ความเชื่อ หรือความงมงาย

หลายๆ กระทู้ได้กล่าวถึงการเกิดของพระศรีอาริยะเมตไตย หรือการเกิดน้ำท่วมโลกก็ตาม ผมลองพิจารณาโดยสมองอันน้อยๆของผม เมื่อมีคนมาอ่านจะเกิดเหตุการณ์กับผู้อ่านได้ ดังนี้คือ
1. เมื่อขาดความพิจารณา อาจงมงาย รอแต่จะดูพระศรีอาริยะ เกิดความกลัวว่าตนบ้านของตัวเองจะต้องโดนน้ำท่วม เกิดความกังวลใจ อยากจะย้ายบ้านหนี อะไรประมาณนี้ ประเภทนี้น่ากลัวมาก
2. เมื่อคนพิจารณาได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็จะเกิดความเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จะทำอะไรก็กลัว เช่นต้องไปทำธุระกิจที่ต่างประเทศ หรือไปเรียนต่อ ก็ไม่กล้าจะไป จะทำอะไรก็หวาดระแวงไปหมด
3. เมื่อคนที่พิจารณาได้ ก็จะเกิดความเชื่ออยู่ส่วนหนึ่ง เพราะว่าเขาไม่รู้อนาคต แต่ก็จะทำตัวให้เป็นปกติทั่วไป
อาจเป็นความหวังดี สำหรับผู้ที่เอาเรื่องเหล่านี้มาให้เราได้รับรู้ แต่บางทีอาจจะได้บาปก้ได้
เมื่อเราอ่านกระทู้ต่างๆที่เกินวิสัยที่เราจะรู้ได้ ก็ควรใช้วิจารณญานในการอ่านให้ดี อย่าเชื่อจนงมงาย พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้เชื่ออะไรเลย ถ้าไม่ได้พิจารณา

 

จะเป็นความเชื่อ หรืองมงายนั้น ขึ้นอยู่กับเราเป็นผู้พิจารณาทั้งสิ้น พระพุทธเจ้ สอนว่า อดีต คือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว อนาคต เป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ฉะนั้น คนเรา ควรมองที่ปัจจุบัน และทำมันให้ดีที่สุด แต่อย่าลืมว่า โลกเราเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ก็เพราะกรรม การกระทำในอดีต เป็นตัวบ่งบอก ถึงปัจจุบัน และการกระทำของปัจจุบัน เป็นตัวบ่งบอกถึงอนาคต พวกเราก็รู้กันอยู่ นับจากอดีต มนุษย์ เราก่อกรรมมาเหลือเกิน ธรรมชาติที่เราทำลายไป คนมากมายที่ถูกฆ่าถ้าเอาศพมากอง มันคงจะจะล้นโลกแล้ว คิดดูว่า พวกเราจะรับกรรมหนักแค่ไหน ฉะนั้น เราอยู่ ณ ปัจจุบันตอนนี้ ก็ควรจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยความไม่ประมาท อะไรที่ควรแก้ไขได้ ก็รีบเร่งทำกันได้แล้ว พิจารณาดูนะครับ

 

ถูก