อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. พระบรมศาสดา และเหล่าผู้พระสาวก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 11 ตุลาคม 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    ฌาน-สมาธิ โดย พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง


    นิวรณ์ห้า คือ
    กามฉันทะ ความรักใคร่พอใจในกามคุณห้า มี รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ ธรรมารมณ์ เมื่อจิตสงบแล้วไม่ต้องเกี่ยวข้องกันกับสิ่งเหล่านี้ ๑
    พยาบาท จิตคิดปองร้ายอยากให้ได้ตามความปรารถนาของตน ไม่ว่ากามนั้นจะอยู่ ในสภาพเช่นไร และอาการอย่างไร โดยอีกฝ่ายหนึ่งไม่ทราบเลย เปรียบเหมือนคนคิดจะทำลายคนอื่น โดยเขาไม่ทันรู้ตัวเลย ฉะนั้น ๑
    ถีนะมิทธะ จิตเมื่อคิดฉะนั้นแล้วก็หมกมุ่นอยู่แต่ในอารมณ์นั้น และไม่กล้าบอกแก่ ใคร จนกระทั่งซึมเซ่อและมึนงงไปหมด ๑
    อุทธัจจะกุกกุจจะ จิตที่ฟุ้งซ่านส่งไปในอารมณ์ของกามนั้น ไม่มีที่สิ้นสุดลงได้ ๑
    วิจิกิจฉา จิตที่ลังเล ไม่แน่ใจว่ากามนั้นจะสำเร็จลงได้เมื่อใดหนอ ๑

    ทั้ง ๕ นี้ เมื่อจิตสงบเข้าถึงฌานแล้วก็จะไม่ปรากฏ เมื่อออกจากฌานก็จะปรากฏอีกตามเดิม



    จิตของฌานมี ๓ ภูมิ หยาบและละเอียดโดยลำดับกัน คือ
    ๑. ภวังคุบาท
    ๒. ภวังคจารณะ
    ๓. ภวังคุปัจเฉทะ

    ภวังคุบาท จิตจะรวมเป็นครั้งคราว รวมแล้วถอนออกมาจะตั้งหลักไม่ได้ หรือไม่รู้ว่าจิตของ เรารวม มีได้ทั่วไปแก่คนทั้งหลาย เช่น เมื่อเห็นคนหรือสัตว์ตกทุกข์ได้ยาก เป็นต้นว่า ถูกเขาฆ่าหรือ ทรมานด้วยประการต่าง ๆ จิตจะสลดสังเวชแล้วรวมลงขณะหนึ่ง ถ้าไม่รวมก็จะไม่ สลดสังเวช เรียกว่า ภวังคุบาท

    ภวังคจารณะ เมื่อผู้ฝึกหัดจิตแล้วจึงจะเกิด เมื่อเกิดมีอาการให้พิจารณาอารมณ์ภายใน หรือที่ เรียกว่า ส่งใน เช่น เห็นสีแสงต่าง ๆ นานา แล้วจิตจะจดจ้องมองแต่สิ่งนั้น หรืออารมณ์อื่น ๆ ก็ เหมือนกัน เป็นต้นว่า รูปพระปฏิมากร หรือพระสงฆ์สาวกทั้งหลาย ตลอดถึง เทวดา อินทร์ พรหม เป็นต้น แม้จะพิจารณาในธรรมนั้น ๆ ก็เรียกว่า ภวังคจารณะ ทั้งสิ้น

    ภวังคุปัจเฉทะ นั้นตัดขาดเสียซึ่งอารมณ์ทั้งปวงไม่มีเหลือแม้แต่ ผู้รู้ (คือใจเดิม) ก็ไม่ปรากฏ บางท่านที่สติอ่อนย่อมนอนหลับไปเลยก็มี


    ภวังคุบาท ได้แก่ผู้ได้ ปฐมฌาน
    ภวังคจารณะ ได้แก่ผู้ได้ ทุติยฌาน และ ตติยฌาน
    ภวังคุปัจเฉทะ ได้แก่ผู้ได้ จตุตฺถฌาน






    -------------------------------------------------------------------
    ฌาน และ สมาธิ เป็นอันเดียวกันและต่างกัน

