ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทรัมป์เตือนชาวอเมริกันเตรียมรับ"สองสัปดาห์ข้างหน้าอันเจ็บปวด"
    1 เมษายน 2020 เวลา 8:39
    1585706156.jpg

    ผู้นำสหรัฐเลิกข้องใจสถานการณ์โควิด หนักจริง เตือนประชาชนเตรียมใจ เปิดกราฟครั้งแรก

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เตือนชาวอเมริกันเตรียมรับสองสัปดาห์ยากลำบากและเจ็บปวดอย่างมาก ขณะประกาศขยายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมออกไปทั่วประเทศ แต่ต่อให้ทำตามนี้แล้ว สหรัฐยังมีความเสี่ยงสูญเสียชีวิตเป็นแสนคน

    นับเป็นถ้อยแถลงที่เปลี่ยนไปของผู้นำสหรัฐ หลังจากตลอดสองสัปดาห์ มักตั้งคำถามถึงความร้ายแรงของไวรัสและผลกระทบต่อสหรัฐ แต่ครั้งนี้ ทรัมป์ เรียกโควิด-19 ว่า เป็นโรคระบาดร้ายแรง ไม่ใช่ แค่ไข้หวัด

    “ผมอยากให้ชาวอเมริกันทุกคน เตรียมพร้อมรับมือช่วงยากลำบากที่รออยู่ข้างหน้า เรากำลังทำสงครามกับไวรัสมรณะ” ทรัมป์ กล่าวระหว่างแถลงข่าวยาว 2 ชม. เพื่อประกาศใช้แนวทางเดียวกันทั้งประเทศอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุด้วยว่า พลเมืองทุกคนกำลังถูกเรียกร้องให้ต้องเสียสละ ธุรกิจทุกแห่งมีหน้าที่เพื่อชาติ ทุกชุมชนต้องปรับการดำเนินชีวิต และการปฏิสัมพันธ์กัน

    ในที่แถลงข่าวเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข เผยโมเดลกราฟพยากรณ์อธิบายว่าหากชาวอเมริกันช่วยกันปรับพฤติกรรมและใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างไรใน 30 วันข้างหน้า ถึงอย่างนั้น ดร.เดโบราห์ บริกซ์ ผู้ประสานงานทำเนียบขาวรับมือโรคโควิด-19 กล่าวเตือนว่า แม้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางที่รัฐบาลแนะนำอย่างดี แต่สหรัฐยังอาจมีผู้เสียชีวิต 1 แสน – 2.4 แสนคน มากกว่าการสูญเสียชีวิตในสงครามเวียดนาม

    แต่ดร.แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติ หนึ่งในที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทรัมป์ กล่าวว่า แม้ตัวเลขคาดการณ์จะหดหู่ และเราควรเตรียมพร้อม แต่ทุกฝ่ายก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อดึงกราฟลงมาให้ได้

    การนำเสนอกราฟ เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลให้ภาพการคาดการณ์อย่างเป็นทางการว่าอาจมีชาวอเมริกันเสียชีวิตมากแค่ไหน จากไวรัสโรคโควิด-19

    สหรัฐมีผู้ติดเชื้อแล้ว 188,547 ราย เสียชีวิต 3,873 ราย สถิติที่รวบรวมแบบเรียลไทม์ของมหาวิทยาลัย จอห์นฮอปกินส์

    https://www.nationweekend.com/conte...CwINrJnXNcxJpZI5t7JA2TuSaZQmI_Mqi48VTuX18Kqa8
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “หมอเฉลิมชัย” เตือนคนไทยยังไม่หยุดออกจากบ้าน มิ.ย.อาจติดเชื้อทะลุ 9 แสนคน เผยแพร่: 2 เม.ย. 2563 11:49 ปรับปรุง: 2 เม.ย. 2563 11:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003479701.jpg
    “หมอเฉลิมชัย” เตือน คนไทยยังไม่หยุดออกจากบ้าน มิ.ย.นี้ ผู้ติดเชื้อพุ่งแตะ 9 แสนแน่ หลังสถิติผู้ติดเชื้อใหม่เป็นสองเท่าทุก 4.5 วัน แนะเร่งลดผู้ติดเชื้อรายใหม่จาก 10% ต่อวัน เหลือ 3% ทำได้ถ้าคนไทยช่วยกัน

    วันนี้ (2 เม.ย.) นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เสนอ มาตรการที่ควรทำในการควบคุม COVID-19 เริ่มต้นเดือนที่ 4 ว่า จากสถานการณ์ของโลก เรามีผู้ติดเชื้อ 840,158 คน เพิ่มจากเมื่อวาน 8.96% มีผู้เสียชีวิต 41,281 คน คิดเป็น 4.91% ของผู้ติดเชื้อ ในขณะที่สถานการณ์ของไทย วันที่ 1 เม.ย. 63 เรามีผู้ติดเชื้อ 1,771 คน เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 120 คน เท่ากับ 7.27% เสียชีวิต 12 คน เท่ากับ 0.68% ซึ่งถ้าทบทวนตัวเลขย้อนหลังไป 7 วัน มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 9.58% นั่นคือ เรามีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9.58% หรือจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 2 เท่าในเวลา 10 วัน ซึ่งดีกว่าช่วง 7 วันก่อนหน้านั้น ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 21.13% หรือเพิ่มเป็น 2 เท่าทุก 4.5 วัน

    อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่จะลดลงในสัปดาห์นี้ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (9.58% vs 21.13%) แต่เราก็ยังไม่สามารถที่จะสบายใจได้ ยังคงต้องทำงานต่อไป ทำไมถึงกล่าวเช่นนั้น เพราะถ้าเราพอใจกับการเพิ่มขึ้น 9.58% หรือเพิ่มเป็น 2 เท่าทุก 10 วัน แปลว่า เราจะมีผู้ติดเชื้อตามคาดการณ์ดังนี้ (2 เท่าทุก 10 วัน)

    10 เม.ย. 1,771x2 = 3,542 คน
    20 เม.ย. 3,542x2 = 7,084 คน
    30 เม.ย. 7,084x2 = 14,186 คน
    10 พ.ค. 14,186x2 = 28,336 คน
    20 พ.ค. 28,336x2 = 56,672 คน
    30 พ.ค. 56,672x2 = 113,344 คน
    10 มิ.ย. 113,344x2 = 226,688 คน
    20 มิ.ย. 226,688x2 = 453,376 คน
    30 มิ.ย. 453,376x2 = 906,752 คน

    “ภายใน 3 เดือน เราจะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มจาก 1,771 คน เป็น 9 แสนคน ถ้าเราต้องการให้ภายใน 3 เดือน มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 1 แสนคน เราจะต้องลดอัตราเพิ่มของผู้ติดเชื้อรายใหม่ลงมาเป็นเพิ่มวันละ 6%
    ถ้าต้องการในอีก 3 เดือนข้างหน้า มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 15,000 คน เราจะต้องลดอัตราเพิ่ม ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ให้เกินวันละ 3%” นพ.เฉลิมชัย ระบุ

    รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ระบุต่อไปว่า การที่เราจะลดอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละประมาณ 10% ลงมาเหลือวันละ 3 % เราจะต้องช่วยกันดังนี้

    1) ลดการออกจากบ้านลงอีก 70% จากที่เราช่วยกันในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (มีข้อมูลว่าตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเดินทางลดลงไปเหลือ 60%) เราต้องลดลงไปอีกให้เหลือ 18% เป็นอย่างน้อย

    2) ผู้ที่อยู่กับบ้านเป็นหลักอยู่แล้ว ต้องลดจำนวนคนที่ออกนอกบ้านในแต่ละสัปดาห์ลงอีก และลดความถี่ที่ออกจากบ้าน ลดระยะทางและลดเวลาที่อยู่นอกบ้าน

    3) ส่วนผู้ที่ยังออกจากบ้านค่อนข้างบ่อย จำเป็นที่จะต้องพิจารณาอยู่บ้านให้มากขึ้นเท่าที่สามารถจะทำได้

    4) ลดจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย และเป็นผู้ที่ทำงานติดต่อกับผู้คนจำนวนมาก เช่น ผู้ปรุงอาหารในร้านอาหาร ผู้ขายของในร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เกต ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับส่งของและอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น โดยการตรวจบุคคลดังกล่าวปูพรมทั้งหมดให้แน่ใจว่าไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้ออยู่ เพราะบุคคลเหล่านี้จะเป็นผู้แพร่เชื้อไปสู่ประชาชนจำนวนมาก แม้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่บ้านแล้วก็ตาม

