กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. เจไดหรือธิส

    เจไดหรือธิส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +359

    สาธุครับ อาจารย์นพ ซำบายใจ กิกิ
     
  2. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    ผมบอกใบ้ให้นิดๆนะครับ
    ปริศนาอยู่ในคลิปนะ
    "ไม่ได้หมายถึงผู้ชมคลิปนะครับ"

    ท่านพระอาจารย์ว.วชิรเมธี
    ทำคลิปนี้...ได้แหลมคมมาก
    เคารพนับถือท่านจริงๆ

    ผมเดาว่าอาจารย์นพ...รู้นะครับ
    เพราะคลิปมันชัดเจนมากๆ(ๆๆๆ)
    (แบบดูครั้งแรกก็ต้องอื้อหือแล้ว)

    555 แค่ขำๆยามเย็นนะครับ

    *ที่ไม่บอกชัดๆ เพราะอาจเป็นความบังเอิญก็ได้*
    และเป็นความรู้สึกส่วนตัวเอง จึงไม่เหมาะที่จะเฉลย


    "บางเรื่องเรารู้ของเราเองคนเดียวก็พอ"
    คำพูดของอจ.นพ...ตอบได้ลงตัวพอดี


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2018
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    "ยุคพระบรมสารีริกธาตุปรากฏ"


    ผู้เขียนเรียนถามหลวงพ่อว่า
    ทำไมยุคนี้จึงมีพระบรมสารีริกธาตุเกิดขึ้นมากมาย
    หลวงพ่อได้เมตตาอธิบายให้ผู้เขียนฟังว่า
    ยุคพระบรมสารีริกธาตุปรากฏก็คือยุคเราเนี่ยแหละ
    ยุคนี้เป็นยุคศิวิไลซ์
    เป็นยุคที่พระบรมสารีริกธาตุมาปรากฏมากที่สุด
    ถ้าเราย้อนไปในอดีต
    เมื่อประมาณสองพันกว่าปียังไม่เคยมีปรากฏ
    แต่มาในยุคนี้พระบรมสารีริกธาตุปรากฏมากมาย
    และทุกสิ่งทุกอย่างก็มาเกิด
    เมื่อพระพุทธองค์มาอุบัติมาเกิดขึ้นทุกสิ่งก็มาเกิด
    ก่อนที่พระพุทธองค์จะมาบังเกิด
    สิ่งของที่จะมารองรับก็มาเกิดก่อนล่วงหน้า
    เป็นการปูทางไว้ก่อน
    เช่นพระนารายณ์ก็มาเกิด พระพรหมก็มาเกิด
    พระแม่ธรณีก็มาเกิด สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็มาเกิด
    พระบรมสารีริกธาตุก็มาเกิดมา
    เพชรพญานาคเกิด ไม่เกิดคนก็สร้างมาให้เกิด
    หลวงปู่โมคคัลลานะก็มาเกิดโดยบารมี
    หลวงพ่อสเก็ตซ์ภาพหลวงปู่โมคคัลลานะ
    ภาพหลวงปู่โมคคัลลานะก็เกิด
    อดีตผ่านมาแล้วตั้ง ๒พันกว่าปี
    พอสเก็ตซ์ภาพท่านก็เกิด
    เกิดโดยบารมีของหลวงปู่โมคคัลลานะ
    ด้วยศรัทธาที่หลวงพ่อมีต่อพระโมคคัลลานะ
    ต่อมาพระสรีรังคาร
    พระบรมสารีริกธาตุข้อพระหัตถ์ก็เกิด ตรงนี้เป็นหลัก
    เพชรพญานาคเกิด มันบันดาลให้เกิด ไม่เกิดก็สร้างขึ้นมาให้เกิด
    เพราะพระบรมธาตุเหล่านี้ทุกองค์ล้วนแล้วแต่เป็น องค์เอก คือข้อพระหัตถ์ก็ใหญ่ พระเขี้ยวฝางก็ทั้งองค์พระพุทธโลหิตก็ทั้งองค์ล้วนแต่เป็นองค์เอกทั้งนั้น
    ในยุคนี้ถ้าพระบรมสาริริกธาตุของพระพุทธองค์ยังบังเกิดขึ้น สร้างขึ้นมาสวดขึ้นมาก็เกิดขึ้น ฯลฯ
    ศาสนาอยู่ได้เพราะพวกเราปฏิบัติบูชารักษาไว้
    บางคนพูดว่าแล้วพระพุทธเจ้าทำไมไม่เทศน์
    พระองค์จะเทศน์ทำไม
    ในเมื่อพระไตรปิฎกมีอยู่แล้ว
    พระองค์เทศน์มาแล้วตั้งสองพันกว่าปีที่ผ่านมา
    พระพุทธเจ้าไม่เคยหยุดเทศนาเลย
    พระองค์เทศนามาตลอด
    หลวงพ่อก็อาศัยหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มีเพียบพร้อม
    ดังนั้นพระบรมสารีริกธาตุจึงปรากฏในยุคนี้
    ยุคศิวิไลซ์ยุคใดก็ตาม สมมุติว่ายุคนี้มันหมดไป
    ต่อไปยุคใหม่มีพระบรมสารีริกธาตุอุบัติเกิดขึ้น
    นั่นคือบารมีของพระพุทธองค์มาปรากฏขึ้น
    เพื่อประกาศพระศาสนาของพระองค์ต่อไป อีกเป็นช่วง ๆ


