ใครรู้จักท่านผู้นี้บ้าง เข้ามาดูกัน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 18 เมษายน 2008.

  1. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ท่านมีนามว่า "ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ" ผู้รจนาพระคาถาชินบัญชร

    ซึ่งชื่อชินบัญชรก็คือพระนามของท่าน ชินะปัญชะระ

    ประวัติท่านถ้าจำไม่ผิด คือท่านเคยสอนธรรมแก่สมเด็จโต และท่านเคยเกิดในพุทธกาล บรรลุธรรมตอนอายุ 7 ขวบ อะไรประมาณนี้

    ผมอยากทราบว่าใครเคยมีประสบการณ์ได้พบเห็น หรือได้ยินท่านแสดงธรรม หรือช่วยเหลือผู้คนที่ใดบ้าง หรือ สามารถติดต่อท่านได้ทางใดบ้างครับ หรือมีสำนักใดติดต่อท่านได้

    และใครพอจะมีรูปท่านบ้าง ช่วยมาโพสหน่อยครับ ผมเคยเห็นรูปท่านเป็นภาพวาด สวมชุดพราหมณ์ ยืนบนหลังเต่า งามมากครับ รู้สึกประทับใตมากครับ
     
  2. PLE-55

    PLE-55 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +124
    อยากรู้ด้วยครับ
     
  3. Nefertity

    Nefertity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    128
    ค่าพลัง:
    +634
    ชิน (แปลว่า มีชัยชนะ) ปัญชร (แปลว่า บัลลังก์ ที่ประทับที่อยู่เหนือขึ้นไป) รวมความว่าบัลลังก์ที่ผู้มีชัยชนะเหนือกิเลสประทับอยู่ ซึ่งก็หมายถึง พระอรหันต์ขีณาสพ ทุกองค์ในครั้งพุทธกาล ไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับพระพรหมของพรามณ์ เท่าที่ทราบจากการศึกษา พระพรหม มีบทบาทในขณะที่พระพุทธองค์ทรงตัดสินพระทัยจะไม่โปรดเวไนย์สัตว์เท่านั้น กล่าวคตือท่านทูลอาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ที่พอมีปัญญาให้รู้เห็นธรรมบ้าง
     
  4. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ไปถามหาแม่ชีนุ้ย ตอนนี้บวชอยู่ที่วัดอัมพวัน วัดหลวงพ่อจรัญ แม่ชีนุ้ย ต้องบวชตลอดชีวิต ถ้าสึก ต้องเสียชีวิต แม่ชีนุ้ยได้รับญานบารมีจากท่านชินะ แม่ชีนุ้ยเรียกท่านชินะ ว่าท่านพ่อชินะ แต่แม่ชีไม่ค่อยพูดคุยกับใคร ท่านปฏิบัติอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ยุ่งกับโลกภายนอกเลย แม่ชีนุ้ยติดต่อกับท่านชินะผ่านด้วยญานเหมือนกันค่ะ
     
  5. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    ในภาคขององค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

    สำเร็จวิชาโสฬส สามารถติดต่อกับดวงจิตต่างๆได้

    มีการช่วยเหลือกันในทางธรรม ระหว่างองค์สมเด็จฯและองค์ท่านท้าวมหาพรหมชินนะปัญชระ

    ท่านท้าวมหาพรหมฯ เท่าที่ทราบ ไม่จำเป็นจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์

    ยกเว้นบางกรณีเท่านั้น บางท่านเรียก "พรหมผู้พิทักษ์ธรรม"

    พระรัศมีกายสว่างเจิดจ้าดั่งดวงอาทิตย์ องค์สมเด็จฯก็ได้สร้างรูปเหมือน

    ท่านท้าวมหาพรหมฯไว้ ลองค้นคว้าดูครับ
     
  6. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    <CENTER>พระคาถาชินบัญชร
    สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี )


    [​IMG]
    กำเนิดพระคาถาชินบัญชร</CENTER>

    กำเนิดพระคาถาชินบัญชร เรียบเรียงโดยคุณปัญญา นี้ได้คัดลอกมาจากหนังสือ พระคาถาชินบัญชร

