ขอถามผู้รู้หน่อยครับเรื่องกุมารทอง

ผมบะค่อยเก่งภาษา บางคำอาจผิด การเล่าอาจ งง หน่อย ขอผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ

เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อก่อน ผมอยากได้กุมารทอง แค่หาที่ไหนไม่ได้ ผมเคยเห็นบางวัดเขามีให้บูชา เเต่ผมไป คือหมดครับ ผมเลยไปถามสำนัก(คนดูดวงต่างหมู่บ้านหูมู่บ้านติดกัน เชื่อเรื่ององทรงเจ้า)
เขาบอกว่าจะปุกเสกให้ ให้ไปซื้อหุ่นตามร้านมา เเละผมเเค่ใส่ปัจจัย เเละนำมาเลี้ยงที่บ้าน
ผมก็เลี้ยงมาเกือบปีละครับ พอผมเห็น พอถามไปเอาที่ไหนมา เลยโกหกไปว่าบูชามาจากวัด

พ่อผมเเนะนำให้เอาไปปล่อย อย่าเอามากักขังไว้ มันจะเป็นบาปกรรมต่อกัน (เหมือนล้ามโซ้เอาไว้เอาหาหารหื้อกิน) เพราะเราต้องเวียนว้ายตายเกิดอยู่แล้วอย่าไปยึดติดกับความผูกพันนั้น มีพระพุธศสนาอย่เเล้ว เอาไปป่อยซะ

ผมถามละต้องทำไง พ่อกะบอกว่าบะฮู้เหมือนกัน ลองไปถามตี้วัดหั้นดู

ละตี้สำนักนั้นผมกะบะค่อยได้ไปนับตั้งแต่นั้นมา


ผมอยากจะถามว่า พอจะมีวิธีใดพ่องที่จะปล่อย มัน หรือต้องกลับไปถามตี้สำนัก
ผมกะอยากปล่อยหื้อไวที่สุด ถ่าพ่อบะมาในห้อมผมก็คงไม่รู้เรื่องพวกนี้ เพราตอนหั้น แค่อยากรู้ว่ามันเป็นอ่างใด อยากดูมันกะโดดโรดเต้น อยากเห็นบะดาย พอจะมีวิธีใดพ่องครับ ที่จะปล่อยมันขอผู้รู้แนะนำโตยครับ

 

สาธุค่ะ ที่จะเขาไปสู่อิสระภาพ มีหลายท่านเคยตั่งกระทู้ถาม จำได้คร่าวๆ ว่านำไปวัด ทำสังฆทาน ให้พระช่วยสวดปลดปล่อยยังไงเนี่ยแหละค่ะ เดี๋ยวรอท่านอื่นมาแนะนำนะคะ จะมีข้อมูลความรู้มากกว่า ^_^

 

เห็นด้วยกับคุณวงกรตฯ เมื่อได้มาแล้วไม่สะดวกที่จะเลี้ยงเราก็ไม่ควรทิ้งขว้างวางไว้ตามโคนไม้หรือทางสามแพ่ง ซึ่งมันเป็นภาพที่ไม่เจริญหูเจริญตาเอาเสียเลย แนะนำให้ติดต่อกับทางวัดที่มีศาลเจ้าที่อยู่ภายในแล้วทำบุญอุทิศให้ เขาจะได้บุญและได้รับอาหารจากบรรดาผู้มาวัดอย่างต่อเนื่อง และบางทีอาจมีคนต้องการรับไปเลี้ยงดูต่อก็เป็นได้...

เขาจะถูกปลดปล่อยได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับกรรมวิบากของเขาเองด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าภายในบุญเขตแห่งนั้นมีการประพฤติปฎิบัติธรรมที่นำพาให้หลุดพ้นตรงทางจริงๆแล้วย่อมเป็นไปได้สูงทีเดียว เพราะเมื่อเขาโมทนาบุญกับผู้ปฎิบัติก็จะได้รับแสงสว่าง(แสงธรรมส่องทาง) จิตเขาก็จะถูกยกระดับให้ผ่องใสยิ่งขึ้นจนสามารถเปลี่ยนภพภูมิสู่อัตภาพอันประณีต เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเขาจะเกิดปัญญาเห็นวิถีทางดำเนินของตนเองในอันที่จะปลูกร่างสร้างบุญกุศล มีการขวนขวายช่วยกิจในศาสนาตามกำลังความเป็นทิพย์ของตน ซึ่งเรื่องนี้มีตัวอย่างเรื่องแม่กาหลงของวัดอัมพวัน เดิมเป็นวิญญาณพยาบาท แต่สุดท้ายได้รับกระแสธรรมจนยกระดับจิตวิญญาณสู่ภพภูมิสูงขึ้น

 

ใช่ค่ะ อย่างน้อยที่วัดก็มีกระแสบุญต่อเนื่อง วิบากยังไม่คลายเขาก็ยังสะสม และเป็นผู้ดูแลศาสนาต่อไปได้ด้วย ขอบคุณท่านw... อะ ท่านหน่อนะคะ ที่มาให้ความรู้ มีเคลสกุมารแบบแปลกๆไหมคะ มาเล่าสู่กันฟังบ้าง อิอิ

