระบุพพาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมทั้งมีโอกาสเจริญธรรม กับสหธรรมิกร่วมสำนัก ร่วมครูอาจารย์เดียวกัน

    เมื่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาพาธพระอาจารย์ศรี ก็มีโอกาสถวายการปฏิบัติ หลังจากท่านพระอาจารย์ใหญ่ถึงแก่มรณภาพ พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนอง ผักตบ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร และปีต่อมา ได้มีโอกาส ไปพำนัก จำพรรษาที่ วัดบ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ได้มีโอกาส ศึกษาธรรมกับท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นประธานสงฆ์ในสำนักแห่งนี้ ปี พ.ศ. 2495 ได้ร่วมสร้างวัดป่าหนองแซง โดยบัญชาของพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี ท่านพระอาจารย์ศรี ได้ออกจาริกห่างถิ่นมหาสารคาม และร้อยเอ็ดไปนานหลายปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2496 ท่านจาริกมายังวัดป่ากุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาประมาณ 170 ปี ท่านเป็นผู้นำศรัทธา ในการพัฒนาวัดป่ากุง ให้เรืองรุ่งโดยลำดับ จนกระทั่งเป็น "วัดประชาคมวนาราม" ที่งามสง่า หลวงปู่ศรี มหาวีโร จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2507 เป็นต้นมา

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร องค์ท่านละสังขารเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2554 เวลา 05.34 น. ด้วยโรคชรา ภายในศาลากลางน้ำ วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด อายุ 94 ปี 3 เดือน 13 วัน ( 66 พรรษา)


    ธนาคารไทยพาณิชย์
    เลขบัญชี 114-220116-0 WANNARAT
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lp_sri_122.jpg
      lp_sri_122.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.9 KB
      เปิดดู:
      37
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...