    เมื่อครั้งนั้น สมเด็จ (โต) ได้มีโอกาสเดิทางไปยัง จังหวัดกำแพงเพชร ท่านได้เดินทางไปที่วัดเก่าแห่งหนึ่งซึ่งมีกรุโบราณ ที่นั่นท่านได้พบคัมภีร์โบราณผูกหนึ่งฝังอยู่ในเจดีย์หัก สมเด็จจึงนำคัมภีร์ผูกนั้นมาเก็บไว้ที่กุฏิ ขณะนั้นสมเด็จ (โต) ท่านมีจิตดำริที่จะสร้างพระเครื่องเพื่อมอบให้แก่เจ้าปิยะ (ร.5) หรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นสมบัติในยุคสมัยครองราชย์ ระหว่างครุ่นคิดสมเด็จ (โต) ท่านก็ได้จำวัดหลับไป

    ในคืนนั้นราวๆประมาณตี 3 สมเด็จ (โต) ได้นิมิตว่าท่านได้ตื่นขึ้น เห็นชายหนุ่มรูปงามรูปหนึ่งมายืนอยู่ที่หัวนอนในชุดนุ่งขาวห่มขาว มีรูปลักษณ์งดงามหาที่ติมิได้เลย สมเด็จ(โต) ท่านก็มองขึ้นตามกำหนดของจิต ทราบว่าหนุ่มรูปงามนี้คงจะไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน

    สมเด็จ (โต) จึงถามว่า "ท่านผู้เจริญ การที่อาตมาได้มีโอกาสชมท่านนับว่าเป็นขวัญตาเหลือเกิน ท่านมาในสถานที่แห่งนี้ มีสิ่งใดที่อาตมาปฏิบัติผิดพลาดในหลักพระพุทธศาสนาเล่า ? ขอให้ท่านจงประสาทประทานการสอนให้อาตมาแจ่มแจ้งในพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเถิด"

    ชายหนุ่มผู้นั้นจึงกล่าวขึ้นด้วยคำพูดที่เย็นกังวาน "ท่านโต วิธีการที่ท่านดำเนินงานอยู่นี้คล้ายกับองค์สมณะโคดมอยู่ แต่การที่ท่านคิดจะสร้างพระให้เป็นสิ่งที่ระลึกของมนุษย์นั้น สร้างแล้วสิ่งนั้นจะต้องดี ท่านโตเชื่อในเรื่องวิญญาณ เพราะฉะนั้นควรจะปฏิบัติตามกฏของโลกวิญญาณ คือวิธีการตั้งให้ถูกหลักการในการปลุกเสก"

    สมเด็จ(โต) ท่านจึงกล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ขรัวโตนี้รับฟังความคิดเห็นของทุกคนหากแม้นท่านโปรดข้านี้ ขอได้โปรดบอกมาเถิด จะด่าว่าตักเตือนเราก็ไม่ว่า"

    หนุ่มรูปงามผู้มีความสงบแลดูเป็นที่เลื่อมใส จึงได้แนะวิธีการต่างๆในเรื่องทิศทางว่าทิศใดเป็นทิศมงคล ในการวาง เทียน ธูป ดอกไม้ เทียนชัย ให้ตรงตามหลักของกฏระเบียบแห่งโลกวิญญาณ เรียกว่าเทวบัญญัติ หรือพรหมบัญญัติ
    ระหว่างนั้นสมเด็จ (โต) ยังคุมสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ จึงได้ถามหนุ่มรูปงามนั้นว่า "ท่านผู้รูปงามท่านนี้มีนามว่ากระไรหรอ?"

    "หม่อมฉันนี้คือลูกศิษย์องค์พระโมคคัลลานะ หม่อมฉันสำเร็จเป็นอรหันต์เมื่ออายุ 7 ขวบ แต่ด้วยทิ้งสังขารก่อนอายุขัยจึงมิได้สู่แดนอรหันต์ คงยังอยู่ในแดนพรหมโลก เพราะหม่อมฉันไม่อยากติดสตรีมิชอบสตรี เพราะสตรีทำลายพรหมจารีย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันจึงทิ้งสังขารก่อนอายุขัย ทางโลกวิญญาณถือว่าสิ้นก่อนอายุขัย จึงอยู่รูปพรหม ถ้าท่านโตต้องการปรึกษาจากหม่อมฉัน ก็จงระลึกถึงชินนะบัญจะระ" มานพหนุ่มรูปงามกล่าวต่อสมเด็จ (โต) อย่างสำรวม