    บทความจาก
    วัดภูพลานสูง อุบลราชธานี
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719


    "...เรากำลังเห็นภาพนามธรรมขึ้นมาแล้ว
    หรือระลึกถึงภาพนามธรรมอยู่

    ถ้าเรามัวไปปรุงต่อ ไปสร้างเรื่องต่อ
    ด้วยการไม่รู้จักการปล่อยตัวไปรู้
    ไม่รู้จักการปล่อยวางเรื่องเหล่านั้น

    และไม่ตัดการไปรู้เรื่องเหล่านั้น
    ก็จะเหมือนเราไปรู้ในกระบวณการที่มันเกิดไปแล้ว
    มันได้เกิดมีขึ้นแล้ว

    เหมือนเรารู้เรื่องต้นมะนาว
    เหมือนเราไปรู้ภาพนามธรรม
    แต่เรากลับไม่รู้ว่า รัก โลภ โกรธ หลง
    มันเกิดได้อย่างไรนั่นแหล..."


    เป็นประโยคเตือนใจที่ทรงค่าสำหรับผม

    และเป็นความ"บังเอิญ"ที่สุด
    บังเอิญ...
    มาจ๊ะเอ๋กัน
    (ด้วยอจ.นพเขียนไว้ล่วงหน้าก่อน)



    **ที่ผมไม่ตัดการไปรับรู้เรื่องเหล่านั่น
    ไม่รู้จักการปล่อยวางเรื่องเหล่านั้น **

    ขอบคุณครับท่านอจ.นพ

     
  5. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    อยากฟังพญานาคต่อครับ...ท่านอจ.นพ

    และไม่ทราบว่า...
    ที่วัดนี้ผู้คนที่ไปถามปัญหามากไหม
    ต้องรอคิวเป็นชั่วโมงๆไหม

    ถ้าไม่รบกวนเกินไป
    ช่วยโพสต์รูปบรรยากาศวัดนี้ให้ดูหน่อยครับ

    ขอบคุณครับ
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    คุณมลเขียนเล่าวิถีพุทธได้อรรถรสดี
    ปัญญาภูมิด้านนี้น่าจะเรียนรู้มานาน
    เห็นเก็บไว้...ค่อยๆเผยออกมา

    ชอบประโยคนี้ครับ...
    "เศษๆ กรรม ก็อุปสรรคชีวิตทางโลกและทางธรรม
    ซึ่งโดนทีไม่น่าจะขำเท่าไร..."




