ติดตามสถานะการณ์

3,000 ลูกจ้างร้านต้มยำตกค้างในมาเลย์ วอนรัฐช่วย-อยากกลับบ้าน
เขียนวันที่ วันพุธ ที่ 01 เมษายน 2563 เวลา 23:54 น. เขียนโดย ศูนย์ข่าวภาคใต้

หลังจากรัฐบาลมาเลเซียประกาศปิดประเทศ ปิดด่านพรมแดนทุกด้าน รวมทั้งด้านเหนือที่ติดกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.63 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีคนไทยในมาเลเซียทยอยเดินทางกลับบ้านเกิดนั้น



ปรากฏว่าตลอดเกือบครึ่งเดือนที่ผ่านมายังมีคนไทยตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นแรงงานร้านต้มยำ (ชื่อเรียกร้านอาหารไทยในมาเลเซีย) แรงงานภาคประมง แรงงานสาขาอื่นๆ และนักเรียน นักศึกษา ตลอดจนผู้ที่เดินทางไปทำธุระ เยี่ยมญาติ แล้วกลับออกมาไม่ทัน

ยิ่งรัฐบาลมาเลเซียต่อเวลาปิดประเทศออกไปจนถึงวันที่ 14 เม.ย. ยิ่งทำให้คนไทยที่เป็นผู้ใช้แรงงาน และทำธุรกิจที่มาเลเซียต้องการเดินทางกลับประเทศ เพราะช่วงเวลาการปิดประเทศยาวนานเกินไป และบรรยากาศภายในประเทศก็มีคำสั่งห้ามเปิดร้านหรือสถานประกอบการเพื่อค้าขายไม่ต่างอะไรกับประเทศไทย ทำให้เมืองทั้งเมืองเหมือนถูกชัตดาวน์

สำหรับความเคลื่อนไหวทางฝั่งไทย ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ได้มีคำสั่งผ่อนผันเปิดจุดผ่านแดนเป็นพิเศษ 4 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไทยในมาเลเซียเดินทางกลับประเทศ คือ ด่านตำมะลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล, ด่านวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล, ด่านสะเดา อำเอสะเดา จังหวัดสงขลา และด่านสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

เงื่อนไขในการข้ามพรมแดน คือ ต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางกลับเข้าประเทศที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ หรือสถานกงสุลใหญ่ไทยในมาเลเซีย และต้องมีใบรับรองแพทย์อายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง ยืนยันว่ามีสุขภาพพร้อมเดินทาง หรือ Fit to travel

ทว่าตั้งแต่มีการเปิดจุดผ่านแดนเป็นกรณีพิเศษ 4 แห่ง ปรากฏว่ามีคนไทยในมาเลเซียแห่เดินทางกลับเข้าประเทศจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ติดเงื่อนไขเอกสารไม่ครบ ทำให้ข้ามแดนไม่ได้ อย่างเช่นที่ด่านวังประจันมีปัญหามาตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. มีคนไทยที่ทำงานในมาเลเซียมารอข้ามแดนกว่า 200 คน แต่เข้าประเทศไม่ได้

ส่วนที่ด่านสะเดา มีผู้ขอเดินทางกลับเข้าประเทศไม่ต่ำกว่า 200 คนเช่นกัน โดยเมื่อวันที่ 31 มี.ค. เจ้าหน้าที่ได้ไปตั้งหน่วยคัดกรองคนผ่านแดนเพื่อตรวจสุขภาพสกัดโควิด-19 ทำให้กลุ่มแรงงานไทยต้องเดินเท้าราว 1.5 กิโลเมตรจากด่านมาเลเซียกว่าจะถึงด่านไทย

ที่ด่านสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ตรงข้ามด่านรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้เปิดช่องทางให้คนไทยเดินทางกลับประเทศได้เป็นกรณีพิเศษ ระหว่างเวลา 07.00-19.00 น. โดยช่องทางนี้อนุญาตให้เฉพาะผู้มีสัญชาติไทย และมีภูมิลำเนาหรือมีที่พักอาศัยในปัจจุบันอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น

สำหรับบรรยากาศที่ด่านสุไหงโกลก มีผู้เดินทางข้ามแดนไม่มากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าคนจากสามจังหวัดจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เดินทางไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางกลับบ้านก่อนที่ทางการมาเลเซียจะประกาศปิดด่านและล็อคดาวน์

ขณะที่ขั้นตอนหลังเดินทางผ่านด่าน จะต้องมีการแจ้งข้อมูลจุดหมายปลายทาง และหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจเยี่ยมเพื่อติดตามอาการในระยะ 14 วัน จากนั้นจะมีรถนำส่งไปยังจังหวัดปลายทางเพื่อป้องกันการตกค้างในพื้นที่ เนื่องจากจังหวัดนราธิวาสประกาศปิดเส้นทางการคมนาคมทั้งหมดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี ล่าสุดมีข่าวจากพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ครองที่นั่ง ส.ส.มากที่สุดในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่าทางพรรคได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้ประกอบการร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซียว่ามีลูกจ้างร้านต้มยำตกค้าง กลับประเทศไม่ได้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังไม่มีเงินซื้ออาหารรับประทาน

นายซัมซูดิง วาซูกาเตาะ หรือ วันซำซูดิง ประธานกลุ่มผู้ประกอบการต้มยำกุ้งในมาเลเซีย รายงานสภาพปัญหาว่า ร้านอาหารต้มยำกุ้งส่วนมากต้องปิดกิจการชั่วคราว จากมาตรการปิดประเทศของรัฐบาลมาเลเซีย แม้จะอนุญาตให้เปิดขายอาหารแบบนำกลับได้ แต่ก็มีร้านต้มยำส่วนน้อยเท่านั้นที่ยังคงเปิดร้านอยู่ โดยเปิดจำหน่ายได้ในระหว่างเวลา 08.00 20.00 น. ตามที่รัฐบาลมาเลเซียอนุญาต

