วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

1 ลูกครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

ขอแบ่ง 1 ลูกครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

ปลัดขิกที่หลวงพ่อตัดจาร ปลุกเสก ใส่ถุงและยื่นให้กับพี่สมบัติ ศิษย์วัดนครอินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ได้สัมผัสหลวงพ่อตัดในช่วงยุคปลายๆของหลวงพ่อ ในชุดนี้จริงๆจะมี 9 ตัวที่หลวงพ่อตัดท่านทำให้ และทั้ง 9 ตัวนั้นก็ได้กระโดดออกจากถุงตอนที่พี่สมบัติรับถุงจากหลวงพ่อหลังจากท่านจารและปลุกเสก ศิษย์หลายๆคนเห็นเหตุการณ์นี้และยืนยันได้หลายคน หลังจากช่วยกันตะครุบปลัดขิกที่กระโดดออกมานั้น หลวงพ่อท่านด็ได้บอกว่า "พวกมึงทำไมไม่ระวังกัน" (ความหมายคือพี่สมบัติรับไม่ดี ทำให้ปลัดขิกหล่นจากถุง) แต่สายตาของคณะศิษย์นั้นไม่ได้เห็นว่ามันแค่หล่นเฉยๆ...เหตุการณ์ลักษณะนี้จะมีมาเรื่อยๆ เช่น ตอนวางปลัดขิกหลวงพ่อตัดบนแท่นเพื่อจะถ่ายรูป ขณะกำลังเล็ง และจะกดชัตเตอร์ ปลัดขิกก็กระโดดลงจากแท่นได้เองต่อหน้าต่อตา เรื่องแบบนี้ได้ยินมาบ่อยมาก แต่ก็ขนลุกและทำให้ยิ่งชื่นชอบปลัดขิกของหลวงพ่อตัดมากขึ้นไปอีกครับ

ภายหลังจากที่พี่สมบัติกลับจากวัดชายนามา ปลัดขิกทั้ง 9 ตัวได้ถูกแจกจ่าย กระจายกันไปในคณะ มีตัวนี้ที่พี่สมบัติท่านส่งต่อมาให้กับผม ปลัดขิกตัวนี้ยาว 6 นิ้ว เป็นขนาดบูชาครับ

เลยลงให้ชมกันครับว่าปลัดขิกที่หลวงพ่อตัดจารทั้งตัวเป็นอย่างไร

 

รายการที่ 193 ขุนแผนผงพรายกุมาร หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ขุนแผนผงพรายกุมารนับว่าเป็นชุดที่ได้รับความนิยมมากๆพิมพ์หนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดครับ ด้วยเหตุที่ชุดนี้สร้างไว้จำนวนน้อยมาก เพียง 100 กว่าองค์เท่านั้น ซึ่งชุดผงพรายกุมารนี้จะมีเอกลักษณ์ที่ต่างจากชุดที่เป็นผงเยี่ยวชะนีล้วนๆคือด้านหลังจะเรียบ ถ้าหากเป็นชุดผงเยี่ยวชะนีล้วนนั้นจะเป็นหลังยันต์ครับ

องค์ที่นำมาแบ่งปันนี้ฝังตะกรุด 1 ดอก สภาพสวยสมบูรณ์มาก ซุ้มเต็ม หน้าตาติดชัด พร้อมกรอบเงินผ่าหวายอย่างดี ด้านหลังพระอาจารย์ทินเมตตาจารยันต์ "นะละลวย"
มาในราคาสุดคุ้ม ถือว่าเผยแผ่บารมีครูบาอาจารย์ครับ เพราะแค่องค์ขุนแผน ปัจจุบันในสายก็เปลี่ยนมือกันที่ 6500-7000 บาท และราคาก็ค่อยๆขยับขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีการเปิดเผยข้อมูล, ที่มาของผงพรายกุมารที่ชัดเจนแล้วครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

3 พฤษภาคมของทุกปี จะเป็นวันรำลึกครบรอบวันมรณะภาพของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ซึ่งท่านได้มรณะภาพลงวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 วันนี้เป็นวันครบรอบ 12 ปีที่ท่านได้จากไป ทางวัด ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดงานทำบุญเลี้ยงพระเหมือนเช่นทุกปี เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19

