เพื่อการกุศล ท้าวมหาราชทั้งสี่Lotแรกวัดศาลฯ(พิเศษกรอบลายไทยและกล่อง)เสก2วาระหพ.หนุน&วัดเขาวง<ชนวนพิเศษ>ภายใน31สค.#แรงมาก

ตายจากมนุษย์ไปเกิดเป็นท่านท้าวมหาราชบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน
"..วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ สองวันที่ผ่านมาร่างกายไม่ดี ใช้กำลังสมถภาวนาไม่ได้ ต้องใช้กำลังวิปัสสนาญาณเป็นตัวยืน อารมณ์ของคนเราถ้าเจริญพระกรรมฐานต้องเข้าใจว่า กรรมฐานที่ทรงตัวจริงๆ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๑๑ อย่าง และกรรมฐานแบบคิดอีก ๒๙ อย่าง เวลาที่ร่างกายมีกำลังดี ไม่ป่วยไข้ไม่สบายมากจิตจะทรงตัว ใช้กรรมฐานทรงตัวได้ แต่ถ้าจิตเกิดฟุ้งซ่านขึ้นมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บมันกวนมาก มันเพลียมาก ก็ต้องใช้กรรมฐานคิดใช้วิปัสสนาญาณควบ ไม่ต้องการรู้อะไรทั้งหมด
ท้าวจตุโลกบาล
มาวันนี้อารมณ์เริ่มทรงตัวขึ้นมาบ้าง ก็ใช้กำลังทรงตัวได้ แต่ถ้าใช้กำลังทรงตัวแน่นไปอีกก็ไม่เห็นอะไร พอขยับจิตเคลื่อนลงมานิดหนึ่งอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ก็เห็นท่านท้าวมหาราชนั่งอยู่ข้างๆ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ เขาเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล มีหน้าที่รักษาคุ้มครองชาวมนุษยโลก ถ้าสร้างความดีก็หาทางป้องกันช่วยเหลือ จะส่งเทวดาไปอารักขา ถ้าสร้างความชั่วก็สุดวิสัยที่จะช่วยได้ก็อดใจไว้ และก็มีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วของคนทั้งการพูด การคิด การทำทุกอย่าง สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชอยู่กึ่งกลางเขาพระสุเมรุ คนที่ตายแล้วมาเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชได้ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ถ้าขณะที่ตายเข้าฌานตาย ก็จะไปเกิดเป็นพรหม
ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ
๑) ท่านท้าวเวสสุวัณ คุมด้านทิศเหนือ
๒) ท่านท้าววิรุฬหก คุมด้านทิศใต้
๓) ท่านท้าวธตรฐ คุมด้านทิศตะวันออก
๔) ท่านท้าววิรูปักข์ คุมด้านทิศตะวันตก
ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ
ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ และเป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปยักษ์ จะเห็นได้ตามวัด ตามถํ้าจะมีรูปปั้นยักษ์อยู่ทางด้านหน้าทางเข้า ก่อนที่ท่านจะมาเป็นท่านท้าวมหาราชเขตจาตุมหาราช ถอยหลังไป ๑ ชาติ ในตอนต้นเลยทีเดียวที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา มีแต่ศาสนาพราหมณ์ ท่านมีนามว่า "กุเวรพราหมณ์" เป็นชื่อเดิม ต่อมาท่านเป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์มหานครทรงพระนามว่า "พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์" ท่านเกิดรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารครองกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งต่อมาทรงออกผนวชบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรง พระนามว่า "สมเด็จพระสมณโคดม" ท่านมีพระสหายอีก ๒ องค์คือ พระเจ้าปเสนทิโกศลครองกรุงสาวัตถีกับท่านพันธุรเสนา รวมเป็น ๔ องค์ เป็นเพื่อนรักกันมาก ต่างคนต่างเป็นลูกกษัตริย์ สมัยนั้นไปเรียนหนังสือที่เมืองตักศิลาด้วยกัน
ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารทรงออกมหาภิเนษกรมณ์ พระเจ้าพิมพิสารทรงคิดว่ามีเรื่องราวกับใคร จึงนิมนต์ให้เข้าประทับในเมือง จะมอบอำนาจให้ครึ่งหนึ่งและสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ให้เป็นมหาอุปราช พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า "ไม่ได้หนีใคร ทรงเบื่อความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องการแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากความตาย และต้องการเอาธรรมนั้นมา สอนคนอื่น"
พระเจ้าพิมพิสารจึงบอกว่า "ถ้าพระองค์ทรงบรรลุเมื่อไร ขอมาโปรดท่านก่อน"
พระพุทธเจ้าก็ทรงรับ เมื่อองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ทรงสอนคนมาตามทาง จนกระทั่งถึงกรุงราชคฤห์มหานคร พบพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ก็ทรงเทศน์ พอเทศน์จบปรากฏว่า พระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบันพร้อมกับคนจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ได้อาราธนาพระพุทธเจ้าเข้าประทับในพระเวฬุวันมหาวิหาร
อานิสงส์ของการถวายทาน
ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้าพิมพิสารไปเฝ้าทุกวัน ได้ถวายทานทุกวัน ฟังเทศน์ทุกวัน จึงมีอานิสงส์ดังนี้คือ
การถวายทาน เป็นปัจจัยให้ได้ทิพยสมบัติ
การถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร เป็นเหตุให้ได้วิมานสวยงาม
กำลังความเป็นพระโสดาบันและทรงฌานสมาบัติด้วย เป็นเหตุให้มีกำลัง เมื่อไปเป็นเทวดาก็ทรงอำนาจมาก
เวลาที่ท่านจะตาย ท่านถูกลูกชายคือ พระเจ้าอชาตศัตรู ทรมาน คือพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกบฏทรยศต่อพ่อ แย่งราชสมบัติแล้วก็ทรมานพ่อ โดยจับขังคุก ต่อมาให้อดข้าว เมื่อท่านยังเดินจงกรมได้ ท่านอยู่ด้วยธรรมปีติ แม้จะอดข้าวก็ไม่ตายผิวพรรณยังผ่องใส ในที่สุดเขาก็เฉือนเท้าไม่ให้เดิน ท่านก็มีความเจ็บปวดมาก แต่จิตใจก็นึกถึงองค์สมเด็จพระจอมไตร ท่านก็มีจิตใจชุ่มชื่น ปวดน่ะปวด แต่ท่านก็ยอมรับนับถือกฎของธรรมดาว่า คนเราที่เกิดมาทุกคน แม้ฐานะจะต่างกัน แต่สภาพจริงๆ มันเหมือนกันคือ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้นเหมือนกันหมดทุกคน และก็เดินเข้าไปหาความแก่ มีทุกขเวทนา มีการทรมานจากร่างกาย และในที่สุดก็เป็นคนตาย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ จะเป็นเศรษฐี คหบดี หรือคนยากจนก็ตาม มีสภาพเหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างกัน
พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ท่านเป็นพระโสดาบันขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายท่านออกด้วยกำลังของฌาน ๔ จะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่พอจิตแยกออกจากกายแล้ว ท่านมีความรู้สึกด้วยอำนาจกำลังจิตที่เป็นทิพย์ว่า ก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระเจ้าพิมพิสารท่านเคยเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชมาก่อน ท่านก็เลยไม่ไปอยู่พรหม มาอยู่ชั้นจาตุมหาราชที่เดิม เมื่อท่านเป็นเทวดาแล้ว ท่านก็ฝึกฝนจนเป็นพระอนาคามี และท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว
ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้
ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักเข้าใจว่า ท่านท้าววิรุฬหกและบริวารของท่านเป็น กุมภัณฑ์
