ขอถามท่านผู้รู้โปรดวิเคราะหือารมณ์ให้หน่อยครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มารพรหม, 25 เมษายน 2008.

  1. มารพรหม

    มารพรหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +17
    ครับผม ตอนนี้กระผมมีอารมณ์อย่างนี้ครับ ไม่อยากทำความชั่วใดๆเลย
    แต่ยังมีอารมณ์เพศอยู่
    ประสาทรับรู้เร็วจนไม่ตกใจอะไรเลย เช่นเวลาฟ้าจะร้องดังๆ หรือ จะผ่า ผมกลับรู้ตั้งแต่ก่อนเสียงฟ้าจะดัง
    เลยไม่ตกใจ
    เวลามีคนเขาเหน็บแนม ก็ไม่รู้สึกเดือดร้อน แต่สงสารมากกว่า เพราะเหมือนว่าเข้าไม่รู้เรื่องของเราจริง
    อารมณ์ไม่หยิ่งจองหอง ไม่ลำพองใดๆเลย เมื่อก่อนมีใครเขาทักหรือตำหนิ จะเสียหน้ามากมาย
    แต่เดี๋ยวนี้อาการเสียหน้านั้นไม่เหลืออยู่เลย จะทำอะไรรู้ัตัวตลอดเวลา จะหลงลืมตัวบ้างก็เรื่อง
    ความอร่อยของรสอาหารบางอย่าง แต่ก็ไม่หลง ไม่อยากอยู่บ้านแล้ว อยากบวชมาก แต่ยังห่วง
    เตี่ยกับแม่ แ่ต่ก็มีบางครั้งที่จิตคิดเพ้อเจ้อวาดฝันในอากาส แ่ต่ไม่นานก็ได้สติ

    ชีวิตมีเป้าหมายมากขึ้น มีระเบียบไม่สับสน รู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง แต่ไม่ได้่ยึดติดกับเป้าหมาย
    เช่น คาดการเอาไว้ว่าจะทำให้ได้ประมาณนั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่ได้ ก็ไม่ได้เดือดร้อนใจ
    เพราะใจรู้ว่ามันไม่สามารถทำได้แล้ว ไม่ตำหนิใคร รักพระศาสนามาก นั่งสมาธิไม่ได้กำหนดมาก
    ก็เย็นสายลมเข้าลมออกก็เย็น ไม่ฟุ้งซ่านลำคาญเลย อยู่คนเดียวก็ไม่ฟุ้งซ่าน อยู่หลายคนก็ไม่ฟุ้งซ่าน แต่จะไม่ค่อยอยากพูดมาก และสิ่งที่พูดจะไม่มีเรื่องเล่นๆ นอกจากทำให้เพื่อนขำแบบติดตลก แต่จะไม่กระทบใครๆ พูดหยาบไม่เป็นครับ และไม่อยากพูดด้วย
    รู้สึกมั่นคงดี ไม่หวั่นไหวในเรื่องการงานหน้าที่ แต่แปลก ถ้าได้ฟังเรื่องประัวัติพระพุทธศาสนาถูกทำลาย ทำไมน้ำตาไหลทุกทีไป เมื่อก่อนน้อยใจนะ
    อยากให้ใครๆรักตัวเอง แต่เดี๋ยวนี้ไม แ่ต่จะรักคนอื่นมากกว่า ไม่ใส่ใจเรื่องร้ายๆ เห็นข่าวเสียๆของท่านผู้บวชมาในพระศาสนาแต่ไปทำตัวเหมือนคนครองเรื่อน ไม่รู้สึกสลดเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับสงสารมากกว่า ไม่ใช่ปกป้องนะ แต่สงสารเขา และยังสงสาร
    คนที่เอาข่าวมาลงด้วย เพราะดูเหมือนว่าจะสนใจแต่เรื่องเสียๆของคนอื่น เหมือนเขาไม่รักศาสนานะ
    ไปวัดกราบหลวงพ่อ ท่านมีเมตตา หลวงพี่ ที่วัดท่านก็ทรงคุณธรรม ก็ภูมิใจ และดีใจมากมาย
    ปีติอยู่ไม่รู้หายครับผม ท่านไม่มีทรัพย์เป็นของๆตนเอง นอกจากบริขาร แม้เงินกิจนิมนต์ท่านก็นำไป
    สงเคราะห์แก่ เด็ก