    ฌาน ได้แก่การเพ่งในอารมณ์นั้น ๆ ให้เป็นไป ตามปรารถนาของตน เมื่อสังขารปรุงแต่งอยู่นั้น จิตก็จะรวมลงในอารมณ์ที่ปรุงแต่งนั้น แล้วก็เป็นไป ตามปรารถนาของตน ดังอธิบายมาแล้ว เรียกว่า ฌาน

    สมาธิ ได้แก่การพิจารณาให้เห็นเหตุผลของมันตามความเป็นจริงจนจิตหยุดนิ่งอยู่ไม่คิด ไม่นึกต่อไป ยังเหลือแต่ ผู้รู้ เรียกว่า สมาธิ

    ฌาน และ สมาธิ นี้จิตรวมเหมือนกัน

    ถ้าจิตไม่รวมก็ไม่เรียกว่า สมาธิ และ ฌาน


    มีแปลก ต่างกันที่ ...
    ฌาน นั้น เมื่อจิตรวมเข้าแล้วจะลืมสติ เพ่งพิจารณาแต่อารมณ์อันเดียว หรือมีสติอยู่ แต่ไป เพลินหลงอยู่กับภาพนิมิตและความสุขอันนั้นเสีย ไม่พิจารณาพระไตรลักษณญาณต่อไป หรือที่เรียก ว่าความเห็นไปหน้าเดียว นี่เรียกว่า ฌาน

    ส่วน สมาธิ นั้น เมื่อจิตรวมหรือไม่รวมก็มีสติรักษาจิตอยู่ ตลอดเวลา รู้ตัวอยู่ว่าเราอยู่ในสภาพเช่นไร พิจารณาอะไร หยาบหรือละเอียดแค่ไหน เรียกว่า สมาธิ


    บางทีเมื่อจิตถอนออกมาจากฌานแล้ว มาพิจารณาองค์ฌานนั้น หรือพิจารณาอารมณ์อันใด ก็ตาม จนจิตแน่วแน่อยู่เฉพาะอารมณ์อันนั้น หรือเพ่งอารมณ์ของฌานอยู่ แต่กลับไปพิจารณา พระไตรลักษณญาณ เสีย จิตไม่รวมลงเป็น ภวังค์ เรียกว่า ฌานกลับมาเป็นสมาธิ

    เมื่อพิจารณาอารมณ์ของสมาธิอยู่ หรือออกจากสมาธิแล้วก็ตาม จิตไปยินดีน้อมเข้าไปสู่ ความสงบสุข เลยไม่พิจารณาอารมณ์ของสมาธินั้น จิตรวมเข้าไปเป็น ภวังค์ เรียกว่า สมาธิกลับมา เป็นฌาน

    ฌานและสมาธินี้กลับเปลี่ยนกันไปกันมาอยู่อย่างนี้ เป็นธรรมดาของผู้ปฏิบัติ ไม่เป็นการเสีย หายอะไร ขอแต่ให้รู้เรื่องของมันว่า อันนี้เป็น ฌาน อันนี้เป็น สมาธิ อย่าไปติดในอารมณ์นั้น ๆ ก็แล้วกัน ทำให้ชำนิชำนาญคล่องแคล่ว แล้วจะอยู่ในอารมณ์อันใดก็ได้



    พระบรมศาสดาเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ หรือพระสาวกทั้งหลายเมื่อยังมีชีวิตอยู่ ก็ต้องเพ่งพิจารณา ฌาน นี้เป็น วิหารธรรม เครื่องอยู่ของท่าน



    ธรรมดาจิตจำเป็นจะต้องมีความคิดความนึกอยู่เสมอ ท่านเห็นโทษในอารมณ์นั้น ๆ ว่าเป็นไปเพื่อ วัฏฏะ เพราะฉะนั้นท่านจึงน้อมเอาจิตมาพิจารณาให้เป็น ฌาน เสีย เพื่อเป็นเครื่องอยู่ใน ทิฏฐธรรม ของท่าน


    ฌาน และ สมาธิ นี้ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน พระองค์จึงตรัสว่า ผู้ไม่มีฌานก็ไม่มีสมาธิ ผู้ไม่มี สมาธิก็ไม่มีฌาน ดังนี้ เอวํ ฯ.


