รู้อดีตชาติปัจจุบันอนาคตด้วยตัวเอง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย pump - อภิเตโช, 21 กรกฎาคม 2008.

  1. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    รู้อดีตชาติปัจจุบันอนาคตด้วยตัวเอง

    ตัวเราก็สามารถที่จะรู้อนาคตของเราเองได้เรื่องอนาคตข้างหน้านั้น ใครๆ ก็อยากรู้ทั้งนั้นคนที่ไม่ได้อนาคตังสญาณแล้วจะรู้ได้อย่างไรเรื่องนี้แรกๆ ได้ฟังพระท่านฯ สอนก็งงๆ อยู่ต่อเมื่อพระท่านฯ อธิบายแล้วจึงเข้าใจ

    พระท่านสอนว่าชาติปัจจุบันที่เราเสวยสุขของเรื่องต่างๆอย่างนี้เป็นเพราะการกระทำที่เราได้ทำมาแล้วในอดีตชาตินั่นเองเช่นคนที่ร่ำรวยเป็นเศรษฐี ก็เพราะเขาได้ทำบุญให้ทานมาแล้วในชาติก่อนส่วนพวกที่เป็นคนจนแสดงว่าทำมาน้อย หรือไม่ได้ทำบุญให้ทานมาในชาติก่อนชาตินี้จึงต้องจน

    ถ้าคนนั้น มีสติปัญญาดีฉลาดรอบรู้แสดงว่าคนนั้นได้เคยทำสมาธิ เจริญกรรมฐานมาอย่างต่อเนื่องและถ้าบุคคลใดที่โง่เง่าปัญญาอ่อนหรือมีสติปัญญาไม่สมประกอบแล้วแสดงว่าในอดีตชาตินั้นชอบดื่มสุราเมรัยเรียกว่าเมาทุกวัน
    ส่วนคนที่ในชาตินี้ ต้องอกหักผิดหวังในเรื่องของความรักแสดงว่า ชาติก่อนเคยทอดทิ้ง หลอกลวงผู้อื่นมาแล้วทำให้เขาชอกช้ำใจมาก่อนชาตินี้จึงต้องรับกรรมเรื่องอกหักไป

    สรุปว่าในชาตินี้เราได้รับประสบผลกรรมอะไรมาก็ตามนั่นเป็นสิ่งที่เราได้เคยสร้าง เคยทำมาแล้วทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ดี หรือเรื่องที่ไม่ดีมีความสุขหรือมีแต่ความทุกข์ต่าง ๆ ก็เรานั่นแหละเป็นผู้สร้างมาแล้วนั่นเอง

    พระท่านบอกว่าปลูกต้นมะม่วงก็ต้องได้ผลเป็นมะม่วงจะได้ผลเป็นทุเรียนที่ราคาแพงกว่านั้นจะเป็นไปได้อย่างไร มันเป็น ไปไม่ได้ หรือทำชั่วได้ชั่ว ทำดีต้องได้ดีนั่นเอง แม้เชื่อในเรื่องกรรม ไม่มีผู้ใด จะได้รับ สิ่งที่ตนได้ทำไว้ด้วยตนเองทำไว้ในอดีตมารับผล ในปัจจุบันได้ทำในปัจจุบันก็จะได้รับผลในอนาคตเช่นกันและอนาคตนั้นไม่หมายถึงต้องข้ามภพข้ามชาติเสมอไปอนาคตในภพชาตินี้ ก็ได้

    ดังนั้นแม้เชื่อในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรมหรือไม่เชื่อก็ตามก็ไม่สามารถ (สมควร) เสี่ยง รับผลร้ายที่จะเกิดแต่การทำความไม่ดี หนักหนาเพียงไรยิ่งให้ผลร้ายแรงเพียงนั้นยิ่งไม่สมควรเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำความไม่ดี หนักหนานั้น ;4
     
  2. KimGuidDi

    KimGuidDi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +267
    จริงครับ
    ดังนั้นผู้ที่ได้รับอานิสงค์ผลบุญจากชาติก่อนๆ
    ยังไงก็อย่าลืมต่อยิดบุญนะครับ
     
  3. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +308
    เข้าใจถูกครับ รู้อดีต รู้ปัจจุบัน และก็รู้อนาคตด้วย ทุกอย่างมาจากการทำสมาธิภาวนา เวลาเราภาวนากรรมไม่ดีต่างๆมันจะทยอยออกมาทางความคิดเรื่อยๆครับ มันจะค่อยๆย้อนไปทีละนิด บางคนถึงมักสงสัยตัวเองว่าทำไมภาวนาไม่สงบสักที ให้เข้าใจว่ากระแสพลังงานจากคำภาวนาที่เราใช้กำลังเข้าไปฟอกจิตเราอยู่ครับ ฟอกลึกลงไปเรื่อยๆ ลึกไปถึงอดีตชาติกรรมอกุศลต่างๆที่เราเคยได้ทำไว้ จะแสดงออกมาให้เรารู้ครับ บางที่จะเรียกว่าออกกรรมก็ได้