"กุมภะ" แปลว่า "หม้อ" ท่านจึงแสดงรูปร่างอ้วนใหญ่เหมือนกับพ้อมใส่ข้าว ผิวดำปี๋ พุงก็ปลิ้น คอก็สั้น หัวก็โต ฟันก็ขาว เขี้ยวก็โง้งออกจากปาก มีริมฝีปากนูนๆ ตาใหญ่มาก สว่างแวววาวเหมือนกับไฟฉาย มองส่ายไปส่ายมา ทำให้น่ากลัว แต่ความจริงท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมาบอกอาตมาว่า ในสมัยเป็นมนุษย์ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ อาชีพของท่านเป็นคนมีเงินเดือน เป็นหัวหน้าคนกลุ่มใหญ่มีคนใต้บังคับบัญชานับพันคน ท่านบอกท่านเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน เคยเข้าสมาคมกับขุนนางชั้นสูงและกับคนทุกชั้น เพราะท่านมีเมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ท่านถือว่าทุกคนฐานะไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่กำลังใจเท่านั้น นอกจากนั้นท่านมีความต้องการหนังเหนียวยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอาวุธ และสามารถแสดงฤทธิ์ ท่านมีอาจารย์เป็นพระและเป็นฆราวาสก็มี ถ้ามีความดีเป็นกรณีพิเศษ การทำให้หนังเหนียวต้องใช้คาถา ก่อนที่จะใช้คาถาทั้งหมด ท่านต้องมีความเคารพพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจ เคารพในพระธรรมคำสอน และเคารพในพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นต้องทำจิตให้มั่นคงโดยภาวนาให้จิตทรงตัว ก็คือ จิตเป็นสมาธินั่นเอง ถ้าจิตมีสมาธิสูง กำลังอานุภาพที่ต้องการก็จะมีอานุภาพมาก ถ้ากำลังสมาธิตํ่าของที่เรียนมาก็มีอานุภาพตํ่า การท่องคาถาอาคม การปลุกตัว การปลุกของ ต้องทำทุกวันเพื่อความมั่นคง จิตต้องเข้าถึงฌานสมาบัติ แต่เวลาที่ท่านตาย ท่านไม่ได้เข้าฌานตาย
เมื่อตายแล้วท่านไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ต่อมาก็ขึ้นเป็น เทวดาชั้นอินทกะ (คำว่า "อินทกะ" แปลว่า "ผู้เป็นใหญ่" คือเป็นรองท่านท้าวมหาราช อินทกะนี้มีได้ทิศละพันองค์ พร้อมที่จะเป็นท้าวมหาราชได้ตามความสามารถและวาสนาบารมี ในเมื่อท่านท้าวมหาราชไปจากชั้นนี้ คือจากชั้นจาตุมหาราชไปเกิดเป็นเทวดาชั้นสูงบ้าง หรือว่าไปเป็นพรหมบ้าง หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ตาม) จากอินทกะท่านก็เป็นท้าวมหาราช คือท่านท้าววิรุฬหกในปัจจุบันนี้
ท่านท้าวธตรฐ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันออก
วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เห็นท่านท้าวมหาราชมานั่งอยู่ องค์หนึ่งมาตัวสูงเท่ายอดตาล จึงหันไปถามว่า "ใคร" ท่านท้าววิรุฬหกตอบว่า "ท่านธตรฐครับ" พอท่านเข้ามาใกล้ก็เลยถามว่า "ทำไมสูงเหมือนเปรตแบบนี้ล่ะ" ท่านตอบว่า "อย่างนี้เขาเรียกสูงแบบเทวดา ไม่ใช่สูงแบบเปรต" ถามท่านท้าวธตรฐว่า "อดีตของท่านเคยเป็นอะไรมาตอนเป็นมนุษย์" ท่านตอบว่า "อดีตผมเป็นพระราชาเมืองพาราณสีครับ" ก็เลยถามท่านว่า "เวลานั้นไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นเทวดาได้อย่างไร"
ท่านตอบว่า "เทวดาหรือพรหมไม่จำเป็นต้องนับถือพระพุทธศาสนาเสมอไป พราหมณ์ก็เป็นเทวดาเป็นพรหมได้" เวลานี้ท่านเป็นพระอนาคามี เป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง ท่านไม่กลับลงมาเกิดอีกแล้ว
ท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันตก
ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ วันเดียวกันนั้นอาตมาได้หันไปถาม ท่านวิรูปักษ์ ว่า "อดีตท่านเป็นอะไร" ท่านตอบว่า "อดีตผมอยู่ปักษ์ใต้ ประเทศไทยนี่เอง เป็นผู้ชายไทย ฐานะสูงมากสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ฌานสมาบัติแต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ตายแล้วไปเป็นอินทกะเลย เมื่อท่านวิรูปักษ์องค์เก่าขึ้นไปเป็นพรหม ท่านก็ขึ้นเป็นแทน ท่านเก่งมาก
เป็นอันว่าก็ได้ทราบประวัติของท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ แล้วว่าใครเป็นใคร ทำให้ทราบว่าการเป็นเทวดาก็ไม่หนักสำหรับพวกเรา การเป็นพรหมก็ไม่หนัก การไปพระนิพพานก็ไม่หนัก การไปนรกก็ไม่หนัก ชอบทางไหนก็ไปได้ทั้งนั้น.."

