ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

กะลังหาข้อมูล แนวปฎิบัติ อยู่เลยครับ เรียนท่าน nopphakan ขยายความเพื่อ
เป็นวิทยาทาน ด้วยเทอญ
นักรสายนเวท >> วิชาเล่นแร่แปรธาตุ >>สายวิชาทองลำดับ
ก็คือ การผสาน jing (พลังทางเพศที่ใช้สืบพันธ์), qi (พลังลมปราณ), shen (วิญญาณ)
ให้กลายเป็น ยาอายุวัฒนะ เพื่อนำไปสู่ หน้าตาอ่อนวัยไปตลอดกาล
(ความเป็นเซียน)

 

อ๊ะถามมาเด่วจัดให้ แต่ฟังแบบหูไว้หูแล้วกันเนาะ
ลำดับที่เรียงตามนั้นหละถูกแล้ว แต่จะเล่าให้ฟังอย่างนี้แล้วกัน
การผสานนั้น ไม่ว่า qi. Shen jing หรือ
ไม่ว่าพลังงานภายนอกจากแหล่งใดๆก็ตาม
หรือพลังงานที่สร้างจากภายใน ไม่ว่าพลังงานจักรวาล
หรือพลังงานอะไรก็แล้วแต่ พวกนี้ล้วนเป็นพื้นฐานสำหรับ
วิชาทองทั้งนั้น เพียงแต่เราไม่ได้แยกว่าอะไรเป็นอะไร
ทั้งนี้ทั้งนั้นรวมทั้ง พลังงานที่ได้จากกรรมฐานด้วย
เช่น กสิณกองต่างๆ. แล้วพลังงานต่างๆเหล่านี้จึงไปรวม
กับธาตุทอง ที่มีอยู่แล้วปกติภายนอก ดึงรวมกันมา
เป็นวิชาหนึ่งที่เรียกว่า ศาสตร์แห่งวิชาทอง
พวกนี้เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิตนะ...ในขณะเดียวกัน
ยังรวมทั้ง ว่านยา อักษระ การเขียนยันต์กลางอากาศ
ซึ่งเป็นปกติในสายวิชาทองทั้งสิ้น ซึ่ง ว่านยา อักษระ
หรือยันต์กลางอากาศนี้ ไม่ได้บังคับ ขึ้นอยู่กับจริตวิสัย
ของแต่ละบุคคลนั้นๆ พอมีตรงนี้เป็นพื้นฐานแล้วก็ถึง
จะไปในส่วนของการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะต้องมีการสะสม
พอสมควร และเล่นแร่แปรธาตุนี้ ไม่ใช่แบบเอามาหุ่งมาต้ม
อย่างเดียวนะ หมายถึง
การเรียกของกลางอากาศด้วยนะ เช่น พระธาตุ
ที่สายป่าเรียก ภูตอากาศ หรือแม้กระทั่งเหล็กไหลร่วมด้วย
ไม่ใช่ไปเชิญตามถ้ำนะครับ คนละแบบกัน
นอกจากพวกปรอทต่างๆ ที่ท่านที่ชำนาญมักจะเป็นทาง
พม่านะครับ...ในเชิงเทคนิค วิชาทองก็อาศัยกำลังจากจิต
บวกกับกำลังครูหนุนอยู่ พอเลยจุดนี้ไป ส่วนเล่นแร่แปรธาตุ
ก็จะเพิ่มเติมขึ้นมาโดยมีพลังงานจากภายนอกที่มากขึ้น
กำลังที่ใช้งานมากขึ้น ส่วนนักรสายเวท อะไรนี้ก็เป็น
ในลักษณะเชิงเทคนิคคล้ายกัน แต่มีความเป็นอัตโนมัติมากกว่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังมีตัวเข้าไปกระทำให้เกิดอยู่ ไม่ว่าจากสมาธิ
กำลังจิต และผลของสมาธิต่างๆอยู่นะครับ

และวิชาทองเหล่านี้ ยังสามารถไปผสมผสานร่วมกับกรรมฐาน
กองอื่นๆได้ เช่น กรรมฐานที่ได้จากอรูปฌานถึงลำดับที่ ๓ นะครับ
ไม่ใช่ ๔ เพราะ ๔ ฝึกเอาไม่ได้ต้องวางเอา...รวมๆผสมผสานกัน
จนแยกไม่ออก เพราะอาศัยซึ่งกันและกันทุกส่วน
เพราะครูบาร์อาจารย์ ก็ไม่ได้แยกกัน อยู่ในสายวิชาเดียวกัน