    แสดง ณ วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    วันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๒

    ----------------------------------------------------------------
    สิกขา ฉบับเต็ม ที่ http://www.dharma-gateway.com/monk/preach/lp_thes/lp-thes_18.htm
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    สัมมาสมาธิ จำแนกออกเป็นสมาธิ ๔ ข้อ ตามสติปัฏฐาน ๔
    ...............................
    บัดนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีพุทธประสงค์จะให้สัตว์ทั้งหลายบรรลุคุณวิเศษมากประการ ด้วยพระธรรมเทศนาว่าด้วย
    สติปัฏฐาน จึงทรงจำแนกสัมมาสมาธิข้อเดียวนั่นแหละ ออกเป็น ๔ ข้อ ตามอารมณ์ โดยนัยมีอาทิว่า สติปัฏฐานมี ๔ อย่าง ๔ อย่างคืออะไร ? คือ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นกายในกาย ดังนี้แล้ว ต่อไป เมื่อจะทรงเอาสติปัฏฐานแต่ละข้อมาจำแนกออกไป (อีก) จึงได้ทรงปรารภเพื่อตรัสนิเทศวารไว้โดยนัยมีอาทิว่า กถญฺจ ภิกฺขเว (ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เป็นไฉน ?) อุปมาเหมือนกับช่างจักสาน ผู้ฉลาด ประสงค์จะทำเครื่องใช้สอยมีเสื่อลำแพนหยาบ เสื่อลำแพนละเอียด ผอบ หีบ และลุ้ง เป็นต้น ได้ไม้ไผ่ใหญ่มา ๑ ลำ ผ่าออกเป็น ๔ ซีก
    เอาแต่ละซีกมาจัก (ให้เป็นดอก) แล้วสานเครื่องใช้สอยฉะนั้น.



    อรรถกถาสติปัฏฐานสูตร ม.มู.อ.(ไทย) ๑๗/๖๗๕-๖๗๖ มหามกุฏ ฯ
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนา ๔ ประการนี้ สมาธิภาวนา ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ


    ๑. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน
    ๒. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อได้ญาณทัสสนะ
    ๓. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ
    ๔. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะ


    สมาธิภาวนาสูตร องฺ.จตุกฺก.(ไทย) ๒๑/๔๑/๖๘ มหาจุฬา ฯ
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    ฌานสูตร ว่าด้วยฌาน


    [๓๖] ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่า
    ๑. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยปฐมฌาน
    ๒. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยทุติยฌาน
    ๓. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยตติยฌาน
    ๔. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยจตุตถฌาน
    ๕. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยอากาสานัญจายตนฌาน
    ๖. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยวิญญาณัญจายตนฌาน
    ๗. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยอากิญจัญญายตนฌาน
    ๘.อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน
    ๙. อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยสัญญาเวทยิตนิโรธ

    เรากล่าวไว้เช่นนี้แลว่า ‘อาสวะทั้งหลายสิ้นไปได้ เพราะอาศัยปฐมฌาน’เพราะอาศัยเหตุอะไร เราจึงกล่าวไว้เช่นนั้น
    เพราะอาศัยเหตุนี้ว่า
    ภิกษุในธรรมวินัยนี้สงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งหลายบรรลุปฐมฌาน ฯลฯ เธอย่อมพิจารณาเห็นธรรมทั้งหลาย คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณที่มีอยู่ในปฐมฌานนั้น โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นดังโรคเป็นดังหัวฝี เป็นดังลูกศร เป็นสิ่งคอยก่อความเดือดร้อน เป็นที่ทำให้ขัดข้อง เป็นดังคนฝ่ายอื่น เป็นสิ่งที่ต้องแตกสลาย เป็นของว่างเปล่า เป็นอนัตตา เธอย่อมทำจิตให้กลับจากธรรมเหล่านั้น

    ครั้นแล้ว จึงน้อมจิตไปเพื่ออมตธาตุว่า
    ‘ภาวะที่สงบ ประณีต คือ ความระงับสังขารทั้งปวง ความสละคืนอุปธิกิเลสทั้งปวง ความสิ้นไปแห่งตัณหา ความคลายกำหนัด ความดับ นิพพาน‘


    เธอดำรงอยู่ในปฐมฌานนั้น ย่อมบรรลุความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย หากยังไม่บรรลุความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ก็จะเป็นโอปปาติกะ เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ ประการสิ้นไป ด้วยความยินดีเพลิดเพลินในธรรมนั้น จักปรินิพพานในภพนั้น ไม่หวนกลับมาจากโลกนั้นอีก...