สำหรับร้านที่ปิดชั่วคราวนั้น ยังมีลูกจ้างอีกจำนวนมากที่ยังคงตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ เท่าที่สำรวจในเบื้องต้นมีจำนวนไม่น้อยกว่า 3,000 คน ลูกจ้างกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากการปิดร้าน ต้องหยุดงาน ส่งผลให้ไม่มีเงิน และขาดแคลนอาหาร นอกจากนั้นยังมีผู้ประกอบอาชีพอิสระ เช่น รับจ้างทั่วไป พ่อค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งเป็นคนไทย ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยในเบื้องต้นทางสถานทูตไทยได้มอบสิ่งของยังชีพเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แล้ว แต่ก็ยังไม่ทั่วถึงและไม่เพียงพอ

ส่วนการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น เป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีหลายขั้นตอนต้องดำเนินการ เช่น ต้องขอใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาล, ต้องติดต่อเพื่อขอใบรับรองจากสถานทูตซึ่งอยู่ห่างไกล การเดินทางไปสถานทูตต้องขออนุญาตที่สถานีตำรวจก่อน และการเดินทางก็มีระยะเวลาจำกัด รถโดยสารสาธารณะมีไม่เพียงพอ เนื่องจากอยู่ในภาวะปิดประเทศ จะเดินทางกลับด้วยรถส่วนตัวหลายคนก็ไม่ได้ เพราะทางการมาเลเซียอนุญาตให้เดินทางเพียงคนเดียว การเดินทางกลับไทยจึงมีอุปสรรคอย่างมาก

เหตุนี้ทางกลุ่มผู้ประกอบการต้มยำกุ้ง และลูกจ้างร้านต้มยำจึงขอความช่วยเหลือ 2 ประการ คือ 1.สนับสนุนเสบียงอาหารเพื่อยังชีพระยะสั้น และ 2.ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยให้นำรถบัสมารับ แล้วเดินทางกลับพร้อมกัน ซึ่งทุกคนพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองเชื้อไวรัสและถูกกักตัวในประเทศไทย โดยขอเพียงได้กลับภูมิลำเนาในยามนี้เท่านั้น

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายภาพ : ข้อความและภาพการร้องขอความช่วยเหลือจากลูกจ้างร้านต้มยำกุ้งในมาเลเซียที่อยากกลับบ้านเกิด

https://www.isranews.org/article/so...eng&utm_medium=partner&utm_campaign=giraff.io

 

สหรัฐฯ อาการหนัก ติดโควิดเกิน 200,000 ราย ยอดรวมทั่วโลกทะลุ 900,000 คน
ยอดสะสมของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกมีจำนวนมากกว่า 900,000 รายแล้ว โดยมากกว่า 200,000 รายในจำนวนนี้อยู่ในสหรัฐฯ เพียงประเทศเดียว



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...i-i4C73pjFHT8hpGha2dR1pjbJkP3vvl-f92-9MhhrL28

 

อยู่บ้านเตรียมพร้อมถ่างตา พุธที่ 8 เมษายนนี้ชม Super Pink Moon ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกสุดในรอบปี! สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่
•

เตรียมถ่างตาให้พร้อม 8 เมษายนนี้ รอชมดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี !! "Super Pink Moon"
•
ช่วงนี้อยู่บ้านฝึกถ่ายรูปไว้ให้พร้อม! งัดกล้อง และขาตั้งกล้องออกมาปัดฝุ่นกันเสียหน่อย ไม่งั้นจะพลาดการเก็บภาพดวงจันทร์กันได้นะ
•
8 เมษายน 2563 ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี ห่างเพียง 356,897 กิโลเมตรเท่านั้น! ทำให้เราเห็นดวงจันทน์ใหญ่กว่าขนาดปกติ 7.8%
•
“Super Moon” เป็นเหตุการณ์ที่ดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบปี นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “Perigee”
•
ดวงจันทร์มีวงโคจรเป็นวงรี ทำให้ระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์ไม่เท่ากัน บางครั้งอยู่ใกล้บางครั้งอยู่ไกล ซึ่งเหตุการณ์ที่ดวงจันทร์ไกลโลกมากที่สุดจะเรียกว่า “Apogee”
•
หากนำเอาภาพดวงจันทร์ในวันที่ 8 เมษายน ไปเปรียบเทียบกับภาพดวงจันทร์ในวันที่ 31 ตุลาคม ในปีเดียวกันนี้ เราก็จะได้ภาพดวงจันทร์ที่เห็นขนาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน (ต้องถ่ายด้วยอุปกรณ์เดียวกัน) ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกมากที่สุด (Micro Full Moon) โดยในปีนี้ Micro Full Moon จะเกิดขึ้นตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2563
•
ที่พิเศษไปกว่านั้นพระจันทร์เต็มดวงในเดือนเมษนั้นถูกเรียกว่า Pink Moon เป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงใกล้โลกในเดือนเมษายน มองเห็นได้ทุกที่ เรียกว่า 'Pink Moon' หรือ 'พระจันทร์สีชมพู' ประกอบรวมกันจึงเป็นชื่อ Super Pink Moon
•
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้เป็นสีชมพู แต่ตั้งชื่อตามช่วงที่ดอกไม้ป่าสีชมพูชื่อ "กราวด์ ฟล็อกซ์” จะเบ่งบาน ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ นั่นเอง
•
ที่มา

http://www.narit.or.th/index.php/astro-photo-article/887-8

https://news.thaipbs.or.th/content/279393

เด็กหญิงแก้มยุ้ยเป็นมิตร
environman

 

... "วิกฤติไวรัส: คนอเมริกาและทั่วโลกอาจตกงานมากและนานสุดเป็นประวัติการณ์"