    ไม่ทราบว่า...
    ระหว่างอารมณ์โกรธ กับ อารมณ์หลงหวย
    อย่างไหนเป็นอุปสรรคต่อชีวิตอันแท้จริง?
    (หมายถึงคนทั่วไปนะครับ)


    (ถามจริงนะครับ ไม่ได้ถามให้ขำๆ)
     
  7. ธารทอง

    ธารทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2015
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +2,442
    เคยชิมเหมือนกัน ค่ะอร่อยดี
    ดอกไม้ป่า งามแปลกตา
    เก็บภาพมาฝาก:)
    image.jpg
    image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg image.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2018
  8. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    เมื่อคืน ฝันเฟื่อง มายาหลอน ฝันไปว่า ไปเดินเล่นแถวทุ่งๆ มีบึงน้ำ แล้วก็ไปเจอสตรีนางนึง ทำผมรัดเหล้า ใส่ชุดสีเขียวแวววาว สะท้อนแสง แล้วเธอก็จะคว้าข้อมูงจูงไป แต่ทว่า จูงเท่าไหร่ตัวข้าพเจ้าก็ไม่ขยับ จนหล่อนหน้าเสีย ค่อยๆ ผละมือออก หนีไปด้วยความเขินอาย
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    คิวรอนาน กว่าจะเริ่มดูประมานเกือบบ่ายโมง ต้องไปนอนค้าง เอารถมาจองคิวหน้าวัด
    ตอนสองทุ่ม และตีสี่ครึ่งเอารถเข้าไปจอดตามคิวที่จอง และ โมงเช้า รอรับบัตรคิว
    ชุดละ ๒๕ คิว เข้าพร้อมกัน
    เสาร์อาทิตย์ ถ้าไปเช้าๆ อาจไม่ได้ดูเพราะคิวเต็ม วันธรรมดาที่ไม่ใช่วันพระ และติดนิมนต์
    พอมีโอกาส

    ตอนเช้า มีพิธีต่างๆ สำหรับคนถูกของ
    คนที่เอาดินมาเพื่อขายที่ และเจิมรถ
    เสร็จจากท่านพัก ถึงค่อยเริ่มดู

    ถ้ามาแบบไม่ค้าง อาจจะได้เป็นชุดที่ ๒
    ก็คงเย็นๆ ดูได้ประทาน๕๐คน ก็มืดแล้ว

    รถจักรยานได้สิทธิ์ ๒ คิว รถยนต์ ๔ คิว
    รถตู้ไม่ทราบ น่าจะ ๑๐ วันไหนเจอรถตู้
    หลายคัน อาจจะไม่ได้ดู

    ห้องพักมีคืนละ ๔๐๐ ร้อย แนะนำห้องพัก
    ก่อนถึงวัดร้อยเมตร ไม่มีปัญหา ไม่ต้องรีบ
    เก็บของ ดูเสร็จบ่าย มาอาบน้ำแล้วค่อยออกได้. ไม่เหมือนหน้าวัดต้องเก็บเลย
    ที่ก็แรง ผีก็ดุ เผลอๆจะป่วยเอา

    ที่นี้ อยากรู้อะไร ถามท่านได้เลย
    ควรจดไว้ไม่งั้นจะลืม
    เพราะท่านตอบเร็ว
    ที่มาของฉายา
    พระครูปลัดดจิตไวนั่นแล
    ที่สำคัญรู้ละเอียดด้วย
     
  10. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    คิดถึงอาจารย์นพ อาจารย์9
    พี่มล พี่ธารทอง พี่วงกตน้ำ พี่แม็ค พี่พี่ทุกท่านนะคะ
    เหนื่อยกับการย้ายของมากกกก และการจัดร้านมากกก
    แต่ภาพภูมิใจมากเลยคะ
    เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเก็บภาพร้านมาให้ชมกันนะคะ
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    (คคห.จากกระทู้พันทิป)

    แต่ก่อน...ผมก็ไม่เชื่อครับ
    พระพุทธเจ้า ปรินิพพานไปตั้งสองพันกว่าปี
    จะไปหาพระบรมสารีริกธาตุจากไหน
    จะไปหาพระอรหันตธาตุมาจากไหน
    ...ทำไมมีปริมาณมากมายขนาดนี้...

