แชร์ประสบการณ์ และคำสอน พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล (พระอาจารย์จิ๊) วัดธรรมิกาวาส ชัยนาท

พระกษิติครรภ์ท่านทรงรักเรามาก ด้วยปณิธานอันยิ่งใหญ่จึงบังเกิดเป็นพระมหาเจดีย์ ณ วัดธรรมิกาวาสแห่งนี้ ท่านมาหาหลวงพ่อถึง 4 ครั้ง เพื่อขอให้หลวงพ่อสร้างเจดีย์เป็นสถานที่ปิดอบายให้สรรพสัตว์

ฟีมแล้วขอนำมาแชร์ให้พี่ๆต่อถึงความเมตตาของพระองค์ท่านในตอนหนึ่ง

พระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระโพธิสัตว์มัญชุศรี...

"ดูก่อน มัญชุศรีโพธิสัตว์ ด้วยเหตุนี้แล กุลบุตรผู้นั้น (พระกษิติครรภ์) จึงได้ตั้งปณิธานอย่างแน่วแน่เพื่อที่จะได้โปรดสรรพสัตว์ในไตรภูมิให้หลุดพ้นจากวัญอสงสาร

โดยคุกเข่าลง ณ เบื้องพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าในอดีต แล้วตั้งสัตยาธิษฐานว่า "ข้าพเจ้าจะต้องโปรดสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากห้วงทะเลทุกข์ให้หมดสิ้น จึงจะขอบรรลุสู่พุทธภูมิ หากแม้นนรกอเวจียังไม่ว่างเว้นจากเวไนยสัตว์ ข้าพเจ้าก็จะไม่ขอสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า"

ตราบจนกระทั่งบัดนี้เวลาได้ผ่านไปร้อยพันหมื่นโกฏิกัป เนิ่นนานจนนับไม่ได้แล้ว เพื่อจะฉุดช่วยเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย บุตรชายของคฤหบดีในกาลนั้นยังคงดำรงอยู่ในโพธิสัตว์ภูมิและปฏิบัติตามปณิธาน ที่ตั้งไว้เป็นจริยกิจเสมอมาโดยไม่ยอมเข้าสู่แดนนิพพาน"

กลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

 

หลวงพ่อใส่อังสะ ๒ ตัวทำไมครับ ?

เป็นเรื่องราวของพี่ญาติธรรม คุณ Tanakorn Saenwong ได้มากราบหลวงพ่อร่วมบุญเมื่อวันงานกฐิน ๒๕๖๖ ด้วยความศรัทธาพี่เขาก็ซื้อของมาถวายหลวงพ่อหนึ่งในนั้นเป็นอังสะ ไซค์ใหญ่แต่ด้วยความที่ยังกังวลใจ ไม่แน่ใจว่าหลวงพ่อท่านจะใส่ได้ไหม ก็ยังคงคิดวกวนอยู่ในใจเท่านั้น

จังหวะหนึ่งฟีมและคณะลูกศิษย์บางส่วนเข้ามาหาหลวงพ่อในกุฏิ สนทนากันตามภาษาไปเรื่อยเปื่อยอยู่ๆ หลวงพ่อก็หยิบอังสะข้างตัวขึ้นมาแกะออกจากถุงพลาสติกแล้วก็สวม จัดทรงให้เข้าที่เรียบร้อย

ฟีมนั่งอยู่ใกล้ๆแหงนมอง *แว๊บแรกคิดในใจว่าหลวงพ่อใส่ทำไม ใส่ฉลองให้กำลังใจโยมหรอ* คิดจบก็ถามหลวงพ่อ .... หลวงพ่อใส่สองตัวทำไม ?

หลวงพ่อตอบ : ก็โยมเขานั่งคิดอยู่ว่าจะใส่ได้ไหม ก็เลยหยิบมาใส่ให้ดู

พี่ชาย : ครับ กำลังคิดว่าจะใส่ได้ไหม กลัวจะใส่ไม่ได้ สาธุ (พร้อมยกมือท่วมหัว)

วันนั้นลูกศิษย์หลายคนได้รับรู้ความอัศจรรย์ของจิตหลวงพ่อกันถ้วนหน้า #ประสบการณ์ทิพย์จักษุญาณ

กลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

 

อีก 2 อาทิตย์เราจะมาถึงไทย

เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนนี้หลวงพ่อท่านปรารภให้ฟังว่า “พระกษิติครรภ์ ท่านมาบอกว่าอีก 2 อาทิตย์จะมาถึงไทยแล้วนะ คงต้องเร่งลงเสาเข็มให้เสร็จ“

แหม๋ .. ไอ่คนอย่างฟีมมันก็ชอบพิสูจน์ ได้ยินปุ๊บก็ทักไลน์ไปหาทางคุณแม่เลยว่า “อีก 2 อาทิตย์ท่านจะมาถึงไหมครับ“ แต่ทางคุณแม่ก็ยังไม่ได้ตอบกลับมาแต่อย่างใด

จนวันนี้ได้รับสายจากแม่ว่าวันนี้พระกษิติครรภ์มาถึงแล้วนะ วันที่ 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 5 จะเอาเข้าไปวัดเลยได้ไหม ?

บอกตรงๆเลยว่าพอได้ยินปุ๊บฟีมขนลุกซู่ทั้งตัว มันเวลามันจะดีอะไรขนาดนั้น ดูวันที่จากรูปภาพก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นวันที่ 16 ธันวาคมในวันที่หลวงพ่อปรารภจนมาถึงวันนี้ก็ 2 อาทิตย์พอดี

ยิ่งตอกย้ำในใจชัดเจนเข้าไปอีกว่าท่านยังคงมีตัวตนและคอยสงเคราะห์ลูกหลานของท่านอยู่มิคลาย ด้วยมหาปณิธานอันยิ่งใหญ่ว่าด้วยการนำพาเหล่าสัตว์ทั้งหลายหนีห่างจากอบาย “หากนรกยังไม่ว่าง จะมิเยื้องย่างเข้าสู่พุทธภูมิ”

นำมอ ตี่จ่างหวัง ผู่ซ่า

กลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

 

#ฝันเห็นองค์พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์

เมื่อคืนข้าพเจ้าฝันเห็นองค์พระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์ เป็นรูปหล่อขนาดห้อยคอ เนื้อทองคำแต่มีสีเงินสว่างๆผสมด้วย ประมาณเงินผสมทองคำ หงายใต้ฐานองค์ท่านมีเลข 3 ตัว เป็นเลขไทย
ก่อนนอนก็ฟังธรรมะหลวงพ่อฤาษี จับลมหายใจ นึกถึงความตาย พระนิพพานตามที่เคยทำเป็นนิสัย แต่กลับฝันเห็นท่าน

 

ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของหลวงพ่อผมจึงขอความเมตตาท่านลุงพรท่านมีญาณทัศนะที่แจ่มใสท่านคุ้นเคยกับหลวงปู่อี๊ดวัดเตาถ่านศิษย์วัดท่าซุงยุคแรกๆอย่างดีท่านลุงพรปฏิบัติด้านสมาธิมา50ปีท่านมองรูปนี้ท่านบอกเรื่องราวของหลวงพ่อตั้งแต่ก่อนเกิดมาจนปัจจุบันอย่างละเอียด
ท่านเห็นฤษีล้อมรอบตัวหลวงพ่อแล้วก็มีพระองค์นึงข้างหลังดำๆท่านเก่งมากตั้งใจมากจะเอาถึงขั้นสูงสุดเลยนะท่านช่วยงานพระพุทธเจ้า ผมถามท่านลุงว่าหลวงพ่อปรารถนาเป็นสัมมาสัมพุทธะใช่มั้ยครับท่านบอกว่าใช่ อาการอาพาธของหลวงพ่อเป็นวิบากขันธ์ถ้าร่างไม่ไหวท่านก็ไป ผมถามลุงต่อเลยว่าไปไหนครับ ท่านลุงบอกว่าก็มาเกิดอีกแหละมาเป็นพระอีก มั่ยงั้นก็กลับร่างถ้ากลับร่างอาจจะอยู่ต่อได้อีก4ปีผมถามอีกว่าแล้วมีทางช่วยให้หายอาพาธได้มั้ยครับ ท่านลุงบอกว่ายากส่วนล่างจะเน่าเลือดมันตันมันไม่เดินเป็นพังผืดหมดหายใจยากตอนนี้ท่านอยู่กับพุทธโธนะ ผมถามจะช่วยได้ยังงัยครับ ท่านลุงบอกลองสวดนพเคราะห์วันเกิดท่านแล้วก็ทำทานสัตว์ที่เขาจะฆ่าเป็นอาหารน่ะถ้าท่านผ่านช่วงเคราะห์นี้ไปได้อาจอยู่ได้อีกนานท่านก็หัวเราะแล้วบอกว่าเจดีย์อย่าเพิ่งสร้างเสร็จซิ่ยิ้ม ผมอึ่งอีกว่าท่านรู้เรื่องสร้างเจดีย์ ท่านบอกว่าถ้าสร้างเสร็จเมื่อไรหลวงพ่อก็ทิ้งร่างเมื่อนั้นแหละหัวเราะ เจดีย์นี้ถ้าเสร็จจะมีเมล็ดกลมๆหรือพลอยมาเต็มเลยผมขอเล่าเรื่องราวบางส่วนเท่านี้ก่อนครับเพราะว่ายาวมากขอโอกาสแอดมินด้วยนะครับ
ใช่ผมก็คิดเหมือนท่านว่าหลวงพ่อสำเร็จแล้วจะกลับมาเกิดอีกได้ยังงัยท่านบอกว่าอธิฐานบารมีเจตนาเป็นตัวกรรม...น้อมกราบในบารมีธรรมของหลวงพ่อเหนือเศียรเกล้า ช่วยกันสร้างกุศลถวายหลวงพ่อกันครับทุกๆท่าน — with Wutthidet Laepong.

