ปวดหัว ไมเกรน

พึ่งได้มีโอกาศมาแชร์ประสบการณ์ชีวิตที่บางคนอาจจะฟังดูงมงาย
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ ตัวผมไม่ได้เป็นคนที่เชื่อในเรื่องวิญญาณหรือของขลังอะไรซักเท่าไหร่
เนื่องจากเป็นคนยุค IT เชื่อแต่วิทยาศาส์แบบมีเหตุผล
แต่เมื่ออดีตที่ผ่านมาตัวผมมีโรคประจำตัวคืออาการปวดหัว ไมเกรน ในช่วงแรกก็ปวดนิดหน่อยไม่ถี่
เลยไม่ได้คิดอะไรตามประสาวัยรุ่นต่อมามันเริ่มปวดถี่ขึ้น บ่อยขึ้น จนบอกได้คำเดียวครับทรมานมาก
ตัวผมได้ไปหาหมอส่วนใหญ่ที่ไปก็จะได้ยา พาราบ้าง ยาแก้ปวดไมเกรนบ้าง บ้างก็บอกเครียดไป
คิดมากเกินไป ให้ผ่อนคลาย บ้างก็ว่า น้ำในหูไม่เท่ากัน ขอบอกไว้ก่อนครับตัวผมเป็นคนฐานะปานกลาง
ถึงต่ำจึงรักษาแบบตามมีตามเกิน อยู่มาวันนึงมีผู้ใหญ่ที่นับถือแนะนำให้ลองทำตามที่เขาบอก
ด้วยตัวผมคิดว่าลองดูคงไม่เสียหายเพราะที่เป็นอยู่มันทรมานครับ ไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่หาย
แต่วิธีมันดูเหลือเชื่อไปหน่อยที่คนยุคปัจจุบันอาจมองว่างมงายตัวผมตอนนั้นอะไรก็ได้ครับขอให้หาย
จึงได้ทำตาม ใช้ระยะเวลาซักพักหนึ่งพบว่าอาการดีขึ้นมากครับจากที่เป็นอยู่แทบทุกวัน
ทุกวันนี้เป็นเฉพาะเวลาเครียดหนักๆ หรือไม่สบายไม่ได้เป็นพร่ำเพื่อแบบแต่ก่อน
ตัวผมจึงเปลี่ยนความคิดเริ่มที่จะเชื่อในเรื่องของขลัง วิญญาณ
สิ่งเหนือธรรมชาติ เพราะไอที่ไม่หายมันก็ดีขึ้นผมจึงไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาหักล้าง
ที่ได้เล่ามาข้างต้นเพื่อเป็นการแบ่งปันแบ่งปันประสบการณ์กันครับ

 

อ้อ!!

 

แล้วใช้วิธีแบบไหนเหรอครับ ผมก็เป็นไมเกรนเหมือนกัน ลองสารพัดวิธี ไม่หายขาดเลย
เป็นมา 8 ปี แล้วมั้ง ใกล้ได้ขึ้นสวรรค์แล้วมั้ง

 

น่าจะบอกวิธีการรักษาด้วย จะเป็นประโยชน์แก่มหาชนยิ่ง คนที่ทุกข์ทรมานแบบเจ้าของกระทู้จะได้รับประโยชน์หายจากการทุกข์ทรมานไม่มากก็น้อย

 

.
เขียน ๑๓.๕๐


ใช่ๆ น่าจะบอกวิธีรักษาด้วยนะ เนอะ คนเป็นแยะนะเนี่ย
เราก็รู้แต่วิธีรักษาด้วยปราณประจำตัวอย่างเดียวอ่ะ
ไมเกรนเราไม่เป็น หรือปวดหัวก็ไม่ค่อยเป็น
ถ้าเป็นก็แค่เดินลมปราณไล่ไปไล่มา
ปรับธาตุ เปลี่ยนเซลล์ชุดใหม่
ก็ซ่อมกายที่เสื่อมได้หมด

เจ็บปวดอะไรตรงไหน ก็บำบัดรักษาวิธีคล้ายๆ กันไปหมดอ่ะ
คือใช้จิตจับหา ให้ตรงกับจุดที่เจ็บ แล้วเดินลมเข้าไป
อัดหรือปล่อยขยายบ้าง ไล่ไปรอบๆ ให้ซึมออก
หรือไล่ขึ้นบนลงล่างซ้ายขวา ไปไหนก็ไป
คล้ายทำอานาปา หมวดหนึ่งบังคับลม
ลมน่ะ หัวหน้าบอกว่าเป็นกายด้วย
คือทำหมวดกายานุปัสสนา น่ะ