    ผมเคยสงสัย...
    พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้ปฎิบัติธรรม หลังมรณะภาพ
    อัฐิ เลือด น้ำเหลือง น้ำปัสสาวะ เกศา ชานหมาก
    ก็กลายเป็นพระธาตุได้
    จะเป็นเรื่องลวงกันของลูกศิษย์ใกล้ชิดหรือเปล่า

    แต่หลังจากที่ผมปฎิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    เป็น "ชาวพุทธที่แท้จริง" มาสองสามปี
    ผมมีโอกาสได้รับพระบรมสารีริกธาตุ
    พระธาตุ อัฐิครูบาอาจารย์ พอสมควร
    ผมได้เห็นพระเครื่องที่มีพระธาตุเสด็จมาเอง
    หลายต่อหลายองค์
    บัดนี้ ผมหายสงสัยแล้ว

    ผมไม่มีคำตอบ ที่จะอธิบายคำถามของ จขกท.
    ได้กระจ่างแบบวิทยาศาสตร์
    ต้องเห็น ต้องรู้ ต้องพบความจริงนี้ ด้วยตนเองครับ
    เพราะหากมีใครบอกให้ผมเชื่อ ผมก็ไม่เชื่อ
    ที่ผมเชื่อ เพราะผมเห็น รู้
    และพบความจริงด้วยตนเองครับ

    .....................................................

    สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุนี้
    พ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่างสอนไว้มากมายว่า ...
    นี้ไม่ใช่ที่สุดแห่งทุกข์ของเรา
    เราเองก็มีโครงกระดูก มีเส้นผม
    มีน้ำเลือด น้ำหนอง มีขี้ มีเยี่ยว
    ไม่ต้องไปเสาะแสวงหาพระธาตุที่ไหน
    ปฎิบัติตนตามที่พระพุทธเจ้าสอน ให้ถึงความแจ้ง
    ที่สุด ธาตุขันธ์มันก็เป็นพระธาตุใส เป็นแก้วของมันเอง

    ท่านสอนกันขนาดนี้ เพราะมนุษย์นี้ชอบหลงไปข้างนอก
    ไปค้นไปคว้าสิ่งนั้นสิ่งนี้ คิดฝันค้นหาไปทั่วจักรภพ
    แต่ไม่ได้มาค้นพบ มาศึกษา ความจริงแท้ของกายของใจ

    วิทยาศาสตร์ อาจช่วยให้เรามีความรู้แบบโลกๆ
    มีชีวิตที่สะดวกขึ้น สบายขึ้นกว่ายุคก่อน
    แต่ความรู้วิทยาศาสตร์
    ก็ไม่เคยทำให้มนุษย์พ้นทุกข์กาย ทุกข์ใจอย่างแท้จริงได้เลย

    ขอให้พบความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต
    และความรู้ที่เป็นเหตุให้สิ้นสุดการเกิดครับ

    ผู้แสดงคคห.
    solo 356
     
  12. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    สัปดาห์นี้ก็ไปอบรมเหมือนกัน บุรีรัมย์-ขอนแก่น 5 วันรวด สลบ! o_O อยากทำร้านบ้างเหมือนกันเป็นนายตัวเองอ้ะดี
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    เมื่อวานผมได้มีโอกาสไปร่วมงานบุญ
    ครบรอบ 79 ปี หลวงพ่อมาลัย อุทโย
    วัดบางพญ้าแพรก จ.สมุทรสาคร
    เกจิอาจารย์ชื่อดังในด้านหยั่งรู้วาระจิตคน