    เวลาเข้าสมาธิก็เข้าง่ายครับ ไม่ฟุ้ง มีสติ หยุดคิดก็ดับสว่างอยู่อย่างนั้น แต่ถึงเวลาก็ออกเองครับ

    มันเป็นอยู่อย่างนั้น ไม่ทราบว่าผม ปฏิบัิติผิดหรือถูกประการใดครับ ขอท่านผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อยครับ
    ผม ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2008
  2. Emptyme

    Emptyme สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +9
    อย่าถามใครว่าตัวเราถึงขั้นไหน

    ให้ตนเองรู้ตนเอง ณ ปัจจุบันเป็นพอ

    บารมีคนเราไม่เหมือนกัน

    หากมีคนเห็นเรา แสดงว่าเราให้เขาเห็นเอง

    เมื่อไรที่เราอยากรู้หรือสงสัย นั้นคือ

    หนึ่งจิต ในตัวลวงของมารในจิตเราเอง

    อย่าคิดว่าปฏิบัติเเล้วเราจะดีตลอดเวลา

    หรือ บรรลุเเล้วตลอดเวลา

    สิ่งที่เกิด คือ การทดสอบธรรมของจิตเราเอง

    ตนเเลเป็นที่พึ่งเเห่งตน (พระพุทธเจ้า)
     
  3. magic_storm

    magic_storm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +3,053
    จิตรับรู้ว่า เป็นกุศล ก็ให้รู้ว่า เป็นกุศล จิตรับรู้ว่า เป็นอกุศล ก็ให้รู้ว่า เป็นอกุศล

    ดีแล้วล่ะคับ ที่รับรู้ได้ถึงความคิด ความรู้สึก เมื่อทำดีอยู่ ก็จงทำดีต่อไป เมื่อทำชั่วอยู่ ก็เพียรละมันต่อไปคับ
     
  4. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ขอแสดงความยินดีสำหรับการปฏิบัติที่ได้ผลดีนี้นะครับ ดูอย่างไรก็เป็นการปฏิบัติดีครับ

    ออกตัวก่อนว่าอาจไม่ใช่ผู้รู้สักเท่าไหร่นะครับ แต่พอพูดคุยบอกเล่าถามตอบประสบการณ์ที่พอเทียบเคียงกับของตัวเองปฏิบัติอยู่ก็พอไหวครับ

    การปฏิบัติของท่านนับได้ว่ามาถูกทางดีแล้วนะครับ เค้าเรียกว่ามีอารมณ์สมถะ เกิดจากการมีความเพียรในการปฏิบัติสมาธิครับ เมื่อปฏิบัติได้ดังนี้หนทางแห่งปัญญาก็มองเห็นอยู่ไร ๆ แล้วนะครับ

    การปฏิบัติแนวนี้สิ่งที่จะได้อย่างชัดเจนนั้นคือความสงบและความสุข เหมือ
    นเป็นการเติมน้ำมันให้เครื่องยนต์ เหมือนการได้พักผ่อนรับประทานอาหารอร่อย เหมือนการได้ท่องเที่ยวไปในสถานที่ให้ความสุขใจ จะทำให้เกิดความสบายแก่ผู้ปฏิบัติได้

    การปฏิบัติที่ควรทำควบคู่ต่อจากนี้ไปคือการทำวิปัสนาเพื่อความรู้รอบ รู้พร้อม รู้จริง เห็นจริง จนเกิดปัญญาที่สามารถละได้จริง ๆ

