การเรียกบุญ-บารมีเก่ามาใช้

การเรียกบุญ-บารมีเก่ามาใช้ต้องทำยังไง ถ้าเราไม่พึ่งแต่กำลังของครูบาอาจารย์ เราต้องการบุญเก่าของตนเอง

มันถึงเวลาจำเป็นจะต้องนำมาใช้ การอธิษฐานย้ำๆซ้ำๆช่วยได้หรือไม่ ท่านใดเคยลองมาบ้าง

วิธีแปลกๆนอกครูที่ท่านไม่ได้เล่า ตามจริงมีนะ เราอาจจะค้นพบเองก็ได้ หรือบางท่านพบแล้วแต่ไม่ป่าวประกาศก็ได้


เพราะสิ่งที่เราเจอมาบางสถานการณ์มันก็มีนอกเหนือจากตำราที่ท่านสอนมาเหมือนกัน แต่วิธีแก้ไขควรจะเป็นไปตามครรลองคลองธรรม

.
​

 

จะลองดูครับ

 

ถ้าเป็นด้านบุญเก่า เราต้องทำแบบ
ทำแล้วก็ทำไป
ให้แล้วก็แล้วไป
ไม่อะไรกับอะไร
และไม่หวังผลอะไรกับการกระทำครับ
มันถึงจะวนกลับมา
เป็นบารมีเวียนกลับมาครับ
ถ้าทำเพื่ออะไรหรือหวังผลอะไร
มันเป็นบารมีแต่พอหมดแล้วมันก็จะหมดไป
ไม่เป็นบารมีเวียนกลับมาครับ

ถ้าเป็นด้านความสามารถพิเศษทางจิต
ให้ระลึกว่าเพื่อดึงของเก่าที่เคยทำได้กลับมา
และมุ่งเน้นใช้เพื่อประโยชน์ต่อผู้อื่น
และเพื่อประโยชน์ทางธรรมครับ...

ส่วนบางเวลาของเก่าเรามันก็กลับมาแล้ว
แต่ว่าเราก็ข้ามมันไปก็มีครับ
และเราก็มักจะไม่รู้ว่ามันจะมาอีกตอนไหนครับ

ปล.แต่ถ้าในสภาวะลืมตาปกติ จิตเราสามารถคลายตัวได้
เองตามธรรมชาติ คือไม่เป็นวงกลม ขยายตัวของมันเองได้เอง
ไร้รูปร่างด้วยตัวมันเอง โดยธรรมชาติ และไม่ใช้วิธีการใดๆบังคับ
ของเดิมที่เราเคยมี ตามเนื้อหาเดิมแท้ที่เราเคยสะสมมา
มันก็จะค่อยๆกลับขึ้นมาได้ของมันเอง ตามแต่ระยะเวลา
ที่จิตเราสามารถคลายตัวเองได้โดยธรรมชาติมากน้อยแค่ไหนครับ
พวกนี้ถ้าเป็นไปเองได้จริงๆ แค่ไม่กี่นาที
เราก็ทำอะไรๆพิเศษๆได้หลายอย่างแล้วครับ

 

1)เรื่องมีในพระไตรปิฎก พระเจ้าสิวิราช ทำสัจจะอธิษฐาน เอาบุญมาใช้ในปัจจุบัน จากที่ตาบอด ก็กลับมีตามองเห็นได้อย่างวิเศษ รายละเอียดที่พระไตรปิฎกฉบับ มมร. เล่ม 74 หน้า 128 "สิวิราชจริยา"
2)เรื่องมีในพระไตรปิฎก ชาวนาทำบุญกับพระสารีบุตรเถระ ที่ออกจากนิโรธสมาบัติ ไถนาได้ทองคำเต็มพื้นนา รายละเอียดที่พระไตรปิฎกฉบับ มมร. เล่ม 33 หน้า 130 "ปุณณะเศรษฐี"

 

คนเราเกิดมาเป็นร้อยชาติพันชาติ บุณเกำของเราทุกคนจะสะสมอยู่บนสวรรค์
วิธีจะเอาบุญเก่ามาใช้ ทำจิตให้นิ่งแล้ว (พูดในใจ ไม่ออกเสียง ไม่ต้องพนมมือ) ให้คิดว่า
"ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดจงดลบันดาลบุญของข้าพเจ้า มาจ่ายให้แก่...(พ่อของข้าพเจ้า, ผู้ที่ช่วยซ่อมรถให้ข้าพเจ้าที่กลางป่าเมื่อคืนนี้, นกที่บินชนรถข้าพเจ้าตายเมื่วานนี้, .........)"
เราจะเอาบุญเก่าไปให้ใคร ไปทำอะไร ก็ให้คิดเอา (ไม่ต้องประนมมือ) เพียงแต่ให้ขึ้นต้นว่า "ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ......" บางคนก็เรียกว่า การโอนบุญ, การอุทิศบุญ, การจ่ายบุญ, การเชื่อมบุญ ฯลฯ ลองทำดูนะครับ

 

พระคาถาพระพุทธเจ้า 5 พระองค์เปิดโลก

( นะโม 3 จบ )

พระพุทธังอาราธนา พระพุทธเจ้าเปิดโลก
พระธัมมังอาราธนา พระพุทธเจ้าเปิดโลก
พระสังฆังอาราธนา พระพุทธเจ้าเปิดโลก