    โดยที่คนส่วนน้อยที่ออกมานอกบ้าน ยังคงต้องเคร่งครัดเรื่องการใช้หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่ออกมานอกบ้าน เว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นให้มากที่สุด (อย่างน้อย 2 เมตร) อยู่นอกบ้านให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเมื่อกลับเข้าบ้าน ให้ถอดรองเท้าไว้นอกบ้าน เปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที ก่อนจะพบปะพูดคุยกับคนในบ้านต่อไป


    https://mgronline.com/politics/deta...ewpT3WELrPonMoOGRLspXu_EZh_FOVhhOxuq2NF3N3stk
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Roundtable Thailand

    **แก้ไขข้อมูล ออสเตรียเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ของยุโรปที่ขอให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากเมื่อออกจากบ้าน ประเทศอื่น ๆ ที่ทำเช่นนี้แล้วได้แก่ สาธารณรัฐเชก, บอสเนียเฮอร์เซโกวินา และสโลวาเกีย**
    4ODizl2f-mkeN3gYW1-KpiuCXNWXaDZ_HzHzmDadgTRg&_nc_ohc=2WXZhVIQWN8AX9gD8-z&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
    กลายเป็นหัวข้อถกเถียงในสังคมตะวันตกอย่างหนัก ถึงการใส่หน้ากากอนามัยเพื่อออกนอกบ้านในยามที่ต้องจับจ่ายใช้สอย ว่าจำเป็นหรือไม่ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ป่วยหรือดูแลผู้ป่วย

    นายแพทย์ ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก (WHO ) กล่าวว่า WHO ยังคงแนะนำว่าประชาชนไม่ควรใส่หน้ากาก หากไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือดูแลคนที่กำลังป่วยอยู่ เพราะโลกกำลังขาดแคลนหน้ากากอนามัยอย่างหนัก และควรจะประหยัดไว้ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ดร. มาเรียน ฟาน เคิร์กโฮฟ นักระบาดวิทยาของ WHO ก็ย้ำอีกว่าไม่แนะนำให้ประชาชนใส่หน้ากาก ยกเว้นมีอาการป่วย

    แต่ทางด้านนายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน ควร์ซ (Sebastian Kurz) แห่งออสเตรีย ได้ออกข้อบังคับให้ประชาชนสวมหน้ากากในทุกครั้งเมื่อออกจากเคหะสถานไปยังร้านค้าซูเปอร์มาร์เก็ตเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19

    นายกฯ เซบาสเตียน กล่าวว่า ”ผมให้คำมั่นว่าจะมีหน้ากากบริการในทุกร้านค้าตั้งแต่วันพุธเป็นต้นไป แต่บางสาขาอาจใช้เวลาหนึ่งถึงสองวัน นับตั้งแต่นี้ทุกคนต้องใส่หน้ากากเวลาเข้าร้านซูเปอร์มาร์เก็ต"

    "ผมรู้ดีว่าการสวมหน้ากากเป็นเรื่องแปลกในวัฒนธรรมของเรา (alien to our culture) แต่ทุกคนต้องปรับตัวกันครั้งใหญ่" นอกจากนี้ นายกฯ ออสเตรียยังอ้างอิงถึงบรรดาชาติในเอเชียที่ใส่หน้ากากอนามัยกันจนเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดของไวรัสโคโรนา ต่างจากชาติในแถบยุโรป

    โดยออสเตรียนับว่าเป็นชาติแรก ๆ ในยุโรปที่ผู้นำออกมารณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากเวลาออกนอกบ้าน ประเทศอื่น ๆ ที่ทำเช่นนี้แล้วได้แก่ สาธารณรัฐเชก, บอสเนียเฮอร์เซโกวินา และสโลวาเกีย

    อย่างไรก็ดี เมื่อกล่าวถึงจำนวนหน้ากากที่กำลังเป็นที่ต้องการของทั่วโลกในขณะนี้ นายกฯ ออสเตรียกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดหาให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ รวมถึงอาจพิจารณาการใช้หน้ากากผ้าที่ผลิตขึ้นเองด้วย

    ออสเตรียมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมถึง 3,026 ราย เสียชีวิตแล้ว 9 คน โดยรัฐบาลได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์โดยจะมีผลสิ้นสุดวันที่ 13 เมษายน แต่อาจประกาศเลื่อนออกไปอีกหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

    ที่มา https://www.thelocal.at/20200330/austria-to-force-all-supermarket-shoppers-to-wear-face-masks

    https://www.aljazeera.com/news/2020/03/austria-basic-face-masks-compulsory-supermarkets-200330203910471.html

    https://www.newser.com/story/288910/4-european-countries-make-masks-mandatory.html

    #Roundtable
    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

    #โควิด19
    #โคโรนาสายพันธุ์ใหม่
    #หน้ากากอนามัย

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Roundtable Thailand

    1 เมษายน 63 สำนักข่าวอัลจาซีรา รายงานว่า ทางการซาอุดีอาระเบีย ออกประกาศขอความร่วมมือชาวมุสลิมทั่วโลกชะลอแผนการเดินทางร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ สืบเนื่องจากขณะที่โลกยังเผชิญกับปัญหาการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างรุนแรง
    5q0yAGkuWsOEmY7vyqGr-qVorhQ4aqJaUJP1RKJ5Xtdg&_nc_ohc=k2RWPGZFBOAAX-bPo_k&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
    นายโมฮัมหมัด เบนเทน รัฐมนตรีกระทรวงฮัจญ์และอุมเราะห์ของซาอุดีอาระเบีย ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวของทางสถานีโทรทัศน์อัลเอคอร์บาริยาของรัฐบาลซาอุฯ เมื่อค่ำวานนี้ว่า ขอความร่วมมือพี่น้องมุสลิมทั่วโลกให้ชะลอแผนการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสจะชัดเจนกว่านี้

    โดยก่อนหน้านี้ทางการซาอุดีอาระเบียมีคำสั่งให้ยุติการทำอุมเราะห์ รวมทั้งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าเมืองมักกะห์และเมดินาชั่วคราวในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส

    อย่างไรก็ดี การยกเลิกการประกอบพิธีฮัจญ์ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ แต่เคยมีการจำกัดการเดินทางเข้าไปในบางพื้นที่บ้าง อาทิ ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคอีโบล่า

    ในทุกปี จะมีผู้แสวงบุญราว 2.5 ล้านคนจากทั่วโลกมักจะเดินทางมาที่เมืองเมกกะและเมดินาเพื่อทำพิธีฮัจญ์ที่ยาวเกือบสัปดาห์ซึ่งจะเริ่มในปลายเดือนกรกฎาคม แม้การแสวงบุญจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญของซาอุฯ ก็ตาม

    “ซาอุดิอาระเบียพร้อมเต็มที่ที่จะรับใช้ผู้แสวงบุญและผู้แสวงหาอุมเราะห์ ” โมฮัมเหม็ด เบนเทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์อัลเอคอร์บาริยา

    "แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะที่เรากำลังพูดถึงการระบาดใหญ่ทั่วโลก ... ราชอาณาจักรมีความกระตือรือร้นที่จะปกป้องสุขภาพของชาวมุสลิมและประชาชนทั้งผอง ดังนั้น เราจึงขอร้องให้พี่น้องชาวมุสลิมของเราในทุกประเทศ ชะลอการเดินทางมาร่วมทำพิธีฮัจญ์ จนกว่าสถานการณ์ชัดเจน"

    นอกจากการยุติการทำอุมเราะห์เพื่อแสวงบุญแล้ว ซาอุดีอาระเบียยังได้ระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมดอย่างไม่มีกำหนด และปิดกั้นการเข้า - ออกในหลาย ๆ เมืองสำคัญ รวมถึงเมกกะและเมดินาด้วย

    สถานการณ์ล่าสุด ซาอุดีอาระเบียมีรายงานจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากกว่า 1,500 ราย และผู้เสียชีวิต 10 ราย ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 825,000 คนมีผู้เสียชีวิตกว่า 40,000 คน

    ที่มา https://www.aljazeera.com/news/2020/03/saudi-tells-muslims-wait-hajj-plans-coronavirus-crisis-200331174534584.html