... แม้ว่าลุงทรัมป์จะบีบเฟดให้ลดดอกเบี้ยลงแตะระดับศูนย์ รวมทั้งอัดฉีดเงินช่วยเหลือมากมายเป็นประวัติการณ์ แต่ทว่าไวรัสยังทำให้การติดต่อค้าขายทั่วโลกถูกตัดขาด ก็เลยไม่มีผลในการเยียวยามากนัก อเมริกาเองก็ยังห้ามเที่ยวบินจากยุโรป, ทำให้คนกอดเงินไว้ที่บ้าน ไม่มีภาคการผลิตจริง ราคาน้ำมันอาจจะตกลงมาที่ระดับ10 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ต่ำสุดในประวัติศาสตร์

... จะทำให้เงินจะยังฝืดต่อไปแม้ดอกเบี้ยต่ำ เพราะนักลงทุนไม่อยากเสี่ยงขาดทุนถ้าลงทุนอะไรตอนนี้ ทำให้การผลิตไม่มี คนตกงานในอเมริกาถูกพยากรณ์ว่าจะมากถึงร้อยละ30 ทุกคน "กอดเงินไว้กับตัวเอง" ไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉินทั้งมหภาคและจุลภาค

... ในช่วงวิกฤติ "นักลงทุนและผู้ประกอบการ" จะตัดค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ทั้งค่าแรงค่าวัสดุ(ลดจำนวนคนงาน ) รวมทั้งการไม่ลงทุนในระยะยาวที่ได้เงินคืนมาช้า ไม่แน่นอนหรือเสี่ยง เหมือนปิดท่อน้ำเข้านา

... ทั่วโลกจะประสบกับภาวะถดถอยแบบนี้เป็นระยะเวลานาน หรือ Stagnation , การเติบโตทางเศรษฐกิจจะถดถอย คนว่างงานทั่วโลก แม้จะอัดฉีดเงินหรือลดดอดเบี้ยต่ำแตะระดับใกล้หรือศูนย์ก็ตาม

... และจะกินระยะเวลานาน โดยเฉพาะความตื่นตระหนกกับไวรัส ที่ยังควบคุมไม่ได้ จะยิ่งนานแบบไม่รู้เวลาสิ้นสุดของวิกฤติ

... การเกิดวิกฤติโรคระบาด คนตกงาน ลูกค้าหาย คนก็ยิ่งประหยัดอดออม ความต้องการจับจ่ายสินค้าต่ำลง ยิ่งทำให้เงินในระบบฝืด

... ในระยะยาวอาจจะส่งผลต่อการลดลงของ "จำนวนประชากรโลก" คนจะไม่กล้ามีลูกเพิ่มเพราะจะเป็นภาระในการเลี้ยงดูบุตรมากขึ้น

... และ "ความเข้มข้น วัฒนธรรม องค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหาของแต่ละสังคม" แต่ละประเทศก็จะมีผลทำให้ การถดถอยทางวิกฤติเศรษฐกิจตกต่ำมากน้อยต่างกัน ในแต่ละประเทศ

... เช่น "จีน" การมีความรู้ทางการแพทย์ที่สูงในการต่อสู้กับวิกฤติไวรัสที่ดีกว่า ผู้นำมีวิสัยทัศน์ในการประเมินวางแผนแก้ไขปัญหาดีกว่า ระบบการปกครองแบบพรรคเดียว ผู้คนมีวินัยสูงและรับผิดชอบสังคม ร่วมมือกันดีกว่า ก็จะแก้ปัญหา คลี่คลายปัญหา ความเข้มข้นของการถดถอยทางเศรษฐกิจก็น้อยกว่า

... แต่ถ้าประเทศที่มีสิ่งเหล่านั้นตรงกันข้าม ผู้นำไม่เคยศึกษากรณีจากประเทศอื่น จำนวนแพทย์ หรือโรงพยายาล ด้านโรคระบบทางเดินหายใจต่ำ ผู้นำประเมินปัญหาไม่แตกฉาน ตัดสินใจ ล่าช้า เงินในคลังน้อย รัฐบาลที่ผ่านมาหลายสิบปีก็โกงกินสูง ก็จะมีโอกาศที่จะเกิด Stagnation สูงและนาน ทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวนานหลายปีกว่า จำนวนคนตกงานจะมากและนานกว่าประเทศจีนเป็นต้น

... เมื่อคนตกงานมาก "วิกฤติเศรษฐกิจ" ก็จะโดมิโน่ตามมาด้วย "วิกฤติทางสังคม" ตามมาเช่น อัตราการเกิดอาชญากรรมจะสูงขึ้น ปล้นจี้ชิงทรัพย์ เกิดการปลอมธนบัตร แชร์ลูกโซ่รูปแบบใหม่ที่หลากหลายและซับซ้อนกว่าจะเกิดขึ้นมา, เงินคริปโตที่ไม่มีโภคภัณท์มารองรับอาจจะกลับมาอีกครั้ง ค้ายาเสพติด ขายตัว มากขึ้นเป็นต้น

... ( ยังไม่นับบางกรณี ประเทศมหาอำนาจบางชาติ อาจจะหาทางบีบประเทศเล็กๆ ให้ "ซื้ออาวุธสงคราม" ผ่านทางนายหน้าอาวุธสงครามและความสัมพันธ์ทางทหารมายาวนานเป็นระบบตั้งแต่สงครามเย็น ... ถ้าไม่ซื้อเขาก็อาจจะมีก่อการร้ายหรือการยุยงให้มีการประท้วง หรือใส่ร้ายเรื่องมนุษยชน หรือ การกลั่นแกล้งทางการค้า ตัดสิทธิ์การส่งออกอะไรอีกมากมายได้ )

