งานบุญและธรรมะของวัดป่าสายหลวงปู่มั่น จาก : เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย Ramtongthai, 27 สิงหาคม 2020.

  1. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    643579421189422068_n-crop-vert.jpg
    โอวาทธรรมสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
    “ บุญมีอยู่ในบุคคลใดในที่ใด
    บุคคลนั้นที่นั้นก็มีสุข
    แม้จะขัดข้องบ้างก็ไม่นาน
    เพราะบุญเป็นสิริที่ชักนำโภคสมบัติทั้งปวง. ”
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  2. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    122922706_2735050160044164_397179576742099842_o.jpg
    ขอเชิญร่วมพิธีวางศิลาถฤกษ์ "อาคารฐิตสีโล "(หลวงปู่บุญทัน)
    อาคารผู้ป่วยใน 6 ชั้น 114 เตียง โรงพยาบาลบึงสามพัน
    พระครูปัญญาวราจารย์
    (หลวงปู่บุญทัน ฐิตสีโล)
    วันอาทิตย์ 17 มกราคม 2564
    ร่วมบุญได้ที่
    ธนาคารกรุงเทพ
    เลขที่ 057-0-54521-0
    ชื่อบัญชี พระบุญทัน ชาเพ็ง
    ธนาคารกสิกรไทย
    เลขที่ 019-1-67141-4
    ชื่อบัญชี กองทุนผ้าป่ามหากุศล โรงพยาบาลบึงสามพัน
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  3. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    118000000.jpg
    วันนี้เมื่อ ๗๑ ปีที่แล้ว เวลา ๐๒.๒๓ น หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ตรงกับวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๔๙๒
    เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันละสังขารเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน ขององค์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
    องค์บูรพาจารย์แห่งวงศ์พระกรรมฐาน
    ผู้ถักทอเครือข่ายพระป่าให้ครอบคลุมทั่วหล้า
    พระอริยสงฆ์สาวกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ผู้ทรงคุณธรรมยิ่ง
    ในนามของคณะผู้ดูแลเพจและกลุ่ม พร้อมด้วยสมาชิกทุกคน ขอน้อมเศียรเกล้ากราบบูชาคุณ
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต : ประวัติโดยสังเขป
    .
    ท่านกำเนิดในสกุลแก่นแก้ว เกิดวันพฤหัสบดี เดือนยี่ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๒๐ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ณ บ้านคำบง ตำบลโขงเจียม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เมื่ออายุ ๑๕ ปี ท่าน
    บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านคำบง
    เมื่ออายุ ๒๒ ปี ได้เข้าศึกษาในสำนักท่านอาจารย์เสาร์ กันตสีลเถระ วัดเลียบ เมืองอุบล จังหวัดอุบลราชธานี และได้รับอุปสมบทเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา ณ วัดสีทอง(วัดศรีอุบลรัตนาราม) อำเภอ
    เมือง จังหวัดอุบลราชธานี พระอริยกวี (อ่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูสีทา ชยเสโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูประจักษ์อุบลคุณ (สุ่ย) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.
    ๒๔๓๖ นามมคธที่อุปัชฌาย์ตั้งให้ชื่อ ภูริทัตโต
    .
    เมื่อท่านอุปสมบทแล้วก็ได้บำเพ็ญสมณธรรมกับพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีลเถระ เป็นเวลาหลายปี พระอาจารย์เสาร์ฯ ได้พาท่านไปเที่ยวศึกษาธรรมปฏิบัติในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งทางฝั่งซ้ายเมืองหลวงพระ
    บางและที่อื่น ๆ ซึ่งท่านเล่าว่าเคยพากันป่วยแทบกลับมาไม่รอด เพราะป่วยทั้งตัวท่านเอง และพระอาจารย์เสาร์ฯ ด้วย ท่านเลยมาระลึกถึงธรรมปฏิบัติโดยไปในที่สงัดแห่งหนึ่งพิจารณาความตายจิตเลย
    ลงสู่ภวังค์ขจัดโรคอาพาธไปได้ในขณะนั้น
    .
    ภายหลังท่านได้ออกไปโดยเฉพาะแสวงหาความวิเวกตามสถานที่ต่าง ๆ อาศัยพุทธพจน์เป็นหลักเร่งกระทำความเพียรบำเพ็ญสมณธรรมโดยมิได้คิดเห็นแก่อันตรายใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในชีวิต
    .
    การบำเพ็ญสมณธรรมในที่ต่างๆ ตามราวป่า ป่าช้า ป่าชัฎ ที่แจ้ง หุบเขาซอกห้วย ธารเขา เงื้อมเขา ท้องถ้ำ เรือนว่าง ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงบ้าง ฝั่งขวาแม่น้ำโขงบ้าง แล้วลงไปศึกษากับนักปราชญ์ใน
    กรุงเทพฯ จำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมวนาราม หมั่นไปสดับธรรมเทศนากับเจ้าพระคุณพระอุบาลี (สิริจันทเถระ จันทร์) ๓ พรรษา แล้วออกแสวงหาวิเวกในถิ่นภาคกลาง คือ ถ้ำสาริกา เขาใหญ่ นครนายก ถ้ำ
    ไผ่ขวาง เขาพระงาม แล ถ้ำสิงโตห์ ลพบุรี จนได้รับความรู้แจ่มแจ้งในพระธรรมวินัย สิ้นความสงสัยในสัตถุศาสนา
    .