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

    #โควิด19
    #โคโรนาสายพันธุ์ใหม่
    #พิธีฮัจญ์

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไปดู "กำแพงอู่ฮั่น" ป้องกันโควิด-19 หลังประกาศเตรียมเปิดเมือง [ชมคลิป] เผยแพร่: 2 เม.ย. 2563 10:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003475001.jpg
    เอเจนซี/MGR Online - เมืองอู่ฮั่นตั้งกำแพงกั้นเพิ่มระยะห่างคนขายของ-ซื้อของ ยังบังคับใช้มาตรการระยะห่างทางสังคมเคร่งครัด หลังเริ่มผ่อนคลายการปิดเมือง ก่อนเปิดให้เข้าออก 8 เม.ย.นี้ นักวิจัยตะวันตกชี้จีนปิดอู่ฮั่นช่วยตัดวงจรการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้อย่างน้อย 7 แสนคน

    วานนี้ (1 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ภายหลังทางการจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 มาตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2563 และเริ่มผ่อนคลายการปิดเมืองในวันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ก่อนที่ในวันที่ 8 เมษายน 2563 จะมีการเปิดเมืองให้ผู้คนสามารถเดินทางเข้าออกได้อีกครั้ง

    ขณะที่ชาวอู่ฮั่นเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง ทางเมืองอู่ฮั่นก็ดำเนินการบังคับใช้มาตรการระยะห่างทางสังคม ไม่ให้คนอยู่ใกล้กันกว่า 2 เมตร ด้วยการตั้งกำแพงสูงไม่ให้คนอยู่ใกล้ชิดกัน โดยขณะที่ร้านค้าต่าง ๆ สามารถเปิดขายของได้ แต่ลูกค้าก็ต้องปีนบันไดขึ้นมาสั่งของ และส่งสินค้ากันผ่านกำแพง

    "ก็ปลอดภัยดี พอมีกำแพงคนก็จะอยู่ห่างกันหน่อย เพราะถ้าไม่มีกำแพงคนจะเบียดเสียดกันมาเลือกซื้อของ เราก็ไม่กล้าขายของ กำแพงก็ช่วยทำให้เราวางใจได้หน่อย" พ่อค้าเขียงหมูชาวอู่ฮั่นระบุ

    ไม่เพียงแต่การตั้งกำแพง แต่ร้านค้าหรือซูเปอร์มาร์เกตต่าง ๆ ในอู่ฮั่นก็ยังบังคับใช้มาตรการต่อแถวโดยยืนห่างกัน 1.5 เมตร และบังคับวัดอุณหภูมิร่างกายลูกค้าทุกคนอย่างเคร่งครัด

    ด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาของกลุ่มนักวิจัยจากอังกฤษและสหรัฐอเมริกา ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารไซแอนซ์ ระบุว่า

    "จากการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าหากไม่มีคำสั่งห้ามเดินทางเข้าออกจากอู่ฮั่น และการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศจีน ถึงวันนี้จะมีผู้ติดเชื้อนอกอู่ฮั่นอีกกว่า 7 แสนคน มาตรการการควบคุมของจีนถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการตัดห่วงโซ่ของการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส" นายคริสโตเฟอร์ ดาย หนึ่งในทีมนักวิจัยจากออกซฟอร์ดระบุ



    563000003475002.jpg

    563000003475003.jpg

    https://mgronline.com/china/detail/...1bGmT_5xAFtcPEi940D7kcpK3ptdGNq2eNgVw1PQwlTVo
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ เริ่มสั่งอพยพคนบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ‘ธีโอดอร์ รูสเวลต์’ หลังพบทหารติดเชื้อ ‘โควิด-19’ เผยแพร่: 2 เม.ย. 2563 10:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003473001.jpg
    เอเอฟพี - กองทัพเรือสหรัฐฯ เริ่มอพยพทหารเรือหลายพันนายลงจากเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ ยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ซึ่งจอดอยู่ที่เกาะกวม ภายหลังผู้บังคับการเรือได้ร่อนจดหมายเตือนถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ ที่กำลังคุกคามชีวิตของทหารบนเรือลำนี้

    ล่าสุดมีรายงานลูกเรือติดเชื้อไวรัสแล้วรวมทั้งสิ้น 93 นาย จากทั้งหมด 4,800 นาย

    เจ้าหน้าที่เพนตากอนระบุวานนี้ (1 เม.ย.) ว่า พวกเขากำลังเร่งจัดหาห้องโรงแรมบนเกาะกวมเพื่อรองรับทหารเหล่านี้ ขณะเดียวกันก็ต้องจัดทีมลูกเรือที่ยังไม่ติดเชื้อให้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมเรือต่อไป

    “แผนของเราในตอนนี้คืออพยพคนลงจาก เท็ดดี้ รูสเวลต์ ให้ได้มากที่สุด โดยจะต้องทิ้งทหารบางส่วนไว้บนเรือเพื่อคอยปฏิบัติหน้าที่รักษาการตามปกติ” พล.ร.ต. จอห์น เมโนนี ผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคหมู่เกาะมาเรียนา ให้สัมภาษณ์สื่อที่เกาะกวม

    โทมัส มอดลีย์ รักษาการรัฐมนตรีทบวงทหารเรือของสหรัฐฯ ยืนยันว่าขณะนี้มีการอพยพลูกเรือแล้วเกือบ 1,000 นาย และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2,700 นายในอีก 2-3 วันข้างหน้า แต่มีความจำเป็นที่จะต้องคงกำลังพลอย่างน้อย 1,000 นายไว้ควบคุมเรือ ระหว่างที่มันผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ

    “เราไม่สามารถนำทหารลงจากเรือได้ทั้งหมด เรือลำนี้มีอาวุธ มีเครื่องกระสุน มีอากาศยานราคาแพง และมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ด้วย” เขาอธิบาย

    เมื่อต้นสัปดาห์นี้ เบร็ตต์ โครเซียร์ ผู้บังคับการเรือ ได้ส่งจดหมายแจ้งไปยังผู้บังคับบัญชาของเขาว่าเรือ ธีโอดอร์ รูสเวลต์ กำลังมีการแพร่กระจายของไวรัส “อย่างควบคุมไม่ได้” และขอให้เพนตากอนมีคำสั่งอย่างเด็ดขาดลงมาเพื่อช่วยลูกเรือให้ได้รับการกักกันโรค

    “การแพร่กระจายของไวรัสกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เราไมได้อยู่ในภาวะสงคราม ทหารไม่จำเป็นต้องตาย” เขาวิงวอน

    จากข้อมูลในวันพุธ (1 เม.ย.) พบว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีเจ้าหน้าที่, พนักงานสัญญาจ้าง และผู้อยู่ในอุปการะติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้วมากกว่า 1,400 คน ในจำนวนนี้เป็นทหาร 771 นาย

    การเข้าจอดที่เกาะกวมของเรือบรรทุกเครื่องบิน ธีโอดอร์ รูสเวลต์ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ทำให้ขณะนี้เรือบรรทุกเครื่องบินทั้ง 2 ลำของสหรัฐฯ ในแปซิฟิกถูกจอดนิ่งอยู่ที่ท่าเรือทั้งคู่ โดยเรือ ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ที่จอดอยู่ในญี่ปุ่นก็มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน

    มาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า กองทัพได้ปฏิบัติตามคำแนะนำในการเว้นระยะห่างทางสังคมและสุขอนามัย และปัญหาที่เกิดกับเรือรูสเวลต์ ตลอดจนโรคระบาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก จะไม่บั่นทอนศักยภาพในการทำสงครามของสหรัฐฯ

    “มีหลายคนออกมาพูดว่า เราควรจะชัตดาวน์กองทัพสหรัฐฯ ทั้งหมด แต่การจัดการปัญหาแบบนั้นไม่ใช่เรื่องเหมาะสม” เอสเปอร์ แถลงที่ทำเนียบขาว

    https://mgronline.com/around/detail...uqg0JCGdb0YKEdh2rHYuPyL-MGCWU37DaDGccnhSXat9o
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ้าว! รพ.หลายแห่งสหรัฐฯ ขู่ไล่ออกหมอ-พยาบาล ห้ามแฉชุดป้องกันขาดแคลนในวิกฤตโควิด-19 เผยแพร่: 1 เม.ย. 2563 04:32 ปรับปรุง: 1 เม.ย. 2563 08:03 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003417201.jpg
    บลูมเบิร์ก - โรงพยาบาลหลายแห่งในสหรัฐฯ ขู่ไล่ออกเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยต่อสภาพแวดล้อมการทำงานระหว่างวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และมีบางคนมีอันต้องตกงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    หมิง หลิน แพทย์ประจำห้องฉุกเฉินในรัฐวอชิงตัน เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่แล้วว่า เขามีอันต้องตกงานหลังจากไปให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาโพสต์บนเฟซบุ๊กก่อนหน้านั้น โดยเขาเขียนแสดงความคิดเห็นบนสื่อสังคมออนไลน์ แนะนำเพื่อนร่วมงานว่าการสวมหน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่เพียงพอสำหรับป้องกันโควิด-19

    ในชิคาโก พยาบาลคนหนึ่งก็ถูกไล่ออกเช่นกัน หลังเธอเขียนอีเมลถึงเพื่อนร่วมงาน บ่นว่าต้องการหน้ากากปัองกันโรคมากกว่านี้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส่วนในนิวยอร์ก สถานพยาบาล NYU Langone Health ออกประกาศเตือนถึงแพทย์และพยายามที่เป็นลูกจ้างว่าพวกเขาจะถูกไล่ออกหากว่าไปให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

    รูท ชูแบร์ท โฆษกสมาคมพยาบาลแห่งรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า “โรงพยาบาลทั้งหลายกำลังหาทางปรามเหล่าพยาบาลและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอื่นๆ ในความพยายามปกป้องชื่อเสียงของตนเอง มันน่าเจ็บแค้นมาก” เธอกล่าว “ปกติแล้วโรงพยาบาลต่างๆ มักยึดแนวทางปฏิบัติด้านสื่อสารมวลชนอย่างเข้มงวดเพื่อปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของคนไข้ โดยจะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่พูดคุยกับสื่อมวลชนเฉพาะผ่านหน่วยงานประชาสัมพันธ์เท่านั้น แต่ในโรคระบาดใหญ่คราวนี้ได้นำมาซึ่งยุคสมัยที่เปลี่ยนไป”

    “เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องได้รับโอกาสแจ้งแก่สาธารณชนทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นภายในสถานพยาบาลที่กำลังดูแลคนไข้โควิด-19” เธอกล่าว

    แพทย์และพยาบาลลูกจ้างของสถานพยาบาล NYU Langone Health ได้รับแจ้งจาก เคทีย์ ลูอิส รองประธานบริหารฝ่ายสื่อสารมวลชน ว่าใครก็ตามที่พูดคุยกับสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกลงโทษทางวินัย ในนั้นรวมถึงไล่ออก

    จิม มันด์เลอร์ โฆษกของ NYU Langone Health บอกว่านโยบายดังกล่าวก็เพื่อปกป้องความลับของคนไข้และพนักงาน (แพทย์และพยาบาล) “เพราะว่าข้อมูลข่าวสารสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ มันเป็นผลประโยชน์สูงสุดของพนักงานและสถาบันของเรา และเฉพาะผู้ที่มีข้อมูลอัพเดทล่าสุดจะได้รับอนุญาตให้พูดคุยประเด็นเหล่านั้นกับสื่อมวลชน”

    ลอรี มาซูร์เคียวิซ พยาบาลชาวชิโคาโก ถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล Northwestern Memorial Hospital หลังเรียกร้องให้เพื่อนร่วมงานสวมชุดป้องกันให้หนาแน่นกว่าที่เป็นอยู่ และเวลานี้เธอได้ยื่นฟ้องเอาผิดกับโรงพยาบาล โทษฐานไล่ออกอย่างไม่ชอบธรรม “โรงพยาบาลมากมายกำลังพนักงานของพวกเขา บอกว่าแค่หน้ากากอนามัยเพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แพทย์และพยาบาลหลายคนกำลังล้มป่วย พวกเขากำลังจะตาย”

    มาซูร์เคียวิซ วัย 46 ปี ต้องดูแลพ่อซึ่งล้มป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ และในวัย 75 ปี พ่อของเธอจึงเป็นคนในกลุ่มเสี่ยงที่สุดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 “ฉันไม่ต้องการติดเชื้อเพียงพอฉันไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเหมาะสม จากนั้นก็แพร่เชื้อสู่คนไข้และครอบครัวของฉัน”

    https://mgronline.com/around/detail...xAZ5Q2RHOSMjPWhDTUaQf4oO6dUErYnkhx0wKCJDZJUlY
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บูรพาไม่แพ้
    OgQ2zlfjcANWCg4oY0ErVsgkZ7ChwlatjwxwakShhg-w&_nc_ohc=JH9qSjhLnQkAX_Fbbv3&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
    โควิดที่ #ญี่ปุ่น เป็นไง ถามใจเธอดู❗️ นายกฯ สวมหน้ากากอนามัยประชุมสภา

    สื่อมวลชนญี่ปุ่นเผยแพร่ภาพนายกฯอาเบะ ชินโซ สวมหน้ากากอนามัย เข้าร่วมประชุมรัฐสภา และสภานโยบายเศรษฐกิจการคลังในวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้นำญี่ปุ่นสวมหน้ากากอนามัยเข้าร่วมประชุม ท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด
    .
    สมาชิกคนอื่นในคณะรัฐมนตรี และผู้แทนจากภาคเอกชนที่ร่วมประชุม ก็สวมหน้ากากอนามัยเช่นกัน นอกจากนี้ ที่นั่งของผู้ร่วมประชุมก็ถูกจัดให้ห่างกันมากกว่าปกติ
    .
    รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มใช้มาตรการป้องกันไวรัสโคโรนา สำหรับคณะรัฐมนตรีทุกคนในวันนี้
    .
    การสวมหน้ากากอนามัยอย่างพร้อมเพรียงของผู้นำญี่ปุ่นและครม. ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มตระหนักถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศ แต่ประชาชนจำนวนมากก็วิจารณ์ว่า “หาซื้อหน้ากากไม่ได้มานานกว่า 3 เดือนแล้ว” ‼️ทั้ง ๆที่รัฐบาลประกาศสารพัดมาตรการ ทั้งการให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตหน้ากาก และออกกฎหมายจำคุกและปรับเงินผู้โก่งราคาขายหน้ากาก 1 ล้านเยน แต่ทุกวันนี้ ทั่วแดนอาทิตย์อุทัยก็ยังไม่มีหน้ากากอนามัยเหมือนเดิม ❗️

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เบอร์ลิน, 31 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (31 มี.ค.) สื่อเยอรมันรายงานว่าเยนา (Jena) เมืองทางตะวันออกของเยอรมนี กลายเป็นเมืองแรกของประเทศที่กำหนดให้ประชาชนทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ
    www.xinhuathai.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F04%2FXxjpbeE007126_20200329_PEPFN0A001-scaled.jpg

    https://www.xinhuathai.com/high/เยน...9uEwk7_byqCZkiS36k8LaKl9JcL2lywI-OwAL4scznxLQ
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิดไร้ปรานี “ชิมูระ เคน” ตายแล้วยังไม่เห็นศพ ญาติได้รับแค่อัฐิ
    เผยแพร่: 1 เม.ย. 2563 09:26 ปรับปรุง: 1 เม.ย. 2563 10:20 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003420702.jpg
    ญาติของ “ชิมูระ เคน” นักแสดงตลกชาวญี่ปุ่น ซึ่งเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ร่ำไห้ด้วยความอาดูร ไม่ได้ส่งครั้งสุดท้าย ไม่ได้เห็นแม้แต่ศพ ได้รับเพียงเถ้ากระดูกกลับบ้านเกิด เนื่องจากต้องระมัดระวังการติดเชื้อไวรัสมรณะ

    โทโมยูกิ พี่ชายของนักแสดงดัง นำเถ้าอัฐิกลับมายังบ้านเกิดที่เขตฮิงาชิมูระยามะ กรุงโตเกียว พร้อมร่ำไห้เปิดเผยว่า ตั้งแตชิมูระเข้าโรงพยาบาลก็ไม่สามารถไปเยี่ยมได้ แม้แต่หลังจากเสียชีวิตไปแล้วศพของนักแสดงดังก็ถูกใส่ถุงทึบปิดป้องกันอย่างแน่นหนา และลำเลียงไปยังฌาปนสถานที่รัฐกำหนดไว้ พร้อมเผาในทันที เขาไม่สามารถเห็นแม้แต่ใบหน้าของน้องชาย เห็นแต่เพียงโลงศพเท่านั้น ตอนเผาศพก็ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ หลังจากเผาเสร็จสิ้นแล้วก็ไม่สามารถเข้าไปเก็บเถ้ากระดูกได้เอง

    563000003420701.jpg
    ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ที่ใช้ควบคุมโรคระบาดตามกฎหมาย ศพผู้เสียชีวิตเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา การบรรจุศพ การลำเลียงศพ การขนส่งและการเผายากลำบากมาก ต้องกระทำอย่างระมัดระวัง สวมชุดป้องกัน หน้ากาก แว่นตาอย่างเต็มที่ และห้ามสัมผัสถูกเลือดและของเหลวภายในร่างกายของผู้เสียชีวิต ขั้นตอนทั้งหมดต้องรวบรัดและรวดเร็ว