หลวงพ่อตัดท่านได้เขียนคำสั่งเสียเกี่ยวกับศพของท่านไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 หากผู้ศรัทธาได้นั่งดูและคิดพิจารณาตามรูปที่ประกอบด้านล่าง ท่านจะเห็นความหมายต่างๆมากมายในบทกลอนนั้น



ขอใช้พื้นที่นี้น้อมรำลึกถึงความดีของหลวงพ่อตัดที่ท่านได้ทำเพื่อสังคมได้อย่างมากมาย
ซึ่งหลวงพ่อท่านได้พัฒนา "บ้าน วัด โรงเรียน" ตามนามของท่านตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่ม คือ "บวร"กิจโกศล ให้เจริญรุ่งเรืองมาตลอดจวบจนมรณะภาพ

วันนี้ขอนำพระคาถาที่หลวงพ่อตัดท่านได้จดบันทึกไว้มาให้ได้นำไปท่องไปสวดกันครับ

ด้วยรักและศรัทธาบารมีพระพุทธวิริยากร
หลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา จังหวัดเพชรบุรี

 

บันทึกไว้

เหตุที่คณะศิษย์หลวงพ่อตัด วัดชายนามีความประสงค์จะสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อตัด ไว้รักษา อนุรักษ์ เพื่อดำรงคุณงามความดี และเผยแผ่เกียรติคุณของหลวงพ่อตัดไว้ที่วัดชายนา
ซึ่งโครงการพิพิธภัณฑ์นี้เริ่มขึ้นเมื่อราวๆปี พ.ศ. 2553 ได้มีการสร้างวัตถุมงคลต่างๆออกมาให้ทำบุญ การตั้งกองผ้าป่า การนำของส่วนตัวของคณะศิษย์แต่ละคนออกมาประมูลให้ร่วมบุญ ฯลฯ เพื่อนำทุนนั้นเข้าบัญชีก่อสร้างพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อตัด ซึ่งระยะเวลาโดยรวมแล้วก็ร่วม 10 ปี ได้เงินในบัญชีราว 2 ล้านกว่าๆ
ซึ่งคณะศิษย์และพระอาจารย์ทินได้เล็งเห็นว่าจำนวนเงินเพียงพอต่อการสร้างพิพิธภัณฑ์แล้ว

เมื่อวานนี้ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 จึงได้มีพิธีการวางศิลาฤกษ์ ลงเสาเอกพิพิธภัณฑ์(ซึ่งเป็นงานภายใน ไม่มีคนนอกเข้าไปร่วมเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19) และคาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างจนแล้วเสร็จประมาณ 1 ปี



วันนี้ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ พระภาวนาวิสุทธิโสภณ วิ. หรือ พระมหาสุรศักดิ์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าอาวาสวัดประดู่พระอารามหลวง จ.สมุทรสงครามได้เดินทางมาถวายเงินแก่พระอาจารย์ทินเพื่อร่วมทุนในการสร้างพิพิธภัณฑ์ของหลวงพ่อตัด วัดชายนา จำนวน 100,000 บาท

ซึ่งจะเป็นที่รู้กันภายในกลุ่มศิษย์ว่าพระมหาสุรศักดิ์ท่านมีความผูกพันกับวัดชายนา มีการไปมาหาสู่เพื่อแลกเปลี่ยนวิชา ซึ่งท่านจะมาเป็นการภายในอยู่เป็นประจำ

ขอเชิญผู้ศรัทธาร่วมอนุโมทนาบุญกับหลวงพ่อพระมหาสุรศักดิ์กันครับ

 

เผยแพร่ข้อมูลและแบ่งปันกันชมกับ เหรียญที่มีความต้องการและเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของศิษย์วัดชายนา
"เหรียญพัดยศ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551"

เหรียญพัดยศชุดนี้คณะลูกศิษย์ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อ ได้จัดทำขึ้นเพื่อประกาศเกียรติคุณหลวงพ่อที่ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคุณองค์ใหม่ที่
"พระพุทธวิริยากร"

โดยจัดสร้างเนื้อเงินหน้ากากทองคำ 5 เหรียญ และเนื้อเงินธรรมดา 24 เหรียญ รวมเป็น 29 เหรียญ และมีส่วนที่เป็นเนื้อตะกั่วลองพิมพ์อีกจำนวน 19 เหรียญ ตอกโค๊ดและหมายเลขกำกับไว้ทุกเหรียญและได้นำมาถวายให้หลวงพ่อตัดพิจารณาเพื่อขออนุญาตจัดสร้าง...

แต่เหรียญพัสยศชุดนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของหลวงพ่อ โดยหลวงพ่อตัดเองได้ให้ความเห็นและท้วงติงว่า การที่เอารูปท่านไปนั่งอยู่ตรงกลางพัดยศนั้นถือเป็นการไม่บังควร เนื่องจากพัดยศเป็นของพระราชทานเป็นของสูง ท่านจึงไม่อนุญาตให้ดำเนินการต่อและได้ขอบล็อคเหรียญชุดนี้มาตอกทำลายพิมพ์หลายแห่งจนเห็นว่าไม่สามารถนำไปใช้การต่อได้แล้ว หลวงพ่อจึงนำเข้าไปเก็บไว้ในกุฏิท่าน....

ส่วนเหรียญที่ได้จัดทำมานั้นคณะศิษย์ต่างตกลงว่าจะทำลายทิ้งก็ดูกระไรอยู่ เนื่องจากเป็นเหรียญพัดยศและมีรูปหลวงพ่อตัดซึ่งเสร็จสมบูรณ์แล้วการที่จะทำลายทิ้งเกรงว่าจะเป็นการไม่สมควร จึงได้ขอความเมตตาจากหลวงพ่อตัดช่วยปลุกเสกให้ เพื่อนำไปแจกจ่ายบูชากันในหมู่ลูกศิษย์ด้วยกันเอง
หลวงพ่อตัดท่านก็ได้พิจารณาถึงเหตุผลดังกล่าวแล้วจึงได้เมตตาทำการปลุกเสกให้ และจารอักขระยันต์กำกับไว้ทุกเหรียญด้วยลายมือหลวงพ่อท่านเอง พร้อมทั้งสั่งกำชับไม่อนุญาตให้มีการจัดสร้างเหรียญพิมพ์พัดยศรุ่นนี้ขึ้นอีกส่วนที่ทำขึ้นมาแล้วนั้นก็ขอให้มีเพียงเท่านี้

หลวงพ่อคงหมายถึงมีเท่าที่เสกและจารกำกับให้เท่านั้น เหรียญรุ่นนี้จึงไม่มีการออกให้บูชากัน คือเป็นเหรียญที่ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อแจกเพื่อใช้กันเองในหมู่ลูกศิษย์เท่านั้น

ซึ่งในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี 2552 ได้มีการจัดสร้างพระยอดธงที่ระลึกเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้น มีการทำพิธีเทพระที่วัดชายนา
โดยขณะที่หลอมชนวนพระยอดธงเนื้อเงินนั้นก็จะมีการใส่ชนวนมวลสารต่างๆลงไปในเบ้ามีทั้งตะกรุด ลูกสะกดเนื้อเงิน และชนวนอีกหลายอย่าง ตอนนั้นเองก็หนึ่งในศิษย์ที่ได้ครอบครองเหรียญพัดยศก็มีจิตศรัทธา นำเหรียญพัดยศเนื้อเงินที่มีในครอบครองใส่เข้าไปในเบ้าหลอมชนวนเนื้อเงินนี้ พอเห็นว่าชนวนมวลสารทุกอย่างละลายหมด ความร้อนของเบ้าหลอมได้ที่และได้ฤกษ์ที่จะเทองค์พระแล้ว ก็ได้เทชนวนมวลสารลงในเบ้าพิมพ์พระ คณะศิษย์และผู้ที่เทพระจึงได้สังเกตุพบว่าเหรียญพัดยศที่ได้ใส่ไปขณะหลอมชนวนมวลสารนั้นได้ติดอยู่ด้านข้างของเบ้าหลอม สภาพยังคงเป็นเหรียญอยู่ เสียผิวไปนิดหน่อยเท่านั้นเอง