    องฺ.นวก.(ไทย) ๒๓/๓๖/๕๐๘-๕๐๙ มหาจุฬา ฯ
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    หิริและโอตตัปปะเกิดไม่ได้ในผู้ไม่มีสติสัมปชัญญะ
    ***************************************
    เมื่อสติสัมปชัญญะไม่มี หิริและโอตตัปปะจึงไม่มี
    เมื่อหิริและโอตตัปปะไม่มี อินทรียสังวรจึงไม่มี
    เมื่ออินทรียสังวรไม่มี ศีลจึงไม่มี
    เมื่อศีลไม่มี สัมมาสมาธิจึงไม่มี
    เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี ยถาภูตญาณทัสสนะจึงไม่มี
    เมื่อยถาภูตญาณทัสสนะไม่มี นิพพิทาและวิราคะจึงไม่มี
    เมื่อนิพพิทาและวิราคะไม่มี วิมุตติญาณทัสสนะจึงไม่มี
    **************************************
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เมื่อสติสัมปชัญญะไม่มี หิริและโอตตัปปะของบุคคลผู้มีสติสัมปชัญญะวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว เมื่อหิริและโอตตัปปะไม่มี อินทรียสังวรของบุคคลผู้มีหิริและโอตตัปปะวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว เมื่ออินทรียสังวรไม่มี ศีลของบุคคลผู้มีอินทรียสังวรวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว เมื่อศีลไม่มี สัมมาสมาธิของบุคคลผู้มีศีลวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว เมื่อสัมมาสมาธิไม่มี ยถาภูตญาณทัสสนะของบุคคลผู้มีสัมมาสมาธิวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว เมื่อยถาภูตญาณทัสสนะไม่มี นิพพิทาและวิราคะของบุคคลผู้มียถาภูตญาณทัสสนะวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว เมื่อนิพพิทาและวิราคะไม่มี วิมุตติญาณทัสสนะของบุคคลผู้มีนิพพิทาและวิราคะวิบัติ ชื่อว่ามีเหตุถูกขจัดแล้ว
    สติสัมปชัญญสูตร
    องฺ.อฏฺฐก. (ไทย) ๒๓/๘๑/๔๐๕ มหาจุฬา ฯ
     
  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16265810_1392540014099109_5615620119705920794_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16298643_1659471681013823_3319037826940052378_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16114968_742075315942134_5774671944097666066_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16195395_133697727138435_2039879616979288685_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    "คนเราอุเบกขาได้
    ตราบใดที่ยังไม่เจอ
    ของถูกใจ มันก็เฉยได้"




    15940790_1220927977942468_4089876498263147864_n.jpg


    เครดิต


    https://www.facebook.com/MotanaboonCom/
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    [​IMG]

    วิมุตตายตนสูตร ว่าด้วยเหตุแห่งวิมุตติ
    หมายถึงเหตุให้ภิกษุรู้แจ้งอรรถ รู้แจ้งธรรมแล้วได้ปราโมทย์ ปีติ ปัสสัทธิ สุข สมาธิ ได้แก่บุคคล ๕ จำพวก คือ
    (๑) พระศาสดาหรือเพื่อนพรหมจารีผู้ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครูแสดงธรรม เป็นเหตุ อย่างหนึ่ง
    (๒) ภิกษุแสดงธรรมโดยพิสดารตามที่ได้เล่าเรียนมาแก่ชนเหล่าอื่น เป็นเหตุอย่างหนึ่ง
    (๓) ภิกษุสาธยายธรรมโดยพิสดารตามที่ได้เล่าเรียนมา เป็นเหตุอย่างหนึ่ง
    (๔) ภิกษุตรึกตรองใคร่ครวญธรรมตามที่ได้เล่าเรียนมา เป็นเหตุอย่างหนึ่ง
    (๕) ตนเองเล่าเรียนสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่งมาดี ใส่ใจดี ทรงไว้ดี รู้แจ้งดีด้วย ปัญญา เป็นเหตุอย่างหนึ่ง
    ***************************