    แนวทางปฏิบัติวิปัสนามีหลายแนวตามแต่จริตของท่านผมยกตัวอย่างให้ดูเล็กน้อย เช่นการปฏิบัติตามโพชฌงค์ ๗ คือทำสติให้เกิด แล้ว ยกธรรมเช่นอริยสัจ ๔ เป็นต้นขึ้นมาพิจารณา จนเห็นชัดเจนเข้าใจดีในข้อธรรมจะเกิดความปิติสุข เกิดผ่อนคลายสงบระงับมีความตั้งมั่นในความเบาสบายและปล่อยวางลงในจิตสบาย

    หรือที่นิยมที่สุดก็คือปฏิบัติตามหลักสติปัตฐาน ๔ พิจารณาเห็นกายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม ว่าเป็นอย่างไร มีอาการเกิดดับเป็นอย่างไร อันไหนไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน เป็นอย่างไร

    อีกแนวหนึ่งที่ไม่อาจไม่กล่างถึงในตอนนี้ไม่ได้คือการปฏิบัติที่เรียกว่าการดูจิต เป็นการปฏิบัติที่ทำให้รู้เห็นตามจริงในสภาวะที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เห็นการเกิดดับของรูปนามในปัจจุบัน

    การทำวิปัสนานี้จะมีกำลังอันเป็นอินทรีย์ และพละ มาก สามารถเข้าใจ เข้าถึง เห็นชัด ยอมจำนน เบื่อหน่าย ปล่อยวางได้อย่างแท้จริง ยั่งยืน

    โดยรวมการปฏิบัติของท่านก็ถือได้ว่ามาถูกต้องตามทาง ก็มีการปฏิบัติเพิ่มเติมให้เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงรออยู่ในด่านต่อ ๆ ไปครับ

    ขอเสริมความคิดเห็นสักเล็กน้อยนะครับผิดถูกผู้รู้โปรดชี้แนะ คือผมอยากให้ท่านพร้อมในเรื่องปัญญาจากวิปัสนาก่อนสักหน่อย เพราะถ้าเกิดปัญญาเห็นนี้แล้วจะทำให้มีกำลังมากขณะบวช ไม่ซวนเซง่ายต่อการศึกษาลาเพศ ไม่พ่ายแพ้โดยง่ายต่อข้าศึกแห่งพรหมจรรย์ และท่านจะก้าวได้อย่างมั่นคงและถึงจุดหมายปลายทางได้โดยไม่ยากเย็นครับ

    ขออนุโมทนาที่ท่านปฏิบัติดีครับ ขอให้เจริญในธรรม
     
  5. เกสรช์

    เกสรช์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +1,401
    ขออนุโมทนา สาธุกับบทความดีดีและผู้ตอบกระทู้ทุกท่านด้วยคะ
     
  6. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    ก็เคยคิดแบบโยม ห่วงแม่

    [​IMG]

    [​IMG] ***อาตมาเป็นลูกชายคนเดียว ของครอบครัว แรก ๆแม่ก็อยากให้สึกอาตมาค่อยๆสอนให้ทำทาน พาไปกราบพระอริยะ แม่ค่อยๆซึมซับ เดี๋ยวนี้แม่ตั้งใจปฏิบัติธรรมและภูมิใจกับพระลูกชายมาก ทำบุญทำทาน หาเงินมาได้ก็ทำแต่บุญ บั่นปลายจะสร้างที่อยู่ให้โยมแม่มาบวช อยู่วัดเลย คุณก็เลือกเอา
    [​IMG]กตัญญูสูงสุดในพระศาสนา คือ ทำให้พ่อแม่ ถึงธรรม ให้ทาน รักษาศีล
    [​IMG]เลี้ยงดูพ่อแม่แบกไว้บนบ่า 100 ปีพระพุทธเจ้าตรัส ยังไม่ประเสริฐสูงสุด
     
  7. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    ดีแล้วครับถูกแล้ว
    ต่อไปเป็นขั้นยิ้ม
    เห็นอะไรเป็นธรรมไปหมด
    ยิ้มอยู่คนเดียว บางทีกลั้นไม่ไหวหัวเราะออกมา
    เหมือนคนบ้า 5555555555555555555555555555