หลังจากเหตุการณ์เหรียญหลอมไม่ละลายนี้ทำให้ศิษย์วัดชายนาต่างตามหา ไขว่คว้า และใฝ่ฝันที่จะมีเหรียญพัดยศมาไว้ในครอบครอง และด้วยจำนวนสร้างที่ถือว่าน้อยมากๆจึงทำให้เป็นเหรียญที่มีความต้องการสูงที่สุดในสายวัดชายนาครับผม

 

เวลาที่คณะศิษย์ที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อตัดไปกราบหลวงพ่อ บางคนก็ได้ทราบเรื่องราวว่าหลวงพ่อตัดท่านเจนจบในวิชาด้านโภคทรัพย์ วิชามนต์จินดามณีฯ ก็มักจะขอให้หลวงพ่อท่านให้จารแบงค์ เสกแบงค์เพื่อเป็นธนบัตรขวัญถุงให้ และหลวงพ่อตัดท่านก็จะตอบมาด้วยประโยคคลาสสิคเสมอๆ คือ

"เดี๋ยวพวกมึงก็เอาไปซุกก้นกันอีก"

ศิษย์บางคนที่ไม่ใจกล้าพอก็จะยิ้มๆ หัวเราะแหะๆผิดหวังกันไป แต่กับศิษย์บางคนที่เฝ้ารอเวลาหน่อย หลวงพ่อตัดท่านก็จะบอกให้เอาแบงค์มา แล้วท่านก็ทำให้

หลวงพ่อตัด ท่านเป็นพระสงฆ์ฝ่ายธรรมยุติ ซึ่งท่านจะไม่แตะต้องเงินทองเด็ดขาด เวลาที่หลวงพ่อท่านจะจาร, เสกนั้นก็มักจะเห็นอยู่ 2 วิธีหลักๆคือ ท่านจะใช้เหล็กแหลม จิ้มด้านนึงของแบงค์และอีกมือก็ใช้ปากกาเมจิกจารยันต์ให้
อีกวิธีก็คือท่านจะใช้ผ้าจับแบงค์ไว้มือนึง และอีกมือก็จารด้วยปากกา โดยไม่สัมผัสกับแบงค์ ดังที่เห็นในรูปประกอบด้านล่าง



แบงค์ขวัญถุงที่นำมาให้ชมนี้เดิมทีเป็นสมบัติเก่าของพี่สมบัติ ศิษย์วัดนครอินทร์ ซึ่งท่านได้ไปคลุกคลี ไปมาหาสู้กับหลวงพ่อในยุคท้ายๆ โดยแบงค์นี้จริงๆติดอยู่กับกรอบรูปหลวงพ่อเก่าๆบนหิ้งของพี่สมบัติเอง แต่พี่สมบัติก็ได้เมตตาอนุเคราะห์ให้ผมมาเก็บดูแลรักษาต่อ ซึ่งความพิเศษแบงค์นี้จะอยู่ที่หลวงพ่อตัดท่านเขียนอวยพรลงไปบนแบงค์ว่า "รวย รวย" และอีกด้านก็จารยันต์ตามสไตล์ของท่าน



หากผู้ศรัทธาต้องการไปเช่าหาวัตถุมงคลประเภทที่มีลายมือหลวงพ่อตัดจารเองที่อื่นๆหรือมีผู้นำมาเสนอขายก็ขอเตือนไว้ก่อน เพราะตอนนี้มีมือดีแต่หวังไม่ดีปลอมแปลงลายมือหลวงพ่อตัดออกมาวางขาย-หลอกขายผู้ศรัทธาหน้าใหม่ โดยมีการทำลายมือปลอมออกมาหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นบน ตะกรุด ปลัดขิก และวัตถุมงคลอื่นๆ โดยเฉพาะประเภทพวกเครื่องราง หากท่านเพิ่งเริ่มศึกษาใหม่ ควรระมัดระวังและควรปรึกษาผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเช่าหา
ด้วยความเป็นห่วงครับผม

