พุทธวจน-วงจรปฏิจจสมุปบาท คือ ทางสายกลางในการปฏิบัติครับ

หืมม์... ที่พูดว่าดึงนั่นน่ะมันตัวเองชัดๆ 555

 

ถ้าเราจะเรียนรู้ให้เห็นตรงความจริง มันจะฉลาดขึ้นไหมครับ ถ้ารู้แต่หนึ่งทุกข์ๆในปัจจุบันมันจะเบื่อหน่ายคลายกำหนัดกับเลิกโง่ได้ไหม เราฉลาดแล้วเหตุจะดับไหมครับอ.ผู้บรรลุธรรมหรือใคร

 

เพ้อเจ้อ อุปทาน ไบโพล่า อีกละ....ก็ไหนว่า โบกมือลา กลับมาทำไมอีก
อาจารย์ผมก็มนุษย์เดินดินนี่แหล่ะ แต่ปัญญาท่านสูงส่งกว่าดวงดาวเสียอีก
มีอะไรจะมาเพ้อเจ้อ ไร้สาระอีกครับ

เชิญ..ว่ามา ท่านไบโพล่า

 

ใครที่เรา โยนิโส มาเป็นตัวอย่าง เป็นบทเรียนให้กับเราได้ ก็เป็นอาจารย์ผมทั้งนั้นแหล่ะ อย่างท่าน ใครทะลุธรรม เนี่ยมผมก็โยนิโสท่าน มาเป็นตัวอย่างเหมือนกันนะ...ตัวอย่างของคนเป็นไบโพล่า..ไง
ตัวอย่างของพวกชอบยกยูทูป ชอบยกคำของคนอื่นมา ..โดยคิดว่า ตนเองจะไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ถ้ามันไม่ถูกไง..สะหลาดเนาะ

 

อย่างท่านพระศรีเล่าปังนี่ก็อาจารย์ผม
ท่านมีแบบ ขึ้นๆลงๆ ไม่อยู่กะร่องกะรอย อันไหนพูดดี ก็เอามาเป็นตัวอย่างที่ดี
อันไหนที่ไม่ดี ก็เอามาเป็นตัวอย่างว่าไม่ดี
ผมเลือก เองได้...

 

ว่าแต่ ท่าน ใครทะลุทำ....ทำไมต้องอ้าง อะไรๆว่าเป็นพุทธวจน ทำไม
อ้างเพื่อ ไม่อยากให้คนอื่นมาเถียง มาขัดแย้ง งั้นสิ...เพราะเอาคำว่า เป็น พุทธวจน มาอ้าง...แหล ไม่เบาเลยเนาะ

 

พุทธวจน ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัส ถูกหมดแหล่ะ
แต่มันจะผิด เมื่อ พวกอวิชชา ยกมาอ้าง
เพราะยกมาอ้างแล้ว เาลามีคนถาม กลับตอบไม่ได้ อธิบายไม่ถูก
เลยสร้างความมัวหมองให้กับ พุทธวจน

 

อธิบายพุทธพจน์หรือพุทธวจนะ
อย่างบิดเบือนไม่ตรงกับเจตนา
ของพระพุทธองค์
มันเป็นเรื่องน่าสยดสยองในบาปเวรที่จะเกิด
กับผู้เจตนาบิดเบือนนั้น ฮับ

 

..คุณนี่บ้ามากี่ปีแล้ว-น่าสงสารจริง..ไม่หายรึ

 

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
จุลวรรค ภาค ๒


เรื่องทรงห้ามยกพระพุทธพจน์ขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต
[๒๘๕] สมัยนั้นภิกษุ ๒ รูป ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะ เป็นพี่น้องกัน เกิดใน
ตระกูลพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวานมีเสียงไพเราะ ภิกษุทั้ง ๒ รูปนั้นเข้าไปเฝ้าพระ
ผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นถึงแล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่สมควร
กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า “พระพุทธเจ้าข้า เวลานี้ภิกษุต่างชื่อ ต่างโคตร ต่าง
เชื้อชาติ ต่างตระกูลพากันออกบวช ภิกษุเหล่านั้นทำพระพุทธพจน์ให้ผิดเพี้ยนด้วยภาษา
ของตน๑- ขอวโรกาส ข้าพระพุทธเจ้าจะขอยกพระพุทธพจน์ขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต”๒-
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงตำหนิว่า “ฯลฯ โมฆบุรุษทั้งหลาย ไฉนพวกเธอ
จึงกล่าวอย่างนี้ว่า ‘ขอวโรกาส ข้าพระพุทธเจ้าจะขอยกพระพุทธพจน์ขึ้นเป็นภาษา
สันสกฤต’เล่า โมฆบุรุษทั้งหลาย การกระทำอย่างนี้ มิได้ทำคนที่ยังไม่เลื่อมใสให้เลื่อมใส
ฯลฯ” ครั้นทรงตำหนิแล้ว ฯลฯ ทรงแสดงธรรมีกถารับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุ
ทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติ
ทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะด้วยภาษาของตน”