หายใจเข้า ให้จิตพาสติเข้าไปตรงที่เจ็บ
หายใจออก ก็พาของเสียออกมาด้วย พร้อมลม
อาจจะเป็นเซลล์เนื้อเยื่อ สมอง หรือเซลล์เส้นประสาท
อานาปาหมวดแรก จะพาพวกนั้นออกมาได้ ล่ะมั้ง นะ เนอะ
เมื่อของเก่าออกไป ของใหม่ก็จะเพิ่มขึ้นมาเอง ตามกฏธรรมชาติ
เราก็ใช้แต่แบบเนี้ย รู้หนึ่งได้ถึงหมื่น เป็นอะไรก็ใช้ปราณ และจิต ช่วย

แล้ว จขกท.ทำไงอ่ะ บอกมานะ หึหึหึ


หมอมือเปล่า / กระต่ายป่า ข้างวัด
.

 

ขอโทษครับที่ล่าช้า
ผมได้รับการช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ท่านนี้ ท่านให้คำแนะนำ
ในช่วงแรกผมไม่ค่อยจะเชื่อซักเท่าไหร่ ท่าน
ให้ทำ 2 วิธีควบคู่กันไปคือ รักษาทาง กายและจิต
กายในที่นี้ หมายถดูแลสุขภาพจากความเป็นจริง กินยา ออกกำลังกาย ไม่ใช่ทิ้งไปเลย
ทางจิตก็ใช้วิธีใกล้เคียงกับที่ ท่าน หมอมือเปล่า ได้กล่าวไว้ แต่อาจจะมีปลีกย่อยแตกแขนงออกไป
ที่ไม่สามารถบอกอะไรได้เพราะผู้ที่ให้การรักษาทางจิต จะได้รับการย้อนกลับจากการรักษา
หลังจากที่ผมหาย ผมก็เป็นคนชอบเรื่องจิต
พยายามค้นหาศึกษา เรื่องจิต

คนเล่นจิต​

​

 

น่าจะลงท้ายว่าคนฝึกจิตมากกว่า คนเล่นจิต

 

ครับผมว่า 2 คำนี้ มันมีข้อแตกต่างครับ
ผมคิดว่า คนฝึกจิต อาจจะเป็นคนที่ค้นหาความสงบ
แต่คนเล่นจิตนั้นต่างกันครับ

 

ไม่มียารักษาหรอกครับ.. เป็นมาเกือบ20ปีแล้ว? เคยห่างๆนานที่สุด ราวครึ่งปีได้ แล้วก็จะกลับมาปวดอีก.. ผมกินยาปฎิชีวะนะ มาเยอะ เปลี่ยน20-30ยี่ห้อแล้ว.. ฝังเข็ม หมดไปหลายหมื่นบาทพอ หลายๆปีเข้าสู้ไม่ไหว แพงจัด.. ต้มยากินเองก็เคย.. หาหมอ มาหลายคน ก็แค่ให้ยามากิน..

 

ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์การเป็นไมเกรนค่ะ อย่างมธุราเองเคยปวดไมเกรน และมีอาการเกร็งที่คอ ท้ายทอย จนต้อง admit ให้หมอฉีดยาบ่อยๆ มีบางช่วงหาหมอวันเว้นวัน ตอนหลังหายเป็นปลิดทิ้ง อาจจะมีอาการเล็กน้อยหากมีสภาพแวดล้อมกระตุ้น เช้น เสียงดังๆ หรือ สภาพอากาศร้อนจัดค่ะ ทางธรรมชาติ

ของมธุราจะดื่มน้ำแร่มากขึ้นหากต้องอยู่กับสภาวะกระตุ้นไมเกรน หลีกเลี่ยงอาหารที่เพิ่มสารเอสโตเจน ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็เป็นสาเหตุหนึ่งสำหรับผู้หญิง ก็จะหลีกเลี่ยงอาหารพวกนั้น เพราะระดับฮอร์โมนก็เป็นสาเหตุหนึ่งได้ ที่ทำให้ปวด

อันสุดท้ายคืมธุราไปฝึกสมาธิค่ะ แค่นั้นแหละค่ะ ตอนนี้ก็ใช้ชีวิตปรกติ ไม่ต้องทานยาแก้ปวดอี่กแล้วค่ะ แต่หากทางเจ้าของกระทู้เล่าประสบการณ์ก็ขออ่านเพื่อแลกเปลี่ยนด้วยนะคะ เผื่อมีทางเลือกอื่นๆเพิ่มเติม

ขอบคุณค่ะที่มาเล่าสู่กันฟัง