 

สวัสดีผู้ศรัทธาหลวงพ่อตัด วัดชายนา

มีข่าวอัพเดตมาแจ้งและบันทึกเป็นข้อมูลไว้เกี่ยวกับจำนวนการสร้างเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี พ.ศ. 2548 เหรียญที่ได้รับความนิยมเป็นรองเพียงเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อฯจากประสบการณ์แบบปากต่อปาก

โดยหลังจากที่ได้มีการสอบถาม, การให้ข้อมูลจากทั้งทางผู้สร้างที่หลวงพ่อตัดเมตตาอนุญาตให้จัดสร้างให้และคณะศิษย์ทางวัดซึ่งเป็นข้อมูลที่อัพเดตใหม่ล่าสุด(พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2564) สามารถสรุปได้ดังนี้

1. เนื้อเงิน สร้างไม่เกิน 250 เหรียญ(หลวงพ่อตัดจารเองทั้งหมด)

-โค๊ดเบนซ์ ราวๆ100 กว่าเหรียญ
-โค๊ดเฑาะว์ 100 เหรียญ ซึ่งการตอกพิเศษ 9 โค๊ดก็รวมอยู่ในจำนวนโค๊ดเฑาะว์)

2. เนื้อนวะโลหะสร้าง 500 เหรียญ(หลักๆพระอาจารย์ทินเป็นผู้จาร หลวงพ่อจารเองก็มีแต่พบจำนวนน้อยกว่ามาก)

-โค๊ดเบนซ์ 200 เหรียญ
-โค๊ดเฑาะว์และโค๊ดพิเศษอื่นๆเช่น ตอกโค๊ดเฑาะว์ 9 โค๊ด จำนวน 300 เหรียญ

3. เนื้อตะกั่วสร้าง 2000 เหรียญ(พระอาจารย์ทินและหลวงพ่อตัดจาร พบเจอได้พอๆกันเนื่องด้วยเนื้อตะกั่วนิ่ม หลวงพ่อจารง่าย)

มีการตอกหลายโค๊ดหลายแบบ ไม่ตอกก็มี หลักๆจะตอกด้วยโค๊ดเฑาะว์

4. เนื้อฝาบาตรสร้าง 5700 เหรียญ(พระอาจารย์ทินและลูกศิษย์ที่ได้รับการครอบครูช่วยกันจาร)

-หลักๆตอกด้วยโค๊ดเฑาะว์เมล็ดงาด้านหลัง

5. เนื้อฝาบาตรผ่านทองแดง คัดแยกออกมาจากเนื้อฝาบาตรธรรมดา ไม่เกิน 200 เหรียญ ซึ่งจะมีการตอกโค๊ดเฑาะว์ด้านหน้าเพิ่มเติมจากเหรียญฝาบาตรธรรมดา ซึ่งส่วนมากจะเป็นการจารของพระอาจารย์ทินแบบพิเศษเป็นส่วนใหญ่คือจารด้วย พุท-โธ ด้านซ้ายและขวาของเหรียญ

ปัจจุบันในส่วนของเนื้อเงินราคาก็ขึ้นไปเทียบเท่าหรือแพงกว่าเหรียญรุ่นแรกสวยๆของหลวงพ่อตัดแล้ว และหลังจากที่มีข้อมูลออกมาว่าเนื้อนวะฯจัดสร้างเพียง 500 เหรียญแล้วนั้นก็มีทีท่าว่าราคาจะมีการขยับขึ้นไปอีกโดยเฉพาะส่วนที่เป็นเหรียญที่หลวงพ่อตัดเมตตาลงเหล็กจารเอง

