ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หายนะจากโควิด-19 อาจวิกฤตถึงขั้นสายการบิน Low cost ล่มสลายเพราะต้องใช้ชีวิตแบบ New Normal
    : การใช้ชีวิตแบบ New normal ถ้าโชคดี ก็คงเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่งขณะที่โควิด-19 ยังไม่หยุดแพร่ระบาด แต่ถ้าโชคร้าย ก็อาจทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล หรือจนกว่าโรคระบาดจะถูกลบเลือนไป ไม่ว่าจะเกิดจากผลิตวัคซีนได้ หรือสามารถกำจัดโรคโควิด-19 ไปได้ ซึ่งก็ยังไม่มีใครรู้เวลาที่แน่นอนว่าโควิด-19 จะจบลงเมื่อไร แต่ที่รู้แน่ๆ คือวัคซีนอาจจะมาถึงมือผู้คนได้ภายใน 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขส่วนใหญ่คาดการณ์

    หนึ่งในความโชคร้ายที่เราต้องพบเจอก็คือ สายการบิน Low cost ที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงการบินระดับที่ใครๆ ก็บินได้ อาจจะกลายเป็นไม่ใช่ทุกคนที่บินได้แทน เนื่องจาก มาตรการ Social Distancing ที่ทำให้คนต้องเว้นระยะห่างทางสังคมส่งผลกระทบต่อสายการบินแน่นอน ลองจินตนาการว่า หากวันหยุดที่มีการท่องเที่ยวหนาแน่นตามเทศกาลต่างๆ แต่ที่นั่งของเครื่องบินสามารถบรรจุคนได้เพียงครึ่งหนึ่ง จะเป็นอย่างไร..?

    การใส่หน้ากากไม่ว่าจะกับผู้โดยสารหรือผู้ให้บริการ ในแง่หนึ่งก็สร้างความปลอดภัยต่อกันได้ดี แต่เรื่องการบรรจุคนได้เพียงครึ่งเดียวนั้นหมายความว่ารายได้ของสายการบินจะต้องลดลงครึ่งหนึ่งด้วย ?

    New Normal ของสายการบิน คือการนำ Social Distancing มาปรับใช้

    New normal ที่กำลังเกิดขึ้นกับสายการบินต่างๆ คือการเริ่มนำมาตรการ Social Distancing มาใช้ นักวิเคราะห์ด้านการบินได้พูดถึงสายการบิน Low cost อย่าง Jetstar Asia ที่ได้กลับมาปฏิบัติการแล้วบางส่วนเมื่อวันอังคารที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทั้งเที่ยวบินจะมีผู้โดยสารไม่เกิน 112 ที่นั่ง หรือมีผู้โดยสารเพียง 60% เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการ Distancing คือการเว้นที่นั่งหนึ่งที่ให้ผู้โดยสารนั่งโดยมีระยะห่างจากกัน

    ขณะที่บินอยู่จะไม่มีการให้บริการอาหาร แต่จะมีเพียงน้ำดื่มเท่านั้น หลายสายการบินเริ่มใช้มาตรการดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Air New Zealand, KLM และ United Airlines ล้วนปฏิบัติแบบเดียวกัน เพื่อความปลอดภัย เรื่องนี้ Brendan Sobie นักวิเคราะห์ด้านการบินระบุว่า มันอาจจะเร็วเกินไปสำหรับสายการบินที่จะต้องมีการจัดธรรมเนียมปฏิบัติแบบใหม่ ซึ่งการบล็อคที่นั่งในเครื่องบินจะส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อรายได้ของสายการบิน เพราะสายการบินส่วนใหญ่มีคาร์โกเป็นรายได้หลัก

    แต่สถานการณ์เช่นนี้อาจส่งผลให้การท่องเที่ยวราคาถูกที่ผู้คนมักนิยมเดินทางท่องเที่ยวกันจะต้องล่มสลายไป ซึ่ง Alexandre de Juniac ผู้อำนวยการ IATA (สมาคมขนส่งทางอากาศยานระหว่างประเทศ) กำหนดให้มีการ safe distancing หรือการเว้นระยะห่างในเครื่องบิน อย่างน้อย 1 ใน 3 ของเครื่องจะต้องว่างเปล่า ด้วยเหตุนี้ ก็อาจทำให้สายการบินต่างๆ จำเป็นต้องขึ้นราคาค่าตั๋วเครื่องบินอย่างน้อย 50% เพื่อให้ได้กำไรขั้นต่ำ

    หมายความว่า ทางหนึ่ง ลูกค้าอาจจะบินได้ในราคาเดิม จากการขายตั๋วราคาเดิมเหมือนกับราคาก่อนหน้านี้ที่เคยจ่าย แต่เรื่องนี้ดูจะเป็นไปได้ยากเพราะสูญเสียเงินเยอะ อีกทางหนึ่งคือ เพิ่มราคาค่าตั๋วอย่างน้อย 50% เพื่อที่จะสามารถบินได้โดยมีกำไรขั้นต่ำประคองอยู่

    ลูกค้า Low-cost จะบินได้ในราคาถูกอยู่ไหม ถ้าต้องลดคนนั่งลงครึ่งหนึ่ง?