    ท่านได้อยู่บำเพ็ญสมณธรรมไปจนได้ความรู้ความฉลาดในทางดำเนิน แล้วท่านก็มาระลึกถึงหมู่คณะที่เป็นสหธรรมิกทางภาคอีสาน ที่พอจะช่วยแนะการปฏิบัติให้ได้ ท่านจึงได้เดินจากภาคกลางไปทาง
    อุบลราชธานี เที่ยวจารีกไปในสถานที่ต่าง ๆ อันเป็นสถานที่พอจะพาคณะเจริญสมณธรรมได้ ภายหลังครั้งเมื่อพระภิกษุสามเณรได้ยินว่าท่านมาทางนี้ก็ได้เข้ามาศึกษาธรรมปฏิบัติ แต่ครั้งแรกมีน้อย ที่
    เป็นพระภิกษุสามเณรถือนิกายอื่นแต่ได้เข้ามาปฏิบัติก็มีอยู่บ้าง โดยที่ท่านมิได้เรียกร้องหรือชักชวนแต่ประการใด ต่างก็น้อมตัวเข้ามาศึกษาปฏิบัติ เมื่อได้รับโอวาทและอบรมก็เกิดความรู้ความฉลาด
    เลื่อมใสเกิดขึ้นในจิตในใจ บางท่านก็ยอมเปลี่ยนนิกายเดิมกลับเข้ามาเป็นนิกายเดียวกับท่าน บางท่านก็มิได้เปลี่ยนนิกายท่านเองมิได้บังคับแต่ประการใด และเป็นจำนวนมากที่ยอมเปลี่ยนจากนิกายเดิม
    แม้ว่าท่านพระเถระทั้งหลายนี้แหละ เมื่ออบรมได้รับความเลื่อมใสในธรรมแล้ว ก็นำไปเล่าสู่กันฟังโดยลำดับ อาศัยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ต้องการพ้นจากกองทุกข์ ซึ่งอุปนิสัยวาสนาได้อบรมเป็นทุนดังที่ว่ามา
    แล้วแต่หนหลังก็ได้พยายามออกติดตามขอปฏิบัติด้วยเป็นจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ
    ด้วยความที่ท่านหวังเพื่อเป็นประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก เหตุนั้นท่านจึงไม่อยู่เป็นที่เป็นทางหลักแหล่งเฉพาะแห่งเดียว เที่ยวไปเพื่อประโยชน์แก่ชนในสถานที่นั้น ๆ ดังนี้
    .
    ณ กาลสมัยนั้น ท่านพระอาจารย์มั่นฯ อยู่วัดเลียบนั้นมานาน จึงได้เข้าไปจำพรรษาที่กรุงเทพฯ และทางเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี จนถึงพ.ศ.๒๔๕๗
    ท่านมาหาสหธรรมทางอุบลราชธานี จำพรรษาที่วัดบูรพาในจังหวัดนั้น เมื่อปีพ.ศ.๒๔๕๘ ท่านมีพรรษาได้ ๒๕ พรรษา
    .
    พ.ศ.๒๔๕๙ จำพรรษาที่ภูผากูด บ้านหนองสูง อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
    พ.ศ. ๒๔๖๐ จำพรรษาที่ บ้านคงปอ ห้วยหลวง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี
    พ.ศ. ๒๔๖๑ จำพรรษาที่ ถ้ำผาบึ้ง จังหวัดเลย
    พ.ศ. ๒๔๖๒ จำพรรษาที่ บ้านค้อ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
    พ.ศ. ๒๔๖๓ จำพรรษาที่ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
    พ.ศ. ๒๔๖๔ จำพรรษาที่ บ้านห้วยทราย อำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม
    พ.ศ. ๒๔๖๕ จำพรรษาที่ ตำบลหนองลาด อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร
    พ.ศ. ๒๔๖๖ จำพรรษาที่ วัดมหาชัย อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
    พ.ศ. ๒๔๖๗ จำพรรษาที่ บ้านค้อ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
    พ.ศ. ๒๔๖๘ จำพรรษาที่ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย
    พ.ศ. ๒๔๖๙ จำพรรษาที่ บ้านสามผง อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
    พ.ศ. ๒๔๗๐ จำพรรษาที่ บ้านหนองขอน อำเภอบุง (ปัจจุบันอำเภอหัวตะพาน) จังหวัดอำนาจเจริญ
    พ.ศ. ๒๔๗๑ จำพรรษาที่ วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
    พ.ศ. ๒๔๗๒-๒๔๘๒ จำพรรษาที่ จังหวัดเชียงใหม่
    พ.ศ. ๒๔๘๓-๒๔๘๔ จำพรรษาที่ วัดโนนนิเวศน์ จังหวัดอุดรธานี
    พ.ศ. ๒๔๘๕ จำพรรษาที่ เสนาสนะป่าบ้านโคก จังหวัดสกลนคร
    พ.ศ. ๒๔๘๖ จำพรรษาที่ เสนาสนะป่าบ้านนามน จังหวัดสกลนคร
    พ.ศ. ๒๔๘๗ จำพรรษาที่ เสนาสนะป่าบ้านโคก จังหวัดสกลนคร
    พ.ศ. ๒๔๘๘-๒๔๙๒ จำพรรษาที่ บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
    .