แต่ถ้าจะเป็นไปได้ ดังเช่น ท่านในดง หรือท่านๆต่างๆ
จนสำเร็จเป็นรูปธรรมอะไรได้ นั่นคือ ต้องสำเร็จระดับจิตธาตุ
นะครับ คือ จิตปล่อยวาง ไม่ยึดไม่ติด และคลายตัวเองได้
โดยธรรมชาติของมันเองเกือบทั้งวันครับ...

ปล.ย้ำว่ายังมีตัวกระทำให้เกิดอยู่ และยังไม่มีการดับใดๆนะครับ
แต่ก็นำไปใช้งานได้อยู่ครับ วิชานี้ถ้ามีโอกาศได้เรียน
จะสอนกันในนิมิตครับ มีเวลาให้เรียน ๒ สัปดาห์
และทดสอบภายใน ๒ เดือน ได้ไม่ได้ อยู่ที่ ๒ สัปดาห์แรก
ธาตุทองดีอย่าง คือ สามารถอฐิษฐานได้ครับ
ขึ้นอยู่กับว่าจะอฐิษฐานให้หนุนด้านอะไร เช่น บางคนก็ทาง
กรรมฐาน บ้างคนทางคุ้มครอง บางคนทางโชคลาภฯลฯ
ประมาณนี้หละ พอเคร่าๆ...
นัยยะ คือ'' ขึ้นหลังเสือได้ แต่ทำอย่างไร
ให้เวลาลงต้องลงมาสง่างามครับ ไม่งั้น
เวลาลงจะโดนสหบาทาได้ครับ ''

 

ป๋านบขา เพื่อนสนิทหนู(คนที่ติดกรรมจากปรามาสพระโพธิสัตว์ทางคริส)เล่าให้ฟังว่าเมื่อวันก่อนกำบังสวดบทขอขมากรรมตามแบบฉบับวัดร่มโพธิธรรมในขณะที่กำลังเดินไปทำงานด้วย ปรากฏว่าอยู่ดีๆมีนกพิราบตกลงมาตายข้างๆตอนกำลังสวดเลย พอมองไปบนฟ้าเค้าบอกเห็นอีกาตัวดำใหญ่มากมันคงเป็นตัวฆ่านกพิราบตัวนี้ แล้วมันก็บินผ่านหัวเพื่อนหนูไป

เค้าบอกไม่เคยเห็นเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน เหตุการณ์แบบนี้มันหมายถึงมีอะไรเป็นนัยยะไม๊คะ? เพื่อนหนูตกใจน่ะไม่เคยมีสัตว์อะไรมาตกตายข้างตัวตอนกำลังสวดมนต์ แกก็ตื่นเต้นด้วย

 

สั้นๆ "ปลาหมอตายเพราะปาก"
ควรระวังเรื่องนี้ให้มากๆ
หมายถึงคนนั้น

 

หลังจากบ่นออกสื่อในวันก่อน ณ.วันนี้ฝันก็เริ่มเป็นจริงแระ โฮ๊ะๆๆๆ ^_^

 

รบกวนถามป๋านบเรื่องการเชื่อมต้นพลังงานจิตว่างจาก อ.กิตติ อุปถัมภ์ คอนเซ็ปต์คือเชื่อมครั้งละสั้นๆไม่เกิน 10 วินาที ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าทำถูกไม๊:
"ตอนนี้หนูจะให้ตุ้มจ้องภาพอ.ที่ส่งทางไลน์ เป็นภาพหลังนั่งสมาธิเสร็จ แล้วหนูก็จะดูภาพอ.พร้อมกะแตะไปที่ตัวลูกสาว นึกในใจสั้นๆขอเชื่อมพลังจิตว่างรักษาโรค NF1 ให้เค้ามีพัฒนาการดี"

ทำแบบนี้ถูกต้องไม๊คะ หรือต้องปรับเป็นแบบไหน? ตอนนี้เรื่องภาษาดีขึ้นพูดเป็นประโยคยาวขึ้น แต่เรื่องพัฒนาการเข้าสังคมยังช้ากว่าปกติ ~ 1 ปี เลยอยากเชื่อมต้นพลังงานให้ต่อเนืองและมีประสิทธิภาพจริงๆน่ะค่ะ

 

ผลักตรงกลางลิ้นปี่ออกให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยครับ
เนื่องจากจิตมันหมุนอยู่ตอนที่เชื่อม
คือมันจะยังไม่ทิ้ง ตัวตนที่ไปกระทำด้วยสัมผัสนั่นเอง..