    IMG_20180909_062123.jpg

    IMG_20180909_114841.jpg


    IMG_20180909_115420.jpg


    ช่วงเวลาเที่ยงๆ...
    หลังจากผมทำบุญไหว้พระตามจุดต่างๆ
    รู้สึกหิวขึ้นมา อยากเข้าแถวรับข้าวสักจาน
    ...แต่ไม่สะดวกเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมาก
    คงทำได้แค่หยิบกล้วยทอด 1 ถุง
    ...4-5 ชิ้นมารองท้องกับกาแฟเย็น 1 แก้ว


    พอบ่ายๆ ได้เวลาญาติโยมผู้ศรัทธา
    เข้าไปกราบขอพรหลวงพ่อเป็นกลุ่มๆ

    เมื่อหลวงพ่อประพรมพุทธมนต์เสร็จ
    ...กลุ่มแรกก็ลุกออกไป
    ...ผมอยู่ในกลุ่มที่ 2
    มีคนรวมๆประมาณ 15 คน
    พอผมก้มลงกราบหลวงพ่อมาลัย
    ขณะที่เงยหน้าขึ้นมา
    เห็นลพ.มองมาที่ผม
    ...ยิ้มด้วยแววตาที่เปี่ยมความเมตตา
    ถามผมว่า "ทานข้าวอิ่มหรือยัง?"

    ผมจึงตอบไปตามความจริงว่า...
    "ข้าวยังครับ...แต่ทานขนมไปแล้ว"

    ความน่าฉงนใจอยู่ตรงที่ว่า...
    ญาติโยมกลุ่ม1 กับกลุ่ม2
    รวมกันน่าจะกว่า 30 คน
    ทำไมลพ.มาลัย ท่านเจาะจงถามผม

    ...ท่านคงทราบดีว่าทุกคนอิ่มกันหมดแล้ว
    ...ยกเว้นผมที่รองท้องด้วยกล้วยทอด

    IMG_20180909_112720.jpg

    (หลวงปู่ใหญ่ พระพุทธรูปเก่าแก่)


    หลวงพ่อมาลัย
    **เจโตปริยญาณ**
    หยั่งรู้วาระจิตคน...
    ผมไม่สงสัยเลย

    เรื่องที่จะเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
    น้องสะใภ้ไปวัดบางหญ้าแพรกครั้งแรก

    ได้มีโอกาสไปกราบขอพร ลพ.มาลัย
    ท่ามกลางญาติโยมที่นั่งอยู่ 20-30 คน

    ช่วงหนึ่งลพ.มาลัยท่านเปรยออกมาว่า...
    “คนแซ่ลิ้ม มาด้วยเหรอ”

    น้องสะใภ้สะดุ้ง...นั่ง*งง*สักพัก
    เพื่อความแน่ใจ...จึงหันไปดูรอบๆ

    ...ว่าหลวงพ่อหมายถึงตนเองหรือไม่ ?

    หลวงพ่อรีบชี้ไปที่น้องสะใภ้บอกว่า...

    “โยมนั่นแหละ..นั่นแหละ”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2018
  14. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    Tips & Tricks
    หน้า 13 ลำดับที่ #260


    ไม่มีอะไรลิขิตหรอก อ่านก่อน
    มีแต่เพียงกระแสที่จรเข้ามา
    แล้วก็จรจากไป มีแต่เพียงการสร้างเหตุเอง
    แล้วก็เป็นตาม จริต อนุสัย
    วิบากอย่างใดอย่างหนึ่ง มันเป็นเรื่องปกติ......