    ท่านปฎิบัติจนถึงที่สุดแห่งธรรมในพระพุทธศาสนา ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนั่งสมาธิภาวนาบนพลาญหินกว้างใต้ร่มไม้ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวมีใบดกหนาร่มเย็นบริเวณชายภูเขาแห่งหนึ่ง ขณะที่จิตพลิกคว่ำ
    วัฏจักรออกจากใจโดยสิ้นเชิงแล้ว ยังมีบทบาลีขึ้นมา ๓ รอบ คือ “โลโป” , “วิมุตติ” และ “อนาลโย”
    ธุดงควัตรที่ท่านถือปฏิบัติเป็นอาจิณ ๔ ประการ
    .
    ๑. ปังสุกุลิกังคธุดงค์ ถือนุ่งห่มผ้าบังสกุล นับตั้งแต่วันอุปสมบทมาตราบจนกระทั่งถึงวัยชรา จึงได้ผ่อนให้คหบดีจีวรบ้าง เพื่ออนุเคราะห์แก่ผู้ศรัทธานำมาถวาย
    .
    ๒. บิณฑบาติกังคธุดงค์ ถือภิกขาจารยวัตร เที่ยวบิณฑบาตมาฉันเป็นนิตย์ แม้อาพาธ ไปในละแวกบ้านไม่ได้ ก็บิณฑบาตในเขตวัด บนโรงฉัน จนกระทั่งอาพาธ ลุกไม่ได้ในปัจฉิมสมัย จึงงดบิณฑบาต
    .
    ๓. เอกปัตติกังคธุดงค์ ถือฉันในบาต ใช้ภาชนะใบเดียวเป็นนิตย์ จนกระทั่งถึงสมัยอาพาธในปัจฉิมสมัย จึงงด
    .
    ๔. เอกาสนิกังคธุดงค์ ถือฉันหนเดียวเป็นนิตย์ ตลอดเวลา แม้อาพาธหนักในปัจฉิมสมัย ก็มิได้เลิกละ ส่วนธุดงควัตรนอกนี้ ได้ถือปฏิบัติเป็นครั้งคราว ที่นับว่าปฏิบัติได้มาก ก็คือ อรัญญิกกังคธุดงค์ ถืออยู่
    เสนาสนะป่าห่างบ้านประมาณ ๒๕ เส้น หลีกเร้นอยู่ในที่สงัดตามสมณวิสัย เมื่อถึงวัยชรา จึงอยู่ในเสนาสนะ ป่าห่างจากบ้านพอสมควร ซึ่งพอเหมาะกับกำลัง ที่จะภิกขาจารบิณฑบาต เป็นที่ที่ปราศจาก
    เสียงอื้ออึง ประชาชนเคารพยำเกรง ไม่รบกวน นัยว่า ในสมัยที่ท่านยังแข็งแรง ได้ออกจาริกโดดเดี่ยว แสวงวิเวกไปในป่าดงพงลึก จนสุดวิสัยที่ศิษยานุศิษย์จะติดตามไปถึงได้ก็มี เช่น ในคราวไปอยู่ภา
    เหนือ เป็นต้น ท่านไปวิเวกบนเขาสูง อันเป็นที่อยู่ของพวกมูเซอร์ ยังชาวมูเซอร์ที่พูดไม่รู้เรื่องกัน ให้บังเกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้
    .
    ธรรมโอวาท - คำที่เป็นคติอันท่านอาจารย์กล่าวอยู่บ่อยๆ ที่เป็นหลักวินิจฉัยความดีที่ทำด้วยกาย วาจา ใจ แก่ศิษยานุศิษย์ดังนี้
    .
    ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นนับว่าเลิศ
    ได้สมบัติทั้งปวง ไม่ประเสริฐเท่าได้ตน เพราะตัวตนเป็นที่เกิดแห่งสมบัติทั้งปวง
    .
    เมื่อท่านอธิบายตจปัญจกกรรมฐานจบลง มักจะกล่าวเตือนขึ้นเป็นคำกลอนว่า “แก้ให้ตกเน้อ แก้บ่ตก คาพกเจ้าไว้ แก้บ่ได้ แขวนคอต่องแต่ง แก้บ่พ้น คาก้นย่างยาย คาย่างยาย เวียนตายเวียนเกิด เวียน
    เอากำเนิดในภพทั้งสาม ภาพทั้งสามเป็นเฮือน เจ้าอยู่” ดังนี้
    .
