เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ถ้าด้วยเงื่อนไข ตัองโดนคุณไสยก่อนแล้วค่อยแบ่ง เชื่อว่าชาติหน้าตอนบ่าย น้องณัฐก็หมดสิทธิ์ได้ ก็ดูของแต่ละชิ้นในครอบครองเหอะ อย่างยอดทั้งนั้น ให้คุณไสยเล่นงานได้ ต้องเลิกเล่นพระเครื่องรางของขลังกันแล้ว

 

ภาษานักพนันอย่างขำๆเขาว่า..."ไม้เท้าตาแป๊ะ ตีหัวตาแป๊ะ" ก็เงินของเราทั้งนั้น ที่ต้องขออนุญาตเอามาจ่าย

 

น้องเรย์น่าจะมีประสบการณ์ตรงแบบนี้มาบ้าง ถึงขำไม่หยุด

 

อันนี้เขาเรียกตอบแบบ...ได้ทีขี่แพะไล่

 

ดึกมาก คงเก็บเสื่อเรียบร้อย

 

และแล้วเรื่องก็อวสานแบบ... แฮปปี้ เอนดิ้ง
ผู้ให้และผู้รับประสบความสำเร็จสมเจตนารมณ์

 

มี"ควันหลง"แถมให้อ่านต่ออีกเล็กน้อย

 

ท่านชายทั้งหลายที่ยังคงต้อง"หยบเมีย" อ่านเรื่องน้องเสฯเล่าแล้ว ได้แต่อิจฉาลึกๆ แต่คิดดูอีกที เรื่อง"หยบเมีย"นี่ก็เป็นสีสันของชีวิตแต่ละวันเหมือนกัน ต้องมีอะไรทำแบบนี้บ้าง ชีวิตจะได้ไม่แห้งแล้งนัก สมองก็ต้องคอยนึกเรื่องราวใหม่ๆอยู่เสมอว่า ถ้าโดนจับได้จะแต่งเรื่องไรดีหว่า?

สรุปแล้ว การ"หยบเมีย"ก็ป้องกันอัลไซเมอร์ทางอ้อม-ฮ่า

 

เมื่อตอนหัวค่ำนั่งชมข่าว สมเด็จพระเทพฯท่านเสด็จแจกประกาศนียบัตรผู้บริจาคโลหิตนับพันคนที่เดอะ มอลล์ โคราช ยังยกมือสาธุ โมทนากับผู้เสียสละทุกเพศ วัย ซึ่งแต่ละท่านบริจาคกันหลายสิบหนและเป็นร้อยหน

ก่อนเข้านอนยามดึกนี้ ก็ได้โมทนากับน้องเสฯส่งท้ายอีกที หลับฝันดีมีโชคแน่คืนนี้

 

สวัสดีตอนเช้าครับคุณอา และทุก ๆ ท่าน,

พอดีจะใส่ชื่อสั้น ๆ แต่ก็ซ้ำกับท่านอื่นหมดแล้วน่ะครับ
ก็เลยเอาคำพูดที่ผมชอบพูดกับพวกเพื่อนร่วมงานมาตั้ง
น่ะครับ

ได้เห็นคุณอาใจดี ผ่านของดี ๆ ให้กับทุก ๆ ท่าน. พร้อมทั้งประวัติ หรือความเป็นมา ที่มาที่ไปเป็นอย่างไร แค่นี้้ผมก็สนุกและอิ่มใจแล้วครับ

และขอบพระคุณสำหรับชื่อใหม่ด้วยครับ "กาลเวลา"

ด้วยรักและเคารพ,
กาลเวลา

 

สวัสดีครับ มีโชคกันทุกคนนะครับ เฮง เฮง เฮง ครับผม

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน ขอให้ประสบพบโชคลาภทุกท่าน รวมทั้งผมด้วยน่ะครับ

 

สวัสดียามเช้าเข้าเดือนใหม่ครับคุณอา Wanwi และผองสมาชิกทุกท่านครับ
ขอให้มีโชคลาภดี เก็งตัวไหนขอให้ได้ขอให้โดนขอรับ

 

เช้าวันนี้ผมได้ไปทำบุญใส่บาตรต้นเดือนที่วัดพุทธบูชา บางมด กรุงเทพฯ มาครับ ทั้งใส่บาตรอาหารและบริจาคเงิน (แบงค์ 20 บาท) ทั้งสร้างวัด, บูรณะวัด, สร้างเจดีย์, สมทบบวชเนกขัมมะ, ใช้หนี้สงฆ์, สมทบเผยแผ่พระพุทธศาสนา, ถวายภัตตาหารพระ, บริจาคให้ผู้พิการที่ชราภาพ, ช่วยเหลือหมาแมว, ไถ่ชีวิตโคกระบือ ครับ ก็ขอนำบุญในเช้าวันนี้มาฝากสมาชิกทุกท่านด้วยนะครับ

 

กราบสวัสดียามสายวันเสาร์ค่ะคุณอา wanwi และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

เช้าวันนี้อากาศเย็นสบาย ยังไม่ร้อนมากค่ะ ขอให้ทุกท่านโชคดีมีลาภกันทั่วหน้านะคะ

 