    563000003420704.jpg
    พี่ชายของชิมูระ เคน กล่าวว่า เข่าคิดถึงน้องชายจนไม่อาจข่มตานอนหลับได้ ร้องไห้จนแทบจะไม่มีน้ำตาเหลือ ยิ่งเมื่อคิดว่าไม่สามารถ “ส่งครั้งสุดท้าย” ได้ก็ยิ่งเสียใจ สิ่งที่เขาทำได้ก็มีเพียงใช้ผ้าห่อโกศอิฐิสีม่วง สีโปรดของน้องชาย และนำกลับบ้านเกิดเท่านั้น

    ทางครอบครัวเปิดเผยว่า มีแผนจะจัดพิธีศพและพิธีอำลาครั้งสุดท้ายแด่ชิมูระ เคน ในเดือนพฤษภาคม โดยจัดในแวดวงญาติและผู้ใกล้ชิดเท่านั้น

    ส่วนประชาชนและบรรดาแฟนคลับได้นำดอกไม้มาวางไว้บริเวณต้นไม้ ที่ชิมูระเคยปลูกไว้ที่หน้าสถานีรถไฟฮิงาชิมูระยามะ ของรถไฟสายเซบู โดยทางการท้องถิ่นร้องขอให้ผู้ที่มาไว้อาลัยแด่ศิลปินผู้เป็นที่รัก ให้ความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัยป้องกันการระบาดของไวรัสร้ายที่คร่าชีวิตนักแสดงดังผู้นี้.

    563000003420705.jpg

    https://mgronline.com/japan/detail/...c6tX9AGOIOwY4N54zY8t4QFOTn98IlUq04z25cOYsRhzg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นครพนมอ่วม! พื้นที่ควบคุมโควิด “พายุถล่ม” บ้านพังเสียหายกว่า 20 หลัง
    %3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F04%2F%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%94.jpg
    พายุถล่มพื้นที่ควบคุมโควิด ต.ท่าจำป่า อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ถูกพายุฝนพัดจนบ้านเรือนประชาชนชนเสียหายกว่า 20 หลัง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดสรรงบประมาณซ่อมแซมบ้าน แบละเฝ้าระวังพายุพัดถล่มซ้ำ

    Cr. เพจนครพนม

    เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 1 เม.ย. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนตกลงมาอย่างหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลให้บ้านเรือนของชาวบ้านในพื้นที่บ้านคำเตย หมู่ 7 และ หมู่ 16 ต.ท่าจำป่า อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้รับความเสียหายกว่า 20 หลังคาเรือน พบบ้านเสียหายหนักถูกพายุพัดหลังคาปลิวว่อน เคราะห์ดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต

    ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวถูกกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมโควิด หลังพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่ใกล้เคียงในหมู่บ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำป่า อ.ท่าอุเทน จนต้องปิดไม่ให้เข้าออกหมู่บ้าน 14 วัน และยังมารับชะตากรรมภัยธรรมชาติพายุถล่มซ้ำเติมจนทำให้ชาวบ้านวิตกกังวลมากขึ้นกว่าเดิม

    The post นครพนมอ่วม! พื้นที่ควบคุมโควิด “พายุถล่ม” บ้านพังเสียหายกว่า 20 หลัง appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์
    https://www.springnews.co.th/thailand/640783
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    jWOnE_7pkWp6SzE6Whf240KYHIavrIStfwGpuLNenefg&_nc_ohc=rYOVjyRLkbkAX-EdqSB&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปิดเส้นทางคัดกรองคนเร็ว-ชุมชนเข้มแข็ง หนุนน่านปลอดโควิดจนถึงวันนี้ เผยแพร่: 2 เม.ย. 2563 08:39 ปรับปรุง: 2 เม.ย. 2563 09:13 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003471804.jpg
    น่าน - ท้องถิ่นทั่วจังหวัดเดินหน้าปฏิบัติการเข้มมาตรการควบคุมโรคติดต่อ ปิดถนน-โป๊ะข้ามฟาก คัดกรองคนเข้า และชุมชนเข้มแข็ง หัวใจสำคัญหนุนน่านคุมโควิด-19 อยู่หมัดจนถึงวันนี้

    563000003471802.jpg
    จังหวัดน่าน ขณะนี้เป็น 1 ใน 14 จังหวัดของประเทศ และเป็นเพียง 2 จังหวัดของภาคเหนือตอนบน คือ น่าน และลำปาง ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งล้วนเป็นความพยายามของทุกหน่วยงาน ความสามัคคีของชุมชนที่เข้มแข็ง ที่เฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มาได้จนถึงวันนี้

    นายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประธาน คกก.ควบคุมโรคติดต่อจังหวัดน่าน สั่งปิดเส้นทางและตั้งด่านตรวจด่านคัดกรองเข้าออกตัวจังหวัด ทั้งโป๊ะเรือข้ามฟากที่เป็นเส้นทางลัดจากอุตรดิตถ์-อ.นาหมื่น จ.น่าน เส้นทางตามแนวด่านชายแดนที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน เส้นทางเชื่อมต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจังหวัดแพร่ และพะเยา ปิดบริการการโดยสารสาธารณะทั้งทางบกและอากาศ คัดกรองบุคคลที่จะเข้ามาในพื้นที่จังหวัดน่าน

    563000003471805.jpg
    มีการบูรณาการทุกหน่วยงานและองค์กร สร้างความเข้าใจและขอความร่วมมือในการปิดสถานบันเทิง ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่สาธารณะที่จะเป็นแหล่งรวมคน รวมถึงงดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวและชุมนุมผู้คนจำนวนมากด้วย นอกจากนี้ยังสั่งการให้นายอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้มาตรการเข้มข้นในการเฝ้าระวังและคัดกรองกลุ่มเสี่ยง การติดตามการกักตัวของกลุ่มเสี่ยง

    ในเขตเทศบาลเมืองน่าน ซึ่งมี 31 ชุมชน และเป็นพื้นที่ซึ่งมีความแออัด นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้จังหวัดน่านยังคงรอดพ้นมาได้ถึงวินาทีนี้คือมาตรการรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ต่างๆ ที่นำมาใช้อย่างรวดเร็ว และความเข้มแข็งของชุมชน ที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกัน มีการช่วยกันเฝ้าระวังกันเองในหมู่บ้านอย่างเข้มข้น คัดกรองกลุ่มเสี่ยงร่วมกับทางราชการ ทำบัญชีคนเข้าออกในหมู่บ้าน

    563000003471806.jpg
    “คนที่เดินทางมาจังหวัดน่านไม่สามารถระบุได้ว่าติดเชื้อหรือไม่ แต่ประชาชนชาวน่านได้นำความรู้ในการป้องกันตนเองมาใช้อย่างถูกวิธี มีกฎระเบียบการใช้ชีวิตร่วมกัน อย่างการไปตลาด หากใครไม่สวมหน้ากากอนามัยจะเข้าไปซื้อของไม่ได้ ตรงนี้ทำให้จังหวัดน่านสามารถป้องกันตนเองจากสถานการณ์โรคระบาดได้”

    ด้านนายนรินทร์ เหล่าอารยะ นายก อบจ.น่าน ได้มอบเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดให้แก่ผู้แทนจากสำนักงานสาธารณสุข อ.บ้านหลวง และ อ.สองแคว เพื่อนำไปใช้ประจำด่านตรวจคัดกรองของแต่ละอำเภอ และได้จัดหาเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิแบบกล้องวัดความร้อนไว้ประจำด่านคัดกรองห้วยน้ำอุ่น อ.เวียงสา ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับจังหวัดแพร่ และถือว่าเป็นประตูเข้าออกหลักของจังหวัดน่านเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและรวดเร็วให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและประชาชน

    563000003471801.jpg

    563000003471803.jpg

    https://mgronline.com/local/detail/...r9VeBPYMuCaqm9KZl36LG9JsNrIqE7yVQFgO-iVVTL70Y
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่กลัวโควิด-19 ฝ่าฝืนประกาศจังหวัด! นักท่องเที่ยวต่างชาติ-สาวไทยไร้จิตสำนึก จับกลุ่มจัดปาร์ตี้มั่วยา ตร.ป่าตองรวบ เผยแพร่: 2 เม.ย. 2563 09:50 ปรับปรุง: 2 เม.ย. 2563 09:59 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003473501.jpg
    ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตร.ป่าตองบุกจับหนุ่มสาวไทยและต่างชาติ จัดปาร์ตี้มั่วสุมแอลกอฮอล์และยาเสพติดกลางเมืองป่าตอง อึ้งพบเหล้า โคเคน กัญชาเพียบ ไม่กลัวโควิด-19 ไม่สนประกาศจังหวัดภูเก็ต