... ดูจากบุคลิกของผู้ปกครองที่ผ่านมาหลายสิบปี รวมทั้งสมัยปัจจุบัน รวมทั้งความสามารถและวินัยของคนในชาติแล้ว วิกฤติไวรัสครั้งนี้ น่าจะทำให้ประเทศไทยมีอัตราการว่างงานที่มากและนานเป็นประว้ติการณ์เช่นกัน

... เครือข่ายนายธนาคารโลกจากประเทศนักล่าจะเสนอ "เงินกู้" มาให้พร้อมกับการบีบให้ขายรัฐวิสาหกิจหรือที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรทางธรรมชาติ ไฟฟ้า น้ำใช้ น้ำดื่ม บังคับซื้อ 5จีของเขา, ในประเทศนั้นๆ เป็นการล่าอาณานิคมแบบใหม่อีกครั้งหนึ่ง เป็นระบบทาสสมัยใหม่ ศักดินาสมัยใหม่ ที่คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสรีนิยม เท่าเทียมกัน

.

... https://www.investopedia.com/terms/s/stagnation.asp
https://youtu.be/rXeL1dwIEx0

...

... https://youtu.be/rXeL1dwIEx0

 

ฮ่องกงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 51 รายวานนี้ ซึ่งรวมถึงทารกอายุ 40 วัน

เมื่อวานนี้ฮ่องกงได้แถลงพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 51 ราย รวมยอดสะสม 765 ราย ซึ่งในนี้มีทารกเพศชายอายุ 40 วัน และนับเป็นผู้ติดเชื้อที่มีอายุน้อยที่สุดในฮ่องกง โดยคาดว่าอาจติดเชื้อมาจากคนที่อุ้มเด็กน้อยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2020

Dr Chuang Shuk-kwan หัวหน้าสาขาโรคติดต่อของศูนย์คุ้มครองสุขภาพได้เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ 34 ราย มีประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งมี 13 คนที่เป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาที่ต่างประเทศ และมีอีก 2 รายที่เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องและนักบิน

ในจำนวนนี้ มีผู้ติดเชื้อ 17 รายที่ไม่มีประวัติการเดินทางนอกฮ่องกง ซึ่งนับเป็นตัวเลขสูงสุดต่อวันของผู้ติดเชื้อจากในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง, คนขับรถแท๊กซี่, แม่บ้านและกลุ่มที่ไปเที่ยวบาร์, คาราโอเกะ, ฟิตเนส

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***
https://www.facebook.com/119537452088669/posts/494989721210105/?d=n

Source: https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3077949/coronavirus-hong-kong-records-51-new-cases?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

พบแมวติดเชื้อโควิด-19 ตัวแรกในฮ่องกง

ฮ่องกงยืนยันพบแมวที่ทดสอบแล้วพบเชื้อโคโรน่าไวรัส ซึ่งนับเป็นตัวที่ 2 ของโลก หลังจากที่มีรายงานพบแมวติดเชื้อตัวแรกในเบลเยี่ยมเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

โฆษกของกระทรวงเกษตรประมงและการอนุรักษ์ (AFCD) กล่าวว่าตัวอย่างช่องปาก จมูกและทวารหนักที่นำมาจากสัตว์เลี้ยงพบผลบวก อย่างไรก็ดีแมวตัวนี้ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย

เจ้าของแมวขนสั้นตัวนี้ เป็นหญิงอายุ 25 ปีที่อาศัยอยู่ที่ Shek Pai Wan Estate ย่าน Aberdeen ซึ่งถูกส่งตัวไปกักกันเชื้อก่อนหน้านี้หลังจากไปที่บาร์ย่าน Central และเริ่มมีไข้วันที่ 20 มีนาคม จนยืนยันว่าเธอติดเชื้อเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3077802/coronavirus-pet-cat-hong-kong-tests-positive?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ผู้ว่าฯ สตูล เผยจะประกาศล็อกดาวน์ทั้งเมือง 3 เม.ย.นี้ เพื่อสกัดโควิด-19
ผู้ว่าฯ สตูล เผยที่ประชุมเห็นด้วยที่จะมีมาตรการบังคับห้ามคนเข้าออกทั้งจังหวัด เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกำชับให้ฝ่ายปกครองมีการตั้งจุดตรวจทุกอำเภอ เริ่ม 3 เม.ย.63 นี้



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/loc...CVY8rQvxBszWDZ7T7-_eeWJQnni7oFqHgVI-LFFkeNBuw

 

เศร้า ‘แอนดรูว์ แจ็ค’ ดารา ‘สตาร์ วอร์ส’ เสียชีวิตหลังติดเชื้อโควิด-19
แอนดรูว์ แจ็ค นักแสดงและโค้ชออกเสียงมากฝีมือ ผู้เคยร่วมแสดงในภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส เสียชีวิตแล้วจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19



Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

https://www.thairath.co.th/news/for...X35MdkunE27YF1-KJ7CTdMR4KBH0da6zvbK_9rw5th0Es

 

เจ็บไม่จำ!? สื่อเผยตลาดในจีนขายสัตว์ป่าเปิดอีกครั้งแล้วหลังพ้นวิกฤต มีขายค้างคาว-ตัวนิ่ม-กระต่ายและอื่นๆ ท่ามกลางความกังวลเป็นแหล่งแพร่เชื้อ เรียกร้องให้หยุดค้าสัตว์ป่า