    ปัจฉิมบท - ในวัยชรา นับตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นต้นมา ท่านหลวงปู่มั่นมาอยู่ที่จังหวัดสกลนครเปลี่ยนอิริยาบถไปตามสถานที่วิเวก ผาสุกวิหารหลายแห่ง คือ ณ เสนาสนะป่า บ้านนามน ตำบลตองโขบ
    อำเภอเมือง (ปัจจุบัน เป็นอำเภอโคกศรีสุพรรณ) บ้าง ที่ใกล้ๆ แถวนั้นบ้าง ครั้น พ.ศ. ๒๔๘๗ จึงย้ายไปอยู่เสนาสนะป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร จนถึงปีสุดท้าย
    ของชีวิต
    .
    หลังวันมาฆบูชาปี ๒๔๙๒ ท่านเริ่มป่วย ครั้นเมื่อออกพรรษาท่านป่วยหนัก จึงปรารภให้พาท่านไปสกลนคร ลูกศิษย์จึงนำท่านออกมาจากหนองผือและได้พักระหว่างทางที่วัดกลางโนนภู่ ๑๑ คืน จนวันที่
    ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๒ ตอนเช้าราว ๗ น.กว่า ๆ รถแขวงการทางสกลนครรับท่านจากวัดบ้านภู่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ถึงวัดป่าสุทธาวาส เวลา ๑๒.๐๐ น. ลมหายใจท่านปรากฏว่าค่อยอ่อน
    ลงทุกทีและละเอียดไปตาม ๆ กัน ลมค่อยอ่อนและช้าลงทุกทีจนแทบไม่ปรากฏ วินาทีต่อไปลมก็ค่อย ๆ หายเงียบไปอย่างละเอียดสุขุม ครั้นถึงเวลา ๐๒.๒๓ น. ของวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ศกเดียวกัน จึง
    ได้ถือเวลานั้นเป็นเวลามรณภาพของท่าน
    .
    สิริชนมายุของท่านอาจารย์ได้ ๗๙ ปี ๙ เดือน ๒๑ วัน รวม ๕๖ พรรษา
    .
    คัดจากหนังสือ "ญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์"
    .
    ได้ข้อมูลจาก fb พุทธมหาเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ภูผาแดงฯ
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  4. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    64803200_2434207453469965_2827919000124522496_o.jpg
    "หลวงปู่มั่น ละสังขารด้วยเมตตาอัปปมัญญา"
    (พระธรรมเทศนา หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
    ส่วน ท่านพระอาจารย์มั่น ในเวลาต่อมาตอนท่านเริ่มป่วย จำได้แต่เพียงว่าเดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค่ำ พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นวันท่านเริ่มป่วย ท่านเล่าให้ฟังตอนไปเที่ยวกลับมา กราบนมัสการท่าน ท่านเริ่มป่วยคราวนี้ไม่เหมือนกับคราวใดๆ ซึ่งแต่ก่อนเวลาท่านป่วย ถ้ามีผู้นำยาไปถวายท่าน ท่านก็ฉันให้บ้าง มาคราวนี้ท่านห้ามการฉันยาโดยประการทั้งปวงแต่ขั้นเริ่มแรกป่วย โดยให้เหตุผลว่า “การป่วยคราวนี้ไม่มีหวังได้รับประโยชน์อะไรจากยา เช่นเดียวกับต้นไม้ที่ตายยืนต้นอยู่เท่านั้น ใครจะมารดน้ำพรวนดินทะนุบำรุงเต็มสติกำลังความสามารถ ต้นไม้นั้นจะไม่มีวันกลับมาผลิดอกออกผลใบและแสดงผลต่อไปอีกได้เลย เพียงสักว่ายังยืนต้นอยู่เท่านั้น ไม่แน่ใจว่าจะล้มลงจมดินวันใด ธาตุขันธ์ที่แก่ชราภาพขนาดนี้แล้ว ย่อมมีลักษณะเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นหยูกยาจึงไม่เป็นผลอะไรกับโรคประเภทนี้ ที่เขาเรียกว่า โรคคนแก่”
    ท่านว่า แม้ท่านจะห้ามยามิให้นำมาเกี่ยวข้องกับท่าน แต่ก็ทนต่อคนหมู่มากไม่ไหว คนนั้นก็จะให้ท่านฉันยานั้น คนนี้ก็จะให้ท่านฉันยานี้ คนนั้นจะฉีด คนนั้นจะให้ฉัน หนักเข้าท่านก็จำต้องปล่อยตามเรื่อง มีคนมากราบเรียนถามเรื่องยาถูกกับโรคของท่านหรือไม่ ท่านก็นิ่งไม่ตอบโดยประการทั้งปวง
    เมื่ออาการของท่านหนักจวนตัวเข้าจริงๆ ท่านก็บอกกับคณะลูกศิษย์ทั้งพระและญาติโยมว่า
    “จะให้ผมตายในวัดป่าหนองผือนี้ไม่ได้ เพราะผมน่ะตายเพียงคนเดียว แต่ว่าสัตว์ที่ตายตามเพราะผมเป็นเหตุจะมีจำนวนมากมาย เพราะฉะนั้นขอให้นำผมออกจากที่นี้ไปจังหวัดสกลนคร เพื่อให้อภัยแก่สัตว์ซึ่งมีจำนวนมาก อย่าให้เขาพลอยทุกข์และตายไปด้วยเลย ที่โน้นเขามีตลาดซึ่งมีการซื้อขายกันอยู่แล้ว ไม่มีทางเสียหายเนื่องจากการตายของผม”