    563000003473502.jpg
    เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (1 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ป่าตอง ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สภ.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ร่วมกันเข้าตรวจสอบบ้านเช่าหลังหนึ่งบริเวณ ถ.สิริราชย์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ก่อนจะร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชายชาวออสเตรเลีย 1 คน นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ 3 คน นักท่องเที่ยวชายชาวอังกฤษ-ยูเครน 1 คน นักท่องเที่ยวชายอเมริกา 1 คน นักท่องเที่ยวหญิงชาวยูเครน 3 คน และหญิงไทย 5 คน

    563000003473503.jpg
    พร้อมของกลางหลายรายการ เช่น สุรายี่ห้อต่างๆ เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องเล่น DJ แบบ All in one ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ชนิดกดปิดดึงเปิด น้ำหนักรวมถุงประมาณ 0.94 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแห้งอัดแท่ง) ห่อด้วยกระดาษ น้ำหนักประมาณ 2.16 กรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาแห้ง) บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาวขุ่น น้ำหนักประมาณ 1.88 กรัม

    563000003473504.jpg
    โดยแจ้งข้อกล่าวหา มีความผิด “ทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด โดยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ (ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต) ตามประกาศจังหวัดภูเก็ต ฉบับที่ 8/2563 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2563 เรื่อง ให้เจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้พักอาศัยในบ้าน โรงเรือน สถานที่หรือยานพนะที่มีโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดเกิดขึ้น หรือมีเหตุสงสัยว่าได้เกิดโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

    563000003473505.jpg
    สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า บ้านหลังดังกล่าวมีกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาย-หญิง มั่วสุมกันเป็นจำนวนมาก หลังรับทราบจึงได้เข้าไปตรวจสอบ และพบว่ามีการรวมกลุ่มกันจริงอยู่ที่บริเวณสระน้ำชั้น 2 ของตัวบ้าน ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการจัดปาร์ตี้ ขณะนักท่องเที่ยวทั้งชายหญิงและมีทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่สวมใส่ชุดว่ายน้ำ โดยส่วนหนึ่งมีการลงเล่นน้ำ และส่วนหนึ่งนั่งดื่มกินอยู่บริเวณริมสระน้ำ และบริเวณห้องนอนที่ใกล้กับสระน้ำ กำลังมึนเมาและเปิดเพลงเสียงดัง

    ตรวจสอบพบเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หลากหลายยี่ห้อ รวมถึงโคเคนและกัญชาด้วย จึงแจ้งให้ทราบว่า การรวมตัวกันดังกล่าวมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ห้ามมีการรวมตัวจำนวนมาก และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของจังหวัดภูเก็ต จึงยึดของกลางรวมประมาณ 15 รายการ และนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


    https://mgronline.com/south/detail/...dAlaRHP-GgXjNRYWLrebtzsEnywYrcsN404nuXQbsUxfs
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิด-19 บุกทำเนียบฯ กักตัวเลขานุการ ศบค.หลังพบผู้ปฏิบัติงานติดเชื้อ
    เผยแพร่: 2 เม.ย. 2563 09:33 ปรับปรุง: 2 เม.ย. 2563 12:35 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000003473101.jpg
    กักตัวเลขานุการ ศบค. พร้อม “นิชา ธุวธรรม” รองเลขาฯ นายกฯ เพื่อสังเกตอาการ หลังผู้ปฏิบัติงานใน ศบค.ติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ “ดิสทัต” กักตัวและทำงานที่บ้านมา 1 สัปดาห์แล้ว ส่วนนายกฯ ตรวจร่างกายแลัวัดอุณหภูมิตลอด สุขภาพยังแข็งแรงทำงานได้ตามปกติ

    วันนี้ (2 เม.ย.) รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า นับแต่พบผู้ปฏิบัติงานของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ติดโรคโควิด-19 มีการกักตัวผู้ใกล้ชิดแล้วจำนวนมาก

    ล่าสุด นายประทีป กีรติเรขา รองเลขานายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ศบค. และนางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร ซึ่งมาร่วมประชุมและทำงานที่ ศบค.อย่างต่อเนื่อง ได้กักตัวเพื่อสังเกตอาการแล้ว แม้จะไม่มีไข้หรืออาการป่วยที่เข้าข่ายก็ตาม

    นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้กักตัวสังเกตอาการที่บ้านมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ แต่ยังคงทำงานจากที่บ้านโดยตลอด

    สำหรับนายกรัฐมนตรีมีการตรวจร่างกาย และวัดอุณหภูมิเป็นประจำ ยังคงมีสุขภาพแข็งแรงดี ทำงานได้ตามปกติ

    https://mgronline.com/politics/deta...tSFyIVpvZJUsAUI3IIifl25fNFfvK-pl7xkQfv6v_aqb8
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน! ไทยพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 104 ราย เสียชีวิตอีก 3 ราย
    750x422_874085_1585806317.jpg
    2 เมษายน 2563

    ศบค. แถลง ไทยพบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 104 ราย เสียชีวิตอีก 3 ราย

    เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน ว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 104 ราย ยอดสะสมรวม 1,875 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมผู้เสียชีวิตสะสม 15 ราย หายเพิ่ม 59 ราย รวม 505 ราย

    158580651533.png


    https://www.bangkokbiznews.com/news...ons&utm_campaign=104 3&utm_content=&utm_term=
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'การบินไทย' ประกาศให้พนักงานหยุด 2 เดือน ลดเงินเดือน 10-50%
    750x422_874058_1585802316.jpg
    2 เมษายน 2563

    เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 63 รายงานข่าวจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศให้พนักงานหยุดงาน 2 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 ถึง 31 พฤษภาคม 2563 พร้อมนี้จะมีการปรับลดเงินเดือนพนักงานตั้งแต่ 10-50%

    ทั้งนี้ นับตั้งแต่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการลาออกของนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) การบินไทย ที่จะมีผลวันที่ 11 เม.ย.นี้ ซึ่งถูกแทนที่ด้วยการแต่งตั้ง "รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่" คือ นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล รองประธานกรรมการการบินไทย เข้ามาทำหน้าที่นี้ทันทีนั้น

    นายจักรกฤศฏิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" หลังเข้ารับหน้าที่รักษาการดีดี ว่า ขณะนี้การบินไทยกำลังใช้โอกาสที่ได้รับผลกระทบจากการการระบาดของโควิด–19 ส่งผลให้ต้องหยุดทำการบินหลายเส้นทาง เพื่อประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำแผนฟื้นฟูองค์กรให้สอดรับกับสถานการณ์ขณะนี้ โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หรือภายใน มิ.ย.นี้


    “ผมเข้ามารับตำแหน่งได้ 3 วัน แผนฟื้นฟูที่ดีดีคนก่อนดำเนินการไว้ ก็ยังไม่ผ่านการพิจารณาจากกระทรวงคมนาคม ดังนั้นเราจึงนำมาปรับ นำมาต่อยอดให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ในแบบที่ผมคิดว่าควรจะดำเนินการอย่างด่วน คือ การลดค่าใช้จ่าย และหารายได้ทุกช่องทาง”

    ขณะเดียวกัน การปรับลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กร ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยจากการให้สัมภาษณ์ในครั้งนั้น นายจักรกฤศฏิ์ เผยว่า ได้หารือร่วมกับพนักงานทุกภาคส่วนแล้ว พบว่า พร้อมให้ความร่วมมือปรับลดรายได้ที่เคยรับ โดยจะแบ่งเป็น 1.พนักงานระดับสูงจะปรับลดรายได้ค่อนข้างเยอะ 2.พนักงานระดับกลาง–ล่าง จะปรับลดรายได้เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ

    ส่วน แผนเพิ่มรายได้ ขณะนี้มองว่าการบินไทยจะต้องพิจารณาทุกช่องทางที่สร้างรายได้ให้กับองค์กร นอกเหนือจากการขายตั๋วผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำลังเป็นที่นิยมแล้ว โดยจะต้องเพิ่มการขายสินค้าส่วนอื่น อีกทั้งจะต้องขายตั๋วผ่านทุกช่องทางที่ดำเนินการได้ และสอดรับกับความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันก็พบว่าแม้จะเกิดช่วงโควิด-19 แต่รายได้จากการขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ยังมีอย่างต่อเนื่อง จึงนับเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่การบินไทยควรหารายได้เพิ่ม


    https://www.bangkokbiznews.com/news...s&utm_campaign=2 10-50&utm_content=&utm_term=
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘พ่นยาฆ่าเชื้อ’ เสียเวลา เปลืองทรัพยากร
    750x422_873969_1585742544.png
    2 เมษายน 2563 | โดย กนกวรรณ เกิดผลานันท์