ตลาดสัตว์ป่าจีนขายค้างคาว ฆ่ากระต่ายบนพื้นหนองด้วยเลือด หลังจากจีนรอดพ้นจากเชื้อไวรัสโคโรน่า
•
สัตว์ป่าต่างๆยังมีซื้อขายกันตามปกติ ทั้งเพื่อทำยา และอาหาร โดยตลาดกลับมาซื้อขายกันเหมือนก่อนเกิดไวรัสแม้มีความกังวลมาต้นตออาจมาจากสัตว์ป่า
•
ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหลังนักข่าวท้องถิ่นมือดีถ่ายภาพหมาแมวที่ดูหวาดกลัวถูกยัดอัดอยู่ในกรงสนิมเครอะ ค้างคาวและแมงป่องยังคงถูกนำมาขายเพื่อไปทำยาจีนโบราณ กระต่ายและเป็ดถูกฆ่าและถลกหนังบนพื้นในตลาดที่เต็มไปด้วยเลือด สิ่งสกปรกและซากสัตว์ชนิดอื่นๆ
•
หลังจากที่จีนประกาศรอดพ้นวิกฤติไวรัสโคโรน่าไปได้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2020 พวกเขากลับฉลองด้วยการเปิดตลาดค้าเนื้อสัตว์ป่าที่เป็นต้นเหตุของเชื้อไวรัสที่ระบาดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน และพวกเขาก็ไม่มีทีท่าที่จะปรับมาตรฐานความสะอาดเพื่อที่จะกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดด้วย
•
เชื้อไวรัสที่เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่นนี้แพร่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้หลายประเทศต้องปิดประเทศ กักตัวคนอยู่บ้าน แต่ล่าสุดยังมีภาพคนกว่าหลายพันคนไปตลาดที่ Guilin เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งที่นี่มีเนื้อหมาและแมวเสิร์ฟร้อนๆ นอกจากนี้ ยังพบสัตว์หลายชนิดติดแหงกอยู่ในกรงที่กองทับกันเป็นชั้นๆ
•
นักข่าวท้องถิ่นของเมือง Dongguan ทางตอนใต้ของจีนอีกเมืองก็สามารถแชะภาพมาได้ ในภาพมีป้ายของร้านขายยาจีนโบราณที่กลับมาให้บริการอีกครั้ง ในป้ายนั้นมีรูปค้างคาว สัตว์ที่คนคาดว่าจะเป็นต้นตอของเชื้อไวรัสนี้อยู่ ซึ่งข้างๆเจ้าค้างคาวก็เป็นภาพของแมงป่องและสัตว์ชนิดอื่นๆ เพราะพวกมันเป็นส่วนผสมของยาจีนที่มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆได้
•
ตอนนี้ตลาดค้าสัตว์เหล่านี้เปิดให้บริการเป็นปกติ แต่นักข่าวท้องถิ่นเล่าว่า สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมมีแค่รปภ.จะพยายามห้ามไม่ให้คนถ่ายรูปตลาด
•
ภาพการกลับมาของตลาดเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่จีนประกาศให้คนเลิกกักตัวและกลับไปใช้ชีวิตปกติได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ ซึ่งก็ไม่มีการพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่หลังจากการประกาศนี้ด้วย
•
หนึ่งในนักข่าวท้องถิ่นที่จับภาพตลาดเหล่านี้ได้กล่าวว่า ทุกคนที่เมืองจีนเชื่อว่าการแพร่ระบาดนี้ได้จบลงแล้ว และมันไม่มีอะไรที่พวกเขาต้องกังวล เท่าที่พวกเขารู้ ตอนนี้มันเป็นปัญหาของประเทศอื่นๆแล้ว
•
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ไวรัสเกิดขึ้นที่อู่ฮั่นใหม่ๆ ตอนนั้นข่าวการแพร่กระจายถูกปิดเงียบอยู่หลายอาทิตย์ ผู้ที่พบเบาะแสก็จะโดนไม่ให้พูด รวมทั้งคุณหมอ Li Wenliang ที่สุดท้ายก็เสียชีวิตเพราะโรคนี้ด้วย

หลังจากที่จีนสามารถเอาชนะโรคนี้ได้ รัฐบาลจีนพยายามออกมาพูดว่าโรคนี้ไม่ได้เริ่มต้นที่จีน เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกมาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง Weibo รัฐอ้างว่าโรคนี้ถูกพบครั้งแรกในประเทศอิตาลีในเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ยังบอกว่ากองทัพทหารอเมริกาเป็นผู้นำโรคนี้มาให้เมืองจีน

เมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองเดียวในจีนที่ยังคงปิดอยู่ แต่เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ข้อบังคับก็ถูกยกเลิกไป และมีการเปิดให้ใช้รถไฟความเร็วสูงที่นั่นแล้ว

ในขณะนี้นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญทาบการแพทย์และนักเคลื่อนไหวหลายคนออกมาเรียกร้องให้จีนแบนตลาดค้าสัตว์นี้ แต่ก็ยังดูเหมือนว่าจีนจะยังไม่ทำอะไร ตอนนี้เราทุกคนก็ยังคงต้องจับตาดูสถานการณ์กันต่อไป

https://m.washingtontimes.com/news/2020/mar/30/-scene-british-reporters-say-chinese-markets-again/

https://www.dailymail.co.uk/news/article-8163761/Chinese-markets-selling-bats.html

https://www.express.co.uk/showbiz/tv-radio/1263300/Phillip-Schofield-rages-Wuhan-wet-markets-coronavirus-covid-19-origin-This-Morning-ITV

https://m.economictimes.com/news/international/world-news/covid-19-effect-dips-china-reopens-markets-selling-bats-cats-and-dogs/chinas-deadly-wet-markets-are-back/slideshow/74925019.cms

 

บีบีซีไทย - BBC Thai

โรงพยาบาลสนามขนาดมหึมากำลังผุดขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วทุกมุมโลก เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นเป็นเกือบ 9 แสนรายทั่วโลก

 

บีบีซีไทย - BBC Thai

ในภาวะที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก ชีวิตของผู้คนในค่ายผู้ลี้ภัยมอเรียที่ประเทศกรีซจะเป็นอย่างไร เมื่อพวกเขาต้องอาศัยอยู่รวมกันอย่างแออัดในสภาพที่ไม่มีถุงมือ หน้ากากอนามัย หรือแม้แต่น้ำสำหรับล้างมือ