    พอท่านพูดและให้เหตุผลอย่างนั้น ทุกคนต้องยอมทำตามความเห็นของท่าน จึงเตรียมแคร่ที่นอนมาถวายและอาราธนานิมนต์ท่านขึ้นนอนบนแคร่ แล้วพร้อมกันหามท่านออกไปในวันรุ่งขึ้น พอมาถึงวัดป่าบ้านภู่ อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร แล้วก็พาท่านพักแรมคืนอยู่ที่นั้นหลายคืน
    ท่านก็คอยเตือนเสมอว่า
    “ทำไมพาผมมาพักค้างที่นี่ล่ะ ผมเคยบอกแล้วว่าจะไปจังหวัดสกลนคร ก็ที่นี่ไม่ใช่สกลนคร” ท่านว่า
    เมื่อจวนตัวเข้าจริงๆ ในสามคืนสุดท้าย ท่านไม่ค่อยจะพักนอน แต่คอยเตือนให้รีบพาท่านไปสกลนครเสมอ เฉพาะคืนสุดท้ายไม่เพียงแต่ไม่หลับนอนเท่านั้น ยังต้องบังคับว่า
    “ให้รีบพาผมไปสกลนครในคืนวันนี้จงได้ อย่าขืนเอาผมไว้ที่นี่เป็นอันขาด” ท่านพูดย้ำแล้วย้ำเล่าอยู่ทำนองนั้น แม้ที่สุดท่านจะนั่งภาวนา ท่านก็สั่งว่า “ให้หันหน้าผมไปทางจังหวัดสกลนคร”
    ที่ท่านสั่งเช่นนั้น เข้าใจว่าเพื่อให้เป็นปัญหาอันสำคัญแก่คณะลูกศิษย์ จะได้ขบคิดถึงคำพูดและอาการที่ท่านทำอย่างนั้นว่า มีความหมายแค่ไหนและอย่างไรบ้าง พอตื่นเช้าจะเป็นเพราะเหตุไรก็สันนิษฐานยาก เผอิญชาวจังหวัดสกลนครซึ่งเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมกันเอารถยนต์มารับท่าน ๓ คัน แล้วอาราธนานิมนต์ให้ท่านไปจังหวัดสกลนคร ท่านก็เมตตารับทันที เพราะท่านเตรียมจะไปอยู่แล้ว
    ก่อนจะขึ้นรถยนต์ หมอได้ไปฉีดยานอนหลับให้ท่าน จากนั้นท่านก็นอนหลับไปตลอดทางจนถึงวัดสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร เวลา ๐๑.๐๐ นาฬิกา ท่านก็เริ่มตื่น พอตื่นจากหลับแล้ว จากนั้นท่านก็เริ่มทำหน้าที่เตรียมลา “ภาราหเว ปญฺจกฺขนฺธา ขันธ์ห้าเป็นภาระหนัก” จะมรณภาพ
    จนถึง ๐๒.๒๓ นาฬิกา ก็เป็นวาระสุดท้าย ก่อนหน้านี้ประมาณสองชั่วโมงเศษ ท่านนอนท่าตะแคงข้างขวา แต่เห็นว่าท่านจะเหนื่อยมาก เพราะนอนท่านี้มานาน จึงพากันเอาหมอนที่หนุนอยู่หลังท่านถอยออก เลยกลายเป็นท่านนอนหงายไป พอท่านทราบก็พยายามขยับตัวหมุน กลับจะนอนท่าตะแคงข้างขวาตามเดิม พระเถระผู้ใหญ่ซึ่ง เป็นศิษย์ของท่าน ก็พยายามเอาหมอนหนุนหลังท่านเข้าไปอีก ท่านเองก็พยายามขยับๆ เช่นเดียวกัน เมื่อเห็นอาการของท่านอ่อนเพลียมากและหมดเรี่ยวแรง ก็เลยหยุดไว้แค่นั้น ดังนั้น การนอนของท่านจะว่านอนหงายก็ไม่ใช่ จะว่านอนตะแคงข้างขวาก็ไม่เชิง เป็นอาการเพียงเอียงๆ อยู่เท่านั้น ทั้งเวลาของท่านก็จวนเข้ามาทุกที บรรดาศิษย์ ก็ไม่กล้าแตะต้องกายท่านอีก จึงปล่อยท่านไว้ตามสภาพ คือท่านนอนท่าเอียงๆ จนถึงเวลา ซึ่งเป็นความสงบอยู่ตลอดเวลา
    ในวาระสุดท้ายนี้ ต่างก็นั่งสังเกตลมหายใจของท่านแบบตาไม่กระพริบไปตามๆ กัน การนั่งของพระที่มีจำนวนมากในเวลานั้น ต้องนั่งเป็นสองชั้น คือ ชั้นใกล้ชิดกับท่านและชั้นถัดกันออกมา ชั้นในก็มีพระผู้ใหญ่ มี ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ เป็นต้น ชั้นนอกก็เป็นพระที่มีพรรษาน้อย แล้วถัดกันออกไปก็เป็นพระนวกะและสามเณร บรรดาพระทั้งพระเถระและรองลำดับกันลงมาจนถึงสามเณร ในขณะนั้นรู้สึกจะแสดงความหมดหวัง และหมดกำลังใจไปตามๆ กัน แต่ไม่มีใครกล้าปริปากออกมา นอกจากมีแต่อาการที่เต็มไปด้วยความหมดหวังและความเศร้าสลดเท่านั้น เพราะร่มโพธิ์ใหญ่มีใบหนา ซึ่งเคยเป็นที่อาศัยและร่มเย็นอย่างยิ่งมาเป็นเวลานาน กำลังถูกพายุจากมรณภัยคุกคาม จะหักโค่นพินาศใหญ่ขณะนั้นอยู่แล้ว การทำหน้าที่ของท่านก็กำลังเป็นไปแบบมองดูแล้วหลับตาไม่ลงทั้งท่านผู้อื่นและเรา
    ขณะที่ท่านจะสิ้นลมจริงๆ รู้สึกว่าอาการทุกส่วนของท่านอยู่ในความสงบและละเอียดมาก จนไม่มีใครจะสามารถทราบได้ว่า ท่านสิ้นลมไปในขณะใด นาทีใด เนื่องจากลมหายใจของท่านละเอียดเข้าเป็นลำดับ จนไม่ปรากฏว่าท่านสิ้นไปเมื่อไร เพราะไม่มีอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งแสดงอาการในวาระสุดท้าย พอให้ทราบได้ว่าท่านสิ้นไปในวินาทีนั้น