    เพียงแต่ว่าเรารู้จักทิ้งเป็นไหม
    รู้จักวางเป็นไหม
    ทั้งที่สร้างเหตุเอง
    และที่จรเข้ามา.......
    เราก็จะอยู่เหนือคำว่า ฟ้าหรือกรรมลิขิต
    เท่านั้นเอง...
    และทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นเพียงกิริยา


    ทางธรรมให้เราได้รู้
    การละความ ''ยึดมั่น'' ในปัจจุบัน
    ได้รู้การละความ ''มั่นหมาย'' ในอนาคต.....
    ทางโลก ให้เราได้รู้จัก
    ความพลัดพรากจากสิ่งที่ตนรัก
    ความเฒ่าฉะแล แก่ชรา เกิด เจ็บ ตาย....
    ทั้งทางโลก ทางธรรม มันมีธรรมชาติของมันอย่างนี้.....
    เพียงแต่ เราทิ้งเป็น วางเป็น
    ก็จะเข้าใจมันได้มากยิ่งขึ้น......


    ก็จะไม่เป็นไปตาม
    จริต อนุสัย หรือวิบาก อย่างใดอย่างหนึ่งได้เอง.....
    ก็จะเข้าใจได้เองว่า เส้นทางเดินหลักของชีวิตเรา
    ไม่ได้ถูกฟ้า หรือ กรรมอะไรลิขิต ไว้ล่วงหน้าหรอกครับ.......
    มันก็ล้วนมาจากเหตุที่เราได้สร้างขึ้นมา
    ร่วมกับสัญญาในจิตเราเอง
    มันก็ล้วนมาจากเหตุที่เราได้ดึงสิ่งที่จรเข้ามาร่วม
    จนกลายเป็นตัวเอง


    ทิ้งเป็น วางเป็น ไม่อะไรกับอะไรเป็น
    ก็จะไม่ข้องไม่คา กับรูปธรรมและนามธรรมทั้งหลาย
    ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งปวง
    และก็จะไม่กลาย เป็น จริต อนุสัย และวิบาก
    อย่างใดอย่างหนึ่งได้เอง....


    จิตมันเกิดเพราะ มันไม่รู้
    ไม่รู้ว่ามันเป็นเหตุให้เวียนว่างได้อยู่
    กิริยาไม่รู้คือ มันมีผัสสะ ส่งตัววิญญานออกไปรับรู้
    แล้วก็ดึงเก็บเข้ามา ไม่ว่ากระทบอะไรก็ตาม....
    ต่อมามันจึงสร้างช่องทางให้ตัววิญญานการรับรู้เหล่านั้น
    ออกมาเป็นช่องทางต่างๆ
    มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ฯลฯ
    รวมๆเป็นร่างกายขึ้นมานี้
    จะเป็นร่างกายอะไรก็ตาม
    ก็แล้วแต่สิ่งที่จิตมันได้เก็บสะสมมา...
    เช่น สะสมกระแสดี ก็มาเป็นมนุษย์
    กระแสไม่ดี ก็เป็นสัตว์เลื้อยคลาน ฯลฯ


    ดังนั้นเมื่อมันได้มีกายนี้แล้ว ไม่ว่าคนหรือสัตว์
    ก็แสดงว่า มันเริ่่มต้นจากความไม่รู้ทั้งหลายเช่นกัน
    ดังนั้น การที่จะโผล่ออกมาดูโลก
    ไม่ว่าจะผ่าออกมา
    หรือจะออกมาตามธรรมชาตินั้น.....
    มันก็เป็นเพียงวงจรเริ่มต้น
    ในการอุปโลกน์ขึ้น
    ของทางโลก เพื่ออยู่ร่วมกับโลก
    ในวันเริ่มต้นเท่านั้นเอง
    เพื่อให้ได้รู้จัก ความเฒ่าฉะแล แก่ชรา การเกิด เจ็บ และตาย
    การพลัดพลาดจากสิ่งที่ตนรัก อีกเช่นกัน
    มันจึงยังหาใช่ สาระสำคัญอะไรไม่

     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719
    สัตบงองอาจบาตรพญานาค

    สัตบงองอาจบาตรพญานาคที่หลวงพ่อได้มา
    ก็เป็นเรื่องแปลก
    อยู่ๆก็มีโยมชื่อสันติอยู่ที่จังหวัดระยองเขานำมาถวาย
    ของชิ้นนี้เป็นของคนรุ่นเก่าแก่
    เป็นคนมอญอยู่ข้างๆบ้านโยมสันติ