    ต่อมาไม่ว่าสมเด็จ (โต) จะทำงานสิ่งใด จึงมักระลึกถึง ท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระทีไร ท่านก็ปรากฎร่างทันที ช่วยเหลือสมเด็จ (โต) ประกอบพิธีต่างๆ จึงทำให้เครื่องรางของขลังของสมเด็จ (โต) มีความศักดิ์สิทธิ์มาก

    สมเด็จ (โต) ท่านปลุกเสกพระสมเด็จรุ่นสุดท้าย 84,000 องค์ เรียกว่าสมเด็จอิทธิเจ ท่านได้แปลคาถาจากคัมภีร์ ซึ่งท่านพบจากกรุวัดที่กำแพงเพชร ซึ่งคัมภร์นั้นเขียนด้วยภาษาสิงหลได้ความบ้าง มิได้ความบ้าง จับใจความได้ว่าเป็นชื่ออรหันต์แปดสิบองค์ จึงได้ตัดต่อแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อง่ายต่อการสวด จึงแปลใหม่ได้ความว่า "คาถาชินบัญชร" ซึ่งตรงกับชื่อท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ สมเด็จ (โต) ท่านจึงถือคาถาบทนี้เป็นการเทิดทูนท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ ที่ท่านได้ช่วยเหลือตลอดมา และพระคาถาบทนี้เป็นบทสวดในการนั่งปลุกเสกพระอิทธิเจรุ่นสุดท้าย ซึ่งสมเด็จ (โต) ท่านนั่งปลุกเสกอยู่เพียงผู้เดียว

    พระคาถานี้มีอนุภาพศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้ใดสวดมนต์หรือภาวนาอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะ กิน เดิน นั่งนอน หรือภาวนาแม้ยามอาบน้ำ แปรงฟัน หรือทำงาน จะมีอนุภาพดังนี้ คือ

    1. หากสวดมนต์อย่างน้อยวันละ 3 จบ อานุภาพจะคุ้มครองผู้นั้นไป 1 วัน กับ 1 คืน

    2. เวลานั่งรถ เรือ หรือขับขี่รถ หรือเดินทาง ให้นึกภาวนาไปในใจ จะทำให้คลาดแคล้ว ปลอดภัยจากอุบัติเหตุทั้งปวงได้ชงัดนักเคยพ้นมามากต่อมากแล้ว
    3.ผู้สวดมนต์ พระคาถานี้เป็นประจำ จะเป็นเสน่ห์มงคลด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างใด ให้ภาวนาจะปลอดภัย แม้คนถูกกระทำของใส่คุณ หากเรารู้ตัวแล้วภาวนามิได้ขาด รับรองได้ว่าเขาทำอะไรเราไม่ได้เลย

    4. หากภาวนาประจำมิได้ขาดเลยเรามักมีอะไรพิเศษ เช่น อาจฝันรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า หากนอนแล้วภาวนาจนกระทั่งหลับ (ในใจ) คืนนั้นจะนอนหลับสบายเป็นพิเศษ ตื่นขึ้นมาจะมีความสุขปลอดโปร่งแจ่มใสเป็นพิเศษ บางทีกลางคืนจะมีอะไรดีๆ มาสอนเราด้วย

    5. ผู้ที่มีอำนาจสมาธิจิตสูง สามารถจะภาวนาพระคาถานี้ ทำน้ำมนต์รักษาโรคบางชนิด ที่แพทย์ปัจจุบันรักษาไม่หายให้หายได้

    6. ใครเจ็บไข้อยู่หากมีคนอื่น (แม้มิใช่ญาติ) บนบานกล่าวว่าจะสวดมนต์ให้ร้อยเที่ยว ห้าร้อยเที่ยว หรือหนึ่งพันเที่ยว ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขามักจะหายป่วยจริงๆ (เคยทดลองมาแล้วแม้คนต่างศาสนากัน) หากผู้เจ็บป่วยที่นอนรักษาตัวอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่หากภาวนาพระคาถานี้อยู่เรื่อยๆจะทำให้เขาหายป่วยเร็วขึ้น มากจนน่าแปลกใจ

    7. ผู้ประกอบอาชีพต่างๆ หากยามว่างให้ภาวนาพระคาถาบทนี้จะทำให้อาชีพดีขึ้น เช่น ค้าขายดีขึ้นแม้ปลูกพืช ปลูกผักผลผลิตจะดีขึ้นหรือรายได้ดีขึ้น เด็กๆ นักเรียนหากสวดมนต์บทนี้ได้และสวดประจำบ่อยๆ หรือทุกคืนก่อนนอน จะเรียนเก่ง จำดีอย่างแน่นอนรับรอง

    8. ผู้สวดมนต์พระคาถาบทนี้เป็นประจำแล้ว ประกอบอาชีพสุจริตไปด้วย จะทำให้ลดวิบากกรรมตัวเองให้เบาลงกว่าที่จะได้รับจริง หากกุศลส่งก็จะหนุนให้กุศลส่งแรงขึ้น หากใช้ไปนานชั่วชีวิตจะประสบสุขตามกุศลแน่นอน

    9. เมื่อร่วมกันสวดอธิษฐานพร้อมๆ กันหลายคน หรือเวลาเดียวกัน จะมีอานุภาพบริสุทธิ์แผ่ออกไปกว้างไพศาลมากทำให้ผู้สวดก็ดี สถานที่บริเวณก็ดี รวมไปถึงประเทศชาติจะได้เจริญ และรอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นแก่ประเทศ เราได้ ทำให้ประเทศเราเด่นดังในที่สุดได้

    (อานุภาพของพระคาถายังมีอีกมาก หากทุกท่านหมั่นสวดมนต์ภาวนา ความเจริญ ความเมตตา หากินคล่องก็จะอยู่กับท่าน)

    ผู้ใดได้สวดภาวนาพระคาถาชินบัญชรนี้เป็นประจำอยู่สม่ำเสมอ จะทำให้เกิดความสิริมงคลสมบูรณ์พูนผล ศัตรูหมู่พาลไม่กล้ำกราย ไปทางใดย่อมเกิดเมตตามหานิยม เกิดลาภผลพูนทวี ขจัดภัยจากภูตผีปีศาจ ตลอดจนคุณไสยต่างๆ ทำน้ำมนต์รดแก้วิกลจริตแก้สรรพโรคภัยหายสิ้น เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต มีคุณานุภาพตามแต่จะปรารถนา ดังคำโบราณว่า "ฝอยท่วมหลังช้าง" จะเดินทางไปที่ใดๆ สวด 10 จบ แล้วอธิษฐานจะสำเร็จสมดังใจ



    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

    ปุตตะกาโมละเภปุตตัง ธะนะกาโมละเภธะนัง
    อัตถิกาเยกายะญายะ เทวานังปิยะตังสุตตะวา
    อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
    มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ


    ชะยาสะนาคะตา พุทธา เชตะวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง เย ปิวิงสุ นะราสะภา.


    ตัณหังกะราทะโย พุทธา อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง มัตถะเก เต มุนิสสะรา.


    สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง พุธโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง อุเร สัพพะคุณากะโร.


    หะทะเย เม อะนุรุทโธ สารีปุตโต จะ ทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง โมคคัลลาโน จะวามะเก.


    ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง อาสุง อานันทะราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม อุภาสุง วามะโสตะเก.


    เกสันเต ปิฏฐิภาคัสมิง สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน โสภิโต มุนิปุงคะโว.


    กุมาระกัสสะโป เถโร มะเหสี จิตตะวาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเนนิจัง ปะติฏฐาสิ คุณากะโร.


    ปุณโณ อังคุลิมาโล จะ อุปาลี นันทะสีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา นะลาเฏ ตีละกา มะมะ.


    เสสาสีติ มะหาเถรา วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเต เชนะ อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.

    ๑๐
    ระตะนัง ปุระโต อาสิ ทักขิเณ เมตตะสุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ วาเม อังคุลิมาละกัง.

    ๑๑
    ขันธะโมระปะริตตัญจะ อาฏานาฏิยะสุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ เสสา ปาการะสัณฐิตา.

    ๑๒
    ชินนานา วะระสังยุตตา สัตตะปาการะลังกะตา
    วาตะปิตตาทิสัญชาตา พาหิรัชฌัตตุปัททะวา.

    ๑๓
    อะเสสา วินะยัง ยันตุ อะนันตะชินะเตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.

    ๑๔
    ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ เต มะหาปุริสาสะภา.

    ๑๕
    อิจเจวะมันโต สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต จะรามิ ชินะปัญชะเรติ.
    (กราบ ๓ หน)
     
  7. Prachoom

    Prachoom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2007
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +31
    ผมก๊อปรูปเค๊ามาอีกทีนะครับ ผมขออนุญาตเจ้าของรูปด้วยละกันนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • b.jpg
      b.jpg
      ขนาดไฟล์:
      126.8 KB
      เปิดดู:
      2,181
  8. ก.แก้วคำ

    ก.แก้วคำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +71
    น่าสนใจจังเลยครับอยากรู้เหมือนกัน จอมยุทธท่านใดรู้ลึกซึ้ง กรุณาใชวิชา นิ้วดรรชนี กดคีย์บอร์ดถ่ายทอดความรู้มาสู่พวกเราด้วย (ได้ยินชื่อเสียงมานาน จะได้พบตัวคราวนี้นี่เอง นับถือๆ เลื่อมใสๆ)
     
  9. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    สมเด็จโต ท่านไม่ได้แต่ง คาถาชิน บัญชร ครับ ท่านเจอบทนี้โดยบังเอิญ ท่านเห็นว่าบทนี้ ไพเราะดีแล้วนำมาเรียบเรียงใหม่เพิ่มเติมให้ ดีขึ้น
     
  10. หล่อโล๊ะสต๊อก

    หล่อโล๊ะสต๊อก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2008
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +3
    ชินนะ ก็คือ เชน

    ท่านเป็นศาสดาองค์หนึ่ง มีพระนิพพานเป็นที่ตั้งเหมือนกัน
     
  11. นักรบโบราณ

    นักรบโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +973
    ถ้าใครเคยไปวัดเล่งเน่ยยี่หรือวัดสาขาที่บางบัวทอง

    จะเห็นเทพเจ้าองค์หนึ่งมีวัชระเป็นอาวุธ หันหน้าเข้าหาองค์พระวิหาร

    นั่นคือภาคหนึ่งขององค์ท่านครับ องค์ท่านผู้พิทักษ์ธรรม ผู้รักษาศาสนา

    วิถีธรรมก็มีหลากหลายต่างๆกันไป ไม่มีแบ่งแยกนิกายในเบื้องสูง

    ปักธงคุณธรรมไว้ในจิตตนให้มั่น เคารพท่านย่อมหมายถึงจิตผูกพัน

    บารมีท่านแผ่คุ้มครองให้แม้เพียงเสี้ยวจิตที่ระลึกถึง

    พระบาทข้างขวาหนัก ประทับบนหลังเต่า พระบาทซ้ายหลังพญานาค

    ปราบเหล่ามารทั้งบนบกและในน้ำ เด็ดขาด พระเมตตาสูงยิ่ง

    ผู้ใดมั่นในศีลในธรรม มีบุญสัมพันธ์ ไม่นาน สิ่งที่ควรรู้ย่อมได้รู้

    สิ่งที่ควรเห็นย่อมได้เห็น ขอธรรมะรักษาทุกท่านครับ
     
  12. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ขอขอบคุณทุกท่าน ที่ได้ให้ข้อมูลครับ ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระผู้นี้ แม้จะไม่ได้เป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้าง แต่ผู้ได้รู้จักท่านแม้ได้ยินพระนามท่านก็รู้สึกถึงปิติ อิ่มเอมใจ ในรัศมีบารมีของท่าน

    หากผมมีบุญวาสนา ขอให้ผมได้มีโอกาสได้พบท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระผู้ประเสริฐด้วยเถิด และขอให้ได้รับการอบรมประสิทธิ์ประสาทธรรมจากท่าน แม้ในนิมิตฝัน หรือในสมาธิก็ดี เพื่อภูมิธรรมของผมจะได้เจริญยิ่งขึ้น สาธุ
     
  13. พิชญ์

    พิชญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    760
    ค่าพลัง:
    +3,392
    .....

    DSCF0658.JPG

    DSCF0657.JPG
     
  14. yeepun

    yeepun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +425
    รูปภาพของเสด็จพ่อท้าวมหาพรหมชินปัญจะระ หากท่านใดสนใจศึกษาพระประวัติของท่าน ขอเชิญไปศึกษาได้ที่ ชมรมสวดพระคาถาชินปัญชร อาคารอริยสัจสี่
    270/2 ซ.เพชรเกษม 65 แขวงบางแค เขตบางแค กทม. โทร. ๔๒๑๐๔๘๙, ๔๒๑๕๒๘๖ ... ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ <!-- attachments -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. ทานะบารมี

    ทานะบารมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +786
    วันที่ 21-24 มิถุนายนของทุกปีจะมีการลงหัวใจชินนะปัญชะระ ที่อาคารอริยสัจสี่ ถ้าจำไม่ผิดนะค่ะ ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญจะระผู้นี้ เป็นอาจารย์จากโลกทิพย์ของ สมเด็จ (โต ) ค่ะ
     
  16. prirawat

    prirawat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบคุณครับผม
     
  17. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861

    พิธีนี้เป็นอย่างไรครับ ลงหัวใจชินนะปัญชะระ พอจะอธิบายหน่อยได้ไหมครับ
     
  18. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ภาพนี้แหละครับ ที่ผมเคยเห็น
    ท่านพอจะอธิบายเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้พบท่านท้าวมหาพรหมบ้างไหมครับ คือผมอยากฟังเรื่องราวของคนที่เคยพบท่าน รบกวนช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับ
     
  19. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    <TABLE class=r-navi-border cellSpacing=5 cellPadding=2 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD class=r-navimain>พรหมสนังกุมาร</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 10px" vAlign=top>

    [​IMG]

    เมื่อกล่าวถึงพระพรหมในศาสนาฮินดูจะหมายถึงองค์พรหมธาดาเพียงพระองค์เดียวแต่ในคติพุทธศาสนาจะไม่เฉพาะเจาะจงว่าจะเป็นใครเพราะได้แบ่งภพของพรหมเป็นแดนสันติสุขออกอีกตามชั้นของสมาบัติที่สำเร็จโดยพรหมชั้นสูงสุดเรียกอกนิษฐาพรหมที่เป็นแดนของ พระอรหันต์(ที่เป็นพรหมชั้นนี้แล้วสำเร็จยังทรงอายุขัยของพรหมอยู่มิได้ละขันธ์เข้าสู่พระนิพพานและเป็นแดนที่พระอริยะบุคคลชั้นอนาคามีละเอียดเมื่อละสังขารแล้วจะมาบังเกิดเป็นพรหมชั้นนี้เพื่อรอคอยการบรรลุอรหันต์ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือการได้รับฟังธรรมจากพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งนั่นเอง สวรรค์แดนพรหมหรือพรหมโลกจึงสุขแบบนักบวชคือสงัดสงบสันติเป็นอย่างยิ่งและจะรุ่งเรืองด้วยรัศมีของพรหมที่มีบารมีแตกต่างกัน ในตำนานพุทธศาสนาได้มีการกล่าวถึงพรหมท่านหนึ่งที่มีรูปร่างอย่างเด็ก แต่มีภาระอย่างผู้ใหญ่คือเป็นผู้แสดงธรรมแก่เหล่าเทพเทวดาทั้งปวงในโอกาสที่สมควร เป็นหัวหน้าพรหมที่เชี่ยวชาญในกิจพิธีกรรมทั้งเป็นผู้ทรงปฏิสัมภิธาญาณสูงยิ่ง เรื่องราวของท่านถูกนำมาเกี่ยวพันกับอมตเถระรูปหนึ่งของสยามคือท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
    [​IMG]
    โดยกลุ่มบุคคลขณะหนึ่งว่ามีมหาพรหมท่านหนึ่งเป็นองค์อุปถัมน์ขนานนามมหาพรหมรูปนั้นว่าพรหมชินะปัญชรนัยว่าท่านเป็นผู้สำเร็จเป็นมรรคผลชั้นพระอนาคามีในพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งแต่ถอดจิตดับขันธ์ก่อนวาระเนื่องจากอิตถีเพศถูกต้องร่างกายเกิดอคติเกรงพรหมจรรย์จะมัวหมองเมื่อถอดจิตก็มาบังเกิดเป็นพรหมในชั้นสุทธาวาสตามปัจจัยแห่งบารมี ซึ่งหากค้นในพระสูตรหรือตำนานพุทธศาสนาในส่วนใดก็ไม่พบพระพรหมนาม “ชินะปัญชระ”เลยแต่เมื่อสอบดูเรื่องราวของท่านก็สอดคล้องกับเรื่องราวที่ปรากฏในไตรภูมิกถาหรือไตรภูมิพระร่วง ที่กล่าวถึงพระพรหมรูปหนึ่งที่ยังสภาพของความเป็นเด็ก แต่มีภาระเป็นหัวหน้าพรหมทั้งปวงด้านพิธีกรรม และจะเป็นผู้เเสดงธรรมโปรดแก่เหล่าทวยเทพและพรหมอื่นๆอยู่เนืองๆ
    [​IMG]
    โดยเหตุที่เนื้อหาใน ไตรภูมิพระร่วง ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับพรหมองค์หนึ่งซึ่งอาจเรียกได้หลายชื่อด้วยกัน เช่น มหาพรหมสานังกุมาร สันตกุมาร หรือพรหมกุมาร จึงใคร่จะกล่าวถึงชื่อเหล่านี้พอสมควรในที่นี้ โดยเฉพาะได้ระบุไว้ชัดเจนว่า “..ผิเมื่อเทพยดาทั้งหลายสดับธรรมในไตรตรึงษ์สวรรค์นั้นไซร้ ยังมีพรหมตนหนึ่งชื่อว่า พรหมกุมาร ลงมาแต่พรหมโลก โพ้นแลลงมานฤมิตตนเป็นดังคนธรรพ์ผู้หนึ่ง ชื่อว่าปัญจสิงขรคนธรรพ์จึงขึ้นเหนือธัมมาสน์แลเทศนาธรรมให้เทพยดาทั้งหลายฟัง…” จากการกระทำนี้ทำให้เข้าใจได้ว่า พรหมกุมารและสันตกุมารเป็นพรหมองค์เดียวกัน แต่ในคัมภีร์บาลีนั้นพรหมที่ทำหน้าที่ดังกล่าว ชื่อสานังกุมาร ดังนั้นจึงเป็นที่ยุติได้ว่า นามทั้งสามหมายถึงพรหมองค์เดียว

    ในคัมภีร์นิกายต่างๆ นั้น ต่างก็มีการระบุถึงพรหมองค์นี้ คำว่า สานังกุมาร หมายถึงว่า มีความเป็นหนุ่มอันถาวรหรือทรงไว้ซึ่งพรหมจรรย์ จากมัชฌิมนิกาย นั้น กล่าวว่าในครั้งที่พรหมองค์นี้เอาชาติเป็นมนุษย์ ก็ได้บรรลุฌานตั้งแต่ครั้งยังเด็กเมื่อเกิดเป็นพรหมจึงเป็นพรหมหนุ่มน้อยผู้มีความงามอย่างยิ่ง

    ลักษณะอีกประการหนึ่งคือรัศมีของพรหมองค์นี้ทอประกายตลอดเวลายามใดที่ท้าวเธอเดินทาง รังสีจะแผ่พุ่งไปเบื้องหน้าโดยที่ไม่จำเป็นต้องดูก็เข้าใจกันได้ว่าเป็นพรหมองค์นี้โดยไม่ผิดพลาด จากลักษณะของรังสีทำให้เข้าใจว่า พรหมกุมารนี้น่าจะเป็นพรหมในระดับ “อาภา” ซึ่งอาจอยู่ในอาภัสสราพรหมโลกก็ได้ แต่ความทั้งนี้ไม่มีหลักฐานใดยืนยันได้ชัดเจนลงไปได้

    สานังกุมารพรหมนี้ ได้รับความเคารพและยกย่องในหมู่เทพชั้นจาตุมหาราชิกและดาวดึงส์เป็นอันมาก......
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  20. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    คาถาบูชา ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระมหาพรหมา

    ชินะ ปัญชะริตตัง สะมังกาโย มหาพรหมโม
    พุทโธ วิโสธายิ อิติอะระหัง พรหมะโลกัง ปะสิทธิเต
    หุลุ หุลู สวาหายะ นะมะพะธะ จะพะกะสะ
    นะมะระอะ ศะศิพุทโธ พุทธนัง ธัมมนัง สังฆนัง
    ฮะ พิงค์ พิงค์ พิงค์ ฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...