    แม้จะพากันนั่งสังเกตอยู่เป็นเวลานานก็ไม่มีใครรู้ขณะสุดท้ายของท่าน ท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ ซึ่งเป็นประธานอยู่ในที่นั้น เห็นท่าไม่ได้การ จึงพูดขึ้นว่า “นี่ไม่ใช่ท่านสิ้นไปแล้วหรือ ?” จากนั้นท่านก็ดูนาฬิกาเป็นเวลา ๐๒.๒๓ นาฬิกา จึงได้ยึดเอาเวลานั้นเป็นเวลามรณภาพของท่าน
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  5. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    118495183_939529976545995_7365314647050658901_o.jpg
    โอวาทธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  6. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    13938078_524391957754535_7274643087136912080_o-crop-vert.jpg
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบูรณ์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    "โตมาวัด ใจบ่ทันมา" โตมาอยู่วัด แต่ใจคิดแต่นำไฮ นำนา นำลูก นำหลาน มาวัด มาเฮ็ดบุญ เอาใจมานำมันจังสิใดบุญหลาย
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    ❖ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์สิริกัลยาธรรมมิการาม (พระเจดีย์ศรีรวมธรรม)
    บูชาคุณหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบรูณ์ บ้านโนนสมบรูณ์ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    ❖ ร่วมบุญได้ที่
    บัญชีธนาคาร: ธนาคารไทยพาณิชย์
    ชื่อบัญชี: พระบุญมา กัลยาณคุตโต
    เลขที่บัญชี: 538-2-57621-4
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  7. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    679605400.jpg
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบูรณ์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    " บ่มีอิหยังได๋มาง่ายๆดอก ถ่าบ่เฮ็ด บ่ทำเอา เพียรเอา
    ธรรมเป็นของดีเป็นของลิศ ต้องได้มายากแน่
    สั้นเขากะไปนิพพานเมิดสู่คนตั้ว ของบ่ดีเฮ็ดง่าย ทำเอาง่าย ความชั่วเฮ็ดตอนใดกะได้
    ธรรมะกะคือกัน เฮ็ดเอาสร้างเอามันจังได๋"
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    ❖ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์สิริกัลยาธรรมมิการาม (พระเจดีย์ศรีรวมธรรม)
    บูชาคุณหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบรูณ์ บ้านโนนสมบรูณ์ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    ❖ ร่วมบุญได้ที่
    บัญชีธนาคาร: ธนาคารไทยพาณิชย์
    ชื่อบัญชี: พระบุญมา กัลยาณคุตโต
    เลขที่บัญชี: 538-2-57621-4
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  8. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    12379968700.jpg
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบูรณ์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    " กรรมดี กรรมชั่ว เป็นของตัวใครตัวมัน
    นอนนั้นมันไม่ใช่ของเรา ชื่อเสียง เรียงนาม
    ลาภยศ สรรเสริญ มันไม่ใช่ของเรา
    มันเป็นของสมมุติของโลก "
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    ❖ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์สิริกัลยาธรรมมิการาม (พระเจดีย์ศรีรวมธรรม)
    บูชาคุณหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบรูณ์ บ้านโนนสมบรูณ์ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    ❖ ร่วมบุญได้ที่
    บัญชีธนาคาร: ธนาคารไทยพาณิชย์
    ชื่อบัญชี: พระบุญมา กัลยาณคุตโต
    เลขที่บัญชี: 538-2-57621-4
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  9. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    125218294_2752903398311000.jpg
    ❖ ขอเรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์สิริกัลยาธรรมมิการาม (พระเจดีย์ศรีรวมธรรม)
    บูชาคุณหลวงปู่บุญมา กัลยาณคุตโต