    วันหนึ่งโยมสันติไปเห็นเข้าเกิดอยากได้ขึ้นมา
    ร้องห่มร้องไห้จะเอาให้ได้ของเก่าชิ้นนี้

    เจ้าของเขาถามว่าจะเอาไปทำอะไร
    คุณโยมสันติตอบว่าจะเอาไปถวายวัด
    จะไปถวายวัดทำไม
    ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยากได้เอาไปถวายวัด
    คุณกล้าซื้อหรือราคา ๓ แสน
    โยมสันติตอบว่าไม่มีเงิน
    ผู้ขายยื่นข้อเสนอให้ผู้ซื้อยืมเงิน ๒ แสน
    ยืมเงินมาซื้อของเขา โยมสันติก็เอา

    พอคุณโยมเอามาไว้ที่บ้าน เขาบอกว่า
    มีอะไรก็ไม่รู้บอกเขาให้เอาไปถวายวัดภูพลานสูงให้ได้
    เขาไม่เชื่อไม่ยอมเอาไปถวายวัด
    เขาโดนพญานาคลงโทษพาตัวเขาไปนอนแช่น้ำทะเล๗ วัน ญาติ ๆ ไปตามเจอพามาอาบน้ำอาบท่าเสร็จ
    เขาจึงบอกญาติๆว่า
    พญานาคบอกให้เอาบาตรไม้นี้ไปถวายวัดภูพลานสูง
    เขาไม่รู้ว่าเป็นสัตบงองอาจบาตรพญานาค
    เขานั่งรถตระเวนหาวัดภูพลานสูงหลงไปถึงนครสวรรค์ สอบถามเส้นทางจึงวิ่งกลับมาที่วัดภูพลานสูง
    อำเภอนาจะหลวย จังหวัดอุบลราชธานี
    เมื่อเขาถวายหลวงพ่อเป็นพุทธบูชาแล้ว

    หลวงพ่อจึงบอกเขาว่า
    นี่คือสัตบงองอาจบาตรพญานาค
    พญานาคสร้างถวายพระพุทธองค์
    เป็นบาตรไม้แกะสลักสวยงามติดกระจกฝังมุขสวยงาม
    เป็นของโบราณเก่าแก่


    บทความจาก
    วัดภูพลานสูง อุบลราชธานี
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    เหนื่อยมาก...คงอดทน
    เพื่อแลดูเมล็ดพันธุ์และต้นกล้า
    ...ที่จักค่อยๆเติบโต



    **รอชมภาพร้านสวยๆครับ**

     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,884
    ค่าพลัง:
    +4,719

    เป็นกำลังใจให้ครับ
    เพราะโอกาสเปิดแล้ว


    ท่านอจ.นพเคยบอกว่า...
    "พญานาคช่วยทางด้านค้าขาย"

    คงเป็นพลังใจสำคัญ
    ไขไปสู่ความสำเร็จในชีวิต
    และด้วยความมุมานะพยายามแห่งตน
     
  18. หนุ่มโชคชัย

    หนุ่มโชคชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +4,442
    สวัสดีครับคุณธารทอง กลับบ้านไปหาแม่ซะหลายวันเลยครับ
    คุณธารทอง ชอบนั่งสมาธิในป่าคนเดียวเหรอครับ เก่งจังครับ
    เป็นผมคงไม่กล้าครับ กลัวผี 55555
     
  19. หนุ่มโชคชัย

    หนุ่มโชคชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +4,442
    อืมมมม อ่านเรื่องคุณมลแล้ว รู้สึกเห็นใจจริงๆครับ ยังไงก็สู้ๆนะครับ
     
  20. หนุ่มโชคชัย

    หนุ่มโชคชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +4,442

แชร์หน้านี้

Loading...