    แต่อย่าไปดูเลยว่าเราเป็นอะไรๆ เป็นวิจิกิจฉา + มานะ + หลง(อวิชชา, โมหะ) เปล่าๆ

    ทำไป ทำดีทุกวัน ทำให้ดีขึ้นกว่าทุกวัน จนกว่าจะตาย
    ไม่รู้เราจะตายเมื่อไหร่ ถ้าตายเมื่อไหร่ ก็ขอไปนิพพานเมื่อนั้น
    ขึ้นชื่อว่าโลกหน้า ไม่มีสำหรับเรา ไม่เอาอีก
    นรก โลก เทวโลก พรหมโลก วิเศษแค่ไหนก็ไม่เอา
    จะขอเอานิพพานที่เดียว

    ปล. ไปได้ไม่ได้ ตั้งใจมันไว้ก่อน 5555
     
  8. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937

    ก็ดีครับ แต่ดีแบบสมถะ คือเอาเหตุเอาผลมาบอกมามันแล้วมันสงบยังไม่ใช่ดีแบบวิปัสนา คือเรายังหลงอยุ่ในโลกของความคิด
    ใครทำอะไรไม่ดีๆ ก็มีจิตคิดสงสารกลัวว่าจะบาปเวรจะตามทัน เวลาเราทำเรื่องต่างๆ ถ้ามันไม่เป็นไปตามที่เราตั้งใจไว้
    มันจะไม่คิดโทษ เพราะมันไปคิดว่าเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ตรงนี้ที่กล่าวมาทั้งหมดมีผลให้จิตสงบไม่มากก็น้อย
    ดังนั้นเวลาที่คุณทำสมาธิเป็นธรรมดาที่จิตสงบได้ไวกว่าสมัยที่ไม่มีอารมณ์พวกนี้เกิดขึ้น

    ถ้าวิปัสนามันจะเป็นเรื่องที่เหนือความคิดปรุงแต่ง ไม่หลงอารมณ์ ไม่สนเป็นคนดี ไม่สนเป็นคนชั่ว
    มีอารมณ์สงสารคนอื่นแต่รู้เท่าทันไม่หลงอารมณ์สงสาร อาศัยรู้ตามความเป็นจริง ไม่ใช่คิดตามความเป็นจริง

    เพราะเมื่อเราคิดถ้ายังไม่มีสติตื่นขึ้นมา มันก็จะคิดดีหรือคิดชั่ว มีผลทำให้คนที่คิดหลงเป็นคนดีหรือคนไม่ดี
    พูดง่ายๆว่ายังหลงดีหลงไม่ดีอยู่ จิตยังไม่รู้ตัวตื่นขึ้นมา จิตยังไมเห็นไตรลักษณ์จริงๆ

    ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วย เพราะเมื่อก่อนพี่ก็เดินมาคล้ายๆน้องเหมือนกัน
    กว่าจะมาถึงวันนี้ก็หลายปีอยู่ แต่ตอนหลังหัดมาเจริญสติถึงพอได้สาระของการภาวนาบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2008
  9. มารพรหม

    มารพรหม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +17
    ครับขอบคุณครับ แต่คนละอารมณ์กันครับ ผมไม่ได้สงสารแบบนั้นครับ ความสงสารมีครับ

    แล้วก็วาง ไม่ได้ไปโศกเศร้าโศกาอะไรมากมายขนาดนั้นครับผม แต่ทุกอย่างเป็นไปเองอย่างนั้นเป็นกระบวนการของจิตที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว อันกอบด้วยตัวรู้ครับผม รู้ตัวทั่วพร้อมครับผลสรุปก็นิ่งครับ
     
  10. บัวใต้น้ำ

    บัวใต้น้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +1,937
    ลองไปกราบครูบาอาจารย์ดูครับ