    ทั้งนี้ Mr.Shukor Yusof ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านการบิน Endau Analytics ให้สัมภาษณ์กับ CNA ว่ามีความเป็นไปได้ที่ราคาต้นทุนจะต้องเพิ่มขึ้น เหมือนกับช่วงหลังเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 ใหม่ๆ ที่ผู้คนต้องการความปลอดภัย ความมั่นคงมากขึ้น ตอนนั้น ต้นทุนต่างๆ ก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน เมื่อธุรกิจแบบสายการบิน Low-cost ทำเงินไม่ได้ ก็เป็นไปได้ที่สายการบินจะไม่ยั่งยืน

    อย่างไรก็ตาม รองศาสตราจารย์ Terence Fan นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านคมนาคมแห่งมหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ระบุว่า สายการบินคงจะเสนอตั๋วราคาถูกลงหลังจากที่วิกฤตโควิด-19 เริ่มซาๆ ลงไปบ้างแล้ว เพื่อให้คนอยากบินมากขึ้น นอกจากนี้ การเว้นระยะห่างบนเครื่องบินนั้นคงจะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ไม่ใช่มาตรการระยะยาว เพราะแต่ละสายการบินก็อยากให้คนบินมากขึ้นอยู่แล้ว

    มองอีกมุมหนึ่งก็คือ ช่วงนี้คือช่วงที่สายการบินต่างๆ กำลังรู้สึกหมดหวัง การใช้มาตรการ social distancing อาจจะทำให้คนมีความรู้สึกอยากบินมากขึ้นก็ได้ ซึ่งก็ควรจะสำรวจคู่แข่งด้วยว่าเขามีมาตรการดึงดูดลูกค้าอย่างไร เพื่อจะได้รับมือกับภาวะแข่งขันเช่นนี้ได้ ซึ่งเรื่องนี้สายการบินเอมิเรตส์ถือว่ามีบทบาทนำในเรื่องนี้ เพราะมีการตรวจโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่อง

    รู้ผลภายใน 10 นาที สายการบิน Emirates เริ่มตรวจโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่อง
    สนามบินนาริตะและฮ่องกงก็เริ่มตรวจโควิด-19 กับผู้โดยสารที่มาจากพื้นที่เสี่ยงติดโควิดสูงเช่นกัน สิ่งเหล่านี้เรียกว่าอาจจะเป็น New Normal ในระยะเวลาอันใกล้ แต่ก็ไม่แน่ว่าจะทำไปยาวนานเพียงใด ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทั่วโลก ในไทยก็เช่นกัน

    แนวทาง Social Distancing ทั่วโลกก็ต้องทำ ในไทยก็ร่วมด้วย

    สำหรับประเทศไทยเอง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้กำหนดแนวปฏิบัติการให้บริการผู้โดยสารเส้นทางบินภายในประเทศช่วงที่โควิด-19 ระบาดด้วย โดยข่าวจากกระทรวงคมนาคมฉบับที่ 442/2563 พูดถึงประกาศฉบับนี้ว่า ผู้ดำเนินการเดินอากาศต้องดำเนินมาตรการ อาทิ

    จำกัดจำนวนที่นั่งที่จะให้บริการ จำหน่ายบัตรโดยสารโดยจัดที่นั่งที่เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ที่นั่งโดยสารระหว่างผู้โดยสารแต่ละคน (เว้นแต่ สภาพกายภาพของที่นั่งมีระยะห่างเพียงพอ, เป็นอากาศยานขนาดเล็ก ที่นั่งไม่เกิน 19 ที่นั่งแบบบินแบบเช่าเหมาลำ, เป็นอากาศยานที่มีจำนวนที่นั่งไม่เกิน 90 ที่นั่ง ให้จำหน่ายบัตรโดยสารได้ไม่เกิน 70% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมดของอากาศยาน)

    ถ้าท่าอากาศยานต้นทางไม่ตรวจคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการ ให้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด และหากวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส มีอาการระบบทางเดินหายใจ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที หากพบว่ามีความเสี่ยง งดออกบัตรขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารนั้น

    - มีมาตรการเว้นระยะห่างของผู้โดยสารตลอดระยะเวลาการเดินทาง
    - ให้สวมหน้ากากอนามัย (Surgical Mask) ตลอดเวลาตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนกว่าจะออกจากเครื่อง หากไม่มีและไม่สามารถจัดหาได้ ให้งดออกบัตรขึ้นเครื่องผู้โดยสารนั้น
    - งดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มขณะปฏิบัติการบิน ห้ามผู้โดยสารรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่นำติดตัวมา
    - หากการบินใช้ระยะเวลามากกว่า 90 นาที ให้สำรองที่นั่ง 2 แถวหลังสุดด้านใดด้านหนึ่งของอากาศยาน สำหรับแยกกักผู้โดยสารที่ป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยเพื่อสังเกตอาการ