ถ้าผลักไม่ได้หรือรู้สึกว่าตรงลิ้นปี่มันหมุนหนักจัง
ให้อโหสิฯก่อน ๓ ถึง ๔ รอบออกจากกลางลิ้นปี่
ให้กว้างออกจากลิ้นปี่ให้มากที่สุดก่อน
แล้วตามด้วยอุทิศบุญซ้ำ(แบบที่รู้ๆกัน)
แล้วถึงค่อยเริ่มทำใหม่เน้อ...

การสังเกตุคือ ถ้าผลักได้ พลังงานรอบๆตัวมันจะ
เปลี่ยนทิศทางขึ้นตรงไปข้างบนจะ
ขึ้นข้างบนจากเอวขึ้นไปเลยศรีษะ
แต่ถ้าที่หน่องมันยังหมุนอยู่
แสดงว่า ยังมีกระแสที่กำลังจิตต่ำมาเกาะอยู่
ซึ่งต้องเคลีย์ตรงนี้ด้วยเพื่อไม่ให้มาขวางด้วยการ
กรวดน้ำร่วมด้วย...
ทำได้อย่างนี้แล้ว ต่อไปค่อยไปกำหนดตรง
จุดที่มีปัญหาในร่างกาย
โดยใช้หลักการเดียวกันนี้
คือ เชื่อม ตามด้วยกำหนดไปที่จุดนั้น
แล้วผลักกระแสออกให้กว้าง และรักษาอารมย์
ที่กะแสมันขึ้นบนให้นานที่สุดเท่าที่จะได้...
พอเข้าใจนะ..

 

รับทราบค่ะป๋า หนูยังว่าบางทีมันรู้สึกไม่โล่งเวลาเชื่อม เข้าใจทริคแล้วค่ะ

หลังจากที่คลอดลูกสาวคนที่ 3 แบบแสนง่ายดายที่ห้องรับแขก เจ็บท้องไม่เยอะแป๊บเดียวเค้าหัวโผล่มาถึงคาง แทบถอดกางเกงไม่ทัน ปากก็ยังเคี้ยวเบอร์เกอร์อยู่ เลยได้สามีมาช่วยรับลูกตอนเค้าหลุดจากช่องคลอด แกก็เช็ดเนื้อตัวลูกสาว คว้านในปากเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรค้างไปติดหลอดลม สุดท้ายก็ปลอดภัย เลยให้พยาบาลที่อยู่ปลายสายเรียกรถพยาบาลมาให้ และได้ตัดริบบิ้นสายสะดือที่บ้าน คิดว่าการสวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ และหมั่นภาวนาบทพระมหาจักรพรรดิ์บ่อยๆเนี่ยช่วยให้คลอดง่ายมากๆ ไม่ได้เย็บแผลอะไร และร่างกายฟื้นตัวเร็วดีมากๆ รู้สึกดีและตื่นเต้นประสบการณ์ชีวิตคลอดลูกที่บ้าน แถมพ่อบ้านช่วยทำคลอดให้ ตลกแต่ลูกสาวสองคนเค้ากินข้าวเสร็จเดินมาดูน้องตอนคลอด แล้วพูดกันแม่มีเลือด น้องมีเลือด เค้าก็คงงงๆน้องคลอดมาเร็วจัง เรียกชื่อกันใหญ่ว่าโซฟีๆ ก็ถ่ายวีดีโอเก็บไว้ดูเป็นที่ระทึก&ระลึก