ด้านล่างจะเป็นตัวอย่างเบื้องต้นของเหรียญแต่ละเนื้อ


เนื้อเงินโค๊ดเบนซ์ หลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร



เนื้อเงินโค๊ดเฑาะว์ หลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร



เนื้อนวะโค๊ดเบนซ์ หลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร



เนื้อนวะโค๊ดเฑาะว์ หลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร



เนื้อตะกั่วโค๊ดเฑาะว์ หลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร



เนื้อตะกั่วโค๊ดเฑาะว์เมล็ดงาและโค๊ดเบนซ์ หลวงพ่อตัดลงเหล็กจาร



เนื้อฝาบาตรธรรมดา พระอาจารย์ทินลงเหล็กจารเยอะพิเศษ



เนื้อฝาบาตรผ่านทองแดง มีการตอกโค๊ดเฑาะว์ที่ด้านหน้าเหรียญเพิ่มเติม พระอาจารย์ทินลงเหล็กจารยันต์พิเศษ

 

รายการที่ 194 พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก(สมเด็จขาโต๊ะ) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2518

พระผงรูปเหมือนรุ่นแรกนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีความสำคัญครับ เพราะหลวงพ่อตัดท่านเคยบอกศิษย์หลายๆคนไว้ว่า

"นี่รูปกู กูทำเอง พวกมึงเก็บไว้ให้ดีๆนะต่อไปจะหาไม่ได้"

โดยมวลสารหลักๆของสมเด็จขาโต๊ะคือว่านต่างๆที่หลวงพ่อตัดท่านปลูกไว้ในบริเวณวัด และเกศาของหลวงพ่อตัด

ด้านหลังจะลงด้วยยันต์เอกของหลวงพ่อ "อุสะหะสะปะสะอุ" ซึ่งเป็นยันต์เดียวกับที่ลงบนเหรียญรุ่นแรกของท่าน ซึ่งมีคนเคยไปถามท่านว่าคือคาถาอะไร ท่านก็ตอบแนวเล่นๆว่า "คาถากันแมลงกินฟัน"
แต่พอไปสืบสาวราวเรื่องลึกๆแล้วนั้น เป็นคาถาทางมหาอุดที่หลวงพ่อตัดท่านสำเร็จตั้งแต่ยังเป็นพระหนุ่มอยู่ที่วัดเขากระจิว โดนในขณะนั้นท่านได้ใช้เสกลงบนกิ่งไม้ แล้วให้ศิษย์วัดเขากระจิวเอาไปลองยิง ก็ปรากฏว่ายิ่งไม่ออก

อีกคาถึงหนึ่งคือ "พุทธะสังธัมมังโลเก" อีกหนึ่งคาถาบนเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อท่านเช่นกัน ศิษย์ก้นกุฏิท่านหนึ่ง ขออนุญาตเอ่ยนาม คือพี่บัณฑิต เก่งทอง พี่ท่านนี้เป็นผู้สร้างพระกริ่งรุ่นแรกถวายหลวงพ่อตัดก็เคยได้ถามหลวงพ่อว่า
"ตอนหลวงพ่อเสกพระกริ่งรุ่นแรก หลวงพ่อเสกด้วยอะไร?"
หลวงพ่อตัดท่านก็ตอบมาว่า
"พุทธะสังธัมมังโลเก"
ซึ่งความหมายคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์คุ้มครองโลก
ตราบใดที่เรายังเหยียบอยู่บนโลก พระรัตนตรัยก็จะคุ้มครองเรา นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคาถาสำคัญที่หลวงพ่อตัดท่านเลือกนำมาบรรจุลงบนสมเด็จขาโต๊ะ

และสุดท้ายคือ "ปวโร" อันเป็นฉายาของหลวงพ่อตัด
สมัยที่ท่านยังดำรงสังขารอยู่นั้นท่านก็ได้เป็นพระอุปปัชชา และพระที่ท่านบวชให้ทุกรูปนั้น ท่านก็จะทำตะกรุดให้หนึ่งดอก ที่เรียกกันว่า "ตะกรุดฉายา" โดยหลวงพ่อตัดท่านจะลงคาถาสำคัญๆต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือท่านจะลง "ปวโร" ไว้ด้านบนและด้านล่างจะเป็นฉายาของพระที่บวชใหม่แต่ละรูป ซึ่งแตกต่างกันไป ความหมายคือบารมีหลวงพ่อจะคุ้มครองพระที่บวชกับท่าน เหมือนอาจารย์จะดูแลศิษย์ตลอดไป
หากผู้ที่ไม่ได้บวชกับท่านก็จะหาวัตถุมงคลในรูปแบบต่างๆที่มีการลงฉายาของท่านไว้ เสมือนว่ามีนามของหลวงพ่อท่าคุ้มครองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสามารถพบเห็นผู้ศรัทธาในยุคหลังที่หลวงพ่อท่านมรณะภาพไปแล้วหลายๆคนก็มักจะมีสมเด็จขาโต๊ะติดกายกัน