นะเปิดบุญ โมเปิดบารมี พุทเปิดวาสนา ธาเปิดจิต ยะเปิดธรรม
เปิดโลกเปิดจิตครอบจักรวาล ด้วยนะโมพุทธายะ

ยะเปิดกรรมดี ธาเปิดงานดี พุทเปิดโชคดี โมเปิดลาภดี นะเปิดอำนาจดี
เปิดสิ่งดีๆทั้งหลายมาสู่ตัวข้าพเจ้า ด้วยยะธาพุทโมนะ

นะมะพะธะ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ขออำนาจบารมีของพระรัตนตรัย โปรดเชื่อมโยงบุญบารมี ทานบารมี ศีลบารมี วิริยะบารมี เมตตาบารมี ปัญญาบารมี วาสนาบารมี ฌาณบารมี ญาณบารมี ทั้งหลายทุกภพทุกชาติของข้าพเจ้า จงมารวมกัน ณ ปัจจุบันชาติ และขอพลังบารมีทั้งหลายมาสู่ตัวข้าพเจ้า ณ กาลบัดนี้... เปิดโลก เปิดจิต เปิดธรรม เปิดด้วยนะโมพุทธายะ ยะธาพุทโมนะ

( ขั้นต่ำ 3 จบครับ ควรหมั่นสวดเป็นประจำทุกวัน ยิ่งหลายจบยิ่งดี... )


ข้อมูลเพิ่มเติม...
https://www.facebook.com/5Buddha/
*
*
*

 

ข้าพเจ้าเห็นว่า ไม่ต้องไปเรียกไม่ต้องไปร้องไม่ต้องไปดึงมันออกมาหรอกของเก่า ถึงเวลาถ้ามันจะมาเดี๋ยวมันมาของมันเอง

เพียรสร้างของใหม่ดีกว่า เราจะรู้ได้ด้วยปัจจุบันเลยว่าตอนนี้เราทำอะไรไปบ้าง ดีมากน้อยเพียงใด ศักยภาพเราทำได้มากถึงเพียงไหน เราก็ย่อมจะรู้ได้ด้วยตัวเราเอง โดยไม่ต้องไปปริปากถามใครต่อใครเลยเป็นแน่แท้

"ทำดี ณ ปัจจุบันนี้ให้มากไม่มีประมาณ อนาคตเราก็ย่อมจะรู้ได้ว่าเราจะได้รับอะไรในอดีตของอนาคตคือ ปัจจุบันนี้บ้างเพราะฉะนั้นการทำดี ณ ปัจจุบันมันจึงสำคัญมากๆนะ มองข้ามไม่ได้เลย"

 

อยากลองดึงมาใช้เผื่อแก้ปัญหา พอดีมีปัญหาครอบครัวน่ะครับ พอดีชกกับพี่ชาย ทะเลาะกับแม่ อยากไปอยู่ที่อื่นมีแต่คนนำปัญหามาให้น่ะครับ

 

ถ้ากรณีที่ต้องการดึงบุญมาแก้ปัญหาชีวิตนะปัจจุบัน(วิบากกรรมเก่าให้ผล) ถ้าเป็นทางพระท่านจะบอกให้3คำเน้นๆ ทำแล้วชีวิตผ่านอุปสรรคได้เร็วพลัน 3คำที่นั้นคือ "ไปบวชเถอะ" แก้กรรมเก่าเพิ่มบุญใหม่ ย่นระยะเวลาอกุศลกรรมให้ผลได้เยอะเลยทีเดียว พระท่านแนะนำไว้อย่างนี้นา สำหรับคนดวงตกปัญหาเยอะ ทำแล้วมีผลจริงๆ

 

น่าสนใจ แต่ผมต้องใช้หนี้ให้หมด

 

กรณีเรื่องหนี้และการบวช
เคยได้ถามพระสุปฏิปันโนท่านหนึ่งที่ท่านชอบจัดบวชเนกขัมมะทุกปีนะ ท่านให้ความเห็นว่า "กรณีหนี้ที่ว่าคือการหนีหนี้ที่เป็นคดีความมาบวชอันนี้ไม่ได้ แต่ถ้าเป็นกรณีที่เรามาบวชแก้กรรม7วัน15วัน หลวงพ่อท่านมองที่เจตนาว่า เราไม่ได้จะหนีไปไหน ใช่ได้ถึงกับขึ้นศาลฟ้องร้องอะไร ครบกำหนดก็สึกออกไปตามเดิม พูดง่ายๆว่าบวชแก้วิบากกรรมเก่า แบบนี้ท่านอนุญาตให้บวช และที่ผ่านมาก็เห็นคนประเภทมีหนี้มีปัญหาชีวิตได้มาบวชแก้กรรมหลายๆคนแล้ว ออกไปก็คงจะมีทางออกของปัญหาที่ดีขึ้นล่ะนะ อย่างน้อยใจเราก็เย็นและพอจะมีสติปัญญาคิดใตร่ตรองอะไรได้ดีขึ้นกว่าเดิม เมื่อใจสงบไม่ดิ้นหรือดิ้นน้อยลงแล้วทางสว่างมันจะเปิดเอง นี่นะๆ

 

สาธุ

 

ขอบคุณครับ