    วัดป่าโนนสมบรูณ์ บ้านโนนสมบรูณ์ ต.หนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี
    ❖ ร่วมบุญได้ที่
    บัญชีธนาคาร: ธนาคารไทยพาณิชย์
    ชื่อบัญชี: พระบุญมา กัลยาณคุตโต
    เลขที่บัญชี: 538-2-57621-4
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  10. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    12600867700.jpg
    ที่วัดถ้ำกลองเพลนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ท่านก็ได้เสด็จมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง พวกเราควรรำลึกถึงพระคุณของท่านที่ท่านได้มาสร้างเจดีย์ของหลวงปู่ขาว ทุนพระราชทรัพย์ของพระองค์ล้านกว่าบาท เงินสมัยนั้น พระองค์ได้ทรงเสียสละพระราชทรัพย์ของพระองค์ เพื่อสร้างเจดีย์ขององค์หลวงปู่ขาว จากนั้นก็มีโยมกิมก่าย โยมเฉลียวกระทิงแดง ก็ได้มาร่วมกันสร้างเจดีย์ขององค์หลวงปู่ขาว และก็มีการไฟฟ้าฝ่ายผลิตอีกส่วนหนึ่งที่เข้ามาดูแล ใช้เงินไปประมาณสิบแปดล้านในสมัยนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙ และพระบรมวงศานุวงศ์ก็ได้เสด็จมาที่วัดถ้ำกลองเพลไม่รู้กี่ครั้ง
    เจดีย์ของหลวงปู่ขาวนี้ หลวงพ่อไปเห็นลองเอานิ้วไปเคาะ ๆ ดู มีเสียงกุก ๆ กัก ๆ คล้าย ๆ ว่าปูนข้างในมันหมดสภาพแล้ว คล้าย ๆ กับมะขามสุก เพียงแต่มันยังค้ำกันไว้ แต่ถ้าจะให้แน่นหนามั่นคงก็หมดสภาพแล้ว ก็ควรจะบูรณะซ่อมแซม เมื่อหลวงพ่อได้พูดออกไป คุณโยมกิมก่ายได้มรณะไปแล้ว ทางภรรยาของคุณโยมกิมก่ายได้ยินจึงบอกมาว่า ท่านอาจารย์ ถ้าจะซ่อมเจดีย์ขององค์หลวงปู่ขาว ดิฉันเองก็อยากจะซ่อมเพราะเป็นฝีมือของโยมกิมก่ายเป็นประธานฝ่ายญาติโยม และศาลาริมน้ำ ๒ หลัง ก็อยากจะให้ซ่อมไปพร้อม ๆ กัน ดิฉันขอถวาย ๕ ล้านบาท โอนเข้ามาในบัญชีเจดีย์ขององค์หลวงปู่ขาวมา
    ก็ในส่วนนี้ ถ้าผู้ใดอยากจะมีส่วนในการบูรณะเจดีย์ขององค์หลวงปู่ขาวก็โอนสมทบเข้ามาได้
    ที่บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองบัวลำภู
    ชื่อบัญชีวัดถ้ำกลองเพลเพื่อบูรณะพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว
    เลขที่บัญชี 538-258235-4
    หลวงพ่อก็ได้ให้นายช่างมาดูแล้วว่าจะซ่อมด้วยวิธีอย่างไร ทางนายช่างนี้ก็ได้ซ่อมเจดีย์ของหลวงปู่ฝั้นมาหมาด ๆ ใหม่ ๆ ก็ได้ซ่อมเสร็จแล้ว หลวงพ่อก็จะให้มาซ่อมเจดีย์พิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่ขาวต่ออีก นี่ล่ะ วัดเก่า เราก็ต้องช่วยกันบูรณะปฏิสังขรณ์ให้คืนสภาพ
    หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
    จากพระธรรมเทศนา “ถึงไม่รวย แต่ไม่ลำบาก”
    แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  11. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    124223342_950594278803213_2228149688731808208_n.jpg
    #หลวงปู่ขาวเล่าเรื่องเมตตาบารมี
    เราก็ได้เกิดร่วมในศาสนาของพระพุทธเจ้าพุทธสิขี เราเป็นหัวหน้าพ่อค้าเกวียน มีลูกน้องเป็นจำนวนมาก การค้าขายในครั้งนั้นจะมีสินค้าหลักคือข้าวสาลี และมีสินค้าอย่างอื่นเสริมไปบ้าง
    ต่อมาได้พาลูกน้องเตรียมสิ่งของใส่เกวียนไปขายต่างเมือง และซื้อของต่างเมืองกลับมาขายในเมืองตัวเอง ในช่วงนั้นเป็นปลายฤดูฝน ทางเดินจึงไม่แห้งทั้งหมด พอดีเกวียนเราติดหล่ม วัวก็ลากเกวียนขึ้นจากหล่มไม่ได้ จึงใช้ไม้เรียวตีวัวอย่างแรงเพื่อบังคับให้วัวลากเกวียนขึ้นจากหล่มให้ได้ วัวก็ดันอย่างเต็มแรง แต่ก็ไม่สามารถฉุดเกวียนขึ้นจากหล่มได้ ในช่วงนั้น ใช้ไม้เรียวตีวัวอย่างรุนแรง และตีอย่างใช้โทสะมาก วัวก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่ฟังเสียง มีแต่เอาไม้เรียวตีวัวอย่างเดียว และเรียกลูกน้องมาช่วยผลักดันเกวียน จนในที่สุดก็สามารถลากเกวียนขึ้นจากหล่มได้