 

กทม.สั่งปิดร้านค้าหลังเที่ยงคืน-ตี 5 ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 ในเมืองกรุง ยอดแตะ 850 ราย
.
.
ในการแถลงข้อมูลสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รายวัน ของวันนี้ (1 เม.ย.) หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ระบุคือตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในกรุงเทพมหานคร
.
ในจำนวนตัวเลขผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่จำนวน 120 ราย ยังคงมียอดสูงสุดอยู่ที่กรุงเทพฯ จำนวน 43 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมในกรุงเทพฯ มากถึง 850 ราย สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ
.
นพ.ทวีศิลป์ ชี้ถึงเรื่องนี้ว่า ตามเกณฑ์โอกาสการติดเชื้อในเมือง ผู้ติดเชื้อ 1 คน สามารถแพร่เชื้อให้ 3 คน โดยประมาณ ดังนั้น จึงขอความร่วมมือคนกรุงเทพฯ ช่วยกันลดความเสี่ยงต่าง ๆ
.
"คนที่เดินทางอยู่ในกรุงเทพมหานคร มีความเสี่ยงทั้งสิ้นที่ท่านจะติดเชื้อจากคนเหล่านี้ และคนเหล่านี้ส่วนหนึ่งก็คือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอยู่แล้ว แต่ก็มีคนแวดล้อมคนเหล่านี้ 850 คูณประมาณสัก 2 เท่า ถึง 3 เท่าที่มีอัตราการแพร่เชื้ออยู่ จะทำให้ตัวเลขโดยมาตรฐานเพิ่มขึ้น ๆ.... เราไม่อยากเห็นตัวเลขของคน กทม. เพิ่มขึ้นคูณ 3 เข้าไปอีก”
.
ขณะที่ทางกรุงเทพมหานครออกประกาศปิดร้านค้าทุกประเภท รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ร้านขายน้ำและอาหารข้างทาง ในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึง 05.00 น. ทุกวัน มีผลคืนนี้ถึงวันที่ 30 เม.ย. และสั่งปิดสวนสาธารณะทุกแห่งทั้งของรัฐและเอกชนตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.)

 

บีบีซีไทย - BBC Thai

ตกงาน เดินเท้า 260 กม. กลับบ้านเกิด เพราะไม่มีรถโดยสารวิ่ง - คนอินเดียเล่าผลกระทบจากมาตรการ "ล็อกดาวน์" สกัดโควิด-19 ของรัฐบาล

 

ไวรัสโคโรนา : เตรียมทดสอบยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน - วัคซีนวัณโรค ใช้ป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่

• 31 มีนาคม 2020

Image copyrightGETTY IMAGES
คำบรรยายภาพในขณะที่ยังไม่มีผลทดสอบยืนยัน คนทั่วไปไม่ควรเสี่ยงไปซื้อยาที่เชื่อว่าป้องกันโควิด-19 มาใช้เอง
ระหว่างที่การคิดค้นพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคทางเดินหายใจโควิด-19 โดยตรง ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานแรมปี มีความพยายามจากนักวิทยาศาสตร์หลายกลุ่มที่จะศึกษาดูว่า ยาและวัคซีนป้องกันโรคที่มีอยู่แล้วขนานใดบ้างที่สามารถนำมาใช้ป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ โดยล่าสุดได้เล็งจะทดสอบยาที่ใช้รักษาไข้มาลาเรีย รวมทั้งวัคซีนป้องกันวัณโรคว่ามีสรรพคุณดังกล่าวอยู่จริงหรือไม่

ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (UW) และมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ของสหรัฐฯ แถลงว่าจะดำเนินการทดสอบประสิทธิภาพของยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน (Hydroxychloroquine) ในการป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 กับกลุ่มตัวอย่าง 2,000 คนในเร็ววันนี้ และคาดว่าจะสามารถทราบผลได้ภายใน 3-4 เดือนข้างหน้า

การทดสอบดังกล่าวจะใช้เวลาราว 8 สัปดาห์ โดยทดลองให้กลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม ซึ่งเป็นผู้ที่มีการติดต่อสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อหรือต้องสงสัยว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้รับประทานยาไฮดร็อกซีคลอโรควินหรือยาหลอกอย่างใดอย่างหนึ่งติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และจะมีการตรวจหาเชื้อไวรัสในร่างกายด้วยทุกวันในระหว่างนั้น

แม้ก่อนหน้านี้จะมีรายงานว่า ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินมีศักยภาพในการป้องกันไม่ให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เข้าสู่เซลล์ร่างกายของมนุษย์ได้ แต่ผศ. แอนนา เบิร์ชทีน หนึ่งในผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กระบุว่า "ทุกวันนี้ยังคงไม่มีวิธีป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ผ่านการพิสูจน์ยืนยันแล้วว่าสามารถช่วยได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ได้สัมผัสเชื้อไปแล้ว"

"หากผลการทดสอบนี้พบว่า ยาไฮดร็อกซีคลอโรควินสามารถป้องกันการติดโรคหลังสัมผัสเชื้อได้จริง ก็จะเป็นอาวุธต่อสู้กับการระบาดใหญ่ที่สำคัญอย่างมาก แต่ถ้ามันไม่ได้ผล คนทั่วไปก็ควรหลีกเลี่ยงไม่ไปซื้อยานี้มารับประทานเอง ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพจากผลข้างเคียงของยาไปเปล่า ๆ" ผศ. เบิร์ชทีนกล่าว