 

ยังร่วมบุญกันได้ครับ

 

ข้าพเจ้าในนามตัวแทนคณะญาติธรรมทุกท่านขอถวายลอยองค์ท่านปู่ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ไว้บนพานบูชาหน้าองค์ท่านฝากกระแสความดีร่วมกันท่านใดมากราบไหว้ขอพรขอให้ได้รับบุญเท่าๆ กันทุกท่าน สมปรารถนาทุกประการ

 

ได้รับเรียบร้อย พร้อมของแถม ขอบคุณค่ะ

 

ขอบูชาเนื้อโลหะชุบทอง 2 องค์ครับ

 

โอนเรียบร้อยแล้วครับ 1,260 บ.

ที่อยู่จัดส่ง
สุจิรา กาญจนภิญโญยิ่ง
239/187 หมู่ 5
หมู่บ้านฟลอร่าวิลล์
ถ.ศรีนครินทร์ ต.บางเมือง
อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 10270

 

สาธุครับ ผมจัดส่งท่านให้วันนี้ครับ

 

สุจิรา กาญจนภิญโญยิ่ง เลขส่ง EQ486061711TH ส่งเรียบร้อยสาธุครับ

 

ยังร่วมบุญกันได้ครับ

 

ขอบูชาเนื้อชุบเงิน 1 องค์ โอนแล้ว 760.00 บาท เวลา 13.17 น.
ทวีสุข อุยสุย 49/20 ถ.บางศรีเมือง ซ.33 (บุญส่ง)
ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000

 

พวกเราชาวคณะญาติธรรมทุกท่าน ขอร่วมถวายปัจจัยครั้งที่ 3 วันที่อาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559 ยอด 300,000 บาท ท่านใดสะดวกเดินทางมาร่วมถวายกันได้นะครับพบกันประมาณช่วงเที่ยง ๆ ปัจจัยทั้งหมดถวายพระเดชพระคุณหลวงตาชลอ สร้างพระนอน พระพุทธไสยาสน์ขนาดความยาว 32 เมตร หน้าศาลาฯ ริมน้ำเพื่อฝากกระแสความดีบันทึกบุญสร้างพระนอนร่วมกันอานิสงห์เป็นมหาวิหารทานที่ยิ่งใหญ่ครับ หลังจากนี้สาธุชนมากราบไหว้และอนุโมทนาบุญที่พวกเราได้สร้างกันไว้จะได้รับกันถ้วนหน้าครับ ระยะยาว ๆ มหาบุญบารมีนี้พวกเราชาวคณะ ขอมอบถวายให้กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ท่านปู่-ท่านย่า และท่านท้าวมหาราชทั้งสี่เป็นมุทิตาจิตที่ยิ่งใหญ่ครับ (Mission ทำให้ลูก ๆ หลาน ๆ คุณญาติธรรมทุกท่าน)

 

ยังร่วมบุญกันได้ครับ

 

แจ้งเลขส่งคุณทวีสุข EQ532003378TH ขออนุโมทนาสาธุฝากกระแสความดีร่วมกันครับ

 

ยังร่วมบุญกันได้ครับ

พวกเราชาวคณะญาติธรรมทุกท่าน ขอร่วมถวายปัจจัยครั้งที่ 3 วันที่อาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2559

 

***หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม เรื่องการบวงสรวงตามแบบฉบับหลวงพ่อเอาไปบวงสรวงที่บ้านต้องอธิษฐานอย่างไร 》》
ผู้ถาม :- “ บทบวงสรวงและชุมนุมเทวดาของหลวงพ่อ เอาไปใช้ที่บ้านตามแบบฉบับของซอยสายลม แต่ปรากฎว่าผู้ใหญ่หลายคนทักท้วงว่าไม่เหมาะสม เพราะว่าเป็นของที่พระท่านใช้ และใช้ในพิธีสำคัญๆ เท่านั้น อยากจะเรียนถามหลวงพ่อควรจะทำอย่างไร…เพราะชอบใจมาก? ”
หลวงพ่อ :- “ ไม่เป็นไร เพราะเราถือว่าเราเคารพท่าน ทุกคนน่ะใช้ได้ ท่านอนุญาตนะ เพราะป้องกันอันตรายได้ เวลาชุมนุมเทวดาก็บอกเลยว่า ถ้าอันตรายจะพึงมี ให้กำจัดไปเลย ”
ผู้ถาม :- “ เวลาเชิญท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ ที่ขึ้นต้นด้วย ปุริมัญจะ ทิสัง ราชา นั้น จะว่าภาษาบาลีก่อน หรือจะนึกถึงท่านท้าวมหาราชก่อน แล้วจึงว่าภาษาบาลีเจ้าคะ…?”
หลวงพ่อ :- “ ความจริงนะ ไม่ต้องว่าภาษาบาลีก็ได้ นึกถึงท่านเลย อันนี้ฉันว่านะ ฉันว่าตามที่ท่านสั่ง ถ้าหากว่าจะเอาทั้งสองอย่างก็นึกถึงท่านก่อน หรือนึกไปพร้อมๆ กับว่าภาษาบาลีก็ได้ แต่ความจริงถ้าใจเรานึกถึงท่าน เราว่าไปก็นึกก่อนแล้วว่าไปก็ได้ใช่ไหม…แล้วการเชิญมาก็แสดงว่า เวลาเชิญท่านมาจริงๆ แล้วก็ให้บอกท่านด้วยว่า
“ ถ้าผีหรือเทวดาที่ไม่เลื่อมใสในพระศาสนา จะมาแกล้ง ขอให้กำจัดไปก่อน ” จะใช้ได้เลย
ถ้าเชิญเขาเชิญแบบนี้นะต้องการแบบนี้ ที่เชิญน่ะ เพราะเป็นหน้าที่ของท่านโดยตรง ถ้าไม่บอกท่าน ท่านก็ยืนดูเฉยๆ เหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะให้มาทำไม…พอเรียกมาก็มายืนเฉย มันไม่บอกอะไรเลย…นี่ฉันโดนมาแล้วนะ ”
ผู้ถาม :- “ โดนที่ไหนครับ…? ”
หลวงพ่อ :- “ คือไปนอนใต้ต้นโพธิ์แห่งหนึ่งที่ จ.ชัยนาท ที่อยู่หลังเมืองออกไปนะ กลางคืนประมาณสัก ๔ ทุ่ม เห็นผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งผ้าโจงกระเบนและผ้าคาดอกตะแบงมาน แกเดินเข้ามา เทวดาของท่านท้าวมหาราช ท่านนั่งอยู่ ๔ องค์ ทั้ง ๔ ด้าน ท่านก็รัดคอดึงเอาไป ก็บอกว่าปล่อยไปเถอะ
ทีนี้พอตี ๒ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา หน้าอกนี่มันเจ็บทั้ง ๒ จุดนี่นะ เจ็บถึงข้างหลังเลย ยายนั่น แกเอามือมาจี้ ๒ นิ้ว จี้เราก็ดิ้นขยับไปขยับมา มันก็ไม่หลุด ก็เลยบอก “นี่ พี่ชาย จับลากมันออกไป ตีมันออกไป ”
ท่านก็จับร่างกระชากไปและตีไป ถามว่า “ มันจะเข้ามาทำร้ายฉัน ทำไมถึงไม่ไล่ไปก่อน ”
ท่านเลยบอกว่า “ ผมไล่แล้ว ท่านบอกให้ปล่อยไง ”
คือเราต้องเข้าใจว่า เทวดาท่านทำตามคำสั่งจริงๆ นะ ตามปกติท้าวมหาราชสั่งมาให้ป้องกันใช่ไหม…ท่านก็กันแล้วนี่ เป็นเรื่องของเราที่ปล่อย เพราะสั่งให้ปล่อยท่านก็ต้องปล่อย เป็นเรื่องของเราอีกตอนหนึ่ง
ทีนี้เวลาเชิญท่านก็ต้องบอกท่านด้วย ไม่ใช่ให้ท่านมายืนดูเฉย มายืนป๋อ…มันบ้าหรือ…ให้ทำอะไรก็ไม่บอก ดีไม่ดี…เมื่อย…ท่านก็กลับไป”
ผู้ถาม :- “ อ้อ…อย่างนี้หลวงพ่อแนะนำให้นึกเป็นภาษาไทยๆ เลย ใช่ไหมครับ…? ”
หลวงพ่อ :- “ ใช่ เป็นภาษาไทยๆ ดีกว่านะ คือ