    ถ้ามีโอกาสลองไปกราบหลวงพ่อปราโมทย์ที่สวนสันติธรรม ศรีราชา ให้ได้สักครั้งครับ

    ท่านพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม เราติดขัดอะไรถามท่านตรงๆ ท่านก็จะบอกให้ตรงๆ
    รายละเอียดูได้ที่ www.wimutti.net
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2008
  11. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,983
    ดีๆๆๆ

    แสดงว่าบุญเก่าเราส่งผลแล้วครับ ต่อไปสะสม สร้างบุญบารมีต่อ หรือจะปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ได้เลยก็เป็นได้

    อธิษฐานครับ..ให้พบในสิ่งที่ดี จะได้ปฏิบัติธรรมไปไวๆ ไม่มีอุปสรรคใดๆ
     
  12. สุมหัว

    สุมหัว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2008
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +3
    ไม่ต้องถามคนอื่นครับ ลองถามตัวเองว่าปฏิบัติเพื่ออะไร ใช่สิ่งนี้หรือเปล่า

    หากยังหาคำตอบไม่ได้ เอาอันนี้ไปเป็นการบ้านละกัน

    พรหมจรรย์นี้มิได้ประพฤติเพื่อ ลัทธิแก้ลัทธิ เพื่อ ให้คนเคารพนับถือและบูชา เพื่อลาภและสักการะ
    แต่เพื่อ......(นี่แหละการบ้าน)
     
  13. อดีตโก

    อดีตโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +1
    ไม่สนับสนุนให้ไปบวชครับในขณะที่มีหน้าที่รับผิดชอบลูกเมียอยู่หากไม่มีคุณแล้วพวกเขาไม่เดือดร้อนสบายกว่าเก่าว่าไปอีกอย่างไปเลยครับเป็นฆาราวาสก็ทำได้ครับคุณโชคดีแล้วครับผมว่ามาถูกทางเหมือนท่านคีตเสวีกล่าวจิตมันตั้งมั่นแล้วครับรู้แล้วเฉยๆผมสอบผ่านตัวนี้มาหมาดๆเพื่อนสหายธรรมเวฟนี้แนะนำคนอาจจะมีอารมณ์โกรธทันทีหรือหัวเราะทันทีแต่จิตดูว่าเออโกรธแล้วนะปล่อยให้โกรธแล้วนะแล้วมันก็ดับแล้วนะไปรู้ก็ให้รู้แล้วมันดับไป การทำสมาธิวิปัสนากรรมฐานไม่ได้มุ่งไปสวรรค์อย่างเดียวครับแก้เหตุการณ์ทางโลกได้อย่างวิเศษตรงทางถูกต้องที่สุดครับและทางไปสวรรค์นิพพานหากคุณหนีไปบวชแล้วนิพานเลยไปเลยครับยึดนิพานเป็นอารมณ์เท่านั้นถึงไม่ถึงไม่ว่ากันพุทธองค์ยังใช้เวลาตั้งมากมายหลายชีวิตเลยครับพวกเราแค่มาสะดุ้งจิตกันชาตินี้เองขอโทษนะครับเพื่อนสหายธรรมทั้งหลายอย่าคิดมากขนาดนั้นครับหากคุณจะได้บวชชาตินี้ต่อให้หนีก็หนีไม่รอดครับหากวาสนาไม่ได้บวชบวชอยู่ได้ก็ไม่นานจะสร้างปัญหาใหม่บนเรื่องเก่ามาอีกเอาปัจจุบันเป็นที่ตั้งเหมือนดูจิตและพระทุกรูปก็สอนดูปัจจุบันครับผมยืมท่านมานะครับได้เท่านี้ก็สุขแล้วครับแล้วผมเชื่อว่าทำต่อไปได้ต่อไปอีกครับเดี๋ยวถึงเวลามาเองครับศาสนาพุทธคือทำเองได้เองเอาไปเผื่อใครก็ไม่ได้ครับใครทำใครได้ใครไม่ทำยังทำไม่ได้เหมือนพระท่านว่าพอมาถึงแล้วจะเออเป็นเช่นนี้เองหากมาไม่ถึงก็ยังไม่รู้ไม่ได้ครับคือความสุขสงบในชีวิตนะครับไม่ใช่อำนาจวิเศษเป็นกำลังใจให้นะครับ
     