ด้านทีมนักวิจัยของออสเตรเลียก็ออกมาแถลงเช่นกันว่า กำลังจะเริ่มการทดสอบแบบเร่งด่วน เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าวัคซีนบีซีจี (BCG) ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันวัณโรคที่ให้กับทารกกว่า 130 ล้านคนในแต่ละปี และใช้ในวงการสาธารณสุขทั่วโลกมานานกว่า 80 ปีนั้น สามารถจะป้องกันการติดเชื้อหรือยับยั้งการเกิดอาการรุนแรงในโรคโควิด-19 ได้หรือไม่

Image copyrightGETTY IMAGES
คำบรรยายภาพวัคซีนบีซีจี (BCG) เป็นวัคซีนป้องกันวัณโรคที่ให้กับเด็กและทารกกว่าร้อยล้านคนทั่วโลกในแต่ละปี
การทดสอบนี้มีขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายจะค้นหาวัคซีนป้องกันที่ใช้สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหรือล้มป่วยในหมู่ผู้อยู่แนวหน้าของการต่อสู้กับโรคระบาด

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันวิจัยสุขภาพเด็กแห่งมหาวิทยาลัยเมอร์ด็อก (MCRI) แถลงว่า วัคซีนวัณโรคมีศักยภาพในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันร่างกายที่อยู่ในภาวะเฉื่อยชาให้ตอบสนองต่อเชื้อโรคได้อย่างแข็งขันมากขึ้น ซึ่งจะป้องกันไม่ให้แพทย์พยาบาลที่สัมผัสเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 เกิดการติดเชื้อในร่างกาย หรือมีอาการของโรคลุกลามไปถึงขั้นรุนแรง

ศ. แคทริน นอร์ท ผู้อำนวยการสถาบัน MCRI ระบุว่าจะมีการทดสอบวัคซีนบีซีจีกับบุคลากรทางการแพทย์ 4,000 คนในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ "หากการทดลองเร่งด่วนนี้ประสบผลสำเร็จ ก็จะช่วยซื้อเวลาในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ได้มาก เพราะกว่าที่วัคซีนป้องกันโรคโดยตรงจะถูกคิดค้นและผลิตให้พร้อมใช้ได้สำเร็จ ก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกนาน"


https://www.bbc.com/thai/internatio...D_AIi7o_qi4kwq2-XacUp8h7cevHF6gyu0y_AaMjhLn-I

 

• ล่าสุดประธานาธิบดี 'วลาดิเมียร์ ปูติน' ของรัสเซียตัดสินใจว่า 'จะกักตัวเพื่อสังเกตุอาการ ในขณะเดียวกันการปฎิบัติทําหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน...ทั้งกำหนดนโยบายและการวางแผนเพื่อให้สอดคล้องแนวทางที่จะเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน...ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าสูงสุด'

• สำหรับการลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน การลดภารกิจที่ไม่จำเป็น จะใช้เทคโนโลยีผ่านระบบ Video Conference แทน

 

รู้จีนตามอรัญญา
โควิด-19 เปลี่ยนชีวิตแมวอู่ฮั่นให้แข็งแกร่ง ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
#โควิด19 #แมวอู่ฮั่น

สองสามวันนี้ในโลกโซเชียลของจีน มีเรื่องราวของแมวตัวหนึ่งที่ชื่อ “เล่อเล่อ” เป็นแมวที่อู่ฮั่น เดิม เล่อเล่อ อยู่ในบ้านมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน
แต่โชคร้ายที่สมาชิกทุกคนติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

เจ้าของแมวเกรงใจไม่กล้าฝากใครเลี้ยง จึงตัดสินใจปล่อย เล่อเล่อ ให้อยู่บ้านตามลำพัง โดยที่ เล่อเล่อ เองก็กำลังตั้งท้อง ก่อนไปโรงพยาบาล เจ้าของได้ทิ้งอาหารแมวถุงใหญ่ 2 ถุงไว้ที่บ้าน และอธิษฐานให้ เล่อเล่อ อยู่รอดปลอดภัย

เวลาผ่านไปกว่า 40 วัน เจ้าของหายดีออกจากโรงพยาบาล กลับมาบ้านพบว่านอกจาก เล่อเล่อ ยังมีชีวิตอยู่ และยังมีสมาชิกตัวน้อยเพิ่มมาอีก 4 ตัว

คุณแม่ เล่อเล่อ คลอดลูกแมว 4 ตัวอย่างปลอดภัยและเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ทุกตัวอ้วนน่ารัก แต่คุณแม่ เล่อเล่อ กลับผ่ายผอม คงเพราะเลี้ยงลูกหนัก เรื่องราวของเล่อเล่อที่มีอายุเพียง 2 ขวบ ต้องคลอดและดูแลลูกด้วยตัวเอง เปลี่ยนจาก เล่อเล่อ แมวตัวเดิมที่บอบบาง กลายเป็น เล่อเล่อ ที่เข้มแข็ง เป็นเรื่องราวที่ชาวโซเชียลจีนอดที่จะยิ้มและส่งต่อให้กันไม่ได้

ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เราได้สูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่เราก็ยังได้เห็นชีวิตใหม่ที่เกิดขึ้นนำมาซึ่งความหวังให้กับโลก
เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ เจ้าของได้ตั้งชื่อลูกแมวว่า (เสี่ยว)อู่ (เสี่ยว)ฮั่น (เสี่ยว)เจีย (เสี่ยว)โหย แปลว่า อู่น้อย ฮั่นน้อย เจียน้อย และโหยน้อย นั่นก็คือ อู่ฮั่นเจียโยว ให้อู่ฮั่นหายดีในเร็ววัน หรืออู่ฮั่นสู้ สู้ นั่นเอง

แต่ยังไม่จบ... ในความเป็นจริงเรื่องราวของ เล่อเล่อ มีรายละเอียดบางตอนที่ตกหล่น นั่นก็คือ ตอนเจ้าของไม่อยู่ เล่อเล่อ ไปดื่มน้ำในอ่างปลา เมื่อเจ้าของกลับมา ปลาในอ่างไม่เหลือสักตัว แต่งานนี้คงต้องยกประโยชน์ให้จำเลย เพราะคุณแม่ เล่อ เล่อ คงต้องการโปรตีนบำรุงครรภ์