**ท้าวมหาราชทิศตะวันออก ท้าวธตรฐ พร้อมด้วยคนธรรม์นะ บริวารของท่านเป็น คนธรรพ์
**ทิศใต้ ท้าววิรุฬหก บริวารของท่านเป็น กุมภัณฑ์
**ทิศตะวันตก ท้าววิรูปักษ์ บริวารของท่านเรียก นาคา หรือเรียกว่า นาค ความจริงเป็นเทวดานะ
**ทิศเหนือ ท้าวเวสสุวัณ บริวารของท่านเรียกว่า ยักษ์
ทั้งหมดนี้ ทั้งท้าวมหาราชและบริวารทั้งหมด ขอให้ท่านคุ้มครองป้องกันอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ตามบ้านนะ จะให้ดีอีกอย่างหนึ่ง คือว่าถ้าหากว่าบอกท่านไว้ว่า
“ ถ้าอันตรายจะพึงเกิดขึ้นจากกลุ่มขโมยขโจรก็ตามนะ ถ้านอนหลับขอให้ปลุกก่อนสัก ๑ ชั่วโมง ให้รู้ตัวก่อน แล้วช่วยกำจัดออกไป ให้รู้ทิศทางของบุคคลที่จะมา อันนี้จะเป็นตามนั้น ”
แล้วท่านยังเคยสั่งไว้ว่า ถ้าบังเอิญง่วงแล้ว ถ้าอันตรายอย่างนี้จะมี ใช่ไหม…แต่ง่วงนอนกลับไม่ง่วง ตาใสแจ๋ว ไม่รู้สึก อันนี้อย่าบ่นนะ นั่นจะมีแน่ คือจะมีก่อนที่เราจะหลับ ถ้าหลับไปแล้วประเดี๋ยวเดียวจะมี ท่านเลยทำไม่ให้หลับเลย อย่างนี้ฉันประสบมาแล้วนะ แล้วก็บางทีท่านมาบอกด้วยว่า ไอ้โจรขโมยจะเข้าทางไหน…ทางนี้นะ ที่เคยใช้ระเบิดมือขว้างที่วัดบางนมโคน่ะ ”
ผู้ถาม :- “เอ๊ะ! พระใช้ระเบิดได้หรือครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ ใช้ระเบิดมือพระ…คือก้อนอิฐหักครึ่ง! ”
ผู้ถาม :- “อ๋อ…นึกว่าหลวงพ่อใช้ระเบิดจริงๆ”
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
***********************
ร่วมบูชาท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ และท่านปู่-ท่านย่าได้
ร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน และพระนอน วัดศาลพันท้ายนรสิงห์
https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan

 

คาถาท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔
"อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหังรักษา"
ท่านบอกว่าท่องคาถาบทนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น

 

ได้รับพร้อมของแถมเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

****ร่วมถวายปัจจัยครั้งที่ 4 เดือนพฤศจิกาย *****
ร่วมบุญสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) และพระนอนพระพุทธไสยาสน์ ๓๒ เมตร วัดศาลฯ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์

 

วันนี้ ๗ สค ๕๙ (ถวายครั้งที่ ๓ ของปีนี้) พวกเราชาวคณะญาติธรรม ที่ได้ร่วมบุญบูชาเหรียญเศรษฐี ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ และท่านปู่ท่านย่า ได้ร่วม ถวายปัจจัย 300,000 บาท ถวายหลวงตาชลอ สร้างพระนอน 32 เมตร หน้าศาลา ๑๐๐ ปีพระราชพรหม วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ โมทนาบุญ ฝากกระแสความดีร่วมกันครับ

 

****ร่วมถวายปัจจัยครั้งที่ 4 เดือนพฤศจิกาย *****
ร่วมบุญสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) และพระนอนพระพุทธไสยาสน์ ๓๒ เมตร วัดศาลฯ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์