    การภาวนาคุมจิตไว้ตลอดจะรู้ปัจจุบันว่าตอนนี้ชีวิตเรากำลังเดินอยู่ในฝ่ายไหนกุศลหรืออกุศล ถ้ารู้ตนปั๊บว่ากำลังเดินอยู่ในฝ่ายอกุศลก็จงหยุดสิ่งเหล่านั้นก้าวออกมาด้วยสติที่ได้จากการภาวนาของเราทุกวัน การภาวนาที่ดีต้องมีสติในการละวางสิ่งที่ไม่ดีได้ละที่จิตเราเองไม่ต้องพยายามไปบังคับให้จิตคนอื่นละสิ่งไม่ดีแล้วเรายึดสิ่งไม่ดีนั้นซะเอง อันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่สมควร

    อนาคตเราก็แน่นอนว่าเราเพียรฟอกจิตให้ค่อยสะอาดแจ่มใสอยู่เป็นนิจ เทวดา พรหม คือผู้มีจิตใจที่ใสสะอาด เราก็มีสิทธิ์พึงไป ถ้าจิตสะอาดถึงที่สุดละวางได้ทุกอย่างก็ไปที่สุดแห่งการวางคือพระนิพพาน ไม่มีใครลิขิตชีวิตให้เราได้เราลิขิตของเราเอง เราเลือกเองว่าชีวิตนี้เราจะเกาะสิ่งดีหรือเกาะสิ่งไม่ดี เราสามารถเห็นตนเองในอนาคตได้เลยทุกอย่างล้วนมาจากการฝึกฟอกจิตภาวนา
     
  4. แผ่บุญ

    แผ่บุญ ชอบ~ศรัทธา 40 อสงไขย

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2018
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +308
    ปัจจุบันนี้ถ้าเรามีสติพิจารณาจิตเราจริงๆเราจะรู้ได้เลยว่า จิตเรามีทิศทางของอนาคตไปทางไหน สภาพจิตของมนุษย์ทั่วไปจะคิดกันเรื่องปากท้องความเป็นอยู่ทั่วไปไม่เหนือไปจากขอบเขตของโลกมนุษย์นี้ ถ้าวันๆเราคิดอยู่แต่เรื่องการเป็นอยู่ทำมาหากินครอบครัวลูกเต้าอะไรพวกนี้ ให้รู้ว่าอนาคตเราก็มีแนวโน้มแห่งวิถีจิตไปทางการเกิดเป็นมนุษย์อีก

    ถ้าวันๆเราคิดถึงเรื่องของบุญกุศลคือคิดด้านดีไปเคยไปทำบุญที่ไหนก็นึกถึงเป็นประจำนึกถึงเมื่อไรก็ดีใจชื่นใจในผลบุญที่ตนเองทำแล้วทุกครั้งหรือคิดไว้วางแผนไว้ว่าจะไปทำบุญที่นั่นที่นี่อยู่เป็นนิจเป็นประจำแน่นอนว่าวิถีจิตเราอิ่มเอิบไปด้วยบุญแทบจะตลอดเวลา ให้รู้ว่าอนาคตเรามีแนวโน้มแห่งวิถีจิตไปทางการเกิดเป็นเทวดานางฟ้า

    แต่ถ้าเราชอบภาวนาชอบความสงบจิตสงบใจวันๆมักอยู่กับอารมณ์นิ่งๆสงบด้วยอำนาจของผลในสมาธิเป็นหลักของชีวิตถึงจะมีอารมณ์ส่ายไปทางอื่นบ้างแต่อารมณ์ส่วนใหญ่ของชีวิตคืออารมณ์สงบอารมณ์ภาวนาบริกรรมเป็นหลัก ให้รู้ว่าอนาคตเรามีแนวโน้มแห่งวิถีจิตไปทางการเกิดเป็นเทพพรหม

    เพราะทุกอย่างที่เราชินในปัจจุบันและก็สามารถทำซ้ำๆได้โดยจิตไม่รู้สึกผิดปกติอะไร ทางกฏแห่งกรรมเรียกว่า อาจิณกรรม คือกรรมที่ทำจนฝังลึกลงในจิตจนจิตรู้สึกว่าจิตกับสิ่งนั้นเป็นเนื้อเดียวกัน เรารู้อย่างนี้แล้วเราจะเลือกทางเดินไหน นั่นก็ไม่มีใครมาบังคับเราอีกเช่นกัน เราเลือกของเราเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...