กดไลก์และติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

 

เริ่มมีการทดสอบวัคซีน COVID19 แล้ว

จีนเริ่มทดสอบวัคซีน COVID19 โดยใช้อาสาสมัครจากเมือง Wuhan ศูนย์กลางการระบาดครั้งนี้ โดยจะประเมินการทดสอบครั้งนี้ในอีก 6 เดือนข้างหน้าก่อนจะเริ่มเฟสต่อไป และหากการทดสอบเป็นไปอย่างราบรื่นในปีหน้าเราจะมีวัคซีน

https://www.globaltimes.cn/content/...bHrLlDUqX7ZagJpXvUGrgaYQjcc5jyaOItCiL9-Umc9EU

 

จังหวัดแรกของประเทศ! ผู้ว่าฯสมุทรสาครสั่งใช้มาตรการเข้ม ให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน ฝ่าฝืนจับปรับ 20,000 บาท เริ่มบังคับใช้ 3 เม.ย.นี้
#PostToday

https://www.posttoday.com/social/local/619558

 

#สำคัญ #ค่อยๆอ่านนะคะทุกคน กรณีพิเศษคืออะไร?

สืบเนื่องจากเรื่องเพิ่มชื่อประเทศในรายชื่อปฏิเสธเข้าประเทศญี่ปุ่นอีก 49 ประเทศ รวม “ไทย” ด้วยเป็นทั้งหมด 73 ประเทศ เริ่มมีผล 3 เมษา 0:00 น. (เที่ยงคืน เวลาญี่ปุ่น)

ตามประกาศนี้คือ ห้ามต่างชาติที่เคยเข้าไปอยู่ในพื้นที่เหล่านี้ 14 วันก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น** ยกเว้นกรณีพิเศษจำเป็น ซึ่งถ้าตามประกาศเลยมีไซริวการ์ดก็จะไม่ได้ เพราะเค้าดูที่พาสปอร์ต

แต่!!!!!!!!!

คราวนี้ ครั้งก่อนแอดก็มีคำถามว่า ”กรณีพิเศษจำเป็น” นี่มันอะไรหว่า....??(*´-ω・)ﾝ? เช่น สามีอยู่ญี่ปุ่น จะนับไหม?

วันนี้ทางกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นเพิ่มคำอธิบายมาให้แล้วค่ะ

—> ค่อย ๆ อ่านไปทีละข้อด้วยกันนะคะ ชาวเพจ

(1) เคสที่เข้าได้ ⭕️ นับเป็นกรณีพิเศษ
สำหรับคนที่มีวีซ่าตามด้านล่าง “และ” มีรีเอนทรี่ หรือ みなし再入国 (ออกไปไม่เกิน 1 ปี ใบที่กรอกตอนออกประเทศ) “และ” ออกไปนอกประเทศญี่ปุ่นก่อนวันที่ “2 เมษา 23:59 น.”
วีซ่าดังต่อไปนี้
「永住者」วีซ่าถาวร (เอย์จู)
「日本人の配偶者等」วีซ่าคู่สมรส (ไฮกูฉะ)
「永住者の配偶者等」วีซ่าคู่สมรสของวีซ่าถาวร
「定住者」วีซ่าเทย์จู
หรือ
ผู้ที่ไม่ได้ถือวีซ่าข้างต้น แต่ เป็นคู่สมรสของคนญี่ปุ่น หรือ มีลูกเป็นสัญชาติญี่ปุ่น
（これらの在留資格を有さない日本人の配偶者又は日本人の子を含む。以下同じ。）
—-
⚠️ในประกาศไม่รวม วีซ่าทำงาน และ วีซ่านักเรียน เทรนนิ่ง ฯลฯ นะคะ

(2) เคสที่เข้าไม่ได้ ❌
ต่อให้เป็นคนที่มีรีเอนทรี่ หรือ みなし再入国 ของวีซ่าในข้อ 1 แต่ออกไปนอกประเทศญี่ปุ่น หลังวันที่ “3 เมษา 0:00 น. ” จะถือว่า ไม่ใช่ กรณีพิเศษ แล้ว

✒️ว่าง่าย ๆ ออกไปหลังวันที่ 3 เมษา ต่อให้เป็นกรณีพิเศษในข้อ (1) ก็เข้าไม่ได้

(3) สำหรับวีซ่าถาวรพิเศษ (特別永住者; เช่น คนเกาหลีที่อยู่ญี่ปุ่นหลังสงครามโลก) ⭕️ จะไม่ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ

————

⚠️ ในเว็บ ไม่มีเอ่ยถึง วีซ่าทำงาน / นักเรียน (กรณีไม่ใช่คู่สมรส หรือ เป็นบิดามารดาของลูกคนญี่ปุ่น) ในลิสต์กรณีพิเศษ จะนับด้วยไหมนั้น กรุณาสอบถามนิวคัง หรือ สถานทูต นะคะ แอดก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

http://www.moj.go.jp/hisho/kouhou/20200131comment.html

http://www.moj.go.jp/content/001316538.pdf

 

#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศ
01/04/20
#เริ่มแล้ว
หลายประเทศ ในแถบยุโรป รายงานว่าอุณหภูมิตอนเช้าต่ำมากระหว่าง -5 ถึง -10 ° C! ต่ำกว่า -10 ° C บางพื้นที่! ตอนเช้าน้ำค้างแข็งทำลายพืชผลและต้นไม้อย่างน่าเสียดาย
Via: severe-weather.EU
เพิ่มเติม : https://t.co/eObRSINATt?amp=1
#Watchers