    หลังจากนั้นจึงพาลูกน้องจอดเกวียนพักในที่แห่งหนึ่ง เมื่อลงมาปลดวัวออกจากเวียน ได้มองเห็นน้ำตาวัวทั้งสองตัวไหลลงอาบแก้ม จึงเกิดความคิดเมตตาสงสารวัวขึ้นมาทันที จึงจูงวัวไปกินน้ำกินหญ้าและได้มองดูน้ำตาวัวอยู่ตลอดเวลา เกิดความคิดในใจว่า วัวมันก็ลากเกวียนหนักทั้งเกวียนก็ติดหล่ม กำลังจึงไม่พอจะลากเกวียนขึ้นจากหล่มได้ ถึงจะบังคับจะตีก็จะตายอยู่กับหล่มนั่นเอง จึงคิดน้อมเข้ามาหาตัวเองว่า ถ้าเราเป็นวัวลากเกวียนหนักอย่างนี้ และเกวียนยังติดหล่มทั้งเจ้าของเกวียนก็ตีอย่างรุนแรง เราจะมีความทุกข์มากขนาดไหนหนอ
    จากนั้นมาก็คิดเมตตาสงสารวัวเป็นอย่างมากทีเดียว เมื่อทำการค้าขายเสร็จแล้วก็พากันกลับเมืองตัวเอง ตลอดทางก็คิดอยู่ในใจเสมอว่าเรานี้เอาเปรียบวัวเกินไป ทั้งลากเกวียนให้แล้วเรายังมานั่งทับเกวียนให้หนักคอวัวอีก เมื่อกลับถึงบ้านเมืองของตัวเองแล้วก็นึกพิจารณาว่า ไปค้าขายแต่ละครั้งก็จำเป็นต้องอาศัยกำลังวัวทั้งหมด เมื่อเราคิดเมตตาสงสารต่อวัว เราก็ต้องเลิกจากการค้าขาย จากนั้นก็หยุดในการค้าขายทั้งหมด และได้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะเข้าวัดเพื่อบำเพ็ญกุศล
    หลังจากเข้าวัดและได้ฟังธรรมจากพระอรหันต์ท่านก็พรรณาเรื่องความเมตตาความสงสารต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์เดรัจฉานให้ฟังว่า มนุษย์เราต้องมีธรรมประจำใจคือความเมตตาสงสารต่อกัน ทุกคน ทุกตัวสัตว์ ต้องการความเมตตาสงสารด้วยกันทั้งนั้น เราเป็นมนุษย์ที่รู้จักผิดถูกชั่วดีกว่าสัตว์เดรัจฉาน ดังนั้นเราต้องให้อภัยแก่สัตว์เดรัจฉานทุกตัวไป ไม่ว่าสัตว์ประเภทไหนในโลกนี้
    ในครั้งนั้นเราได้เจริญเมตตาให้เกิดขึ้นที่ใจ และฝึกใจให้มีความเมตตาอยู่เป็นนิจจนตลอดวันตาย เราจึงได้สร้างเมตตาบารมีมาตั้งแต่ครั้งสมัยพระพุทธเจ้าชื่อว่าพุทธสิขีในครั้งนั้น
    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบูรณะ
    พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
    โดยสามารถร่วมสมทบปัจจัยได้ที่
    บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองบัวลำภู
    ชื่อบัญชีวัดถ้ำกลองเพลเพื่อบูรณะพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว
    เลขที่บัญชี 538-258235-4
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  12. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    125273134_00.jpg
    ขอเชิญร่วมทำบุญบูรณะและลงรักปิดทององค์พระธาตุขามแก่น
    ชื่อบัญชี “กองทุนบูรณะพระธาตุขามแก่น” ธนาคาร ธ.ก.ส.
    เลขบัญชี 020186174868
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     
  13. Ramtongthai

    Ramtongthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2007
    โพสต์:
    15,663
    ค่าพลัง:
    +4,910
    125375435_957274751468499_38604695372975548_o.jpg
    หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก บิณฑบาต ฉันจังหัน ณ วัดถ้ำกลองเพล วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๗.๐๐ น.
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบูรณะ
    พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู
    โดยสามารถร่วมสมทบปัจจัยได้ที่
    บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองบัวลำภู
    ชื่อบัญชีวัดถ้ำกลองเพลเพื่อบูรณะพิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว
    เลขที่บัญชี 538-258235-4
    ▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎▪︎
    กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่ข้อมูลนี้ ทุกๆท่าน
    เพจพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/ThammaLpMunPage
    กลุ่มพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มหาเถรานุสรณ์
    https://www.facebook.com/groups/ThammaLpMun
     

แชร์หน้านี้

Loading...