    กรณีที่พบผู้โดยสารหรือลูกเรือมีอาการป่วยที่สงสัยว่าจะป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 ขณะอยู่บนอากาศยาน
    - ให้แยกกักผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าจะป่วยนั่งที่นั่งริมหน้าต่างด้านขวาแถวหลังสุดให้ห่างไกลจากผู้โดยสารคนอื่นมากที่สุด
    - ให้กันห้องน้ำห้องหลังสุดไว้ใช้สำหรับกรณีการกักกันโรคโดยเฉพาะ
    - ให้มอบหน้าที่ให้ลูกเรือคนหนึ่งทำหน้าที่ในพื้นที่แยกกัก และให้ลูกเรือที่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับลูกเรือคนอื่นในระยะใกล้กว่า 2 เมตร
    - ให้นักบินผู้ควบคุมอากาศยานแจ้งข้อมูลการตรวจพบผู้โดยสารหรือลูกเรือที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศเพื่อรายงานแก่ผู้ดำเนินการสนามบิน ณ ท่าอากาศยานปลายทาง

    โดย Parichat Chk
    brandinside.asia

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัท Gilead เร่งพัฒนายา remdesivir ให้มีความหลากหลาย และอาจทดสอบใช้กับผู้ป่วยนอกที่มีอาการไม่รุนแรงมากขึ้น

    นาย Daniel O’Day CEO ของบริษัท Gilead ให้สัมภาษณ์ว่าบริษัทกำลังเร่งศึกษาและพัฒนายา ซึ่งจากข้อมูลการทดสอบเบื้องต้นที่ผ่านมาพบว่ายา remdesivir มีผลช่วยในการรักษา Covid-19 ได้

    อย่างไรก็ตาม การทดสอบดังกล่าวยังอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีการรุนแรงเท่านั้น โดยให้ยาทุกวันต่อเนื่องเป็นเวลา 10 วัน

    ในระยะต่อไป ทางบริษัทจะพัฒนารูปแบบยาให้หลากหลายและรองรับกับผู้ป่วยหลายประเภทมากขึ้น เช่น มีทั้งยาฉีดและยาทาน รวมทั้งอาจพิจารณาให้เริ่มให้ยากับผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง รวมไปถึงจ่ายยาให้กลับไปใช้ที่บ้านได้ในอนาคต

    ทั้งนี้ มีการทดสอบการใช้ยา remdesivir ไปแล้วกับผู้ป่วยกว่า 100,000 คน และเป็นไปได้ว่าจะมีการทดสอบกับผู้ป่วยถึงหลักล้านคนภายในสิ้นปีนี้

    ทาง Food and Drug Administration (FDA) ได้ออกประกาศอนุญาตให้ใช้ยา remdesivir เพื่อการรักษา Covid-19 ได้ในกรณีฉุกเฉิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกประกาศลักษณะเดียวกันกับยา hydroxychloroquine ไปแล้ว

    อย่างไรก็ตาม FDA ยังย้ำว่าปัจจุบันยังไม่มียารักษา Covid-19 ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลชัดเจน และยังมีข้อมูลจำกัดเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิผลในการใช้ยา remdesivir เพื่อการรักษา Covid-19

    Source: BoTSS

    - Gilead gets emergency FDA authorization for remdesivir to treat coronavirus, Trump says:

    www.cnbc.com

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้บริหาร “บาร์เคลย์” ชี้ โควิด-19 อาจทำให้สำนักงานใหญ่ “กลายเป็นอดีต”
    : สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายเจส สเตลีย์ หัวหน้าผู้บริหารกลุ่มธนาคารเพื่อการลงทุนรายใหญ่ “บาร์เคลย์” ชี้ว่า สถานการณ์โควิด-19 กำลังจะพลิกโฉมโลกการทำงาน ทำให้การมีพนักงานหลายพันคนในสำนักงานใหญ่ราคาสูงใจกลางเมือง “อาจกลายเป็นเรื่องของอดีต” เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ กำลังปรับตัวเข้ากับมาตรการเว้นระยะทางสังคมและการทำงานทางไกล

    ทั้งนี้ นายสเตลีย์ระบุว่า บาร์เคลย์กำลังทบทวนที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของสำนักงานต่าง ๆ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลให้พนักงานของบาร์เคลย์ราว 70,000 คนทั่วโลกต้องทำงานที่บ้านตามมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้ต้องปิดสำนักงานทั่วโลก ซึ่งบาร์เคลย์มีสำนักงานในย่านเมืองใหญ่ที่คนพลุกพล่านทั่วโลกอย่างย่านคานารี วาร์ฟ กลางกรุงลอนดอน

    นายสเตลีย์ยังระบุด้วยว่า อาจมีการใช้สาขาย่อยของธนาคารเป็นศูนย์การทำงานของพนักงานคอลเซนเตอร์ และการดำเนินการเชิงวานิชย์ธนกิจทั้งหมดในอนาคต ซึ่งนับเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจมีการเลิกจ้างพนักงานประจำของธนาคารหลายตำแหน่ง

    ทั้งนี้ บาร์เคลย์เปิดเผยรายงานผลกำไรในไตรมาส 1/2020 ลดลง 38% อยู่ที่ 913 ล้านปอนด์ และคาดการณ์ว่าสถานการณ์ดรคระบาดจะสร้างความสูญเสียมากถึง 2,100 ล้านปอนด์ เนื่องจากลูกค้าของธนาคารจำนวนมากไม่มีความสามารถในการชำระเงินคืนได้