ท่านอา Wanwi และเพื่อนสมาชิกครับ ผมมีคำสอนจากพระอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งผมจำชื่อท่านไม่ได้เกี่ยวกับการทำบุญทำทานครับมาฝากครับ ท่านว่าไว้ดังนี้ครับ

การทำบุญทำทานนั้นควรจะทำให้ครบถ้วนทั้ง 3 ลำดับชั้น ซึ่งแต่ละลำดับชั้นมีความสำคัญแตกต่างกันดังนี้

ชั้นที่ 1 บุคคลและสิ่งที่เหนือเรา อันได้แก่พระพุทธศาสนา ภิกษุสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เทพเทวาและพรหม เพราะท่านเหล่านี้มีคุณธรรมสูงกว่าเราและมีบุญคุณใหญ่หลวงต่อเรา เป็นเนื้อนาบุญอันประเสริฐควรแก่การทำบุญทำทาน

ชั้นที่ 2 บุคคลและสิ่งที่เสมอเรา อันได้แก่เพื่อนมนุษย์ร่วมโลก เพราะพวกเราล้วนเป็นมนุษย์เท่าเทียมกันดังนั้นจึงควรให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

ชั้นที่ 3 บุคคลและสิ่งทีต่ำกว่าเรา อันได้แก่สัตว์เดรัจฉานและโอปปาติกะที่อยู่ในอบายภูมิ ถึงพวกเขาเหล่านั้นจะอยู่ในภพภูมิที่ต่ำกว่าเรา แต่ทว่าพวกเขาและเราต่างก็เกิดแก่เจ็บตายอยู่ในวัฏฏะสงสารเหมือนกัน ดังนั้นในขณะที่เรามีโอกาสที่สามารถทำบุญทำทานได้ก็ควรเผื่อแผ่ให้กับพวกเขาด้วยเช่นกัน

 

ประเดิมวันเสาร์แรกของเดือนสุดท้ายแห่งปี คำถามจากน้องเรย์ถึงคุณพัฒน์เรื่องความโสดที่คุณพัฒน์ยืนยันหลายเที่ยวว่าจริงแท้แน่นอน ยังไม่ใครสามารถทำให้เปลี่ยนใจลงจากคานได้

แต่ที่จะฉลองนั้น น้องเรย์ฉลองให้ใคร?หรือว่าให้ตัวเองด้วย-ฮ่า

 

คุณชัยวัฒน์จัดพิกัดระยะทางให้ชมเสียเลยว่า จากแมสซาฯถึงกทม.ไกลมากแค่ไหน แต่เห็นกดเข้าโพสท์ทุกครั้งก็ใช้เวลารวดเร็วปานลัดนิ้ว ย่างเข้ายุค5-6จีเมื่อใด ต่อให้อยู่นอกจักรวาลก็รวดเร็วปานกันไม่ว่าอยู่หนแห่งใด ความเร็วในการสื่อสารเริ่มจะไวเหนือแสง ไม่รู้จะรีบไวไปไหน ใครได้ประโยชน์ ?นอกจากคนขายเครื่องมือที่จะมั่งคั่งไม่รู้เรื่อง- เฮ้อ

 

พระขุนแผนเก่าแก่ดั้งเดิมก็คือ ปฏิมากรรมแทนองค์พระพุทธชินราชย่อส่วน สร้างเพื่อเทิดทูนพระพุทธศาสนาและเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะ เป็นพระเพื่อการศึกสงครามโดยแท้ แต่คงมีบางคนในสมัยโบราณนำติดตัวไปใช้ แล้วเกิดดีทางเมตตามหาเสน่ห์และเล่าลือต่อๆกันไปว่า พระนี้เด็ดยังกับขุนแผนมาเอง

เท่านั้นแหละองค์พระพุทธชินราชบ้านกร่าง ก็กลายเป็น"ขุนแผน"ไปซะ ตามประสาไทยๆที่ชอบดัดแปลงพลิกแพลงของเดิมให้กลายเป็นของอีกแบบ ธรรมเนียมพระขุนแผนเลยเกิดขึ้นมา เพราะพบพระนี้บนแผ่นดินที่กำเนิดเรื่องราว"ขุนช้าง-ขุนแผน"เข้าด้วย เรื่องจึงกลมกลืนไปกันได้ กลายเป็นว่าชนรุ่นหลังเกือบไม่รู้แล้วว่า ต้นตอกำเนิดพระขุนแผนเป็นมาอย่างไร?

ยิ่งคนขายพระรุ่นหลังๆ ไม่ต้องเซ่ด อะไรเป็นนิยายขายได้ ก็รีบแต่งเติมเรื่องราวเข้าไป ตัวเองยังไม่เคยรู้เลยว่า พระขุนแผนจริงแล้วคืออะไร?

จึงต้องบันทึกเรื่องเก่าเล่ายี่ห้อไว้บ้าง อย่าได้ลืมเลือน เผื่อว่า พระอาจารย์นักสร้างพระ หากินกับการปลุกเสกพระ จะได้รำลึกรู้ว่า ควรจะสร้างพระให้อยู่ในขอบเขตบ้างอย่างไร ไม่ใช่สร้างเลยเถิดจนกลายเป็นอวดอุตริ พาให้ชาวพุทธกลายเป็นชาวเพี้ยนสุดโต่ง