นอกจากพุทธคุณที่ดีทุกทางแล้ว ยังสามารถรักษาพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อยได้อีกด้วย โดยการนำพระไปฝนผสมกับน้ำมะนาวแล้วนำมาใส่บริเวณแผล เวลาเข้าป่าขาพกสมเด็จขาโต๊ะไปนอกจากได้ทางพุทธคุณแล้วก็เหมือนกับว่ามียาติดตัวไปด้วย

องค์ที่นำมาแบ่งบูชานี้สภาพพอใช้ เอาไว้ติดตัวพึ่งพุทธคุณได้
ให้ลูกหลานแขวนหายก็ไม่เสียดายครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 195 ปลัดขิกไม้รัก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2525

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกที่ดีที่สุดในประเทศครับผม

ปลัดขิกตัวนี้เป็นปลัดขิกรัก ปี 2525 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปลัดขิกยุคต้นของหลวงพ่อตัดครับ ถือว่าหาไม่ค่อยเจอนะครับ เพราะส่วนมากที่เจอจะเป็นไม้มะยมซะส่วนใหญ่ นอกจากนี้ด้วยความที่ชื่อไม้เป็นมงคล ศิษย์ทางพื้นที่หลายๆคนก็จะนิยมเก็บและเลือกพกพาไม้รักนี่แหละครับ
ตัวนี้ศิลป์แกะมาตรฐานนิยม
มีรอยจารของหลวงพ่อตัดจารเอง 1 ตำแหน่ง ขนาดยาวเพียง 1.25 นิ้ว กำลังพกพาเลยครับ สภาพสวยเดิม เก็บดีมากๆครับ แบบนี้เก็บไว้ใช้บูชาตัวเดียวจบเช่นกันครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 194 พระผงรูปเหมือนรุ่นแรก(สมเด็จขาโต๊ะ)
ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 196 ขุนแผนเยี่ยวชะนี รุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548 ฝังตะกรุด 1 ดอก

“ผงเยี่ยวชะนี” เป็นยาเสน่ห์ชนิดหนึ่ง เป็นตำราที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาในหมู่ชนชาติลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำแห่งหมู่บ้านเขากระจิว จ.เพชรบุรี บ้านเกิดของหลวงพ่อตัดนั่นเอง ได้รับการขนานนามในฉายาว่า “ยาเสหน่ห์ตำรับลาวโซ่ง”

ยาสเน่ห์ชนิดนี้มิได้เอาเยี่ยวชะนีตรงๆ แต่จะนำใบไม้ไปรองไว้ จะนำใบไม้ต่างๆหลายชนิด เช่น ยอดสวาท ยอดรักซ้อน ยอดมะยม ดอกกาหลง และมวลสารลึกลับอีกหลายอย่าง นำมาผสมตามตำราจนสำเร็จเป็นผงเยี่ยวชะนี
หลวงพ่อตัดจึงนำผงชนิดนี้ใส่ไปในพระเครื่องเพียงบางรุ่นเพื่อให้เกิดผลทางมหาสเน่ห์ ลุ่มหลง เป็นเมตตามหาละลวย และหลวงพ่อท่านจะปลุกเสกด้วยวิชาทางเมตตาต่างๆ เช่น วิชานะมหาอ่อนใจ วิชาขุนแผนชมตลาด วิชาประสบเนตร ซึ่งคนเก่าแก่ท่านบอกว่าหากได้สบสายตาแล้ว บ้านก็ยังยกให้ได้ และยังมีวิชามนต์จินดามณี(เกร็ดเพิ่มเติมมี แต่เกรงว่าจะยาวเกินไป) ซึ่งมนต์นี้มีแรงครูแรงมาก ใช้ทางเรียกลาภสักการะ แก้วแหวนเงินทอง วิชานี้ต้องได้รับการประสิทธิ์ประสาทที่ถูกต้อง แรงครูท่านจะได้ช่วยเหลือได้เต็มที่ ท่านว่าปรารถนาสิ่งใด ลองตั้งใจอธิษฐาน หากไม่มีกรรมมาขวาง ก็จะสำเร็จได้ด้วยพรของมนต์จินดามณี