    นายนีล วิลสัน หัวหน้านักวิเคราะห์การตลาดของ Markets.com ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงเป็นการทำงานทางไกลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับธนาคารต่าง ๆ อย่างบาร์เคลย์ แต่หากมีการปิดสำนักงานใหญ่ใจกลางเมือง ศูนย์บริการ และสำนักงานสาขาก็จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังธุรกิจโดยรอบพื้นที่เหล่านั้น

    อย่างไรก็ตาม บาร์เคลย์ยังไม่ได้เปิดเผยว่าสำนักงานต่าง ๆ ของธนาคารจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อใด แต่ส่งสัญญาณว่าสำนักงานในฮ่องกงจะเป็นพื้นที่แรกที่เปิดให้บริการอีกครั้ง ตามมาด้วยสิงคโปร์และโตเกียว ก่อนที่จะมีการเปิดบริการในยุโรปภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/world-news/news-458237

    www.bbc.com

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก Gill Broussard

    ตำแหน่ง "คาดการณ์" ของ PLANET-7X สำหรับพฤษภาคม 2563
    FB_IMG_1588482382906.jpg
    THE "ESTIMATED" POSITION OF PLANET-7X FOR MAY 2020

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดนีเซียวางแผนจะปลดล็อคดาวใช้ชีวิตปกติในเดือนกรกฎาคม
    .
    อินโดนิเซียเป็นอีกหนึ่งชาติที่ประสบปัญหาการระบาดของโควิด19 จนจำเป็นจะต้องปิดเมือง ในปัจจุบันเขายังตรวจพบผู้ป่วยใหม่ๆ 100-150 คนทุกวันอย่างไรก็ดีพวกเขาวางแผนจะเปิดประเทศเปิดเมืองอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม โดยในภาวะปัจจุบันอินโดนีเซียกำลังประสบภาวะปัญหาเศรษฐกิจจากการปิดเมือง ทำให้ต้องมาประชุมและปรึกษากันถึงแนวทางในการที่จะรับมือการระบาดและคาดหมายว่าการระบาดจะเบาลงในเดือนกรกฎาคม ทำให้ทางภาครัฐตัดสินใจที่จะ เปิดให้ใช้ชีวิตปกติอีกครั้งในเดือนกรกฎาคมเพื่อจะกอบกู้ภาวะปัญหาทางเศรษฐกิจ โดยมองว่ากรกฎาคมถือเป็นช่วงเหมาะสมที่สุดโลกอาจจะยังไม่หมดไปร้อยเปอร์เซ็นแต่อยู่ในภาวะที่ควบคุมได้แล้วและน่าจะมากเกินพอแล้วสำหรับการหยุดทางเศรษฐกิจ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1ธงขาวแทน 1 ผู้เสียชีวิตจากโควิด
    .
    ทุกๆเช้าศิษยาภิบาล Patrick Collins แห่งโบสถ์ใน Old Greenwich, Connecticut จะนำธงขาวนับร้อยผืนมาปักบนสนามหญ้าหน้าโบสถ์เพื่อแสดงจำนวนคนตายในรัฐจาก โควิด19 มาวันนี้ธงนับพันผืนได้ยึดพื้นที่สนามหน้าโบสถ์ไปเรียบร้อยแล้ว
    มันได้สร้างความรู้สึกฟดฟู่และตกใจแก่ผู้พบเห็นว่ามีคนเสียชีวิตมากแค่ไหนกับโรคนี้ในรัฐนี้และหลายคนคิดถึงภาพรวมทั้งอเมริกา

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตอนนี้จีนเปิดโรงเรียนแล้ว และนี้คือพิธีการที่เด็กๆต้องทำก่อนเข้าโรงเรียน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ท่องเที่ยวพระราชวังต้องห้ามแบบsocial-distance
    .
    เมื่อวานวันที่ 1 พฤษภาคมถือเป็นวันแรงงานโลกทางประเทศจีนถือซึ่งเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ถือเป็นวันพักผ่อนที่เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ซึ่งทางการจีนได้เปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญคือ พระราชวังต้องห้าม ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมได้ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาของการระบาดจึงต้องเป็นการท่องเที่ยวแบบ social-distance ซึ่งปกติพระราชวังต้องห้ามเป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีนมีคนเข้าชมเป็นหมื่นคนต่อวันและแน่นมากดังนั้นการท่องเที่ยวแบบที่ต้องเว้นระยะ social-distance
    แอ๊ดเคยไปพระราชวังต้องห้ามและพระราชวังฤดูร้อนพอเข้าใจดีว่ามันแน่นมาก บางพื้นที่นั้นคนแน่นขนาดที่เราหยุดไม่ได้คนพาเราไหลไปเรื่อยๆเลย ดังนั้นภาพที่เห็นจึงเป็นภาพที่พิเศษ คนเบาบางลงไปมาก และคงเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวในอนาคต
    CR TW #CGTNOfficial

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช้างจาก อ.แม่แจ่ม นับร้อยเชือกเดินเท้ากลับบ้านจาก ปางช้างในเขต อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ โดยใช้เส้นทางเดินในป่าลัดเลาะไปตามหุบเขาสูงชัน นับ100กิโลเมตร

    เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสฯที่ระบาดไปทั่วโลก สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังปิดไปทั้งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปางช้างใน จ.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวไม่เดินทางมาเที่ยว ทำให้ช้างและควาญช้างตกงาน ไม่มีเงินใช้จ่ายและค่าอาหาร เจ้าของช้างและควาญช้างจึงตัดสินใจพาช้างกลับบ้านที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเลี้ยงช้างกลุ่มใหญ่ของภาคเหนือ(ติดกับ จ.แม่ฮ่องสอน)

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ค่ำวันนี้ มีรายงานฝนตกหนัก ลมกรรโชกแรง ที่อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ส่งผลให้ กิ่งไม้ ป้ายต่างๆปลิวพาดสายไฟฟ้าแรงสูง ทำให้กระแสไฟฟ้าดับหลายจุด
    .
    .
    ้เครดิตภาพ/ข้อมูล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่ริม

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พายุฤดูร้อนพัดถล่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นหลายต้น มีต้นไม้ใหญ่ถูกแรงลมพัดโค่นขวางถนน ค่ำนี้

    พื้นที่ ได้รับความเสียหาย ต.แม่แรม และ ต.ริมใต้
    .
    .
    เครดิตภาพ/ข้อมูล เพจ แม่ริม เชียงใหม่

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กาดผัด(ตลาดนัดวันพฤหัสบดีเมืองฮอด) เปิดตลาดนัดแรกวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 ขอให้ปฎิบัติตามนโยบายอยู่ห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด ใส่ผ้าปิดจมูกทุกครั้ง...ดังนี้...

    ตลาดนัดวันพฤหัสบดีฮอด(กาดผัดเมืองฮอด) เปิดทำการในวันที่ 7 พฤษภาคม 63 หลังจากมีมาตรการผ่อนปรน โดยกำหนดเงื่อนไขตามมาตรการป้องกัน

    -ทุกคนที่มาตลาดสวมหน้ากากอนามัยทุกคนและให้ผ่านการคัดกรองก่อนเข้าตลาด
    -มีการคัดกรองและเฝ้าระวัง หากผู้จำหน่ายและผู้ใช้บริการมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีไข้ ไอ จาม เจ็บคอ หอบเหนื่อยให้หยุดมาตลาดเพื่อรักษาตัวในสถานบริการสาธารณสุข
    -ผู้มาใช้บริการที่ตลาดต้องเว้นระยะห่างทางสังคมโดยยืนห่างกันหรือตั้งแผงจำหน่ายห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร และทางตลาดจะจำกัดทางเข้า-ออกตลาดทางเดียว

    ดังนั้น ทางตลาดจึงขอความร่วมมือพ่อค้าแม่ค้าและลูกค้าตลาดนัดให้ทำตามมาตรการอย่างเคร่งครัดเพื่อปากท้องและความอยู่รอดปลอดภัยของผู้ใช้บริการตลาดทุกคน
    ฝากทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แล้วมาพบกันวันที่ 7 พ.ค.และต่อๆไป ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือครับ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ร้านจำหน่ายผ้าพื้นเมือง บ้านดอนหลวง ที่อ.ป่าซาง จ.ลำพูน เริ่มเปิดร้านจำหน่ายเสื้อผ้าพื้นเมืองแล้ว

    อย่าลืม ใส่หน้ากากอนามัยและกดเจลล้างมืิอในร้านค้าที่เปิดให้บริการด้วย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสฯ
    .
    เครดิตภาพ/ข้อมูล บ้านดอนหลวง ลำพูน

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิด 19 ระบาด คาดจะยืดเยื้อไปอีก 2 ปี จนกว่าคนส่วนใหญ่จะติดเชื้อ

    รายงานจากทีมผู้เชี่ยวชาญ มหาวิทยาลัยรัฐมินนิโซตา ของสหรัฐฯ เผยแพร่รายงาน แนะนำให้สหรัฐฯเตรียมรับมือสถานการณ์ที่แย่ที่สุด ที่รวมถึง โควิด 19 ระบาด ระลอกสอง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว ซึ่งคือช่วงปลายปี

    ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาโรคระบาด มหาวิทยาลัยมินนนิโซตา ไมค์ ออสเตอร์โฮล์ม ระบุว่า สถานการณ์ โควิด 19 ระบาด จะไม่หยุด จนกว่าจะมีประชากรส่วนใหญ่ติดเชื้อถึง 60 – 70 เปอร์เซ็นต์

    ออสเตอร์โฮล์ม ได้เขียนวิจัยเกี่ยวกับความเสี่ยงการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่มาเป็นเวลา 20 ปี และเป็นที่ปรึกษาให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายสมัย

    รายงานดังกล่าวคาดว่า การระบาดจะยาวนานไปอีก 18 ถึง 24 เดือน เพราะโควิด 19 เป็นโรคใหม่ ไม่มีใครมีภูมิคุ้มกัน ในขณะที่เริ่มมีภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) คือกลุ่มประชากรส่วนใหญ่เกิดภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ เริ่มเกิดขึ้น

    รายงานระบุ เพราะโควิด 19 มีระยะฟักตัวนานกว่า มีการแพร่ระบาดของคนที่ไม่มีอาการมากกว่า และต้องมีคนติดเชื้อจำนวนมากกว่าไข้หวัดใหญ่ก่อนที่การระบาดจะสิ้นสุด โควิด 19 ดูเหมือนจะระบาดง่ายกว่าไข้หวัดใหญ่

    รายงานแนะนำว่า รัฐบาลควรต้องพัฒนาแผนที่เป็นรูปธรรม รวมถึงนำมาตรการบรรเทาผลกระทบกลับมาใช้ใหม่ เพื่อรับมือกับช่วงพีคของโรค ที่จะเกิดขึ้น

    “วัคซีนมีอินธิพลต่อสถานการณ์การระบาด แต่วัคซีนจะไม่มีใช้จนกว่าอย่างน้อยก็ปี 2021 และเราไม่รู้ว่าจะมีความท้าทายแบบไหนเกิดขึ้น ในช่วงที่กำลังพัฒนาวัคซีน”

    ภาพจาก XinhuaThai

    The post โควิด 19 ระบาด คาดจะยืดเยื้อไปอีก 2 ปี จนกว่าคนส่วนใหญ่จะติดเชื้อ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้าป่วยน้อยกว่าสิบครบ 14 วัน สธ.เปิดเมืองเพิ่ม
    ปลัด มท.ร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ จัดระเบียบการเดินทางข้ามจังหวัด หลังความวุ่นวายที่เกิดจากการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชน ถึงขนาดทำให้รถติดโกลาหล
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส่งออกไม่ได้
    ผู้เพาะเลี้ยงปลากัด สวยงาม กลุ่มวิสาหกิจ ชุมชนบ้านอ้อมพยศ หมู่ 7 ต.โพรงมะเดื่อ อ.เมืองนครปฐม จำใจ เทปลากัดนับแสนตัวออกจากขวดเลี้ยง ก่อน นำไปปล่อยในแหล่งน้ำ
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุขภาพหรรษา : โควิด-19 กับเส้นประสาท และสมองอักเสบ
    ความเป็นได้ของโควิด-19 ในการติดเชื้อในสมองโดยตรง เพราะมันอยู่ในไวรัสกลุ่ม Betacoronavirus ซึ่งอาจมีความสามารถในการติดเชื้อในสมองอยู่แล้ว
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

    ย้อนความสั้นๆ ว่าการระบาดของโควิด-19 นั้น เป็นการระบาดของไวรัสโคโรนา รอบที่ 3 ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมาซาร์ส (SARS-CoV1) ระบาดครั้งแรกในปี 2002-2004 ในช่วงนั้นที่ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อ 664 คน และรายงานในปี 2005 หัวข้อ Neurological manifestations in severe acute respiratory syndrome. พบว่าหลังการเริ่มติดเชื้อประมาณ 3-4 อาทิตย์ คนไข้ 3 คนเส้นประสาทเสียหาย (axo-nopathic polyneuropathy)

    แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการติดเชื้อรุนแรงร่วมกับการนอนโรงพยาบาลนาน (critical illness neuropathy) เป็นส่วนหรือไม่ หรือจะเป็น ไวรัสที่สร้างความเสียหาย ที่เส้นประสาทโดยตรง

    ต่อมาการศึกษาในหนูตีพิมพ์ปี 2008 หัวข้อ Severe Acute Respiratory Syndrome Coronavirus Infection Causes Neuronal Death in the Absence of Encephalitis in Mice Transgenic for Human ACE2 พบว่าไวรัสสามารถทำลายเซลล์สมองหนูได้โดยตรง แต่ไม่ได้มีการศึกษาต่อเพราะไม่มีการระบาดของไวรัสแล้ว

    ต่อมาการระบาดของเมอร์ส (MERS-CoV) มีรายงานในเกาหลีลงตีพิมพ์ปี 2017 หัวข้อ Neurological Complications during Treatment of Middle East Respiratory Syndrome ว่าพบความผิดปกติในระบบประสาทส่วนปลายใน 4 คนจากที่ติดเชื้อทั้งหมด 23 คน

    และอาการคล้ายๆกัน เช่นชาปลายมือ ปลายเท้า ไปจนถึงอ่อนแรงแขนและขา

    สุดท้ายสรุปว่าเกิดจากการติดเชื้อรุนแรง ไม่ก็จากภูมิคุ้มกันแปรปรวน บทความอื่นๆที่ศึกษาผู้ติดเชื้อในซาอุดีอาระเบีย พบความผิดปกติในสมองส่วนกลางล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นในคนที่ติดเชื้อรุนแรงและมีโรคประจำตัวมาก แต่พอตรวจน้ำไขสันหลังนั้นไม่พบเชื้อเมอร์ส ซึ่งคิดว่าความผิดปกตินี้ล้วนแล้วแต่เกิดจากการติดเชื้อรุนแรง และมีผลกระทบทำให้มีความดันตก สัญญาณชีพไม่คงที่ และมีความแปรปรวนของระบบ ภูมิคุ้มกัน

    มาถึงโควิด-19 บทนี้จะพูดถึงผู้ป่วยจำนวนน้อยที่เนื้อสมองหรือปลอกเส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลายเพราะภูมิคุ้มกันแปร-ปรวนจากการติดเชื้อโควิด-19 จนทำให้มันหันมาโจมตีร่างกายของเรา เริ่มจากรายงานความผิดปกติของระบบประสาทลงตีพิมพ์ใน Lancet Neurology หัวข้อ Guillain-Barré syndrome associated with SARS-CoV-2 infection : causality or coin-cidence เป็นการรายงานการป่วยของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมาโรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการอ่อนแรงที่ขาทั้งสองข้าง โดยที่ไม่มีไข้และไม่มีอาการบ่งบอกถึงการติดเชื้อทางเดินหายใจ ขณะนั้นจึงได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคภูมิคุ้มกันแปรปรวนโจมตีเส้นประสาทส่วนปลาย (Guillain Barre syndrome) และนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากรักษาไปได้ช่วงระยะหนึ่งคนไข้เริ่มมีไข้และมีไอแห้ง จึงได้รับการทำซีทีปอดพบการติดเชื้อทั้งสองข้าง เมื่อตรวจแยงคอพบว่าเป็นโควิด-19 ขณะนั้นในเมืองและโรงพยาบาลที่เธอนอนไม่ได้มีการระบาด แต่เธอเพิ่งกลับมาจากอู่ฮั่น เธอหายดีหลังจากได้รับการรักษาตามมาตรฐาน

    ข้อน่าสงสัยในรายนี้คือ ปกติแล้วโรคภูมิคุ้มกันแปรปรวนโจมตีเส้นประสาทส่วนปลาย (Guillain Barre syndrome) มักจะเกิดหลังมีการติดเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียบางชนิดเฉลี่ยประมาณ 3-4 อาทิตย์จึงไม่รู้ว่าการพบในรายนี้เป็นความบังเอิญหรือไวรัสตัวนี้มีความแตกต่างกับการติดเชื้อแบบอื่นกันแน่

    รายงานที่สองหัวข้อ COVID-19-asso-ciated Acute Hemorrhagic Necrotizing Encephalopathy : CT and MRI Features รายงานผู้ป่วยหญิงซึ่งทำงานเป็นแอร์โฮสต์เตส มาด้วยไข้ ไอ และมีอาการสับสน ตรวจเบื้องต้นไม่พบไวรัสไข้หวัดใหญ่ (influenza A/B) แต่พบโควิด-19 ทีมแพทย์เจาะหลังตรวจแต่เนื่องจากมีปัญหาตัวอย่างไม่สามารถตรวจโควิด-19 ได้ แต่ไวรัสตัวอื่นๆนั้นไม่พบ

    จากนั้นนำไปซีทีสมองพบความผิดปกติที่สมองทาลามัส (thalamus) ทั้งสองข้าง และในเอ็มอาไอ (MRI) พบความผิดปกติเป็นเลือดและน้ำรั่วออกจากผนังเส้นเลือดพร้อมทั้งมีเลือดออกในเนื้อสมองส่วนทาลามัส และส่วนสมองด้านในส่วนอื่นๆอีกด้วย (medial temporal lobes and subinsular regions)

    ความผิดปกติในสมองของผู้ป่วยรายนี้คล้ายกับที่พบในผู้ป่วยที่มีอาการสมองอักเสบที่เกิดร่วมกับไวรัสไข้หวัดใหญ่เรียกว่า acute hemorrhagic necrotizing encephalopathy ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับการอักเสบอย่างรุนแรง เกิดจากการที่ร่างกายต่อสู้กับเชื้อไวรัสอย่างมากเกินพอเหมาะ ในผู้ป่วยรายนี้และในรายอื่น การทำสแกนอย่างละเอียดมีความสำคัญมากเพราะจะต้องแยกระหว่างโรคที่กล่าวถึงนี้กับเส้นเลือดดำในสมองตันที่ทำให้เกิดอาการคล้ายคลึงกันได้ แต่การรักษานั้นต่างกัน

    ประการสำคัญที่ได้จากรายงานทั้งหมดนี้คือ อาการทางระบบประสาทดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นมาโดดๆ โดยไม่มีอาการทางระบบทางเดินหายใจอย่างอื่นร่วม อาจทำให้ต้องขยายคำจำกัดความของผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ออกไปอีก

    โดยเฉพาะในกรณีที่มีภาวะระบาดค่อนข้างมากของโควิด-19 จะต้องระวังว่าสาเหตุของโรคทางสมองอาจจะเกิดจากเชื้อไวรัสตัวนี้ ด้วยความเป็นห่วงครับ.

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลุ้นพรุ่งนี้ 2 พ.ค. ไทยน่าจะพ้นวิกฤตผู้ป่วยใหม่สะสมเจ็ดวันลดลงอย่างน้อย 10 เท่า เทียบกับจุดวิกฤตสุดของไทย
    *ห้าวันติดกันแล้วที่ไทยมีผู้ป่วยใหม่รายวันต่ำกว่าสิบราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมใหม่เจ็ดวัน (25-30 เม.ย. และ 1 พ.ค.) เป็น 106 ราย (53, 15, 9, 7, 9, 7, 6 ราย)
    *พรุ่งนี้วันที่ 2 พ.ค. หากผู้ป่วยใหม่ไม่เกิน 31 ราย จะทำให้ผู้ป่วยใหม่สะสมไม่เกิน 84 คนต่อเจ็ดวัน (15, 9, 7, 9, 7, 6, ไม่เกิน 31 ราย) จะถือว่าไทยพ้นวิกฤตสุดจากที่เคยมี 842 คนต่อเจ็ดวันเมื่อวันที่ 3 เม.ย. หวังว่าจะไม่มีจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นจากแหล่งอื่นแบบตกใจอีก
    *ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผู้ป่วยใหม่ 53 รายนั้น 42 รายเป็นชาวต่างชาติจากด่านกักขัง หากไม่นับรวมจำนวนดังกล่าว อนุโลมว่าไทยพ้นวิกฤตแล้วตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. แต่ถ้าใช้ข้อมูลชุดเดียวกันที่รายงานไว้ใน worldometer เพื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ คงต้องรอลุ้นพรุ่งนี้
    *หลักการกำหนดจุดวิกฤตและจุดพ้นวิกฤต ตามที่โพสต์ไว้

    FB_IMG_1588482788281.jpg FB_IMG_1588482790738.jpg FB_IMG_1588482793220.jpg



     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สโลวาเกีย (Slovakia) พ้นวิกฤตผู้ป่วยใหม่สะสมช่วงเจ็ดวันพร้อมกับไทย และส่องดูการผ่อนคลายมาตรการของเยอรมัน สเปน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
    * สโลวาเกียมีจุดวิกฤตที่ผู้ป่วยสะสมช่วงเจ็ดวันสูงสุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. และจำนวนผู้ป่วยใหม่สะสมเจ็ดวันลดลงเกิน 10 เท่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ใช้เวลาเพียง 13 วัน สามารถพิชิตวิกฤตได้ นับตั้งแต่วิกฤตสุดจนถึงพ้นวิกฤต ถือว่าใช้เวลาน้อยที่สุดเทียบกับประเทศหรือเขตปกครองพิเศษที่พ้นวิกฤตแล้ว (เช่น จีน 14 วัน เกาหลีใต้ 35 วัน ไทย 29 วัน) แต่ถ้านับจากพบรายแรกถึงพ้นวิกฤตเป็นเวลา 57 วัน โดยยังมีภาระที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่กำลังรักษา 55% โดยมีอัตราการรักษาหายค่อนข้างสูง 96% (หายดี 96 รายต่อผู้เสียชีวิต 4 ราย)
    *สรุป 10 ประเทศหรือเขตปกครอบพิเศษ (ผู้ป่วยสะสมทั้งหมดมากกว่าพันราย) ที่พ้นวิกฤตผู้ป่วยใหม่สะสมช่วงเจ็ดวันแล้ว ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ออสเตรีย ไอซ์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก ไทยและสโลวาเกีย โดยไทยเป็นลำดับที่ 9 พร้อมกับสโลวาเกียในวันที่ 2 พ.ค. นอกจากนี้ยังไม่มีช่วงเจ็ดวันใดๆของประเทศใดที่มีผู้ป่วยสะสมเจ็ดวันมากกว่าจุดพ้นวิกฤตที่เป็นค่าเป้าหมายของแต่ละประเทศตนเอง
    *ตามที่มีข่าวผ่อนคลายมาตรการของบางประเทศ มาดูว่าสอดคล้องกับการพ้นวิกฤตอย่างไร
    •นิวซีแลนด์ประกาศชัยชนะโรคโควิดเมื่อวันที่ 26 เม.ย. (พ้นวิกฤตวันที่ 23 เม.ย.)
    •ออสเตรเลียผ่อนคลายมาตรการ 28 เม.ย. (พ้นวิกฤต 22 เม.ย.)
    •ไทยผ่อนมาตรการ 3 พ.ค. (พ้นวิกฤต 2 พ.ค.)
    •เยอรมันผ่อนคลายมาตรการปลาย เม.ย. (ถึงจุดวิกฤต 2 เม.ย. ผ่านครึ่งหนึ่งของวิกฤต แต่ยังไม่พ้นวิกฤต)
    •สเปนผ่อนคลายมาตรการต้น พ.ค. เช่น ออกกำลังกายที่สาธารณะ (ถึงจุดวิกฤต 1 เม.ย. ผ่านเสี้ยวหนึ่งของวิกฤต แต่ยังไม่พ้นวิกฤต)
    *จะเห็นว่าแต่ละประเทศมีเกณฑ์ที่ผ่อนคลายมาตรการที่แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามตัวเลขที่นำมาประมวลผล เป็นค่าที่รายงานใน Wolrdometer ยังมีผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรือไม่ได้เข้ารับการตรวจวินิจัย รวมทั้งผู้ที่กลับจากต่างประเทศ หรือด่านกักกันหรือกักขังชาวต่างด้าว อย่าไว้วางใจว่าจะไม่มีระลอกสอง
    *หลักการกำหนดจุดวิกฤตและจุดพ้นวิกฤต ตามที่โพสต์ไว้

    FB_IMG_1588482950261.jpg FB_IMG_1588482953317.jpg FB_IMG_1588482956162.jpg FB_IMG_1588482958701.jpg FB_IMG_1588482961839.jpg FB_IMG_1588482964234.jpg FB_IMG_1588482966716.jpg



     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดาวหาง C / 2020 F8 SWAN - จะเข้าใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ระยะ 0.54AU มันเริ่มสว่างขึ้นและอยู่ที่ +3.5 Magnitude

    Comet C/2020 F8 SWAN - will make its closest approach to the Earth on 12th MAY at a distance of 0.54AU. It is getting brighter and it’s at +3.5 Magnitude.

     

แชร์หน้านี้

Loading...