ช่วงชีวิตนี้ตอนนี้มีเพื่อนพี่น้องและคนรู้จักหลายคนเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวเรามากมาย เราเองยังไม่เคยมีโอกาสตอบแทนคนอื่นๆเลย รู้สึกกระดากอยู่เหมือนกัน อยากมีโอกาสเป็นคนให้เพื่อนๆที่เค้าช่วยเหลือเกื้อกูลเรามาตลอดบ้าง ได้แค่สวดมนต์ขอบคุณทุกท่านทุกคนที่เมตตาครอบครัวเราให้เค้ามีสุขภาพดีมีความสุขกัน ที่ทำได้คือเท่านี้จริงๆ

(อาจเป็นช่วงนี้มีอาการ Baby blue ฮอร์โมนหลังคลอดกำลังปรับมีอารมณ์เศร้าๆบ้าง คิดนั่นนี่บ้าง ต้องรีบนึกถึงบทสวดคอยตัดความคิดฟุ้งๆออก)

 

ประสบการณ์คลอดลูกแบบแปลกมาก แต่ก็ดีใจที่คุณแม่คุณลูกปลอดภัย แถมคลอดง่ายมากๆ แต่ติดใจตรงคลอดลูก แต่ปากยังกินอยู่นี่นะคะ ^_^

 

ไม่ได้เข้ามาอ่านนานเลยครับ ..ตอนนี้ภารทางโลกน้อยลงบ้างแล้ว กลับมาอ่านโพสเก่า ๆ อีกครั้ง
จะฝึกกสินน้ำควบดูลมหายใจเข้าออก และเชื่อมกระแสครูอาจารย์ครับ อ่านแล้วศรัทธา ทำให้มีพลังในการฝึกครับ ขอบคุณกระทู้ดี ๆ แบบนี้ครับ สวัสดีพี่นพ พี่ระมิงค์ และพี่ๆทุกคนด้วยครับ

 

ถามหน่อยค่ะ มีรึเปล่า พวกเสพปราณมนุษย์ผ่านท้ายทอย รึ แถวกกหู เที่ยงคืนที่ผ่านมาฝันอยู่ดีๆกลายมารู้สึกตัวแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น โดนมาค่ะ มันบอกเองว่าให้อยู่นิ่งๆ มันลงมาเสพปราณมนุษย์ หน้าตาธรรมดามาก ตอนแรกตรงท้ายทอย ไม่รู้ว่าเข้าไหม แล้วมันย้ายมาตรงกกหู (ตอนย้ายมันบอก พระชื่อ.........(สาวก) ก็โดนมันเสพมาแล้วตอนนั้นได้แต่ท่องอุทิศบุญและระลึกถึงเกาะแก้วเกร็งจนตื่นรู้สึกตัวเต็มตื่นอะค่ะ ลืมตามาฉุนนิดๆตรง เอ้ยมันว่าเรานี่หว๋า แต่หลังยังรู้สึกอยู่ เลยรีบพลิกตัวทำไม่รู้ไม่ชี้ นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นอีกทีตีสองอะค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

สวัสดีค่า

พอดีวันวาน พา พ่อ กะหลานๆ ไปเมืองเลย
ที่ พ่อหมอเสน่ห์ ที่รักษากระดูก ได้เทพมาก

พ่อหมอ ใจดี ดังเดิม
ถามว่า มาจากไหนเคยมาไหม

ตอบว่า เคยมาแล้วค่า
โดย พี่บอล นพฯ ช่วยแนะนำทางมา ค่ะ
เมื่อ 2 ปีก่อน ที่หนูเป็นอดีต มนุษย์ต่างดาว

พ่อหมอ เลยใจดีด้วยมาก เลย
ได้สอน จัดกระดูก ไป 1 กะบวนท่า
แต่ข้าน้อยแรมต่ำ ท่าจะ ไม่ค่อยได้เรื่องค่ะ

พ่อหมอ บอกว่า ไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำ แล้ว พี่บอล นบฯ ไปด้วย เจอโครงกระดูกใหญ่โตมาก

และ ไม่ได้พบท่านพี่ นบ ฯ บอล หลายเดือนละ

 

แวะมาทักทายค่ะ ^_^

มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น ไม่รู้จะเรียกว่า " สมองเสื่อมดีรึเปล่า "