 

หลวงพ่อ(#พระครูวิจิตรชยากร #หลวงพ่อจิ๊) ท่านเมตตาแนะนำญาติโยมว่า (ภาษาจีน)
“ให้นำ #พระกษิติครรภ์ พกติดตัวเอาไว้ พระกษิติครรภ์หนึ่งองค์สามารถคุ้มครองได้ในรัศมี ๑๒ กิโลเมตร
หนึ่งองค์สามารถคุ้มคนในครอบครัวได้ ๑๒ คน
หากปรารถนาสิ่งใด ให้บอกกล่าวขอท่าน”
กลุ่ม #พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

（Phra Ajarn Ji）吉高僧给信徒的建议：将一尊大愿地藏菩萨的佛牌戴在身上，保佑平安的神力可远达以你为中心的12公里范围之内。

戴一尊大愿地藏菩萨的佛牌可以保佑12个家人

如果有什么愿望，就可以心里向（大愿地藏披萨）许愿。
Facebook Group 脸书链接：#พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท

 

เห็นพระฤษีเต็มไปหมดเลยดวงจิตของหลวงพ่อก็มีดวงจิตครูบาอาจารย์ซ้อนอยู่หลายองค์มากท่านมีบารมีมีบุญมากให้ตั้งใจทำบุญกับท่านให้มากๆนะไม่ใช่ว่าให้เงินมากไม่ใช่ คนมาให้เงินมากจนสร้างเจดีย์เสร็จท่านยังไม่เอาเลยให้ทำตามกำลังเราบอกบุญคนอื่นให้มาร่วมกันมากๆ ปิดอบายได้จริงๆเป็นบุญบารมีของตัวเองนะ ยิ่งมาร่วมสร้างกันมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งเป็นมหาบารมีที่สูงยิ่ง ท่านอาจจะปรารถนาเพิ่มบารมีธรรมให้สูงยิ่งขึ้นไปเป็นปัญญาอรหันสัมพุทธะชั้นสูงต่อไปก็ได้ อาการอาพาธจะหายได้นะให้ตั้งใจพากันสวดนพเคราะห์บูชากำลังวันเกิดหลวงพ่อ น้อมถวายบุญกุศลแก่หลวงพ่อแผ่เมตตากรวดน้ำฝากพระแม่ธรณีวันอังคารทำขันครูบูชาพระรัตนตรัยเขียนชื่อหลวงพ่อวันเดือนปีเกิดปีนักษัตร วันอังคารที่20กุมภาพันธ์ปีฉลูพ.ศ2516อายุ51ปี ยกถวายหน้าพระพุทธรูปหน้าหิ้งพระ ใครสวดไม่ได้ให้เปิดในยูทูปเอาเสียงโทรศัพท์ใว้หลังพระพุทธรูปให้เหมือนกับว่าเป็นเสียงจากพุทธองค์ น้อมจิตนึกถึงหลวงพ่อยกบุญถวายหลวงพ่ออธิษฐานขอให้หลวงพ่อหายอาพาธโดยเร็ว แผ่เมตตากรวดน้ำฝากพระแม่ธรณี ท่านบอกว่าให้ใครมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อเอามาใช้ด้วยนะครับเป็นกระแสญาณบารมีครูบาอาจารย์ ลุงพรฝากบอกมาครับท่านพูดเรื่องพระราหูลพระพุธเยอะมากผมจำไม่ค่อยได้ พูดถึงพระเจ้าตากและดวงจิตของครูบาอาจารย์ที่ซ้อนอยู่กับหลวงพ่อบางองค์ท่านจะกลับมาเกิดอีกมาช่วยพระพุทธศาสนา

 

พก "พระกษิติครรภ์ติดตัวไว้เป็นใบเบิกทาง"

วันนี้ขออนุญาตเล่านิทานให้พี่ๆผู้ร่วมบุญให้ได้อ่านในยามว่าง ก่อนจะเล่าก็จะต้องขอย้ำอีกครั้งว่าเป็นเพียงนิทาน มิใช่การอวดอ้างแต่ประการใด

#กดแชร์เป็นสะพานบุญสร้างพระมหาเจดีย์กันนะครับ

๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๖ หลวงพ่อท่านก็เล่านิทาน นั่งเล่นมองเจดีย์อะไรของท่านไปตามภาษา ...

หลวงพ่อ : พระกษิติครรภ์นี่ท่านเก่งมากๆ เก่งจริงๆ เป็นผู้มีปัญญามากและเป็นคนที่มีเหตุผลมาก ท่านช่วยสัตว์ทั้งหมดไม่ได้แบ่งแยกว่าประเภทไหน

ฟีม : ฟีมเคยได้อ่านมาเมื่อเร็วๆนี้ล่ะนะ ปณิธานท่านประมาณว่าพระพุทธเจ้าตรัสกับพระกษิติครรภ์ว่า...เธอจงใช้ฤทธิ์ที่มีช่วยเหล่าสรรพสัตว์อย่าให้ได้ตกไปถึงอบายแม้แต่เพียงวันเดียว

หลวงพ่อ : ท่านมีฤทธิ์เยอะจริงแต่เขาก็ไม่เคยอวดอ้างนะ แต่ว่าเก่งจริงๆ พญายมนี่ปกติท่านก็ไม่เกรงใครนะแต่กับพระกษิติครรภ์นี่ท่านเกรงมาก ถึงบอกว่าให้พกท่านติดตัวไว้เป็นใบเบิกทาง หมายถึงว่าใครก็ไม่กล้ายุ่ง ผีสางก็ไม่กล้ายุ่ง ยมบาลก็ไม่กล้ายุ่งถ้าได้เป็นลูกหลานศรัทธาท่านแล้วไม่มีใครกล้ายุ่งเลย

ฟีม : แต่ที่ฟีมอ่านๆมาท่านก็เก่งจริง เก่งเกินไป เก่งจนเชื่อได้ยาก แบบนี้เรียกเกินมนุษย์มนา ฮ่าๆ

หลวงพ่อ : อื้มม เกินมนุษย์มนา

ฟีม : ปกติ..ท่านอยู่ไหนนะหลวงพ่อ

หลวงพ่อ : แดนสุขาวดี ศิวิไลมากใครที่ท่านช่วยเอาไว้ก็ไปอยู่นั่นใครก็ไม่กล้ายุ่ง เตี่ยก็สงสัยนะวันนั้นถามท่านว่า...ใครนะ..ชื่ออะไรนะ..ที่เป็นแบบกษัตริย์แบบในหนังจีนน้ะ เขาเป็นเหมือนกษัตริย์ของเทพจีนเป็นเซียน เง๊กเซียนอะไร

ฟีม , พี่บอล : เง๊กเซียน ฮ่องเต้

หลวงพ่อ : เอ้อนั่นแหละ ถามเขาว่ามันมีจริงไหม ท่านก็ว่ามีจริงๆ ก็จะมีเมืองสวรรค์ของเขาแยกไปอีก (หลวงพ่อสมัยก่อนท่านชอบดูหนังจีนน่าจะติดใจสงสัย)

ฟีม : แล้วเวลาเขาไปเอาตัวจากอบายนี่เขาเอามายังไงอ่ะหลวงพ่อ

หลวงพ่อ : มันก็เหมือนเมืองมนุษย์เหมือนกันเลยมีการยืนเอกสาร มีอุทธรณ์ มีฎีกา แต่มันง่ายกว่ามนุษย์มาก

ท้ายสุดท่านก็บอกว่าเจดีย์แห่งนี้เป็นของกลางนะ ไม่ได้เป็นของใครส่วนใหญ่เจดีย์เขาก็จะมีเจ้าของ ของกษัตริย์บ้าง ของเจ้าบ้าง อันนี้เป็นของเวไนยสัตว์จริงๆ ให้พวกเธอช่วยกันไม่ต้องทำมาก ทำน้อยๆไปเรื่อยๆเสร็จน้ะเสร็จแน่

พระองค์เมตตาเราเหล่าสัตว์ที่ยังมีทุกข์มากจริงๆนะครับ ทั้งหลวงพ่อและพระกษิติครรภ์

ท่านสร้างให้เราแล้วเพื่อเป็นหนทางปิดอบายเหลือแต่เพียงตัวเราๆเองว่าจะเดินไปในทางนั้นหรือไม่ ?

#ประสบการณ์ทิพย์จักษุญาณ

 

หลวงพ่อมาช่วย
ประสบการณ์จากช่วงปีใหม่
เนื่องจากวันที่ 29 ธันวา 2566 ผมต้องขับรถไปทำงานที่โคราชต้องออกตั้งแต่เช้ามืด

ด้วยความที่คืนวันที่ 28 ผมนอนน้อยมากเลยรู้ตัวว่าต้องหลับในแน่ๆ เพราะช่วงเทศกาลปีใหม่รถจะติดมาก..ก่อนออกจากบ้านเลยยกมือพนมบอกกับรูปหลวงพ่อว่า "ถ้าลูกหลับในขอให้หลวงพ่อมาปลุกลูกด้วยนะ"

พอขับรถถึงช่วงสระบุรีผมง่วงมากแต่ก็พยามฝืนและสุดท้ายก็หลับในจริงๆ!!
ขณะที่ผมหลับในแต่ทันใดนั้นรถผมที่กำลังจะไปชนกับรถคันที่อยู่เลนข้าง
อยู่ๆ พวงมาลัยก็หมุนเอง!! หมุนสะบัดแรงมาก จนผมสะดุ้งตื่น พอลืมตามาก็ตกใจมาก
ที่พวงมาลัยหักหลบเองทำให้ผมปลอดภัยรอดพ้นจากอุบัติเหตุครั้งนี้
ต้องกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออย่างที่สุด
ถึงแม้ท่านจะป่วยขนาดไหนแต่ก็ยังมาช่วยศิษย์เสมอครับ
#บารมีฐานสีโล

 

#ประสบการณ์ทิพย์จักษุญาณ
#พระอาจารย์จิ๊เมตตาให้ทันตธาตุในนิมิต ❤️
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังนะครับพี่ๆสมาชิกทุกท่าน
เฮงๆรวยๆสุขภาพพลานามัยเเข็งเเรงนะครับ
มีประสบการณ์มาเล่าให้พี่ๆฟังเพื่อเป็นวิทยาทาน
เมื่อช่วงใกล้จะสว่างในวันนี้ ประมาณ05.00หรือตี5
ได้ฝันว่าผมได้ไปหาพระอาจารย์จิ๊ ในฝันก็ไม่รู้ว่าที่ไหน
คล้ายเป็นตึกสูงๆ ผมก็ขึ้นลิฟท์ รู้สึกว่าพระอาจารย์อยู่ชั้นบนสุด ระหว่างทางก็พบเจอผู้คนมากมาย กำลังจะไปหาพระอาจารย์เหมือนกับผมเลย พอไปถึงก็เจอ ญาติโยมที่มาหาท่านนั่งกันเต็มเลย ผมก็เดินเข้าไปกราบพระอาจารย์ ถามท่านว่า พระอาจารย์สบายดีไหมครับ หายอาพาธยังครับ ท่านบอกว่าสบายดี ดีขึ้นเยอะเเล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงนะ อย่ากังวล ยังอยู่อีกนาน เบื่องบนเขาเฝ้าดูเเลอยู่ หน้าตาท่านดูยิ้มเเย้มเเจ่มใสเหมือนไม่ได้อาพาธเลย เเล้วท่านก็พูดว่านี่ก็เพิ่งถอนฟันมา ผมก็มองไปเห็นพี่คนนึงน่าจะเป็นลูกศิษย์ นั่งข้างๆท่าน ถือฟันอยู่ เเล้วหยิบให้ดู ผมก็เลยพูดขึ้นว่า พระอาจารย์ครับ ผมขอฟันพระอาจารย์ไปบูชาได้ไหมครับ ท่านก็บอกว่า อยากได้ ก็เอาไปสิ เก็บรักษาไว้ดีๆนะ ตอนนั้นในฝันรู้สึกดีใจเเละปรีติเป็นสุขใจมากๆในความมีเมตตาของท่าน เหมือนกับว่าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ ไม่เหมือนความฝันเลย เพราะความรู้สึกเเละสติชั่วขณะนั้น รับรู้สัมผัสด้วยจิตอันละเอียดอ่อนเเละลึกซึ้งมาก ตอนนั้นก็ไม่ได้พูดกับท่านต่อ เพราะญาติโยมมารอพบท่านเยอะมาก เลยกราบลาท่านกลับ
พอเดินทางกลับบ้านสักพัก พอไปถึงบ้าน ก็อัศจรรย์ใจมาก ตกตะลึงอึ้งไปเลยทีเดียว เพราะเห็นพระอาจารย์จิ๊ท่านมานั่งรออยู่ในบ้าน..นี่ก็งงมากๆ ว่าเป็นไปได้ยังไง
ก็ถามท่านว่า พระอาจารย์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ ท่านบอกว่ามารอเรา จะมาฉันข้าวที่บ้านด้วย..น้ำตาผมนี่จะไหลเลย
พระอาจารย์ท่านรักเเละห่วงใยลูกศิษย์ทุกคน จนนึกถึงคำที่ว่า "เเค่คิดถึงฉัน ฉันก็จะไปหา" คำนี้มีอยู่จริงๆ เเละเกิดขึ้นจริงๆ ย้อนไปเมื่อวันสิ้นปี ได้เอารูปพระอาจารย์ไปอัดกรอบเเล้ว อธิษฐานบอกท่านให้หายอาพาธไวๆ เเล้วส่งการ์ดอวยพรปีใหม่ให้ท่าน..วันนี้ฝันเห็นท่านเลย ท่านคงรู้วาระจิตเราเเน่ๆเลย ถึงจะเป็นเเค่ความฝันเเต่ก็รู้สึกสุขใจเเละดีใจมากครับ เเม้จะเเอบเสียดายฟันของพระอาจารย์จิ๊55 สุดท้ายนี้ก็ขอให้พระอาจารย์หายอาพาธไวๆ ขอให้ถอนโรคถอนภัย เหมือนฟันที่พระอาจารย์ถอนออก ปกปักษ์รักษาคุ้มครอง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรเเก่ลูกศิษย์ทุกๆท่านให้มีกำลังใจต่อสู้ชีวิตไปตราบชั่วกาลนานครับ วันนี้วันดี วันที่๙เเรกของปี ขอให้เป็นก้าวที่ดีของพี่ๆทุกท่านตลอดไปครับ #รักเเละศรัทธาพระอาจารย์จิ๊สุดหัวใจ..❤️

 

#ขออนุญาติเล่าประสบการณ์ พุทธคุณพระเครื่องหลวงพ่อจิ๊กับการผ่านสงครามที่อิสราเอลครับ เมืองที่ผมอยู่ตั้งแต่เดือน ตุลาคมที่ผ่านมา น่าจะโดนจู่โจมด้วยขีปนาวุธมาไม่ต่ำกว่าหลักพันลูกครับ ซึ่งหลวงพ่อท่านกล่าวว่า พระกษิติครรภ์1องค์ สามารถคุ้มภัยได้ในรัศมี12กิโลเมตร ไม่ได้เกินจริงเลยครับ เพราะในบริษัทที่ผมทำงานอยู่ น่าจะกว้างราวๆ12กิโลเมตรพอดิบพอดี ซึ่งไม่มีระเบิดหรือแม้แต่สะเก็ดระเบิดตกลงเลย ขนาดคนอิสราเอล เขามาตรวจตามหลังคาเขายังแปลกใจเลย เพราะบ้านคนที่อยู่ในระแวกใกล้เคียงต่างมีเศษระเบิดตกลงใส่หลังคาจนเป็นรูโบ๋ แทบทั้งนั้นครับ ซึ่งเรื่องเหลือเชื่อกว่านั้นคือพ้นระยะ12กิโลเมตรที่ผมอยู่ไป มีระเบิดตกลงตามพื้นดินด้วยครับ

#ปล.ในคลิปคือเหตุการณ์จริง ของขีปนาวุธที่ยิงเข้ามาแถวระแวกที่ผมอยู่ครับ

หลวงพ่อท่านเมตตาแนะนำโยมว่า ให้นำพระกษิติครรภ์ติดตัวเอาไว้ พระกษิติครรภ์หนึ่งองค์สามารถคุ้มได้ในรัศมี ๑๒ กิโลฯ และหนึ่งองค์สามารถคุ้มคนในครอบครัวได้ ๑๒ คน
หากปรารถนาสิ่งใด ให้บอกกล่าวขอท่านครับ

 

ตรงนี้แสดงถึงทิพจักขุอันแจ่มใส
และเมตตาเหลือประมาณที่มีต่อทุกคน ทุกชนชั้น
ไม่เลือกปฎิบัติ

หลวงพ่อจิ๊ : พ่อตั้งใจไว้แล้ว ร่วมบุญวิหารทานด้วย ๑๐๐,๐๐๐บาท มาเข้ามาเอาลูก เมื่อคืนหลวงปู่ปานท่านมานะ สมเด็จองค์พระปฐมมาตีสองสั่งให้ร่วมบุญด้วย ใกล้วันเกิดถือว่าทำบุญต่ออายุธาตุขันธ์
ท่านบอกให้มารอเอ็ง พ่อออกมารอตั้งแต่ตีห้า
ก็คิดว่ามันจะมาหรือไม่มาเนี่ย แล้วท่านก็ยิ้มหัวเราะ

เมื่อหลวงพ่อจิ๊อธิฐานเสกหลวงพ่อโสธร
(หลวงพ่อเหลือเรืองฤทธิ์) ตอนออกสมาธิ
ท่านเมตตา กล่าวออกมาเองว่า สำเร็จแล้วหลวงพ่อโสธรพุทธลักษณะงดงาม โห มาเยอะนะเนี่ย ดีแล้วลูกมาให้พ่อได้ร่วมบุญด้วย ท้าวสักกะก็มาหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีให้ถือเป็นหลักไว้ ทำให้เสร็จนะลูกอย่าไปท้อมีข้างบนมาเยอะ

หลวงพ่อโสธร ท่านมาเปิดทางให้ เมษาเงินจะเข้ามาก สัตตะวินิบากไม่มีแล้ว(เรื่องอุปสรรคหนัก)
ที่ตรงนั้นทำให้ใหญ่หน่อยได้ไหมลูก

พระสุเมโธ : ได้ครับหลวงพ่อ แต่รองบมา
มาถึงตรงนี้ก็ขำกันทั้งหมด!

หลวงพ่อจิ๊:พ่อเปิดทิพจักขุให้แล้วภายใน๗วัน กลับไปเช้ามืดให้ล้างหน้าด้วย.... เอาขันครูกลับไปบูชาด้วยลูก ให้ทำมโนมยิทธิแบบหลวงพ่อฤาษีเรานี่แหละที่วัดมีพระอยู่เป็นเพื่อนไหมลูก

พระสุเมโธ : ไม่มีครับลพ. ผมพรรษาน้อยไม่กล้ารับ

หลวงพ่อจิ๊ : พรรษาน้อยไม่เกี่ยวหรอกลูก
ความสามารถเรามี ทำได้ทุกอย่างแล้ว
ควรจะมีเพื่อนอยู่ด้วย ตอนป่วยไข้จะได้มีคนดูแล

พระสุเมโธ :ครับหลวงพ่อ
และมีที่ท่านบอกกล่าวอีกมากแต่จำได้ไม่หมด

หลวงพ่อจิ๊ : อยู่ไปนะไม่สึกนะ ใครจะอย่างไงก็ช่างอดทน

๑๒ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗.
ณ.วัดคังคาว จ.ชัยนาท.

 

สัมผัส พลังงานหมื่นโวลล์ที่วัดคังคาว!!!

พระอาจารย์กษเมศ สุเมโธ นำธงท้าวมหาพรหมชนะมารทั้งสองแบบ ให้หลวงพ่อจิ๊เมตตาอธิษฐานจิตเพิ่มเติมท่านรับมาแล้วก็กล่าวว่า ว่าดีนี่ชัยชนะ ชะยะชะยะ ท้าวมหาพรหม ท้าวผกาพรหม และคาถาอะไรต่อไม่ทราบท่านเสียงเบาลงจนหลับตากำหนดจิต

ขณะนั้น พระอาจารย์ก็น้อมอธิฐานว่าขออาราธนาคุณพระคุณครูบาอาจารย์ และสิ่งที่หลวงพ่อจิ๊ท่านสงเคราะห์เผื่อแผ่ถึงผ้ายันต์ทุกผืนที่จัดส่งไปแล้ว
และตัวลูกด้วย

ขณะที่อธิฐานอยู่ แสงสว่างก็โพลงจากจุดกลางใหญ่ขึ้นขยายถึงสามครั้งแล้วพลังงานพุ่งลงมาจากด้านบนชาไปครึ่งตัว

ก็กราบน้อมรับด้วยความเคารพ!!!
ถ้าไม่ถ่ายเทพลังงาน โดยน้อมลงมาที่แผ่นทองในมือ
และผ้ายันต์ผืนอื่นคงจะ น่วมน่าดู

จึงมาบอกกล่าวเล่าถึงทุกท่านเรื่องพลังงาน
มีจริง ถ้าเราอยู่ในเกณฑ์ที่รับกระแสได้

 

ประสบการณ์กับพระสมเด็จปรกโพธิ์ 9 ใบครับ

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี มีงานโปรเจคนึงค่อยข้างจะปัญหาจุกจิกเยอะมาก มากแบบว่าไม่เคยมีงานไหนทำให้เรากังวลขนาดนี้
ก่อนนอนเลยหันไปหยิบพระปรกโพธิ์9ใบมาอธิฐานนึกในใจ "ขอบารมีพระอริยะสงฆ์ผู้ที่ร่วมอธิฐานจิตในพระองค์นี้มาช่วยให้งานผ่านไปด้วยดี"
.
คืนนั้นฝันว่าหลวงพ่อกวยมาให้กราบ ผมก็ก้มลงกราบท่าน ตื่นเช้ามาผมก็หยิบพระปรกโพธิ์ 9 ใบมาอธิฐานขอพรถึงหลวงพ่อกวย
หลังจากวันนั้นงานที่ติดขัดทั้งหมดคลี่คลายแบบอัศจรรย์ใจมาก
#บารมีฐานสีโล

 

#สาธุ
ชาวบ้านเล่าให้ฟัง…สมัยก่อนท่านจิ๊เขาเก็บตัว ไม่อยากดัง ไม่อยากให้ใครรู้จักถึงขั้นบอกว่าใครเอากูไปโพสต์ไปเผยแพร่ไปโฆษณาขอให้ฉิบหาย

ย้อนกลับไปช่วงแรกๆที่ได้พบหลวงพ่อท่านก็เคยปรารภให้ฟังว่า “ถ้าฉันไม่ต้องออกมาสร้างเจดีย์ฯ พวกแกก็ไม่ได้เจอฉันหรอก”

วันนี้มีโอกาสได้ร่วมบุญกับท่านแล้วก็อย่าได้พลาดโอกาสไป อย่ามองแต่เพียงภายนอก เพราะถ้ามองภายนอก มองอายุ ก็จะพลาดเหมือนที่ตัวฟีมเองนั้นเคยพลาดเสียเวลาเป็นปีเพราะเจอแล้วไม่ศรัทธาเนื่องด้วยใช้ตาปุถุชนอันโง่เขลามองนั่นเอง

กลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท Cr. ศริตวรรธน์ ภาสิริวงศ์

 

กท.เผยแพร่บารมีครูบาร์อาจารย์ครับ

“”#ตำราศักดิ์สิทธิ์””
ตำราเก่าแก่ตั้งแต่ยุคก่อนกรุงรัตนโกสินทร์ มีพระเกจิอาจารย์หลายองค์มาศึกษาเล่าเรียน อาทิ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ,หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม , หลวงพ่อเตี้ย วัดสามเอก เป็นต้น
และ #ตำรามนต์พระกาฬที่โด่งดัง ก็มีต้นสายอยู่ที่นี่เอง ถูกเขียนไว้โดยปรมาจารย์หลวงพ่อเฒ่า วัดคังคาว (วัดธรรมิการวาส) องค์หนึ่งที่มาเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญรุ่นแรก “พระอาจารย์จิ๊” จนหลวงพ่อวิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม ที่มาร่วมพิธีถึงกับถามท่านอาจารย์จิ๊ว่า ..

หลวงพ่อวิชัย : พระองค์แก่ๆที่มานั่งข้างๆนี่ใคร ?
พอจ.จิ๊ : หลวงพ่อเฒ่าครับ ท่านมาเป็นประธานให้
หลวงพ่อวิชัย : โอ้ว ท่านเก่งมาก เก่งมากจริงๆ
เป็นเพียงเรื่องที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาเล่าให้ฟัง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ

Cr. ศริตวรรธน์ ภาสิริวงศ์

 

“ต่อบัดนี้ไป ถวายท่านอาจารย์นะ ให้แข็งแรง”

ขออนุโมทนาและขอขอบคุณคณะพี่ๆ ศิษย์หลวงพ่อและกัลยาณมิตรทุกท่านที่จัดงานถวาย

ไม่คิดว่าจะจัดใหญ่จริงจังขนาดนี้ เป็นภาพประทับใจเลยค่ะ พิธีศักดิ์สิทธิ์มากระหว่างถ่ายทอดก็ประทับใจมาก
“2 นิกายเป็น 1 เราอยู่ใต้พระพุทธเจ้าด้วยกัน”

ขอบคุณญาติโยมที่รักและเคารพหลวงพ่อ
ที่พอทราบข่าวก็มาร่วมงานกัน
ญาติโยมชาวบ้านทั้งหลายที่เข้ามากราบก็มีแต่บอกขอให้หลวงพ่อแข็งแรง

พี่ๆ คนงานอยู่ๆ ก็เดินมาพูดกับเราว่า
“หลวงพ่อเราจะแข็งแรงแล้ว” หน้าตาพี่คนพูดก็ยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มกว้างมาเลย

รับรู้ได้เลยว่า หลวงพ่อท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ใครหลายคน

ประทับใจมากด้วยความที่เราถ่ายทอดอยู่ใกล้ๆ เลยได้ยินพระผู้ช่วยผู้ร่วมสวดถวายหลวงพ่อมากราบเรียนหลวงพ่อว่า
“ท่านเจ้าอาวาสท่านขอร่วมบุญกับพระอาจารย์ด้วย ในส่วนของตรงนี้ (ท่านชี้ไปที่เครื่องกระดาษที่ใช้ในพิธีไหว้เทพเจ้า) ท่านเจ้าอาวาสไม่ได้คิดเงิน ขอร่วมบุญถวายท่านอาจารย์” พวกเราก็สาธุๆ

แต่เราก็คิดว่า เอ๊ะ เหตุใดหนอท่านเจ้าอาวาสผู้นำสวดจึงขอร่วมบุญด้วย

เสร็จพิธีก็ขนเครื่องกระดาษไปเผา
ระหว่างที่กำลังหาที่จุดกัน ซ้อก็ตะโกนจากพระเจดีย์ลงมาว่า หลวงพ่อให้เผาที่บนฐานพระกษิติครรภ์ แต่.. แต่.. แต่..

ฐานเปียกก ปูนเพิ่งเท!! ยังเปียกปูนอยู่เลย
หลวงพี่อ้วนตัวตึงลูกลิงก็ตะโกนกลับไปว่า
“เผาไม่ได้.. ปูนเปียก ยังเปียกปูนอยู่เลย!!”
ก็เกิดการลังเลกันว่าเอาไงดีระหว่างทำตามหลวงพ่อแต่มันเปียกแถมลุยปูนอีก กับเผาข้างล่างไม่เปียกแต่เสี่ยงโดนหลวงพ่อเอ็ด

ด้วยความมีสองเสียงเถียงกัน ซ้อผู้ถ่ายทอดข้อความก็วิ่งไปถามหลวงพ่อใหม่แล้วกลับมาตะโกนว่า “หลวงพ่อบอก.. อย่าหวั่นไหว!!!!!”

พอคำนี้มาเท่านั้น
ที่ว่าเผาไม่ได้หลวงพี่อ้วนกับพี่เล็กก็ปีนขึ้นลานปูนสรรหาวิธีเผากันจนได้ ก็เป็นเรื่องขำๆ ให้พวกเรา พ่อบอกอย่าหวั่นไหว แล้วเผาบนฐานที่ประดิษฐานพระกษิติครรภ์อีก
ก็คงมีเหตุอะไรที่พวกเราไม่รู้ แต่เรายังสงสัยอยู่ในหัว ต้องมีอะไรอีกแล้ว

ใดๆ คือพอหลังเสร็จพิธีผู้เขียนก็มาอยู่ตรงตู้วัตถุมงคลก็เลยมองเห็นพระผู้ช่วยวัดญวนหลังเสร็จพิธี หลังเก็บของขนของกันเรียบร้อย เดินดุ่มๆ มาหาวัตถุมงคลหลวงพ่อ ถามหาวัตถุมงคลอันไหนเด็ดสุด แหม่เราก็ไม่รู้เรื่องเลย ก็บอกหลวงพี่” หนูไม่รู้เรื่องเลย หนูรู้แค่ว่า ราคาตามหน้าป้าย แต่อันไหนอะไรหนูไม่รู้เลยค่ะ”

“พระกษิติครรภ์ล่ะ มีไหม”
“หมดแล้วค่ะ ไม่มีเลย”
“หมดแล้วหรอพระกษิติครรภ์ หลวงพี่เอามีดหมอหลวงพ่อเล่มนึง”

แล้วหลวงพี่วัดญวณอีกองค์ก็เดินมา
“มีวัตถุมงคลหลวงพ่อไหม พระกษิติครรภ์หลวงพ่อเหลือไหม”

เห้ย!! มาเหมือนกันเลย ถามเหมือนกันด้วย
“ไม่มีค่ะ”
“หมดแล้วหรอ สร้างกี่องค์ หลวงพี่อยากได้ มีสักองค์ให้หลวงพี่ดูไหม หลวงพี่อยากเห็นด้วย”
“หนูมีค่ะ ที่หน้ารถหนูมี” หลวงพี่บอกขอดูหน่อย แล้วก็พาหลวงพี่ไปดูที่รถ หยิบมาให้หลวงพี่ดู หลวงพี่ก็ดูกันใหญ่เหมือนหลวงพี่จะเสียดาย ผู้เขียนก็เลยรีบพูดว่า “ให้ดูอย่างเดียวนะคะ หนูไม่ได้ปล่อยค่ะ” หลวงพี่ยิ้มเลย แล้วก็กลายเป็นว่า หลวงพี่หยิบสร้อยวัตถุมงคลที่ทำพิธีโดยเจ้าอาวาสวัดท่านมาให้ แล้วบอกให้โยมนะ ศักดิ์สิทธิ์มากเจ้าอาวาสท่านทำพิธีเอง แล้วด้วยความบังเอิญเพื่อนเราเดินมาพอดี หลวงพี่เลยมอบให้อีกเส้น ในหัวเราก็สงสัยว่า “เหตุใดเจ้าอาวาสท่านทำจึงดูศักดิ์สิทธิ์มาก เจ้าอาวาสท่านเป็นใครหนอ ท่านทำอะไร แล้วท่านเห็นอะไรหนอ” คือพิธีนี้เรารู้แค่ว่ามีพี่ลูกศิษย์มาจัดถวายแต่เราไม่รู้อะไรเลยที่มาที่ไปอะไร รู้แค่ว่าถึงเวลาต้องทำหน้าที่ถวายหลวงพ่อเท่านั้น

หลวงพี่วัดญวนกำลังจะเดินไปแล้ว อยู่ๆ คุณลุงผู้ติดตามก็วิ่งมา เราก็นึกว่าวิ่งมาตามหลวงพี่ขึ้นรถ วิ่งมาถามวัตถุมงคลหลวงพ่ออยู่ตรงไหน เราก็โอ้โห.. อะไรกันเนี่ย เราก็เห้ย แล้วเจ้าอาวาสท่านไม่รอเหรอ พอเรามองไป ท่านก็ยืนรอไม่ได้ว่าอะไรนะ เราก็หืมม ท่านรู้อะไรหนอ คิดอยู่ในใจ พระลูกวัดที่มาทำพิธีก็มาหาวัตถุมงคล ลูกศิษย์ติดตามก็วิ่งมาหาวัตถุมงคล อะไรกันอ่ะอยากรู้จัง แล้วก็ด้วยความสงสัยอยู่ในหัว
ก็ให้บังเอิญพี่คนที่จัดพิธีเดินมาเราก็เลยถาม พี่เขาก็เล่าให้ฟังว่า ไปไงมาไงพิธีนี้จึงเกิด เจ้าอาวาสวัดญวนเป็นใครแบบคร่าวๆ แต่โอ้โห..มาก ด้วยความยังคิดว่า จริงใช่ไหม ตอนลาหลวงพ่อกลับเลยถามท่านว่าจริงไหมหลวงพ่อ หลวงพ่อก็บอกจริง

วันนี้หลวงพ่อหลังพิธีท่านดูดีขึ้นมาก อารมณ์ดี ลงจากเจดีย์แล้วยังไม่ยอมกลับกุฏินั่งมองฐานพระกษิติครรภ์คุยกับญาติโยมแถวนั้น เราก็เดินไปถามหลวงพ่อเป็นยังไงบ้าง “เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วลูก” แล้วท่านก็หันมองฐานพระกษิติครรภ์ชมวิวต่อ

ขากลับพอปลดล็อคล้อเข็นได้ หลวงพ่อซิ่งฉิวกลับเองเลยไม่ต้องรอคนเข็น ขอให้หลวงพ่อกลับมาแข็งแรงไวๆ ค่ะ

สุดท้ายนี้ขออนุโมทนาบุญทุกท่านด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนจริงๆ หากการถ่ายทอดคลาดเคลื่อนประการใด กราบขอขมาคุณพระรัตนตรัย คุณหลวงพ่อ คุณพระโพธิสัตว์และทุกท่านที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ

 

#บทความนี้ผมและ_ลูกศิษย์ที่นั่งในห้องได้รับรุ้

หลวงพ่อใส่อังสะ ๒ ตัวทำไมครับ ?

เป็นเรื่องราวของพี่ญาติธรรม คุณ Tanakorn Saenwong ได้มากราบหลวงพ่อร่วมบุญเมื่อวันงานกฐิน ๒๕๖๖ ด้วยความศรัทธาพี่เขาก็ซื้อของมาถวายหลวงพ่อหนึ่งในนั้นเป็นอังสะ ไซค์ใหญ่แต่ด้วยความที่ยังกังวลใจ ไม่แน่ใจว่าหลวงพ่อท่านจะใส่ได้ไหม ก็ยังคงคิดวกวนอยู่ในใจเท่านั้น

จังหวะหนึ่งฟีมและคณะลูกศิษย์บางส่วนเข้ามาหาหลวงพ่อในกุฏิ สนทนากันตามภาษาไปเรื่อยเปื่อยอยู่ๆ หลวงพ่อก็หยิบอังสะข้างตัวขึ้นมาแกะออกจากถุงพลาสติกแล้วก็สวม จัดทรงให้เข้าที่เรียบร้อย

ฟีมนั่งอยู่ใกล้ๆแหงนมอง *แว๊บแรกคิดในใจว่าหลวงพ่อใส่ทำไม ใส่ฉลองให้กำลังใจโยมหรอ* คิดจบก็ถามหลวงพ่อ .... หลวงพ่อใส่สองตัวทำไม ?

หลวงพ่อตอบ : ก็โยมเขานั่งคิดอยู่ว่าจะใส่ได้ไหม ก็เลยหยิบมาใส่ให้ดู

พี่ชาย : ครับ กำลังคิดว่าจะใส่ได้ไหม กลัวจะใส่ไม่ได้ สาธุ (พร้อมยกมือท่วมหัว)

วันนั้นลูกศิษย์หลายคนได้รับรู้ความอัศจรรย์ของจิตหลวงพ่อกันถ้วนหน้า #ประสบการณ์ทิพย์จักษุญาณ

กลุ่ม พระครูวิจิตรชยากร ฐานสีโล วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท
กลุ่ม พระอาจารย์จิ๊ วัดธรรมิกาวาส จ.ชัยนาท (ศึกษา-สะสม)

 

ผมนำบทกรวดนํ้ามาฝากครับ.เผื่อท่านใดนึกไม่ออกจะใช้บทไหน.ใช้บทนี้ได้นะครับ

บทกรวดน้ำ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ(3จบ)

นะ โม พุท ธา ยะ ลูกขอเชิญพระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์โปรดเสด็จมาเป็นประธาน
อิ ทัง ปุญญะ พลัง (ให้เริ่มเทน้ำลงบนพื้นดิน) ลูกขอฝากน้ำอุทิศนี้ไปกับ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา โปรดมาเป็นทิพย์พยาน ขออานิสงค์ผลบุญกุศลอันใดที่ข้าพเจ้า ชื่อ.(ของเรา)..............สกุล...(ของเรา)............. ได้กระทำในวันนี้ ทั้งหมด ทั้งปวง ข้าพเจ้าขออุทิศให้กับ เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าที่กำลังเบียดเบียนข้าพเจ้าอยู่ ณ ปัจจุบันี้ ที่ทำให้ข้าพเจ้าเกิดทุกข์........... (เรื่องที่ประสบปัญหา) ไม่ว่าท่านจะมาจาก ชาติใด ภพใด ก็ตาม ทั้งระลึกได้ก็ดีและระลึกไม่ได้ก็ดี ไม่ว่าท่านจะอยู่ในภพภูมิใด ขอให้ท่านจงมารับกุศล ที่ข้าพเจ้าอุทิศให้ในครั้งนี้ โดยมาให้ถึงจุดหมาย อย่าแวะ อย่าเวียนที่ใด ให้กุศลถึงทั่ว ทุกท่าน ทุกตัว ทุกตน ทุกภพ ทุกภูมิ
ขออานิสงค์ผลบุญดังกล่าวนี้โปรดกลายเป็นโภคทรัพย์ ตามที่ท่านปราถนาทุกประการ
เมื่อทุกท่านได้อนุโมทนาบุญดังกล่าวนี้แล้ว โปรดอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน หยุด อาฆาต พยาบาท จองเวรจองกรรมและเบียดเบียนข้าพเจ้าต่อไปอีกเลย
ขอให้ท่านได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปและโปรดช่วยเปิดทางให้ข้าพเจ้าผ่านพ้นปัญหา ......................... ที่ข้าพเจ้ากำลัง ประสบอยู่ ณ ตอนนี้ ให้หมด ให้สิ้น อย่าหลงเหลือตั้งแต่บัดนี้ เวลานี้เป็นต้นไปด้วยเทอญ

 

ผู้เจ็บป่วยได้รับพระบารมีพระกษิติครรภโพธิสัตว์ (ตอนที่ 3)

1
อุบาสิกาหลี่ อายุ 49 ปี ฝันร้ายมากว่าสิบปี มีจิตใจที่แย่มาก อารมณ์ไม่ดี และได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคเรื้อรังต่างๆ อุบาสิกาหลี่ทำงานในคณะกรรมการก่อสร้างเทศบาล เธอเคยรังเกียจคนที่นับถือศาสนาพุทธและศึกษาศาสนาพุทธมากแต่ไม่เข้าใจ สามีของอุบาสิกาหลี่ศรัทธาในพระพุทธศาสนา และค่อยๆ ชักชวนให้เธอศึกษาพระไตรปิฎกมากขึ้นเพื่อลดบาปกรรม มีฝันร้ายอยู่สองเรื่อง เรื่องหนึ่งคือเธอฝันเสมอว่าฉันถูกยายไล่ตีตอนเด็กๆ เพราะยายของเธออารมณ์ร้ายมากตอนที่เธอยังไม่ตาย และสิวโผล่ขึ้นมาจากพื้นถนนแล้วกลายเป็นตาโต เธอมักจะตื่นจากฝันร้ายและร้องไห้ ฝันร้ายอีกอย่างคือตอนที่เธอยังเป็นวัยรุ่น เธอไปที่ห้องใต้ดินเพื่อไปเอาของ และพบงู เธอตกใจมากและครอบครัวจึงทุบตีงูจนตายในเวลาต่อมา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อุบาสิกาหลี่มักจะฝันถึงงู แล้วมีสิ่งใดผิดพลาดหรือเธอป่วย ซึ่งทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์และกระสับกระส่าย นอกจากนี้ เธอมีอาการชักในเวลากลางคืนตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และมีอาการชักเป็นครั้งคราว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าวิตกมากเช่นกัน

หลังจากที่ อุบาสิกาหลี่ เรียนรู้พุทธศาสนา เธอเริ่มสวด "กษิติครรภสูตร" และมักจะทบทวนตัวเอง ทัศนคติของเขาต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเธอเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ และเธอค่อย ๆ พยายามเผชิญหน้ากับผู้คนและสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเขาด้วยมุมมองที่ยอมรับ ในทางตรงกันข้าม จิตใจของเธอค่อยๆ สงบ และอารมณ์ของเธอก็ผ่อนคลายมากขึ้น อุบาสิกาหลี่เป็นคนพูดเก่งพูดคล่อง เธอสอนทุกคนให้เข้าใจเหตุและผล กลับใจจากบาปในอดีต และมักจะพิจารณาตัวเองเพื่อให้บรรลุความหลุดพ้นที่แท้จริง

2
อุบาสิกาหลี่อีกคน อายุ 46 ปี มีอาการปวดท้องและสามีของเธอก็ปวดหัว นอกจากนี้เธอยังสวดกษิติครภสูตรเป็นเวลาหนึ่งปี เมื่อก่อนเวลากินท้องจะมีปฏิกริยากับของหวาน เย็น ร้อน ไม่สบายท้องมาก ตอนนี้อาการหายเป็นปกติแล้ว และสิ่งที่ทำให้เธอดีใจยิ่งกว่าก็คืออาการปวดหัวของสามีที่ไม่ได้สวดพระสูตรก็หายเป็นปกติโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน

3
อุบาสิกาหลี่อีกคน อายุ 43 ปี และคุณย่าวัย 90 ปีของเธอป่วยหนัก ในช่วงที่เธอป่วยหนัก เธอถูกเจ้ากรรมนายเวรทำร้าย คุณย่าป่วยด้วยโรคประหลาดอย่างกระทันหันเมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้ว และทางโรงพยาบาลยังไม่มีวิธีการรักษาที่ดี คุณย่าอายุมากโรงพยาบาลจึงให้การรักษา ตัว อุบาสิกาหลี่เองก็ศึกษาพุทธศาสนามานาน ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจสวด "กษิติครรภสูตร" ให้คุณย่าของเธาฟัง คืนก่อนอ่านพระสูตร ย่าของเธอถูกเจ้ากรรมนายเวรตบห้าที (ตอนนักข่าวสัมภาษณ์เธอยังไม่จางหาย เห็นชัด และมีฉากนี้ในสารคดี)

หลังเวลา 12.00 น. คุณย่ากรีดร้องอย่างสิ้นหวังทั้งๆ ที่ยังอยู่ในอาการโคม่า โดยบอกว่ามีคนทุบตีเธอ แล้วใบหน้าบวมและเห็นรอยนิ้วมือได้ชัดเจนจริงๆ สักพักย่าก็พูดขึ้นมาอีกว่ามีคนเอามีดแทงเธอ แล้วตะโกนอย่างสิ้นหวัง ต่อมาเมื่อใดก็ตามที่คุณย่าร้องตะโกน อุบาสิกาหลี่จะสวดว่า "นะโม มหาปณิธาน กษิติครรภโพธิสัตว์" จากนั้นคุณย่าก็จะดุและทุบตีเธอ อุบาสิกาหลี่รู้ว่าเป็นเจ้าหนี้กรรมของย่าที่ทำกับเธอ ตื่นเช้ามาถามย่า ย่าบอกไม่รู้เรื่อง

อุบาสิกาหลี่สวด "กษิติครรภสูตร" 49 ครั้งในเวลา 7 วันเพื่ออุทิศให้กับเจ้ากรรมนายเวรของย่า เธออธิษฐานกับพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์และบอกว่า "ถ้าชีวิตในโลกนี้ของย่าหมดลด ขอให้ย่าไปดี ถ้าเป็นเพียงกรรม ขอให้ย่าหายโดยเร็ว" ตอนที่เธออยู่ที่นั่น หน้าต่างสั่นเหมือนแผ่นดินไหว ครอบครัวต่างหวาดกลัว แต่พวกเขาก็อดทน เมื่อเธอท่องพระสูตรในวันที่ 3 ขาของเธอรู้สึกชาเหมือนไฟฟ้าช็อต

อุบาสิกาหลี่ศึกษาพุทธศาสนามาหลายปีแล้ว และเธอรู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรของย่าของเธอก็ฟังพระสูตรเช่นกัน ดังนั้นเธอจึงยังคงอ่านพระสูตรต่อไป จบการสวดวันที่สี่ พ่อโทรมาบอกว่าย่าลงเดินได้แล้ว กลางคืนไม่ต้องรบกวนมาก เจ็ดวันต่อมา คุณย่าก็กินได้ โรคประหลาดก็ค่อยๆ หาย อุบาสิกาหลี่รู้โดยธรรมชาติว่าความเจ็บป่วยของคุณย่าเป็นโรคแห่งกรรมที่เคยก่อกับเจ้ากรรมนายเวร ต่อมาย่าเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า “ตอนเด็กๆ ครอบครัวลำบากมาก ตามคุณปู่ไปฆ่าวัวอยู่ 3 ปี แต่ที่ย่าทำก็แค่แทงให้ไส้แตกแค่นั้น พอป่วยแรกๆ รู้สึกเหมือนถูกแทง และต่อมาย่าเพิ่งรู้ว่าเป็นเขาของวัวที่แทงย่าเพื่อแก้แค้น” โอ้ มันน่าคิดจริง ๆ ตอนนี้คุณย่าของเธออยู่ในสภาพปกติและเธอตั้งอกตั้งใจสวดพระนามพระพุทธเจ้าเพื่อไปเกิดใหม่ในสุขาวดีพุทธเกษตร

4
อุบาสกหยาง อายุ 36 ปีและมีอาการปวดหลัง อุบาสกหยางได้ศึกษา กษิติครรภสูตร เป็นเวลาแปดเดือน ก่อนสวดพระสูตร สุขภาพของเขาไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะหลังส่วนล่างมักเจ็บ ปวดศีรษะเป็นประจำ การฉีดยาและยาไม่ค่อยได้ผล เมื่อเขาป่วยหนัก ในวันรับยา หอุบาสิกาหวัง (แม่ของเสี่ยวหราน) ชักชวนให้เขาเชื่อในพุทธศาสนา และอุบาสิกาน้อยเสี่ยวหรานก็ช่วยเขาด้วย ค่อยๆ หันมานับถือศาสนาพุทธและเริ่มยืนกรานที่จะสวดกษิติครรภสูตร หลังจากสวดพระสูตรแล้วพบว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากในหลายๆ ด้าน เรื่องงานก็ราบรื่นไปด้วย ตอนนี้ปวดหลัง และโรคอื่นๆ ไม่มีมารุมเร้าอีกต่อไป

5
อุบาสิกาหลิวอายุ 55 ปี จู่ๆ ก็มีอาการผิดปกติทางจิตใจ และเป็นโรคไขข้ออักเสบ เขาเล่าว่าปกติฉันมีสุขภาพที่ดีและไม่มีประวัติทางการแพทย์ทางจิต แต่จู่ๆ ฉันก็มีอาการผิดปกติทางจิตใจ ดังคำกล่าวที่ว่า "บ้า" การรักษาตัวในโรงพยาบาลมีค่าใช้จ่าย 70,000 ถึง 80,000 หยวน และเงินที่หามาอย่างยากลำบากตลอดหลายปีถูกส่งไปที่โรงพยาบาล โรงพยาบาลวินิจฉัยว่าเป็นฮิสทีเรีย และฉันก็ค่อยๆ เข้าใจเกี่ยวกับโรคที่ฉันเป็น ต่อมาอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลได้ เป็นเพราะมีบุญวาสนาเป็นพื้นฐานที่ดี คนอื่นชักชวนให้ภาวนาพระนามพระพุทธเจ้า จึงอดทน หยุดวิ่งพล่านเหมือนแต่ก่อน แม้ว่าร่างกายของฉันจะสูญเสียการควบคุมในบางครั้ง แต่การรับรู้ตนเองของฉันก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว สามารถแยกแยะระหว่างพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ได้ ฉันยังรู้ว่าการสวดนามพระพุทธเจ้าเป็นผลดีต่อความเจ็บป่วยของฉัน ดังนั้นฉันจึงยังคงภาวนาพระนามพระพุทธเจ้าต่อไป