    ในช่วงที่ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดไปทั่วโลก คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 40,000 คน ภาพที่เห็นกันบ่อยๆ คือ เจ้าหน้าที่ในชุดป้องกันครบเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อในที่สาธารณะ เช่น ที่แกรนด์บาซาร์ของตุรกี หรือการพ่นยาใส่แรงงานย้ายถิ่นของอินเดีย

    และวันก่อนก็มีภาพเผยนายพลไทยใส่ชุดป้องกันแน่นหนาฉีดยาฆ่าเชื้อโรคโควิด-19 ในคืนวันเกิดของตนเอง

    มาตรการนี้ดูเผินๆ ก็น่าประทับใจเมื่อนำมาใช้สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสที่กระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญทำแบบนี้แทนที่จะได้ประโยชน์กลับเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แถมยังสูญเสียทรัพยากรและเวลา

    “ตลกมากที่หลายๆ ประเทศทำแบบนี้” เดล ฟิเชอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากสิงคโปร์ ประธานเครือข่ายเฝ้าระวังและรับมือการแพร่ระบาด ประสานงานโดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ เขาไม่เชื่อว่า การทำเช่นนี้จะรับมือการแพร่ระบาดได้และอาจเป็นอันตรายต่อประชาชนเสียด้วยซ้ำ

    “ไวรัสอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ไม่นานหรอก และคนเราก็ไม่ไปสัมผัสพื้นอยู่แล้ว” ผู้เชี่ยวชาญย้ำ

    ล่าสุดเมื่อวันอังคาร (31 มี.ค.) สุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย ส่งโดรนลำหนึ่งขึ้นไปพ่นยาฆ่าเชื้อ

    เฟบรีอาทิตยา ประจาตารา โฆษกนายกเทศมนตรีสุราบายา บอกว่า จำเป็นต้องส่งโดรนขึ้นไปพ่นยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่มีผู้ติดเชื้อ เพราะไวรัส “อาจอยู่ที่ใดก็ได้” เขาเปรียบเทียบยาฆ่าเชื้อเบนซาลโคเนียมคลอไรด์ ที่อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ถ้าใช้ในระดับความเข้มข้นสูง ว่าเปรียบเหมือนกับ “สบู่” ทำให้ไวรัสอ่อนแรงจนเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ไม่ได้

    ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ ที่แพร่กระจายผ่านละอองฝอยจากจมูกหรือปาก ด้วยการไอหรือจาม หรือคนเราเอามือไปจับสิ่งที่ปนเปื้อนละอองฝอยแล้วมาจับจมูก ปาก ตา ก็ติดโรคได้เหมือนกัน

    กระนั้น ชาวบ้านสุราบายาก็ดีอกดีใจกับโครงการพ่นยาฆ่าเชื้อ

    “การใช้โดรนได้ผลมากเลยครับ ฆ่าเชื้อได้ทุกที่เลย บนหลังคาก็ด้วย ถ้าใช้แรงคนฉีด มากสุดก็ไปได้แค่สุดขอบรั้ว” อาลี ซาร์โวโน เห็นดีเห็นงามกับทางการ

    ขณะที่ พอล ทัมบยาห์ จากสมาคมจุลชีววิทยาคลินิกและการติดเชื้อแห่งเอเชียแปซิฟิก แนะว่า การล้างมือและเจาะจงทำความสะอาดพื้นผิวที่ผู้คนสัมผัสบ่อยๆ เช่น ปุ่มกดลิฟต์ น่าจะดีกว่าการฉีดยาฆ่าเชื้อ

    “การพ่นยาฆ่าเชื้อต้นทุนไม่สูงและมองเห็นเป็นรูปธรรม แต่การให้ความสนใจกับสุขอนามัยส่วนตัวและสิ่งแวดล้อมน่าจะได้ผลมากกว่า”

    ที่มาเลเซีย หลังสั่งล็อคดาวน์ทั้งประเทศไปแล้วทางการก็เร่งฉีดยาฆ่าเชื้อในพื้นที่ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง หวังลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด แต่ภาพรถฉีดสเปรย์ละอองฟุ้งลงบนถนนก็ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขปรี๊ดแตก

    “ไปฆ่าเชื้อถนนมันจะได้อะไร มีแต่เสียเวลา เปลืองทรัพยากร” คริสโตเฟอร์ ลี อดีตผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อบ่นอุบ

    ร้อนถึง นูร์ ฮิชาม อับดุลลาห์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข รีบแถลงว่า รัฐบาลจะออกคู่มือให้ทางการท้องถิ่นนำไปใช้ปฏิบัติ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าปฏิบัติการฆ่าเชื้อดำเนินไปอย่างเหมาะสม

    กลับไปที่อินโดนีเซีย ตอนนี้กรุงจาการ์ตากำลังติดตั้งตู้ฆ่าเชื้อรูปร่างเหมือนตู้โทรศัพท์ขึ้นทั่วเมือง แค่เดินผ่านก็กำจัดเชื้อโรคบนเสื้อผ้าและผิวหนังได้

    “ก็ดีนะ รู้สึกสะอาดหลังจากสัมผัสนู่นนี่มาจากรถเมล์ ฆ่าเชื้อแล้วก็เหมือนมีอะไรป้องกัน” แฟนี อานิสา ชาวจาการ์ตาเผยความรู้สึกหลังออกมาจากตู้ฆ่าเชื้อนอกสถานีขนส่งใจกลางกรุง

    โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มของภาคเอกชน ที่ต้องการช่วยเหลือทางการท้องถิ่น แต่ถูกวิกู อะดิสอัสมิโต อาจารย์สาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งอินโดนีเซีย วิจารณ์ว่า ตู้ฆ่าเชื้ออาจทำให้ระคายเคืองผิว ปาก และดวงตา

    เช่นเดียวกับ เลียง โฮ นัม ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ จากโรงพยาบาลเมาต์เอลิซาเบธในสิงคโปร์ กล่าวว่า การพ่นยาฆ่าเชื้ออาจสะดุดตาและทำให้สบายใจ แต่ควบคุมไวรัสไม่ได้ผล

    “ถ้าจะให้ได้ผลดีกว่านั้นก็ใช้เครื่องฉีดน้ำ ฉีดใส่ผู้คนให้พวกเขากลับบ้านไปเลยหมดเรื่อง” ผู้เชี่ยวชาญรายนี้สรุป


    https://www.bangkokbiznews.com/news...ce=slide_topnews&utm_medium=internal_referral
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สั่งชะลอ 'คนไทย-ต่างชาติ' เข้าไทย เริ่มวันนี้-15 เม.ย.
    750x422_874091_1585809957.jpg
    2 เมษายน 2563

    นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันนี้ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการในที่ประชุม ศบค. ว่าเพื่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื่้อรายใหม่ลดลง ได้สั่งการให้กระทรวงต่างประเทศ ดำเนินการชะลอคนต่างชาติและคนไทย ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 15เมษายน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

    158580869456.jpg

    โดยโฆษก ศบค. ได้นำเสนอกราฟฟิคความเสี่ยงของต่อการแพร่ระบาดของโรคโรควิด-19 ประกอบด้วยว่า คนไทยที่ไปประชุมที่อิตาลี จำนวน 6 คน ติดเชื้อ 4 คน ผู้ติดเชื้อสัมผัสเพิ่ม 1 quarantine 50 คน

    ศาสนากิจที่มาเลเซีย (29 ก.พ.-2 มี.ค.) จำนวน 132 คน ติดเชื้อ 47 คน เสียชีวิต 4 คน quarantine 1000+ คน

    ศาสนกิจที่อินโดนีเซีย จำนวน 56 คน ติดเชื้อ 32 คน (ครั้งล่าสุดจำนวน 27 คน ติดเชื้อ 19 คน quarantine 500+ คน

    ผู้เดินทางจากอังกฤษ ติดเชื้อ 4 คน เสียชีวิต 1 ราย (นักธุรกิจ) quarantine 200+ คน ผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อ ป่วยแต่ปกปิดอาการ