เหตุการณ์แบบนี้เกิดมาเป็นปกติ มักจะเป็นช่วงที่รู้สึกตัวกลางดึก รึ ช่วงก่อนเข้านอนรึก่อนตื่นนอน คือมักจะเป็นคนที่คิดนั่นคิดนี่ไปเรื่อยๆ เวลาที่คิดอะไรนานๆ ในสมองมักมีอาการคล้ายถูกปิดสวิซ ดัง "กึก!! " แล้วทุกอย่างที่คิดจะจางหายไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนมันจะผุดมาให้คิดใหม่ แล้วก็ กึก!! ตัดสวิซอีก เป็นเช่นนี้ซ้ำๆถ้ายังไม่พยายามเลิกคิด ซึ่งอาการแบบนี้เป็นอาการคล้ายคนหลงลืมสิ่งที่คิดชั่วขณะ ซึ่งก็เคยชินเสียแล้วเป็นปกติ จนเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เกิดความคิดขึ้นมา ก็เกิดการตัดดังกึก! อีกครั้ง พอซักพักเมื่อความคิดเริ่มเกิด กลับได้ยินเสียงดังเปรี้ยง! ขึ้นในหัวสมองแทน เสียงดังเหมือนฟ้าผ่า ตอนนั้นคิดในใจว่า คราวนี้มันเสียงดังเปรี้ยงเลยเหรอ ก่อนสิ่งที่ตามมาคือ เรื่องที่คิดและเคยรู้สึกรำคาญตัวเอง ว่าทำไมต้องไปยึดติดอะไรหนักหนากับเรื่องนี้ด้วย มันคิดไม่ออก นึกไม่ออก และไม่อยากนึก ทั้งๆที่ลองนึกแต่กลับเหมือนสมองส่วนนั้นมันโหว่ไปซึ่งผ่านมาหลายวันแล้ว ก็ยังรู้สึกโหว่แบบนี้ ซึ่งถือว่าดี "ขอบคุณ..เหมือนได้รับอิสระจากสิ่งที่ติด " แต่อีกใจก็เกรงว่ามันคืออาการเริ่มต้นของอัลไซเมอร์รึเปล่า

แค่เรื่องเล่า เคล้าวันวาน...

 

เปล่าคือการพัฒนา.
ทางปฎิบัติเรียกปลงได้
ควรจะเป็นมาตั้งนานแล้ว

ส่วนการลืมโดยธรรมชาติมีเป็นปกติ
ถ้าอัลไซเมอร์คือตัวสมองมีปัญหา
จำไม่ได้ และใช้งานไม่ได้

 

กิจกรรมที่วัด ป่าธรรมอุทยาน
วันที่ ๒ เดือนต่อไปใครว่างเชิญครับ
พระอาจารย์จิตไวชัยภูมิก็มา
และท่านอื่นๆครับ
ส่วนตัวไม่สดวก เลยไปร่วมกิจกรรมก่อน

 

รายงาน สรุปที่ผ่านมา ครับ ท่าน nopphakan
1 อานาปา
2 กสิณ
3 จักระ
4 ปราณ
5 ฝังเข็ม (จิต ธาตุ)

ผลจากการฝึก 5 วิชาหลักๆนี้ ผสานกันอย่างอัตโนมัติ
เกิดแนวทางการ รักษาโรค ได้ทั้งตนเองและผู้ป่วย
โดยไม่จำเป็นต้องพบหน้ากัน ได้ 3 แนวทาง โดยการเชื่อมต่อ
กับพลังธรรมชาติ (จักวาล,ครูบาอาจารย์)
1 แนวทางการ โน้มน้าว ให้จิต วิญญาณ สั่งการกระบวนการ
เยียวยา ซ่อมแซม เซลร่างกายส่วนที่ชำรุดและคืนสภาพ
ด้วยตัวมันเอง ในทุกแบบ ทุกวิธี ด้วยวิธีเฉพาะของมัน
โดยการสร้างเซลใหม่ขึ้นมาทดแทน อย่างอัตโนมัติ
2 แนวทางการ การแปรเปลี่ยน กรรมให้ปลดปล่อยเป็นพลังงาน
เพื่อการ อโหสิกรรม
3 แนวทางการสวด พระคาถา
เริ่ม ทำการรักษาผู้อื่นมา ตั้งแต่ ต้นเดือน โดยกำหนดกลุ่มขึ้นเอง
จากวงวาน คนรู้จัก ที่เราแผ่เมตตาปกติ โดยไม่ได้ตามผล
---- มาถึงจุดนี้แล้ว ขอคำชี้แนะ ด้วยครับ