ในความเป็นจริง อุบาสิกาหลิวก็มีรากเหง้าแห่งบุญกุศลที่ลึกซึ้งเช่นกัน เขารับพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แม้กระทั่งในขณะที่เขา "บ้า" เขามักจะไปวัดและกราบไหว้พระพุทธเจ้า ตั้งแต่สวด"กษิติครรภสูตร" การเปลี่ยนแปลงก็ชัดเจนขึ้น มีสติสัมปชัญญะกลับคืนมา และชีวิตประจำวันก็เป็นปกติมากขึ้น เธอไม่มีการศึกษา แต่ตอนนี้ เธอสามารถสวด "กษิติครรภสูตร" ได้ทั้งเล่ม อุบาสิกาหลิวเคยป่วยด้วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ขั้นรุนแรง นิ้วผิดรูปอย่างรุนแรง ชา และกลัวหนาว อาการเหล่านี้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดระหว่างทำวัตร ลูกสาวของเธอสวดพระสูตรมาหลายปีแล้ว การศึกษาและชีวิตของเธอราบรื่นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอได้งานทำในมหาวิทยาลัยหลังเรียนจบ ซึ่งทำให้เพื่อนร่วมชั้นหลายคนต้องอิจฉา และสามีของเธอก็เริ่มศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างจริงใจ ด้วยหลังจากที่ภรรยาคืออุบาสิกาหลิวฟื้นตัวจากอาการป่วย

6
อุบาสิกาเกา อายุ 63 ปี ทุกข์ทรมานจากโรคกระดูกพรุน ปวดจนทนไม่ได้ และเธออาจพิการหลังการผ่าตัด อุบาสิกาเกาป่วยหนักในปี 1999 ในช่วงเวลาเลวร้ายที่สุด เธอไม่สามารถลุกจากพื้นได้เป็นเวลาสามเดือน และปวดมากจนนอนไม่หลับในตอนกลางคืน แพทย์วินิจฉัยว่ามีแกรนูล (ภาวะกระดูกพรุน) ในกระดูกสันหลังส่วนเอว และหากดำเนินการได้ไม่ดี อาจทำให้พิการได้ อุบาสิกาเกาเจ็บปวดอย่างมาก ต่อมามีอุบาสกคนหนึ่งแนะนำให้เธอเชื่อในพระพุทธศาสนาและภาวนาพระนามของพระพุทธเจ้า อุบาสิกาเการับพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ปี 2000 ครั้งหนึ่งเธอเน้นไปที่การสวด "อมิตาภสูตร" และต่อมาได้เปลี่ยนเป็น "อมิตายุรธยานสูตร" แม้ว่าอาการป่วยของเธอจะทุเลาลงแล้ว แต่เธอก็ยังไม่หายดี

ในฤดูหนาวปีที่แล้ว (ปี 2003) ฆราวาสคนหนึ่งแนะนำให้เธอสวด "กษิติครรภสูตร" และบอกว่า "กรรมของคุณหนักเกินไป โรคนี้น่าจะเกิดจากกรรมชาติที่แล้วของคุณ การอ่าน "กษิติครรภสูตร" สามารถขจัดกรรมของตนเองได้...” อุบาสิกาเกาเริ่มสวดงกษิติครรภสูตร ต่อมา เธอได้รับความฝันชักนำของพระโพธิสัตว์กษิติครรภซึ่งทำให้เธอมีความมั่นใจในการอ่านพระสูตรมากขึ้น จากการแลกเปลี่ยนระหว่างชาวพุทธ เธอค่อยๆ เข้าใจว่าพระสูตรใดๆ ต่างก็ดีไปหมดและล้วนยอดเยี่ยมมาก แต่ "กษิติครรภสูตร" นั้นยอดเยี่ยมกว่าและมีโอกาสกำจัดกรรมในโลกนี้ได้มากกว่า

ในการปฏิบัติของเรา หากเราป่วยหนักหรือมีอุปสรรคมาก สิ่งเหล่านี้คืออาการของกรรมหนัก เราไม่สามารถสูญเสียความตั้งใจเดิมของเราในการเรียนรู้พระพุทธศาสนาเพราะเหตุนี้ อย่าสงสัยในพระพุทธศาสนาเลย คุณควรเข้าใจอย่างชัดเจนว่าอุปสรรคเหล่านี้เกิดจากบาปที่คุณก่อขึ้นในอดีต บัดนี้กรรมได้ครบกำหนดแล้ว กรรมปรากฏแล้ว จงเผชิญอย่างกล้าหาญเถิด นี่คือวิธีกำจัดกรรมที่ถูกต้อง ในความฝันของอุบาสิกาเกา พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์เกลี้ยกล่อมให้เธอสวดกษิติครรภสูตรด้วยวิธีนี้เพื่อขจัดกรรมปัจจุบันและในที่สุดก็จะได้ไปสุขาวดีพุทธเกษตรอย่างราบรื่น อุบาสิกาเกา ในวันนี้สวดกษิติครภสูตรมานานกว่าหนึ่งปีแล้ว และโรคกระดูกพรุนที่รุนแรงของเธอก็หายขาดแล้ว เพื่อนบ้านและเพื่อนรอบตัวเขาประหลาดใจมากและชื่นชมอุบาสิกาเกาเป็นอย่างมาก

7
อุบาสิกาอวี๋ อายุ 39 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบรุนแรงซึ่งไม่สามารถรักษาได้ เก้าเดือนหลังจากเธอป่วย เธอก็ล้มหมอนนอนเสื่อ เมื่อเธออยู่ที่โรงพยาบาลเธอได้พบกับครูผู้ใจดีซึ่งสอนให้เธอภาวนาพระนามพระพุทธเจ้า เธอเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนานกว่า 20 วัน และออกจากโรงพยาบาลเพื่อพักฟื้นเป็นเวลาเกือบ 9 เดือน ลูกสาวของเธอกำลังจะขึ้นชั้นมัธยมปลาย เธอจึงหยุดเรียนเพื่อมาดูแลแม่ที่บ้าน อุบาสิกาอวี๋ตั้งอกตั้งใจสวดพระพุทธนามในช่วงพักฟื้นที่บ้าน สุขภาพของเธอค่อยๆ ดีขึ้น และอุบาสิกาอวี๋นั่งสมาธิและสวดภาวนาพระนามของพระพุทธเจ้า เก้าเดือนต่อมา สภาพร่างกายของเธอดีขึ้นโดยทั่วไป และโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบไม่เกิดขึ้นอีก ต่อมาเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ ยังคงสวด "อมิตายุรธยานสูตร" ในระหว่างการตรวจโรคอีกครั้ง คณะแพทย์ประหลาดใจมากและอุทานว่า "พุทธศาสนาช่างเหลือเชื่อ!"

จบตอนที่ 3

หมายเหตุ
มีประเทศจีนมีชาวจีนจำนวนไม่น้อย เจ็บป่วยไม่มีทางรักษา แต่เพราะพึ่งพาบารมีพระรัตนตรัยในท้ายที่สุด จึงสามาถพ้นจากโรคาพยาธิได้ ต่างแบ่งปัเรื่องราวไว้ในบันทึกเรื่อง "โรงพยาบาลน้อยแห่งซานซี" (山西小院) มีคำขวัญว่า "อ่านสวดกษิติครรภสูตร รักษาโรค รักษาคน ขจัดภัยพิบัติ"

บันทึกนี้ถอดมาจากคลิปวิดิโอสารคดีที่จัดทำโดยสถาบันวัฒนธรรมชาวพุทธปักกิ่ง และวัดกว่างหัว ในปักกิ่ง โดยมีที่ปรึกษาการทำสารคดี คือสถาบันวัฒนธรรมชาวพุทธปักกิ่ง

-----------------------------
ภาพ - พระกษิติครภโพธิสัตว์ ส่วนพระเศียร แกะสลักจากไม้ ศิลปะญี่ปุ่น สมยัคามาคุระ อยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (東京国立博物館)