    ผู้เดินทางจากกัมพูชา เชื่อมโยงด่านปอยเเปต ติดเชื้อ 19 คน quarantine 300+ คน

    https://www.bangkokbiznews.com/news...tions&utm_campaign=-15&utm_content=&utm_term=
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,250
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP

    xnL1ELYAYXk2xK0qXSRfHderz9oj5WU3wsVGkV7UgXjg&_nc_ohc=GDfI6piwloAAX_Qk8gh&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.png

    ในขณะที่ สหรัฐผู้ใช้น้ำมันอันดับที่ 1 ของโลก (20% ของโลก) กำลังติดพันอยู่กับวิกฤตไวรัสโควิด และยังไม่แน่ใจต่อนโยบายรับมือ #สงครามราคาน้ำมัน ครั้งนี้อย่างไร ? จะคุยกล่อมซาอุและรัสเซียสำเร็จไหม ? จะใช้ถังน้ำมันสำรองฉุกเฉินของประเทศซื้อน้ำมันเข้าตุน หรือ ปล่อยให้บริษัทเอกชนเป็นคนเช่าดี ? อย่างที่ได้รายงานไป

    เมื่อกลางวันนี้ ทางจีนผู้ใช้น้ำมันอันดับที่ 2 ของโลก (14% ของโลก) ไม่รอช้าแล้ว !ประกาศเร่งเดินหน้าเข้ากว้านซื้อน้ำมันเข้าคลังสำรองของประเทศในช่วงที่ราคาน้ำมันต่ำ

    ได้ยินว่าหลายๆโบรคเริ่มเชียร์ให้ซื้อหุ้นน้ำมันเพราะเหตุการณ์นี้ แต่วันนี้เราจะมาลองวิเคราะห์กันดูครับ ว่า #การเข้าซื้อน้ำมันนี้ของจีนนี้ จะทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นได้จริงๆหรือ ???



    1️⃣ การที่จีนเข้าซื้อน้ำมันนั้นเป็นเพราะ #ผู้ที่มีถังน้ำมันว่าง ตอนนี้สามารถทำกำไรเพิ่มจาก Contango ได้ ! ไม่ใช่เป็นการเก็งกำไรเพราะราคาน้ำมันต่ำแล้วนะครับ

    เราเคยอธิบายในรายละเอียดกันไปแล้วว่า ทำไมคนที่มีถังน้ำมันตอนนี้ถึงสามารถซื้อน้ำมันเข้ามาเก็บและขายออกไปโดยไม่มีความเสี่ยงต่อราคาในอนาคตว่าจะลดลงหรือไม่ เพราะคนซื้อสามารถเข้าไปล็อคขายราคาน้ำมันล่วงหน้าไว้ได้เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง

    #ทำให้การเข้าซื้อของจีนในครั้งนี้นั้นไม่ใช่การเก็งกำไรครับ !

    ใครอยากได้รายละเอียดเรื่อง Contagngo เพิ่มเติม เชิญดูได้ใน comment เลยนะครับ

    2️⃣ จีนมีความจำเป็นที่ต้องเข้าซื้อน้ำมันเพื่อเป็นการสำรองน้ำมันไว้ใช้ในประเทศจริงๆ และกำลังต้องการอย่างมหาศาลไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงอย่างเดียว

    ถึงแม้ทางสหรัฐจะเป็นผู้ใช้น้ำมันมากที่สุดในโลก แต่จีนนั้นผลิตน้ำมันได้น้อยจึงต้องเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลก ! จีนมีความต้องการใช้น้ำมัน 14 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ผลิตได้เองเพียงแค่ 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน (27%) แปลว่าทางจีนจำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันจากต่างชาติถึง 73% ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับประเทศมหาอำนาจอย่างจีนซึ่งหากเกิดสงครามขึ้นมาและนำเข้าน้ำมันไม่ได้อาจเกิดการขาดแคลนน้ำมันในประเทศได้

    ทางรัฐบาลจีนมีความจริงจังมากต่อการลดความเสี่ยงต่อการพึ่งพาน้ำมันต่างชาติเป็นอย่างมาก ทางรัฐบาลเองมีความต้องการที่จะเก็บน้ำมันใรคลังฉุกเฉินของรัฐให้ได้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศได้ที่ 90 วัน และวางเป้าไว้ว่าหากรวมกับบริษัทเอกชนที่สำรองน้ำมันไว้เองแล้วด้วยต้องครอบคุมการใช้ในประเทศให้ได้สูงเป็น 180 วัน เพื่อลดความเสี่ยงน้ำมันขาดแคลนยามฉุกเฉิน

    3️⃣ น้ำมันที่จีนจะนำเข้าจะพยุงตลาดไปได้นานเพียงใด ?

    วันนี้ทางจีนยังไม่ได้ประกาศปริมาณที่จะนำเข้าออกมาให้ตลาดทราบ แต่เราก็พอจะเดาได้ครับ #ลองมาวิเคราะห์กัน

    จีนมีถังเก็บน้ำมันสำรองฉุกเฉินได้ 500 ล้านบาร์เรลในตอนนี้ และจากตัวเลขที่เราเฝ้าตามจีนน่าจะมีน้ำมันสำรองอยู่แล้วประมาณ 80% หรือ 400 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสหรัฐที่รายงานไปเมื่อวานว่ามีเก็บไว้ 635 ล้านบาร์เรล จากความจุ 713.5 ล้านบาร์เรล หรือประมาณเกือบ 90% ทำให้จีนยิ่งต้องรีบเร่งเข้าเก็บน้ำมันเพิ่ม

    ลองตั้งสมมุติฐานว่าจีนจะเข้าซื้อน้ำมันเต็มที่เลยที่ 100 ล้านบาร์เรล แต่ทุกวันนี้น้ำมันที่ซาอุผลิตออกมาเกินประเทศเดียวก็อยู่ที่ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้ว หากเรารวมประเทศอื่นๆในกลุ่มโอเปกที่มีต้นทุนต่ำเราคงมีน้ำมันผลิตเกินอยู่ถึงวันละ 4-6 ล้านบาร์เรลต่อวัน นี่ยังไม่รวมการใช้ที่หายไปอีก 26 ล้านบาร์เรลต่อวันอีกนะครับ

    ถ้าคิดง่ายๆ ปริมาณที่จีนสามารถเข้าซื้อได้เต็มที่ก็ช่วยลดทำให้การหายไปของน้ำมันตอนนี้ไม่ล้นตลาดไปแค่ 4 วัน (100/26 = 4 วัน) หรือถ้าเราจะนับจากปริมาณที่ซาอุผลิตเพิ่ม จีนก็ช่วย absorb น้ำมันไปได้แค่ 1 เดือนอย่างเต็มที่ (100/30 = 33 วัน) ทำให้ไม่อาจช่วยได้ต่อปริมาณน้ำมันที่กำลังล้นท่วมตลาดเลย ปริมาณซื้อ 100 ล้านบาร์เรลถือว่าน้อยมากเวลานี้

    #สรุป - คุณคิดว่าปริมาณการซื้อน้ำมันจากจีนนี้จะช่วยให้ราคาน้ำมันเด้งขึ้นได้นานหรือครับ ? ทางจีนเองก็ไม่ได้ซื้อเข้าไปเพราะการเก็งกำไรว่าราคาต่ำแล้วด้วย

    อย่างที่ทางเราวิเคราะห์มาตลอดนะครับ ว่าทางเดียวที่ราคาน้ำมันจะขึ้นได้คือการที่ผู้ผลิตหันมาคุยกัน และเหตุผลที่ราคาดีดขึ้นมาเช้านี้เป็นเพราะทางกลุ่มผู้ผลิตสหรัฐมีการเรียกรวมตัวกันครั้งใหญ่เพื่อลดกำลังการผลิตรวมกันวันที่ 14 เมษายนนี้ (Texas Regulators Meeting) ทำให้ตลาดกังวลในเรื่องนี้

    #ปล. ราคาหุ้นพลังงานไทยไม่ได้ขึ้นลงตามราคาน้ำมันดิบในโลกอย่างเดียว เนื่องจากภาวะวิกฤตโควิดทำให้ราคากำลังขึ้นลงเพราะปัจจัยการระบาดของเชื้อในประเทศและความเชื่อมั่นของระบบการเงินไทยด้วย เพราะฉะนั้นก่อนลงทุนควรพิจารณาปัจจัยต่างๆให้ถี่ถ้วนก่อนนะครับ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารแบบทันท่วงทีหรืออยากเข้าใจเรื่องราวและที่มาในตลาดน้ำมัน แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

    https://www.facebook.com/108586193028066/posts/521898331696848/?d=n

     

แชร์หน้านี้

Loading...