 

ไม่ว่าจะรักษาอะไรให้ปิดด้วยกสิณน้ำทุกๆกรณีครับ
ส่วนการรักษาแล้วไม่ตามผลถือว่าดีครับ
และทุกครั้งที่รักษาเสร็จ ให้เคลียตัวเอง
จนกระทั่งจิตคลายตัว จนกาย โล่ง โปร่งเบา
คือกระแส ต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา มันขึ้นบนหมด
ส่วนมากที่ยังไม่หมดจะเป็นบริเวณที่หน่อง
ตรงนี้ต้องเคลียร์ให้ดี บางทีอาจมีการใช้การกรวดน้ำร่วมด้วย
แต่ถ้า สามารถดับได้ หรือเข้าได้เองซึ่งจะเป็นในอนาคต
ก็รอให้กระแสตรงนี้มันเบาไปก่อน

ปล. ถ้าคิดจะให้ก็ให้ไป แล้วไม่ต้องไปอะไรๆกับมัน
ถ้าทำให้แล้วก็แล้วไป ให้ทิ้งไป และไม่ต้องไปอะไรๆกับมัน
ไม่ต้องไปคาด ไปหวัง อะไรๆกับมัน
ทำแล้วก็แล้วไปอีก มันจะกลายเป็นบารมีขึ้นมา
เมื่อมีบารมีใช้แล้วมันก็จะหมดไป....

และก็ให้ทำแล้วก็แล้วไปอีก
ให้แล้วก็แล้วไป ไม่อะไรอะไรกับอีก
ไม่ต้องไปคาด ไปหวังอะไรๆกับมัน
มันถึงจะกลายเป็นบารมีไหลย้อนกลับมา
ได้ของมันเองอัตโนมัติ

เดินแบบนี้ มันก็จะมีการพัฒนาได้
และต่อไปมันก็จะเป็นอัตโนมัติได้ของมันเอง
โดยที่ไม่มีเรา ไม่มีจิตเข้าไปกระทำครับ
พอผ่านขั้นตอน อัตโนมัติของมันเองได้
จิตเราถึงจะเข้า สภาวะดับได้ของมันเอง
โดยธรรมชาติครับ...เพราะสภาวะดับ
มันทำเอาไม่ได้ มันเข้าได้ต้องทิ้งเอา
จะทิ้งได้ มันต้องผ่าน อัตโนมัติของมันเองก่อน
ก่อนจะผ่านอัตโมมัติของมันเอง
มันก็ต้องผ่านการใช้งานก่อน
ผ่านการใช้งานในแบบไม่อะไรๆกับมัน
มันก็จะเป็นอัตโนมัติได้นั่นหละครับ....

ปล. จบ..

 

ทำไม 3 ช่องในรูป แม่พิมพ์พระ จึงมีคล้ายเม็ดสีที่แตกต่างกันได้คะ
ปล.มีแจก แล ให้เช่าบ้างรึไม่คะ ต้องการสัก 1 องค์ ^_^

 

ก็เอาของส่วนตัวไปฝั่งไง แล้วแต่ใครจะได้ไป
รุ่นนี้ยังไม่แจกจะเก็บไว้ในเจดีย์ก่อน
ที่จะแจกจะเป็นรุ่นหยดน้ำรุ่นแรก
ที่ หลวงพี่รองเจ้าอาวาส
ให้ส่วนตัวช่วยหามวลสาร
ที่เราๆในนี่ช่วยกันหามานั่นหละ
ได้เวลาออกมาแจกแล้ว

 

มาบอกข่าวสำหรับใครที่สนใจรักษาโรคฟรีโดยพลังจิตว่าง จาก อ.กิตติ อุปถัมภ์ เดือนมิถุนายนนี้แกออกกำหนดการมาแล้วนะคะ ดูในรูป attach files โลด มีที่ อ.แกลง จ.ระยอง กับอีกที่คือพุทธมณฑลสาย 2 ร้านเจียง ลูกชิ้นปลา