    เหตุแห่งวิมุตติประการที่ ๕ นั้น มีข้อความว่า

    ๕. ศาสดาหรือเพื่อนพรหมจารีผู้ตั้งอยู่ในฐานะครูบางรูปไม่ได้แสดงธรรมแก่ภิกษุ แม้ภิกษุก็ไม่ได้แสดงธรรมตามที่ตนได้สดับมาตามที่ตนได้เรียนมาแก่ผู้อื่นโดยพิสดาร ไม่ได้สาธยายธรรมตามที่ตนได้สดับมาตามที่ตนได้เรียนมาโดยพิสดาร และไม่ได้ตรึกตามตรองตามเพ่งตามด้วยใจซึ่งธรรมตามที่ตนได้สดับมาตามที่ตนได้เรียนมา แต่เธอเรียนสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่งมาดี มนสิการดี ทรงจำไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา เธอรู้แจ้งอรรถรู้แจ้งธรรมในธรรมนั้นตามที่เธอได้เรียนสมาธินิมิตอย่างใดอย่างหนึ่งมาดี มนสิการดี ทรงจำไว้ดี แทงตลอดดีด้วยปัญญา เมื่อเธอรู้แจ้งอรรถรู้แจ้งธรรม ย่อมเกิดปราโมทย์ เมื่อมีปราโมทย์ ย่อมเกิดปีติ เมื่อใจเกิดปีติ กายย่อมสงบ เธอมีกายสงบ ย่อมได้รับสุข เมื่อมีสุข จิตย่อมตั้งมั่น นี้เป็นเหตุแห่งวิมุตติประการที่ ๕ ซึ่งเป็นเหตุให้จิตของภิกษุผู้ไม่ประมาท ฯลฯ หรือเธอย่อมบรรลุธรรมอันเป็นแดนเกษมจากโยคะอันยอดเยี่ยมที่ยังไม่ได้บรรลุ


    อง.ปญฺจก. (ไทย) ๒๒/๒๖/๓๔-๓๕ มหาจุฬา ฯ
    *****************

    อรรถกถาวิมุตติสูตร อธิบาย สมาธินิมิต ว่า
    บทว่า สมาธินิมิตฺตํ ได้แก่ สมาธิในอารมณ์ ๓๘ อย่างใด
    อย่างหนึ่ง ชื่อว่า สมาธินิมิต.
    อง.ปญฺจก.อ. (ไทย) ๓๖/๔๓ มหามกุฏ ฯ
    *****************
    ในหนังสือวิมุตติมรรค รจนาโดย พระอุปติสสเถระ
    ได้อธิบายไว้ในบทที่ ๗ กัมมัฏฐานารัมมณปริจเฉท ว่า
    กัมมัฏฐาน ๓๘ ประการ คือ กสิน ๑๐, อสุภสัญญา ๑๐, อนุสสติ ๑๐, อัปปมัญญา ๔, จตุธาตุววัฏฐาน ๑, อาหาเรปฏิกูลสัญญา ๑, อากิญจัญญายตนะ ๑, เนวสัญญานาสัญญายตนะ ๑
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16142457_1659982044296120_3198810416932741594_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16143036_1100977203358767_1256545097201460654_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16265813_1768037303523584_3700414837517941971_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2017
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
    16115039_1386763261343451_4004750522876157726_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,595
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,113
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ชีวิตมีค่าทุกวัน

    ทำน้อยได้น้อย ทำมากก็ได้มาก

    สตินี่ทำได้ทุกระยะ

    รู้นี่ สติพร้อม ไม่มีทุกข์ เป็นบุญพร้อม เป็นปัญญาพร้อม จิตผ่องใส จิตก้าวหน้าพร้อม

    จะไปมีปัญหาในชีวิตได้อย่างไร

    ไม่ต้องถามว่าจะอยู่ไปทำไมทุกวันๆ

    ก็มันแจ่มแจ้งแล้วนี่

    จิตอยู่ในพุทธธรรม อยู่ในแสงสว่าง

    จิตมุ่งสู่นิพพาน

    ธรรมอะไรมันไม่สูงไปกว่านี้หรอก...

    •หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต•

    ศิษย์ในองค์หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...