 

เราเคยมี(แบบไม่ได้ตั้งใจมีิ)
ขอออกตัวก่อนว่าไม่เคยอยากได้อยากมีหรือคบผีเป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้านน่ะเออ
ถ้าใครเคยอ่านตอบกระทู้บ้าๆบวมๆของเราจะรู้ว่า ผีไม่ใช่ของมักของชอบเราเลย(จะมายุ่งกับช้านทามม้ายยยย)

เราตอนนั้น(รวมถึงตอนนี้)ไม่มีปัญญาเลี้ยงผีหรอกตัวเองยังไม่ค่อยจะรอดเลยจะไปเลี้ยงใครได้55555 เคยมีคนแนะนำให้เราพาเขาไปวัดทำสังฆทานเจาะจงให้แต่เขา เเล้วจุดธูป9ดอก(จำนวนธูปจำไม่ค่อยได้) กลั้นใจปักแล้วบอกว่าให้อยู่วัดห้ามตามไปจะไปเกิดใหม่หรืออยากไปอยู่กับคนอื่นที่ดีๆก็ไป จากนี้ถือว่าเราขาดกัน ให้เขามีอิสระได้ เอาของทุกอย่างของเขาทิ้งไว้ที่วัดด้วย บอกกล่าวเทวดาที่วัดฝากฝังเขาไว้ด้วย แล้วเดินออกจากวัดไม่หันหลังกลับไปอีก

แต่ของเรามัซับซ้อนกว่าเพราะเรามีสองราย รายแรกเราว่าจบ แต่รายที่สองนี่เดิมอยู่กับพ่อแล้วเราเลยบอกว่าให้มาอยู่กับเราแทน แล้วใข่วิธีเหมือนครั้งแรก

แต่มีคนถึงสองคนทักว่ามีเด็กอยู่กับเรา แถมทำท่าให้ดูเหมือนท่าเด็กแสบรายสอง
เฮ้อ.....สรุปว่าเรายังไม่รู้เลยว่าเจ้าแสบที่สองนี่ไปพ้นจากเรารึยัง

 

เลี้ยงมาเกือบปีแล้วไม่เป็นไร ก็จงเลี้ยงต่อไป
มันจะมีปัญหาตรงที่เอามาเลี้ยง แล้วเอาไปทิ้งนี่ล่ะ

 

ถ้าเลี้ยงไปตลอด แล้วจะดีหรือเปล่าวก็ไม้รู้ ก็เห็นฟังหมอปลาแล้วน่าขนลุก พวกนี้อาจจะกลับมาทรงเรา เราต้องไปรับขัน เพิ่มพูนไป ไม่งั้น จะมีแต่อุปสรรค ไม่แน่ใจ แต่ที่เลี้ยงมาก็ยังไม่มีไรเกิดขึ้น

 

คือที่เอาไปอยู่วัดเพราะเกิดเรื่องคล้ายๆที่คุณสมบูรณ์อ้างมาทั้งสองเคสน่ะคะ

แสบแรกนี่มาอยู่กับเราเอง แล้วออกอาการแบบแฝง ซึ่งเราก็ลำไยตัวเองมาก เป็นคนชอบขนมน่ะ แต่น้ำอัดลมกับไอติมนี่เราไม่ค่อยกิน แต่พอมาอยู่นี่เปลืองค่าไอติมมาก พอเรานอนกลางวันนี่จับเราลากอีก
เดี้ยนเลยต้องบอกว่าเราเลิกกัน(ช้านสงสารตัวเองมากกว่า) เพราะตอนนั้นเราเองก็ไม่ใช่คนไหว้พระสวดมนต์อะไรนักหนา ไม่มีกำลังงัดข้อกับเด็กล่องหนหรอก เพลียจ้า

ส่วนแสบสองนี่มาแฝงพ่อเรา อันนี้ออกอิทธิฤธิ์อิทธิเดชตลอดๆ กินๆๆๆๆ และขี้เหวี่ยงขี้วีน ใครพูดอะไรไม่ฟังไม่รู้เรื่อง มีร้องไห้โฮแบบเด็กๆด้วย แต่กับเดี้ยนพ่อพอจะฟังไม่อาละวาดมากเท่าไหร่ แต่ไม่ยอมสบตา หลบตาตลอด มีคนบอกว่ามีกุมารแฝงอยู่กับพ่อเรา เลยตกลงกันให้มาอยู่กับเราที่บ้านก่อน แล้วจึงเอาไปฝากวัด

ทั้งสองรายนี่เราไม่ได้ขวนขวายหรือมีหุ่นอะไรทำนองนั้นน่ะ แต่มีคนทักว่ามีเด็กอยู่กับเรา (ถ้ายังอยู่ก็แสบสอง) แต่รายสองนี่เรายังมีอุทิศบุญให้เวลาทำบุญ

 

สาธุด้วยนะค่ะ