  14. เทพบุตร

    เทพบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +114
    ขออนุโมทนาสาธุ ด้วยคนครับ ผมก็เป็นนักปฏิบัติเหมือนกัน ขอเป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้มีดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธองค์ได้โดยง่ายครับ...สาธุ
     
  15. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อารมณ์ที่เกิดขึ้น ใช่เราไหม
     
  16. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    หุหุ อยากจะช่วยคนอื่นๆ ให้พบทางสว่าง มีตั้งหลายทางครับที่จะช่วยได้

    ยิ่งเราอยู่ในฆราวาสด้วยแล้ว เรื่องเงินทอง โครงการช่วยเหลือคนอื่นๆ

    ให้พบธรรมทำได้ง่ายกว่าอยู่ในวัดมากกว่าครับ ถ้าคุณมีใจอยากจะช่วยเหลือ

    คนอื่นจริงๆ คุยกันได้ครับ ทาง pm
     
  17. gotodido

    gotodido เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +147
    ดีแล้วครับ ที่มาถึงตรงนี้ การจะเดินทางไหนต่อ ตัวคุณมารพรหมคือผู้รู้ดีที่สุด จะบวช รึรอไปก่อนก็ตาม

    ผมเองก็เบื่อ ทั้งที่รู้ว่าวางแล้ว เบื่อในสัมภาระอันระยุงระยาง พันรอบตัว ซึ่งก็กำลังพยายามค่อยๆปลดออก

    ทางโลกมีแต่กับดักทดสอบความประมาท ถ้าคุณเคยเล่นหมากกระดาน แบบใดแบบนึง โกะ หมากฮฮส หมากรุก ฯลฯ แม้จะเก่งแค่ไหน ตราบใดที่ยังไม่สำเร็จมรรค มรรคยังไม่จบ ไม่สมบูรณ์ ก็ย่อมมีพลาดท่าเสียที ติดในวงล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทางที่ดีคือเลิกเล่นซะดีกว่า

    การงานอันใด ที่กำลังทำอยู่ก็ดี ที่กำลังจะเริ่มทำก็ดี ทั้งที่ยังเป็นแค่แผนอยู่ก็ดี ควรเร่งมือ ถึงพร้อมความไม่ประมาท มีสติ รู้สึกตัวทุกขณะลมหายใจ (ข้อนี้ขอผมเตือนตัวผมเองด้วย)

    ธรรมใดๆของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นธรรมที่เป็นไปเพื่อถึงนิโรธ ที่ทำให้นิโรธเป็นสระที่เปี่ยมด้วยน้ำ ไม่มีบกพร่อง ควรหมั่นศึกษา ปฏิบัติธรรมนั้นๆ ให้ถึงพร้อมอินทรีย์5 ด้วยพละ 5, อินทรีย์ คือ ความเป็นใหญ่ พละ คือ ความไม่หวั่นไหว

    ตัวผมเองก็หวังให้จบในชาตินี้ (ข้อนี้ขอผมเตือนตัวผมเองด้วยล่ะกัน)

    ตอนนี้ผมก็ยังติดเรื่องตาย ติดเพราะห่วงงาน ห่วงครอบครัว(แม่คนเดียว) เพราะท่านยังลำบากอยู่ ผมเองก็ยังลำบากอยู่

    ขอเอาใจช่วยทุกท่านครับ
     
  18. ธรรมดีได้ดี

    ธรรมดีได้ดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +178
    อนุโมทนาบุญกับผู้ปฎิบัติธรรมทุกท่านนะคับ ... ปฎิบัติไปเถิดจะเกิดผล แนะนำนะครับ เอาวิปัสสนาควบไปด้วยครับ พิจจารณาไปให้เห็นความจริง.... แล้วปัญญาจะเกิดกับคุณมารพรหมเองครับ ปัจจัตตัง - รู้เฉพาะตน
     

แชร์หน้านี้

Loading...