จากที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นเหตุผลที่พระผงของวัดชายนาที่ผสมด้วยเยี่ยวชะนีจะมีประสบการณ์ต่างๆมากมาย ทั้งเรื่องเมตตามหานิยม มหาสเน่ห์ โชคลาภและโภคทรัพย์อีกด้วย

พระพิมพ์ขุนแผนเยี่ยวชะนีพิมพ์นี้จะจัดสร้างไว้หลักๆ 2 ปี คือ ปี 2548 และ ปี 2550

ในส่วนของปี 2548 จะถือว่าเป็นรุ่นแรก มี 3 โซนเนื้อ แต่จัดสร้างรวมๆแล้วประมาณ 2-300 องค์

ในส่วนของปี 2550 จะมีหลากหลายโซนเนื้อ มีทั้งเนื้อผงเยี่ยวชะนี เนื้อว่านผสมเยี่ยวชะนี เนื้อผงพรายกุมาร ทั้งหลังยันต์ และหลังเรียบ(ชุดผงพรายกุมารจะอยู่ในชุดหลังเรียบ) รวมทุกแบบทุกเนื้อของปี 2550 จัดสร้างไว้ราวๆไม่เกิน 2000 องค์

องค์นี้เป็นขุนแผนเยี่ยวชะนี รุ่นแรก เนื้อแก่ใบว่านเมตตาเป็นอีกหนึ่งโซนเนื้อที่ได้รับความนิยมครับ สร้างไว้น้อยมากและมีมวลสารจากว่านต่างๆเข้มข้นมากๆ องค์นี้หน้าตาติดชัด องค์พระหนา ฝังตะกรุดโค๊ด วชน กระโดดไว้ 1 ดอก เรียกว่าปิดประตูเก๊กันไปเลย ที่ฝังตะกรุดนี้หายากมากครับผม ปัจจุบันขุนแผนเยี่ยวชะนีปี 2548 มีการไต่ระดับราคาขึ้นมาเรื่อยๆเนื่องจากมีเป็นพิมพ์ที่มีประสบการณ์เป็นอันดับต้นๆของวัตถุมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนาและจัดสร้างไว้น้อยมาก เพียง 2-300 องค์เท่านั้น

สำหรับชุดแก่ใบว่านที่ฝังตะกรุดแบบนี้พระอาจารย์ทินท่านได้ให้ข้อมูลว่ามีราวๆ 80 องค์ครับ
จึงทำในนานๆจะมีออกมาหมุนเวียนเปลี่ยนมือสักองค์
สำหรับชุดของปี 2548 นี้เรียกว่าใส่ผงมวลสารเยี่ยวชะนีกันแบบไม่ยั้งครับ หากผู้ศรัทธาต้องการจะหาพระตระกูลผงเยี่ยวชะนีมาแขวนมาอาราธนาบูชา ผมเองก็ต้องขอแนะนำชุดปี 2548 เพราะมีผงเยี่ยวชะนีที่เข้มข้นมากๆ ทั้งพิมพ์สมเด็จและขุนแผนครับ ปัจจุบันนี้สมเด็จพิมพ์มาตรฐานที่สร้างในระยะเวลาใกล้ๆกันทะลุหลักหมื่นบาทไปจนถึงหลายๆหมื่นแล้ว คิดว่าอีกไม่นานพิมพ์ขุนแผนพิมพ์นี้จะตามไปอย่างแน่นอนครับผม

พระอาจารย์ทินเมตตาจารด้วยคาถานะเมตตาเต็มสูตรไว้แน่นมากๆครับองค์นี้

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม